LOGIN“ขวัญ…เราหนีไปด้วยกันนะ”
เตวิชเดินเข้ามาพร้อมกับกุมมือบางไว้แน่น ในเมื่อไม่สามารถคัดค้านงานแต่งงานครั้งนี้ได้ หนทางเดียวที่จะช่วยไอวารินได้นั่นก็คือการพาเธอหนีไปพร้อมกับเขา
“คุณเล็กล้อขวัญเล่นหรือเปล่าคะ”
ไอวารินเอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ‘หนีตาม’ อย่างนั้นเหรอ เธอกับเขาเพิ่งเรียนจบมา เงินเก็บก็ยังมีไม่มากพอที่จะสร้างตัว ที่สำคัญ หญิงสาวไม่อยากทำตัวให้คนในบ้านนี้ต้องลำบากใจ
“ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะขวัญ ในเมื่อทุกคนอยากบังคับเธอมาก ฉันจะปกป้องเธอเอง เราหนีไปด้วยกันนะ” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม เขาคิดดีแล้วว่านี่คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเท่าที่จะคิดได้ในตอนนี้
“คุณเล็กคิดว่าที่เราทำอยู่มันถูกต้องแล้วเหรอคะ” พร้อมกับค่อยๆ ดึงมือตนเองออกจากการเกาะกุม ไอวารินไม่ได้อยากทำร้ายจิตใจใคร แต่เลือกที่จะอยู่กับความจริง ความจริงที่ว่าไม่ว่าอย่างไรเธอก็ต้องแต่งงานกับเตชินท์
“ขวัญ…เชื่อใจฉันนะ” เตวิชมองหน้าหญิงสาวที่รักด้วยสายตาเศร้า ลึกๆ เขาเองก็รู้ว่าต่อให้หนีไปสุดโลก คนมีอำนาจอย่างคุณหญิงย่าเขาก็หาเจอ
“ขวัญไม่ได้กลัวว่าเราจะไปกันไม่รอดนะคะ แต่ขวัญแค่คิดว่า นี่ไม่ใช่วิธีที่ดีที่เราจะหนีคุณหญิงท่าน และขวัญไม่อยากสร้างเรื่องให้คุณๆ ต้องลำบากใจ” ไอวารินพูดออกมาอย่างหมดหนทางเลือก
“เมื่อไหร่ขวัญจะเลิกแคร์คนอื่น และหันมาสนใจความรู้สึกของตัวเองสักที เราไม่จำเป็นต้องทำเพื่อคนอื่นขนาดนั้นก็ได้นะขวัญ” เตวิชพูดด้วยความโมโหอย่างอดไม่ได้ ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร ไอวารินถึงได้ยอมให้ลงคนอื่นมากมายถึงเพียงนี้
“คุณเล็กก็พูดได้สิคะ คุณเล็กไม่ได้เกิดมาเจอความลำบากแบบขวัญ ตั้งแต่เด็กจนโต ถ้าขวัญไม่มีคุณไตรภพ คุณหญิงโสภิตา และคุณเอมอร ชีวิตขวัญจะเป็นขวัญแบบทุกวันนี้ไหม มันผิดมากเหรอคะ ที่สุดท้าย ขวัญจะยอมทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนทุกคน ชีวิตขวัญมันมีทางเลือกอื่นได้อีกเหรอคะ” พูดโต้กลับอย่างเหลือทน ใช่ว่าอยากจะทำเช่นนี้ ใช่ว่าจะอยากเป็นคนที่ยอมลงให้ทุกคนเสมอไป แต่ในเมื่อคุณๆ ต่างมีเมตตากับตนมาตลอด และนี่ก็เป็นวิธีเดียวที่ไอวารินจะตอบแทนบุญคุณได้ แล้วจะให้เธอเป็นคนอกตัญญูได้อย่างไร
“ของขวัญ เธอฟังฉันนะ แต่นี่มันคือการแลกความสุขทั้งชีวิตของเธอนะ!” เตวิชพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขามองว่าคนเรามีหนทางมากมายที่จะตอบแทนบุญคุณ และมันต้องไม่ใช่การเอาตัวเข้าแลกแบบนี้
“ไม่หรอกค่ะ ขวัญคุยกับคุณใหญ่แล้ว” ไอวารินปาดน้ำตาของตนเอง พยายามตั้งสติให้มากที่สุด รู้ว่าเตวิชเองคงหวังดีกับเธอมาก และเขาคงไม่อยากให้เธอต้องเสียใจจึงพยายามหาวิธีช่วยเหลือทุกทางแบบนี้
“คุยว่าไง ในเมื่อพี่ใหญ่เองก็ไม่ได้คิดจะคัดค้านอะไร แถมยังดูเต็มใจเสียด้วยซ้ำ” ยิ่งคิดถึงสีหน้าและแววตาของคนเป็นพี่ชายก็ยิ่งโมโหท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาวเช่นนั้น
“คุณใหญ่เองก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับขวัญหรอกค่ะ เราสองคนทำมันไปเพราะหน้าที่ หน้าที่ที่ขวัญจะต้องมีทายาทให้กับตระกูลนี้” พูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง และได้แต่หวังว่าถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ เธอจะหลุดพ้นจากความทรมานนี้ได้เสียที
“หมายความว่าไง นี่ขวัญจะต้องมีลูกกับพี่ใหญ่ทั้งที่ไม่ได้รักกัน บ้าไปใหญ่แล้ว” เตวิชหัวเสียหนักกว่าเก่า แค่คิดว่าไอวารินต้องตกเป็นภรรยาของเตชินท์ มันก็ทรมานมากพอแล้ว นี่เธอยังต้องมีลูกกับพี่เขาอีกอย่างนั้นหรือ
“ค่ะ ขวัญกับคุณใหญ่เราตกลงกันว่าที่แต่งงานก็แค่ในนามเท่านั้น เมื่อไหร่ที่ขวัญมีลูกให้คุณใหญ่ได้ ถึงตอนนั้น คุณท่านทั้งสองอาจยอมให้เราหย่ากัน และขวัญก็จะเป็นอิสระ” ไอวารินพูดด้วยความหวัง เธอไม่ได้อยากทิ้งลูก แต่เมื่อถึงเวลานั้น บางที มันอาจจะมีทางออกที่ดีกว่านี้ก็เป็นได้
“อาจจะ? ฉันรู้จักคุณหญิงย่ากับคุณแม่ดี ท่านไม่มีทางให้เธอทิ้งลูกและหย่ากับพี่ใหญ่แน่” เตวิชพูดด้วยความมั่นใจ เพราะทั้งสองเอ็นดูไอวารินเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อย่างไรแผนนี้ก็ไม่เวิร์กอย่างแน่นอน
“ขวัญไม่มีทางทิ้งลูกหรอกค่ะ แต่ขวัญแค่คิดว่า เมื่อถึงเวลานั้น ระหว่างขวัญกับคุณใหญ่อาจจะอยู่ด้วยกันในฐานะของพ่อกับแม่ และขวัญก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิงของคุณใหญ่อีกแล้ว” หญิงสาวพูดอย่างใจคิด ถึงตอนนั้น เธอจะเป็นอิสระ แม้ว่าจะพ่วงด้วยการมีลูกเพิ่มมาอีกคนก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องอยู่กับผู้ชายที่เธอไม่ได้รักไปตลอด
“ขวัญแน่ใจเหรอว่าพี่ใหญ่จะยอม” เอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ เพราะจากที่คุยกับพี่ชายตนเองเมื่อครู่นี้ ฝ่ายนั้นดูยินดีเสียยิ่งกว่าอะไรที่จะได้แต่งงานกับไอวาริน“คุณใหญ่ไม่ได้รักขวัญ หรือแม้แต่ตอนที่แต่งงานกัน ขวัญเองก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวคุณใหญ่อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมั่นใจเถอะค่ะว่า พอถึงเวลา คุณใหญ่เองก็พร้อมที่จะเลิกกับขวัญเหมือนกัน” ไอวารินพูดด้วยความมั่นใจ เพราะระหว่างเธอกับเตชินท์จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกเสียจากคำว่า ‘หน้าที่’ เท่านั้น“ฉันไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ แต่ฉันอยากให้ขวัญรู้ไว้นะว่า ไม่ว่ายังไง ฉันก็จะรอขวัญเสมอ” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคิดทบทวนมาอย่างดี เตวิชเองก็ไร้หนทางที่จะไปเปลี่ยนความคิดของเธอ“อย่ารอขวัญเลยค่ะคุณเล็ก ชีวิตคุณเล็กยังมีอะไรอีกมาก อย่าต้องมาเสียเวลากับผู้หญิงอย่างขวัญเลยนะคะ” ไอวารินพูดไปน้ำตาไหลไป รู้สึกซาบซึ้งกับความรักและความหวังดีที่เตวิชมีให้ แต่สุดท้ายความจริงก็คือความจริง และเธอเองก็ไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ฉุดรั้งชายหนุ่มเอาไว้“ผู้หญิงอย่างขวัญเป็นยังไง ผู้หญิงอย
“ขวัญ…เราหนีไปด้วยกันนะ”เตวิชเดินเข้ามาพร้อมกับกุมมือบางไว้แน่น ในเมื่อไม่สามารถคัดค้านงานแต่งงานครั้งนี้ได้ หนทางเดียวที่จะช่วยไอวารินได้นั่นก็คือการพาเธอหนีไปพร้อมกับเขา“คุณเล็กล้อขวัญเล่นหรือเปล่าคะ”ไอวารินเอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ‘หนีตาม’ อย่างนั้นเหรอ เธอกับเขาเพิ่งเรียนจบมา เงินเก็บก็ยังมีไม่มากพอที่จะสร้างตัว ที่สำคัญ หญิงสาวไม่อยากทำตัวให้คนในบ้านนี้ต้องลำบากใจ“ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะขวัญ ในเมื่อทุกคนอยากบังคับเธอมาก ฉันจะปกป้องเธอเอง เราหนีไปด้วยกันนะ” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้ม เขาคิดดีแล้วว่านี่คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเท่าที่จะคิดได้ในตอนนี้“คุณเล็กคิดว่าที่เราทำอยู่มันถูกต้องแล้วเหรอคะ” พร้อมกับค่อยๆ ดึงมือตนเองออกจากการเกาะกุม ไอวารินไม่ได้อยากทำร้ายจิตใจใคร แต่เลือกที่จะอยู่กับความจริง ความจริงที่ว่าไม่ว่าอย่างไรเธอก็ต้องแต่งงานกับเตชินท์“ขวัญ…เชื่อใจฉันนะ” เตวิชมองหน้าหญิงสาวที่รักด้วยสายตาเศร้า ลึกๆ เขาเองก็รู้ว่าต่อให้หนีไปสุดโลก คนมี
“ผมรู้ครับว่า ตอนนี้ ผมอาจจะดูไม่เอาไหน แต่แม่เชื่อเถอะนะครับว่าผมทำได้ ผมจะไม่ทำให้ใครต้องลำบาก” เอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก หากพูดถึงเรื่องอนาคต ถ้าให้พูดตามจริงตอนนี้ เขาเองก็ยังคงมืดบอดไร้หนทาง แม้คิดอยากจะเปิดผับเป็นของตนเอง แต่ก็ยังต้องศึกษาเรื่องนี้อยู่มากถึงจะเป็นจริงได้“แล้วลูกอยากให้ขวัญต้องมาลำบากไปด้วยหรือไง” พูดเพื่อเตือนสติลูกชายอีกครั้ง จริงอยู่ว่าไม่ได้อยากจะไปขัดใจลูกชาย แต่กับเรื่องนี้ นางมองว่าถึงอย่างไรไอวารินก็เหมาะสมที่จะได้แต่งงานกับเตชินท์ และเหมาะสมที่จะเป็นสะใภ้ใหญ่ของตระกูล“แต่ผมรักขวัญจริงๆ นะครับแม่ ให้โอกาสผมกับขวัญได้รักและดูแลกันไม่ได้เหรอครับ” เตวิชไม่เคยคิดว่าครั้งหนึ่งของชีวิตผู้ชายจะต้องมาขอร้องอ้อนวอนผู้เป็นแม่ด้วยเรื่องความรัก แต่เพื่อไอวารินแล้วเขายอมทำได้ทุกอย่าง“ถ้าลูกบอกว่าลูกรักขวัญ แม่คิดว่าลูกควรปล่อยขวัญไปนะตาเล็ก ลูกก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าตาใหญ่จะดูแลขวัญได้ดีแค่ไหน ส่วนความรักของลูกกับขวัญ มันอาจจะเป็นความรู้สึกชั่ววูบเดี๋ยวก็หายไป เชื่อแม่เถอะว่านี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว&
เตวิชเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ คนอย่างเตชินท์มีเพียบพร้อมทุกอย่าง จะมีเมียกี่คนก็ยังได้ แต่กลับมายอมทำตามผู้ใหญ่ที่สั่งให้แต่งงานกับเด็กในบ้านเช่นนี้ ถ้าไม่ได้เกลียดกันมาก่อนเขาเองก็ไม่อยากจะคิดว่าหรือจริงๆ แล้วพี่ชายกำลังแอบรักไอวารินอยู่กันแน่!“หรือว่าพี่แอบรักขวัญ” เอ่ยถามขึ้นอย่างใจคิดทันที เพราะอยากรู้เหมือนกันว่าเหตุผลที่แท้จริงของเตชินท์คืออะไรกันแน่“หึ สำหรับฉัน ความรักมันไม่มีจริง และถ้าต้องรักใครสักคนแล้วเป็นบ้าแบบนาย ฉันขอไม่มีความรักดีกว่า เพราะนายเป็นแบบนี้ไงเล็ก อ่อนแอ คุณย่ากับคุณแม่เลยไม่ไว้ใจให้นายได้ตัดสินใจอะไรเองสักที”เตชินท์พูดออกไปราวกับต้องการกรีดแผลในใจน้องชาย สำหรับเขา เตวิชเป็นเด็กเก่งในทุกเรื่อง แต่มักจะใจร้อนไม่ฟังใคร ทำให้ในหลายๆ ครั้งตัดสินใจผิดพลาดและต้องคอยให้ผู้ใหญ่ตามแก้ปัญหาเสมอ“ได้ ถ้าพี่ยืนยันว่าจะแต่งงานกับขวัญ งั้นผมจะไปคุยกับคุณหญิงย่าเอง” เตวิชพูดอย่างหมายมั่น ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เขาจะไม่ยอมถอยง่ายๆ แน่“ก็ลองดู”เตชินท์นิ่งไปอย่างไม่อยากจะสนใจ
ก๊อกๆเสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้เจ้าของห้องอดสงสัยไม่ได้ ปกติแล้วหากเขาทำงานอยู่จะไม่ค่อยให้ใครเข้ามารบกวน ดังนั้นคนที่กล้ารบกวนเขาเวลานี้ก็คงไม่ใช่ใคร นอกจากบุคคลที่กำลังนึกถึงพอดี“เข้ามาสิเล็ก” เตชินท์มั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องถึงหูน้องชายแล้วอย่างแน่นอน และคนเลือดร้อนอย่างเตวิชคงไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ และเมื่อประตูเปิดออกก็ทำให้รู้ว่า เขาไม่ได้เดาผิดไปแม้แต่นิดเดียว“เรามีเรื่องต้องคุยกันพี่ใหญ่” เตวิชเดินเข้ามาด้วยท่าทีร้อนรน ในขณะที่ผู้เป็นพี่ชายกลับมีทีท่านิ่งเฉย ไม่รู้ร้อนรู้หนาวเสียจนน่าหมั่นไส้“เรื่องมันใหญ่ถึงขั้นนายต้องมารบกวนเวลาทำงานฉันเลยหรือไง” เตชินท์ปิดแฟ้มเอกสารลง พร้อมกับมองหน้าน้องชายในสายเลือดอย่างหาคำตอบ“พี่คงรู้ว่าผมมาเรื่องอะไร ผมต้องการให้พี่ปฏิเสธงานแต่งของพี่กับขวัญ” เตวิชพูดตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อม“ทำไม เพราะนายกับขวัญรักกันหรือไง” เตชินท์ยังคงพูดด้วยท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาวเช่นเดิม เพราะคิดอยู่แล้วว่าเตวิชจะต้องมาคุยด้วยเรื่อ
ชายหนุ่มพูดด้วยความมั่นใจ เขากับผู้เป็นพี่ชายสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าหลังจากที่ผู้เป็นพ่อเสียไป อีกฝ่ายจะดูนิ่งเงียบมากขึ้น ด้วยเพราะบทบาทหน้าที่การเป็นประธานบริษัทที่ได้รับ ทำให้เตชินท์มีบุคลิกเงียบขรึมและน่าเกรงขามต่างจากสมัยเด็กที่เป็นพี่ชายที่แสนอบอุ่นของน้องอย่างสิ้นเชิง“อย่าทำให้เรื่องมันยิ่งไปกันใหญ่เลยค่ะ ขวัญไม่อยากทำให้ผู้ใหญ่ลำบากใจ อีกอย่าง ขวัญก็ตอบตกลงไปแล้วด้วย”ไอวารินมั่นใจว่าไม่มีทางใดที่จะเปลี่ยนความคิดของทุกคนได้ และเธอไม่อยากให้เตวิชต้องลำบากไปด้วย“ไม่เห็นมีเรื่องต้องลำบากใจ ถ้าอยากให้ขวัญแต่งงานนักก็ให้แต่งกับฉัน เปลี่ยนจากคนพี่เป็นคนน้องจะเป็นไรไป” เตวิชพูดด้วยความโมโห เขาไม่ต้องการให้การถูกบังคับแต่งงานเกิดขึ้นในบ้านหลังนี้ ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม“แต่ว่า…”“ไม่ต้องกลัวนะขวัญ ฉันจะไปคุยกับพี่ใหญ่เอง” คราวนี้พูดด้วยสีหน้าจริงจังอีกครั้ง ก่อนที่ไอวารินจะยอมรับคำแต่โดยดี เตวิชในตอนนี้ใจร้อนเสียยิ่งกว่าอะไร และจะไม่มีใครห้ามเขาได้อย่างแน่นอน“ขวัญรอฉันที่ห้องก่







