Share

บทที่ 4

last update Huling Na-update: 2025-03-21 11:46:46

“อ้อ...แล้วคราวนี้จะไปกี่วัน ตามรอยซีรี่ย์เรื่องไรอีกยะคุณเพื่อน” 

“เบื่อคนรู้ทันจริงๆ สงสัยต้องเลิกคบซะแล้วละมั้ง” ต้องหทัยเอ่ยประชดแบบไม่จริงจังนัก ก่อนจะยักไหล่ให้เพื่อนที่รู้ใจไปเสียทุกเรื่อง จะว่าไปอิทธิพลที่ทำให้เธอชอบประเทศเกาหลีจนต้องบินไปกลับมากกว่าประเทศบรรพบุรุษอย่างเมืองจีน เริ่มแรกก็มาจากการดูซีรี่ย์นี่แหละ จากนั้นก็บ้าเข้าขั้นแบบถอนตัวไม่ขึ้น ไปกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ เธอนี่แหละแฟนพันธุ์แท้เกาหลีตัวยง! 

 “ตกลงจะไปกี่วัน” น้ำเสียงคนกึ่งเปลือยเอ่ยถามย้ำ ในคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบ 

“เดือนเดียว” ปลายสายเอ่ยเหมือนแค่ช่วงสั้นๆ 

“ตั้งเดือน!” ปิติญาดาอุทานจนต้องทหัยยื่นโทรศัพท์ให้ห่างจากหูแทบไม่ทัน ถึงอย่างนั้นก็ยังได้ยินประโยคต่อมา “งานการแกไม่คิดจะทำเลยใช่ไหมเนี่ย ป๊ากับม๊าแกไม่ปวดหัวกับลูกสาวที่บ้าเกาหลีเข้าขั้นโคม่าอย่างแกหรือไง หา ยายหมวย!”

“บ่นจริงแม่นางน้ำมนต์” ถึงจะพูดแบบนั้นต้องทหัยก็ยังนั่งยิ้มจินตนาการไปถึงเกาหลีเรียบร้อยโรงเรียนกิมจิ แต่คำทักท้วงของเพื่อนก็ทำเอาฝันแทบสลาย 

“เดี๋ยวๆ คราวนี้ไปตั้งเดือน แกจะไปงัดดั้งโด่งมาด้วยหรือเปล่า” คนถามทำหน้ายุ่ง เพราะไม่อยากให้เพื่อนสวยด้วยพลาสติกตามแฟชั่นนิยมของคนยุคนี้ 

“บ้า...ฉันกลัวเข็มจะตายแกก็รู้ ไม่ทำหรอก” 

“เหรอ...เจอกันเดือนหน้า ถ้าดั้งแกมาโด่ง ไม่เข้ากับตาอาหมวยชั้นเดียวของแกละก็ เจอดี!” ปิติญาดาเอ่ยขู่ ซึ่งคนฟังก็หัวเราะร่วนก่อนจะเอ่ยรับคำ 

 “ย่ะ” 

“ดูแลตัวเองดีๆ แล้วกัน” แม้จะรู้ว่าต้องทหัยไปเกาหลีมาบ่อยแค่ไหน แต่ปิติญาดาก็อดเป็นห่วงเพื่อนคนนี้ไม่ได้ ไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ถึงจะไปบ่อยแค่ไหน ที่นั่นก็ไม่ใช่เมืองไทยเสียหน่อย 

“อื้อ...กลับมาแล้วไปกินอาหารเกาหลีกันนะ”

“เอาเข้าไป! ไปเกาหลีแท้ๆ พอกลับมายังจะชวนไปกินอาหารเกาหลีอีก” ปิติญาดาเอ่ยอย่างปลงๆ คนอะไรจะเกาหลีฟีเว่อร์ขนาดนั้น ขนาดไปเกาหลีกลับมายังจะชวนเธอกินอาหารเกาหลีอีก สองสาวพูดคุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่สักพักก็วางสาย ก่อนที่ปิติญาดาจะไปอาบน้ำเพื่อเข้านอน ไม่นานก็หลับสนิทในห้วงนิทรา 

แต่ช่วงดึกของคืนนั้น หญิงสาวกลับนอนกระสับกระส่ายไปมา เหงื่อซึมไปทั่วใบหน้า มือไม้ยกขึ้นทำท่าปัดป้องบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เธอกลัว

“อย่าเข้ามานะ” ปิติญาดาเพ้อ ส่ายศีรษะไปมาจนผมยาวๆนั้นสยายเต็มหมอน แต่ยังไม่ยอมตื่นจากความฝันที่กำลังเผชิญ อยู่ๆ เธอกลับตะโกนออกมาสุดเสียง

 “ไม่!!!” หญิงสาวที่ฝันร้ายสะดุ้งตื่นลุกขึ้นนั่งบนเตียงแทบจะทันที ก่อนจะยกมือขึ้นจับตำแหน่งหัวใจที่ตอนนี้เต้นแรงมาก ปิติญาดาหอบจนตัวโยนพร้อมทั้งยกมือขึ้นปาดเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นตามไรผมจนชื้นไปหมด 

“ฝันบ้าอะไร น่ากลัวชะมัด” แค่พูดภาพในความฝันเมื่อครู่ก็ย้อนเข้ามาในความทรงจำทันที มันชัดเจนแบบนั้นใครจะลืมได้ลง 

ปิติญาดาส่ายหน้าไล่ภาพในความฝันบ้าๆ ออกไปจากสมอง ทำไมเธอถึงฝันว่าไปอยู่ในป่าได้ รอบข้างมีแต่ต้นไม้น้อยใหญ่เต็มไปหมด ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลยสักคน 

ขณะที่เดินอยู่นั้นสายตากลับมองไปเห็นงูตัวใหญ่ พอเห็นเธองูตัวนั้นก็เลื้อยตรงมาหา ปิติญาดาพยายามขู่ปนไล่ ใจอยากหมุนตัวกลับเพื่อวิ่งหนี แต่เท้าเจ้ากรรมไม่ขยับตามใจสั่งเลยแม้แต่น้อย ตอนนั้นเธอกลัวมากจนตัวสั่นเทาไปหมด อีกนิดเดียวก่อนที่งูตัวนั้นจะถึงตัวเธอ อยู่ๆ งูอีกตัวที่ใหญ่กว่าก็หล่นจากต้นไม้ใส่ตัวเธอแบบเต็มๆ จนทำให้หญิงสาวล้มไปกองกับพื้น จากนั้นงูก็เริ่มรัดรอบๆ ตัวจนแน่นหายใจแทบไม่ออก พอคิดว่าตัวเองต้องขาดอากาศหายใจแน่แล้ว หญิงสาวก็สะดุ้งตื่น 

“ฝันร้ายจะกลายเป็นดี สาธุ สาธุ!” ปิติญาดาพนมมือท่วมหัว ยังคงกลัวความฝันเมื่อครู่อยู่ เพราะเธอไม่ชอบงูมาแต่ไหนแต่ไร อยู่ๆ ต้องเจอพร้อมกันถึงสองตัว แถมตัวสุดท้ายนี่หล่นใส่เธอเต็มๆ จนล้มไม่เป็นท่า แค่คิดก็ขนลุกแล้ว ยังดีที่เป็นแค่ความฝัน ถ้าเป็นเรื่องจริงต้องตายแน่ๆ 

คนฝันร้ายขนลุกขนพองกับฝันที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ โดยไม่รู้ความหมายของฝันที่เกิดขึ้นนั้นแต่อย่างใด ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง แต่คืนนั้นหญิงสาวก็นอนแบบหลับๆ ตื่นๆ กระทั่งเช้า 

 

ครอบครัวอารายานนท์และครอบครัวภูมิภักดีเกียรติ นัดเจอกันในวันรุ่งขึ้นเพื่อพูดคุยเรื่องงานแต่งงานแบบจับคลุมถุงชน ระหว่างลูกๆ ของพวกเขา แผนการมีขึ้นอย่างเป็นขั้นตอนเพื่อให้งานนี้สำเร็จไปได้ด้วยดี เริ่มแรกของเรื่องราวไม่ได้มีอะไรไปมากกว่าการที่พ่อแม่อยากให้ลูกมีความสุข และทั้งสองครอบครัวก็สนิทสนมกันเป็นอย่างดีตั้งแต่สมัยวัยรุ่น จึงอยากให้ลูกของทั้งสองฝ่ายรักและสร้างครอบครัวขึ้นมา

ยิ่งวันก่อนได้รู้ว่าปิติญาดานั้นจะเข้ามาทำงานที่บริษัทเต็มตัวหลังจากไปทำงานหาประสบการณ์กับบริษัทภายนอกมาได้หลายปี ศรชัยก็ต้องรีบจัดการตามแผนก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เพราะถ้าลูกสาวได้เข้าไปที่บริษัทเรื่องจะยุ่งยากมากกว่านี้ 

ทั้งสี่คนชนแก้วฉลองให้กับความสำเร็จล่วงหน้าเสียแล้ว ก่อนที่ศรชัยจะเอ่ยขึ้นอย่างมีความสุขทั้งสีหน้าและแววตา 

“อีกไม่ถึงปี เราต้องได้อุ้มหลานแน่นอน” พูดจบก็ยื่นแก้วไปชนกับมงคล บิดาของคณินเสียงดังแกร๊ง! ก่อนจะยกแก้วดื่มฉลอง ก่อนที่มงคลจะเอ่ยเออออตามไปอีกคน 

“หลานคนแรก ชักอยากจะให้ถึงวันนั้นเร็วๆ แล้วสิ” 

“ใช่ๆ” หนุ่มใหญ่ทั้งสองคนพูดจาเออออกันเป็นเรื่องเป็นราว ความที่สนิทสนมกันมาหลายปีจึงพูดคุยหารือกันได้ทุกเรื่อง มีปัญหาต่างก็คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่างช่วงแรกๆ ที่ครอบครัวภูมิภักดีเกียรติเริ่มต้นธุรกิจด้านสถาปนิกตกแต่งภายในครบวงจร เริ่มแรกแค่ในประเทศ แต่ตอนนี้ลูกชายเขานั้นขยายกลุ่มลูกค้าไปยังต่างประเทศแล้ว แต่หนึ่งคนที่ลืมไม่ได้ นั่นคือคนที่ให้ทุนทางด้านการเงินแก่มงคลในครั้งแรกที่ตัดสินใจทำ จะเป็นใครไม่ได้นอกเสียจากศรชัย แถมไม่คิดดอกเบี้ยเสียด้วยทั้งๆ ที่เงินนั่นไม่ใช่น้อยๆ เลย

ทั้งสองครอบครัวซื้อใจกันและกันด้วยความซื่อสัตย์ ไว้เนื้อเชื่อใจ เป็นกัลยาณมิตรที่ดี คอยสนับสนุน และให้คำปรึกษา ภรรยาของพวกเขาเองก็ด้วย คู่สามีสนิทกันแค่ไหน คู่ของภรรยาย่อมสนิทมากกว่า นี่ก็นัดแนะกันไปตัดชุดไว้เรียบร้อยว่าจะเป็นร้านไหน รูปแบบที่อยากได้เป็นยังไง เมื่อคิดถึงงานมงคลที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งสี่คนก็ดูจะมีแต่รอยยิ้มโดยบางครั้งก็ลืมนึกถึงความรู้สึกของคนเป็นลูกไปชั่วขณะ

 

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • วิวาห์ร้อนซ่อนกลรัก   บทที่ 98 (จบ)

    เมื่อได้เวลาสามหนุ่มก็มารับคนรักตามคำสั่ง วันนี้พวกเขาเป็นเหมือนคนนอก เพราะสาวๆ อยากคุยกันตามประสาผู้หญิง ส่วนผู้ชายตามสบายเหมือนกัน ขณะนั่งรถกลับบ้านปิติญาดาหันมามองหน้าคณินคล้ายมีอะไรจะพูดแต่ก็ไม่พูดจนเขาต้องถามขึ้น“มีอะไรจะคุยกับพี่หรือเปล่าคะ”“อืม...ไม่มีค่ะ” หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ แต่คณินก็ยังถามย้ำ“แน่ใจนะ”“ค่ะ” ปิติญาดาเอ่ยรับ จะให้บอกเขาได้ยังไงว่าเธอรอให้เขาคุกเข่าขอแต่งงานอยู่ ขืนพูดไปแบบนั้นคณินได้หัวเราะแล้วหาว่าเธอเพี้ยนแน่ๆ จึงเปลี่ยนเรื่องคุย “วันนี้พี่คิงส์ไปไหนมาคะ”“แวะไปหาเพื่อนเก่ามาครับ ไปบอกเขาว่าเรากำลังจะแต่งงานกัน”“เหรอคะ...แล้วหลังแต่งงานเราจะไปฮันนีมูนที่ไหนดี” หญิงสาวเอ่ยชักแม่น้ำทั้งโลกมาพูดก่อนที่จะพูดเรื่องที่กำลังคิด“พี่ให้น้ำมนต์เลือก”“น้ำมนต์อยากไปสวิชเซอร์แลนด์”“ได้” คณินรับ

  • วิวาห์ร้อนซ่อนกลรัก   บทที่ 97

    “คุณพูดอะไร บัวไม่เข้าใจ”“ไม่ต้องห่วงสเต็กจานนี้ไม่มียาแลนเนจนั่นหรอก”“คิงส์!” คำตอบของคณินทำให้กิ่งดาวนั่งนิ่ง ไม่กล้าแม้จะหายใจด้วยซ้ำ เหงื่อมากมายแตกพลั่กใบหน้าซีดเผือก นั่งขดตัวหลบหน้าเขา“จำไว้ ว่าผมรู้ทุกอย่าง อย่าแม้แต่จะคิดทำร้ายคนที่ผมรักอีก เพราะครั้งต่อไปผมคงไม่น่านั่งคุยกับคุณอยู่แบบนี้”“คิงส์ บัวขะ…” คำขอโทษของกิ่งดาวหายเข้าไปในลำคอ เมื่อถูกคณินเอ่ยขัดขึ้น“ผมฆ่าคนได้โดยไม่ต้องใช้ยาพิษให้โง่ หวังว่าคุณจะไม่ใช่คนนั้น” พูดจบชายหนุ่มก็ลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไปจากบ้านกิ่งดาวทันที เจ้าของบ้านนั่งหัวใจเต้นรัวเพราะความกลัวเข้ามากุมหัวใจเธอเสียแล้ว ก่อนจะเริ่มอาการกระสับกระส่ายวิตกจริต มองซ้ายมองขวาแล้วกรี๊ดลั่นบ้านกิ่งดาวขึ้นไปบนห้องนอนแล้วปิดประตูใส่กลอนแน่นหนา ก่อนจะควานหายานอนหลับมากินหลายสิบเม็ด คิดแต่เพียงว่าเธอต้องนอน เธอต้องหลับจะได้ไม่ต้องคิดมาก ตื่นขึ้นมาทุกอย่างจะผ่านไปได้ เธอจ

  • วิวาห์ร้อนซ่อนกลรัก   บทที่ 96

    คณินนั่งเฝ้าปิติญาดาในห้องพักฟื้นไม่ยอมลุกไปไหน ชายหนุ่มรั้งมือเธอมากุมไว้ก่อนจะจรดจมูกโด่งลงไปบนหนังมือนุ่มตรงหน้าหนักๆ หมอบอกว่าเธอปลอดภัยแล้วแต่เขายังไม่เชื่อจนกว่าปิติญาดาจะได้สติ โทษตัวเองว่าทั้งหมดเป็นเพราะเขา ถ้าดูแลเธอมากกว่านี้กิ่งดาวก็คงไม่สามารถวางยาพิษได้“พี่ขอโทษนะครับ” เสียงทุ้มเอ่ยขอโทษคนบนเตียงคนไข้ ซึ่งขณะนั้นปิติญาดาก็ค่อยๆ ขยับตัว หญิงสาวลืมตาขึ้นหลังจากนอนยาวมานานหลายชั่วโมง พอเห็นหน้าคณินก็ยิ้มให้“พี่คิงส์”“ฟื้นแล้วเหรอ รู้สึกเป็นยังไงบ้าง ปวดหัว ปวดท้อง อยากอาเจียนอีกไหม” คณินถามแบบไม่รอให้คนฟังได้มีเวลาตอบ คนฟังยิ้มให้เขาเพราะรู้ว่าเธอทำให้คณินห่วงเข้าให้อีกแล้ว“ไม่แล้วค่ะ” ปิติญาดาส่ายหน้าปฏิเสธ “แล้วนี่น้ำมนต์เป็นอะไรคะ”“หมอบอกว่าอาหารเป็นพิษ” ชายหนุ่มขอโกหกสักครั้ง เพราะไม่อยากให้ปิติญาดารู้ว่าความจริงคืออะไร ให้เธอเข้าใจแบบนี้ก็ดีแล้ว ส่วนเรื่องกิ่งดาวที่หนีความผิดกลับกรุงเทพฯ ไปแล้วนั้นเขาขอจัดการเอง

  • วิวาห์ร้อนซ่อนกลรัก   บทที่ 95

    “อย่าพึ่งทานค่ะ” แต่เหมือนป้าชื่นจะมาช้าไปหนึ่งก้าว เพราะจังหวะนั้นปิติญาดาก็ถูกกิ่งดาวคะยั้นคะยอให้กินสเต็กเข้าไปแล้วหลายคำ“มีอะไรจ๊ะป้า” ปิติญาดาหันไปมองหน้าป้าชื่นซึ่งบ่งบอกว่าตกอกตกใจมาก“แมว แมวข้างบ้านมันตาย”“ก็แค่แมวตายอย่าแตกตื่นไปนักเลยป้าชื่น” กิ่งดาวเอ่ยเหมือนไม่พอใจที่ป้าชื่นเอะอะโวยวาย พยายามเบี่ยงเบนความสนใจของปิติญาดา อีกนิดเดียวเท่านั้นแผนเธอก็จะสำเร็จแล้ว“แต่ข้างๆ แมวมีจานสเต็กที่คุณบัวเธอทำวางอยู่ด้วย” ได้ยินแบบนั้นปิติญาดาถึงกับหันมามองหน้ากิ่งดาวทันที“ก็ตอนอยู่ในครัวแมวมันมาร้องอยู่ข้างๆ ฉันสงสารเลยให้สเต็กกิน” หัวใจของกิ่งดาวเต้นรัว พยายามเร่งเวลาให้ยาพิษออกฤทธิ์เร็วๆ และก็จริงอย่างที่เธอต้องการ ส้อมในมือของปิติญาดาร่วงลงพื้น หญิงสาวตัวง้องุ้มเป็นกุ้งกุมหน้าท้องแน่นเพราะรู้สึกเจ็บขึ้นมาแบบไม่ทราบสาเหตุ ลำคอแห้งผาก เหงื่อมากมายผุดขึ้นตามร่างกาย“คุณน้ำมนต์เป็นอะไรไปคะ” ป้าชื่นรีบเข้ามาพยุงตัวปิติญาดาทันที“ฉันอยากอาเจี

  • วิวาห์ร้อนซ่อนกลรัก   บทที่ 94

    กิ่งดาวขับรถตระเวนซื้อของมาทำอาหารเย็นด้วยความรู้สึกอยากเอาชนะ ไม่ได้รู้สึกสำนึกต่อสิ่งที่ได้ก่อแต่อย่างใด ก่อนจะพยายามมองหาสิ่งที่เธอจะนำมากำจัดปิติญาดาจนกระทั่งสายตามองไปเห็นป้ายร้านขายยาปราบศัตรูพืช เธอเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่หน้าร้านทันที“ต้องการยาชนิดไหนครับ” เจ้าของร้านเอ่ยถามลูกค้าที่เข้ามา กิ่งดาวหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น“คือ…ไม่ทราบว่าที่นี่มียาปราบศัตรูพืชแบบไม่มีกลิ่นแต่ประสิทธิภาพดีบ้างไหม”“มีครับ”“ถึงตายหรือเปล่า” กิ่งดาวถามตรงประเด็น เจ้าของร้านจึงพูดถึงสรรพคุณให้ลูกค้าฟังทันที“อย่าว่าแต่พวกหญ้าเลยคุณ ถ้าคนได้กินเข้าไปก็ไม่รอด”“เหรอ” แทนที่จะรู้สึกผิดแต่กิ่งดาวกลับรู้สึกว่าตนกำลังจะเป็นผู้ชนะ เส้นชัยใกล้มาถึงทุกขณะ ต่อจากนี้เธอก็จะได้อยู่กับ คณินอย่างมีความสุข“แล้วไม่ทราบว่าคุณต้องการมากแค่ไหน”“ขวดเดียวก่อน ฉันอยากรู้ว่าหญ้ารกโลกพวกนั้นจะตายจริงๆ ถ้าดีจะกลับมาซื้ออีก” กิ่งดาวยิ้มเหี้

  • วิวาห์ร้อนซ่อนกลรัก   บทที่ 93

    กิ่งดาวไม่อยากตื่นแต่เช้าก็ต้องตื่นเพราะเธอออกมานั่งรอคณินที่หน้าบ้าน เธอพยายามโทรศัพท์ไปหาชายหนุ่มไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งกลับติดต่อไม่ได้เลย เพราะขณะนี้คณินและปิติญาดาอยู่กับครอบครัวและบรรดาเพื่อนสนิทอยู่นั่นเอง ทั้งหมดกำลังคุยกันถึงเรื่องงานแต่งงานของทั้งคู่ ซึ่งปิติญาดาอยากจัดงานที่ลำปาง เพราะที่นี่มีรีสอร์ตที่สวยๆ อยู่หลายแห่งวันนี้บรรดาพ่อๆ แม่ๆ ของปิติญาดาและคณินจะกลับกรุงเทพฯ ภคมณและวศินก็ด้วยเนื่องจากภคมณมีนัดกับคุณหมอเพื่อตรวจครรภ์ ส่วนต้องหทัยก็ต้องกลับเช่นเดียวกัน เพราะตอนนี้เธอไม่ได้เป็นคนว่างงานจะไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระอย่างเช่นเมื่อก่อน หญิงสาวเลือกที่จะเข้าไปช่วยงานที่บริษัทของครอบครัว ทั้งหมดแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน เมื่อออกจากรีสอร์ตก็บ่ายแล้วคณินก็หันมองหน้าปิติญาดา“จะกลับบ้านเลยไหม”“ค่ะ…ต่อให้หลบหน้ายังไงก็คงต้องกลับไปเพราะนั่นคือบ้านเรา”“นั่นสิ เอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่คุยกับบัวให้รู้เรื่องเอง” ปิติญาดาพยักหน้าให้ชายหนุ่ม ทั้งคู่จึงขับรถตรงกลับบ้าน และ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status