Share

บทที่ 3 สั่งสอน

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-13 22:36:32

หลังจากแวะกลับไปเอารถที่บ้านพ่อแม่บุตรธรรมแล้วพระพายก็ขับรถตรงไปยังตลาดสดทันทีเพราะจะไปห้างก็ไม่ได้ตอนนี้แค่เจ็ดโมงเช้าห้างยังไม่เปิด

เธอเดินเลือกซื้อเฉพาะของที่จำเป็นสำหรับทำอาหารในวันนี้ไม่ว่าจะเป็นเนื้อ ไก่ กุ้ง ปลาหมึก ผักสดและเครื่องปรุงต่าง ๆ เมื่อจ่ายตลาดเสร็จก็ขับรถตรงกลับบ้านทันที 

ลมหายใจหนัก ๆ ถูกพ่นออกจากจมูกโด่งรั้นเบา ๆ เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในบ้านก็พบกับร่างสูงที่นั่งไขว้ห้างกอดอกอยู่บนโซฟาในห้องโถง 

เธอแสร้งทำเหมือนไม่เห็นเขารีบส่าวเท้าเดินผ่านเข้าไปในครัว แต่ก็มิวายยังโดนอีกคนพูดจากระแทกแดกดันตามหลัง “ทำไมไม่กลับมาพรุ่งนี้เลยล่ะ ชักช้าไม่ได้เรื่อง”

มือเรียวกำถุงข้าวของที่ถืออยู่แน่นข่มอารมณ์โกรธเอาไว้อยากหันกลับไปบอกชายหนุ่มเสียจริงว่าให้ลองไปเองแล้วจะได้รู้ว่าตลาดสดกับบ้านมันอยู่ไกลกันแค่ไหน ไหนจะต้องเดินจ่ายตลาดขับรถไปกลับอีกใช้เวลาแค่ชั่วโมงครึ่งก็ถือว่าเร็วสุดแล้ว 

ทว่าถึงพูดไปคนอย่างเขาก็คงไม่ฟังเพราะจ้องจะหาเรื่องเธอตลอดเวลาอยู่แล้ว สู้เงียบปากแล้วทำหน้าที่ของตัวเองไปดีกว่าไม่อยากจะต้องมาเสียเวลาทะเลาะกับเขา

เธอเลือกทำข้าวต้มกุ้งเป็นอาหารเช้าให้ชายหนุ่มเพราะตอนอยู่ที่บ้านใหญ่เห็นเขาชอบทานข้าวต้มกุ้งบ่อย ๆ เธอเร่งมือทำทุกอย่างด้วยความเร็วเดี๋ยวจะโดนพูดจากระแทกแดกดันว่าชักช้าอีก 

เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมงข้าวต้มกุ้งร้อน ๆ กลิ่นหอมกรุ่นก็ถูกนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร ก่อนเธอจะเดินไปเรียกร่างสูงที่นั่งในห้องโถง "อาหารเช้าเสร็จแล้วค่ะ"

อลันเพียงปรายตามองร่างบางเล็กน้อยแล้วลุกเดินไปยังโต๊ะอาหาร กลิ่นหอมยั่วน้ำลายที่ลอยแตะจมูกทำเอาเขาต้องลอบกลืนน้ำลายลงลำคออึกใหญ่รู้สึกหิวขึ้นมาดื้อ ๆ แต่กระนั้นก็ยังเก็บอาการได้ดี

ดวงตาคมกริบก้มมองข้าวต้มกุ้งหน้าตาหน้าทานอย่างพินิศพิจารณา ก่อนตวัดสายตาขึ้นพูดกับร่างบางที่กำลังเดินเข้าไปในครัวด้วยน้ำเสียงดุ "เธอคงไม่ใส่ยาพิษให้ฉันทานหรอกใช่ไหมพระพาย"

พระพายถึงกับหยุดชะงักฉับพลันกับคำพูดจากริมฝีปากหนา เธอพยายามอดทนมาตั้งแต่หัวรุ่งพยายามจะไม่ตอบโต้กลับเพื่อหลีกเลี่ยงการมีปัญหา แต่อีกคนกลับพูดจาหาเรื่องไม่เลิก ความอดทนของเธอก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน และตอนนี้มันก็ขาดสะบั้นลงแล้ว

มือเรียวกำหมัดแน่นด้วยความโกรธหันไปสวนกลับเจ้าของคำถามอย่างเหลืออด "พายคงไม่ใจไม้ไส้ระกำจนสามารถฆ่าใครตายได้หรอกค่ะ แต่ถ้าเป็นคุณอลันคงไม่แน่"  

"พระพาย!"

เพล้งง! 

คำพูดจาประชดประชันจากริมฝีปากอวบอิ่มเป็นเหมือนเชื้อเพลิงสุ่มไฟแห่งความโกรธของอลันได้เป็นอย่างดี ทำเอาเขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้าตวาดเสียงดังลั่นพร้อมกับใช้มือกวาดถ้วยข้าวต้มบนโต๊ะอย่างแรงจนตกกระทบพื้นแตกละเอียดไม่มีชิ้นดี ข้าวต้มร้อน ๆ กระสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ

ร่างบางถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจใบหน้าถอดสีฉับพลันกับการกระทำห่าม ๆ ของคนตรงหน้า ใจดวงน้อย ๆ เริ่มสั่นไหวด้วยความหวาดหวั่นในตอนที่ร่างสูงย่างสามขุมเข้าหา 

เท้าเล็กขยับถอยหลังหนีตามสัญชาตญาณรับรู้ได้ถึงรังสีอันตรายที่แผ่ซ่านทางแววตาวาวโรจน์ ใบหน้าของเขาแดงก่ำลามไปจนถึงใบหูบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าโกรธมากแค่ไหน ร่างสูงในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากปีศาจร้ายที่พร้อมพรากลมหายใจของเธอไป

จากที่ถอยหลังหนีเธอก็รีบหมุนตัววิ่งเข้าในครัวด้วยความเร็วเพราะไม่อย่างนั้นคงได้แหลกคามือเขาแน่ ๆ แต่ดูเหมือนจะช้ากว่าคนตัวสูงอยู่ดีเขาก้าวยาว ๆ เพียงไม่กี่ทีก็เข้าประชิดตัวเธอได้แล้ว

"ว้าย!" เสียงหวานหลุดอุทานด้วยความตกใจในตอนที่ถูกมือหน้าจับหมับเข้าต้นแขน ใบหน้าเรียวเหยเกด้วยความเจ็บเมื่อถูกมือหนากระชากอย่างแรงจนตัวหมุนติ่วปะทะอกแกร่งจัง ๆ หนำซ้ำยังโดนเขาบีบต้นแขนแรงขึ้นกว่าเดิมราวกับจะให้กระดูกแตกเป็นเสี่ยง ๆ ยังไงยังงั้น

"พะ...พายเจ็บ ปล่อยนะคะ" แรงบีบทำให้เธอเจ็บจนน้ำตาคลอเบ้าพยายามแกะมือหนาออกจากต้นแขนพัลวัน แต่แรงเพียงน้อยนิดไม่ได้ทำให้มือหนาขยับเขยื้อนเลย

ยิ่งร่างบางพยายามเท่าไรอลันก็ยิ่งออกแรงบีบมากขึ้นเท่านั้น นัยน์ตาวาวโรจน์จับจ้องใบหน้าเรียวเขม็ง ก่อนกดเสียงพูดอย่างเยือกเย็น "งั้นฉันจะลองฆ่าเธอเป็นคนแรกแล้วกันพระพาย"

ว่าจบเขาก็ใช้อีกข้างกำรอบลำคอระหงสร้างความตื่นตระหนกให้พระพายเป็นอย่างมาก ใบหน้าเรียวถึงกับถอดสี ความกลัวเข้าเกาะกุมหัวใจดวงน้อย ๆ อย่างห้ามไม่ได้ เชื่อว่าคนอย่างเขากล้าทำจริง ๆ ขนาดโยนเธอลงสระน้ำแล้วยืนดูเธอตะเกียดตะกายเอาตัวรอดอย่างเลือดเย็นเขายังทำมาแล้วเลย 

"คะ..คุณจะทำอะไร" แววตาสั่นระริกช้อนขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยความหวาดหวั่นพลางยกมือขึ้นแกะมือหนาออกจากลำคอ ทว่าเธอก็ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดในวินาทีต่อมาเมื่อถูกมือหนาออกแรงบีบลำคอจนเริ่มหายใจไม่ออก 

พยายามแกะมือหนาออกพัลวันแต่ดูเหมือนจะเป็นการกระทำที่เปล่าประโยชน์เขาไม่แม้แต่จะสะเทือนสักนิด เธอจึงเปลี่ยนไปรัวกำปั้นใส่อกแกร่งแทนหวังให้เขาคลายมือออกตามสัญชาตญาณการเอาตัวรอด "อึก! ปะ..ปล่อยพะ..พายหายใจไม่ออก"

อลันจับจ้องร่างบางที่ใบหน้าแดงก่ำจากการเริ่มขาดอากาศหายใจพลางพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยแววตาไร้ความรู้สึก ก่อนค่อย ๆ คลายมือออกเพราะไม่ได้ต้องการฆ่าเธอให้ตายเหมือนที่ปากพูด 

เธอยังต้องอยู่ชดใช้กรรมอีกนาน ที่ทำไปเพียงแค่ต้องการสั่งสอนให้เธอไม่กล้าหือกับเขาอีก "จำไว้อย่ามาอวดเก่งกับฉันอีกเพราะฉันไม่ได้ใจดีทุกครั้ง"

สิ้นเสียงพูดเขาก็สะบัดมือออกจากลำคอระหงอย่างแรงราวกับรังเกียจ พระพายรีบอ้าปากกอบโกยลมหายใจเข้าปอดพรืดใหญ่พลางยกมือขึ้นกอบกุมรอบคอตัวเองไว้ 

ใบหน้าซีดเซียวหลุบลงต่ำเพราะรู้สึกหวาดกลัวจนไม่กล้ามองหน้าปีศาจร้ายอย่างเขา ขณะที่อีกคนไม่ได้รู้สึกผิดกับการกระทำหยาบช้าของตัวเองสักนิด จ้องร่างบางที่ก้มหน้างุดนิ่ง ๆ นานนับนาทีก่อนพูดทิ้งท้ายแล้วเดินออกไป "เก็บกวาดเศษถ้วยให้เรียบร้อยด้วยถ้าฉันลงมาแล้วยังไม่เรียบร้อยโดนดีแน่" 

"อึก" น้ำตาแห่งความหวาดกลัวหยดเผาะลงบนพวงแก้มนวลทันทีที่ร่างสูงหายหลังไป ความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามาในสมอง มีแต่คำถามเต็มไปหมดว่าทำไมเธอต้องมาเจออะไรแบบนี้ เธอทำอะไรผิดร้ายแรงหรือทำไมถึงทำให้คนคนหนึ่งเกลียดเธอได้มากมายขนาดนี้ 

เธอยังต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกสักกี่ครั้งต้องอยู่กับความหวาดระแวงไปอีกนานแค่ไหน เพียงไม่ถึงครึ่งวันเธอยังโดนขนาดนี้แล้ววันต่อ ๆ ไปละเธอต้องพบเจอกับอะไรอีกหากทำอะไรไม่ถูกใจเขา หรือเธอต้องอยู่แบบไม่มีปากไม่มีเสียง ต้องอยู่แทบเท้าเขาถึงจะพอใจไม่รู้ว่าตัวเองทำเวรทำกรรมอะไรไว้ถึงต้องพบเจอกับปีศาจอย่างเขา

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • วิวาห์แค้น จองจำรัก   The end

    1 ปีต่อมา.."คุณพ่อพักผ่อนบ้างนะครับน้องพีร์กับคุณแม่เป็นห่วงครับ" น้ำเสียงเล็กหวานหูดังขึ้นทำให้อลันที่นั่งเอนกายพักผ่อนสายตาอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นระบายยิ้มออกมาบาง ๆ พร้อมกับปรือตาขึ้นมองเจ้าของเสียง ซึ่งไม่ใช่บุตรชายแต่เป็นเมียสาวที่ทำน้ำเสียงเลียนแบบบุตรชายต่างหากคงเพราะเห็นเขาเครียดกับการตามหาน้องสาวฝาแฝดอย่างอลินดาจึงอยากทำให้ยิ้มได้ และมันก็ได้ผลบุตรชายกับเมียสาวก็เหมือนที่ชาตพลังชั้นดีของเขา"งั้นพ่อขอเติมพลังจากน้องพีร์กับคุณแม่หน่อยได้ไหมครับ" มือหนาเอื้อมไปรั้งร่างบอบบางที่ยืนอุ้มลูกน้อยอยู่ตรงหน้าให้นั่งลงบนตักกอดเธอไว้หลวม ๆ ก่อนจะโน้มหน้าลงหอมแก้มซ้ายขวาบุตรชายฟอดใหญ่แล้วกดจูบลงบนไหล่มนของเมียสาวต่อ ขณะที่พระพายนั้นใช้แขนโอบไหล่กว้างข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างอุ้มบุตรชายไว้บนตัก"ได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับพี่อลินไหมคะ" ดวงตากลมโตมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างเห็นใจ ตั้งแต่น้องสาวฝาแฝดหนีไปในวันแต่งงานคนเป็นสามีก็ดูจะเครียดมากเพราะงานแต่งถูกจัดอย่างใหญ่โตเชิญแขกมาไม่รู้กี่พันคน คนที่ต้องรับผิดชอบทุกอย่างคือพ่อแม่ท่านทั้งสองเครียดมาก แม่บุญธรรมเป็นลมไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ผลที่ตามมาจากการก

  • วิวาห์แค้น จองจำรัก   บทที่ 79 ดื่มด่ำ

    เสียงเนื้อกระทบเคล้าเสียงครางหอบของคนทั้งสองดังระงมทั่วรูฟท็อปโชคดีที่อลันบอกให้พนักงานทุกคนกลับไปหมดแล้วที่นี่จึงเหลือเพียงเขากับเธอสองคน บทรักดำเนินไปอย่างนุ่มนวลภายใต้แสงดาว แสงเทียน และแสงสีของเมือง บรรยากาศรอบ ๆ บริเวณอบอวลไปด้วยแรงสวาทของทั้งสองสายลมที่ว่าเย็นก็ไม่สามารถดับความร้อนรุ่มนี้ได้"ผมรักคุณนะ" ริมฝีปากร้อนผละจูบเอื้อนเอ่ยชิดกลีบปากอวบเสียงอ่อนเสียงหวานพร้อมกับตระกองกอดร่างบอบบางแนบแน่นจนทรวงอกเต่งตึงบดเบียดกับมัดกล้ามเนื้อ ขณะที่สะโพกสอบก็ตอกตรึงฝากฝังตัวตนอย่างหนักหน่วง ร่างบอบบางเสียวซ่านจนเกินจะบรรยายหลับตาพริ้มส่งเสียงครางไม่เป็นภาษา ช่องทางรักบีบรัดท่อนเนื้อที่สอดใส่เข้าออกรัวเร็วถี่ ๆอลันขบกรามกรอดด้วยความเสียวซ่านพร้อมกับผละตัวออกจับร่างบอบบางนอนตะแคง จากนั้นจึงนอนซ้อนหลังสอดแขนเข้าไปใต้ศีรษะทุยประคองใบหน้าเรียวให้หันมารับจูบแสนดูดดื่มพลางเสือกไสท่อนเนื้อเข้าสู่ร่องอ่อนนุ่มอีกครั้งเขายกขาเรียวขึ้นพาดแขนแล้วกระหน่ำแทงจนร่างบอบบางสั่นคลอน ทรวงอกเต่งตึงกระเพื่อมสั่นไหวราวกับยั่วยวนจนเขาอดไม่ได้ต้องตะปบแล้วบีบขยำแรง ๆ ใบหน้าก็ซุกไซ้คลอเคลียใบหูเล็ก ขบเม้มติ่งหูเ

  • วิวาห์แค้น จองจำรัก   บทที่ 78 ภายใต้แสงดาว

    หลังจากทานอาหารเสร็จสองหนุ่มสาวก็นั่งจิบไวน์ต่อ ดื่มด่ำกับบรรยากาศภายใต้ท้องฟ้าอันปลอดโปร่งมีดวงดาวน้อยใหญ่พราวระยับท่ามกลางความสลัวที่มีเพียงแสงไฟจากเทียนรอบบริเวณรูฟท็อป และแสงสียามค่ำคืนของเมืองกรุงให้ความสว่างร่างบอบบางที่อยู่ในอาการเมากรึ่มวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะแล้วลุกไปยืนชิดระเบียงกระจกทอดสายตาหวานฉ่ำมองแสงสียามค่ำคืน ใบหน้าแดงซ่านจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เคลือบด้วยรอยยิ้มบาง ๆ สายลมเย็นพัดเอื่อย ๆ เคล้าด้วยกลิ่นหอมหวานจากเทียนหอมมีเสียงเพลงบรรเลงคลอเบา ๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายอารมณ์ยิ่งนัก"ขโมยกอดพายอีกแล้วนะคะ" เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกสวมกอดจากด้านหลังเอียงหน้าเอ่ยอย่างไม่จริงจังมากนักพลางระบายยิ้มบาง ๆ ไม่คิดจะผลักไสร่างสูงออกเพราะกำลังรู้สึกหนาวพอดีได้ไออุ่นจากร่างกำยำก็ค่อยคลายความหนาวลงหน่อย"งั้นขออนุญาตนะครับ" อลันหยอกล้อกลับด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้มพลางกระชับกอดร่างบอบบางแน่นขึ้นราวกับกลัวว่าเธอจะหายไป ริมฝีปากหนากดจูบขมับอย่างรักใคร่ ก่อนผละกอดออกจับไหล่มนหมุนให้ร่างบางหันมาสบสายตาสื่อความในใจสองสายตามองสบประสานอย่างลึกซึ้งเนิ่นนานหลายนาทีเหมือนมีแรงดึงดูดมิอาจละสายตาจากกันได้ ก

  • วิวาห์แค้น จองจำรัก   บทที่ 77 กระชับความสัมพันธ์

    วันนี้เป็นวันหยุดของอลันเขาจึงพาลูกเมียไปหาพ่อแม่ที่บ้านนั่งคุยกับพวกท่านจนเริ่มบ่ายคล้อยจึงพาลูกน้อยมานั่งเล่นที่สวนสาธรณะต่อเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เมื่อมาถึงสวนสาธรณะเขาก็เดินหาทำเลเหมาะ ๆ สำหรับปูเสื่อนั่งชมบรรยากาศโดยมีพระพายอุ้มลูกน้อยเดินเคียงข้างไป"ตรงนี้แหละ" เขามองหาบริเวณที่คนไม่พลุกพล่านและมีต้นไม้ให้ความร่มรื่นพอได้ดั่งต้องการก็หันไปบอกกล่าวกับร่างบอบบางข้าง ๆ พร้อมกับวางตระกร้าใส่สัมภาระลูกลง แล้วเอาเสื่อที่เตรียมมาปูบนพื้นหญ้าสีเขียวชะอุ่มที่ถูกตัดจนเรียบไปกับผืนดินจากนั้นก็พากันนั่งลง"มาหาพ่อครับน้องพีร์" เขาเอี้ยวตัวไปยกลูกน้อยจากตักของคนเป็นแม่มายืนบนตักเพราะอยากให้เธอได้นั่งสบาย ๆ ซึ่งพระพายก็ไม่ได้ขัดอะไรจ้องมองเขาก้มหน้าพูดคุยกันลูกบนตักพลางระบายยิ้มออกมาบาง ๆ พ่อก็ชวนลูกคุยเก่งส่วนลูกก็คุยเก่งไม่แพ้กันส่งเสียงอ้อแอ้ตลอดเวลา พอโดนคนเป็นพ่อหยอกเย้าหน่อยก็หัวเราะออกมาจนเธอเองก็พลอยหัวเราะตามไปด้วย"ผมพาลูกเดินเล่นหน่อยดีกว่า" ผ่านไปสักพักอลันก็ลุกพาลูกเดินชมนกชมไม้รับลมเย็นโดยมีพระพายมองตามไม่คาดสายตาใบหน้าของเธอเคลือบด้วยรอยยิ้มตลอดเวลากระทั่งสองคนพ่อลูกเดินกลับ

  • วิวาห์แค้น จองจำรัก   บทที่ 76 พัฒนาความสัมพันธ์2

    จากนั้นทั้งสองก็พากันเดินไปยังโต๊ะอาหาร"กินเยอะ ๆ ครับคุณแม่" ระหว่างทานอาหารอลันก็คอยตักนู่นตักนี้ใส่จานให้หญิงสาวตลอด อีกคนเพียงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนยกกับข้าวที่เขาตักให้ใส่ปากอย่างไม่รังเกียจ ทุกครั้งที่ทานข้าวด้วยกันเขามักทำแบบนี้เสมอจนมันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว"เริ่มหลงรักผมขึ้นบ้างหรือยัง" แค่ก ๆ! ทว่าเธอก็ต้องสำลักข้าวในวินาทีต่อมาเมื่อเจอกับประโยคจากริมฝีปากหนาทำเอาเจ้าของคำถามต้องรีบลุกจากเก้าอี้วิ่งมาลูบหลังแผ่นหลังบางด้วยความเป็นห่วง "มันใช่เวลาพูดไหมเนี่ยคุณอลัน" เมื่อเริ่มรู้สึกดีขึ้นพระพายก็หันมองร่างสูงที่ยืนข้าง ๆ เขม็งพร้อมกับใช้มือหยิกหน้าท้องแกร่งเบา ๆ ด้วยความรู้สึกหมั่นไส้ เขาพูดตอนทานข้าวไม่พอยังพูดต่อหน้าแม่บ้านสองคนที่ยืนอยู่ด้วยมันใช่เวลาพูดเสียที่ไหนเธอทั้งอายทั้งนึกโมโหเขาจริง ๆ "ผมเจ็บนะ" คนถูกหยิกร้องโอยพลางกลั้วหัวเราะออกมาอย่างนึกขำ พวงแก้มที่ขึ้นสีแดงระเรื่อนั้นไม่รู้ว่าเพราะโกรธหรือเขินกันแน่ มือหนาอดไม่ได้จะยื่นไปบีบด้วยความรู้สึกมันเขี้ยว "เอามือออกไปเลยนะ" ยิ่งทำให้คุณแม่ลูกหนึ่งรู้สึกอายและนึกโกรธเข้าไปอีกแหวใส่คนตัวโตเสียงดังลั่นพร้อมกับยื่

  • วิวาห์แค้น จองจำรัก   บทที่ 75 พัฒนาความสัมพันธ์1

    หลายเดือนต่อมา..อลันที่เพิ่งกลับมาจากทำงานระบายยิ้มออกมาบาง ๆ เมื่อเดินเข้ามาในบ้านแล้วเห็นพระพายกำลังนั่งชมลูกน้อยอยู่ในห้องโถง จากที่รู้สึกเหนื่อยล้ามาจากการทำงานก็หายเป็นปลิดทิ้ง นี่ก็เข้าสามเดือนแล้วที่เขา เธอและลูกกลับมาอยู่ที่บ้านด้วยกันนับตั้งแต่วันออกจากโรงพยาบาล ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอเริ่มดีขึ้นตามลำดับเพราะมีลูกน้อยเป็นตัวเชื่อม "กลับมาแล้วครับ" เขาเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งข้างร่างบอบบาง ก่อนจะโน้มใบหน้าลงหอมแก้มลูกน้อยที่นอนอยู่บนตักเธอฟอดใหญ่จากนั้นก็ผงกหน้าขึ้นเอื้อนเอ่ยกับลูกน้อยที่นอนตาใสแป๋วส่งเสียงอ้อแอ้ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "วันนี้น้องพีร์กวนคุณแม่รึเปล่าครับ" พระพายก้มมองคนที่กำลังหยอกล้อบุตรชายอยู่บนตักด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มสิ่งที่เขาทำอยู่มันเป็นเรื่องปกติไปแล้วเพราะทุกวันก่อนไปทำงานเขาจะหอมแก้มซ้ายแก้มขวาบุตรชายก่อนเสมอ พอกลับมาตอนเย็นสิ่งแรกที่เขาจะทำก็คือเข้ามาหอมมาเล่นกับลูกเช่นกัน "เหนื่อยไหม" เมื่อหยอกล้อบุตรชายจนพอใจอลันก็ถามไถ่คนเป็นแม่ต่อพร้อมวางมือลงบนไหล่มนด้วยความเอ็นดู เขารู้ว่าการเลี้ยงลูกมันเหนื่อยแค่ไหน "ไม่เลยค่ะ" ใบหน้าเรียวยิ้มตอบเธอจะเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status