EP.1 คืนฝนพรำ
“ไอ้พอล ขับช้าๆ หน่อยดิวะ”
พอลและพอร์ชกำลังกลับจากแทงสนุกเกอร์ด้วยกัน และตอนนี้ฝนกำลังตกหนักและถนนก็คงลื่น พอร์ชที่นั่งตัวเกร็งอยู่ข้างเบาะคนขับรถจึงเอ่ยบอกให้พอลขับรถช้าลงหน่อย พอลขับรถทีไรตีนผีทุกทีเลย
“มึงอย่าปอดแหก เชื่อมือกู”
เอี๊ยดดดดดด….
ไม่ทันขาดคำ รถสปอร์ตสองที่นั่งคันหรูเบรคกะทันหันจนล้อรถลื่นสะบัด
“เบรคหาพ่องมึงเหรอไอ้พอล หน้ากูทิ่มแล้วเนี่ย”
“ไอ้พอร์ช มึงไปเอาไม้เบสบอลท้ายรถแล้วรีบตามกูมา”
พอลเบรครถกะทันหันเพราะเมื่อครู่นี้เขาได้สบตากับเด็กสาวที่หันหน้ามองออกมานอกถนน เธอกำลังดึงกระเป๋าเดินทางยื้อกันไปยื้อกันมากับผู้ชายสามคนที่ดูยังไงก็ท่าทางไม่ปกติ และมองแค่นั้นก็ดูออกว่าเธอกำลังจะโดนรังแก และชุดที่ใส่อยู่นั้น… เสื้อนักศึกษาสีขาวที่เปียกปอนไปด้วยน้ำฝนมันแนบเนื้อซะขนาดนั้น.... เห็นไปถึงไหนต่อไหน
และเมื่อพอร์ชมองตามพอลไป จึงเดาสถานการณ์ข้างหน้าได้ทันที พอลมีไม้เบสบอล ส่วนพอร์ชมีสนับมือ เมื่อพร้อมแล้วพอร์ชก็รีบวิ่งตรงไปหาพอลทันที
พรึบ!
“คะ คุณ ช่วยหนูด้วยค่ะ”
แค่เด็กสาวคนนั้นพูดแทนตัวเองว่าหนู อยู่ๆ ก็รู้สึกอยากปกป้อง อยากดูแล อยากให้เป็นของเขาซะเหลือเกิน ‘ได้ครับหนู ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วนะ’
“อย่ามายุ่งเรื่องของผัวเมีย ถอยไปไอ้พวกเด็กเวร”
“มึงน่ะสิไอ้เวร”
ตุบ ผวั้ะ ผวั้ะ ตุบ ตุบ ตุบ ผวั้ะ
ร่างกายต้องการปะทะ จัดให้มันจบๆ ไป มัวแต่พูดพล่ามจนน่ารำคาญ สันดานรังแกผู้หญิงแบบนี้ต้องจัดให้หนัก เมื่อจัดการเรียบร้อยแล้ว พอร์ชก็โทรหาอาของเขาที่เป็นตำรวจให้มารวบตัวพวกอันธพาลกลุ่มนี้ไป
“ไอ้พอร์ช มึงหาทางกลับเองก่อน”
“มึงจะให้กูกลับเองยังไง มึงดูสิฝนตกขนาดนี้”
“มึงโทรให้ไอ้แอลมารับดิวะ”
“อ๋อ! ผมรู้แล้วครับพี่พอล ได้ครับแต่มึงต้องอยู่รอให้ไอ้แอลมาถึงก่อน กูกลัวผี”
“ผีสิต้องกลัวมึง”
“ผีไม่กลัวคนหล่อหรอก กูกลัวผีตกหลุมรักกูต่างหาก”
“ไร้สาระ”
… “ส่วนเธอ…”
“คะ”
“ไปนั่งรอในรถ”
“ให้ นะ หนูไปนั่งรอในรถคุณงั้นเหรอ”
“ไปเถอะน้องคนสวย ไอ้พอลเพื่อนพี่มันเป็นพระเอก มันไม่ทำอะไรน้องหรอกครับ”
“...”
“ขอบคุณนะคะ” เด็กสาวคนนั้นยกมือไหว้สองหนุ่มด้วยท่าทางประหม่า แต่สุดท้ายก็ยอมไปนั่งรอในรถแต่โดยดี เพราะตอนนี้เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นเช่นกัน ทว่า เธอทำในสิ่งที่พอลและพอร์ชไม่คาดคิด และเธอเองก็คิดว่าสองคนนั้นคงไม่ได้มองตามเธอมา มือบางหยิบก้อนหินก้อนโตใส่ในกระเป๋าผ้าใบใหญ่ของเธอ หากพอลทำมิดีมิร้ายกับเธอ เธอจะใช้ก้อนหินก้อนนี้แหละทุบหัวเขาเอาให้หัวแตกไปเลย แต่เธอหารู้ไม่ว่าทั้งสองคนที่มองตามไปนั้นแอบอมยิ้มกับการกระทำของเธอและรู้ทันความคิดเธอทุกอย่าง
“หึ น้องเขากลัวมึงว่ะ ว่าแต่... ไหว้ซะกูเป็นลุงเลย”
~~~
ฉันนั่งมองรุ่นพี่สองคนที่ไม่ได้รู้จักกัน มองออกไปด้านนอกรถก็เห็นทั้งสองยืนคุยกันใต้ต้นไม้เพื่อหลบฝน แถมยังสูบบุหรี่ด้วยกันทั้งคู่ สายตาของพี่ผู้ชายที่ชื่อพอลเขามองฉันแปลกๆ มองด้วยสายตาเรียบนิ่งไม่สื่อความหมายใด ผ่านไปไม่นานก็มีรถเก๋งคันหรูอีกคันมารับพี่อีกคนกลับไป และคนที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็เป็นเจ้าของรถคันนี้และเขากำลังเดินมา
กึก! เสียงปิดประตูรถจากร่างสูงที่ตอนนี้นั่งอยู่ในรถฝั่งคนขับเรียบร้อยแล้ว
“เอ่อ…” ฉันไม่รู้จะวางตัวยังไงกับสายตาเรียบนิ่งที่เขาจ้องมองฉันแบบนั้น มันไม่ใช่สายตาที่มองแบบแทะโลมนะ แต่ฉันก็ต้องป้องกันไว้ก่อนโดยการกอดตัวเองไว้ เพราะตอนนี้เสื้อสีขาวของฉันมันแนบไปกับเนื้อจนเห็นอะไรบ้างก็ไม่รู้ น่าอายชะมัด
“ออกมาทำอะไรกลางคืนแบบนี้”
“เรื่องส่วนตัวค่ะ”
“อืม ตอบได้กวนมาก”
“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ แต่มันเป็นเรื่องน่าอายที่จะต้องเล่าให้ใครฟังค่ะ”
พรึบ! พอลถอดเสื้อช็อปสีแดงออกแล้วยื่นให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกาย ส่วนเขาเองยังมีเสื้อยืดสีดำที่ใส่เป็นเสื้อตัวข้างในอีกตัวจึงไม่ได้โป๊อะไร
“ใส่ซะ”
“คะ คุณมองหนูเหรอ” เขามองใช่ไหมถึงได้เอาเสื้อให้ฉัน อีตาบ้า
“อย่าปัญญาอ่อน ฉันไม่ได้มองเธอแบบนั้น ถ้าไม่อยากหนาวตายก็ใส่เสื้อซะ แล้วก็ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณ เพราะมันดูแก่” พี่เขาพูดพลางเอามือจิ้มหน้าผากฉันหนึ่งครั้งจนฉันหงายหลังไปนิดนึง
“ขะ ขอบคุณค่ะ เอ่อ พี่ชื่อพี่พอลเหรอคะ” ฉันจำได้ เพราะเพื่อนพี่พอลอีกคนเรียกชื่อนี้ตอนที่ไปช่วยฉัน
“อืม” เขาหันมามองหน้าฉันครู่เดียวจากนั้นก็มองตรง ตอนนี้เราสองคนยังอยู่ที่เดิม พี่เขายังไม่ได้ขับรถออกไป
“หนูชื่อมิเกลนะคะ เรียกว่าเกลก็ได้ค่ะ แล้วก็ขอบคุณที่ช่วยนะคะ”
“จะให้ฉันไปส่งที่ไหน” พอลไม่ได้สนใจสิ่งที่มิเกลบอก แต่เขาจำชื่อเอาไว้แล้ว
“กะ เกล ไม่รู้ค่ะ”
“ไม่รู้?”
“ค่ะ”
“ถ้าเธอไม่รู้ แล้วฉันจะรู้งั้นเหรอ”
“เกลไม่มีที่อยู่”
“...”
“โดนไล่ออกมาค่ะ”
“พ่อแม่เธอล่ะ ญาติเธอ เพื่อนเธอ”
“เกลไม่มีญาติอยู่ที่นี่ค่ะ มีแต่คุณยายอยู่ต่างจังหวัด ส่วนเพื่อน… ไม่มีค่ะ”
ฉันตัดสินใจเล่าเรื่องก่อนหน้านั้นให้พี่พอลฟัง เล่าทั้งๆ ที่เราเพิ่งเจอกัน เป็นคนแปลกต่อหน้า ทำไมถึงรู้สึกไว้ใจที่จะเล่าให้ฟังก็ไม่รู้เหมือนกันนะ มันก็น่าแปลกใจ
ฉันมีเพื่อนคนนึงชื่อลูกน้ำ แต่ที่บอกว่าไม่มีเพราะเราเพิ่งจะตัดเพื่อนกันเมื่อสองชั่วโมงก่อนหน้านั้นแล้ว
วันนี้เลิกเรียนก่อนเวลาเพราะอาจารย์ยกคลาส จึงรีบกลับไปหาพี่โฬมที่คอนโดโดยที่ไม่ได้โทรบอกเขาก่อน ฉันมีแฟนที่คบกันมาเกือบหนึ่งปี และไม่น่าเชื่อว่าฉันเจอเรื่องที่ไม่คาดคิด เป็นเรื่องที่โคตรทำลายความรู้สึกของฉัน ทำลายความไว้ใจ ทำลายความเชื่อใจ ฉันโคตรขยะแขยงกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า
ฉันพักอยู่กับเขา ถึงแม้จะนอนเตียงเดียวกันบ้างบางครั้งแต่เราไม่เคยเกินเลยกัน เขาให้เกียรติฉัน ก็เลยเข้าใจได้ว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษมาโดยตลอด แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น เขาและเพื่อนของฉันได้หักหลังฉันโดยการที่สองคนคบกันและแอบไปมีอะไรกันซึ่งเป็นเตียงที่ฉันนอนอยู่ทุกวัน เขาอ้างว่าฉันเล่นตัว ถือตัวไม่ยอมมีอะไรกับเขา เขาเลยต้องไปมีอะไรกับคนอื่น การมีอะไรกับคนอื่นมันเสียใจมากพอแล้ว แต่คนๆ นั้นกลับเป็นคนใกล้ตัวฉันเป็นเพื่อนของฉันเอง โคตรเห็นแก่ตัวและโคตรเลว
ฉันโวยวายร้องไห้ฟูมฟายแทบตาย แต่เชื่อไหมว่าสองคนนั้นไม่ได้รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำเลยสักนิด แฟนเฮงซวยของฉันพูดประโยคที่ดูถูกผู้หญิงอย่างฉันมาก
‘น้องเกลมีปัญญาไปจากพี่เหรอครับ อย่าลืมนะว่าน้องต้องพึ่งพาพี่ อาศัยอยู่กับพี่ และพวกค่าเทอมต่างๆ พี่ก็ดูแลให้ จะหลบไปร้องไห้ที่ไหนก่อนก็เชิญ คิดได้แล้วค่อยกลับมาหาพี่ก็แล้วกันครับ’
ประโยคนี้ทำให้ฉันตัดสินใจเอาตัวเองออกมาจากตรงนั้นทันที เขาดูถูกฉันมาก ฉันเคยบอกพี่เขาตลอดว่าจะหางานทำและจะทยอยคืนเงินให้ ฉันไม่ได้ขอฟรีๆ แต่เรื่องที่ฉันจน ฉันลำบากและต้องพึ่งพาเขาในตอนนั้นมันคือเรื่องจริง
ฉันหอบหัวใจช้ำๆ กับเสื้อผ้าของใช้ที่ซื้อด้วยเงินของตัวเองออกมา แม้แต่เพื่อนคนนั้นของฉันไม่แม้แต่จะอธิบายอะไรเลยด้วยซ้ำ ไม่แค่นั้นยังยืนมองฉันด้วยสายตาที่ดูถูกดูแคลนอีกคน
และเมื่อฉันเล่าให้พี่พอลฟัง ฉันแอบเห็นสายตาที่วูบไหวของพี่เขานะ คงสงสารฉันแหละมั้ง
“อืม งั้นคืนนี้ไปนอนกับฉัน”
“อะไรนะคะ”
“ฉันหมายถึงไปนอนที่คอนโดฉันก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”
“มะ ไม่ไปค่ะ เกลไม่ไป” ถึงมิเกลจะรู้สึกไว้ใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไปนอนที่คอนโดเขาได้ มันอันตรายเกินไป เธอไม่ได้ไว้ใจพอลมากขนาดนั้น
บรึ๊นนน
~~~ผมไม่ได้สนใจคำพูดที่ยัยซื่อบื้อคนนี้บอก ถ้าไม่ไปพักที่คอนโดของผมก่อน แล้วคืนนี้จะไปนอนที่ไหน ส่วนพรุ่งนี้ผมจะหาห้องใหม่ให้อยู่ไปก่อน ถือว่าช่วยเหลือเด็กตาดำๆ ที่มองยังไงก็แม่งโคตรน่ารักเลยว่ะ
✨✨✨
Ep.5 เบบี๋ขาของพอล“ถามฉันว่าโสดไหม ฉันคิดนะ”“อ่อนไหวจังเลยนะคะ”“ใช่ ไม่เคยได้ยินเหรอ คนของขาดมักอ่อนไหว”“มะ มะ ไม่เคยค่ะ”ฉันพูดลิ้นพันกันจนได้ยินชัด จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงพี่พอลชอบพูดจาแบบนี้ ชอบพูดทะลึ่ง ฉันคิดถูกหรือเปล่านะที่ไว้ใจคนแปลกหน้าคนนี้ พอฉันปฏิเสธไปแบบนั้น ฉันได้ยินเสียงหัวเราะในลำคออีกด้วย ขี้แกล้งอะ“เอาเบอร์เธอมา ฉันจะออกไปข้างนอก เดี๋ยวให้คนมาส่งวัตถุดิบให้ ฉันจะโทรบอกเธอให้ลงไปรับของด้านล่าง แล้วนี่… คีย์การ์ดห้องฉัน”“ค่ะ นี่ค่ะเบอร์ของเกล”ฉันยื่นโทรศัพท์ให้คนตรงหน้า ในหน้าจอฉันกดเบอร์ของตัวเองไว้แล้วส่งโทรศัพท์ให้พี่พอล เบอร์ฉันถ้ากดบันทึกแล้วมันจะเพิ่มเพื่อนในไลน์ให้ด้วยเลยเพราะฉันผูกไว้กับเบอร์โทรฯ..เมื่อทั้งสองคนแลกเบอร์โทรศัพท์กันเรียบร้อยแล้ว พอลก็เดินเข้าห้องของตัวเองทันที เขานั่งเอนตัวพิงโซฟาตัวยาวด้วยท่าทางสบายใจ พร้อมกับนั่งผิวปากอย่างอารมณ์ดี มือหนาหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับรัวนิ้วกดบันทึกชื่อของมิเกลว่า ‘เบบี๋เกล’ เพราะเขาปักธงในใจไว้แล้วว่าอนาคตมิเกลต้องเป็น ‘เบบี๋ขาของพอล’ อย่างแน่นอนผ่านไปเกือบชั่วโมงพอลส่งข้อความมาบอกมิเกลไว้ว่า วัตถ
Ep.4 เช่าคอนโดเดือนละห้าร้อยทั้งสองทานอาหารเรียบร้อย พอลจึงเริ่มขับรถตระเวนหาหอพักให้มิเกล ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับมหาลัยมากนักครืด ~~ ครืด ~~ โทรศัพท์มือถือของพอลสั่นเนื่องจากว่ามีคนโทรเข้ามา แต่เขากำลังขับรถอยู่จึงเอ่ยบอกคนที่นั่งข้างกายแทน“รับโทรศัพท์ให้ฉัน”“เอ่อ ไม่ดีมั้งคะ”“กดรับสายให้ฉัน”พอลพูดเสียงเข้มขึ้นอีกครั้งจนคนข้างกายยอมทำตาม“ค่ะๆ”เรารู้จักกันไม่ถึงสองวันเองมั้ง พี่พอลทำตัวราวกับว่ารู้จักกับฉันมานาน ทั้งคำพูดและพฤติกรรมต่างๆ มันส่อแววมาก มากจนบางทีฉันไม่กล้าคิดไปเอง เมื่อฉันกดรับสายเรียบร้อยแล้วยื่นไปให้คนที่กำลังขับรถอยู่ แต่พี่พอลเลือกที่จะกดเปิดลำโพงแทนและให้ฉันถือเอาไว้แบบนั้น ถ้างั้นฉันก็ได้ยินหมดน่ะสิ“ว่าไง”(ว่าไงอะไรของมึง ขับรถถึงไหนแล้วเนี่ย)“กูไปไม่ได้ละ มีธุระต้องไปทำ” พี่พอลตอบประโยคนั้นแล้วหันมามองหน้าฉันครู่นึง มองทำไม?(ธุระอะไรของมึง มึงจะโดดเรียนเหรอ)“อืม ฝากเรียนเผื่อกูด้วย”(น้องพิชชี่รอทานข้าวพร้อมมึงอยู่นะ) พิชชี่งั้นเหรอ หรือจะเป็นแฟนของพี่พอล“ฝากบอกน้องด้วยว่าไม่ต้องรอ แค่นี้นะกูขับรถอยู่”พอร์ชโทรมาตามพอลเพราะนัดกันไว้ จนเลยเวลาแล้วก
Ep.3 ใจดีแค่กับเธอเช้าวันถัดมา10.00 น.พอลตื่นนอนเพราะเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังรบกวน วันนี้เขามีเรียนแค่ช่วงบ่ายก็เลยนอนตื่นสายได้ เมื่อสมองประมวลผลเข้าที่เข้าทางแล้ว ร่างหนาจึงลุกจากที่นอนและเปิดประตูห้องเพื่อมองหาใครอีกคน ทว่า… เงียบแกร๊ก… พอลถือวิสาสะเปิดประตูห้องนอนอีกห้องเพื่อดูว่ามิเกลอยู่ในห้องนอนไหม เพราะตอนนี้ภายในห้องของเขามันเงียบเหมือนเขาอยู่คนเดียว และตอนนี้ก็ได้คำตอบแล้วว่าคนตัวเล็กไม่อยู่แล้วพอลเหลือบมองไปยังโต๊ะกระจกปลายเตียงก็พบว่ามีกระดาษโน็ตใบเล็กๆ จำนวนหนึ่งใบที่เขียนด้วยลายมือน่ารักเอาไว้ว่า...‘เกลขอบคุณที่พอลมากๆ นะคะ ขอขอบคุณที่ช่วยเหลือทุกอย่างเลย ไว้มีโอกาสถ้าเราได้เจอกันอีกครั้ง เกลจะขอตอบแทนพี่พอลคืนบ้างนะคะ’รอยยิ้มร้ายประดับตรงมุมปาก ตอบแทนเขาคืนงั้นเหรอ ได้สิ เขาจะทำให้เธอติดค้างเขาหลายๆ เรื่องเลยคอยดู หาตัวไม่ยากแน่เพราะเรียนอยู่มหาลัยเดียวกัน เมื่อคืนเธอบอกเขาว่าเรียนที่มหาลัยไหน แต่เขาไม่ได้บอกมิเกลว่าเรียนที่เดียวกัน มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรที่จะต้องบอก ซึ่งพอย้อนนึกกลับไป ก่อนหน้านั้นเขาไม่เคยเห็นมิเกลเลยสักครั้ง ปกติหญิงสาวหน้าตาน่ารัก หรือผู้หญิง
EP.2 ไว้ใจคนแปลกหน้า“เกลไม่ไป พี่พอลจอดนะ” มิเกลพูดด้วยเสียงสั่นจนได้ยินชัด ฟังดูก็รู้ว่าเธอกลัว“ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกหน่า หยุดพูดได้แล้ว”ฉันพยายามจะเปิดประตูรถ แต่ไม่รู้มันอยู่ตรงไหนและเปิดยังไงเพราะเขาล็อกไว้ เด็กบ้านนอกจนๆ แบบฉันไม่เคยนั่งรถสปอร์ตคันหรู ฉันก็ได้แต่เคาะๆ ตามกระจกรถ จนกระทั่งอีกคนรู้สึกรำคาญ“อยู่นิ่งๆ ฉันไม่ทำอะไรเด็กกะโปโลอย่างเธอหรอก หุ่นก็กุ้งแห้ง แล้วดูสภาพตัวเองตอนนี้สิ เหมือนลูกหมาหูลู่ตกน้ำ”“...”กรี๊ดดด ฉันกรี๊ดในใจ แบบนี้เขาเรียกว่าตัวเล็กน่ารักต่างหากล่ะไอ้พี่พอลคนหน้านิ่ง ไม่คิดเลยว่าพอพูดออกมาแล้วจะปากร้ายขนาดนี้คอนโดพอลเพียงไม่นานก็ถึงคอนโดของพอล ด้วยความที่เขาขับรถเร็วเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่พอเหลือบมองคนข้างกายนั่งหนาวจนตัวสั่นเหมือนลูกนกขนาดนั้น เขาจึงเหยียบคันเร่งขับรถเร็วกว่าเดิมเพื่อไปถึงปลายทางให้เร็วขึ้น นั่นก็คือคอนโดเขาเอง“ลงสิ จะนั่งรออะไร”“เอ่อ พี่พอลรับปากเกลมาก่อนได้ไหมคะว่าเกลเชื่อใจพี่ได้”“เธอระแวงกับคนที่มีน้ำใจช่วยเหลือเธอเนี่ยนะ”“แล้ว ระ ระแวงไม่ได้เหรอคะ”“บอกแล้วไง หุ่นอย่างกับกุ้งแห้ง”“นะ นี่”“ทำไมเหรอครับ หรือจะเถียง”เธอ
EP.1 คืนฝนพรำ“ไอ้พอล ขับช้าๆ หน่อยดิวะ”พอลและพอร์ชกำลังกลับจากแทงสนุกเกอร์ด้วยกัน และตอนนี้ฝนกำลังตกหนักและถนนก็คงลื่น พอร์ชที่นั่งตัวเกร็งอยู่ข้างเบาะคนขับรถจึงเอ่ยบอกให้พอลขับรถช้าลงหน่อย พอลขับรถทีไรตีนผีทุกทีเลย“มึงอย่าปอดแหก เชื่อมือกู”เอี๊ยดดดดดด…. ไม่ทันขาดคำ รถสปอร์ตสองที่นั่งคันหรูเบรคกะทันหันจนล้อรถลื่นสะบัด“เบรคหาพ่องมึงเหรอไอ้พอล หน้ากูทิ่มแล้วเนี่ย”“ไอ้พอร์ช มึงไปเอาไม้เบสบอลท้ายรถแล้วรีบตามกูมา”พอลเบรครถกะทันหันเพราะเมื่อครู่นี้เขาได้สบตากับเด็กสาวที่หันหน้ามองออกมานอกถนน เธอกำลังดึงกระเป๋าเดินทางยื้อกันไปยื้อกันมากับผู้ชายสามคนที่ดูยังไงก็ท่าทางไม่ปกติ และมองแค่นั้นก็ดูออกว่าเธอกำลังจะโดนรังแก และชุดที่ใส่อยู่นั้น… เสื้อนักศึกษาสีขาวที่เปียกปอนไปด้วยน้ำฝนมันแนบเนื้อซะขนาดนั้น.... เห็นไปถึงไหนต่อไหนและเมื่อพอร์ชมองตามพอลไป จึงเดาสถานการณ์ข้างหน้าได้ทันที พอลมีไม้เบสบอล ส่วนพอร์ชมีสนับมือ เมื่อพร้อมแล้วพอร์ชก็รีบวิ่งตรงไปหาพอลทันทีพรึบ!“คะ คุณ ช่วยหนูด้วยค่ะ”แค่เด็กสาวคนนั้นพูดแทนตัวเองว่าหนู อยู่ๆ ก็รู้สึกอยากปกป้อง อยากดูแล อยากให้เป็นของเขาซะเหลือเกิน ‘ได้ค
เรื่องย่อ เธอ... ที่เพิ่งโดนแฟนตัวเองนอกใจ เขาไล่เธออย่างไม่แยแส แถมยังดูถูกเธอสาระพัดอย่าง ถึงไม่ไล่ เธอก็ต้องไปอยู่ดี ไม่มีใครรับได้หรอกที่โดนแฟนตัวเองนอกใจในค่ำคืนฝนตก สาวเด็กวัย 20 ปี กับใจพังๆ เธอกำลังวิ่งหนีผู้ชายขี้เมาสามคนที่กำลังจะพยายามล่วงเกินเธอ ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีหลงเหลืออยู่บ้าง หนุ่มวิศวะหน้าหล่อแต่ดูนิ่ง ตัวจริงจะพูดได้หรือเปล่านะ เพราะดูนิ่งมาก เขามาช่วยเธอให้รอดพ้นจากอันตรายในตอนนั้น“ปล่อยผู้หญิง” โอเคเขาพูดได้ นึกว่าเขาเป็นหุ่นยนต์รักแรกพบ...ได้เกิดขึ้นกับพอล เขาจึงตั้งใจวางแผนทำทุกอย่างให้ได้เธอคนนั้นมาครอบครอง และเมื่อได้เธอมาครอบครอง ทุกอย่างเหมือนจะดี แต่ก็..."เห็นฉันเป็นไอ้หน้าโง่สินะ ถึงได้หยามกันขนาดนี้"แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อความจริงทุกอย่างปรากฎ ทำให้เขาได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว เรื่องนี้คนที่เจ็บปวดที่สุดมันไม่ใช่ 'เขา' แต่เป็น 'เธอ' ต่างหากที่ทนแบกรับความเจ็บปวดทั้งหมดนี้เอาไว้เอง"ให้โอกาสผู้ชายหน้าโง่คนนี้สักครั้งได้ไหม"⭐__________⭐เรื่องราวมันจะเป็นยังไงต่อไป ทำไมมิเกลถึงตัดสินใจทำแบบนั้นและทำไมพอลถึงยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ เช่นกัน มาลุ้นนะคะ