ログインคราแรกอ๋าวเซียวเหรินตั้งใจพาหญิงสาวกลับไปหาพี่สาวของนาง ทว่าเห็นอาการที่รุนแรงแล้ว เขาคิดว่าปล่อยไปเช่นนั้น ย่อมสร้างความอับอายให้หยวนชิงอี้เกินไป อย่างน้อยที่สุด เมื่อยื่นมือช่วยเหลือ เขาคงต้องออกแรงอีกสักหน่อย สนับสนุนนางให้ได้มีลมหายใจไปอีกสักปีสองปี ซึ่งมันคงมากพอทำให้ตามหาคนร้าย และแก้แค้นในสิ่งที่พวกเขากระทำต่อนางสำเร็จ
กระท่อมลับของนายพราน ถูกใช้เป็นที่ปลดปล่อย ระบายความอัดแน่นในร่างกายของหยวนชิงอี้ สถานที่แห่งนี้ คนที่เขารู้จักวางค่ายกลอำพรางตาทหารต่างแคว้นไว้ ทั้งที่มันอยู่ในพื้นที่อันตราย ด้วยเป็นเขตที่พร้อมมีการปะทะได้ทุกเมื่อ ชายหนุ่มมองร่างของหยวนชิงอี้ซึ่งพึ่งโยนนางลงไปในอ่างไม้ที่มีน้ำอุ่นๆ และที่ทำให้เขาฉงนและทึ่ง นางไม่ได้ขวยเขินเมื่อต้องเปลื้องผ้าต่อหน้าเขา
หยวนชิงอี้ทำให้เขาเข้าใจว่า ระหว่างชายหญิง เป็นเรื่องปกติหากต้องใช้ชีวิตร่วมกัน
“ร่างกายของท่านกับข้า แตกต่างกันก็จริง...และข้าไม่คิดว่า เป็นเรื่องน่าละอายหากต้องเปิดเผยเนื้อหนังของตน”
“ข้าไม่เคยได้ยินผู้ใดกล่าวเช่นนี้มาก่อน หากไม่ใช่คนเสียสติ คุณหนูก็คงเป็นพวกวิตถาร และใกล้เคียงว่าไร้ยางอาย”
หยวนชิงอี้สูดลมหายใจลึก ระงับโทสะเป็นอย่างมาก และเอ่ยกับเขา
“ถึงอย่างนั้นท่านก็ยังไม่หันสายตาไปทางอื่น หรือว่าอยากอาบน้ำเป็นเพื่อนข้า หึๆ ๆ ในกระท่อมนี้ คงมีคนไร้ยางอายสองคน!”
“คุณหนู...เจ้ากำลังล้อข้าเล่น... อย่าได้กล่าวเช่นนี้อีก อาจทำให้เจ้าต้องระบมไปทั้งตัว”
“อยู่ด้วยกันเพียงลำพังเช่นนี้ ข้ายังต้องหวั่นเกรงสิ่งใดอีก และหากท่านปรารถนาทรมานข้า ท่านคงลงมือไปตั้งนานแล้ว”
เมื่อหญิงสาวจับพิรุธจากอ๋าวเซียวเหรินได้ เขาก็ทำเป็นหุนหันก้าวจากไป
กระทั่งนางสวมชุดใหม่ มันก็ชวนให้มอง เป็นเสื้อผ้าชาวบ้าน ถึงเรียบง่ายหากขับให้หยวนชิงอี้มีเสน่ห์แบบสตรีบ้านป่า
และนางได้ชำระร่างกายด้วยน้ำอุ่นที่มีสมุนไพรก็จริง แต่
ยาพิษที่ดื่มเข้าไป ยังไหลเวียนในกระแสเลือด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หยวนชิงอี้จะส่งสายตาหวานเชื่อมถึงเขา พอนางดึงนิ้วมือใหญ่ๆ ไปเย้าหยอก แล้วตามด้วยการส่งเข้าไปในโพรงปากตน ชายหนุ่มก็ส่งเสียงเตือน ถึงอย่างนั้นนางยังดื้อรั้นแสดงความเอาแต่ใจ คุณหนูคนนี้กำลังทำให้เทพสังหารต้องรับมือยาก
“นั่นคือนิ้วของข้า เจ้ากลับดูดราวกับมันจะมีน้ำวิสุทธิ์พุ่งออกมาได้ เด็กน้อย...หลงใหลราคะมากถึงเพียงนี้”
อ๋าวเซียวเหรินกล่าว เสียงเขาเข้มจัด หัวคิ้วหนาขมวดเข้าหากัน ทว่าหยวนชิงอี้ไม่ฟังสิ่งใด นางต้องระบายแรงกำหนัดมิเช่นนั้นร่างกายคงทรมานอยู่เช่นนี้
“เฮอะ...ข้าไม่กัดนิ้วท่านให้ขาด นับว่าประเสริฐอย่างที่สุดแล้ว” หญิงสาวตอบอย่างเล่นลิ้น ไม่น่าเชื่อว่านางผู้มาจากโลกแห่งความจริง กำลังใช้ความสามารถของตนล่อลวงตัวร้าย และหวังว่าเขาจะตกหลุมพราง
“โอ้ ข้าช่างโง่เขลา ทำคุณบูชาโทษโดยแท้ ถามหน่อยเถิด เจ้าเป็นสตรีเยี่ยงใดกัน ถึงได้ถูกวางยาพิษกำหนัดขั้นรุนแรง หรือว่าเจ้าแย่งชิงเจ้าบ่าวผู้อื่นจากเตียงนอนเขา ไม่ก็คงยั่วยวนพ่อหม้ายจนฝ่ายนั้นเกิดความปรารถนาอยากทำให้วิญญาณเจ้าหลุดออกจากร่างยามร่วมรักกันราวกับสัตว์ป่า”
หยวนชิงอี้ไม่อยากฟังสิ่งใดที่เขาเอ่ย มันแทงใจดำเกินไป แต่ความบัดซบมันอยู่ตรงนี้ ด้วยน้ำเสียงทุ้มๆ เจือความเย้าหยอกที่แสนจิกกัด ทำให้นางอยากแนบชิดร่างกายอุ่นจัด
ในตอนนั้น นางจึงเล่นสนุกกับนิ้วยาวใหญ่ของเขาอีกหน
ทั้งดูด เลีย ก่อนเม้มรุนแรงจนชายหนุ่มส่งเสียงคำรามเอ็ด
“คุณหนู เจ้าอยากท้าทายใครก็ได้ แต่อย่าริปฏิบัติกับข้า” ชายหนุ่มบอกจบ จึงจับร่างนางพลิกให้นอนหงายบนฟูก ฝ่ายเขาอยู่ด้านบน ก่อนค่อยๆ แยกขานางให้กว้าง กว้างพอที่เขาจะแทรกตัวเข้าไปอยู่ตรงกลาง
ขณะเดียวกัน มือใหญ่แหวกคอเสื้อนางออก เผยให้เห็นเอี้ยมตัวบาง เขาหัวเราะเล็กน้อย ก่อนใช้ฟันคมๆ กัดสายเอี๊ยมขาด แล้วดึงทิ้งอย่างไม่ใยดี ในช่วงเวลาดังกล่าวกลิ่นหอมจากเรือนกายนางส่งถึงเขาไม่หยุด เส้นเลือดที่ลำคอหยวนชิงอี้เต้นแรง ทั้งยอดหน้าอกสีผลอิงเถาก็ชวนให้เขาส่งความสุขถึงนาง
เขาแลบลิ้นสากแสนอุ่นออกมา และไล้ไปตามริมฝีปากบางของตน ภาพของอ๋าวเซียวเหรินส่งผลให้หยวนชิงอี้เร่าร้อนกว่าเดิม
“เทพสังหารแซ่อ๋าวผู้นี้ ทำสิ่งใดแล้วรับผิดชอบเสมอ”
ยามนั้น หยวนชิงอี้หูดับชั่วขณะ ร่างกายยิ่งส่งแรงขับเคลื่อนออกมาไม่หยุด ยอดหน้าอกตั้งชัน ส่วนที่หวานฉ่ำก็มีน้ำใสๆ เกาะพราวไปหมด นางไม่ปฏิเสธเขา สิ่งใดที่จะเกิดต่อจากนี้ ไม่นึกหวาดกลัว ทุกอย่างย่อมลิขิตเอาไว้ และนางจะสานต่ออย่างเต็มที่
หยวนข่ายถอนหายใจหลายรอบ ก่อนหน้านี้ที่เขามารับน้องสาวทั้งสองคนล่าช้าเพราะมีเหตุจำเป็น อดีตสาวใช้ในจวนคนหนึ่ง อ้างว่ามีบุตรชายกับเขาและนางพยายามใช้เป็นข้อต่อรอง ทั้งที่เขาพยายามอย่างยิ่งจะไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้ ด้วยเขามีสตรีที่หมายปองอยู่แล้ว ฝ่ายนั้นอยู่ในตระกูลใหญ่และนางรังเกียจบุรุษที่ยุ่งเกี่ยวกับสาวใช้ยิ่ง ขณะที่เขาถอนหายใจหลายหน เฟยเตี้ยนก็ก้าวเข้ามาหาพอดี “เสี่ยวชิงเล่า... เหตุใดข้าไม่พบนางในงาน” หยวนข่ายคล้ายจะได้สติในตอนนั้น “เอ่อ นางไม่สบายพักอยู่ที่เรือนในจวนตระกูลเหอ” เฟยเตี้ยนเลิกคิ้วสูง อดเป็นห่วงหยวนชิงอี้ไม่ได้ ด้วยทุกคนออกมาสนุกสนาน แต่ทิ้งนางไว้จวน “เช่นนั้น ข้าคงต้องไปที่จวนตระกูลเหอ ขอพบนางสักหน่อย” “ซื่อจื่อ ทำเช่นนั้นได้หรือ ข้ากับน้องสาวเป็นแขกใต้เท้าเหอ ส่วนท่านเป็นแขกข้าอีกที” “พี่ข่าย...แต่ไหนแต่ไรข้าก็ให้เกียรติท่านเสมอ และคิดว่าเป็นบุรุษใช้ได้ รักพี่น้อง แต่หนนี้ข้าดูท่านผิดไปมาก” หยวนข่ายรู้สึกเสียหน้า เขาทำเสียงไอเพื่อขจัดความละอาย ก่อนเอ่ยกับเฟยเตี้ยน “ซื่อจื่อ ท่านกั
เมื่อเจ้าบ้านเหอได้เห็นสองพี่สองตระกูลหยวน เขาถามถึงหยวนชิงอี้ ฝ่ายหยวนซูซูรีบตอบเสียงสดใส “นางไม่สบายเจ้าค่ะ ไข้กำเริบอีกแล้ว และยังออกตุ่มตามลำตัว และแขนขา ข้าเกรงว่าหากออกมาสัมผัสอากาศด้านนอกคงแย่กว่าเดิม จึงให้แม่บ้านจุ้นดูแลอยู่ไม่ห่าง อีกทั้งคุณหนูเหอสี่ ให้สาวใช้ส่งน้ำแกง และสมุนไพรไปสำหรับดื่มและกินแล้ว ทุกอย่างเลยไม่มีเรื่องน่ากังวล” หยวนซูซูพูดจาฉะฉาน ใครได้ยินก็ชมชอบ ผิดแต่นางงามน้อยที่สุดในหมู่สตรีที่มางานวันนี้ บุรุษจึงไม่ได้ให้ความสนใจ “น่าเสียดายจริงๆ ข้าอยากให้นางได้มีโอกาสเปิดหูเปิดตาบ้าง” “ความปรารถนาดีของท่านลุง นางย่อมทราบ ภายหลังหลานจะให้น้องแปดมาตอบแทนแน่นอน” “หากต้องการหมอ หรือสิ่งใดเพิ่มคุณหนูห้าหยวนบอกลุงได้เลย จะให้คนดูแลอย่างเต็มที่ น้องสาวเจ้าเป็นเด็กอาภัพยิ่งนัก” หยวนซูซูคำนับอีกฝ่าย และมิวายเอ่ยว่า “อย่างไรเสีย ดวงนางเป็นอริต่อผู้อื่น หลานกล่าวได้เท่านี้จริงๆ เจ้าค่ะ” เจ้าบ้านเหอไม่ได้ซักไซ้สิ่งใดอีก เขาพยักหน้าเข้าใจ และก้าวไปประจำที่นั่งของตน ขณะเดียวกัน หนุ่มสาววัยเดียวกันกับหยวนซูซู ก็ปรากฏตัวหลา
“นับแต่ที่ข้าได้รับพิษร้ายจากผู้ไม่หวังดี ของเสียจากภายในก็ถูกขับออกมาผ่านทางการถ่ายเบา บางครั้งมีเลือดเน่าปนด้วย ส่วนกลิ่นนี้ ข้าพยายามหาสมุนไพรกำจัดแล้ว ตะ แต่...มันคงต้องใช้เวลา” หยวนชิงอี้พยายามเชื่อมโยงเรื่องที่เกิดขึ้น รวมถึงเมื่ออยู่เมืองลิ่วนางได้เข้าร้านสมุนไพร ซื้อหาหลายสิ่ง ด้วยเหตุนี้ทำให้หยวนซูซูเชื่อว่าน้องสาว มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในร่มผ้า ทั้งที่ความจริง อีกฝ่ายสร้างเรื่องเท็จเพื่อเอาตัวรอด “ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ต้องได้รับบทเรียน” หยวนซูซูยังยืนยันจะให้เข็มเงินสั่งสอนหยวนชิงอี้เช่นเดิม “คุณหนูห้า ทำเช่นนั้นไม่ได้นะเจ้าคะ การลงโทษใดๆ ย่อมต้องเป็นหยวนฮูหยินจากเรือนหลัก คนเดียวเท่านั้นที่สั่งการได้” เสี่ยวอวิ๋นเอ่ย และเข้ามาขวางด้วยเป็นห่วงเจ้านายของตน แต่หยวนซูซูรำคาญมาก นางผลักอีกฝ่ายกระเด็นไปชนกับขอบโต๊ะ ศีรษะได้แผลและมีเลือดไหล “พี่ห้า... ท่านทำเกินไปแล้ว” “ฮิๆ ๆ อย่าพึ่งร้อนใจ กระทำเช่นนี้ถึงจะเรียกว่า เกินไปต่างหากละ สตรีไร้ยางอายชิงอี้” ยามนั้นแม่บ้านจุ้นไม่ได้เป็นคนใช้เข็มแทงต้นขาของหยวนชิงอี้ แต่เป็นหยวนซูซู ค
กระทั่งมาถึงตระกูลเหอ ซึ่งเป็นญาติฝ่ายของใต้เท้าหยวน ทุกคนก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ที่สำคัญที่นี่ มีชายหนุ่มที่ยังไร้ภรรยา การพาน้องสาวทั้งสองมาพัก ย่อมเป็นเจตนาของคนใต้เท้าหยวน ด้วยภายหน้าหากตระกูลเหออยากส่งแม่สื่อไปทาบทามหยวนซูซู และหยวนชิงอี้ ก็จะเป็นเรื่องน่ายินดี คนตระกูลเหอแม้จะยิ้มแย้มแจ่มใส่ ทว่าดวงตาพวกเขาเก็บซ่อนความลึกลับเอาไว้ไม่มิด บุรุษหลายคนได้เห็นรูปโฉมหยวนชิงอี้ ก็ให้ความสนใจยิ่ง คนที่โสดก็ยิ่งกระตือรือล้นอยากผูกสัมพันธ์กับนาง “ทุกท่าน... น้องสาวข้า ยังไม่หายจากไข้ดี อีกอย่างนางใช่ว่า จะมีวาสนาผูกไมตรีจิตกับใครได้ง่ายๆ ขอให้คุณชายทั้งหลายเข้าใจเรื่องนี้ด้วย” หยวนซูซูจงใจฉีกหน้าน้องสาว ฝ่ายหยวนข่ายก็ถอนหายใจหลายครั้งหลายหน เขาไม่ใช่คนไร้เหตุผล แต่เมื่อคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้ากับหยวนชิงอี้ ก็เอนเอียงว่า นางคงมีดวงอัปมงคลอยู่ไม่มากก็น้อย “ข้ากับน้องทั้งสองคน รวมถึงบ่าวไพร่ ขอบคุณความเมตตาจากตระกูลเหอด้วยใจจริง” เจ้าบ้านเหอโบกมือโบกไม้ไม่ให้ทุกคนมีพิธีรีตอง หรือต้องเกรงใจกันมาก อย่างไรเขาก็ไม่ใช่คนงมงายสิ่งใด
เฟยเตี้ยนมองหยวนข่ายแวบหนึ่ง และยื่นมือไปตบไหล่เขา“พี่ข่าย... เรื่องของท่านก็ยังไม่เรียบร้อยดี อย่างไรคงต้องใส่ใจให้มากขึ้น” หยวนข่ายหัวเราะเสียงแห้งๆ สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที เฟยเตี้ยนกำลังเตือนสติ ไม่ให้ยุ่งเรื่องของเขานั่นเอง “ขอบคุณซื่อจื่อที่เตือน เช่นนั้น ข้ารบกวขอให้ท่านเป็นธุระเรื่องนี้ก็แล้วกัน” บอกจบ เขาก็เรียกสตรีทั้งสองคนให้ก้าวตามไป หากเป็นเฟยเตี้ยนที่รั้งหยวนชิงอี้เอาไว้ “รูปก็วาดใกล้เสร็จแล้ว ให้จิตรกรในร้านสานต่อจนเรียบร้อยดีหรือไม่ ส่วนสิ่งใดที่ไม่เข้าใจกัน ข้าจะช่วยคลี่คลาย” หยวนชิงอี้หันไปมองหยวนข่าย ฝ่ายนั้นไม่เสียเวลาคิดว่า เขาตอบว่า “หยวนแปดได้ซื่อจื่อดูแล นับว่าโลกของนางยังมีแสงสว่างส่องถึงบ้าง” “ได้อย่างไรกัน น้องแปดด้อยประสบการณ์ อีกทั้งข้าก็เป็นพี่สาวนางมาจากเรือนเดียวกัน เยี่ยงนั้นสมควรอยู่ที่นี่ด้วย” หยวนซูซูรีบส่งเสียงประท้วง ทว่าหยวนข่ายย่อมรู้ความต้องการของเฟยเตี้ยนจึงจับแขนอีกฝ่ายแล้วกึ่งลากกึงจูงพาออกไปจากบริเวณนั้น******************** เถ้าแก่ร้านชุดเจ้าสาวและเครื่องประดับ หรือไป๋กว
“เถ้าแก่ช่างมองการณ์ไกล มีความคิดหลักแหลม เอาละ ข้าอยากเป็นไม้แขวนเสื้อให้ท่าน...” หยวนชิงอี้บอกเขา และเลือกเสื้อสีแดงมงคลลายนกยูง ที่ปักอย่างงดงาม “ข้ามีเสื้อขนจิ้งจอกดำแล้ว และไม่มีสิ่งใดแทนได้ ส่วนเสื้อด้านใน ตัวนี้ถูกใจข้ายิ่ง” เมื่อหญิงสาวแต่งตัวเรียบร้อย ก็ประดับดอกไม้สดบนศีรษะ ในยามนั้นหยวนชิงอี้ ดูราวเทพธิดาที่ลงมาจากสรวงสวรรค์ ทุกคนที่ได้เห็นต่างมองนางด้วยความตื่นตะลึง ก่อนจะถูกสะกดสายตาเอาไว้ เนิ่นนาน “คุณหนูเรือนใด ถึงได้งามล้ำลึก และเฉิดฉายเพียงนี้” “ถูกต้อง เป็นไปได้หรือไม่ว่า สตรีเลอโฉมอันดับปีนี้ ถึงเวลาเปลี่ยนคนแล้ว” หยวนชิงอี้ได้ยินชัด ส่วนเสี่ยวอวิ๋นก็พลอยชื่นชมเจ้านายของตนไปด้วย และระหว่างที่อยู่ในร้านชุดมงคลกับเครื่องประดับ หยวนซูซูที่ได้รับรายงานจากแม่บ้านจุ้น นางก็นั่งรออยู่ที่เหลาอาหารและน้ำชาไม่ไหว ใจร้อนรุ่ม ปล่อยให้หยวนชิงอี้คาดสายตาเพียงเล็กน้อย นางก็ก่อเรื่องอีกจนได้ และขณะที่จะก้าวไปเพื่อลากตัวอีกฝ่ายมาอบรม ตอนนั้นคนจากบ้านหลักหยวนก็เดินทางมาถึงพอดี “เจ้าคือน้องหยวนห้า...” หยวนข่ายยิ้มกว้าง พร







