LOGINเดินมาถึงบาร์ Lazy Lounge
ในเมื่อเขายืนยันแบบนั้นแล้วคนโปรดก็ไม่ขัด อาจเป็นเพราะอยากตามใจให้อีกฝ่ายได้ผ่อนคลายบ้าง จึงไม่อยากเคร่งครัดกับเขานัก แม้ว่าลึกๆ แล้ว จะยังไม่แน่ใจว่าการอนุญาตให้มาที่นี่นั้นจะนำไปสู่เรื่องอะไรอีกรึเปล่า แต่เพราะเขาอยากให้ไนท์รู้สึกดีขึ้นมาบ้างที่มีเขาเป็นผู้จัดการ ไม่อยากให้ไนท์คิดแค่ว่าตนสร้างแต่ความปวดหัวมาให้ บาร์แห่งนี้ดูเผินๆ เหมือนเป็นร้านเล็กๆ ธรรมดาๆ ในห้าง ไม่ได้ดึงดูความสนใจอะไรมากมาย แต่เมื่อก้าวเข้ามาภายใน กลับให้ความรู้สึกเหมือน ‘บาร์ลับ’ ที่ซ่อนตัวอยู่จากสายตาคนทั่วไป แสงไฟสลัวตัดกับเคาน์เตอร์ไม้สีเข้ม ด้านหลังเป็นชั้นวางเครื่องดื่มที่เรียงรายเป็นระเบียบ กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ ผสมกับกลิ่นไม้และเครื่องเทศคลุ้งลอยอยู่ในอากาศ แต่ยังไม่ถึงขั้นแสบจมูก บรรยากาศให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวและอบอุ่น ต่างจากบาร์ทั่วไปที่มักเต็มไปด้วยเสียงดังและความวุ่นวาย เสียงดนตรีเบาๆ ดังแว่วมาจากด้านใน มีเสียงพูดคุยและเสียงแก้วกระทบกันดังเป็นระยะ ไนท์ก้าวเข้าไปโดยไม่ลังเล พร้อมกับกวาดสายตามองรอบๆ อย่างคุ้นชิน ต่างจากคนโปรดที่ไม่ได้มาสถานที่แบบนี้บ่อยนั-คนโปรด-เช้าวันรุ่งขึ้น ไนท์กับคนโปรดตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า สวมชุดเรียบๆ เพื่อจะไปทำบุญตักบาตรกันที่วัด หลังใส่บาตรเสร็จหน้าเจดีย์หินที่บรรจุอัฐิของแม่ไนท์“ผมแต่งงานกับคนโปรดแล้วนะครับ”“ผมจะดูแลลูกของคุณแม่ให้ดีที่สุด ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”“แล้วก็อีกอย่างนึงครับ ผมจะเป็นพ่อคนแล้วนะ” ไนท์ว่าต่อผมตาโตขึ้นทันที “เดี๋ยว ยังไม่ได้ อะไรเลยนะ”“ก็นี่แหละ ก็อีกไม่นานป่ะ”แหมมสายวันเดียวกัน เราเดินทางมาที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังตามนัดพนักงานต้อนรับตรวจชื่อแล้วรีบพายังห้องตรวจเฉพาะกิจ“คุณไนท์กับคุณคนโปรดใช่มั้ยคะ? หมอธันย์รออยู่แล้วค่ะ เชิญด้านในได้เลยนะคะ”พี่หมออายุสามสิบสี่ปี ในเสื้อกาวน์ขาวนั่งรออยู่โต๊ะ“ยินดีด้วยอีกครั้งนะครับ สำหรับงานแต่งเมื่อวาน” “ขอบคุณครับ” ไนท์เอ่ย“เข้าเรื่องกันเลยนะครับ คุณทั้งคู่อยากให้คุณคนโปรด เป็นคนตั้งครรภ์เองใช่มั้ยครับ?”เราสองคนมองหน้ากัน“ใช่ครับ ถ้าเขาโอเค ผมก็อยากให้เขาได้อุ้มลูกครับ” ไนท์ตอบหมอ แต่มองหน้าผม“ครับ ว่าแต่วิธีมันคือ..ยังไงเหรอครับ? แล้วอันตร
โรงแรมระดับห้าดาว ชั้นบนสุดถูกปรับเป็นโถงกระจกเพดานสูงแสงยามเย็นลอดผ่านเข้ามาได้ทุกมุม เส้นขอบฟ้าของเมืองทอดยาวอยู่เบื้องหลังเหมือนฉากหนัง ดอกไม้โทนขาวเขียวแซมตกแต่งอยู่ทุกจุด บรรยากาศอบอุ่นแต่ก็มีความเป๊ะอยู่ทุกมุมคนโปรดไม่รู้เลยว่างานเลี้ยงเล็กๆ นี้ จะกลายเป็นงานแต่งงานของตัวเองคนโปรดก้าวเข้ามาในห้องโถง แล้วก็ชะงักเมื่อทุกคนลุกขึ้นพร้อมกัน ดนตรีก็เปลี่ยนทำนอง แล้วสายตาก็สบเข้ากับคนที่ยืนอยู่ปลายพรมยาวสีครีม ไนท์ยิ้มให้เขาแบบที่เจ้าบ่าวทุกคนควรจะยิ้ม เขาโดดเด่นด้วยชุดสูททักซิโด้สีแดง ผูกโบหูกระต่ายสีดำ ในขณะที่ทุกคนแต่งตัวโทนสีขาวธีมของงานแขกมีประมาณเจ็ดสิบคน ทั้งเพื่อนในวงการ ผู้จัด ผู้กำกับ คนในครอบครัว และที่สำคัญคือมีสื่อมวลชนมาร่วมด้วย แต่ก็เฉพาะที่ได้รับเชิญมาเท่านั้น ไม่มีไลฟ์ ไม่มีเปิดสาธารณะ มีแค่สื่อที่เคารพความเป็นส่วนตัวของทั้งคู่พ่อกับแม่ยืนอยู่ข้างเวที มองมาด้วยแววตาเปี่ยมไปด้วยความรัก ความยินดี คุณอาหมอกับน้าพิมก็มาด้วย พี่โดนัท แฟนและลูกชาย มิว เพื่อนสนิทของไนท์อยู่ในชุดเรียบเท่ ข้างกันคือนนท์น้องชายไนท์ ที่สวมบทเพื่อนเจ้าบ่าวฝั่
หลังจากรถแล่นออกจากกรุงเทพฯมาได้พักใหญ่ ไนท์ก็หักพวงมาลัยเข้าปั๊มแห่งหนึ่งริมทาง ผมเหลือบมองหน้าเขา “จอดทำไม?”“จะล้าง”“รถ?”“เปล่า ตัว”ก็จริง หลังจากที่เพิ่งเสร็จกิจกรรมกันไปเมื่อกี้ ร่างกายแต่ละคนแทบจะกลายเป็นหลักฐานชั้นดี“หนูอาบน้ำเลยก็ได้นะ ที่นี่มีห้องอาบน้ำ”“นี่เสิร์ชมาแล้วด้วยเหรอ?”ไนท์หลบตาไม่ตอบ ก่อนเขาจะเดินไปฝั่งร้านค้าผมหลุดยิ้ม แล้วก็เดินไปอาบน้ำ น้ำเย็นจัดตอนราดตัวครั้งแรกทำให้สะดุ้งนิดๆ แต่ก็รู้สึกดี เหมือนได้ล้างคราบบางอย่าง ทั้งเหงื่อ ทั้ง...สิ่งอื่นๆ อย่างน้อยตอนขึ้นรถรอบหน้าก็จะไม่รู้สึกเหนอะอีกแล้ว สดชื่น ใช้เวลาไม่นาน เช็ดตัวเสร็จ ผมเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเดิม แล้วก็เห็นไนท์ยืนรออยู่ตรงหน้าเขาใส่ชุดใหม่ ดูสะอาดเอี่ยมไวเกินเหตุ ในมือถือถุงจากร้านมินิมาร์ทเล็กๆ ในปั๊มเขายื่นมันมาตรงหน้า “เอ้า เอาไปเปลี่ยน”ผมรับมันมาแบบงงๆ เป็นเสื้อยืดสีขาวเรียบๆ กับกางเกงขาสั้นสีดำ“ไปซื้อมาเมื่อกี้เหรอ?”“อือ”.ผมเดินกลับมาที่รถในชุดใหม่ ผมมองเข้าไปในรถ ไนท์ไม่อยู่ หันไปมองรอบ
-คนโปรด-คอนโด“อะแฮ่ม!” ผมกระแอมขึ้นเบาๆ ขณะยืนอยู่ด้านหลังเก้าอี้ของพี่มัน เห็นกับตาว่ากำลังไถหน้าจอโทรศัพท์ดูอะไรบางอย่างอย่างตั้งใจไนท์สะดุ้งนิดหน่อยก่อนรีบกดปิดหน้าจอ แล้วรีบหันกลับมามองผมทันที“ปิดทำไม ชอบไม่ใช่เหรอ? ดูไปสิ สเปกเลยหนิ” ผมพูดใส่เขาไปเล่นๆ ไม่ได้จริงจังส่วนอีกฝ่ายไม่รอให้พูดจบ คว้าดึงแขนผมให้ลงไปนั่งตักเขา“สเปกแล้วไง แต่คนที่ใช่ก็อยู่ตรงหน้านี้แล้วไงคับ” ไนท์ว่า พลางกอดเอวผมแน่นผมเบะปากใส่ ไม่ได้อยากจะยิ้ม แต่เอาจริง... ใจก็พองนิดๆ“วันนี้วันเกิด อยากได้ไรคับ?” ไนท์ถามเสียงแจ้ว“ไม่เก็บตังค์ไว้แต่งเมียแล้วเหรอ?”“ตรงหน้านี่ไงคับ เมีย จะให้ไปแต่งกับใครอีก แล้วหนูก็ตกลงแต่งกับพี่แล้วด้วย” ไนท์ว่า พร้อมยื่นมือมาบีบแก้มผมเบาๆ แบบคนถือสิทธิ์ผมจ้องหน้าเขานิ่ง ไม่พูดอะไร แต่สายตาไม่ปิดอารมณ์“ทำไมชอบมองแบบนั้น? ยังไม่ชินอีกเหรอ?” อีกคนถาม“จำไม่ได้เหรอ ว่าตอนที่เราเจอกันพี่เป็นคนยังไง”“ก็ตอนนั้นยังไม่ได้รักไง...”คนโปรดลุกออกจากตักไนท์ไปนั่งที่เก้าอี้ข้างกัน “มันไม่ได้อยู่ที่รักหรือไม
-คนโปรด- หลายเดือนต่อมาวันนี้เรามานอนกันที่บ้านของพี่ไนท์ เขาบอกอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาอยู่ห้องนี้พอเปิดประตูเข้าไป จะเจอกับห้องสไตล์โมเดิร์นมินิมอล พื้นไม้สีอ่อนตัดกับผนังสีเทาเข้ม ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเท่ ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ ส่วนด้านขวามีเก้าอี้เอนนอน และทีวี หันหน้าออกประตู ข้างผนังจัดเป็นโต๊ะทำงาน ผนังฝั่งห้องน้ำติดตู้เสื้อผ้าบานกระจกยาวตลอดทั้งแนว ขวามือด้านในสุดของห้องเป็นเตียงคิงไซซ์ ตั้งอยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่ ให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาเต็มที่คนโปรดนอนตะแคงมองไนท์ที่นั่งอยู่ปลายเตียง ซึ่งกำลังเขี่ยโทรศัพท์อยู่ วันนี้ร่างกายคนโปรดเหนื่อยล้ามาจากการทำงาน แต่ใจกลับไม่อยากหลับ“พรุ่งนี้งานรับปริญญาผมแล้วนะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาเบาๆไนท์เงยหน้าขึ้นมองเขา แล้วยิ้มบาง แต่สายตาดูลังเล “อาจจะไม่ว่างไปนะ เพราะว่าติดงานเปิดตัวคอลเล็กชัน”คำพูดนั้นเหมือนฟ้าผ่ากลางใจ คนโปรดผุดลุกขึ้นนั่งทันที ใบหน้าที่เปื้อนความตื่นเต้นเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นผิดหวังทันตา “ทำไมออกคอลเล็กชันบ่อยจัง ทั้งวันเลยเหรอ?”“มันก็ต้องมีอะไรใหม่ๆ อัป
“ฮัลโหลครับ” ไนท์กดโทรศัพท์หาพ่อ น้ำเสียงนิ่งเหมือนปกติ[มีอะไร? ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะโทรมา]“ตอนเย็นว่างมั้ยครับ? ว่าจะกินข้าวด้วย แล้วก็คุยด้วยนิดหน่อย…”[…. อือ ว่าง]“โอเคครับ ไว้เจอกันครับ” เขาวางสาย ก่อนจะหันมาเจอคนโปรดที่นั่งมองอยู่ ยิ้มนิดๆ“ยิ้มอะไร” ไนท์ถามพลางเลิกคิ้ว“เปล่าา”หลังจากวางสายพ่อ ไนท์กับคนโปรดก็ออกไปซื้อของด้วยกัน ทั้งของสดและของใช้ที่จะเอาไว้ทำอาหารเย็นวันนี้ซูเปอร์มาร์เก็ตช่วงบ่ายวันธรรมดา คนไม่เยอะ เดินสบาย ส่วนคนโปรดเลือกของ ไนท์เข็นรถ เขาช่วยหยิบใส่ตะกร้าแบบไม่บ่น ทั้งที่ปกติไม่ค่อยยุ่งกับงานครัว พอซื้อของเสร็จ ทั้งคู่ก็ไปบ้านคนโปรด เตรียมทำอาหารเย็นกันในครัว แม่ของคนโปรดกำลังล้างผักอยู่หน้าอ่าง ไนท์ถอดนาฬิกาวาง แล้วล้างมือเตรียมเป็นลูกมือช่วย ส่วนคนโปรดก็หยิบผ้ากันเปื้อนมาใส่“ไนท์ หั่นแครอทนี่ให้แม่หน่อย” แม่หันมาบอก“ครับ” ไนท์รับคำสั้นๆ เดินไปหยิบเขียงกับมีด จัดการอย่างคล่องแคล่วจนน่าประหลาดใจคนโปรดหันไปแซว “หั่นเก่งนะเรา”ไนท์เลิกคิ้วนิดหน่อย “ก็แฟนทำอาหารเก่ง ก็ต้องทำเป็นบ้







