로그인-คนโปรด-
สายตาคนโปรดกำลังจับจ้องไปที่จอแล็ปท็อปอย่างใจจดใจจ่อ ไล่สายตาอ่านการตอบกลับอีเมลที่ตนเพิ่งส่งคำขอฝึกงานไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ‘เรียน คุณณปภัช พัฒนโชติโสภณ ฝ่ายบุคคลขอแจ้งให้ท่านทราบว่า ทางค่ายLBN ENTERTAINMENT ตกลงรับท่านเข้าฝึกงานในตำแหน่งContent Creative’ “เยสสสสส!” คนลุ้นร้องออกมาด้วยความดีใจ เห็นอย่างนั้นแล้ว คนดีใจก็ลุกออกจากเก้าอี้เปิดประตูห้องนอนเดินลงบันไดมายังชั้นล่างอย่างไว “ฉาหลองเลยย แม่ แม่อยู่ไหน” คนโปรดหันรีหันขวางหาคนเป็นแม่ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ฉลองอะไร มีอะไร ฮึ” คนเป็นแม่เดินออกจากห้องครัว เพราะได้ยินเสียงคนดีใจอะไรก็ไม่รู้ ก่อนจะยืนพิงขอบประตูขมวดคิ้วมองลูกชายตัวเอง “ได้ที่ฝึกงานแย้ววว” คนโปรดว่าพลางยิ้ม คุณแม่มุ่นคิ้ว “ฝึกงานอะไรลูก? ไหนบอกแม่ว่าไม่มีฝึกงานไง แต่เป็นทำโปรเจกต์จบแทน แล้วตอนนี้ก็ปิดเทอมอยู่ไม่ใช่เหรอ?” “ผมอยากไปฝึกเองครับ แฮ” คนเป็นลูกยิ้มแฉ่งเห็นฟันขาว “แม่รู้ป้ะ คนอยากได้ที่นี่กันตั้งเยอะเลยนะ นึกว่าจะไม่ได้แล้ว” “แล้วทำไมต้องเป็นที่นี่ เป็นที่อื่นไม่ได้?” แม่เลิกคิ้วถาม “ก็ที่นี่อ้ะ เป็นค่ายน้องใหม่ที่กำลังมาตอนนี้ไง เผื่อเขาเห็นผมแบบมีแวว แล้วได้ไปแสดงกับเขาบ้างไรงี้” คนโปรดพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพร้อมกับยิ้มเล็กๆ แม่พยักหน้าเบาๆ พลางยิ้มตาม “อ่อเหรออ โอเค ดีใจด้วยๆ” คนโปรดนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ “แล้วก็…” “ก็?” “เป็นที่ที่พี่ไนท์ทำงานอยู่ด้วย” “พี่ไนท์? ที่เป็นลูก..คุณหมออ้ะเหรอ” แม่ถามพร้อมทำหน้าแปลกใจ “ใช่” “ชอบเขาเหรอ?” คุณแม่ถามกลับอย่างตรงไปตรงมา “แม่~ ไม่ใช่!” คนโปรดรีบปฏิเสธทันที พร้อมทำหน้ามุ่ย “เอ้า ไม่ได้ปลื้ม ไม่ได้อะไร แล้วทำไม..” “อ๋อ ใช่ครับ ปลื้ม” คุณแม่ที่เหมือนสังเกตเห็นความผิดปกติของลูก จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาปิดปาก ทำหน้ายิ้มตาหยี เขินลอบมองผม “อะไร~” คนโปรดเม้มปากแน่น ก่อนเบือนหน้าหนีสายตาล้อเลียนของแม่ “ลูกอ้ะออกอาการ” แม่พูดพลางยิ้มล้อ “ออกอาการอะไรล่ะ ผมขำแม่นั่นแหละ” คนโปรดรีบแก้ตัว พยายามแสดงสีหน้านิ่ง “อ่อเหรอ” คนเป็นแม่เอ่ยพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเหมือนไม่เชื่อ “อะไรกัน แม่ลูกคู่นี้ ฮึ” เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากชั้นบน พ่อในชุดตำรวจที่เตรียมตัวออกไปทำงานเดินลงบันไดมาพร้อมกับถาม “ดีใจอะไร? ได้ยินเสียงลั่นบ้านเมื่อกี้” ดังขนาดนั้นเลยเหรอเนี้ย หูตำรวจดีจริงๆ “อ๋อ ผมจะไปฝึกงานน่ะครับ” “ฝึกงานอะไร” “คอนเทนต์ครีเอทีฟครับ” พ่อขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนพึมพำขึ้น “ที่ต้องทำหลายๆ อย่างอ้ะนะ ยุ่งยากจะตาย ไปทำทำไม” “ไม่เป็นไรครับ ผมเลือกแล้ว” คนโปรดพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น พร้อมสบตาพ่อด้วยความมั่นใจ “มากินข้าวกันดีกว่า” เป็นแม่ที่พูดตัดบททั้งสอง ก่อนเดินเข้าครัวไป เพื่อจะยกอาหารออกมาตั้งโต๊ะ เพราะได้เวลากินข้าวเช้าก่อนออกไปทำงาน “มาครับ ผมช่วย” คนโปรดเดินตามเข้าไปในครัวเพื่อยกสำหรับออกไปช่วย ไม่นานทุกคนบนโต๊ะก็รับประทานอาหารกันจนเสร็จเรียบร้อย “แล้วเริ่มไปวันไหนล่ะ?” แม่ถามขึ้น ขณะสองคนแม่ลูกช่วยกันยกจานข้าวที่กินเสร็จมาวางไว้ในครัว “พรุ่งนี้ครับ” ผมตอบวางของลงที่อ่างล้างจาน “โอเค วันนี้ก็พักผ่อนนะ” แม่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะหยิบฟองน้ำมาช่วยล้างจาน คุณแม่ก็ยังเป็นคนที่ใจดีและเข้าใจผมที่สุดเสมอ “ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมล้างเอง แม่ไปเถอะเดี๋ยวรถติดเอา” ฟอดด♡˖꒰ᵕoᵕ꒱ หอมแก้มลาคุณแม่ให้ชื่นใจ เป็นกำลังใจให้ท่านก่อนออกไปทำงานหนึ่งที แล้วก็ไม่ลืมที่จะเดินออกไปกอดคุณพ่อ แล้วหอมเขาเช่นกัน ฟอดด♡˖꒰ᵕoᵕ꒱ เพราะทุกท่านคงทำงานกันเหนื่อยแย่กว่าจะเลี้ยงผมมา ตอนนี้ก็ยังทำงานอยู่ แม้ว่าพวกเขาจะบอกว่ามันคือความสุขของเขาด้วยก็ตาม แม้จะมีปากเสียงไม่เข้าใจกันอยู่บ้าง แต่คนโปรดก็พยายามจะรักษาความสัมพันธ์อันดีของครอบครัวให้ไม่คลาย “บอกไม่ต้องหอมก็ได้ไง” นายตำรวจยกมือเช็ดแก้มตัวเองลวกๆ หลังจากยืนให้ลูกชายหอมแก้มโดยไม่ปฏิเสธ “ตั้งใจทำงานนะครับ” คนโปรดพูดเสียงสดใสเหมือนเด็กน้อย “เออ” แต่คุณพ่อตอบกลับเสียงเข้มห้วน “อะแฮ่ม” คุณลักษณ์ภรรยาที่ฟังอยู่กระแอมขึ้น “ครับ มึงก็เหมือนกัน” นายตำรวจว่า จากนั้นก็เปิดประตูออกจากบ้านไป “แต่วันนี้ผมไม่ได้ไปทำงานนะครับ” คนโปรดตะโกนบอกพ่อตัวเอง “เออนั่นแหละ ทำตัวดีๆ” “คร้าบบ” พ่อลูกตะโกนคุยกัน (^‿^) วันต่อมา วันนี้เป็นวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสอีกวัน อากาศดี ไม่ร้อนมาก ไปฝึกงานกัน คนโปรดบึ่งบิ๊กไบค์คันเก่งออกมาจากบ้านแต่เช้า แม้บริษัทที่ว่าจะไม่ได้ตั้งอยู่ไกลจากบ้านเขานัก แต่ก็มาแต่เช้าไว้ก่อนเพราะกลัวรถจะติดเอา สัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีแดง กำเบรกมือ ทางข้างหน้าท่ามกลางตึกสูง หัวตึกหนึ่งตรงหน้าที่เห็นอยู่คือ LBN ENTERTAINMENT จำกัด ค่ายที่ดูแลศิลปิน ผู้ผลิตซีรีส์และหนัง ที่กำลังเป็นกระแสในขณะนี้ ด้วยเจ้าของผลงานซีรีส์ที่ถือได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากเรื่องหนึ่งในปีนี้ เป็นบริษัทขนาดกลาง มีเพียงตึก 5 ชั้นตึกเดียว แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานหรืออาจจะเหลือซะด้วยซ้ำ ตัวตึกตั้งอยู่ในซอยที่มีเส้นทางลัดเลาะเข้าออกได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะใช้รถส่วนตัวหรือรถสาธารณะก็สามารถเข้าออกได้อย่างคล่องตัว หนึ่งในทีมผู้บริหารLBNอธิบายว่า ชื่อบริษัทย่อมาจากคำว่า “Love Beyond Normal” ซึ่งแปลว่า “รัก เหนือ ความธรรมดา” และอธิบายเพิ่มว่ารักคือรักในสิ่งที่เขากำลังทำ เหนือ-ความธรรมดากล่าวคือ มุ่งที่จะสร้างสรรค์ความแปลกใหม่และยกระดับคุณภาพของซีรีส์และหนังไทยสู่สายตาโลกนั่นเอง โดยมีผู้ถือหุ้นร่วมกันอยู่ทั้งผู้บริหาร ผู้กำกับ นักแสดง และทีมงานในบริษัท จำนวนหลายรายชื่อ เดินเข้ามาภายในตึกชั้นหนึ่ง เป็นห้องโถงสำหรับรับรองแขก แน่นอนสิ่งแรกที่จะเจอก็คือ ล็อบบี้แผนกต้อนรับ แต่ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีร้านกาแฟขนาดเล็ก และโซนที่นั่งพักสำหรับรับรองแขกหรือจะทำงานก็ได้ ไว้ให้บริการเป็นบริเวณกว้างพอสมควร ส่วนโซนฝั่งซ้ายมือเมื่อเดินเข้ามาจะเห็นว่ามีป้ายบอร์ดรูปของผู้บริหาร ทีมงานและนักแสดงของค่ายติดอยู่ ภายในอาคารมีรูปแบบการจัดวางส่วนต่างๆ ไว้อย่างดี รวมทั้งการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์คู่กับโทนสีขาวของห้องที่ดูสว่างสบายตา แฝงด้วยความเรียบง่ายให้ความรู้สึกอบอุ่น สะดวกสบายเมื่อเข้ามา ลึกเข้ามาด้านในสุดก็จะเจอลิฟต์ ต๊อก แต๊ก ต๊อก แต๊ก ตึก ตึก เสียงรองเท้าส้นสูงของใครบางคนเดินคู่มากับรองเท้าหนัง ดังตามมาจากทางด้านหลัง คนโปรดกำลังจะเดินไปติดต่อที่ล็อบบี้ แต่ยังไปไม่ถึงไหนก็มีเสียงของใครบางคนเอ่ยชื่อของเขาขึ้น “คนโปรด ที่มาฝึกงานใช่มั้ย?” เจ้าของชื่อหันตามเสียงเรียกของหญิงสาว “ใช่ครับ” “คนนี้อ้ะเหรอ” “ใช่ค่ะ” “นี่คุณธาม ผู้บริหารค่ายจ้ะ” “สะ..สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้คนตรงหน้า เขาพยักหน้ารับ ดวงตาคมกริบมองมาด้วยความนิ่งขรึม อ่านใจไม่ถูกเลยทีเดียว ประธานค่ายมาในชุดสูทสีกรมเข้ม เชิ้ตตัวในสีฟ้าอ่อนให้โทนสว่างแมทช์กับรองเท้าหนังอ๊อกซ์ฟอร์ดสีดำ ให้ลุคดูสุภาพและภูมิฐาน “งั้นคุณก็พาเขาไป แล้วก็เข้าที่เข้าทางแล้ว เดี๋ยวยังไงเรียกเขามาพบผมด้วย” “ได้ค่ะ” เขาพูดกับคนที่น่าจะเป็นเลขา เสร็จจากนั้นก็ตรงไปที่ลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นบน “พี่ชื่อมิ้นต์นะ เป็นเลขาคุณธาม ตามมาเดี๋ยวพี่พาไป” พี่เขาพาผมทัวร์และแนะนำคนในค่ายในแต่ละชั้นคร่าวๆ โดยชั้นห้าบนสุดคือผู้บริหารและห้องฉายหนัง ชั้นสี่มีทั้งส่วนของโปรดักชั่น ห้องอัดและมิกซ์เสียง ชั้นที่สามจะเป็นสตูดิโอถ่าย ห้องแอคติ้งโค้ช ชั้นสอง คือชั้นที่ผมจะประจำอยู่ ชั้นนี้มีห้องไว้สำหรับเขียนบท โซนออฟฟิศที่แบ่งเป็นคนละโต๊ะโดยมีที่กั้น มีการเงิน ครีเอทีฟ Content Creative และโพรโมต ฯลฯ ความต่างของส่วนของผมกับครีเอทีฟ ครีเอทีฟจะเน้นไอเดียความคิดสร้างสรรค์ เช่น การวางคอนเซปต์ การคิดธีม หรือการแผนงานโฆษณาต่างๆ ส่วนContent Creative หน้าที่หลักคือ คิดและออกแบบเนื้อหา ที่สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย วางแผนการเล่าในซีรีส์ วิดีโอ หรือโซเชียล อธิบายสิ่งที่ต้องการให้ทีมโปรดักชันหรือนักแสดงเข้าใจ ทำงานใกล้กับคนเขียนบท ผู้กำกับ หรือทีมโปรดักชัน หลังจากที่เลขาพี่มิ้นต์พาผมทำความรู้จักกับส่วนต่างๆ ของบริษัท ก็เห็นได้ว่าเหล่าพนักงานในค่ายต่างพากันทำงานด้วยความตั้งใจ แต่บรรยากาศก็ยังดูชิลล์ๆ อยู่ ไม่ได้เคร่งเครียดกันมากจนเกินไป บางคนก็พักเล่นโทรศัพท์ ผมว่ามันก็ดีนะ ผมชอบ “เดี๋ยวเรานั่งอยู่ที่โต๊ะนี้ก็ได้ มันว่างอยู่” “โอเคครับ” โต๊ะของผมอยู่ใกล้ๆ กับฝ่ายการเงิน “ส่วนพี่ที่ทำContent Creativeนั่งอยู่ตรงนู้น ชื่อพี่เจี๊ยบ ตอนนี้น่าจะกำลังทำงานอยู่ชั้น 3 สตูดิโอถ่าย เราตามขึ้นไปก็ได้นะ” “ครับ” “เอ่อ..ผมต้องไปหาคุณธามด้วยใช่มั้ยครับ” “จ้ะ เดี๋ยวบ่ายค่อยขึ้นไปที่ห้องคุณธามก็ได้ โปรดขึ้นไปเองได้เลยนะ” “ได้..ครับ” “พี่ไปละ เช้านี้มีประชุมผู้บริหาร” เขาหมุนตัวเตรียมจะเดินไป “สู้ๆ ครับ” ผมพูดให้กำลังใจไล่หลังเขาไป เลขาสาวที่ได้ยินก็หันหลังกลับมาพยักหน้าให้ผม “หล่อแล้วยังน่ารักด้วยนะเรา” พร้อมกับชมผมด้วยหนึ่ง จากนั้นก็หันหลังกลับ เดินไป “แหม บอกพี่สู้ๆ บ้างสิจ๊ะ อยากได้กำลังใจบ้าง” พี่เฟิร์นการเงินที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ว่าขึ้น คนที่ได้ยินและฟังอยู่นาน “อ่อ สู้ๆ เหมือนกันนะครับ” “พี่แซวเล่น ฮ่าๆๆ” ผมยิ้มๆ จากนั้นผมก็ขึ้นไปที่ชั้น 3 ตามที่พี่เขาบอก ไปดูงานแล้วก็ช่วยหยิบจับให้พี่เจี๊ยบ จวบจะใกล้เที่ยงผมก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ เพราะพี่เขาบอกให้มาพักได้ “บ่ายค่อยกลับเข้ามาก็ได้” พี่เฟิร์นว่า “ครับ งั้นขอตัวก่อนนะครับ” “จ้ะ เอ้อ ฝากซื้อของหน่อยได้มั้ย” “ดะ..ได้ครับ” “เอาข้าวเหนียวหมูปิ้ง 4 ไม้ ข้าว 1 ทำเป็น 2 ชุด เห็นอยู่เนาะร้าน ก่อนเราจะเข้ามาฝั่งสี่แยก” “ได้..ครับ” “ขอบใจจ้ะ” หลังจากออกมากินข้าวใกล้ๆ ออฟฟิศ กลับมาก็แวะซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งที่พี่เฟิร์นฝาก ผมเดินเข้ามาในลิฟต์มือข้างหนึ่งก็ถือถุงข้าวเหนียวหมูปิ้งที่ส่งกลิ่นหอมน่ารับประทาน วันหลังต้องจัดบ้างแล้ว ปลายนิ้วจิ้มลงบนเลขสอง ชั้นที่ผมอยู่ “มาเร็ว” ครึ่ก ครึ่ก ครึ่ก “รอด้วยค่ะ” เสียงคนวิ่งมาจะขึ้นลิฟต์ด้วย ผมกดเปิดประตูลิฟต์ค้างไว้ “ขอบคุณค่ะ” เขาเดินเข้ามากับ พี่ไนท์ ฟึ้บ ประตูลิฟต์เลื่อนปิด “ชั้นไหนครับ?” “ชั้น 3 ค่ะ” พี่ผู้หญิงตอบ “มาทำไม?” พี่มันถามขึ้น หลังมีสีหน้าแปลกใจที่เห็นผมที่นี่ “ฮึ?” ผู้จัดการสาวงง “ก็มาฝึกงานไง” ผมตอบ “ฝึกงาน? ที่มึงเรียนไม่มีฝึกงานไม่ใช่เหรอ มึงคิดจะทำอะไรกันแน่” “ทำอะไร? ก็ดูงานไง” จ๊อกก จ๊อกก ร่างสูงยังไม่ทันว่าอะไรต่อ ผมที่ยืนข้างพี่มันก็ได้ยินเสียงท้องของเขาร้องขึ้น นึกขำในใจนิดหน่อย “หึ ท้องร้อง” ผมว่ายิ้มๆ “อะไร” เขาว่า “ไม่ได้กินข้าวมาเหรอ บ่ายละนะ” “แต่ผมคงแบ่งให้พี่ไม่ได้หรอกนะ เพราะมันไม่ใช่ของผม” “ใครขอละ” “ละทำไมต้องเป็นที่เดียวกับกู” “เอ้า? แล้วไม่ได้เหรอ ใครก็รู้ว่าตอนนี้ค่ายLBNกำลังมา คนอยากทำงานที่นี่ก็เยอะ และผมก็แค่เป็นหนึ่งในนั้น พี่อ้ะหลงตัวเองมากไปรึเปล่า” ตึ๊ง ฟึ้บ ลิฟต์เปิดออกเมื่อถึงชั้นที่เขากด ชั้นสาม “ใครหลง” “พี่นั่นแหละ” ผมก้าวออกมาจากลิฟต์ “ไปเร็วไนท์ เดี๋ยวสายกว่านี้” ผู้จัดการสาวว่าขึ้น หลังจากที่เงียบ ปล่อยให้ผมกับพี่มันคุยกันสองคนอยูพักหนึ่ง ก่อนไนท์จะกดปิดลิฟต์ ผมยื่นให้พี่เฟิร์น “แต๊งกิ้วจ้ะ” “ตังค์ถอนครับ” “ไม่เป็นไรจ้ะ พี่ให้ทิป” “ไม่เอาหรอกครับ” ผมยื่นตังค์ถอนคืนให้พี่เขา “เอาไปเถอะ” พี่เฟิร์นว่าจากนั้นก็หันไปสนใจในคอมต่อ “อ่อ ขะ..ขอบคุณครับ” “ผมไปหาคุณธามก่อนนะครับ” “จ้ะ” ตึ๊ง ฟึ้บ ลิฟต์ถูกเปิดออกเมื่อถึงชั้นที่กดไว้ตามต้องการ ชั้นห้า ชั้นบนสุดของตึก ทางเดินภายในยังกว้างขวางเหมือนเดิม แต่โทนสีของทั้งชั้นถูกเปลี่ยนเป็นสีดำ โทนสีของแต่ละชั้นของตึกจะไล่ระดับตั้งแต่สว่างไปจนถึงมืด ชั้นกลางของตึกก็จะเป็นสีเทา แม้ชั้นนี้จะเป็นสีดำ แต่ก็มีไฟที่คอยให้แสงสว่างไม่ให้มืดจนเกินไป เป็นการออกแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน พื้นที่ของชั้นนี้จะเป็นห้องประชุมทั้งขนาดเล็กและใหญ่ และเป็นห้องของเหล่าผู้บริหารหรือผู้ถือ-หุ้น คนโปรดก้าวไปตามทางเดินพร้อมทั้งไล่สายตามองหาชื่อของผู้บริหารคนเมื่อเช้า ตามป้ายที่ติดอยู่หน้าห้องของแต่ละห้อง และก็เจอ ห้องมุมในสุด ก๊อก ก๊อก ก๊อก “เข้ามาเลย” “สวัสดีครับ” ผมเปิดประตูเข้ามา แล้วสวัสดีเขาอีกรอบ “สวัสดีอะไรหลายรอบ” … เป็นคนดุเหรอเนี้ย “แค่อยากให้ทำตัวตามสบาย” อ๋อ “นั่งสิ เราหน้าตาดีนะ เป็นสไตล์ที่ดูต่างจากหลายๆ คนที่ผมเคยเจอ แต่ไม่ใช่แค่นั้น ผมเห็นถึงแพชชั่นความตั้งใจของคุณ เห็นในพอร์ตเรียนการแสดงมาใช่มั้ย” “ใช่ครับ” “นั่นแหละ หวังว่าเราจะเรียนรู้งานหรืออะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ แล้วก็เอามันมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้กับที่นี่ เผื่อมีโอกาสได้ร่วมงาน ถ่ายอะไรกันก็ว่าไป นะครับ” “ได้ครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็ยินดี และก็เป็นเกียรติอย่างมากครับที่ได้รับโอกาส ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยบอกได้เลยนะครับ ผมยินดี” “ไม่ต้องครับทุกคำก็ได้” “ครับ ขอบคุณครับ” “หึ” เขายกยิ้ม “ไม่เป็นไร ขอญาตเรียกคนโปรดแล้วกันเนาะ” “แล้วแต่คุณธามเลยครับ” “เรียกผมว่าพี่ธามก็ได้ ไม่ต้องเรียกคุณหรอก” “ครับ คุ-..พี่ธาม” “ไม่มีไรละ ไปทำงานได้ละ” “ครับ” “ปกติบริษัทรับคนฝึกงานที่ไม่ได้มาจากมหาลัยด้วยเหรอพี่” ไนท์ถามผู้จัดการ “ไม่รู้สิ ถามทำไมอ้ะ แล้วในลิฟต์รู้จักกันใช่มั้ย” “ประมาณนั้นแหละ” “ประมาณนั้นอะไรวะ ฮะ ฮ่าๆ ชื่อไรอ้ะ? หน้าตาดีนะ” “งั้นๆ แหละ ช่างมันเหอะ” “เอ้า” ###“พี่ไม่ต้องพยายามก็ได้นะ” …“พี่ไม่ได้พยายาม โปรดก็รู้ว่า ถ้าพี่ไม่อยากทำ พี่ไม่ทำหรอก” เขาตอบจริงจัง แม้จะฟังดูไม่ค่อยจริงจังเท่าไหร่ เพราะปกติเขาจะพูดกับผมโดยแทนตัวเองว่ากู“พี่โดนของมาป่ะเนี่ย ทำไมเปลี่ยนไปขนาดนี้ ปกติพี่ไม่ใช่คนแบบนี้ ขนาดตอนเป็นแฟนกัน พี่ยังไม่แทนตัวเองว่าพี่ แล้วก็ไม่เรียกชื่อผมว่าโปรดด้วย มีนับคำได้มั้ง”ไนท์หัวเราะในลำคอ ก่อนจะยื่นมือมาหยิกแก้มผมเบาๆ “อันนี้คือน้อยใจเหรอ? ฮะ” ผมปัดมือเขาออก แต่เขากลับหัวเราะชอบใจ “ก็บอกแล้วไง ว่าคนใหม่ จำที่เคยพูดได้มั้ย? ‘ไม่ใช่เมียก็ทำใจหน่อยนะ’ ก็นี่ไง พี่จะทำให้ดูว่าเป็นเมียพี่เป็นไง”“แล้วที่ผ่านมาคือ? เล่นๆ?” ผมจ้องเขม็ง เริ่มเข้าโหมดจริงจัง“ก็- อันนี้เอาจริงละไง ให้โอกาสพี่อีกรอบนะ” ผมรู้สึกว่าเขายังไม่สำนึกจริงๆ เอาแต่คำหวานมาพูดหยอด“โอ๊ยย! กูงึด!” ผมโพล่งออกไปอย่างเหลืออดไนท์เลิกคิ้ว “งึดแปลว่าอะไร?”“คิดไม่ถึงอะ” ผมตอบเสียงขุ่น ใส่อารมณ์เต็มที่เขากลับยิ้มออกมาแทนที่จะจริงจัง “แต่พี่คิดถึงนะ” ว่าแล้วก็ส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้-_- “คิดว่าหยอดแบบนี้แล้วผ
วันต่อมา หลังจากโดนบอกเลิก วันนี้เป็นวันหยุด 19:00 น. ไนท์ตั้งใจแวะห้างก่อนจะตรงไปที่บ้านของคนโปรด เขามาอยู่ที่โซนซูเปอร์มาร์เก็ต ใช้เวลาค่อนข้างนานอยู่หน้าชั้นวางของ พิจารณาสินค้าอย่างละเอียดในตะกร้าที่เลือกมีทั้งแพ็คของรังนก, นม, ชา, กาแฟดริปซองเล็กๆ และผลไม้สดปลอกแล้ว จากนั้นเขาก็เลือกซื้ออาหารที่คิดว่าเหมาะ เช่น ไก่ตุ๋นยาจีน, เกี๊ยวน้ำ, เป็ดปักกิ่ง และแกงมัสมั่น ฯลฯ เขาตัดสินใจไม่ซื้ออาหารไทยไปมากนัก เพราะรู้ว่าคุณน้าชอบทำอาหารไทยอยู่แล้ว ไม่อยากจะซื้อไปทับลายท่าน ให้พวกเขาได้ทานอะไรที่ต่างออกไปบ้างน่าจะดีกว่า เขาไม่ได้ซื้อไปเพื่อให้ดูดี แต่เพราะอยากให้พวกเขารู้ว่า ‘ตั้งใจ’ มาจริงๆ และแล้วไนท์ก็มายืนอยู่หน้าบ้านของคนโปรด มือทั้งสองหิ้วถุงของฝากแน่นจนสายหิ้วกดลึกเข้าที่นิ้ว เขาไม่บอกใครล่วงหน้า ตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์ หลังจากที่อีกฝ่ายงอนเขา ถึงขั้นบอกเลิก “สวัสดีครับคุณน้า สวัสดีครับคุณอา” เขาทักเมื่อเดินเข้ามาในบ้าน คุณอานั่งดูทีวีอยู่ แม้เห็นผมมา เขาก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรเลย เหมือนเห็นเป็นเรื่องปกติของวันงั้นแหละ “สวัสดีคับ
-ไนท์-[ย้อน]ผิดนัดครั้งที่ 1 หลังจากวันนั้น ที่เขาไปกินไอศกรีมกับคนโปรด ณะก็เล่าให้เขาฟังถึงเรื่องที่เจ้าตัวทะเลาะกับธรณ์ ต้นเหตุคือความสัมพันธ์แบบ FWB ที่ธรณ์มีอยู่กับผู้ชายอีกคน และณะที่เป็นแฟนก็จับได้ เพราะผู้ชายคนนั้นคอยส่งรูปธรณ์มาให้เขา ณะบอกให้ธรณ์เลิกยุ่งกับผู้ชายคนนั้นหลายครั้งแล้ว แต่เรื่องกลับไม่จบง่ายๆ เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมถอย แถมยังพยายามใช้มารยา อ้างความผูกพันและความเข้าใจที่ธรณ์เคยมีให้ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ชายคนนั้นเริ่มโพสต์รูปที่ถ่ายกับธรณ์ลงโซเชียล พร้อมเมนชั่นถึงณะอย่างจงใจ แฟนคลับที่ติดตามต่างพากันเห็นและส่งข้อความมาถาม มาถล่มด้วยความอยากรู้ จนณะรู้สึกทั้งอึดอัดและหนักใจจริงๆ เรื่องที่เขามีคู่หมั้นหรือแฟนเป็นธรณ์ เขาไม่ได้ประกาศหรือเปิดตัวให้ใครรู้ด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ได้อยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ ด้วยงานในวงการบันเทิงณะยังไม่อยากเปิดตัวแฟนตอนนี้ แต่เขามีความรักและจริงใจกับธรณ์จริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่ประคองความสัมพันธ์นี้ตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยมาได้จนถึงตอนนี้“มันไม่ได้เจ็บที่เขานอกใจนะ” ณะพูดกับไนท์ น้ำเสียงนิ่งแต่หนัก “มันเจ็บตรงที่เขาไม่กระตือรือร้
หลังงานจบ คนโปรดเดินออกมาหน้าคณะไนท์ยืนรออยู่ข้างรถ พร้อมช่อกุหลาบสีแดงในมือผมเดินเข้าไปหาเขา“ดอกไม้ครับ” เขายื่นให้ผมรับไว้ “ขอบคุณครับ” พลางยิ้มไนท์ยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆ“ป่ะ” ไนท์พูดพลางเปิดประตูให้ ก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับ“ไปกินข้าวมั้ย?” เขาชวนขณะออกรถมีดอกไม้เหมือนอย่างที่บอกไว้จริงๆ แต่เขาไม่ได้ไปดูอยู่ตรงนั้น จะมีความหมายอะไร แล้วนี่ไม่คิดจะอธิบายอะไรให้ฟังหน่อยเหรอ“โปรด ว่าไง?”“ไปสิ”ตอนกินข้าวกัน ผมก็ไม่ได้ถามออกไปว่า ทำไมเขาถึงมาดูผมแสดงไม่ทัน ติดอะไรรึเปล่า ผมรอให้เขาเล่าเอง แต่จนหมดวัน เขาก็ไม่พูดถึงมันเลย ไม่อยากมา? คนเยอะ? หรืออะไร มีธุระ? เขาก็ไม่บอก หลังจากนั้น ไนท์ก็เริ่มผิดนัดอยู่เรื่อย บ้างก็ว่าติดธุระ งานที่บริษัท นัดไปกินข้าววันครบรอบ แต่ไนท์ก็บอกเหนื่อย ขอเลื่อนไปวันอื่น แต่พอเข้าไปดูในสตอรี่ของณะกลับมีไนท์อยู่ด้วย ธุระอะไร[ดูสิชั้นเจอใคร ไนท์กับณะ omg ไม่คิดว่าเขาจะรู้จักกัน] (แนบรูป//รูปถ่ายไนท์และณะนั่งอยู่ด้วยกันที่คาเฟ่)↳ อุ้ย ตัวท็อปคู่เลยหนิ หรือจะมีซัมติงอะไร
-คนโปรด-ผมเปิดประตูเข้าบ้าน“กลับมาแล้วครับแม่” ผมพูดขณะเดินผ่านไปทางบันได“อะแฮ่ม” แม่ที่อยู่ในครัวกระแอมขึ้นผมหันไปมองงงๆ ไม่แน่ใจว่าแม่มีอะไรจะพูด หรือแค่ไอเฉยๆ“อย่าลืมลงมากินข้าวนะ” แม่บอกผมชะงัก ก่อนตอบ“ผมกินมาแล้วครับ” “กับไนท์เหรอ?” …รู้ได้ยังไง แต่พอคิดดู ก็ไม่แปลก เพราะเมื่อวานผมเพิ่งบอกพ่อกับแม่ไปว่าไนท์เขาขอเป็นแฟน“ครับ”“อย่าคิดว่าแม่ไม่เห็นนะ”“? เห็น… อะไรครับ?”“ก็ที่ไนท์เปิดตัวลูกกับนักข่าวน่ะสิ”ผมตาโต ไวไปไหมเนี่ย“รู้ ได้ยังไงครับ?”“ก็เพื่อนแม่ที่โรงเรียนเขาเปิดให้ดู เขาเห็นหน้ากับชื่อลูกคุ้นๆ”“อ๋อ... ในทวิตเหรอครับ?”“ทำนองนั้นแหละ เห็นมาแรงด้วยนะ” “แล้วแม่…ได้เลื่อนอ่านคอมเมนต์ด้วยมั้ยครับ?” “อ่านสิ เห็นเขากรี๊ดกันใหญ่ บอกว่าน่าร้ากกก ว้าวมาก ไม่คิดว่าไนท์จะมีแฟนเป็นผู้ชาย อะไรประมาณนี้แหละจ้ะ” แม่เล่าเหมือนกำลังเม้ามอยกับเพื่อน “จริงๆ ผมยังไม่อยากให้เขาเปิดตอนนี้หรอกครับ เพราะว่าเขาเป็นดาราต้องทำงานกับคนอีกหลายคน ต้องมีคู่จิ้น อีกอย่างไม่
คนโปรดรีบเปลี่ยนชุดจนเสร็จ แล้วสาวเท้ากลับไปยังห้องของไนท์ ตอนแรกเขายกมือจะเคาะประตู แต่ก็นึกขึ้นได้ว่า ไนท์บอกให้เข้าไปได้เลย ไม่ต้องเคาะ เดี๋ยวรำคาญเอาเขาเปิดประตูเข้าไป พบว่าไนท์กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน มือเลื่อนโทรศัพท์ไปมา แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตายิ่งกว่านั้นคือร่างสูงในชุดสูทที่ดูดีจนน่าตกใจแทนที่เขาจะถามเรื่องชุด แต่เขากลับ “ได้...ป่ะ?” พร้อมทำมือชักล้อเลียน“หยุดซิ!” เขาขมวดคิ้วใส่อย่างห้ามปราม“โอเคคับๆ” ร่างสูงยกมือขึ้นยอมแพ้ ยิ้มกว้างจนตาหยี “เป็นไงชุด?”“ก็อย่างที่เห็น” เขาตอบไปนิ่งๆ แต่ตัวก็ยืดอกให้ดูเต็มๆ “อื้มม หล่อมาก”“ชุด?” เขาถาม เพราะไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงชุดหรือเขากันแน่“ใช่” ไนท์พยักหน้าชุดหล่อเหรอวะ?“นี่ไง ใส่คู่กันกับกู” ไนท์พูดพลางลุกขึ้นยืน เผยให้เห็นชุดอย่างเต็มตัว เขาใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำด้านใน ปลดกระดุมสองเม็ดบน เผยช่วงคอ สวมทับด้วยสูทสีเงินเข้มแบบบาง ตัดทรงพอดีตัว ไม่หนาเทอะทะ กางเกงขายาวสีเดียวกัน สไตล์ที่ออกมาคล้ายคนที่ไปออกงานหรู แต่ไม่อยากดูแข็งเกินไป มีเสน่ห์แบบก้ำกึ่งระห




![กรงแค้นขังรัก [Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


