เข้าสู่ระบบ19.00น.
“ขอบคุณที่มาส่งนะคะแม่ บ๊ายๆ” แป้งหอมโบกมือลาแม่สุที่ตื้อว่าจะขี่มาส่งเธอที่บ้านเพื่อนอย่างกล้วยหอม โชคดีที่เพื่อนเธอไม่ได้ออกมาอยู่ข้างนอกบ้าน ไม่งั้นแผนอันแยบยลที่เธอคิดมาได้โบ๊ะแตกไม่มีชิ้นดีแน่ “เฮ้อ~ เกือบแล้วไหมล่ะ หนูขอโทษนะคะแม่ แล้วหลังจากนี้หนูจะเป็นเด็กดีให้แม่นะคะ” เมื่อพูดขอโทษขอโพยแม่สุอยู่เบาๆคนเดียว แป้งหอมก็รีบเดินออกมาจากบริเวณบ้านของเพื่อนสาวอย่างกล้วยหอมทันที “วินๆๆๆๆ” เมื่อเดินตามทางมาได้สักพักแป้งหอมก็รีบกวักมือเรียกวินมอเตอร์ไซค์ที่กำลังขี่ผ่านมาทันที “จะไปไหนน้อง” “ไปผับXXX” “150 ไปไหมน้อง?” เมื่อได้ยินราคาที่วินบอกมาคิ้วของแป้งหอมก็กระตุกยิกๆทันที “ทำไมมันแพงอย่างนี้ละพี่” “โอ๊ยน้องนี้มันก็ค่ำแล้ว รถก็ติด อีกอย่างที่ที่น้องจะไปนะรถมันโคตรติด พี่คิดราคานี้คือถูกแล้วนะ จะไปไม่ไป ถ้าไม่ไปพี่ไปแล้วนะ เสียเวลาทำไมหากิน” “เฮ้ยๆๆๆพี่รอหนูก่อน ไปๆๆๆ” แป้งหอมรีบกระโดดขึ้นมอเตอร์ไซค์พี่วินอย่างไว ถ้าเธอไม่ขึ้นคันนี้ก็ไม่น่าจะได้ไปแล้วแหละ เพราะตั้งแต่เธอเดินเท้าออกมาจากบ้านกล้วยหอมก็มีวินคันนี้นี่แหละที่พึ่งขับผ่านเธอคันแรก 15นาทีผ่านไป ผับXXX “ถึงแล้วน้องแต่พี่ส่งได้แค่ตรงนี้นะ ตอนนี้ตำรวจกำลังลง น้องดูหน้าเด็กเกินไปเดี๋ยวจะโดนรวบกันไปทั้งสอง” “อ้าว!ตำรวจลงหรอพี่ แล้วเขาจะกลับตอนไหนอ่ะ” “ประมาณสองทุ่มครึ่งแหละน้อง ไปหาอะไรกินรอเลยก็ได้นะ คงอีกนาน พี่ไปละ” “ค่ะ เฮ้อ~ ถ้าไม่ได้ครั้งนี้นะ กูก็ไม่มีตั้งกลับบ้านละจ้า” แป้งหอมก้มดูเงินในมือก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาทันที จ่ายค่าวินไป150ตอนนี้เธอเหลือติดตัวอยู่เพียงแค่100เท่านั้น “ไปแต่งหน้าเพิ่มอีกนิดหน่อยดีกว่า สวยได้อีกฮิฮิ” แป้งหอมเดินไปประทินโฉมที่ห้องน้ำของปั๊มทันที “ม๊วฟฟฟฟ! สวย!!! อ๊ะ สองทุ่มครึ่งแล้วนี่น่า เดินไปดูหน่อยดีกว่าว่าตำรวจไปหรือยัง” แป้งหอมที่แต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จแล้วก็เดินออกจากห้องน้ำของปั๊มน้ำมันและตรงไปที่หน้าผับทันที “โหหหห คนเยอะจังแล้วมีแต่คนที่แต่งตัวสวยหล่อทั้งนั้นเลย แล้วฉันจะเข้าไปได้ไหมเนี่ย” เมื่อแป้งหอมเดินมาถึงหน้าผับสุดหรูแล้วก็ต้องอ้าปากค้างให้กับจำนวนคนมหาศาลที่ต่อแถวรอเข้าผับทันที มันเยอะมากจนแทบจะเดินเหยียบกันอยู่แล้ว 'เหล้ามันอร่อยขนาดนั้นเลยหรอว่ะ' แป้งหอมได้แต่คิดในใจ เพราะว่าตัวเธอนั้นถึงจะเกเรมากๆแต่มือและปากของเธอไม่เคยคิดที่จะแตะแอลกอฮอล์เลยแม้แต่นิดเดียวเพราะแม่สุเธอขอไว้ และเธอก็ไม่อยากผิดสัญญากับแม่เหมือนกัน “อ๊ะนั่น!” สายตาของแป้งหอมเหลือบไปเห็นป้ายหนึ่งที่เขียนไว้ว่า ‘กู้เงินทางนี้’ เธอเลยเดินเลี่ยงออกมาจากแถวที่กำลังจะต่อเข้าไปในผับทันที และเดินไปตามทางที่ป้ายนั่นเขียนไว้แทน เมื่อเดินมาได้เรื่อยๆแป้งหอมก็เจอกับประตูประตูหนึ่งที่เขียนไว้ว่ากู้เงินแต่ก็ไม่สามารถเดินเข้าไปได้เพราะโดนการ์ดตัวยักษ์ใหญ่ขวางทางไว้อยู่ “มาทำอะไรที่หนู แถวนี้ไม่เหมาะกับเด็กหรอก รีบกลับบ้านไปหาแม่ไป๊!!!” “โห~ ไอ้พี่(หัว)ล้าน ทำไมไล่ลูกค้าอย่างนี้ละ นิสัยไม่ดีเลยนะพี่อ่ะ” “อีหนู เอ็งมาทำอะไรตรงนี้ห๊ะ! บอกแล้วไงว่าแถวนี้มันไม่เหมาะกับเอ็งหรอก” คิ้วของการ์ดที่ยืนอยู่หน้าประตูกระตุกยิกๆทันทีที่ได้ยินไอ้เด็กตัวกระโปกเท่านี้มาด่าว่าเขาหัวล้าน “มาตรงนี้ ก็ต้องมายืมเงินอยู่แล้วป่ะพี่ล้าน” ถ้าไม่ได้เงินวันนี้อีแป้งหอมจะไม่ยอมกลับแน่นอน หึ! “มายืมเงิน? แน่ใจนะ ถ้ากูไปบอกเสี่ยแล้วกลับมาเอ็งห้ามหนีนะเว้ย” “ได้!! รีบไปบอกเสี่ยของพี่เลย ว่าหนูมายืมเงิน” “เออๆๆ” “รีบกลับมาเร็วๆนะพี่ หนูกลัวผี!!!” เพราะข้างหลังที่เธอยืนอยู่นั่นมันเป็นป่าทึบไปหมดเลย ไม่รู้ว่าเขามีป่าไว้หมกศพพวกมายืมเงินแล้วไม่คืนหรือเปล่าก็ไม่รู้ บรึ๊ย!!!! 10นาทีผ่านไป “เฮ้ยน้อง! เสี่ยให้เข้าไปรอที่ด้านใน จะไปไหมหรือไม่อยากที่จะเข้าไปแล้ว” การ์ดหน้ายักษ์ที่ยืนเฝ้าประตูได้เข้าหายไปข้างในมาเกือบสิบนาที ปล่อยให้แป้งหอมยืนโดดเดี่ยวอยู่คนเดียวข้างนอกอย่างกลัวๆ “ข...เข้าสิพี่ ทำไมไปนานอย่างนี้ละ รู้ไหมเนี่ยว่าหนูกลัว ทำไมไม่ไปอยู่ที่ที่มันสว่างมากกว่านี้หน่อยละพี่” แป้งหอมที่เดินตามการ์ดหน้ายักษ์เข้ามาก็เอาแต่พูดเอาแต่ถามไม่หยุดไม่หย่อน จนทำให้พี่การ์ดตอนนี้เริ่มทำหน้าเอือมแล้วกับการความพูดมากของคนตัวเล็กที่กำลังเดินตามตัวเขาต้อยๆ “เอ้า! เอ็งเข้าไปรอในนี้น่ะ แล้วก็หยุดพูดมากได้แล้ว เสี่ยบอกให้รอก่อนกำลังเคลียร์งานอยู่เดี๋ยวตามเข้ามาทีหลัง” “โอเค เดี๋ยวๆๆพี่จะไหนนะ” แป้งหอมที่กำลังจะหย่อนก้นลงบนโซฟาก็ต้องรีบเด้งตัวขึ้นและรีบวิ่งมาดึงแขนการ์ดที่เดินมาส่งตัวเอง "ก็กลับไปทำงานน่ะสิ ส่วนเอ็งน่ะรออยู่ในนี้ เดี๋ยวเสี่ยก็เข้ามา" "พ...พี่จะไม่อยู่เป็นเพื่อนหนูจริงๆหรอ" แป้งหอมถามยังกล้าๆกลัวๆพร้อมกับมองซ้ายมองขวาไปรอบห้อง ห้องนี้ออกจะดูโทนทึบๆและเปิดไฟสลัวสลัวจึงทำให้แป้งหอมที่กลัวอยู่แล้วกลัวขึ้นมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว "ปล่อยได้แล้ว ไม่ต้องกลัวหรอก ในนี้ไม่มีอะไรแน่นอน" พูดเสร็จการ์ดก็จับแขนของแป้งหอมออกและรีบเดินออกจากห้องไปทันที ปล่อยให้แป้งหอมยืนเคว้งคว้างอยู่คนเดียวที่กลางห้อง "เอาว่ะ! มีอะไรก็ค่อยกรี๊ดดังๆเอาก็แล้วกันนะตัวกู" แป้งหอมสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อให้กำลังใจตัวเอง ก่อนจะเดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาที่มีอยู่กลางห้อง "โอ๊ยยยย หิวอ่า~ ในห้องนี้มีอะไรกินบ้างนะ ไปเดินดูตรงนั้นดีกว่า" เพราะตั้งแต่เย็นแล้วเธอก็ยังไม่ได้กินข้าวเลย จึงทำให้ท้องน้อยๆของเธอเริ่มร้องประท้วงออกมาแล้ว และแป้งหอมก็หันไปเห็นมุมมุมหนึ่งของห้องมีพวกของกินรองท้องวางไว้อยู่ เธอจึงรีบพุ่งตัวไปตรงนั้นด้วยความเร็วแสงเพราะความหิว อีกด้าน พรึ่บ! ตอนนี้กันต์หรือเสี่ยกันต์ที่ทุกๆคนชอบเรียกก็ได้ปิดเอกสารต่างๆที่ตรวจดูเสร็จแล้ว และลุกขึ้นเดินตรงไปที่ห้องรับแขกที่มีคนรออยู่ทันที แกร๊ก!! "ซู๊ดดดดดดดด~" ทันทีที่เปิดเข้ามาเขาก็ได้พบกับผู้หญิงหน้าวอกคนหนึ่งที่กำลังนั่งโซ้ยมาม่าคัพอยู่อย่างเอร็ดอร่อย โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่ามีคนอื่นนอกจากตัวเองเปิดเข้าห้องมาแล้ว แถมยังเปิดการ์ตูนในโทรศัพท์ดูไปพลางๆอย่างเสียงดังลั่นห้องด้วย "นี่!!" เมื่อไม่มีท่าทีว่าคนที่นั่งโซ้ยมาม่าอยู่กลางห้องจะสนใจตัวเอง เสี่ยกันต์เลยเรียกออกมาอย่างเสียงดัง "ว๊ายยย แค่กๆๆๆๆ" แป้งหอมที่กำลังซู้ดเส้นมาม่าเข้าปากอยู่ก็ต้องร้องตกใจออกมาทันทีพร้อมกับสำลักเส้นมาม่าไปด้วยจนหน้าดำหน้าแดง "เอานี่ รับไป" เมื่อเห็นว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้ผู้หญิงคนนี้สำลักมาม่าเขาเลยเดินไปหยิบขวดน้ำมาขวดหนึ่งและยื่นให้เธอล้างปากล้างคอตัวเองทันที 'กูไม่น่าไปเสียงดังใส่เลย ลำบากกูต้องไปเอาน้ำมาให้มันอีก' เสี่ยกันต์ได้แต่บ่นกับตัวเองอยู่ภายในใจเบาๆก่อนจะนั่งลงที่โซฟาตรงข้ามกับคนตัวเล็กที่รับน้ำจากเขาไปดื่มยังเอาเป็นเอาตาย "ดีขึ้นหรือยังกูจะได้เข้าเรื่องซักที" "อ...โอเคขึ้นแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะที่เอาน้ำมาให้หนู" เออเว้ย นึกว่าจะเป็นสก๊อยที่ไม่มีมารยาทซะอีกแต่นี้ก็พูดดีอยู่นะเนี่ย ดีๆๆๆ ตอนแรกที่เขาเปิดเข้ามาเจอก็นึกจะเป็นเด็กสก๊อยที่ไม่มีมารยาทพูดขวานผ่าซากซะอีก แต่พอได้ยินน้ำเสียงของเธอที่พูดออกมาเท่านั้นแหละ 'แม่งโคตรน่ารักเลย' ผิดกับสไตล์การแต่งหน้ามาก นึกว่าแบงค์พันเดินได้เทาแบบไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆตั้งแต่หน้ายันกกหู แต่ไม่รู้ว่ารองพื้นมันหมดหรือมันประหยัดกันแน่ ทำไมมันถึงไม่ทาคอด้วยกันนะสามปีต่อมา “เสี่ยขา~” เสียงเจื้อแจ้วดังมาแต่ไกล แต่คนที่เป็นเจ้าของชื่อนั่นกลับไม่ได้ตอบรับกลับไป “เสี่ยคะ เสี่ยขา!!!” “โถ่~ ไอรินลูก หนูต้องเรียนกว่าคุณพ่อสิครับ เดี๋ยวคนอื่นได้ยินก็เข้าใจกันไปหมดหรอกว่าพ่อเลี้ยงต้อยหนู” เสี่ยกันต์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับลูกสาวตัวน้อยของเขาที่ไม่ยอมเรียกเขาว่าพ่อสักที ไม่รู้ว่าไปยินแป้งหอมพูดกับเขาตอนไหนถึงได้เรียกตามแป้งหอมที่ชอบเรียกเขาว่าเสี่ยเวลาอ้อนอย่างนี้ “ก็คุณแม่ก็เรียกเสี่ย ว่าเสี่ยขานิคะ ทำไมหนูจะเรียกไม่ได้” ไอริน หรือ เด็กหญิงนันท์นารี วราฤทธิ์ อายุสามขวบเต็มๆไปเมื่อสามวันก่อน ไม่ค่อยชอบเรียกเขาว่าพ่อตั้งแต่พูดได้ เอาแต่เรียกเขาตามที่แม่คนสวยของตนเรียกว่าเสี่ยขา ตอนนี้เป็นช่วงอยากรู้อยากเห็นไปหมดทุกอย่างสอนอะไรก็ทำตามไปหมด ยิ่งเห็นคนเป็นแม่ทำยังไงก็อยากทำตามเดี๋ยวนั้นทันทีโดยเฉพาะตอนที่แป้งหอมอ้อนเขา ลูกสาวสุดสวยของเขาก็จะอ้อนเขาเรียนแบบคนเป็นแม่ทันที จากที่เขามีความสุขอยู่แล้วก็ยิ่งเป็นสุขคูณสอง “ครับลูกครับ แล้วนี่หนูไม่เล่นกับลุงบอลแล้วหรอครับ หื้ม?” เขาลูบตามกรอบหน้าของลูกสาวที่ตอนนี้มีเหงื่อไหลตามไรผมเล็กน้อย ไม่รู้ว่าไอ้บอ
9เดือนผ่านไป ตอนนี้แป้งหอมกำลังตั้งครรภ์อยู่ที่ไตรมาสสุดท้ายแล้ว อีกสามวันจะถึงกำหนดคลออด โดยที่มีคุณพ่อขี้เห่อประกบอยู่ไม่ห่างเพราะกลัวว่าเมียรักของเขาจะเกิดปวดท้องคลอดก่อนกำหนดเลยทิ้งทุกอย่างไว้ให้คนเป็นเลขาดู ส่วนเขาก็นั่งเฝ้าเมียทั้งวี่ทั้งวัน “พ่อจ๋ายังไม่ต้องมาเฝ้าแม่ขนาดนี้ก็ได้ แม่ไม่ได้จะคลอดวันนี้สักหน่อย กำหนดคลอดไอ้จิ๋วยังเหลืออยู่อีกตั้งสามวัน แม่ว่าพ่อจ๋ากลับไปทำงานก่อนดีกว่าไหม” แป้งหอมพูดกับเสี่ยกันต์ที่ตอนนี้ทั้งสองคนเราตกลงกันแล้วว่าจะไม่เรียกกันแบบเดิมอีกแล้ว แต่จะแทนกันว่าพ่อจ๋ากับแม่จ๋า ตอนแรกมันก็ไม่ค่อยจะชินปากเท่าไหร่แต่พอนานวันไปมันก็เรียกกันได้อย่างไม่เคอะเขินแล้ว “ไม่เอาน่ะแม่จ๋า พ่อจ๋าอยากเฝ้าแม่กับไอ้จิ๋วนี่น่า ไว้ใจไม่ได้หรอก บางครั้งอาจจะเจ็บท้องก่อนคลอดก็ได้ใครจะไปรู้” เสี่ยกันต์รีบเข้าไปกอดคนท้องโตที่นั่งช็อปปิ้งเสื้อผ้าลูกอยู่ทันที ทั้งเขาและแป้งหอมย้ายมาอยู่บ้านที่เขาซื้อวันนั้นหลังจากผ่านมาสามเดือน เพราะมันยังเหลือตกแต่งอยู่อีกนิดหน่อยเลยไม่สามารถย้ายเข้ามาได้ทันที แต่แป้งหอมก็ไม่ได้ติดอะไร รอได้อยู่แล้ว ส่วนแม่ของแป้งหอมก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันน
ทางด้านของเสี่ยกันต์ก็รีบเดินจ้ำอ้าวตรงไปที่รถยนต์ทันทีเพื่อที่จะรีบไปเอาของขวัญที่ตัวเล็กอยากให้เขาในวันนี้ ส่วนมากจะเป็นเขามากกว่าที่จะชอบเซอร์ไพรส์เธอทุกๆครั้งที่มีโอกาส แต่ครั้งนี้เขาได้รับของขวัญจากเธอไม่ว่าอะไรเขาก็ดีใจทั้งนั้น แต่ก็แอบลุ้นเหมือนกันว่าของขวัญที่เธอจะให้เขานั้นมันคืออะไร แกร๊กกก!!! “หื้ม? นี่มันแท่งอะไรเนี้ย สงสัยจะโดนไอ้ดื้อแกล้งซะแล้วซิเรา” เสี่ยกันต์ได้แต่ขำตัวเองอยู่ในใจเบาๆที่โดนเธอแกล้งแบบนี้ จึงคว้าสิ่งที่วางอยู่บนเบาะมาใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงโดยไม่ได้สังเกตของชิ้นนั้นให้ดีๆแล้วรีบวิ่งเข้าไปในตัวบ้าน ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก แฮ่ก! แฮ่ก! แฮ่ก! “ไอ้ดื้อ หนูแกล้งอะไรเสี่ยเนี่ย ฟอดดดด” เสี่ยกันต์เข้าไปสวมกอดเมียตัวน้อยที่นั่งหันหลังให้เขาอยู่บนโซฟาพร้อมกับหอมแก้มลงโทษไปอีกหนึ่งฟอดใหญ่ที่บังอาจมาแกล้งเขาให้เดินไปกลับจากบ้านถึงรถ “อื้อออ~ อะไรคะเสี่ย หนูแกล้งอะไรคะ” แป้งหอมถามเสี่ยกันต์ออกไปแบบงงๆ ทำไมเขาถึงไม่ดูดีใจอะไรเลยล่ะ หรือมีแค่เธอที่ดีใจไปคนเดียว “ก็หนูบอกจะเซอร์ไพรส์เสี่ยไงครับ แล้วนี่หนูเป็นอะไรทำไมทำหน้าหงอยอย่างนั้น” “ก็หนูเสียใจนี่คะ ที่หน
ปึก ปึก “ฮือออออ หนูปวดขามากๆเลยง่า~” หลังจากที่ก้นแปะกับเบาะรถได้ไม่ถึงวินาที แป้งหอมก็บ่นโอดครวญพร้อมกับบีบนวดขาตัวเองไปมาทันที “หึหึ วันนี้เป็นวันที่เสี่ยมีความสุขมากเลยรู้ไหมครับ จุ๊บ!” เสี่ยกันต์ยกยิ้มเล็กน้อยกับท่าทีความเมื่อยของคนตัวเล็กของเขาพร้อมกับดึงหัวทุยของแป้งหอมเข้ามาจุ๊บเป็นรางวัลทันที “หื้ม? ทำไมเสี่ยมีความสุขคะ วันนี้เป็นวันเรียนจบของหนูนะ หนูต้องมีความสุขก่อนสิคะ” “ก็นี่ไง วันนี้เป็นวันสิ้นสุดสัญญาการปกปิดเรื่องเราเป็นแฟนไม่ให้คนอื่นๆรู้ไงครับ นี่เป็นไง รูปนี่สวยไหม” เสี่ยกันต์โชว์โทรศัพท์ของเขาให้คนตัวเล็กดู “น…นี่เสี่ยจะเร็วไปไหนคะเนี่ย แล้วโพสต์อะไรเยอะแยะคะ ตั้งร้อยเกือบสองร้อยรูป” ไม่รู้เธอจะตกใจกับอะไรก่อนดีระหว่างลงรูปเธอเพื่อที่จะประกาศเปิดตัวหรือรูปที่เธอถ่ายคู่กับเขาที่มีมากถึงสองร้อยรูปที่เขาโพสต์ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง “นี่ยังไม่หมดนะ เสี่ยยังมีอีกตั้งเยอะ ก็หนูไม่ให้เสี่ยลงอะไรเลยมาตลอดสามเดือนที่เราเป็นแฟนกันนี่น่า เสี่ยก็อยากให้คนอื่นๆเห็นว่าเสี่ยรักเมียตัวน้อยของเสี่ยคนนี้มากๆๆๆๆ” “ค่ะๆ หนูรู้แล้วค่ะ แต่ค่อยๆลงก็ได้ค่ะเสี่ยไม่ต้องรีบขนาด
สามเดือนผ่านไป นี่ก็ผ่านมาสามเดือนแล้วหลังจากที่ผมได้ขอคนตัวเล็กเป็นแฟนบนรถ เป็นสามเดือนที่ผมอดทนมามากที่สุดเพราะเป็นแฟนก็เหมือนเป็นชู้ ไม่สามารถประกาศออกสื่อหรือบอกคนรู้จักได้เลยเพราะคนตัวเล็กขู่ผมไว้ นี่ถ้าไม่รักไม่ยอมขนาดนี้นะครับ ย้อนกลับไปในวันที่คนตัวเล็กโดนขอเป็นแฟน วันนั้นผมก็ขี่รถกลับบ้านคนตัวเล็กเลยครับ โดยที่ไม่ลืมที่จะซื้อหมูกระทะเป็นชุดมากินที่บ้านของเธอแทน เพราะอยากที่จะเข้าไปคุยทุกอย่างให้แม่ของเธอได้รับรู้ด้วย “เสี่ยหนูไม่กล้าลงไปเลยอ่า เสี่ยค่อยมาบ้านหนูวันอื่นไม่ได้หรอ วันนี้หนูยังไม่พร้อมเลย” แป้งหอมอิดออดไม่ยอมลงจากรถคันหรูของเสี่ยกันต์สักทีเพราะเอาแต่กลัวว่าแม่ของตนนั้นจะด่าตนเรื่องที่ตกลงเป็นแฟนกับเสี่ยกันต์แล้ว “หนูกลัวอะไรครับเด็กดี เสี่ยก็จะเข้าไปคุยกับคุณแม่ของหนูด้วยไง ไปครับลงรถได้แล้ว เราต้องเดินเข้าไปอีกนะ” เสี่ยกันต์มาจอดรถไว้ที่ข้างฟุตบาตเหมือนเดิมเพราะซอยเข้าไปในบ้านของแป้งหอมนั้นมีแค่รถมอเตอร์ไซต์เท่านั้นที่เข้าไปได้ “ฮืออออ ก็ได้ค่ะ ถ้าหนูโดนแม่สุตีเสี่ยต้องช่วยหนูนะคะ” “ครับๆ เมียเสี่ยทั้งคน เสี่ยยอมแลกชีวิตเข้าไปช่วยเลย” “บ้า เสี่ยก
“นี่หนูไม่ใช่หรอคะ?” แป้งถามเสี่ยกันต์อย่างอึ้งๆ นี่เขาพูดมาทั้งหมดนั้นคือเธออย่างนั้นเหรอ เขาทำอะไรอยู่ คิดจะมาให้ความหวังกับเด็กแบบเธอแล้วก็ทิ้งหรือเปล่า แป้งหอมคิดหาเห็นผลต่างๆนานาในหัวจนวุ่นวายไปหมด “ใช่ครับ นี่แหละคนที่เสี่ยอยากจะฝากหัวใจไว้ ไม่รู้เขาจะรับหัวใจของเสี่ยหรือเปล่านะ แล้วหนูละครับว่ายังไง อยากรับหัวใจของเสี่ยดวงนี้ไว้ดูแลไหมครับ” “แล้วหัวใจดวงนี้ของเสี่ยมีคนเข้าไปนั่งเยอะแล้วหรือยังคะ” ข้อนี้แป้งหอมอยากรู้มากที่สุด เพราะดูจากการใช้ชีวิตของเขาแล้วน่าจะมีผู้หญิงเข้าหาไม่น้อยเลย “หึ หัวใจของเสี่ยมีห้องเดียวเท่านั้น แล้วมันก็เขียนชื่อไว้หน้าประตูเลยว่าแป้งหอม” “งื้ออออ หนูไม่เชื่อหรอก เสี่ยไม่ต้องมาหลอกล่อหนูเลย” แป้งหอมดันใบหน้าอันหล่อเหลาของเสี่ยกันต์ออกให้ห่างจากแก้มของตัวเอง “แล้วต้องทำยังไงครับ หนูถึงจะเชื่อว่าเสี่ยพูดออกมานั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด” เสี่ยกันต์พูดพร้อมกับมองลึกเข้าไปในดวงตาของคนตัวเล็กอย่างสื่อความหมาย เขาดูไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมคนตัวเล็กถึงยังดูไม่ค่อยเชื่อใจเขาสักเท่าไหร่ “เสี่ยก็ต้องทำให้หนูเห็นสิคะว่าเสี่ยมีหนูคนเดียวอย่างท







