เรื่องราวของสาวน้อยที่ชื่อว่าแป้งหอมอยากมีโทรศัพท์แพงๆเหมือนเพื่อนคนอื่นจำเป็นต้องโกหกแม่ออกมายืมเงินเสี่ยที่ปล่อยเงินกู้ ซึ่งนั่นก็ทำให้เจอพบกับเรื่องราวมากมายจนก่อเกิดเป็นความรักต่างวัยระหว่างสาวสวยวัยสะพรั่งอย่างเธอและเสี่ยสุดหล่อที่หลงเธอหัวปักหัวปำ
View More"เฮ้ยอีแป้ง! ถือกล้องให้กูหน่อยดิวะ เร็วๆเดี๋ยวอาจารย์มามึง" แป้งหอมที่กำลังเดินเข้ามาในห้องเรียนหลังจากที่เข้าแถวเคารพธงชาติในตอนเช้าเสร็จแล้ว ก็ต้องหยุดชะงักกับเสียงเรียกของเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่หลังห้อง ก่อนจะถอนหายใจเบาๆและเดินตรงไปหาเพื่อนสนิทที่มีอยู่คนเดียวที่หลังห้องทันที
"อะไรของมึงวะ อีกล้วยหอม " กล้วยหอมหรือเพื่อนสนิทคนเดียวของแป้งหอมนั่นเอง ทั้งสองเรียนซ้ำชั้นด้วยกันเมื่อปีที่แล้ว ที่จริงทั้งสองจะต้องจบม.6 ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เพราะความเอาแต่เที่ยวเล่นจึงทำให้ทั้งสองถูกโรงเรียนสั่งให้เรียนซ้ำชั้นอีกหนึ่งปี เพราะไม่อย่างนั้นก็มีอีกทางเลือกก็คือทางโรงเรียนจะเชิญออก จึงทำให้ทั้งสองต้องจำใจเรียนซ้ำชั้นในชั้นมัธยมศึกษาปีที่6อีกครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้ "อย่ามาทำอารมณ์เสียจ้ะอีแป้ง มาถ่ายรูปให้กูก่อน เนี่ยๆกูเพิ่งได้โทรศัพท์ใหม่มา ดูสิมึงถ่ายแล้วสวยมาก" กล้วยหอมอวดโทรศัพท์ที่ได้มาใหม่ให้แป้งหอมดูทันที และทันทีที่แป้งหอมเห็นยี่ห้อของโทรศัพท์ที่เพื่อนสนิทของตัวเองคือก็ต้องตาลุกวาวขึ้นทันที เพราะนี่คือโทรศัพท์ยี่ห้อที่ฮอตฮิตของทุกรุ่นทุกวัยและเป็นยี่ห้อที่แพงมากในบรรดาโทรศัพท์ด้วยกัน แต่ถึงมันจะแพงมากก็เถอะแต่แป้งหอมก็ยังอยากที่จะได้โทรศัพท์แบบเพื่อนมาครอบครองเหมือนกัน "ม..มึง นี่มันไอโฟน14นี่นา เหยด~แม่งรุ่นล่าสุดแล้วก็แพงที่สุดด้วย อีเหี้ยกูอยากได้ แม่มึงซื้อให้หรอ" "โนๆๆๆจ้ะเพื่อนรัก ของชิ้นนี้มาด้วยเล่ห์และมารยาของกูทั้งนั้นเว้ย" กล้วยหอมยกยิ้มให้กับเพื่อนของตัวเองที่ดูท่าทางก็รู้ว่าอยากได้โทรศัพท์เครื่องนี้มาก "เอ้าอีนี่ มึงใช้เล่ห์มารยากับแม่มึงหรอ" "โอ๊ยอีบ้ากูก็ต้องใช้กับผู้ชายสิ กูจะมาใช้กับแม่กูทำไม" กล้วยหอมตอบกลับเพื่อนสนิทอย่างเอือมๆในความคิดของมัน "ผู้ชาย? นี่มึงมีแฟนแล้วหรออีกล้วย" "หึ! เสี่ยที่เลี้ยงกูเองแหละ" "อะไรนะ!!! นี่มึงเป็นเด็กส....อุบ อื้อออ~" แป้งหอมที่ได้ยินว่าโทรศัพท์เครื่องนี้ของเพื่อนมาจากเสี่ยที่เลี้ยงเพื่อนของตัวเองอยู่ก็ต้องตกใจจนเผลอพูดเสียงดังออกมาทันที แต่ก็พูดออกมาได้ไม่ทันไรกล้วยหอมก็พุ่งตัวมาอุดปากของแป้งหอมไว้ก่อนที่มันจะหลุดปากพูดอะไรไปมากกว่านี้ "หุบปากของมึงเลยอีแป้ง เดี๋ยวกูก็เตะปากเบี้ยวซะหรอก" กล้วยหอมชี้หน้าเพื่อนสนิทอย่างคาดโทษ ที่มันบังอาจพูดเรื่องนี้อย่างเสียงดัง "ขอโต๊ด มานี่ๆ" แป้งหอมรีบขอโทษขอโพยเพื่อนอย่างกล้วยหอมทันที ก่อนจะลากแขนเพื่อนตัวเองออกจากห้องเรียนเพื่อไปคุยเรื่องนี้กันที่หลังโรงเรียนที่เป็นที่ประจำของพวกเธอทั้งสองคนทันที “อะไรรรร มึงจะลากกูมาที่นี่ทำไมเนี่ย?” กล้วยหอมร้องถามแป้งหอมอย่างงงๆ ที่อยู่ๆก็โดนเพื่อนสนิทลากออกมาจากห้องเรียน ทั้งๆที่อาจารย์ใกล้จะเข้าสอนแล้ว “กูก็ลากมึงมาถามเรื่องที่มึงมีเสี่ยเลี้ยง แล้วก็เรื่องที่มึงมีโทรศัพท์รุ่นที่กูอยากได้นี่ไง” ใช่! แป้งหอมอยากได้โทรศัพท์รุ่นนี้มากถึงมากที่สุด เพราะดีไซน์มันสวยอีกอย่างใช้แล้วมันทำให้คนที่ถือดูแพง แต่เพราะราคามันแพงและแรงมาก ทำให้ครอบครัวที่หาเช้ากินค่ำอย่างครอบครัวแป้งหอมก็ได้แต่ฝันหวานมองคนนู้นคนนี้ที่เขาใช้แล้วเพ้อในความคิดเอาก็เท่านั้น “มึงจะถามอะไร ก็กูบอกแล้วไงว่ากูมีเสี่ยเลี้ยง แล้วโทรศัพท์กูเนี่ยเสี่ยเขาก็ซื้อให้กูเอง” กล้วยหอมก็พูดตอบเพื่อนสาวคนสนิทอย่างตรงไปตรงมาโดยที่ไม่ได้มีอะไรบิดบัง ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่ขึ้นมัธยมศึกษาปีที่1 จึงทำให้เชื่อใจซึ่งกันและกันมากสามารถพูดได้ทุกเรื่องไม่เว้นแม่แต่เรื่องในครอบครัวและเรื่องส่วนตัว ถ้าไม่ไว้ใจกันก็คงไว้ใจใครไม่ได้แล้วแหละเพราะมีแค่กล้วยหอมและแป้งหอมนี่แหละที่อยู่ด้วยกันแล้วไม่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือผิดใจกันเลย เอาง่ายๆก็คือไม่มีเพื่อนคนไหนคบกับพวกเธอนั่นเอง “แมร่งชีวิตมึงดีจัด ไม่ต้องขอเขาก็ประทานมาให้เลยอ่า อิจฉาอ่า~” แป้งหอมโอดครวญใส่กล้วยหอมทันทีที่ได้ยินเพื่อนพูดบอกว่าผู้ชายเขาซื้อให้เองโดยที่ไม่ต้องร้องขอ แป้งหอมอิจฉ๊าอิจฉา “ดีก็เหี้ยล่ะอีแป้ง น้องสาวกูจะพังอยู่แล้ว เดี๋ยวกลับไปกูจะไปขูดเลือดขูดเนื้อไอ้เสี่ยบ้ากามนั่นอีก เอาให้สาสมกับที่ทำกูเดินขาถ่างในแต่ละวัน” กล้วยหอมบ่นให้เพื่อนสาวฟังพร้อมกับทำหน้ายุ่งเวลาที่คิดถึงไอ้เสี่ยหน้าหล่อบ้ากามที่วันๆเอาแต่จับตัวเธอฟาดลงเตียงไม่ก็ราวระเบียงในบางวัน “อีกล้วยเน่า อีมึงนอนกับเขาแล้วหรอ?” เมื่อได้ยินว่าเพื่อนบอกว่าเดินขาถ่างแป้งหอมก็อ้าปากกว้างทำตาเท่าไข่ห่านทันที “ก็เออสิวะ ไม่นอนแล้วไอ้เสี่ยบ้ากามมันจะให้ของกูหรือไงอีแป้ง ถามไรก็คิดหน่อยสิวะ มึงคิดว่ากูไปเป็นเด็กเสี่ยมีแค่นอนจับมือกันแล้วก็หลับเลยหรือไง กูโดนไอ้เสี่ยบ้ามันจับกินตับตั้งแต่กูเจอหน้ามันไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ พูดแล้วก็โมโห วันนั้นกูน่าจะล้างน้องสาวไปให้หอมๆมากกว่านี้ หึ๊ย!” “ต...ตั้งแต่เมื่อไหร่อีกล้วย” แป้งหอมยังคงสงสัยอีกหลายเรื่อง จึงมีคำถามมากมายที่อยากจะถามเพื่อนสาวคนสนิทอีกเป็นกอง “ตั้งแต่กีฬาสีสองเดือนก่อนจ้ะอีดอก” “อ๋อ ที่แท้วันนั้นที่มึงลาในวันที่มีกีฬาสี คือไปนอนกับผู้ชายว่างั้นเถอะอีเพื่อนเลว” ในที่สุดแป้งหอมก็รู้เหตุผลว่าทำไมเพื่อนคนสนิทของเธอถึงปล่อยให้เธอเคว้งคว้างเพียงลำพังในวันกีฬาสี ที่แท้มันก็แอบหนีไปนอนกับผู้ชายนี่เอง แล้วกีฬาสีทางโรงเรียนจัดให้สามวันมันไม่มาสักวันเลยด้วยนะ ยิ่งคิดยิ่งน่าโมโห “ใช่จ้า เพื่อนคนนี้หนีไปนอนกับผู้ชายมาจ้า อิอิ” ไม่มีแม้แต่ความสำนึกผิดสำหรับคนอย่างกล้วยหอม อีกทั้งยังสามารถยิ้มหัวเราะใส่เพื่อนคนสวยอย่างแป้งหอมที่ทำหน้าบูดบึ้งใส่เธออยู่ ติ๊งต๊อง ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง เมื่อเสียงกริ๊งเข้าเรียนในคาบแรกดังขึ้นทั้งสองก็มองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย พร้อมกับวิ่งใส่เกียร์หมาเต็มสปี๊ดตรงไปยังห้องเรียนของตัวเองทันที ยังมีคำถามอีกมากมายอยู่ภายในหัวของแป้งหอม แต่เอาเป็นว่าค่อยถามเพื่อนตัวดีของเธอในตอนพักเที่ยงของวันนี้ก็แล้วกัน จะถามคำถามที่คิดไว้เอาให้มันไม่ได้กินข้าวเลยแม้แต่คำเดียวเลย คอยดูสิสามปีต่อมา “เสี่ยขา~” เสียงเจื้อแจ้วดังมาแต่ไกล แต่คนที่เป็นเจ้าของชื่อนั่นกลับไม่ได้ตอบรับกลับไป “เสี่ยคะ เสี่ยขา!!!” “โถ่~ ไอรินลูก หนูต้องเรียนกว่าคุณพ่อสิครับ เดี๋ยวคนอื่นได้ยินก็เข้าใจกันไปหมดหรอกว่าพ่อเลี้ยงต้อยหนู” เสี่ยกันต์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับลูกสาวตัวน้อยของเขาที่ไม่ยอมเรียกเขาว่าพ่อสักที ไม่รู้ว่าไปยินแป้งหอมพูดกับเขาตอนไหนถึงได้เรียกตามแป้งหอมที่ชอบเรียกเขาว่าเสี่ยเวลาอ้อนอย่างนี้ “ก็คุณแม่ก็เรียกเสี่ย ว่าเสี่ยขานิคะ ทำไมหนูจะเรียกไม่ได้” ไอริน หรือ เด็กหญิงนันท์นารี วราฤทธิ์ อายุสามขวบเต็มๆไปเมื่อสามวันก่อน ไม่ค่อยชอบเรียกเขาว่าพ่อตั้งแต่พูดได้ เอาแต่เรียกเขาตามที่แม่คนสวยของตนเรียกว่าเสี่ยขา ตอนนี้เป็นช่วงอยากรู้อยากเห็นไปหมดทุกอย่างสอนอะไรก็ทำตามไปหมด ยิ่งเห็นคนเป็นแม่ทำยังไงก็อยากทำตามเดี๋ยวนั้นทันทีโดยเฉพาะตอนที่แป้งหอมอ้อนเขา ลูกสาวสุดสวยของเขาก็จะอ้อนเขาเรียนแบบคนเป็นแม่ทันที จากที่เขามีความสุขอยู่แล้วก็ยิ่งเป็นสุขคูณสอง “ครับลูกครับ แล้วนี่หนูไม่เล่นกับลุงบอลแล้วหรอครับ หื้ม?” เขาลูบตามกรอบหน้าของลูกสาวที่ตอนนี้มีเหงื่อไหลตามไรผมเล็กน้อย ไม่รู้ว่าไอ้บอ
9เดือนผ่านไป ตอนนี้แป้งหอมกำลังตั้งครรภ์อยู่ที่ไตรมาสสุดท้ายแล้ว อีกสามวันจะถึงกำหนดคลออด โดยที่มีคุณพ่อขี้เห่อประกบอยู่ไม่ห่างเพราะกลัวว่าเมียรักของเขาจะเกิดปวดท้องคลอดก่อนกำหนดเลยทิ้งทุกอย่างไว้ให้คนเป็นเลขาดู ส่วนเขาก็นั่งเฝ้าเมียทั้งวี่ทั้งวัน “พ่อจ๋ายังไม่ต้องมาเฝ้าแม่ขนาดนี้ก็ได้ แม่ไม่ได้จะคลอดวันนี้สักหน่อย กำหนดคลอดไอ้จิ๋วยังเหลืออยู่อีกตั้งสามวัน แม่ว่าพ่อจ๋ากลับไปทำงานก่อนดีกว่าไหม” แป้งหอมพูดกับเสี่ยกันต์ที่ตอนนี้ทั้งสองคนเราตกลงกันแล้วว่าจะไม่เรียกกันแบบเดิมอีกแล้ว แต่จะแทนกันว่าพ่อจ๋ากับแม่จ๋า ตอนแรกมันก็ไม่ค่อยจะชินปากเท่าไหร่แต่พอนานวันไปมันก็เรียกกันได้อย่างไม่เคอะเขินแล้ว “ไม่เอาน่ะแม่จ๋า พ่อจ๋าอยากเฝ้าแม่กับไอ้จิ๋วนี่น่า ไว้ใจไม่ได้หรอก บางครั้งอาจจะเจ็บท้องก่อนคลอดก็ได้ใครจะไปรู้” เสี่ยกันต์รีบเข้าไปกอดคนท้องโตที่นั่งช็อปปิ้งเสื้อผ้าลูกอยู่ทันที ทั้งเขาและแป้งหอมย้ายมาอยู่บ้านที่เขาซื้อวันนั้นหลังจากผ่านมาสามเดือน เพราะมันยังเหลือตกแต่งอยู่อีกนิดหน่อยเลยไม่สามารถย้ายเข้ามาได้ทันที แต่แป้งหอมก็ไม่ได้ติดอะไร รอได้อยู่แล้ว ส่วนแม่ของแป้งหอมก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันน
ทางด้านของเสี่ยกันต์ก็รีบเดินจ้ำอ้าวตรงไปที่รถยนต์ทันทีเพื่อที่จะรีบไปเอาของขวัญที่ตัวเล็กอยากให้เขาในวันนี้ ส่วนมากจะเป็นเขามากกว่าที่จะชอบเซอร์ไพรส์เธอทุกๆครั้งที่มีโอกาส แต่ครั้งนี้เขาได้รับของขวัญจากเธอไม่ว่าอะไรเขาก็ดีใจทั้งนั้น แต่ก็แอบลุ้นเหมือนกันว่าของขวัญที่เธอจะให้เขานั้นมันคืออะไร แกร๊กกก!!! “หื้ม? นี่มันแท่งอะไรเนี้ย สงสัยจะโดนไอ้ดื้อแกล้งซะแล้วซิเรา” เสี่ยกันต์ได้แต่ขำตัวเองอยู่ในใจเบาๆที่โดนเธอแกล้งแบบนี้ จึงคว้าสิ่งที่วางอยู่บนเบาะมาใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงโดยไม่ได้สังเกตของชิ้นนั้นให้ดีๆแล้วรีบวิ่งเข้าไปในตัวบ้าน ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก แฮ่ก! แฮ่ก! แฮ่ก! “ไอ้ดื้อ หนูแกล้งอะไรเสี่ยเนี่ย ฟอดดดด” เสี่ยกันต์เข้าไปสวมกอดเมียตัวน้อยที่นั่งหันหลังให้เขาอยู่บนโซฟาพร้อมกับหอมแก้มลงโทษไปอีกหนึ่งฟอดใหญ่ที่บังอาจมาแกล้งเขาให้เดินไปกลับจากบ้านถึงรถ “อื้อออ~ อะไรคะเสี่ย หนูแกล้งอะไรคะ” แป้งหอมถามเสี่ยกันต์ออกไปแบบงงๆ ทำไมเขาถึงไม่ดูดีใจอะไรเลยล่ะ หรือมีแค่เธอที่ดีใจไปคนเดียว “ก็หนูบอกจะเซอร์ไพรส์เสี่ยไงครับ แล้วนี่หนูเป็นอะไรทำไมทำหน้าหงอยอย่างนั้น” “ก็หนูเสียใจนี่คะ ที่หน
ปึก ปึก “ฮือออออ หนูปวดขามากๆเลยง่า~” หลังจากที่ก้นแปะกับเบาะรถได้ไม่ถึงวินาที แป้งหอมก็บ่นโอดครวญพร้อมกับบีบนวดขาตัวเองไปมาทันที “หึหึ วันนี้เป็นวันที่เสี่ยมีความสุขมากเลยรู้ไหมครับ จุ๊บ!” เสี่ยกันต์ยกยิ้มเล็กน้อยกับท่าทีความเมื่อยของคนตัวเล็กของเขาพร้อมกับดึงหัวทุยของแป้งหอมเข้ามาจุ๊บเป็นรางวัลทันที “หื้ม? ทำไมเสี่ยมีความสุขคะ วันนี้เป็นวันเรียนจบของหนูนะ หนูต้องมีความสุขก่อนสิคะ” “ก็นี่ไง วันนี้เป็นวันสิ้นสุดสัญญาการปกปิดเรื่องเราเป็นแฟนไม่ให้คนอื่นๆรู้ไงครับ นี่เป็นไง รูปนี่สวยไหม” เสี่ยกันต์โชว์โทรศัพท์ของเขาให้คนตัวเล็กดู “น…นี่เสี่ยจะเร็วไปไหนคะเนี่ย แล้วโพสต์อะไรเยอะแยะคะ ตั้งร้อยเกือบสองร้อยรูป” ไม่รู้เธอจะตกใจกับอะไรก่อนดีระหว่างลงรูปเธอเพื่อที่จะประกาศเปิดตัวหรือรูปที่เธอถ่ายคู่กับเขาที่มีมากถึงสองร้อยรูปที่เขาโพสต์ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง “นี่ยังไม่หมดนะ เสี่ยยังมีอีกตั้งเยอะ ก็หนูไม่ให้เสี่ยลงอะไรเลยมาตลอดสามเดือนที่เราเป็นแฟนกันนี่น่า เสี่ยก็อยากให้คนอื่นๆเห็นว่าเสี่ยรักเมียตัวน้อยของเสี่ยคนนี้มากๆๆๆๆ” “ค่ะๆ หนูรู้แล้วค่ะ แต่ค่อยๆลงก็ได้ค่ะเสี่ยไม่ต้องรีบขนาด
สามเดือนผ่านไป นี่ก็ผ่านมาสามเดือนแล้วหลังจากที่ผมได้ขอคนตัวเล็กเป็นแฟนบนรถ เป็นสามเดือนที่ผมอดทนมามากที่สุดเพราะเป็นแฟนก็เหมือนเป็นชู้ ไม่สามารถประกาศออกสื่อหรือบอกคนรู้จักได้เลยเพราะคนตัวเล็กขู่ผมไว้ นี่ถ้าไม่รักไม่ยอมขนาดนี้นะครับ ย้อนกลับไปในวันที่คนตัวเล็กโดนขอเป็นแฟน วันนั้นผมก็ขี่รถกลับบ้านคนตัวเล็กเลยครับ โดยที่ไม่ลืมที่จะซื้อหมูกระทะเป็นชุดมากินที่บ้านของเธอแทน เพราะอยากที่จะเข้าไปคุยทุกอย่างให้แม่ของเธอได้รับรู้ด้วย “เสี่ยหนูไม่กล้าลงไปเลยอ่า เสี่ยค่อยมาบ้านหนูวันอื่นไม่ได้หรอ วันนี้หนูยังไม่พร้อมเลย” แป้งหอมอิดออดไม่ยอมลงจากรถคันหรูของเสี่ยกันต์สักทีเพราะเอาแต่กลัวว่าแม่ของตนนั้นจะด่าตนเรื่องที่ตกลงเป็นแฟนกับเสี่ยกันต์แล้ว “หนูกลัวอะไรครับเด็กดี เสี่ยก็จะเข้าไปคุยกับคุณแม่ของหนูด้วยไง ไปครับลงรถได้แล้ว เราต้องเดินเข้าไปอีกนะ” เสี่ยกันต์มาจอดรถไว้ที่ข้างฟุตบาตเหมือนเดิมเพราะซอยเข้าไปในบ้านของแป้งหอมนั้นมีแค่รถมอเตอร์ไซต์เท่านั้นที่เข้าไปได้ “ฮืออออ ก็ได้ค่ะ ถ้าหนูโดนแม่สุตีเสี่ยต้องช่วยหนูนะคะ” “ครับๆ เมียเสี่ยทั้งคน เสี่ยยอมแลกชีวิตเข้าไปช่วยเลย” “บ้า เสี่ยก
“นี่หนูไม่ใช่หรอคะ?” แป้งถามเสี่ยกันต์อย่างอึ้งๆ นี่เขาพูดมาทั้งหมดนั้นคือเธออย่างนั้นเหรอ เขาทำอะไรอยู่ คิดจะมาให้ความหวังกับเด็กแบบเธอแล้วก็ทิ้งหรือเปล่า แป้งหอมคิดหาเห็นผลต่างๆนานาในหัวจนวุ่นวายไปหมด “ใช่ครับ นี่แหละคนที่เสี่ยอยากจะฝากหัวใจไว้ ไม่รู้เขาจะรับหัวใจของเสี่ยหรือเปล่านะ แล้วหนูละครับว่ายังไง อยากรับหัวใจของเสี่ยดวงนี้ไว้ดูแลไหมครับ” “แล้วหัวใจดวงนี้ของเสี่ยมีคนเข้าไปนั่งเยอะแล้วหรือยังคะ” ข้อนี้แป้งหอมอยากรู้มากที่สุด เพราะดูจากการใช้ชีวิตของเขาแล้วน่าจะมีผู้หญิงเข้าหาไม่น้อยเลย “หึ หัวใจของเสี่ยมีห้องเดียวเท่านั้น แล้วมันก็เขียนชื่อไว้หน้าประตูเลยว่าแป้งหอม” “งื้ออออ หนูไม่เชื่อหรอก เสี่ยไม่ต้องมาหลอกล่อหนูเลย” แป้งหอมดันใบหน้าอันหล่อเหลาของเสี่ยกันต์ออกให้ห่างจากแก้มของตัวเอง “แล้วต้องทำยังไงครับ หนูถึงจะเชื่อว่าเสี่ยพูดออกมานั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด” เสี่ยกันต์พูดพร้อมกับมองลึกเข้าไปในดวงตาของคนตัวเล็กอย่างสื่อความหมาย เขาดูไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมคนตัวเล็กถึงยังดูไม่ค่อยเชื่อใจเขาสักเท่าไหร่ “เสี่ยก็ต้องทำให้หนูเห็นสิคะว่าเสี่ยมีหนูคนเดียวอย่างท
Comments