Share

บทที่ 731

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
เซี่ยหลูโม่ขมวดคิ้วและมองดูคำสารภาพของหมอหยาง หมอหยางคนนี้ขี้ขลาดไม่ใช่แต่ริดเดียวเลย สารภาพอย่างะเอียดเลย กู้ชิงหวู่ใช้วิธีอะไรมาเอาใจเขา ทำให้เขาจำเป็นต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อทำร้ายหลินเฟิ้งเอ๋อ ได้ใช้ยาชนิดใด อาการรุนแรงขึ้นมาตอนไหน และคาดว่าจะตายเมื่อใด ล้วนบอกอย่างละเอียดให้หมดเลย

นอกจากนี้เขายังเดาว่า กู้ชิงหวู่ไม่ต้องการถูกควบคุมอีกต่อไป และต้องการหลุดพ้นจากจวนองค์หญิงใหญ่โดยสิ้นเชิง ดังนั้นจึงวางยาพิษมารดาผู้ให้กำเนิดของนาง

แม้ว่าเซี่ยหลูโม่จะทำคดีมาไม่นาน แต่เขาก็สามารถพบปัญหาได้อย่างรวดเร็ว "ถ้ากู้ชิงหวู่ต้องการพ้นจากจวนองค์หญิงใหญ่ แม้นางจะฆ่าแม่จนเองก็ไม่มีประโยชน์ มีความขัดแย้ง เพราะวิธีที่องค์หญิงใหญ่ควบคุมนางก็คือใช้แม่ของนาง ถ้านางสามารถทำได้ไม่สนใจแม่ของนางจะเป็นจะตาย ตอนที่แต่งเข้าจวนเฉิงเอินป๋อนั้น อาศัยเหลียงเส้าก็สามารถมีชีวิตแบบไม่ถูกควบคุม แต่หากนางไม่ต้องการเป็นอนุภรรยา หลอกเงินก้อนใหญ่จากเหลียงเส้าแล้วหนีไป งั้นองค์หญิงใหญ่ก็ไม่อาจจะตามหานางได้ เพราะ...นางหาใช่ย่อยจริงๆ หมอหยางอายุใกล้หกสิบปีแล้วชัดๆ"

เฉินยีทำงานในหอต้าหลี่มาหลายปีแล้ว และได้พบเห็นผู้คนทุกป
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Ukrit Inchai
อัพเยอะๆหน่อยคับ
goodnovel comment avatar
mala vijit
โหลดมาให้อ่านวันละ2-3ตอนเอง ไม่ต่อเนื่องเลย
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 732

    เมื่อกลับมาถึงจวน ซ่งซีซียังไม่หลับ และเป่าจูกำลังรีดเครื่องแบบให้นาง เครื่องแบบนี้เป็นเครื่องแบบของรองผู้บัญชาการกองทัพซวนเจีย แม้ว่ามันจะแค่ในนาม แต่ตอนนั้นก็ได้ทำเครื่องแบบให้เช่นกัน คิดว่าแค่ทำให้ดูเฉยๆ ไม่คิดว่านางจะใส่มันจริงๆเครื่องแบบกิเลนรอยเมฆ ไม่ได้มีดาบให้ด้วย และหมวกดำฝังด้วยลูกปัดหยก หากนางต้องการสวมเครื่องแบบในอนาคต ก็ไม่สามารถแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสตรีได้เป่าจูมีความสุขมากเพราะตอนที่จ้านเป่ยว่างบอกว่าเขาต้องการแต่งภรรยาที่เท่าเทียมกันนั้น เขาเอาแต่ดูถูกคุณหนู แต่ตอนนี้คุณหนูกำลังจะเป็นข้าราชการ แม้ว่าผู้บัญชาการจะเป็นขุนนางฝ่ายทหาร แต่อย่างน้อยไม่ใช่แค่อยู่ในค่ายทหารเท่านั้น ความอึดอัดที่ติดค้างอยู่ในใจของเป่าจูในที่สุดก็ได้กำจัดออกไปแล้ว"เป็นยังไงบ้าง?สอบปากคำยัง?" เมื่อเห็นเซี่ยหลูโม่กลับมา ซ่งซีซีก็รีบเข้าไปหาเซี่ยหลูโม่มองไปที่เครื่องแบบของนาง แล้วยิ้ม "นี่คือเครื่องแบบของรองผู้บัญชาการ แต่ตอนนี้เจ้าเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดแล้ว""ไม่สำคัญหรอก ใส่ตัวนี้ไปก่อน" ซ่งซีซีพูด "ข้าจะไปเข้าเฝ้าแต่เช้าพรุ่งนี้ แล้วกลับไปที่สำนักทหารกองทัพซวนเจีย เพื่อรับหน้าที่ทั้งหมด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 733

    ซ่งซีซีกล่าวว่า "พวกของหงเซียวอาจรู้ว่านางไปไหน แต่คงไม่ติดตามนางไป เพราะเกิดคดีใหญ่เช่นนี้ พวกนางจะต้องเตรียมพร้อมในเมืองหลวง""ที่ข้ากลับมาก็เพื่อให้พวกนางจับตาดูจวนอ๋องเยี่ยนและจวนอ๋องฮวยให้ด้วย แม้ว่าพวกเขาจะไม่กล้าเคลื่อนไหวใดๆ ในช่วงนี้ แต่การผลิตและการขนส่งอาวุธชุดนี้จำเป็นต้องผ่านมือของผู้คนจำนวนมาก ยิ่งกว่านั้น คุกใต้ดินยังไม่เต็ม อาจยังคงทำต่ออยู่หลังจากจวนองค์หญิงใหญ่ล่มสลายแล้ว งั้นอ๋องเยี่ยนหรืออ๋องฮวยก็ต้องรับช่วงต่อ จับตาดูมันเอาไว้ก่อน""ได้ ฉันเข้าใจแล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะบอกว่านจือให้" ซ่งซีซีกล่าวเซี่ยหลูโม่สั่งคนใช้นำน้ำร้อนมาเพื่อที่เขาจะได้ล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้าตัวใน เขายังสามารถนอนหลับได้ครึ่งชั่วยามอาจารย์หยูรู้ว่าเขากลับมาแล้วจึงอยากจะแวะมาถามถึงคดีนี้แต่ได้ยินว่าเขาได้พักผ่อนแล้ว อีกไม่นานก็จะกลับหอต้าหลี่ จึงรอไว้ก่อน รอกลับหอต้าหลี่กับเขาในฐานะหัวหน้าผู้ดูแลจวนของจวนอ๋อง เขามิใช่คนของหอต้าหลี่ แต่สามารถติดตามข้างกายของท่านอ๋องทุกเมื่อ เพื่อให้คำแนะนำแก่ท่านอ๋องได้แต่ตอนนี้พระชายาเข้ารับราชการแล้ว งั้นงานที่ดูแลจวนก็ตกเป็นของหัวหน้าลู่และแม่นมเหลียง โ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 734

    พอเสิ่นว่านจือเดินเข้ามา ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ "แหมๆๆ ให้ข้าดูใต้เท้าคนนี้ให้ดีๆ หน่อย ใต้เท้า มิทราบว่าท่านกำลังไปไหน สามารถนำข้าไปด้วยหรือไม่เจ้าคะ?"ซ่งซีซีต่อยนางที่ไหล่ "เจ้ามาพอดีเลย มีเรื่องหนึ่งขาดเจ้าไม่ได้จริงๆ""ใต้เท้าสั่งได้เลย ข้าจะทำตามที่สั่งแน่นอน" เสิ่นว่านจือคารวะ และตอบอย่างอ่อนโยนซ่งซีซีกลอกตาใส่นาง "จะพูดดีๆ ไม่เป็นแล้วใช่ไหม ต้องให้สั่งสอนสักหน่อยใช่ไหม?"นางดึงผ้าเช็ดหน้าออกแล้วโบกไปทางหน้าของนาง เสียงยังคงแสร้งทำเป็นไพเราะ "อุ๊ย ใต้เท้าหยาบคายแล้วนะ"ซ่งซีซีจับไหล่ของนางแล้วโยนนางให้ล้มลง เสิ่นว่านจือฉวยโอกาสสองเท้าตกลงบนพื้นแล้วตีลังกา จากนั้นยิ้วซื่อๆ "ไม่เอาน่า ไม่เอาน่า"ทุกคนต่างก็หัวเราะ และป้าหยินพูดว่า "คุณหนูเสิ่นตลกจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไทเฟยชอบท่านมาก""นั่นนะสิ ที่ไทเฟยชอบข้ายังมากกว่าที่ชอบนางเลย" เสิ่นว่านจือ ทำท่าหยิ่งผยองนั้นเหมือนสนมฮุ่ยไทเฟยไม่มีผิดเลยซ่งซีซีกลอกตามองบนใส่นาง "เข้าประเด็นเลย ข้าจะออกไปข้างนอกแล้ว"เสิ่นว่านจือกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า "เอาล่ะ ป้าๆ และพี่ๆ ทั้งหลายเชิญออกไปก่อนเถอะ ข้าจะคุยธุระกับใต้เท

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 735

    เสิ่นว่านจือตอบรับ "อืม ข้ากับหงเชวี่ยไปดูสักหน่อย เจ้าไม่ต้องกังวล"ซ่งซีซีดึงนางให้นั่งลงแล้วพูดว่า "มีอีกเรื่องหนึ่ง ข้าต้องบอกเจ้าล่วงหน้าเพื่อที่เจ้าจะได้เตรียมใจไว้"เสิ่นว่านจือนั่งลง "จริงจังขนาดนี้เลยหรือ จะขู่ใครกัน เรื่องอะไร ว่ามาเร็ว!"ซ่งซีซีช่วยจับหมวกให้ตรง ยังไม่ค่อยชินกับมันเลย "ตอนนี้ทางจวนองค์หญิงใหญ่ถือว่าพังแล้ว พวกของอ๋องเยี่ยนต้องการสืบข่าวเกี่ยวกับองค์หญิงใหญ่อย่างแน่นอน อย่างเช่นว่านางได้สารภาพหรือไม่ ไม่ว่าเคยไปมาหาสู่กับขุนนางผู้ใดในราชสำนักก็ไม่กล้าไปหาในตอนนี้แล้ว ข้าว่าลูกพี่ลูกน้องคนนั้นของเจ้าจะมาหาเจ้านะ"เสิ่นว่านจือพูดอย่างเย็นชา "นางอย่าคิดจะได้ข้อมูลจากข้าแม้แต่คำเดียว เจ้าไม่ต้องกังวลว่าข้าจะพูดหลุดปาด ด้วยสมองของนางก็หลอกข้าไม่ได้หรอก"หลังจากชะงักไปครู่หนึ่ง นางก็หันศีรษะ "เจ้าอยากให้ข้าไปตีสนิทกับนางเพื่อสืบข่าวจากปากนางเหรอ?"ซ่งซีซีกล่าวว่า "ไม่ ก่อนหน้านี้เจ้าเคยปฏิบัติต่อนางอย่างไรตอนนี้ก็ทำอย่างนั้น ไม่ต้องเปลี่ยน นางจะมาหาเจ้าพร้อมกับชายารองจินแน่นอน ชายารองจินเป็นคนระมัดระวังและอ่อนไหว ตราบใดที่เจ้าแสดงความสงสัยกับจวนอ๋องเยี่ยนแม้แ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 736

    เรือนดอกบ๊วยเกิดโกลาหล เสิ่นว่านจือดุกุ้นเอ๋อร์จนเขาวิ่งหนีไป เป่าจูและป้าหยินรีบต้มไข่เพื่อช่วยลดอาการบวมที่แก้มและเบ้าตาของพวกนางได้ผลเลย เพราะใบหน้าได้ทาแบ้งไว้แล้ว ใบหน้าของเสิ่นว่านจือดูไม่ช้ำแล้ว แต่เบ้าตาของพระชายาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดำเป่าจูบอกว่าอยากจะทาแป้งให้นาง แต่ซ่งซีซีก็สะบัดมือ "เป็นเรื่องตลก เคยเห็นราชการผู้ใดในราชสำนักได้แต่งหน้าทาแป้งด้วยล่ะ ออกไปเลย""แต่ดวงตาของท่านดูเหมือนจะดูเล็กไปนะ" เป่าจูพูดอย่างเป็นกังวล "ท่านยังต้องเข้าเฝ้านะ นี่ถือเป็นการเสียมารยาทหรือเปล่า?"ซ่งซีซีคิดว่ามันไม่เป็นอะไร เวลาไปเข้าเฝ้า นางก็มักจะก้มหน้าอยู่ จะไม่เงยหน้าสบตากับฮ่องเต้ ต่อให้เงยหน้าขึ้นมอง ด้วยระยะไกลเช่นนั้นมันมองเห็นได้ยากหรอกซ่งซีซีไปที่คอกม้าจูงสายฟ้าออกมาด้วยตนเอง และลูบหัวของสายฟ้า นางหรี่ตาข้างหนึ่งลง "สายฟ้าแสนดีของข้า จากนี้ไป เราจะไปยังสนามรบอีกแห่งหนึ่งแล้ว เราร่วมมือกันและสู้ไปด้วยกัน"สายฟ้าอยู่ในคอกม้ามานานเกินไปแล้ว ปกติแค่จูงมันออกไปเดินเล่นเฉยๆ บ้าง หากไม่มีเรื่องด่วน ซ่งซีซีจะออกไปโดยนั่งรถม้า และสายฟ้าจะไม่ใช้งานให้กับรถม้ามันส่งเสียงร้องและตีนดินด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 737

    ซ่งซีซีรีบโบกมืออย่างรวดเร็ว "วันนี้หม่อมฉันตื่นเช้าไปหย่อย มันมีเวลาเหลือเฟือก่อนที่ข้าจะมาเข้าเฝ้า เลยเล่นการต่อสู้กับคนในจวน ไม่ระวังจึงโดนต่อยไป"จักรพรรดิ์ซูชิงหัวเราะ "ตื่นเช้าขนาดนั้น ตื่นเต้นเหรอ กลัวว่าทำงานผู้บัญชาการกองทัพซวนเจียไม่ได้หรือ?"ซ่งซีซีกล่าวตามความจริง "รู้สึกตื่นเต้นจริงๆ หลักๆ ก็เพราะไม่มีประสบการณ์และกลัวว่าจะไม่สามารถทำงานได้ดีและทำให้ทุกคนผิดหวัง"จักรพรรดิ์ซูชิงมองดวงตาฟกช้ำดำเขียวของนาง และยังคงอยากจะหัวเราะเล็กน้อย แต่เนื่องจากต้องการกำชับนางสักหน่อย เขาจึงทำหน้าจริงจัง "เป็นข้าราชการสตรีคนแรกในราชวงศ์นี้ เป็นเรื่องจริง สิ่งที่เจ้าต้องเผชิญหน้าไม่เพียงแต่งานของผู้บัญชาการกองทัพซวนเจียเท่านั้น ยังมีความคาดหวังของไทเฮาที่มีต่อเจ้าและสตรีทั่วใต้หล้าที่คอยนับถือเจ้า ดังนั้น เมื่อคนอื่นเป็นผู้บัญชาการ พวกเขาก็ต้องทำงานให้เต็มที่ จงรักภักดีต่อจักรพรรดิและรักชาติ ส่วนเจ้าต้องระมัดระวังคำพูดและการกระทำในขณะเดียวกันก็ต้องทำงานให้ดีที่สุดด้วย มันค่อนข้างยากกว่าคนอื่น แต่ข้าเชื่อว่าเจ้าทำได้"ซ่งซีซีพยักหน้า "หม่อมฉันรับทราบเพค่ะ หม่อมฉันจะทำให้ดีที่สุด จะไม่ทำ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 738

    นางไม่ได้ปฏิเสธ เพราะเห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้ไม่ได้ขอความคิดเห็นจากนางจริงๆ เขาเทียบเท่ากับการออกคำสั่งโดยตรงแล้วให้นางได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการที่มีอำนาจ แต่ขณะเดียวกันก็เลื่อนตำแหน่งให้คนที่ไม่กินเส้นกันกับจวนเป่ยหมิงอ๋อง เพื่อให้นางและเซี่ยหลูโม่ไม่สบอารมณ์บางที ฮ่องเต้อาจคิดว่าทำเช่นนี้แล้วจะทำให้เขารู้สึกปลอดภัยกระมังซ่งซีซีถอยออกไป อู๋ต้าปั้นมองดูนางอย่างกังวล เขาไม่รู้ว่าพระชายาและท่านอ๋องจะรอดจากการทดสอบความไว้วางใจครั้งแล้วครั้งเล่าได้หรือไม่ในความเป็นจริง ฮ่องเต้สามารถแต่งตั้งจ้านเป่ยว่างได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านผู้บัญชาการซ่งเลยหากต้องการให้ผู้บังคับการซ่งโอนย้ายโดยตรง ก็ไม่จำเป็นต้องผ่านกระทรวงขุนนาง แค่แจ้งให้เขาทราบก็พอแต่เขาพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมสิ่งต่างๆ ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา ซึ่งทำให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องรู้สึกไม่สบอารมณ์ รวมถึงจ้านเป่ยว่างด้วยหลังจากที่ซ่งซีซีออกจากวังก็ไปที่สำนักกองกำลังเมืองหลวง เนื่องจากวันนี้นางเข้ารับตำแหน่งเป็นทางการ ปี้หมิงและลู่เจิน หัวหน้าค่ายลาดตระเวนได้นำลูกน้องมารอนางอยู่ดีที่ทุกคนไม่ได้ใส่ใจกับดวงตาฟกช้ำดำเขียวของนางมากเกิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 739

    เขาอายุประมาณสามสิบปี อวบ ไม่สูง แต่แข็งแรง มีสีหน้าค่อนข้างดูถูกไม่แยแสเขานำผู้คนไปข้างหน้าแสดงความเคารพ แต่สายตานั้นกลับเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง "ข้าติดธุระเลยมาสาย ผู้บัญชาการซ่งโปรดยกโทษให้ด้วย"ซ่งซีซีพยักหน้าเล็กน้อยและมองไปที่นายทหารยามทั้งสิบสองคนที่ยืนอยู่สองแถวด้านหลังเขา แค่มองดูก็รู้แล้วว่ามิใช่คนที่รับมือง่าย แต่ละคนทำท่ากำเริบเสิบสาน ไม่เห็นผู้บัญชาการหญิงอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำมีแม่ทัพแบบไหน ก็จะมีลูกน้องแบบนั้นด้วย"วันนี้ไม่มีอะไร แยดย้ายไปทำธุระของตน…"ก่อนที่ซ่งซีซีจะพูดจบ หวังเจิงก็พูดว่า "ในเมื่อไม่มีอะไร แล้วได้เจอหน้ากันแล้ว งั้นข้าขอตัวกลับก่อนนะ ธุระที่วังมีไม่น้อยเลย"หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็พาผู้คนออกไปโดยไม่สนใจซ่งซีซีเลยปี้หมิงขมวดคิ้วและตะโกนออกมาว่า "หวังเจิง!"หวังเจิงเมินเฉยเขา และจากไปโดยตรงปี้หมิงอธิบายอย่างช่วยไม่ได้กับซ่งซีซีว่า "ใต้เท้า หัวหน้าหวังเป็นคนเย็นชาและหยิ่งผยองหน่อย ไม่มีอะไรเลย อย่าไปถือสาเขาเลย"ซ่งซีซีฟังออกวว่าปี้หมิงค่อนข้างเขา ดังนั้นจึงไม่ว่าอะไร จากนั้นพูดต่อว่า "เอาล่ะ ไปหอต้าหลี่กันก่อน"วันนี้ทางหอต้าหลี่ยุ่งมากจร

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1614

    สนมฮุ่ยไทเฟยย่อมมีฐานะมั่นคงเช่นนี้ หลายปีมานี้ไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย รายรับกลับมากไม่น้อยเบี้ยหวัดจากในวัง ของกำนัลจากทุกบ้าน อีกทั้งบรรดาลูกหลานที่โตแล้วต่างก็สามารถตัดสินใจเองได้ บรรดาผู้ที่กตัญญูต่อท่านมีไม่น้อย โดยเฉพาะเสิ่นว่านจื่อ ยิ่งกตัญญูไม่ยั้งมือสำหรับหลานสาวคนเดียวนี้ ท่านไม่มีสิ่งใดที่เสียดายเลย คำพูดที่มักติดปากคือ เมื่อท่านสิ้นไป สมบัติทั้งปวงย่อมตกเป็นของหลานสาวบัดนี้เมื่อแม่ลูกสองคนไปถึงที่อยู่ของท่าน ท่านก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องที่เซี่ยเจิงจะไปภูเขาเหม่ยชานฝึกวรยุทธ์อีกครา"ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นดีเห็นงาม เพียงแต่การไปนานถึงเพียงนั้น ปีหนึ่งกลับมาได้ไม่กี่ครั้ง อนาคตยังบอกว่าจะออกไปผจญภัยอีก เด็กหญิงน้อยๆ เช่นนี้ จะไปฝ่าโลกภายนอกได้อย่างไร? ข้าขัดท่านพ่อของเจ้าไม่ไหว เขาเป็นคนไม่เข้าใจโลก พูดอะไรก็ไม่เคยพูดให้เข้าใจได้ ข้าก็ไม่มีทาง""ท่านยาย หลานไม่ใช่เด็กสาวบอบบางหรอกเจ้าค่ะ ท่านลองดูหมัดของหลานเถิด" เซี่ยเจิงชูหมัดขึ้น โบกไปมาอยู่ตรงหน้าสนมฮุ่ยไทเฟย กล่าวอย่างภาคภูมิว่า "หมัดนี้ของหลาน แม้แต่หมูป่ายังต้องสลบเหมือด"สนมฮุ่ยไทเฟยทอดถอนใจ "บุตรีบ้านอื่น มือเอา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1613

    สองสามีภรรยาเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีต ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอบอุ่นในใจ โดยเฉพาะซ่งซีซี ที่แต่เดิมรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนั้นเป็นการถูกบังคับ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะได้พบกับความสุขเช่นวันนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดานักทันใดนั้นก็มีคนวิ่งพรวดพราดเข้ามาทางประตู ยังไม่ทันเห็นหน้าชัด ก็โผเข้ากอดเซี่ยหลูโม่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นยินดี "ท่านพ่อ ของขวัญพิธีปักปิ่นที่ท่านมอบให้ข้านั้น ข้าชอบมากนัก ขอบคุณท่านพ่อ ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ยังคงซุกซนเช่นเดิมหรือ? โตเป็นสาวแล้ว ต้องสุขุมให้มากหน่อย"แม้ว่าจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าดวงตากลับเปี่ยมด้วยความเอ็นดู มือช่วยจัดปิ่นที่นางสวมในพิธีปักปิ่นให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยต่อว่า "เครื่องประดับหัวทับทิมแดงนั่นเจ้าไม่ชอบหรือ? ท่านแม่ของเจ้าตั้งใจเลือกให้นัก""ชอบเจ้าค่ะ ชอบทุกอย่างเลย" เซี่ยเจิงยิ้มจนตาหยี รักทุกสิ่งที่พ่อแม่มอบให้เซี่ยหลูโม่มองรอยยิ้มของบุตรสาวแล้วพลันรู้สึกเคลิ้มใจบุตรสาวยิ่งโต ยิ่งเหมือนซ่งซีซี ในวันแรกที่พบซ่งซีซีที่ภูเขาเหม่ยชาน นางก็ยิ้มเช่นนี้แต่หลังจากนั้น นางก็แทบไม่เคยยิ้มแบบนี้อีก ต่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status