Share

บทที่10 เข้าวัง

Penulis: Midzilee01
last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-06 20:28:54

ประตูพระราชวังอันสูงตระหง่านเบื้องหน้า ทาด้วยสีแดงเข้มลวดลายมังกรทองที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่และอำนาจของราชวงศ์ ทหารยามในชุดเกราะยืนเรียงรายสองข้างด้วยท่าทางเคร่งขรึม

รถม้าเคลื่อนตัวผ่านประตูพระราชวัง มาหยุดอยู่บริเวณสำหรับจอดรถม้า ฉินเฉินอวี้ก้าวลงจากรถเป็นคนแรก ก่อนจะยื่นมือออกไปให้อวี้หลิงหรง นางลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะจับมือเขาเบา ๆ แล้วก้าวลงมา

ทั้งสองเดินเคียงข้างกันไปตามทางเดินที่ปูด้วยหินเหล่านางกำนัลและขันทีที่พบเจอระหว่างทางต่างโค้งคำนับด้วยท่าทีสำรวม บรรยากาศภายในพระราชวังนั้นเต็มไปด้วยความสงบเงียบ..

พระตำหนักเฉียนชิง ซึ่งเป็นที่ประทับขององค์ฮ่องเต้ ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางแสงแดดยามเช้า เมื่อเข้าไปภายใน บรรยากาศกลับดูเย็นยะเยือก ผนังหินประดับด้วยภาพวาดมังกรพ่นเมฆและอักษรมงคล โต๊ะไม้จันทน์ตัวใหญ่กลางตำหนักประดับด้วยของมีค่าที่ทำจากหยกและทอง

องค์ฮ่องเต้ประทับอยู่บนบัลลังก์ ดวงเนตรที่เฉียบคมทอดมองลงมาทั้งสอง เหมือนจะประเมินและจับตามองทุกการเคลื่อนไหว 

องค์ฮองเฮาประทับอยู่ด้านข้างด้วยท่วงท่าสง่างาม แม้รอยยิ้มบาง ๆ จะปรากฏบนพระพักตร์ แต่ความเย็นชาที่ซ่อนอยู่ในดวงเนตรนั้นยากที่จะมองข้าม

ฉินเฉินอวี้และอวี้หลิงหรงคุกเข่าลงพร้อมกัน พลางกล่าวคำถวายบังคมด้วยเสียงชัดถ้อยชัดคำ

"ลุกขึ้นเถิด" พระสุรเสียงของพระองค์ทุ้มลึกและหนักแน่น "เฉินอวี้ นางคือพระชายาของเจ้าใช่หรือไม่"

"พ่ะย่ะค่ะ" ฉินเฉินอวี้ตอบกลับพลางก้าวขึ้นมาข้างหน้าเล็กน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ 

"พระชายานามว่าอวี้หลิงหรงเป็นธิดาของเสนาบดีอวี้เฉิงจากแคว้นหานพ่ะย่ะค่ะ"

องค์ฮ่องเต้พยักหน้ารับ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ"หวังว่าเจ้าจะดูแลนางให้ดีและหวังว่าพระชายาจะช่วยสนับสนุนเฉินอวี้ในสิ่งที่ควรทำ"

อวี้หลิงหรงโค้งคำนับอีกครั้ง "หม่อมฉันจะทำหน้าที่พระชายาให้ดีที่สุดเพคะ"

องค์ฮองเฮาแย้มพระโอษฐ์บาง ๆ "พระชายาช่างงดงาม เหมาะสมเป็นชายาขององค์ชายหกจริง ๆ"

หลังจากเข้าเฝ้าองค์ฮ่องเต้และฮองเฮาเสร็จ ทั้งสองก็เตรียมตัวที่จะไปพระตำหนักชิงเฟิงของพระสนมสวี่ต่อ

แต่ขณะที่เดินออกมาจากพระตำหนักเฉียนชิงนั้น ฉินเฉินอวี้กลับชะงักฝีเท้าอย่างกระทันหันพร้อมกับบุรุษและสตรีคนหนึ่งที่ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้า

องค์รัชทายาท ฉินจื่อหยวน ในฉลองพระองค์สีเข้มปักลวดลายมังกรทอง ยืนเด่นอยู่กลางลานกว้าง พระพักตร์ที่งดงามเฉียบคมแฝงด้วยอำนาจที่น่าเกรงขาม

ด้านข้างเขาคือพระชายาเว่ย เว่ยลี่หลิน สตรีในชุดผ้าแพรสีม่วงอ่อนปักลายดอกโบตั๋น ที่แสดงถึงความงามอ่อนหวานและความสูงศักดิ์

ฉินเฉินอวี้เงยหน้าขึ้นสบกับองค์รัชทายาท ดวงตาของเขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ทว่าภายในกลับรู้สึกหนักอึ้ง เมื่อเว่ยลี่หลินปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า

เว่ยลี่หลิน คือรักแรกที่เขาไม่อาจลืมเลือน..รักที่ต้องจบลงโดยเขามิได้สมัครใจยินยอม

เขายังจดจำวันแรกที่พบกับนางได้ดี เว่ยลี่หลินในวัยเยาว์คือบุตรีเพียงคนเดียวของแม่ทัพเว่ย นางนั้นงดงามและอ่อนหวานจนหัวใจเขาสั่นไหว

ทว่าสุดท้ายนางกลับถูกเลือกให้เป็นพระชายาขององค์รัชทายาท พี่ชายต่างมารดาของเขาเอง

"น้องหก.." เสียงองค์รัชทายาทดึงเขากลับมาสู่ปัจจุบัน แม้คำพูดของพี่ชายจะเต็มไปด้วยความสุภาพ แต่เขาก็จับได้ถึงแววตาทึ่มีความเย้ยหยันเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่

ดวงตาของฉินเฉินอวี้เหลือบมองเว่ยลี่หลินเพียงแวบหนึ่ง นางยังคงงดงามเหมือนที่เขาจำได้ ใบหน้าขาวนวลนั้นดูสงบเสงี่ยม แต่ดวงตากลับหลบเลี่ยงไม่สบกับเขาตรง ๆ

"ถวายพระพรองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ"

อวี้หลิงหรงที่ได้ยินฉินเฉินอวี้กล่าวเช่นนั้น ก็รู้ดีว่าต้องวางตัวอย่างไร นางถอยหลังไปเล็กน้อย ย่อตัวทำความเคารพด้วยท่าทีสง่างามและอ่อนช้อย 

"หม่อมฉันถวายพระพรองค์รัชทายาทและพระชายาเพคะ" นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบตามธรรมเนียม แต่ไม่ก้มหัวจนเกินงาม

องค์รัชทายาทพยักหน้ารับเบา ๆ "เจ้ากับน้องสะใภ้เข้าเฝ้าเสด็จพ่อเสร็จแล้วหรือ"

ฉินเฉินอวี้ค้อมศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงนอบน้อมตามธรรมเนียม "พ่ะย่ะค่ะ"

เว่ยลี่หลินที่ยืนอยู่ข้างองค์รัชทายาทเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคู่นั้นจ้องไปที่ฉินเฉินอวี้ ความซับซ้อนในสายตาของนางก็ไม่อาจปิดบังได้

"พระชายาของเจ้า.." องค์รัชทายาทตรัสขึ้น พร้อมกับแย้มพระโอษฐ์เล็กน้อย "ช่างงดงามและสง่าเหมาะสมกับเจ้ายิ่งนัก" น้ำเสียงราบเรียบนั้นฟังคล้ายคำชม แต่แฝงนัยที่ยากจะจับต้อง

คำพูดขององค์รัชทายาทและฮ่องเฮาคล้ายคลึงกันราวกับแกะ เจตนาที่พวกเขากล่าวเช่นนั้นก็เพื่อเหยียดหยามฉินเฉินอวี้ ไยนางจะดูไม่ออก 

สำหรับที่นี่แล้วตัวตนของนางนั้นมิได้สูงส่งไปกว่าบ่าวไพร่ในเรือน นางเป็นเพียงเชลยจากแคว้นที่อ่อนแอเท่านั้น

"ขอบพระทัยในคำชมของพระเชษฐา" ฉินเฉินอวี้ตอบกลับ แต่สีหน้าของเขาเย็นชาดุจเดิม

เว่ยลี่หลินหันมาทางอวี้หลิงหรง ดวงตาของนางสำรวจอีกฝ่ายอย่างละเอียด ก่อนจะคลี่ยิ้มบาง ๆ 

"พระชายาหกดูสงบเงียบและนอบน้อมยิ่งนัก" แม้คำพูดจะฟังดูอ่อนหวาน แต่ในน้ำเสียงของนางกลับแฝงด้วยความเย็นชาเล็ก ๆ ที่ยากจะปกปิด

อวี้หลิงหรงไม่หวั่นไหวต่อบรรยากาศนั้น นางเพียงยิ้มบาง ๆ และกล่าวตอบ "ขอบพระทัยในคำชมเพคะ"

การสนทนาระหว่างพี่น้องและชายาทั้งสองเต็มไปด้วยคำพูดสุภาพ แต่กลับแฝงด้วยความตึงเครียดที่ไม่มีผู้ใดเอ่ยออกมา ฉินเฉินอวี้เหลือบมองเว่ยลี่หลินแวบหนึ่ง ก่อนจะเบนสายตากลับมา

"กระหม่อมกับพระชายาขอตัวก่อนพ่ะย่ะค่ะ เสด็จแม่ยังรออยู่"

องค์รัชทายาทไม่ได้ตอบสิ่งใดกลับมา เขาเพียงพยักหน้าให้อย่างไม่ใส่ใจนัก

เมื่อเดินจากมา ฉินเฉินอวี้ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเบื้องหลัง เพราะเขารู้ดีว่า หากหันกลับไปแม้เพียงครู่เดียว ความทรงจำระหว่างเขากับเว่ยลี่หลินอาจถาโถมเข้ามามากเกินกว่าจะต้านทานได้

อวี้หลิงหรงที่เดินอยู่เคียงข้างยังคงเงียบงัน ราวกับไม่ได้รับรู้ถึงพายุในใจของเขา นางสงบนิ่งเยี่ยงสายน้ำที่ไร้ระลอกคลื่น ไม่ว่าในใจจะคิดสิ่งใด ก็ไม่มีผู้ใดล่วงรู้

“เจ้าจะไม่ถามอะไรเลยหรือ”

เสียงของเขาดังขึ้นทำลายความเงียบระหว่างคนทั้งสอง อวี้หลิงหรงเป็นสตรีที่เฉลียวฉลาด นางย่อมสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแปลกประหลาดระหว่างเขากับพระชายาเว่ย ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือ นางไม่เอ่ยถามอะไรเลยแม้แต่คำเดียว

นางชะงักเล็กน้อยพลางปรายตามองเขาด้วยแววตาที่อ่านได้ยาก แล้วเอ่ยถามกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“อยากให้ถามหรือเพคะ”

ฉินเฉินอวี้สบตาอวี้หลิงหรง ก่อนจะหลุดหัวเราะในลำคอ แม้นางจะตอบกลับด้วยถ้อยคำคุ้นเคย หากแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้รู้สึกว่านางกำลังรำคาญเขาเหมือนตอนที่นั่งอยู่ด้วยกันในรถม้า

เขาไม่รู้เลยว่าคำพูดเหล่านั้นของนาง มาจากความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น หรือเป็นเพียงความเฉยชาที่ไม่คิดจะแยแสอะไรอยู่แล้ว

ถึงกระนั้นเขาจะพยายามคิดในแง่ดีก็แล้วกัน

“หึ..ตอบสมกับเป็นเจ้าดี”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สตรีผู้นี้..เหนื่อยเกินไปแล้ว   บทที่64 นับอนันต์ (จบบริบูรณ์)

    หลังเหตุการณ์กบฏสิ้นสุดลง ชะตาชีวิตของหลายคนก็พลิกผัน แต่ชื่อของเว่ยลี่หลินกลับไม่ปรากฏอยู่ในบัญชีโทษของผู้ใด ด้วยเพราะนางมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเรื่องราวทั้งสิ้น นางเป็นเพียงหญิงสาวที่ถูกดึงเข้าสู่กระดานหมากใหญ่แห่งราชสำนัก โดยไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธหรือเลือกหนทางให้ตนเองราชโองการให้หย่าขาดจากอดีตองค์รัชทายาทฉินจื่อหยวนผู้ล่วงลับ ถูกประกาศออกมาในวันที่ฟ้าครึ้มฝน แม้นางจะรู้ว่าเรื่องนี้คงถูกนำไปนินทาอย่างสนุกปากจากบรรดาบุตรสาวขุนนาง แต่ถึงกระนั้น นางก็ยอมรับมันโดยสงบ แม้จะต้องทิ้งนามพระชายาที่เคยเป็นทั้งเกียรติและพันธนาการ แต่ก็แลกมาด้วยอิสรภาพที่นางโหยหามานานเว่ยลี่หลินกลับไปใช้สกุลเดิม “เว่ย” ตามเดิม บรรดาผู้คนในวังต่างนินทาว่านางคงตกต่ำลงแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดรู้ว่านางรู้สึกเบาใจขึ้นเพียงใด เมื่อไม่ต้องฝืนยิ้ม ไม่ต้องสวมหน้ากากให้ใครมองอีกต่อไปหลังจากนั้นไม่นาน นางก็เลือกที่จะหันหลังให้กับเมืองหลวงและออกเดินทางไปทั่วแว่นแคว้น โดยไม่มีรถม้าหรูหรา มีเพียงบ่าวรับใช้เก่าแก่สองคนและหีบเสื้อผ้าใบเล็ก ๆ ที่บรรจุของใช้เท่าที่จำเป็นผู้คนถามว่าสตรีผู้เคยเป็นถึงพระชายาองค์รัชทายาท จะไปที่ใด

  • สตรีผู้นี้..เหนื่อยเกินไปแล้ว   บทที่63 บุคคลที่คู่ควรกับความรัก

    หลังจากเหตุการณ์อันเลวร้ายและความสูญเสียผ่านพ้นไป ฤดูร้อนก็เวียนกลับมาอีกครั้ง พร้อมสายลมอบอุ่นและแสงแดดอ่อนที่ราวกับช่วยลบล้างความขมขื่นในหัวใจอวี้หลิงหรงในวัยครรภ์แก่ใกล้คลอดเต็มที ค่อย ๆ ก้าวลงจากรถม้าโดยมีมือของฉินเฉินอวี้คอยประคอง ดวงตานางทอดมองวังหลวงที่คุ้นเคยอย่างเงียบงัน ก่อนจะส่งยิ้มอ่อนบางให้พระสวามีของตนวันนี้เป็นวันมงคลของแผ่นดิน..วันแต่งตั้งฮองเฮาองค์ใหม่ และผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นมารดาแห่งแผ่นดินก็คือพระสนมสวี่ซิงเหยียน พระมารดาขององค์ชายหกภายในท้องพระโรงเต็มไปด้วยขุนนางชั้นสูง องค์ชาย องค์หญิง และเหล่าผู้มีบรรดาศักดิ์ต่างร่วมงานด้วยสีหน้าปีติยินดี เสียงพิณบรรเลงแผ่วเบาประกอบท่วงท่าแห่งพิธีอันสง่างามเมื่อพิธีเสร็จสิ้นลง องค์ฮ่องเต้ฉินเซิ่งหยวนและฮองเฮาสวี่ซิงเหยียนจึงทรงเรียกองค์ชายหกและพระชายาเข้าเฝ้าเป็นการส่วนตัว“อวี้เอ๋อร์... ข้ากับมารดาของเจ้าต่างเห็นพ้องกัน ว่าเจ้าคือผู้เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งองค์รัชทายาท” เสียงของฮ่องเต้ฉินเซิ่งหยวนดังขึ้นอย่างราบเรียบ ทว่าหนักแน่นและเปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นฉินเฉินอวี้นิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะค้อมกายลงด้วยความเคารพ แล

  • สตรีผู้นี้..เหนื่อยเกินไปแล้ว   บทที่62 บทสรุป

    เมื่อฉินจื่อหยวนตระหนักได้ว่าการดวลกับนางต่อไปมีแต่จะเสียเปรียบ เขาจึงหันสายตาไปยัง ฉินเฉินอวี้ที่ตอนนี้กำลังพยายามลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล ในจังหวะที่กระบี่ของอวี้หลิงหรงฟาดสวนมาทางเขาอีกครั้ง ฉินจื่อหยวนก็เบี่ยงตัวหลบ แล้วเปลี่ยนทิศทางของดาบในมือ พุ่งออกไปทางฉินเฉินอวี้ แต่ก่อนที่ดาบนั้นจะเข้าถึงตัวของชายผู้ที่บาดเจ็บจนแทบยืนไม่ไหว สตรีในชุดดำก็รีบเร่งฝีเท้าพุ่งตัวเข้ามาขวางทางอย่างไม่ลังเล"ไม่!!!" อวี้หลิงหรงกรีดร้องสุดเสียง นางพุ่งตัวออกไปเบื้องหน้าโดยไม่คิดชีวิต เพื่อที่จะสกัดกั้นคมดาบนั้นให้ได้ นางรู้ดีว่าตนไม่มีทางปัดป้องได้ทันเวลา และในครรภ์ของนางก็ยังมีชีวิตน้อย ๆ อยู่อีกหนึ่งคน ในชั่วพริบตาแห่งการตัดสินใจ นางปล่อยกระบี่ในมือลงกับพื้น ยื่นมือทั้งสองข้างออกไปรับคมดาบด้วยตัวเอง!เสียงฉีกขาดของเนื้อดัง ฉัวะ! โลหิตสีแดงฉานพุ่งกระเซ็นท่วมสองฝ่ามือ“กรี๊ด!!” เสียงกรีดร้องของอวี้หลิงหรงดังก้องสะท้อนทั่วลาน ฉินเฉินอวี้เงยหน้าขึ้นอย่างตื่นตระหนก สิ่งที่เห็นมีเพียงแผ่นหลังบาง ๆ ของนางที่ยืนขวางเขาเอาไว้ชั่วขณะนั้น..เวลาราวกับหยุดหมุนดวงตาคู่งามสั่นไหวด้วยความปวดร้าว มือทั้งสองที่เปื้

  • สตรีผู้นี้..เหนื่อยเกินไปแล้ว   บทที่61 การก่อกบฏ

    ค่ำคืนมืดครึ้มในวังหลวง ท้องฟ้าถูกบดบังด้วยเมฆทมิฬ เสียงสายลมหวีดหวิวกรีดผ่านยอดหลังคาตำหนักฟังแล้วชวนขนหัวลุก หิมะยังคงโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่องขณะที่แสงโคมไฟในวังริบหรี่ลงทุกขณะณ ตำหนักเฉียนชิงอันเป็นที่พำนักขององค์ฮ่องเต้ประตูไม้สลักลายมังกรปิดสนิท แผ่นหิมะเกาะขอบหลังคาเงียบงัน ใต้ผ้าห่มแพรแดงลายมังกรบนเตียงไม้แกะสลัก มีสองร่างนอนแนบชิดกันอย่างสงบนิ่ง ราวกับไม่รับรู้ถึงภัยเงาร้ายที่กำลังย่างกรายเข้ามาใกล้ทุกขณะเสียงฝีเท้าแผ่วเบาแทรกผ่านเสียงลม เงาร่างชุดดำกลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้นตามเงาเสา เงียบเชียบราวกับเป็นเพียงเงาจันทร์สาดทาบพื้น พวกมันลอบเข้ามาจากทางระเบียงด้านข้าง ดาบในมือแต่ละเล่มยังเปื้อนเลือดสดจากทหารยามเฝ้าเวรหนึ่งในนั้นยกดาบขึ้นสูงเหนือร่างบนเตียง ก่อนจะแทงลงกลางอกด้วยแรงทั้งหมดโดยไร้ซึ่งความลังเลทว่าร่างที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่มนั้นกับนิ่งเงียบไม่ไหวติง มือสังหารรีบกระชากผ้าห่มผืนใหญ่ออกอย่างรุนแรงภายใต้ผ้าห่ม ไม่ใช่ร่างของฮ่องเต้หรือพระสนมสวี่ แต่เป็นเพียงหมอนข้างที่ซ้อนกันอยู่ภายใต้ผ้าห่มเท่านั้น“กับดัก..?” เสียงพร่าของมือสังหารเพิ่งหลุดออกจากริมฝีปาก ก่อนที่เขาจะได้หันไป

  • สตรีผู้นี้..เหนื่อยเกินไปแล้ว   บทที่60 การตัดสินใจ

    หลังจากการประชุมวานนี้ องค์ฮองเฮาถูกกักบริเวณอยู่ในตำหนักอวี้ฮวา ตามพระราชโองการของฮ่องเต้ โดยให้เหตุผลว่าต้องรอการพิสูจน์ความบริสุทธิ์นาง ในขณะเดียวกัน นางกำนัลคนสนิทของฮองเฮากลับถูกลากตัวไปยังคุกหลวง ถูกทรมานเพื่อหาความจริง นางกรีดร้องปานวิญญาณหลุดจากร่าง เสียงนั้นสะท้อนอยู่ในห้องขังแคบ ๆ ส่วนทางด้านพระสนมสวี่ แม้นางจะเป็นสตรีที่ฮ่องเต้รักยิ่ง แต่ในยามนี้พระพักตร์ขององค์จักรพรรดิกลับเย็นชาดุจน้ำแข็งหลายวันมาแล้วที่พระสนมสวี่กินไม่ได้นอนไม่หลับ ใจของนางเหมือนถูกฉีกออกเป็นเสี่ยง ๆ ยามคิดถึงบิดาที่กำลังถูกจองจำในคุกหลวง ด้วยใจระทมทุกข์ นางจึงรวบรวมความกล้าขอเข้าเฝ้าฮ่องเต้เพื่อทูลขอพระราชทานอนุญาตให้ตนเข้าเยี่ยมบิดาแต่องค์จักรพรรดิก็หาได้เหลียวแลไม่ “ขอฝ่าบาทเมตตา..” พระนางคุกเข่าท่ามกลางลมหนาว หยดน้ำตาของพระสนมคล้ายหยาดพิรุณตกต้องใจใครบางคน แต่ก็ไม่อาจทะลุม่านเย็นชาของผู้เป็นกษัตริย์ได้หิมะค่อย ๆ โปรยปรายลงมา ท่ามกลางความเงียบงันของลานหน้าพระตำหนักเฉียนชิง สตรีผู้สูงศักดิ์ในชุดแพรบางสีครามยังคุกเข่าอยู่กับพื้น หยดน้ำตาไหลเงียบ ๆ ลงบนแก้มซีดเซียว“ฝ่าบาทรับสั่งให้ข้าน้อยมาทูลว่า

  • สตรีผู้นี้..เหนื่อยเกินไปแล้ว   บทที่59 การประชุมที่ท้องพระโรง

    ภายในท้องพระโรงอันโอ่อ่า บรรยากาศตึงเครียดจนแทบสัมผัสได้ เสนาบดีเจียงยืนอยู่เบื้องหน้าบัลลังก์ สีหน้าเคร่งขรึมแฝงไปด้วยความมั่นใจ เขากำลังกล่าวถ้อยคำฟังดูหนักแน่นแต่เต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบาย“กระหม่อมเห็นว่า...การมีโรงกษาปณ์เถื่อนตั้งอยู่ในหมู่บ้านชิงหลินซึ่งอยู่ในเขตปกครองของสกุลสวี่ ย่อมบ่งชี้ถึงความพยายามในการสะสมกำลังและท้าทายราชอำนาจ เรื่องนี้ไม่อาจมองข้าม หากไม่สอบสวนให้ถึงที่สุด เกรงว่าความมั่นคงของแผ่นดินจะสั่นคลอนพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขุนนางหลายคนพากันพยักหน้ารับด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ขณะที่บางส่วนก็เหลือบมองกันไปมา ราวกับกำลังชั่งน้ำหนักระหว่างอำนาจของตระกูลสวี่และความแข็งแกร่งของกลุ่มเจียงระหว่างที่คำกล่าวหายังไม่สิ้นสุด เสียงฝีเท้ากึ่งเดินกึ่งวิ่งของขันทีคนหนึ่งก็ดังแทรกขึ้น ฝ่าฝืนความเงียบที่กดดันเขาเข้าไปกระซิบอย่างเร่งร้อนกับกงกงคนสนิทขององค์ฮ่องเต้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะหันมากระซิบรายงานเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงตื่นตัว“ฝ่าบาท..พระชายาขององค์ชายหก เสด็จมาพ่ะย่ะค่ะ ทรงกล่าวว่ามีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับหมู่บ้านชิงหลิน ที่ต้องทูลต่อหน้าพระพักตร์และเหล่าขุนนางทั้งหลาย”องค์ฮ่องเต้ชะงักเพียงเล็กน้อ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status