แชร์

๒ บุรุษผู้ใจดี

ผู้เขียน: วอลจู
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-14 01:57:11

ถึงสภาพของนางจะใบหน้าจะเปรอะเปื้อนสกปรกมากเพียงใดหรืออาภรณ์ขาดรุ่ยร่ายมีคราบเลือดติดแห้งจนส่งกลิ่นเหม็นแสบจมูก ทว่าเฟิ่งหมิงกับไม่แตะต้องหรืออยู่เกี่ยวกับร่างกายของสตรีผู้นี้แม้แต่ปลายนิ้ว

เขาเป็นแพทย์ทหารหน้าที่ของเขาคือรักษาผู้บาดเจ็บให้หายเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นหาใช่หน้าที่ที่ต้องทำ

ขณะเดียวกันนั้นภายในกระโจมหลังนี้กำลังมีบุรุษผู้นี้ยืนกอดอกขมวดคิ้วมุ่นสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ตลอดหลายวันที่ผ่านมานี้จินหัวเอาแต่ขบคิดว่าสตรีผู้นี้สำคัญจริง ๆ หรือ…เหตุใดถึงนำพากลับมาแล้ว

ทว่ายังไม่ทันข้ามวันก็ทิ้งไว้ข้างหลังส่วนผู้นำกลับมาโดยหายไปทันที

“เจ้าว่านางเป็นเมียกบฏจริงหรือไม่เฟิ่งหมิง” องครักษ์หนุ่มตามด้วยความสงสัย

หากสังเกตดูแล้วถึงใบหน้าของสตรีบนเตียงแม้ในยามนี้จะไม่น่ามองเท่าไหร่นัก แต่กับมีความงามให้เห็นอยู่เจ็ดส่วนเท่านั้น ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้ม คิ้วโก่งดั่งภูเขา ริมฝีปากที่ถึงแม้จะซีดเซียวราวกับซากศพทว่ากับอวบอิ่ม

เฟิ่งหมิงหรี่ตามอง “หาใช่เรื่องของข้าที่ต้องอยากรู้”

ไม่ว่าสตรีผู้นี้จะมีฐานะเป็นอะไรหรือมีความสำคัญมากเพียงใด หน้าที่ของเขาคือต้องรักษานางให้ฟื้นคืนเท่านั้น!

เพียงนึกถึงนัยน์แข็งกร้าวของผู้เป็นนายเมื่อหลายวันก่อนเฟิ่งหมิงพลันขนลุกซู่ จู่ ๆ จึงหันขวับไปมองอีกครั้ง“เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่ตรงนี้ไม่ใช่ตามติดแม่ทัพหลีเป็นเงามิใช่หรือไร”

พอนึกถึงเรื่องนี้จินหัวถอนหายใจเฮือกใหญ่ทันที

สายตาเพ่งมองสตรีบนเตียง “นั่นไงเหตุผลข้า” ก่อนจะ ชี้นิ้วไปยังเมียกบฏด้วยความหดหู่ “แล้วเหตุอันใดข้าต้องเฝ้านาง!”

เฟิ่งหมิงพยักหน้าเข้าใจ

“…..”

จากนั้นถึงเดินมาตบไหล่สหาย “เอาเถอะ! คิดดูว่านางมีความสำคัญมากเพียงไรถึงแม้ท่านแม่ทัพจะไม่อยู่ยังทิ้งเจ้าไว้คอยเฝ้านางไม่ห่าง”

จินหัวกลอกตามองบน กระแทกเสียงไม่พอใจ “เหอะ!”

เฟิ่งหมิงหัวเราะเสียงเย็น

“รักษาชีวิตเจ้าไว้ให้ดีจินหัว อีกไม่นานคงต้องเปลี่ยนจากดูแลผู้เป็นนายต้องมาตามประกอบคุณชายน้อยแทน”

!!!

พอได้ยินประโยคนี้องครักษ์ตกใจแทบเป็นลม “ไม่รู้หรือไรว่าแม่ทัพหลีรังเกียจสตรี” จินหัวแย้ง

“งั้นหรือ” เฟิ่งหมิงตอบก่อนจะปรายตาไม่พอสตรีบนเตียง

“…..”

“แล้วเหตุใดถึงพานางกลับมา?”

ครั้นเมื่อลืมตาขึ้นมา…ลู่อันพลันรู้สึกถึงความปวดร้าวเจ็บไปจนถึงกระดูกจนนัยน์เอ่อคลอด้วยน้ำตา แพขนตาสั่นระริก นางเริ่มหอบหายใจถี่ หัวใจเต้นกระหน่ำเร็วขึ้น ในห้วงของความทรงจำครั้งสุดท้ายนั้นนางกำลังวิงวอนร้องขอชีวิตกับบุรุษผู้หนึ่ง แต่เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ถูกของแหลมแทงเสียแล้วไม่รู้ว่ามาจากทิศทางใด

สายตาของนางพร่ามัว ลู่อันกะพริบตาตั้งสติ

จากนั้นจึงกวาดสายตามองรอบข้างไม่รู้ว่ายามนี้ตัวของนางนั้นกำลังอยู่ในสถานที่เช่นใดกัน

ภายในนี้ล้วนตกแต่งด้วยความเรียบง่าย โต๊ะน้ำชาตัวหนึ่ง เตียงอีกตัวหนึ่งเท่านั้น ทว่าสิ่งที่ทำให้นางต้องเริ่มหวาดกลัวนั้นคือหอกและดาบแหลมคมมากมายที่เรียงรายเป็นระเบียบ

ต้องเป็นกระโจมของหัวหน้าพวกกบฏแน่!

นางไม่อยากตกเป็นสตรีบำเรอของพวกคนชั่ว!

ด้วยสัญชาตญาณลู่อันลุกขึ้นจากเตียงด้วยความเร่งรีบ ความเจ็บปวดจากบาดแผลจึงแผ่ซ่านกระจายไปทั่วตัวอีกครั้ง จนต้องนอนลงดังเดิม ใบหน้าคนงามเหยเกด้วยความเจ็บ

“ฟื้นแล้วหรือ”

!!!

แย่แล้ว!

ความคิดของนางเป็นจริงไม่มีผิดเพี้ยน จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงทุ้มของบุรุษดังอยู่ไม่ห่าง

ลู่อันโอดครวญในใก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง จากนั้นจึงปรากฏร่างของบุรุษหล่อเหล่าผู้หนึ่งอยู่ตรงหน้า “ปล่อยข้าไปเถอะ” นางยังไม่อยากเป็นสตรีของผู้ใด

“ตื่นมาก็จำข้าไม่ได้แล้วงั้นหรือ”

เหตุใดน้ำเสียงนี้ฟังแล้วคุ้นหูนัก

บุรุษผู้นั้นช่วยนาง?

“ท่าน!” แท้จริงแล้วก็เป็นคนใจดีผู้นี้ แม้ถ้อยคำในครานั้นที่นางได้ยินจะโหดเหี้ยมเพียงใดก็ตามสุดท้ายแล้วเขาช่วยนางไว้

หลีหลงเว่ยยื่นอยู่หน้ากระโจม สายตายังคงจับจ้องเรือนร่างของสตรีผู้นั้นไม่มีจิตใจจะเข้าไปช่วย “หากไม่ข้าแล้วจะเป็นผู้ใด” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นนิ่ง ๆ ก่อนจะหยุดอยู่ข้างเตียง

“…..”

น้ำเสียงแห้งเหือดผู้ขึ้น “ขอบคุณ..”

หลีหลงเว่ยไม่ได้ต้องการคำเอ่ยขอบคุณ ทั้งชีวิตนี้เขาล้วนได้รับมันมามากพอแล้ว

“ข้าช่วยชีวิตเจ้าให้รอดพ้นจากความตาย แล้วแม่นางมีอันใดจะตอบแทนข้าหรือ” มุมปากหนาหยักยิ้มเจ้าเลห่

แต่ถึงแบบนั้นในใจของหลีหลงเว่ยก็ยังคงไม่ชมชอบสตรี ซ้ำนางยังอยู่ห่างไกลจากความงามในความคิดของแม่ทัพหนุ่ม

ลู่อันมองตาปริบ ๆ ไม่รู้จะเอ่ยอันใด เกิดควาทรู้สึกระอักกระอ่วนในใจ “ท่านต้องการให้ข้าทำสิ่งใดตอบแทนเล่า” รอยยิ้มเจื่อน ๆ ปรากฏบนใบหน้าน

ทั่วทั้งใต้หล้านี้นางโดดเดี่ยวไร้คนข้างกาย ไม่ว่าจะครอบครัวหรือพี่น้อง…ย่อมบาดเจ็บล้มตายไปหมดสิ้น มีคนช่วยชีวิตไว้ก็ดีมากแล้ว

“ขออภัยขอรับ!”

น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยขึ้นของคนผู้หนึ่ง เฟิ่งหมิงเร่งปรี่พุ่งตรงเข้ามาไม่คาดคิดว่าจะพบเจอแม่ทัพหลีหรือขัดจังหวะของคนทั้งคู่ซ้ำยังไม่รู้จะต้องใจสิ่งใดก่อน เมื่อพบว่าสตรีที่เขารักษามาอย่างยากลำบากฟื้นคืนชีพแล้ว

หลีหลงเว่ยปรายตามอง “ฝีมือไม่เลว” แม่ทัพหนุ่มออกปากชมแพทย์ทหารของตน

เฟิ่งหมิงคนผู้นี้นับว่าเป็นทายาทสายตรงของท่านหมอที่เขารู้จักมาเนิ่นนานและฝีย่อมเทียบเคียงเสมือนเป็นคน ๆ เดียว “เกรงว่าผู้ตาเฒ่านั้นคงภูมิใจในตัวเจ้าไม่น้อย” หลีหลงเว่ยผู้ขึ้น

“แต่ข้าชอบดื่มสุรามากกว่ารักษาผู้คน” เฟิ่งหมิงตอบ

!!!

ลู่อันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ ๆ บุรุษแปลกหน้าก็พลันโน้มตัวเข้าใกล้ชิดนางเพียงนี้

“ขออภัยแต่ข้าเป็นหมอที่รักษาแม่นาง” เฟิ่งหมิง

“….” หลายครั้งหลายคราที่นางรอดมาได้ไม่ถูกจับไปเป็นสตรีบำเรอของพวกเดนทหาร นางจึงรู้สึกไม่ไว้วางใจคนผู้นี้

หลีหลงเว่ยพยักหน้า “คนผู้นั้นรักษาเจ้า”

ลู่อันนางไม่ปริปากอันใด สายตากำลังจ้องมองบุรุษแปลกหน้าผู้นี้ด้วยสายตาแน่นิ่งจนกระทั่งเฟิ่งหมิงตรวจดูบาดแผลเสร็จแล้วจึงขยับกายออกห่าง เอ่ยขอบคุณ “ขอบคุณคุณชาย” นางยกยิ้มเล็กน้อย

สำหรับเฟิ่งหมิงแล้วจะขอบคุณหรือไม่ เขาล้วนทำตามหน้าที่หาได้คิดเล็กคิดน้อย “ล้วนเป็นหน้าที่ของข้า”

สายตาของหลีหลงเว่ยยังคงจดจ้องบริเวณบาดแผลที่เริ่มสมานดีก่อนจะเลื่อนขึ้นไปเล็กน้อย อาภรณ์ของนางขาดรุ่ยร่ายเผยผิวขาวนวลดุจหิมะแรกมองดูแล้วช่างเย้ายวน

“อีกสามสี่วันนางก็หายแล้วขอรับ” เฟิ่งหมิงรายงาน

หลีหลงเว่ยเพียงพยักหน้าเท่านั้น

“ถอดเสื้อผ้าของเจ้าออกซะ!”

ลู่อัน “…..”

เฟิ่งหมิง “…..”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ   ๓๐ ผู้กุมอำนาจไว้ในมือ

    จวนหลีเคยเงียบสงบในยามนี้กับเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเจื้อยแจ้วของคุณหนูหลี หลีหลงเว่ยกลายเป็นบิดาที่อบอุ่นต่างจากคนในอดีตที่แข็งกร้าว ตั้งแต่ยามรุ่งสางจนอาทิตย์ตกดิน หลีหลงเว่ยโอบอุ้มบุตรสาวตัวน้อยเดินเล่นรอบจวนเหล่าบ่าวไพร่ทั้งหลายที่พบเอ็นต่างอมยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้ ผู้ใดไม่รู้บ้างว่านายท่านหลีหวงแหนคุณหนูหลี จนกระทั่งเมื่อถึงยามหลับนอหลีหลงเว่ยนจึงเป็นผู้เกลี่ยกล่อมเด็กน้อยนอนหลับในซบอก โดยไม่ต้องการร้องขอความข่วยเหลือจากแม่นมหรือแม้กระทั่งภรรยาตน แค่เพียงนางคลอดบุตรสาวน่ารักผู้หนึ่งออกมาให้เขาด้วยความยากลำบากก็เกินพอแล้ว “อวี้เหม่ยนางหลับไปแล้วหรือ” น้ำเสียงของผู้เป็นภรรยาเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นผู้เป็นสามีปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอก “วางนางลงบนเตียงแล้วปล่อยให้แม่นมดูแลเถอะ” ลู่อันเองก็จนปัญญาจะพูด บุรุษผู้นี้ลุ่มหลงและห่วงใจบุตรสาวจนเกิดเหตุไปแล้ว จนกระทั่งคลอดออกมาเกือบถึงแปดเดือนแล้วยังไม่ยอมให้ผู้ใดโอบอุ้มหรือกล่อมนอนทั้งสิ้น หลีหลงเว่ยพูด “นางคือบุตรสาวของข้า” “นางก็เป็นลูกข้าเช่นกัน” ลู่อันเท้าสะเอว จ้องมองบุรุษตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง แม่นมที่

  • สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ   ๒๙ เจ้าเม็ดถั่ว

    หลายเดือนต่อมา…ภายในวังหลวงล้วนตลบอบไปด้วยบรรยากาศที่สื่อความมงคล ทั่วทั้งวังหลวงถูกตกแต่งประดับประดาตกไปด้วยผ้าแพร สีแดงสดและโคมไฟที่แขวนเรียงรายอย่างประณีตงดงาม ความสว่างจากโคมไฟหลายร้อยดวงที่แขวนอยู่ทั่วบริเวณยิ่งแสดงถความยิ่งใหญ่ของงานแต่งงานฉีฮ่องเต้ยืนอยู่แท่งพิธีการหน้าบัลลังก์อย่างสง่างาม อาภรณ์ที่สวมใส่ล้วนเป็นสีแดงปักดิ้นทองลวดลายมังกรด้วยความวิจิตรประณีตสลับซับซ้อน ขับให้ใบหน้าดูสง่างามน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้นในยามที่สะท้อนแสงจากโคมไฟหลายร้อยดวงส่วนหงส์ที่เคียงข้างมังกรย่อมหญิงงามไม่แพ้กันสตรีต่างแคว้นที่ถูกนำมาเป็นเครื่องบรรณาการยุติความสงครามทางการเมืองย่อมถูกคำสบประมาท ดูหมิ่นและถูกครหา ไม่น้อยเลยทีเดียวทว่าทันทีที่นางปรากฏในชุดเจ้าสาวสีแดงเข้มปักลายดอกไม้และหงส์สีทองที่เปี่ยมไปด้วยความละเอียดอ่อนอย่างงดงาม ผ้าคลุมหน้าโปร่งบางที่ปิดบังใบหน้าของนางไว้เพียงบางส่วนยิ่งทำให้นางดูงดงามและลึกลับในคราเดียวกันช่างเหมาะสม!เหมาะสมราวกับกิ่งทองใบหยกจริง ๆเพียงชั่งพริบตาก็เกิดเสียงกึกก้องดังสนั่นไปในทิศทางเดียวกันทั้งสนิทว่าสตรีต่างแคว้ยผู้นี้งดงามยิ่งนัก เป็นที่น่าเชิญชู ของแค

  • สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ   ๒๘ ข่าวดี

    หลีหลงเว่ยคิดว่าถ้อยคำเมื่อครู่เป็นการยั่วยวนแต่ไฉนเลยพอกลับเข้ามาในห้องแล้ว นางถึงเอาแต่นั่งบนเตียงสายตากำลังจ้องมองเขาอย่างไม่วาง“ถอดอาภารณ์ของเจ้าออก” เขาออกคำสั่งในขณะที่ลู่อันยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ราวกับประโยคที่ได้ยินเมื่อครู่เป็นเพียงแค่ลมปากเท่านั้นพอเห็นว่านางยังคงนิ่งเฉย หลีหลงเว่ยจึงกระจ่างแจ้งในใจทันทีคิดว่านางยังคงเป็นห่วง สายตาคมกริบก้มมองบาดแผลก็จะเงยหน้าคิด“ข้าแผลนี้ช่างประไรหาได้สำคัญกับข้า”นางหรี่ตามอง “เฟิ่งหมิงบอกว่าท่านจงใจให้ตนเองถูกแทงงั้นหรือ” ความรู้สึกเป็นห่วงวันนั้นนางรู้สึกเสียดายจริง ๆ “ทึ่มทื่อ!” ก่อที่จะโยคหลังจากด่าทออีกฝ่ายความง่วงงุ่นยังคงไม่สาง ลู่อันยกมือปิดปากห้าวก่อนจะล้มตัวนอนราบบนเตียงมันทีหลีหลงเว่ยพลันทำตัวไม่ถูกราวกับว่าเขากำลังถูกภรรยาจับได้หลีหลงเว่ยยกยิ้มมุมปาก “เช่นนั้นข้าจะรู้ได้อย่างได้ว่าผู้ใดหวังหรือต่อข้าหรือต้องการสังหารข้าทิ้ง” เขาพูดพลางถอนอาภรณ์ออกจนเผยท่อนบนเปลือยเปล่านเห็นได้ว่านางเชิญชวนเขาแท้ ๆ แต่กลับเป็นฝ่ายถอยหนีด้วยความใจร้อน หลีหลงเว่ยกระโดดขึ้นเตียงก่อนจะคร่อมร่างของนางไว้ใต้เรือนร่างด้วยความรวดเร็วลู่

  • สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ   ๒๗ เรียกร้องความสนใจ

    ยังโชคดีที่นางตื่นมาทัน ไม่เช่นนั้นนางคงจะถูกใส่ใจร้ายบิดเยือนความจริงแน่ลู่หันจ้องมองเหนียวหนิงด้วยสายตาอาฆาต “เหตุใดถึงตามหาเรื่องข้าไม่ยอมปล่อยไปสักที” อีกใจหนึ่งนางก็เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายซ้ำยังไม่ได้อยากมีเรื่องกับผู้อื่นตลอดทั้งวัน ก่อนที่สายตา จะปรายไปมองบุรุษข้างกาย “เพราะท่าน! หลีหลงเว่ย!”จู่ ๆ ผู้กระทำผิดก็พลันกลายเป็นเขาเสียแล้วหลีหลงเว่ยขมวดคิ้วมุ่นแต่ใบหน้ากับมีรอยยิ้มจาง ๆ“นอกจากข้าแล้วเจ้ายังทุบตีผู้อื่นจนหัวแตกอีกหรือ” เขาย้อนถามพวกเหล่าบ่าวรับใช้ได้ยินเช่นนั้นจึงยกมือทาบอกอีกครั้ง เกรงว่าเหนียวหนิงนางคงจะประหม่าสตรีผู้นี้เกินไปแล้วเหนียวหนิงเลิกคิ้ว “เจ้าร้ายกาจจนถึงขั้นทำร้ายหลีหลงเว่ยเชียวหรือ!”ลู่อันก้าวเดินมาตรงหน้า “แม้แต่หลีหลงเว่ยยังต้องยอมข้าแล้วข้ายังมีอันใดต้องหวาดกลัวเจ้าหรือเหนียวหนิง” สายตาของนางกำลังไล่มองสตรีตรงหน้าด้วยความเหยียดหยาม “ไม่ว่าจะ ส่วนใด..ย่อมไม่อาจเทียบเคืองข้าได้”หลีหลงเว่ยปล่อยให้ลู่อันจัดการเรียกนี้ด้วยตนเอง เขาอยากจะรู้นักว่านางจะทำเช่นไรปล่อยไปหรือสังหารทิ้ง?เหตุการณ์ในตอนนี้ใหญ่โตชุลมุ่นวุ่นวายไม่น้อยคนเกือบทั่วทั้งจวนหลี

  • สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ   ๒๖ โกรธเคือง

    ลู่อันปิดประตูลงก่อนจะเดินมานั่งที่เตียงท่าทางไม่ค่อยสบายใจนัก พลันนึกถึงคำพูดของเฟิ่งหมิงและฉีฮ่องเต้เมื่อหลายวันที่ผ่านมา อำนาจจวนหลีอยู่ในมือนางแล้วแม้แต่หลีหลงเว่ยยัง ไม่กล้ายุ่งจริงเท็จอย่างไรนางไม่อาจแน่ใจได้“เจ้าอยากมีบิดาหรือไม่” มือน้อย ๆ ยกขึ้นลูบท้องของตนเอง พักหลังมานี้นางพูดพร่ำคนเดียวเช่นนี้อยู่บ่อยครั้งไม่ว่าผู้ใดพบเห็นล้วนซุบซิบว่านางนั้นสตรีฟั่นเฟือนเพราะโดนตีหัวครานั้นหาได้รู้ความจริงว่าในยามนี้นางกำลังตั้ครรภ์ทายาทสกุลหลีนางพลันถอนหายใจเฮือกใหญ่อาหารมื้อเที่ยงที่กินเข้าไปมากมายยังไม่ทันย่อยแต่กลับรู้สึกหิวอีกแล้ว ซ้ำยังมีความรู้สึกเหนื่อยล้าง่วงงุนแทบปรือตาไม่ขึ้น“เช่นนั้นพวกเรานอนกันเถอะ!”นางยกมือปิดปากพลางห้าว “เอาไว้ค่อยคิดถึงวันข้างหน้า ยามนี้มารดาต้องจะนอนแล้ว”หากฝืนไปก็รั้งแต่จะเหนื่อยล้าซ้ำยังคิดอันใดไม่ออก มิสู้นางนอนเอาพักผ่อนให้เต็มที่ยามตื่นมาค่อยว่ากันไม่ดีกว่าหรือ อีกทั้งหากวันไหนนางไม่ได้งีบนั้นพลันรู้สึกได้ว่าร่างกายไร้เรี่ยวแรงไม่ว่าขยับทำอย่างไรก็เกียจคร้านไปหมดทุกส่วน“ว่าให้ง่ายเช่นนี้ตลอดไป”นางยังพึมพำไม่หยุดอดคิดไม่ได้ส่าหากบุตรออกมาไม

  • สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ   ๒๕ บุรุษเจ้าเล่ห์

    หลีหลงเว่ยไม่ปริปากพูดอันใด สายตากำลังจ้องมองบุรุษตรงหน้านิ่ง ๆ และไม่ได้ลุกลี้ลุกลนแสดงอาการใด ๆ ให้จับผิดได้ทว่าองครักษ์ข้างกายกับมีสีหน้าตื่นตะหนกมีสีหน้าซีดเซียว“ช่วยได้หรือไม่” เป็นลู่อันที่เอ่ยขึ้นจะจงใจหรือพลาดพลั้งก็ช่างเถอะ ยามนี้ต้องช่วยเหลือรักษาชีวิตไว้ให้ปลอดภัยซะก่อนเฟิ่งหมิงพยักหน้าภายหลังสำรวจดูบาดแผลแล้วกลับไม่ได้ลึกอย่างที่คาดคิดไว้แต่กับโดนจุดสำคัญที่ขั้นเลือดไหลไม่หยุดเช่นนี้ เฟิ่งหมิงจัดการบดยาสมุนไพรประคบบาดแผลให้หยุดเลือดไว้ก่อนจะนำผ้าสีขาวมาคาดพันไว้หลายรอบจนกว่าจะรู้สึกแน่น“โชคดีที่บาดแผลไม่เข้มลึกหากแต่โดนจุดสำคัญ” เฟิ่งหมิงพูดโดยไม่ได้หันขึ้นไปมอง “เกรงว่าพวกที่แทงท่านแม่ทัพคงโง่งมเป็นพวกลูกเต่าในกระดอง”ถ้อยคำด่าทอเจ็บแสบเท่าเอาจินหัวกัดฟันกรอด กำมือแน่น “เหอะ! ท่านหมอช่างคาดการณ์ได้แม่นยำ”จินหัวเอ่ยขึ้นความผิดพลาดนี้ไม่ค่อยดีนัก หากร้ายแรงอาจจะถึงแก่ชีวิตของผู้เป็นนาย ในตอนนี้จินหัวได้แต่สำนึกผิดในใจ“หากไม่ตาบอดคงมองออกว่านี้เป็นการจงใจให้บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” เฟิ่งหมิงเงยหน้าขึ้นสบตาจินหัวด้วยสายที่ยากจะคาดเดาได้ ไม่ย่อมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status