แชร์

๓ หลีหลงเว่ย

ผู้เขียน: วอลจู
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-14 01:57:48

ลู่อันได้ยินแล้วจึงตกตระลึงร่างกายแข็งทื่อไม่กระจ่างแจ้ง นัยน์ตากลมโตจดจ้องบุรุษตรงหน้าด้วยท่าทางไม่ไว้วางใจสามส่วน “ข้า..ข้าคิดว่าท่านยังเป็นคนดีผู้หนึ่ง” น้ำเสียงหวานแฝงความผิดหวัง

เป็นนางที่หลงเชื่อคนง่ายไปหรือมองคนไม่ออกกันแน่

“เกรงว่าบาดแผลที่กำลังจะสมานคงแย่ลงขอรับ” เฟิ่งหมิงพูด เขาหาได้จะช่วยเหลือนางแต่ตอนนี้เขากำลังช่วยตนเองต่างหาก

เพียงแค่งานภายในค่ายทหารที่ต้องรักษาคนป่วยไม่เว้นวันก็วุ่นวายพอแล้วไหนเลยจะต้องสละเวลาพักผ่อนร่ำสุรามารักษาสตรีผู้นี้ไม่จบสิ้น

หลีหลงเว่ยหันขวับมอง “ออกไป!” น้ำเสียงทุ้มออกคำสั่ง

“……” เฟิ่งหมิงถอนหายใจ

ผู้มีฐานะต่ำกว่าหรือจะต่อรองได้

ในกระโจมหลังนี้จึงเหลือเพียงนางและบุรุษผู้หน้าเนื้อใจเสือเท่านั้น “ได้โปรดอย่าทำอันใดข้าเลย” ร้องวิงวอนของความเมตตาจากเขาอีกครั้ง

มุมปากหน้าหยักยิ้ม “ข้าไม่เคยบอกว่าตนเองเป็นคนดี”

หลีหลงเว่ยค่อย ๆ ก้าวเท้าตามสตรีตรงหน้าขณะที่นางกำลังเดินถอยหลังหนี “รู้หรือไม่ว่าข้าสังหารคนมานับไม่ถ้วนแล้ว” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาราวกับภาคภูมิใจ

ลู่อันส่ายหน้า ความหวาดกลัวเริ่มกัดกินจิตใจอีกครั้ง

แม่ทัพหนุ่มหัวเราะเสียงเยือกเย็น

พรึ่บ!

เพียงพริบตาเดียวกันนั้น หลีหลงเว่ยพลันคว้าอาภรณ์ผืนหนึ่งจากหีบผ้าโยนใส่สตรีตรงหน้าไม่แรงนัก “ถือว่าเป็นความเมตตาจากข้า” สตรีผู้นี้ไม่รู้หรือไรว่าทั่วทั้งกองทหารเต็มไปด้วยบุรุษไหนเลยจะสวมใส่อาภรณ์ขาดรุ่ยร่ายยั่วยวนบุรุษเพศได้

นางได้แต่มองตาปริบ ๆ ขมวดคิ้วมุ่น

“ว่ากันว่าสตรีเป็นสิ่งที่หายากกว่าทองคำในยามสงคราม”

ลู่อันพยักหน้าเห็นด้วย สองมือกอบผ้าไว้แน่น

“สถานที่แห่งนี้คือค่ายทหารล้วนเต็มไปด้วยบุรุษดิบเถื่อนมากมาย หากเจ้าอยากออกไปล่อลวงหรือปนเปรอคนพวกนั้นย่อมขึ้นอยู่กับเจ้า” หลีหลงเว่ยกล่าวด้วยความรำคาญ

ก่อนที่จู่ ๆ จะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “เช่นนั้นก็ดีไม่น้อยบุญคุณช่วยชีวิตเจ้าจะได้ตอบแทน”

ลู่อันเบิกตากว้าง พลางกล่าว “ขอบคุณ! แต่ข้าเพียงแค่อยากตอบแทนบุญคุณท่านที่ช่วยชีวิตข้าไว้เท่านั้น” นางยืนกราดด้วยน้ำเสียงหนักเน้น “งานทุกอย่างข้าล้วนทำได้…” ก่อนจะค่อย ๆ ช้อนสายตามองบุรุษตรงหน้า

“ขอเพียงเรื่องนั้นเกี่ยวข้องกับท่าน”

หลีหลงเว่ยได้ยินแล้วภายในใจพึงพอในคำตอบเหลือเกิน

แม้นิสัยและวาจาแข็งกระด้างแต่ยังคงเป็นคนดี

นั้นความความคิดของนางยามมองบุรุษตรงหน้า

“ตามใจเจ้า” ถือว่าเขายื่นข้อเสนอให้นางแล้ว

ยามค่ำคืนแสงจันทร์ทราลอยเด่นสาดส่องแสงสว่าง บนท้องฟ้าปรากฏแสงระยิบระยับของกลุ่มหมู่ดาวประดับประดาเคียงข้าง

ภายใต้บรรยากาศที่เงียบสงบแต่สายลมพัดผ่านมาเบา ๆ หอบเอาความหนาวเหน็บและกลิ่นคาวเลือดจากสมรภูมิรบพลันให้หวนนึกถึงเสียงร้องโหยหวนและเสียงคมดาบฆ่าฟันกัน

ค่ำคืนนี้ค่ายทหารจึงจัดการดื่มสุราคลายหนาวซ้ำยังปลุกใจเหล่าทหารกล้าที่เริ่มอ่อนแรงลง หวังเพียงว่าสุราแรงจะช่วยลบเลือนความรู้สึกย่ำแน่เหล่านี้ได้

“ดื่ม!”

“แม้สุรารสฝาดยังต่อดื่มต่อไป!”

จินหัวยกสุราไหใหญ่ลุกขึ้นยืน สายตากวาดมองเหล่าทหารกล้าที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าเต็มที “พรุ่งนี้ยังต้องสังหารพวกมันให้หมดสิ้น” หากแต่หน้าที่ของทหารที่ปกป้องแคว้นยังคงต้องทำสงครามไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ชัยชนะสงคราม

“ดื่มหมดไห!”

ภายหลังประโยคปลุกใจเหล่าทหารจึงตะโกนโห่ร้องสนุกสนานพลันคลายความเหนื่อยล้า หลงลืมความคิดถึงบ้านและครอบครัวที่จากมาไกลชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น

ขณะเดียวกันนั้นเอง ตรงตรอกข้างกระโจมมุมลับมุมหนึ่งที่หลีกเลี่ยงสายตาของผู้คนมากมาย ลู่อันโผล่หน้าออกมาลอบสังเกตเมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงออกมาจากกระโจม ทันใดนั้นสายตามองเห็นสบเข้ามาบุรุษผู้นั้นจึงเอ่ยขึ้น“ข้านั่งด้วยได้หรือไม่”

“…..” หลีหลงเว่ยปรายสายตาอมอง

ในเมื่อบุรุษผู้นั้นไม่ตอบและไม่ได้ออกมาขับไล่ ลู่อันจึงถือว่าเขาอนุญาตแล้ว “ข้าชื่อลู่อันไม่มีแซ่” นางระบายยิ้มจาง ๆ ถึงอย่างไรก็สมควรรู้จักกันไว้

นางจึงค่อย ๆ นั่งลงข้าง ๆ ทันใดนั้นก็มีไหสุราหนึ่งยื่นมาตรงหน้าราวกับคาดการไว้แล้ว

“ข้าไม่ดื่ม” นางปฏิเสธ

มุมปากหนาหยักยิ้ม “สุราแรงคลายหนาว” แม่ทัพหนุ่มเอ่ยออก เขามาหาแต่งเติมเรื่องราวเพื่อต้องการมอมเมานาง

ลู่อันชั่งใจครู่หนึ่งก่อนรับไหสุรามาพลันมองสลับกันกับบุรุษข้างกาย “มีจอกให้ข้าหรือไม่”

นางที่ใช้ชีวิตที่นี้รู้สึกได้อากาศว่าเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว พอเข้าหนาวก็หนาวจึง ๆ จนเย็นสะท้านถึงกระดูกถึงขั้นหากไร้ผ้านวมอุ่น ๆ สักผืนคงได้แข็งกระด้างตาย ลู่อันสูดจมูกทีหนึ่ง

หลีหลงเว่ยตอบ “ไม่มี” เขาเองก็เป็นทหารผู้หนึ่งที่อยู่ท่ามกลางสงครามไหนเลยจะพิถีพิถันในการใช้ชีวิต

“……”

“ไม่ทราบว่าคุณชายชื่อแซ่อะไรหรือ” นางจึงถามประโยคแรกอีกครั้ง

หลีหลงเว่ยไม่ตอบ มองไปทิศทางอื่น “ระวังตัวเจ้าไว้ให้ดี คนพวกนี้ไม่สนว่าเจ้าจะเป็นคุณหนูจากบ้านไหน”

ทันที่ที่ลู่อันมองตามสายตาคู่นั้นไป นางกลืนน้ำลายอึกใหญ่คำขู่ของเขาทำเอานางหวาดระแวงไม่น้อย

“หากเจ้าอยู่ห่างข้างก็เท่ากับว่าไม่ปลอดภัย”

ดวงตาเมล็ดซิ่งยังคงจ้องมองเหล่าทหารตรงหน้าราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ จากครู่ต่อมาจึงยกไหสุรากระดกดื่มอึกใหญ่ย้อมใจทันที

หลีหลงเว่ยปรายมองด้วยสายตานิ่ง ๆ ยามที่สุราไหลรินออกมาผ่ารลำคอระหงษนั้น…นี้เป็นการจงใจยั่วเย้าเขาใช่หรือไม่

“อึก! อึก!” จนกระทั่งหมดไห

ตั้งแต่เกิดมานางไม่เคยดื่มสุรามาก่อน คราแรกรับรสได้ถึงความขมฝาดทว่าต่อมาจึงเป็นรสหวาน

หลีหลงเว่ยยังมองไม่ลดละสาย

“สุรารสหวาน!” นางหันไปมองบุรุษข้างกาย รอยยิ้มประดับบนใบหน้าถึงดวงตาคู่งาม

“งั้นหรือ?” หลีหลงเว่ยเลิกคิ้ว

ลู่อันพยักหน้า “มีอีกหรือไม่” เมื่อได้ลิ้มลองแล้วย่อมไม่อาจยับยั้งได้ นางเอนเอียงใบหน้าถามโดยไม่รู้ตัวเลยว่ากระทำเช่นนั้นทำให้น่าเอ็นดูเพียงใด

หลีหลงเว่ยคว้าอีกไหให้นางอีก“ย่อมมีให้เจ้าดื่มจนถึงเช้า”

ใบหน้าคนงามเริ่มเห่อร้อนด้วยฤทธิ์สุราจนขค้นสีแดงระเรื่อร่างกายพลันรับรู้ได้ถึงความอุ่นซ่าที่แผ่กระจายทั่วร่างทันที

นางยกถาม “ไหนี้ยกให้ข้าใช่หรือไม่” จู่ ๆ นางก็กลายเป็นพวกขาดสุราไม่ได้แล้วหรือ

“…..” สายตาคมกริบยังคงจดจ้องใบหน้าคนงามไม่วางตา

“หลีหลงเว่ย” ลู่อันถามอีกครั้ง

หลีหลงเว่ยได้สติจึงพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ

เมื่อได้ยินเช่นนี้ นางจึงยกยิ้มพึงพอใจทันที

“สุราไหนี้สำคัญกว่าข้างั้นหรือ”

“ใช่!”

ดวงตากลมโตเสมือนกับกระต่ายน้อยตัวหนึ่ง ลิ้มฝีปากอวบอิ่มที่พร่ำพูดไม่หยุด “ข้าขอชิมได้หรือไม่”

แน่นอนว่าย่อมได้!

นางพยักหน้าตอบพร้อมยื่นไหสุราให้

ทว่าสายตาของแม่ทัพหนุ่มกำลังจดมองริมฝีปากจองนางไม่กระพริบตาด้วยความรู้สึกหื่นนกระหาย

เขามิได้อยากดื่มสุราจากไห

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจู่ ๆ หลีหลงเว่ยถึงต้องการทำเช่นนี้ เมื่อสตรีตรงหน้าพยักหน้ายืนยัน ฝ่ามือหนาจึงรั้งท้ายทอยนางไว้โน้มหน้าประกบจูบทันที

สุราแรงรสขมปี๋แต่พอชิมจากปากนางเช่นนี้กลับหวานไม่น้อย

หลีหลงเว่ยพึงพอใจ “อื้ม!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ   ๓๐ ผู้กุมอำนาจไว้ในมือ

    จวนหลีเคยเงียบสงบในยามนี้กับเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเจื้อยแจ้วของคุณหนูหลี หลีหลงเว่ยกลายเป็นบิดาที่อบอุ่นต่างจากคนในอดีตที่แข็งกร้าว ตั้งแต่ยามรุ่งสางจนอาทิตย์ตกดิน หลีหลงเว่ยโอบอุ้มบุตรสาวตัวน้อยเดินเล่นรอบจวนเหล่าบ่าวไพร่ทั้งหลายที่พบเอ็นต่างอมยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้ ผู้ใดไม่รู้บ้างว่านายท่านหลีหวงแหนคุณหนูหลี จนกระทั่งเมื่อถึงยามหลับนอหลีหลงเว่ยนจึงเป็นผู้เกลี่ยกล่อมเด็กน้อยนอนหลับในซบอก โดยไม่ต้องการร้องขอความข่วยเหลือจากแม่นมหรือแม้กระทั่งภรรยาตน แค่เพียงนางคลอดบุตรสาวน่ารักผู้หนึ่งออกมาให้เขาด้วยความยากลำบากก็เกินพอแล้ว “อวี้เหม่ยนางหลับไปแล้วหรือ” น้ำเสียงของผู้เป็นภรรยาเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นผู้เป็นสามีปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอก “วางนางลงบนเตียงแล้วปล่อยให้แม่นมดูแลเถอะ” ลู่อันเองก็จนปัญญาจะพูด บุรุษผู้นี้ลุ่มหลงและห่วงใจบุตรสาวจนเกิดเหตุไปแล้ว จนกระทั่งคลอดออกมาเกือบถึงแปดเดือนแล้วยังไม่ยอมให้ผู้ใดโอบอุ้มหรือกล่อมนอนทั้งสิ้น หลีหลงเว่ยพูด “นางคือบุตรสาวของข้า” “นางก็เป็นลูกข้าเช่นกัน” ลู่อันเท้าสะเอว จ้องมองบุรุษตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง แม่นมที่

  • สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ   ๒๙ เจ้าเม็ดถั่ว

    หลายเดือนต่อมา…ภายในวังหลวงล้วนตลบอบไปด้วยบรรยากาศที่สื่อความมงคล ทั่วทั้งวังหลวงถูกตกแต่งประดับประดาตกไปด้วยผ้าแพร สีแดงสดและโคมไฟที่แขวนเรียงรายอย่างประณีตงดงาม ความสว่างจากโคมไฟหลายร้อยดวงที่แขวนอยู่ทั่วบริเวณยิ่งแสดงถความยิ่งใหญ่ของงานแต่งงานฉีฮ่องเต้ยืนอยู่แท่งพิธีการหน้าบัลลังก์อย่างสง่างาม อาภรณ์ที่สวมใส่ล้วนเป็นสีแดงปักดิ้นทองลวดลายมังกรด้วยความวิจิตรประณีตสลับซับซ้อน ขับให้ใบหน้าดูสง่างามน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้นในยามที่สะท้อนแสงจากโคมไฟหลายร้อยดวงส่วนหงส์ที่เคียงข้างมังกรย่อมหญิงงามไม่แพ้กันสตรีต่างแคว้นที่ถูกนำมาเป็นเครื่องบรรณาการยุติความสงครามทางการเมืองย่อมถูกคำสบประมาท ดูหมิ่นและถูกครหา ไม่น้อยเลยทีเดียวทว่าทันทีที่นางปรากฏในชุดเจ้าสาวสีแดงเข้มปักลายดอกไม้และหงส์สีทองที่เปี่ยมไปด้วยความละเอียดอ่อนอย่างงดงาม ผ้าคลุมหน้าโปร่งบางที่ปิดบังใบหน้าของนางไว้เพียงบางส่วนยิ่งทำให้นางดูงดงามและลึกลับในคราเดียวกันช่างเหมาะสม!เหมาะสมราวกับกิ่งทองใบหยกจริง ๆเพียงชั่งพริบตาก็เกิดเสียงกึกก้องดังสนั่นไปในทิศทางเดียวกันทั้งสนิทว่าสตรีต่างแคว้ยผู้นี้งดงามยิ่งนัก เป็นที่น่าเชิญชู ของแค

  • สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ   ๒๘ ข่าวดี

    หลีหลงเว่ยคิดว่าถ้อยคำเมื่อครู่เป็นการยั่วยวนแต่ไฉนเลยพอกลับเข้ามาในห้องแล้ว นางถึงเอาแต่นั่งบนเตียงสายตากำลังจ้องมองเขาอย่างไม่วาง“ถอดอาภารณ์ของเจ้าออก” เขาออกคำสั่งในขณะที่ลู่อันยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ราวกับประโยคที่ได้ยินเมื่อครู่เป็นเพียงแค่ลมปากเท่านั้นพอเห็นว่านางยังคงนิ่งเฉย หลีหลงเว่ยจึงกระจ่างแจ้งในใจทันทีคิดว่านางยังคงเป็นห่วง สายตาคมกริบก้มมองบาดแผลก็จะเงยหน้าคิด“ข้าแผลนี้ช่างประไรหาได้สำคัญกับข้า”นางหรี่ตามอง “เฟิ่งหมิงบอกว่าท่านจงใจให้ตนเองถูกแทงงั้นหรือ” ความรู้สึกเป็นห่วงวันนั้นนางรู้สึกเสียดายจริง ๆ “ทึ่มทื่อ!” ก่อที่จะโยคหลังจากด่าทออีกฝ่ายความง่วงงุ่นยังคงไม่สาง ลู่อันยกมือปิดปากห้าวก่อนจะล้มตัวนอนราบบนเตียงมันทีหลีหลงเว่ยพลันทำตัวไม่ถูกราวกับว่าเขากำลังถูกภรรยาจับได้หลีหลงเว่ยยกยิ้มมุมปาก “เช่นนั้นข้าจะรู้ได้อย่างได้ว่าผู้ใดหวังหรือต่อข้าหรือต้องการสังหารข้าทิ้ง” เขาพูดพลางถอนอาภรณ์ออกจนเผยท่อนบนเปลือยเปล่านเห็นได้ว่านางเชิญชวนเขาแท้ ๆ แต่กลับเป็นฝ่ายถอยหนีด้วยความใจร้อน หลีหลงเว่ยกระโดดขึ้นเตียงก่อนจะคร่อมร่างของนางไว้ใต้เรือนร่างด้วยความรวดเร็วลู่

  • สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ   ๒๗ เรียกร้องความสนใจ

    ยังโชคดีที่นางตื่นมาทัน ไม่เช่นนั้นนางคงจะถูกใส่ใจร้ายบิดเยือนความจริงแน่ลู่หันจ้องมองเหนียวหนิงด้วยสายตาอาฆาต “เหตุใดถึงตามหาเรื่องข้าไม่ยอมปล่อยไปสักที” อีกใจหนึ่งนางก็เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายซ้ำยังไม่ได้อยากมีเรื่องกับผู้อื่นตลอดทั้งวัน ก่อนที่สายตา จะปรายไปมองบุรุษข้างกาย “เพราะท่าน! หลีหลงเว่ย!”จู่ ๆ ผู้กระทำผิดก็พลันกลายเป็นเขาเสียแล้วหลีหลงเว่ยขมวดคิ้วมุ่นแต่ใบหน้ากับมีรอยยิ้มจาง ๆ“นอกจากข้าแล้วเจ้ายังทุบตีผู้อื่นจนหัวแตกอีกหรือ” เขาย้อนถามพวกเหล่าบ่าวรับใช้ได้ยินเช่นนั้นจึงยกมือทาบอกอีกครั้ง เกรงว่าเหนียวหนิงนางคงจะประหม่าสตรีผู้นี้เกินไปแล้วเหนียวหนิงเลิกคิ้ว “เจ้าร้ายกาจจนถึงขั้นทำร้ายหลีหลงเว่ยเชียวหรือ!”ลู่อันก้าวเดินมาตรงหน้า “แม้แต่หลีหลงเว่ยยังต้องยอมข้าแล้วข้ายังมีอันใดต้องหวาดกลัวเจ้าหรือเหนียวหนิง” สายตาของนางกำลังไล่มองสตรีตรงหน้าด้วยความเหยียดหยาม “ไม่ว่าจะ ส่วนใด..ย่อมไม่อาจเทียบเคืองข้าได้”หลีหลงเว่ยปล่อยให้ลู่อันจัดการเรียกนี้ด้วยตนเอง เขาอยากจะรู้นักว่านางจะทำเช่นไรปล่อยไปหรือสังหารทิ้ง?เหตุการณ์ในตอนนี้ใหญ่โตชุลมุ่นวุ่นวายไม่น้อยคนเกือบทั่วทั้งจวนหลี

  • สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ   ๒๖ โกรธเคือง

    ลู่อันปิดประตูลงก่อนจะเดินมานั่งที่เตียงท่าทางไม่ค่อยสบายใจนัก พลันนึกถึงคำพูดของเฟิ่งหมิงและฉีฮ่องเต้เมื่อหลายวันที่ผ่านมา อำนาจจวนหลีอยู่ในมือนางแล้วแม้แต่หลีหลงเว่ยยัง ไม่กล้ายุ่งจริงเท็จอย่างไรนางไม่อาจแน่ใจได้“เจ้าอยากมีบิดาหรือไม่” มือน้อย ๆ ยกขึ้นลูบท้องของตนเอง พักหลังมานี้นางพูดพร่ำคนเดียวเช่นนี้อยู่บ่อยครั้งไม่ว่าผู้ใดพบเห็นล้วนซุบซิบว่านางนั้นสตรีฟั่นเฟือนเพราะโดนตีหัวครานั้นหาได้รู้ความจริงว่าในยามนี้นางกำลังตั้ครรภ์ทายาทสกุลหลีนางพลันถอนหายใจเฮือกใหญ่อาหารมื้อเที่ยงที่กินเข้าไปมากมายยังไม่ทันย่อยแต่กลับรู้สึกหิวอีกแล้ว ซ้ำยังมีความรู้สึกเหนื่อยล้าง่วงงุนแทบปรือตาไม่ขึ้น“เช่นนั้นพวกเรานอนกันเถอะ!”นางยกมือปิดปากพลางห้าว “เอาไว้ค่อยคิดถึงวันข้างหน้า ยามนี้มารดาต้องจะนอนแล้ว”หากฝืนไปก็รั้งแต่จะเหนื่อยล้าซ้ำยังคิดอันใดไม่ออก มิสู้นางนอนเอาพักผ่อนให้เต็มที่ยามตื่นมาค่อยว่ากันไม่ดีกว่าหรือ อีกทั้งหากวันไหนนางไม่ได้งีบนั้นพลันรู้สึกได้ว่าร่างกายไร้เรี่ยวแรงไม่ว่าขยับทำอย่างไรก็เกียจคร้านไปหมดทุกส่วน“ว่าให้ง่ายเช่นนี้ตลอดไป”นางยังพึมพำไม่หยุดอดคิดไม่ได้ส่าหากบุตรออกมาไม

  • สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ   ๒๕ บุรุษเจ้าเล่ห์

    หลีหลงเว่ยไม่ปริปากพูดอันใด สายตากำลังจ้องมองบุรุษตรงหน้านิ่ง ๆ และไม่ได้ลุกลี้ลุกลนแสดงอาการใด ๆ ให้จับผิดได้ทว่าองครักษ์ข้างกายกับมีสีหน้าตื่นตะหนกมีสีหน้าซีดเซียว“ช่วยได้หรือไม่” เป็นลู่อันที่เอ่ยขึ้นจะจงใจหรือพลาดพลั้งก็ช่างเถอะ ยามนี้ต้องช่วยเหลือรักษาชีวิตไว้ให้ปลอดภัยซะก่อนเฟิ่งหมิงพยักหน้าภายหลังสำรวจดูบาดแผลแล้วกลับไม่ได้ลึกอย่างที่คาดคิดไว้แต่กับโดนจุดสำคัญที่ขั้นเลือดไหลไม่หยุดเช่นนี้ เฟิ่งหมิงจัดการบดยาสมุนไพรประคบบาดแผลให้หยุดเลือดไว้ก่อนจะนำผ้าสีขาวมาคาดพันไว้หลายรอบจนกว่าจะรู้สึกแน่น“โชคดีที่บาดแผลไม่เข้มลึกหากแต่โดนจุดสำคัญ” เฟิ่งหมิงพูดโดยไม่ได้หันขึ้นไปมอง “เกรงว่าพวกที่แทงท่านแม่ทัพคงโง่งมเป็นพวกลูกเต่าในกระดอง”ถ้อยคำด่าทอเจ็บแสบเท่าเอาจินหัวกัดฟันกรอด กำมือแน่น “เหอะ! ท่านหมอช่างคาดการณ์ได้แม่นยำ”จินหัวเอ่ยขึ้นความผิดพลาดนี้ไม่ค่อยดีนัก หากร้ายแรงอาจจะถึงแก่ชีวิตของผู้เป็นนาย ในตอนนี้จินหัวได้แต่สำนึกผิดในใจ“หากไม่ตาบอดคงมองออกว่านี้เป็นการจงใจให้บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” เฟิ่งหมิงเงยหน้าขึ้นสบตาจินหัวด้วยสายที่ยากจะคาดเดาได้ ไม่ย่อมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status