แชร์

๖ หนทางที่เปลี่ยน

ผู้เขียน: วอลจู
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-20 21:00:11

ในที่สุดยามนี้ก็มาถึง…

ภายในวังหลวงตอนนี้ล้วนประดับประดาตกแต่งไปด้วยโคมไฟสีทองและผ้าสีแดงที่สื่อถึงความมงคล

ฮ่องเต้หนุ่มนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรอย่างสง่าผ่าซ้ำมุมปากยังยกยิ้มเยาะ สงครามที่ยืดเยื้อมาเนิ่นนานหลายปีได้จบลงเสียทีพร้อมชัยชนะที่ได้นำกลับมา เกรงว่าต่อจากนี้คงไม่มีผู้ใดกล้าครหาหรือดูหมิ่นต่อต้านขัดขืนในอำนาจที่เขาได้รับมาโดยไม่ยุติธรรมอีก

แววตาคมกริบเปี่ยมด้วยอำนาจน่าหวั่นเกรงกวาดสายตาทั่วท้องพระโรงมองเห็นเหล่าทหารองครักษ์ยืนเรียงรายเป็นแถวสงบนิ่ง เหล่าพวกขุนนางบนล่างนั่งสงบเสงี่ยม

ฉีฮ่องเต้หัวเราะเสียงเย็น ริมสุราแรงลงจอกก่อนจะยกดื่ม

“ยังจะมีผู้ใดบังอาจกล้าข่มขู่ขัดข้าอีกหรือไม่” ฉีฮ่องเต้พึมพำกับขันทีและเหล่าองครักษ์ข้างกาย

การผลัดเปลี่ยนที่นั่งบัลลังก์อย่างรวดเร็ว ฮ่องเต้หนุ่มต้องเผชิญหน้ากับคำดูถูกและสายตาที่ดูแคลนเหยียดหยามมากมายเพียงเพราะหาใช่รัชทายาทโดยชอบธรรมแต่ตลอดเวลาที่นั่ง บัลลัลก์มา ฉีฮ่องเต้กลับไม่เคยหวั่นเกรงกลัวผู้ใดแม้แต่สักคน และชัยชนะที่ได้จากสงครามครานี้กับยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งทั้งยังเสริมอำนาจในมือที่ไม่มีผู้ใดการต่อกรได้อีก

ค่ำคืนนี้ภายในวังหลวงเปี่ยมไปด้วยเสียงดนตรีและความสนุกสนาน เหล่านักดนตรีประจำราชสำนักบรรเลงเพลงโดยมีเหล่าสาวงามสวมใส่อาภรณ์ผืนบางยามออกร่ายรำดูยั่วยวน

สายตาของฉีฮ่องเต้จดจ้องพวกนางด้วยความอารมณ์ดี

“มาแล้วหรือ”

ขณะเดียวกันฉีฮ่องเต้พลันเห็นบุรุษที่คุ้นตาเดินเข้ามาด้วยท่าทางสง่างาม

มองดูช่างคล้ายกับเทพสงคราม

เหล่าขุนนางที่อวดเบ่งทั้งหลายได้แต่หลบสายตาไม่กล้า จดจ้องแม่ทัพหนุ่มตรงหน้า เกรงว่าคำครหาและสบประมาทเมื่อหลายเดือนก่อนจะถูกล้างแค้นยังไม่สาย

สายตาคมกริบของแม่ทัพหนุ่มเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย มุมปากเยาะยิ้มด้วยความสมเพช

จู่ ๆ ฉีฮ่องเต้พูดขึ้น“สุราไหนี้รสชาติดีนัก!”

“มิสู้สุราในสนามรบของข้า” หลีหลงเว่ยกล่าวถ้อยคำอย่างตรงไปตรงมาโดยไร้ความหวั่นเกรงฮ่องเต้ผู้นี้

ฉีฮ่องเต้หัวเราะเสียงเย็น เสมือนเป็นเรื่องตลก “หากได้ร่ำสุรากับสหายคงดีไม่น้อย”

หลีหลงเว่ยตอบเสียงแข็ง “ซู่กั๋วกงฉีเชียวสหายของข้าผู้นั้นตายไปแล้ว”

“ถ้อยคำของเจ้าร้ายกาจยิ่งนักหลงเว่ย”

แท้จริงแล้วคนผู้นี้คือหลีหลงเว่ยสหายของฉีฮ่องเต้ยามที่ยังคงมีตำแหน่งเป็นเพียงซู่กั๋วกงฉีเชียว

ฉีฮ่องเต้เลย “เจ้าจะทิ้งข้าไปอีกคนงั้นหรือ”

“หากเป็นเช่นนั้นปานนี้ข้าคงได้ใช้ชีวิตเป็นบุรุษจอมเสเพลนั่งดื่มสุราที่จวนไปวัน ๆ ไหนเลยจะลุกขึ้นมาหยิบดาบ” กลับมาครานี้สหายวัยเยาว์ของหลีหลงเว่ยแปรเปลี่ยนไปแล้ว

ทั้งฐานะและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ

ทว่าข้าหลังบุรุษผู้นั้นน่อมมีเขาหนึ่งก้าว

“เช่นนั้นข้าคงตกมอบรางวัลให้ท่านแม่ทัพอย่างงาม”

“ของสำคัญของเจ้า” หลีหลงเว่ยไม่สนใจโยนม้วนกระดาษหนึ่งลงบนพื้นตรงหน้าของฉีฮ่องเต้ “รู้หรือไม่กว่าจะได้กระดาษแผ่นนี้มานั้นข้าต้องสังหารผู้คนไปมากเท่าไหร่

ฉีฮ่องเต้ยักไหล่มีท่าทางไม่สนใจ ขอเพียงให้ได้ในสิ่งที่ต้องการก็พอแล้ว “เจ้าทำได้ดี”

หลีหลงเว่ยไม่ต้องการคำเย่อยอเสแสร้ง การศึกในครานี้เขาเพียงทำตามหน้าที่เท่านั้น

ทันใดนั้นเพียงชั่วอึกใจฉีฮ่องเต้ก็มองเห็นเพียงแค่แผ่นหลังของสหานที่เดินจากไปแล้ว “ไม่ดื่มสุราสักไหก่อนหรือไรหลงเว่ย!”

“จวนหลีไม่ขาดแคลนสุรา”

“หรือเพราะที่นี้ไม่มีเมียกบฏผู้นั้น!”

“นางหาใช่เมียกบฏอย่างที่เจ้ากล่าว!” หลีหลงเว่ยกัด ฟันกรอด

ณ โรงหมอ

เฟิ่งหมิงมีความรู้สึกว่าสถานการณ์นี้จะไม่จบลงง่าย ๆ คาดว่าในภายภาคหน้าหากหลีหลงเว่ยยังไม่รู้จักถนอมสตรี เขาคงได้พบหน้านางบ่อยครั้งแน่

พอนึกถึงเรื่องนี้เฟิ่งหมิงจึงทอดถอนหายใจหนักอึ้ง

หลังกลับจากสนามรบชายหนุ่มมีความรู้สึกว่าสมควรพักผ่อนร่ำสุราและคลุกเคล้าสตรีให้สมกับที่ห่างหายไปนาน แต่ไฉนเลยเขากับต้องมาตัวติดอยู่ในโรงหมอนานหลายวันกัน!

บุรุษหนุ่มถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่พอใจ จนคนที่อยู่ด้วยพลันหดหู่

“เอาเถอะเฟิ่งหมิง! ถึงวังหลวงจะมีสุราและสตรีงามมากมายโรงหมอของเจ้าก็มีเช่นกัน” เดิมที่วันนี้เป็นวันเฉลิมฉลองชัยชนะแต่ตัวเอายังคงอยู่ที่นี้เฝ้าสตรีผู้นี้แทน!

จินหัวย่อมไม่พอใจแต่กลับไร้หนทาง

“ข้าขโมยมาจากจวนหลี” น้ำเสียงกล่าวภาคภูมิใจ

“มีเพียงสุรา” น้ำเสียงเย้ยหยัน เฟิ่งหมิงเลิกคิ้วถาม สายตามองด้วยความดูแคลน “สตรีงามของข้าอยู่ที่ใด”

จินหัวอำอึ้งไม่ไปเป็น “เปลี่ยนจากกลิ่นสตรีเป็นกลิ่นยาได้หรือไม่เล่า!” บุรุษผู้นี้ช่างเอาใจยากนิสัยคล้ายคลึงมิปานสตรีผู้หนึ่ง

เฟิ่งหมิงพลางส่ายหน้า หันไปจัดกาลงกำลังวุ่นวายทำความสะอาดบาดแผลให้สตรีที่นอนเตียง

“…..”

จินหัวได้แต่มองสหายนิ่ง ๆ “นางจะฟื้นเมื่อไหร่กัน”

ว่ากันตามตรงวันนั้นผู้เป็นนานสมควรจะเดินหนีปล่อยให้นางตานไปเสียไฉนถึงต้องโอบอุ้มนางมารักษาช่วยเหลืออักครั้ง หากอยากพิสูจน์ว่านางหาใช่นกส่วนหัวแล้วจะแก้ไขแต้งกับผู้ใดกัน

จู่ ๆ องครักษ์จึงเท้าสะเอว เพ่งมองนางครุ่นคิด “เจ้าว่าเพราะเหตุอันใดกันนายท่านถึงข่วยนาง”

เฟิ่งหมิงหยักไหล่ “แค่ช่วยหน้ากลับมาจากหน้าประตูผีได้ก็เกินความสามารถของข้าแล้ว”

เหตุการณ์วันนั้นเขายังจำได้ดี

หลีหลงเว่ยแม่ทัพเอาแต่ใจผู้นั้นโอบอุ้มสตรีผู้นี้เดินพุ่งตรงเข้ามาในโรงหมอของเขาซ้ำยังไม่พูดพร่ำเพรื่อเพียงออกคำสั่งให้เขาช่วยชีวิตนางให้ได้

ทว่าช่างเป็นคนที่เอาแต่ใจยิ่งนัก!

คนผู้นั้นยังออกคำสั่งให้เขารักษานางจนฟื้นหายดี!

เฟิ่งหมิงหัวเราะเสียงเย็นเย้ยหยันตัวเอง “เจ้าจำวันนี้ ไม่ได้หรือ…” น้ำเสียงนิ่ง ๆ เอ่ยขึ้นก่อนจะหันขวับไปมองสหายที่กำลังรินสุรา “นางตายไปแล้ว..”

พอได้สัมผัสนางก็พบว่าเนื้อตัวเย็นเฉียบแล้ว ใบหน้าซีดเซียวขาดเลือด ลมหายใจหยุดลง แต่ไหนเลยจะริอาจสู้ความเอาแต่ใจของหลีหลงเว่ยได้

จินหัวกลืนสุราลงคออย่างยากลำบาก พลางขนลุกซู่

“ลืมไปแล้วหรือไรนายท่านหลีของเจ้าเป็นมัจจุราช หากไม่อนุญาตให้นางตายผู้ใดก็อย่าได้ริอาจขวางทาง”

องครักษ์หนุ่มค่อย ๆ พยักหน้า กลืนน้ำลายอึกใหญ่ เกรงว่าปรโลกเองก็ไม่กล้าต่อกรกับคนผู้นั้น

“…..” จินหัว

เฟิ่งหมิงละสายตาจากสหายก่อนจะหันมาวุ่ยวายสำรวจร่างกายของนางเล็กน้อยครั้งสุดท้าย เห็นได้ชัดว่าสตรีผู้นี้ผอมผายน่าเวทนาจนเห็นกระดูก โชคดีนักที่ยาของเขาได้ผลบาดแผลที่ฟกซ้ำจึงค่อย ๆ ดีขึ้น

“ข้ารักษามายากลำบากเพียงนี้..นางต้องฟื้นแน่”

จินหัวพยักหน้าเห็นด้วย ซ้ำยังเย่อยอประจบประแจ้ง “เจ้าเป็นหมอที่เก่งในเมืองหลวงแล้วกระมัง หากไม่ได้เจ้าช่วยไว้นางคงสิ้นใจถูกฝังกลบดินไปแล้ว”

ทว่าเฟิ่งหมิงกลับมองว่าเสแสร้งเหลือเกิน

จากนั้นจู่ ๆ จึงเอ่ยขึ้น“ข้าจะลาออกจากราชการ”

“แล้วเจ้าทำมาหากินอะไร!” จินหัวตกใจแทบเสียสติ

เฟิ่งหมิงตอบ “บิดาข้ารวยนัก เกรงว่าหากข้าเกาะเขากินไปวัน ๆ คงไม่แย่”

“……”

ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีก “หากได้ร่ำสุราเมามายเป็นคุณชายจอมเสเพลข้าคงพอใจมากกว่าเป็นหมอที่เก่งกาจ” เพียงแค่จินตนาการถึงวันที่ผ่อนคลายเหล่านัก ชายหนุ่มอยากให้ถึงเร็ววัน

เฟิ่งหมิงเก็บอุปกรณ์รักษาจากนั้นจึงเดินมายังโต๊ะน้ำชาคว้าจอกสุราในมือสุรายกดื่ม “เช่นนั้นคงดีไม่น้อย”

“ไม่มีทาง! ข้าไม่ยอม” จินหัวแย้งเอาแต่ใจ

“แล้วเจ้าเป็นเมียข้าหรือไร” เฟิ่งหมิงเบื่อหน่ายกลิ่นยากลิ่นสมุนไพรจนแทบจะอ้วก หากได้กลิ่นสุราสูดดมกลิ่นหอมของสตรีงามคงผ่อนคลายไม่น้อย

สายตาคมมองสตรีบนเตียง “นางคือคนสุดท้ายที่ข้า จะรักษา”

“หากทหารเล่านั้นบาดเจ็บจะให้ข้าทำอย่างไร”

“กองทหารย่อมไม่ขาดเคลนหมอ!”

“แล้วจะมีผู้ใดเก่งกาจเทียบเจ้าได้!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ   ๑๔ ปรนนิบัติ

    ยามเว่ย (13.00-15.00)หลีหลงเว่ยนั่งอยู่ศาลากลางน้ำบรรยากาศเงียบสงบมีสายลมโชยพัดผ่านมาเบา ๆ เย็นสบาย แม้สายตากำลังจับจ้องม้วนกระดาษในมือแต่จิตใจกับล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว“ว่าอย่างไรหลงเว่ย”“สตรีบรรณาการ” เขาเลิกคิ้วถามพร้อมกับเงยหน้ามองบุรุษตรงหน้าเชิงคำถามว่านี้คงไม่ผิดเพี้ยนกระมัง“เจ้าคิดจะทำอะไรฉีเซียว”ฮ่องเต้หนุ่มรู้สึกทำตัวไม่ถูกนัก “ใช่! สตรีต่างแคว้นบรรณาการสงบศึกทางสงคราม” ว่ากันตามตรงแล้วเขาเผยออกไปไม่หมดเมื่อหลายวันก่อนมีกีฎาฉบับหนึ่งถูกส่งมาทางตอนเหนือของแคว้น ฉีฮ่องเต้เพียงแค่เห็นภาพวาดหนึ่งส่งมาพอคลี่ออกมาดูแล้วสตรีผู้นั้นงดงามดังเทพธิดาใบหน้ารอยยิ้มเคลิ้มเคลิบเพ้อฝันไม่รู้ตัวมุมปากเหยียดยิ้ม “บัลลังก์ของเจ้าสั่นคลอนหรือไรกัน ฉีเซียวแต่นั่นช่างประไรไม่ว่าอย่างไรย่อมมีข้าแบกรับไว้” หลีหลงเว่ยเลือกหนทางนี้ตั้งแต่ช่วยเหลือซู่กั๋วกงฉีเซียวสังหารฮ่องเต้องค์ก่อนออกศึกทำสงครามปกป้องความมั่นคง“คิดว่าข้าปกป้องเจ้าไม่ได้แล้วหรือฉีเซียว”ประโยคของบุรุษตรงหน้าทำให้ฮ่องเต้หนุ่มทำตัวไม่ถูกนักเขาปรึกษาเพื่อชั่งน้ำหนักในใจแต่ไหนเลยจะเคว้งคว้างสับสนแทน สายตาเยือกเย็นจ้องมองส

  • สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ   ๑๓ ห้วงคะนึงหา

    บรรยากาศในยามเช้าตรู่ พระอาทิตย์เริ่มสาดส่องแสง อ่อน ๆ ทะลุผ้าม่านที่พริ้วไสวตามสายลมพัดโชยมาอ่อน ๆ ร่างของคนผู้หนึ่งที่กำลังนอนหลับสบายบนเตียงเริ่มขยับตัวพลิกไปพลิกมาด้วยความรำคาญก่อนที่จะรู้สึกถึงความผิดแปลกลู่อันสะดุ้งตัวตื่นขึ้นเบิกตากว้างตกใจนางหนักเพียงนี้เลย!แรงกอดรัดแน่นช่วงท้องจนรู้สึกอึดอัดแทบหายใจไม่ออก!!!!นางหันหน้ามองซ้ายมองขวาก็จะพบเข้ากับใบหน้าหล่อ คมคายที่แนบชิดกายอยู่ ลู่อันสะดุ้งตกใจอีกครั้งจนต้องรีบผลักออกไม่ทันได้สังเกตให้แน่ชัดว่าเป็นผู้ใด“กรี๊ดดดด!!...” นางหวีดร้องโวยวายสุดเสียงหลีหลงเว่ยค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นช้า ๆ สายตาเต็มไปด้วยความงุนงงไม่เข้าใจ ใบหน้าแฝงความเหนื่อยเต็มส่วน “หุบปากเจ้าหน่อยล่กอันข้ากำลังนอน”หลีหลงเว่ย!ลู่อันเบิกตากว้าด้วยความตกใจแทบขวัญผวาพอเห็นเสี้ยวใบหน้าหล่อ ๆ กระทบกับแสงแดดให้นางเห็นชัด ลู่อันกระจ่างแจ้งในใจทันทีแต่แล้วเหตุใดเขามาอยู่ในห้องของนาง..บนเตียงเดียวกัน มิหนำซ้ำประโยคแรกที่ปริปากขึ้นราวกับไม่มีอันใดแปลก“กับผีน่ะซิ!”นางลุกขึ้นจากเตียงด้วยความรวดเร็ว สถบคำหยาบคายออกมาด้วยตวามโมโห กลายเป็นว่าในตอนนี้นางตื่นเต็มทันทีหลีหลง

  • สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ   ๑๒ ความโหดร้าย

    ข่าวลือเรื่องถูกโจรบุกปล้นระหว่างทางค้าขายสินค้ามีมายาวนานก่อนจะเกิดสงครามด้วยจนกระทั่งช่วงหนึ่งเดือนก่อนหน้านั้นกลับย่ำแย่ลงไปอีก ไม่ว่าจะกีฏาที่ส่งมาอยู่บ่อยครั้งจนเริ่มเกิดความรำคาญใจฉีฮ่องเต้จึงมอบหมายให้แม่ทัพกล้าอย่างหลีหลงเว่ย ลงมาปราบปรามให้สิ้นซากไม่มีที่ไปที่มาอย่างแน่ชัดมีเพียงข่าวลือเท่านั้น ซ้ำยังไม่พบรายละเอียดมากนัก นี่ไม่ต่างหาเข็มเล่มหนึ่งในทะเลหลีหลงเว่ยใช้เวลาเดินทางขึ้นไปตอนเหนือของแคว้นอยู่หลายวันแต่กลับไม่พบความผิดปกติใด ๆ ระหว่างทางทว่ายิ่งสถานการณ์ยิ่งปกติมากเท่าไหร่กับยิ่งเห็นหางที่โผล่ออกจนปิดไม่มิด ในเมื่อครั้งนี้เงียบเชียบเกินไปมิสู้แสดงตัวอย่างโจ้งแจ้งให้เป็นที่น่าจับตามองไม่ดีกว่าหรือภายหลังส่งจินหัวองครักษ์ข้างกายไปพบนายอำเภอของตำบลคราแรกไม่ยอมเปิดปากเอาแต่ข่มขู่บ่ายเบี่ยงเรื่องความอดทนเช่นนี้ไม่ยากเกินความสามารถของจินหัว บุรุษหนุ่มนำพักอยู่จวนนายอำเภอพูดจาหว่านล้อมอยู่นานถึงสองสามวันก่อนจะได้ความกลับมารายงานผู้เป็นนายนายอำเภอผู้นี้รับสินบนจากโจรป่าตัดสินโทษส่งเมืองหลวงตามคำบอกเล่าของนายอำเภอผู้นั้นแล้วโจรป่ามักดักรอปล้นอยู่บริเวณนี้ หลีหลงเว่ยซุ่

  • สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ   ๑๑ บุญคุณต้องตอบแทน

    ลู่อันยังไม่เข้าใจกระจ่างแจ้งกับสถานการณ์ตรงหน้า นางกวาดสายตามองจวนหลังนี้มีขนาดใหญ่โตโอ่อ่าด้วยความตกตระลึงเกรงว่าคงร่ำรวยไม่น้อย และหากเทียบกับบ้านของนางเมื่อคราวก่อนแล้วล้วนเป็นบ้านของขอทานให้เมืองหลวงเท่านั้นพอนึกถึงเรื่องราวเช่นนั้นลู่อันพลันรู้สึกจุกออกจนขอบตาร้อนผ่าวอีกครั้งตอนนี้นางไม่มีบ้านให้กลับอีกแล้ว“นี่แม่บ้านอิ๋น” จินหัวปรายสายตามองสตรีข้างกายที่จิตใจล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พลางกระซิบกระซาบกับหญิงวัยกลางคนตรงหน้า “นางสติไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักแม่บ้านอิ๋น”แม่บ้านอิ๋นได้ยินเช่นนั้นจึงยกมือทาบอกตกใจ“ข้าไม่ได้หูหนวก” ลู่อันตั้งสติ หันขวับจ้องเขม่ง“เอาล่ะข้าไม่ได้มีเวลาว่างมาเล่นกับเจ้าทั้งวันนี้” จินหัว ทอดถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “แม่บ้านอิ๋นนี่คือลู่อัน”“…..” แม่บ้านอิ๋นโน้มศีรษะเล็กน้อย สายตาของนางกำลังจ้องมองสังเกตสตรีตรงหน้า ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มหรือรูปร่างอรชรเห็นส่วนโค้งส่วนเว้า…ทว่าคนผู้นี้หรือจะมาเป็นบ่าวรับใช้ได้แม่บ้านอิ๋นเผลอขมวดคิ้วมองอย่างมิไม่มิด“…..” นางมองด้วยความไม่เข้าใจ มีอะไรผิดแปลกหรือ?เขายังคงพูดไม่จบ “สาวเจ้า! นี่คือแม่บ้านอิ๋น”ลู่อันพยักเข้าใจแ

  • สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ   ๑๐ แม่ทัพหลีหัวแตก

    ท่ามกลางบรรยากาศความเงียบสงบของศาลากลางน้ำ ฮ่องเต้หนุ่มนั่งอย่างสง่าผ่าเผย สายลมที่พักดโชยมาเบา ๆ พร้อมกับแสงแดดยามบ่ายที่สาดส่องกระทบใบหน้าของฉีฮ่องเต้ เมื่อมองดูจากระยะไกลแล้วความหล่อเหล่านั้นไม่ต่างจากเทพเซียนผู้หนึ่งม้วนกระดาษหลายม้วนถูกวางเรียงรายจนเต็มโต๊ะ ภายในนั้นมีคำกล่าวรายงานเต็มหนากระดาษด้วยตัวอักษรเล็ก ๆ ฉีฮ่องเต้มีใบหน้าตึงเตรียดหม่นหมองสามส่วนสายตาของฮ่องเต้หนุ่มกำลังจดจ้องอ่านแต่ระบรรทัดอย่างละเอียดถีถ้วน ภายในใจเกิดความเบื่อหน่ายในขณะเดียวกันนั้นฉีฮ่องเต้กำลังจดจ้องมองม้วนกระดาษอย่างไม่ลดละสายตา เสียงฝีเท้าของผู้หนึ่งเดินเข้ามาอย่างแผ่วเบาและมั่นคงสายตาแข็งกร้าวของหลีหลงเว่ยยังคงจับจ้องที่คนผู้นั้น“ข้าตาบอดอยู่หรือไร” น้ำเสียงทุ้มพูดขึ้นดวงตาคมกริบของฮ่องเต้หนุ่มยังคงจับจ้องกีฏาไม่วางตาแต่ทว่ากับรับรู้และสัมผัสได้ว่าคนผู้นั้นหรือหลีหลงเว่ยสหายใน วัยเยาว์ “ไฉนข้าถึงได้กลิ่นสตรีกัน”หลีหลงเว่ยนิ่งเงียบไม่ปริปาก เขาก้มศีรีษะเคารพเล็กน้อยก่อนจะนั่งตรงหน้ากับฮ่องเต้หนุ่ม“…..”“ขันทีเสี่ยวมีสตรีย่างกายเข้ามาในตำหนักของข้างหรือ” ฉีฮ่องเต้เงยหน้าขึ้นปรายสายตาไปตามขันที

  • สตรีหลังจวนของท่านแม่ทัพ   ๙ ร่วมเตียงอีกครั้ง

    เรียวแขนทั้งสองข้างนางถูกตราตรึงไว้เหนือศีรษะ เรือนร่างถูกคร่อมทับด้วยบุรุษตัวโตกว่า ลู่อันไม่มีทางยอมให้เหตุการณ์ซ้ำซ่อนแน่“ปล่อยข้า!” นางโวยวายลู่อันพยายามดีดดิ้นให้เป็นอิสระแต่เรี่ยวแรงอันน้อยนิดหรือจะสู้แรงมหาศาลจากบุรุษซ้ำคนผู้นั้นยังเป็นแม่ทัพกล้า!พอยิ่งเห็นนางโวยวายเท่าไหร่ หลีหลงเว่ยยิ่งสนุกสนาม“ไร้ประโยชน์” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นนิ่ง ๆลู่อันจ้องมองตาขวาง “ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”มุมปากหนาหยักยิ้ม “เจ้าเป็นเมียข้ามิใช่หรือ” หลีหลงเว่ยโน้มใบหน้าเข้าใกล้นางพลางสูดดมกลิ่นหอมจากกายอย่างลุ่มหลงโดยไม่รู้ตัวกลิ่นกายราวกับดอกไม้ผลิบาน“เช่นนั้นก็ทำหน้าที่ของเจ้าเสีย”ใบหน้าของนางขมวดคิ้วมุ่นทันที “ท่านเสียสติไปแล้ว!” ท่าทางของบุรุษตรงหน้าทำเอานางขนลุกซู่นางยอมแลกชีวิตหากต้องอยู่ใต้พันธะการอีกครั้ง!สายตาของแม่ทัพหนุ่มจับจ้องริมฝีปากอวบอิ่มของนางที่พร่ำโวยวายไม่หยุดก่อนจะค่อย ๆ ไล่ต่ำตามลำคอระหงษและหัวไหล่ขาวเนียนอึก!“อ่าาส์!..” ลู่อันสะดุ้งตกใจหลีหลงเว่ยฉ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status