ในจวน ผู้คนพลุกพล่าน บ่าวรับใช้วิ่งเข้าวิ่งออกต่างวุ่นอยู่กับการจัดเตรียมงานแต่ง
ไม่มีใครสนใจเมิ่งอันหลานที่นอนอยู่ท่ามกลางหิมะหนาวเหน็บ นางลืมตาที่พร่ามัวมองดูทุกคนกำลังวุ่นวาย ได้ยินทุกคำพูดแต่ไม่มีเรี่ยวแรงจะขยับตัว นางหนาวสะท้านเข้ากระดูก แผลที่ถูกแทงคราวก่อนปริแตก แผลที่ถูกโบยข้างหลังเลือดไหลย้อมหิมะจนเป็นสีแดง ก่อนสติจะดับไปอีกครั้ง นางเห็นคนผู้หนึ่งในชุดสีน้ำเงินเดินตรงเข้ามาเหมือนครั้งก่อนที่นางถูกแทงที่ตลาด
เมิ่งอันหลานลืมตาขึ้นมา พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่ใดไม่รู้ เห็นเพียงหลังของบุรุษในชุดน้ำเงินยืนอยู่
" ฮูหยิน ท่านฟื้นแล้ว"
หว่านเอ๋อเข้าไปประคองเมิ่งอันหลานที่พยายามลุกขึ้นให้นอนลง
" อย่าพึ่งลุกเลยเจ้าค่ะนอนลงก่อน แผลของท่านยังไม่หายดี หมอบอกว่าแผลเก่าอับเสบแล้วยังจะแผลใหม่อีก"
" หว่านเอ๋อ เจ้าก็บาดเจ็บเหมือนกัน"
" ข้าไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ ถึงข้าจะถูกโบยแต่ไม่ได้ตากหิมะนานเหมือนท่าน โชคดีหลังจากถูกนำมาโยนทิ้งไว้หลังจวนมีคนผ่านมาช่วย พอข้าได้สติก็ขอร้องให้เขามาช่วยท่านด้วย นั่นเจ้าค่ะ คนที่ช่วยข้ากับฮูหยิน"
" ท่านคือ"
" ข้าชื่อจางฮั่น เป็นหัวหน้าองครักษ์อินทรี "
" หน่วยอินทรี เป็นองครักษ์ของฟ่าบาท"
" อืม ข้าบังเอิญตามคนร้ายไปทางหลังจวนตระกูลจางเลยเจอสาวใช้คนนี้นอนบาดเจ็บอยู่ ข้าได้ให้คนพาส่งโรงหมอ พอนางฟื้นก็คุกเข่าขอร้องให้ข้าไปช่วยเจ้า"
" ขอบคุณท่านมาก นี่ใช่ของท่านหรือไม่"
เมิ่งอันหลานหยิบเอาป้ายหยกสลักรูปนกอินทรีที่พกไว้ออกมา จางฮั่นรับมาดู
" ป้ายหยกนี่ เป็นของข้าจริงๆ"
" ท่านทำตกไว้ตอนช่วยชีวิตข้าครั้งแรกที่ตลาด ตอนนั้นมีนักฆ่ามาจากที่ไหนไม่รู้ ช่วงชุลมุนข้าหลบไม่ทันเลยถูกมันแทงได้รับบาดเจ็บ เป็นท่านที่ช่วยข้าไว้ ป้ายหยกนั่นท่านทำหล่นเอาไว้ เป็นหว่านเอ๋อที่เก็บได้ ข้าตั้งใจจะนำมันมาคืนให้ท่าน แต่ยังไม่มีโอกาส "
" ข้าทำใหม่แล้ว อันนี้ให้เจ้าเก็บไว้ หากมีเรื่องอะไรให้ไปที่หน่วยอินทรี คนที่นั่นเห็นป้ายนี้จะช่วยเหลือเจ้าทันที"
" แต่ว่า"
" ข้ายังมีธุระต้องทำ เจ้าสองคนก็พักอยู่ที่นี่ไปก่อนจนกว่าจะหายดีแล้วค่อยว่ากัน"
พูดจบเขาก็เดินออกไปพร้อมกับหมอหลวงที่สวนเข้ามา หมอหลวงตรวจดูอาการของเมิ่งอันหลานและเอายาที่พึ่งต้มมาส่งให้นางกิน
จวนตระกูลห่าวจัดงานแต่งงานใหญ่โตจัดเกี้ยว8คนหามไปรับหลี่หรูอี้ที่ตระกูลหลี่ ชาวบ้านต่างมาร่วมงานกันคับคั่ง เพราะตระกูลห่าวประกาศให้ผู้มาร่วมงานกินดื่มฟรีไม่อั้น
" งานแต่งครั้งนี้ยิ่งใหญ่กว่าคราวก่อนอีกเจ้าว่าไหม"
" เจ้าไม่รู้รึไงว่าครั้งก่อนคุณชายห่าวถูกฮูหยินผู้เฒ่าบังคับให้แต่ง ใครๆก็รู้ว่าเขาไม่ได้รักฮูหยินของเขาเลย แต่เจ้าสาวคนนี้หน่ะเป็นคุณหนูหลี่นะ"
" คุณหนูหลี่ที่เคยเป็นคู่หมั้นกันแล้วพอคุณชายห่าวพิการเดินไม่ได้ ก็รีบถอนหมั้นไปแต่งกับบุตรชายของเสนาบดีหน่ะเหรอ"
" ใช่ๆ คนเดียวกันนี่แหละ ว่ากันว่าตอนนั้นคุณชายห่าวเสียใจมากถึงขั้นจะฆ่าตัวตายเลยนะ ฮูหยินผู้เฒ่าเลยหาสตรีที่ใดไม่รู้มาแต่งงานด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ยอมตัดใจจากคุณหนูหลี่ พอเดินได้ก็รีบไปหาคุณหนูหลี่เลย "
"น่าสงสารฮูหยินน้อยนะ อุตส่าห์ดูแลลำบากลำบนมาเป็นปี พอเดินได้กลับทิ้งคนที่เคยทุกข์ยากด้วยกันไปหารักแรกซะได้
ตอนนั้นคุณนั้นคุณหนูหลี่หย่าร้างกลับมาอยู่ที่จวนตัวเองพอดีด้วย"
" ข้าก็ได้ยินข่าวเหมือนกัน คนแบบนี้มันน่าปล่อยให้พิการไปตลอดชีวิต"
" ว่าแต่งานแต่งยิ่งใหญ่แบบนี้แล้วแต่งเข้ามาในฐานะอะไรหล่ะ ถ้าเป็นภรรยารองก็ไม่น่าจัดงานใหญ่โตหยามเกียรติภรรยาเอกแบบนี้นะ"
" หรือว่าจะเป็นภรรยาเท่าเทียม เพราะฮูหยินน้อยเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาไม่ใช่คุณหนูตระกูลร่ำรวย แต่คุณหนูหลี่เป็นถึงบุตรสาวรองเจ้ากรม"
" อาจเป็นอย่างเจ้าว่าก็ได้"
" โอ้ย พวกเจ้าไม่รู้อะไร สามวันก่อนฮูหยินน้อยถูกจับได้ว่าคบชู้ ถูกคุณชายของเราปลดให้เป็นแค่อนุ นี่ถ้าไม่เห็นแก่ที่นางเคยดูแลคุณชายมาก่อนก็คงหย่าขาดกับนางและไล่ออกจากจวนไปแล้ว"
" แต่งครั้งนี้คุณหนูหลี่เป็นฮูหยินเอกไม่อย่างงั้นหล่ะ พวกเจ้าดูสิ ใหญ่โตโอ่อ่าขนาดไหน ฮ่าฮ่า"
หยางหยางกับบ่าวรับใช้อีกคนเดินเข้าไปสนทนากับชาวบ้านที่จับกลุ่มนินทา
" ฮูหยินน้อยเนี่ยนะจะคบชู้ ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย"
" นั่นสิ คนจิตใจดีอย่างนางหน่ะเหรอจะคบชู้ ข้าว่าต้องมีการเข้าใจผิดเกิดขึ้นแน่"
" ใช่ข้าเองก็คิดเหมือนกันกับเจ้า ข้าเคยเจอนางหลายครั้ง นางยังเคยช่วยรักษาลูกข้าที่พึ่งกลับมาจากเมืองหลวง แล้วล้มป่วยด้วยโรคติดต่อโดยไม่รังเกียจเลย ขณะที่หมอคนอื่นปฏิเสธที่จะรักษา ตอนนั้นถ้าไม่ได้นางช่วย ลูกข้าก็คงไม่มีชีวิตรอดมาได้ทุกวันนี้ ฉะนั้นเรื่องนี้ข้าคิดว่านางต้องถูกใส่ร้ายแน่"
" ใช่ๆ คนจิตใจดีอย่างนางจะคบชู้ได้ยังไงเรื่องนี้มีการสืบสวนดีแล้วหรือไม่"
" ข้ารู้แล้ว คุณชายของพวกเจ้าคงอยากจะแต่งคุณหนูหลี่เข้ามาเป็นภรรยาเอกแต่ไม่รู้จะทำยังไงกับฮูหยินที่มีอยู่ เลยหาทางใส่ร้ายหาว่านางคบชู้ เพื่อเป็นข้ออ้างในการปลดนางใช่ไหมหล่ะ"
" ใช่ ต้องใช่แน่เลย"
" โอ้ย พวกท่านนี่แก่แล้วเลอะเลือนรึไง การช่วยชีวิตคนกับการมีชู้มันคนละเรื่องกันท่านจะเหมาว่านางช่วยรักษาลูกท่านแล้วนางเป็นคนดีไม่คบชู้ มันไม่ได้ "
" ใช่ท่านป้า เรื่องนี้เรามีทั้งพยานและหลักฐานไม่ใช่มั่วๆอย่างที่พวกท่านเข้าใจ"
" หลักฐานก็ปลอมขึ้นมาได้ ยังไงข้าก็ไม่เชื่อหากเป็นเรื่องจริงเหตุใดจึงรีบตัดสินความแล้วรีบแต่งคุณหนูหลี่เข้ามา ทำไมไม่รอฮูหยินผู้เฒ่ากลับมาจากถือศีลก่อน"
" ใช่ๆ ทำไม ทำไมหล่ะ"
หยางหยางกับคนสนิทถูกรุมเถียงไม่ออกจนต้องพากันรีบเดินหนี
ห่าวตี้หลุนยืนอยู่ไม่ไกลได้ยินชัดทุกคำ ในใจเกิดความลังเลสับสนขึ้นมา
เสียงร้องบอกเจ้าสาวมาแล้วก็ดังขึ้น แม่สื่อจับจูงเจ้าสาวมาส่งและเริ่มทำพิธี เสร็จพิธีห่าวตี้หลุนพึ่งนึกได้ว่าเขาปล่อยทิ้งเมิ่งอี้หลานที่ถูกโบยจนสลบให้นอนตากหิมะอยู่
ห่าวเหลียนฮวาเห็นห่าวตี้หลุนชะเง้อมองไปที่ลานบ้าน ก็รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ จึงเดินไปกระซิบเบาๆ
" แม่สั่งให้คนพานางไปไว้ที่เรือนหลังเล็กแล้ว ยังให้หมอไปรักษานางด้วย เจ้าไม่ต้องห่วง"
ห่าวตี้หลุนพยักหน้ารับรู้ ห่าวเหลียนฮวาหุบยิ้มเปลี่ยนสีหน้าเป็นเยือกเย็น ก่อนหน้านางให้คนไปพาตัวเมิ่งอี้หลานไปไว้ที่ห้องเก็บฟืน คิดจะขังนางไว้ที่นั่น ไม่คิดว่านางจะหายไปไหนไม่รู้ นางบาดเจ็บขนาดนั้นต้องมีคนช่วยนางออกไปแน่ แล้วใครกันบังอาจเข้ามาถึงในจวนตระกูลห่าวช่วยนางออกไป
บ่าวรับใช้ชายหลายคนยืนเรียงกันพากันก้มหน้า
" พวกข้าหาจนทั่วจวนแล้วไม่มีร่องรอยของฮูหยินน้อยเลยขอรับ"
" เจ้าเรียกใครฮูหยินน้อยนางไม่ใช่ฮูหยินน้อยอีกแล้ว นางถูกปลดเป็นแค่อนุเท่านั้น"
" ที่โรงหมอข้าก็ไปสอบถามมาแล้วไม่มีนางไปรักษาที่นั่น แม้แต่หมอทุกคนจากทุกโรงหมอข้าก็ถามแล้ว ไม่มีใครได้รักษานางเลย"
" พวกเจ้าแน่ใจว่าหมอพวกนั้นไม่ได้โกหก"
" แน่ใจขอรับ"
" ท่านแม่ หรือว่านางจะรักษาตัวเองเจ้าคะอย่าลืมสิว่านางก็มีความรู้วิชาแพทย์"
" จะเป็นหรือไม่ไม่สำคัญ ในเมื่อข้าลืมท่านไปแล้ว ข้าไม่อยากรื้อฟื้นอีก ว่ากันว่าคนเรามักจะเลือกลืมความทรงจำที่เจ็บปวด แสดงว่าข้ากับท่านคงมีเรื่องราวไม่ดีเกิดขึ้น ข้าถึงได้ลืมท่านที่เป็นสามี ในเมื่อข้าลืมท่านแล้วท่านก็ลืมข้าไปเถอะ"" ไม่ หลานเอ๋อข้าจะลืมเจ้าได้ยังไง ในชีวิตนี้ข้ารักเจ้าคนเดียว และมีเจ้าเป็นภรรยาของข้าแค่คนเดียวเท่านั้น"หว่านเอ๋อเดินเข้ามาพร้อมถ้วยน้ำแกงบำรุงนางมัวแต่ตุ๋นน้ำแกงอยู่ เลยปล่อยให้เมิ่งอันหลานอยู่คนเดียว ไม่รู้ว่าจางฮั่นแอบเข้ามาตอนไหน" หลานเอ๋อเขาทำอะไรเจ้ารึเปล่า นี่ท่านเข้ามาทำไม"" ทำไมถึงคิดว่าข้าจะทำอะไรนาง นางเป็นภรรยาของข้านะ"" คนอย่างท่านเชื่อถือไม่ได้หรอก ปากบอกว่ารัก แต่ทุกครั้งที่นางมีอันตรายท่านไม่เคยช่วยนางเลย ตรงกันข้ามกับไปอยู่กับหญิงอื่น"" ข้า ข้าไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น หากย้อนเวลาได้ข้าจะไม่"" เวลามันย้อนคืนไม่ได้หรอก"หว่านเอ๋อพูดแทรก"หลานเอ๋อ เจ้าอยากให้ข้าเล่าเรื่องของเจ้ากับเขาไหม"เมิ่งอันหลานมองหน้าจางฮั่นก่อนจะพยักหน้า ตลอดการเล่าของหว่านเอ๋อจางฮั่นมองเมิ่งอันหลานตลอดเวลา นางมีสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกใดๆเขาเห็นแบ
ยามเซิน จางฮั่นกับเจียเหรินก็มาถึงบ้านพักบนยอดเขา มองดูสมุนไพรที่วางตากอยู่น่าจะใช่ที่นี่ไม่ผิดแน่ มีคนออกมาเลือกเก็บสมุนไพรที่ตากอยู่ใส่ตะกร้า เจียเหรินรีบเข้าไปถามทันที" รบกวนสอบถามหน่อย ที่นี่คือบ้านพักของหมอซูใช่หรือไม่"เชี่ยนฝูกับหม่าหยูมองหน้ากัน ก่อนที่หม่าหยูจะถามกลับ" ใช่ ท่านมาหาอาจารย์รึ "" เปล่าข้ามาหาหว่านเอ๋อ"" ส่วนข้ามาหาหลานเอ๋อ"" เชี่ยนฝู หม่าหยู ได้หรือยัง ทำไมออกมานานจัง"ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเจียเหรินรีบหันควับกลับไปดู แล้วก็ได้พบกับคนที่เขาคิดถึงอยู่ทุกวัน" หว่านเอ๋อ"หว่านเอ๋อขมวดคิ้วมองเจียเหริน เขามาที่นี่ได้ยังไง มองเลยไปข้างหลังยังมีจางฮั่นอีกคน นี่มันวันอะไรกันเนี่ย ทั้งห่าวตี้หลุนทั้งจางฮั่นถึงได้มาที่นี่พร้อมกัน นางถอนหายใจหนักๆ ห่าวตี้หลุนไม่เท่าไหร่เพราะเมิ่งอันหลานบอกว่าไม่ได้รักเขาแค่สงสาร ยังไงเรื่องของนางกับเขาก็จบแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะเริ่มต้นใหม่ แต่จางฮั่น เมิ่งอันหลานรักเขาหากได้พบกันอีกครั้งไม่รู้ว่านางจะเป็นเช่นไรเชี่ยนฝูกับหม่าหยูถืออ่างน้ำแช่ว่านสมุนไพรเข้าไปวางลง เมิ่งอันหลานก็เอามือเอาเท้าลงแช่ " หือ พวกเจ้ามองข้าทำไมไม่ต้องกลัวข้า
เมิ่งอันหลานขมวดคิ้ว ชายผู้นี้ดูหน้าคุ้นๆแต่นางก็ไม่เคยรู้จักเขามาก่อน" ท่านพูดเพ้อเจ้ออะไร ข้าไม่เคยรู้จักท่านหว่านเอ๋อเราไปกันเถอะ"เมิ่งอันหลานจูงมือหว่านเอ๋อเดินออกมา แต่ห่าวตี้หลุนก็รีบมาขวางหน้า ยังคุกเข่าลง" หลานเอ๋อข้ารู้ว่าเจ้าโกรธข้าอยู่ แต่อย่าพูดแบบนี้เลย อย่าบอกว่าเราไม่รู้จักกัน อย่าบอกว่าเจ้าไม่รู้จักข้า เราเป็นสามีภรรยากันนะ"ภาพในหัวฉายขึ้นมา เป็นภาพที่นางใส่ชุดเจ้าสาวสีแดงทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน มีชายตรงหน้าเป็นเจ้าบ่าว แต่แล้วภาพก็ตัดมาที่หย่งคัง นางสะบัดหัวไล่ความมึนงง" ไม่ ท่านไม่ใช่สามีข้า"" หลานเอ๋อ ข้าห่าวตี้หลุนเป็นสามีของเจ้า"" ไม่ ท่านไม่ใช่ อย่าเข้ามาใกล้ข้า"หย่งคังกับเมิ่งสิงโจวรีบเดินเข้ามา หย่งคังดึงเมิ่งอันหลานมาโอบกอด นางกอดซบเขาพูดเสียงออดอ้อน" สามี เขาทำให้ข้ากลัว"" ไม่ต้องกลัวข้าอยู่นี่ ข้าจะพาเจ้ากลับไปพัก"ห่าวตี้หลุนมองภาพที่ทั้งคู่กอดกัน นางเรียกชายคนนั้นว่าสามี นี่มันเรื่องอะไรกัน" เจ้า เจ้าเป็นใครปล่อยนางเดี๋ยวนี้นะ"หย่งคังจ้องหน้าห่าวตี้หลุนสายตาดุดัน ก่อนจะอุ้มเมิ่งอันหลานออกไป ห่าวตี้หลุนจะตามแต่ถูกเมิ่งสิงโจวขวางเอาไว้" ท่านคือห่าว
" สามี ข้าเจ็บ"เขาเดินเข้าไปลูบผมนางเบาๆ" วันนี้พอแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้พวกข้าจะมานวดให้ศิษย์พี่ใหม่"พอเอามือเอาเท้าออกจากอ่างว่านยาสมุนไพร นางรู้สึกเบามือเบาเท้ามาก" เป็นอย่างไร"" ไม่เจ็บแล้ว"หย่งคังอุ้มนางขึ้นมาพาเดินกลับไปห้องพักเมิ่งสิงโจวจะตามแต่หว่านเอ๋อขวางเอาไว้"ข้ารู้ว่าเจ้าทั้งห่วงและหวงพี่สาวเจ้ามาก ข้าเองก็ห่วงนางเหมือนกัน แต่ตอนนี้ข้าอยากให้นางมีความสุข แม้ระยะเวลาสั้นๆ ไว้ให้นางหายดีก่อนถึงเวลานั้นค่อยบอกความจริงกับนางก็ยังไม่สาย"เมิ่งสิงโจวครุ่นคิดนัก เว่ยหลงมาตบไหล่"ข้าก็คิดเช่นเดียวกันกับแม่นางหว่าน เจ้าไม่เห็นรึว่าพี่สาวของเจ้าเวลาอยู่กับคุณชายของเรา นางดูยิ้มแย้มมีชีวิตชีวาแค่ไหนแต่ละวันเรียกหาแต่ สามี สามี"เมิ่งสิงโจวถอนหายใจ ตั้งแต่เมิ่งอันหลานฟื้นขึ้นมานางก็เอาแต่ติดหย่งคังแจ คำก็สามี สองคำก็สามี สามีกำมะลอหน่ะสิ ไหนบอกว่าความทรงจำของนางหยุดลงเมื่อสามปีก่อนไง ตอนนั้นนางมีอะไรก็ อาโจว อาโจว นางไม่เคยรู้จักพบเจอหย่งคังมาก่อน เขาไม่เข้าใจว่าพอนางฟื้นมา ทำไมถึงได้เข้าใจว่าหย่งคังเป็นสามีไปได้ ทำไมไม่คิดถึงห่าวตี้หลุนสามีคนแรกของนาง " คุณชายเรามาถึงแล้ว เขาที
กลับเข้าห้องไปหย่งคังเห็นเมิ่งอันหลานนั่งก้มหน้าอยู่ เขารีบเขาไปดูนาง" เจ้าเป็นอะไร หรือว่าเจ็บปวดตรงไหน"เห็นนางเอาแต่ก้มหน้าไม่พูดจาเขาไม่รู้จะทำยังไง จึงโอบกอดนางจับหัวนางมาซบไหล่" หลานเอ๋อ หลานเอ๋อ"" ท่านไปไหนมา"" ข้า ข้าไป ไปปลดทุกข์มา"" ข้ารอท่านตั้งนาน"" รอข้า"ไม่ใช่ว่านางหลับไปแล้วเหรอเมื่อกี้ข้าฝันร้าย ฝันว่าท่านทิ้งข้าไป ข้าเห็นท่านใส่อาภรณ์สีทองปักลายมังกร กำลังเดินขึ้นไปนั่งบนแท่นสูง ระหว่างทางมีสตรีนางหนึ่งเข้ามาเดินเคียงคู่ท่าน ท่านเดินไปกับนางไม่หันหลังกลับมามองข้าเลย พอข้าจะตามก็มีชายหลายคนใส่ชุดแบบเดียวกันมาขวางทางข้า ไม่ยอมให้ข้าตามท่านได้ พอตื่นขึ้นมาข้าก็ไม่เห็นท่านนอนอยู่ข้างๆ ข้าคิดว่าท่านทิ้งข้าไปแล้ว"หย่งคังเช็ดน้ำตาที่อาบแก้มให้นาง แล้วดึงนางมาสวมกอด" แค่ฝันเท่านั้นอย่าคิดมาก ข้าอยู่ที่นี่แล้วไม่ได้ทิ้งเจ้าไปไหน ข้าจะกอดเจ้านอนทั้งคืนอย่าได้กลัว"ยามเฉิน หว่านเอ๋อเดินมาตามเมิ่งอันหลานไปกินข้าว พอเปิดประตูเข้าไปก็ตกใจที่เห็นหย่งคังกับเมิ่งอันหลานนอนกอดกันอยู่ นางไม่รู้จะทำยังไง พอดีเมิ่งสิงโจวเดินตามมาพอเห็นภาพตรงหน้าก็รีบเข้าไปปลุกทั้งสองให้ตื่น แล้ว
จางฮั่นลาออกจากหน่วยอินทรียกตำแหน่งหัวหน้าให้เจียเหริน เพราะเรื่องฝีมือความเฉลียวฉลาด เจียเหรินเหมาะสมกว่าคนอื่นแต่เจียเหรินปฏิเสธ บอกว่าจะลาออกเหมือนกันเพื่อไปตามหาหว่านเอ๋อ เซิ่งเทียนจึงรับตำแหน่งหัวหน้าชั่วคราว จนกว่าจะมีการคัดเลือกคนใหม่ในเวลานี้จางฮั่นกับเจียเหรินกำลังปิ้งปลาอยู่ในป่า พวกเขากำลังจะเดินทางไปเขาไท่ซานตามหาคนรัก เพราะจางฮั่นคิดว่าเมิ่งอันหลานน่าจะถูกส่งตัวไปให้หมอเทวดาซูอาจารย์ของนางรักษาอยู่ที่นั่น ส่วนเจียเหรินคิดว่าเมิ่งอันหลานอยู่ที่ไหนหว่านเอ๋อก็ต้องอยู่ที่นั่นด้วยสายลมพัดโชยกิ่งไผ่ลู่ไหวโอนเอียง ผ้าม่านหน้าต่างปลิวสะบัดตามแรงลม หย่งคังลุกออกไปดู เห็นลมพัดแรงขึ้น สงสัยฝนจะตกเขาปิดหน้าต่าง คนอื่นลงเขาไปเก็บสมุนไพรกันหมด วันก่อนเขาลื่นตกเขาได้รับบาดเจ็บยังเดินกระเผลกอยู่ เลยต้องรับหน้าที่เฝ้าเมิ่งอันหลานเมิ่งอันหลานลืมตาขึ้นมามองไปรอบตัว ก่อนจะหยุดมองชายตรงหน้า ที่กำลังจ้องมองนางอยู่เหมือนกัน ต่างคนต่างจ้องมองกันไม่มีใครพูดจา ก่อนที่หย่งคังจะพูดออกมาก่อน" ตื่นแล้วเหรอ"เมิ่งอันหลานค่อยๆลุกขึ้น หย่งคังเข้าช่วยพยุงนาง ทั้งสองสบตาในระยะใกล้ยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกน