หลี่หรูอี้นั่งรอห่าวตี้หลุนอยู่ในเรือนหอด้วยความร้อนใจ
" มาหรือยัง"
" ยังเจ้าค่ะ"
" นี่มันนานแล้วนะ"
" โธ่คุณหนู ใจเย็นสิเจ้าคะ"
" เจ้าเรียกข้าว่าอะไร"
" ขออภัยเจ้าค่ะฮูหยิน "
" เจ้าออกไปดูอีกทีซิ"
" แต่ข้าพึ่งไปมาเมื่อกี้เองนะเจ้าคะ คุณชายห่าวกำลังดื่มกับแขกในงานชนจอกเหล้ายังไม่ครบคนเลยเจ้าค่ะ"
" ขืนรอให้ชนจอกเหล้าครบทุกคนคืนนี้ข้าก็ไม่ต้องเข้าหอกันพอดี เจ้า ไปตามมา"
" จะดีหรือเจ้าคะ"
" ข้าบอกให้ไปก็ไปสิ"
" เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ ไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ"
บ่าวคนสนิทหายไปพักใหญ่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าบ่าวจะเข้าห้องหอ หลี่หรูอี้หงุดหงุดดึงผ้าคลุมหน้าออก เปิดประตูจะไปตาม ก็เห็นห่าวตี้หลุนถูกสหายประคองพาเดินโซเซมาส่ง ข้างหลังมีหยูเหยียนบ่าวรับใช้ของนางตามมาติดๆ
" โอ้ เจ้าสาวมารอรับถึงหน้าห้องหอเลย ฮ่าฮ่าฮ่า"
" พวกข้าพาเจ้าบ่าวมาส่งแล้ว เชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอสุขสันต์ "
" เข้าหอสุขสันต์ พวกข้าไม่รบกวนแล้ว"
พอพวกสหายปล่อยมือออก ห่าวตี้หลุนก็โงนเงนจะล้ม หลี่หรูอี้ต้องรีบรับเขาไว้ไม่ให้ล้มแล้วพาไปที่เตียงนอน
มองดูเจ้าบ่าวของตัวเองที่เมาไม่ได้สติก็ยิ่งโมโห คืนเข้าหอของนางที่วาดฝันเอาไว้สวยหรูกลับต้องมาเป็นเช่นนี้ นางเขย่าตัวเขาอย่างแรง
" ตี้หลุน ตี้หลุน ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะห้ามหลับตื่นลืมตาขึ้นมา ท่านต้องทำหน้าที่สำคัญให้เสร็จก่อน"
" อือ ข้ารู้แล้ว"
" รู้แล้วก็ลุกขึ้นมาสิ เหล้ามงคลยังไม่ได้ดื่มกับข้าเลยนะ"
" อืม ข้าดื่มไม่ไหวแล้ว"
" ไม่ดื่มก็ได้ไว้ตอนเช้าค่อยดื่ม แต่ท่านต้องลุกขึ้นมาทำหน้าที่"
" หน้าที่อะไร "
" ก็คืนเข้าหอเขาทำอะไรกันเล่า เร็วสิรีบถอดผ้าออก ข้ารอนานแล้วนะ"
" หือ หลานเอ๋อ"
ห่าวตี้หลุนตาลาย มองเห็นหลี่หรูอี้เป็นเมิ่งอันหลานก็ดึงนางมากอด
" หลานเอ๋อ หลานเอ๋อของข้า ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะทรยศข้า หลานเอ๋อ"
หลี่หรูอี้ผลักห่าวตี้หลุนออก ตบหน้าเขาอย่างแรง เพลี้ยะ
" โอ้ย เจ้าตบข้าทำไม"
" ก็ตบเรียกสติไง ท่านมองดูข้าให้ดีบอกสิว่าข้าคือใคร"
ห่าวตี้หลุนเพ่งมองดูดีๆก็เห็นว่าสตรีตรงหน้าคือหลี่หรูอี้ เขาล้มตัวลงนอนแผ่หมดแรง
" อี้เอ๋อ"
" ก็ข้าหน่ะสิ นี่ท่านเมาจนคิดว่าข้าเป็นนางรึไง ข้าบอกไว้ก่อนเลยนะว่าข้าไม่ยอมเป็นตัวแทนของใครทั้งนั้น"
คร่อก คร่อก
" นี่ท่าน ท่านกล้าหลับเหรอ ข้าไม่ให้นอน ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ข้าบอกให้ลุก"
" อย่ากวนคนจะนอน"
หลี่หรูอี้มองดูห่าวตี้หลุนที่นอนเมาหมดสภาพด้วยความโมโห นางไม่ยอมแพ้พยายามปลุกให้เขาตื่นมาทำหน้าที่ให้ได้
" โอ้ย จะกวนอะไรนักหนา เจ้าอยากมากนักใช่ไหม งั้นก็ทำเอาเองเลยสิ"
ห่าวตี้หลุนแก้เชือกมัดกางเกงออก หลี่หรูอี้ถอดกางเกงเขาออกพยายามปลุกเท่าไหร่มันก็ไม่พร้อมใช้งาน จนนางเหนื่อยยอมแพ้
เมิ่งอันหลานมาเดินเล่นในสวน ถึงรู้ว่าจวนนี้มีคนไม่มาก เป็นจวนเล็กๆแต่ร่มรื่นมีต้นไม้ดอกไม้สวยๆเต็มไปหมด
" ดีขึ้นแล้วเหรอ"
เสียงทักข้างหลังทำให้นางรีบหันกลับไปมอง ไม่คิดว่าจางฮั่นจะมายืนอยู่ข้างหลังนางในระยะประชิดแบบนี้ นางก้าวถอยหลังจนเซแต่ถูกเขารั้งไว้ด้วยแขนข้างเดียว ทั้งสองสบตากันในระยะใกล้ได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นแรง
" ท่าน ท่านมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่"
" พึ่งมา"
" อะ อ๋อ "
" ที่ข้าถาม เจ้ายังไม่ได้ตอบ"
" หือ อ้อ ข้าดีขึ้นมากแล้ว ขอบคุณที่เป็นห่วง ข้ารบกวนท่านมาหลายวันแล้วงั้นข้าถือโอกาสลาท่านเลยแล้วกัน"
จางฮั่นขมวดคิ้ว
" ลา ลาไปไหน หรือว่าเจ้าคิดจะกลับไปจวนตระกูลห่าวอีก เจ้าไม่รู้รึไงว่าตอนนี้ห่าวตี้หลุนแต่งภรรยาใหม่แล้ว ข่าวลือว่าเจ้าคบชู้จนถูกปลดเป็นอนุ เจ้าจะกลับไปเป็นอนุของเขาอีกรึ"
" ข้าไม่คิดจะกลับไป เดิมทีข้าคิดอยากออกจากจวนตระกูลห่าวอยู่แล้ว แต่ติดตรงที่ห่าวตี้หลุนหาว่าข้ากินฟรีอยู่ฟรีไหนจะค่าสินสอดตอนข้าแต่งเข้าอีก ข้าแค่อยากไปโดยไม่มีอะไรติดค้างกับเขา ที่สำคัญข้อกล่าวหาที่ว่าข้าคบชู้มันไม่จริงพวกเขาใส่ร้ายข้า เพื่อหาข้ออ้างปลดข้าแล้วรับหลี่หรูอี้เข้าจวน ข้าต้องลบล้างข้อกล่าวหานี้"
" เจ้าพูดจริงรึ"
" ท่านไม่จำเป็นต้องเชื่อข้า ยังไงข้าก็กำลังจะไปจากที่นี่อยู่แล้ว ขอบคุณที่ช่วยข้าไว้ถึงสองครั้งด้วยกัน หากมีโอกาสข้าจะตอบแทนท่านแน่นอน"
เมิ่งอันหลานโค้งคำนับแล้วเดินจากไป จางฮั่นรีบคว้าแขนนางเอาไว้
" เหตุใดต้องไปจากที่นี่ด้วย ถ้าเจ้าไม่กลับไปจวนตระกูลห่าวแล้วยังมีที่ใดให้เจ้ากลับไปอีก หรือจะกลับบ้านของเจ้าที่หางโจว"
นางมองหน้าเขา เขารู้ได้ยังไงว่าบ้านของนางอยู่ที่หางโจว
" เอ่อ ข้า "
" ท่านคงสืบประวัติข้ามาหมดแล้วสินะ"
" ข้ารู้ว่าเจ้าถูกใส่ร้าย ข้าจะช่วยเจ้าทวงความเป็นธรรมเอง หากเจ้าต้องการหลุดพ้นจากคนตระกูลห่าวข้ามีวิธี"
" วิธีอะไร"
" เจ้าก็แค่"
" ท่านหัวหน้าพวกข้าตามจับตัวมันได้แล้ว"
เซิ่งเทียนเดินนำลูกน้อง ที่ลากตัวชายร่างท้วมคนหนึ่งกับชายผอมสูงอีกคนเข้ามาแล้วจับทั้งสองคุกเข่าลง
" เงยหน้าขึ้น"
จางฮั่นออกคำสั่ง ทั้งสองค่อยๆเงยหน้าขึ้นเห็นหน้าของชายทั้งสองชัดๆ เมิ่งอันหลานก็จำได้ ชายร่างท้วมคือคนที่กล่าวหาว่าเป็นชู้กับนาง ส่วนชายผอมคือบ่าวรับใช้ที่ส่งจดหมายให้นาง
" พวกเจ้า"
" สารภาพมาถ้าไม่อยากถูกส่งทางการ "
" อย่า อย่าส่งข้าไปให้ทางการเลยข้าสารภาพแล้ว เป็นฮูหยินใหญ่ นาง นางให้บ่าวคนหนึ่งไปพาข้ามาแล้วให้ข้าเล่นละครใส่ร้ายฮูหยินน้อยว่าคบชู้กับข้า"
" ส่วนข้าเป็นแค่บ่าวรับใช้ในจวน วันนั้นจดหมายที่ข้าส่งให้ฮูหยินน้อยเป็นจดหมายมาจากเมืองหลวง คนส่งบอกว่าเป็นน้องชายของฮูหยินน้อย"
" แล้วทำไมวันนั้นเจ้าไม่พูดความจริง"
" ข้า ข้าจำเป็นต้องใช้เงิน คือว่าข้าติดพนัน ฮูหยินใหญ่บอกให้ข้าใส่ร้ายฮูหยินน้อยว่าเป็นชู้กับชายผู้นี้ โดยมีข้าเป็นคนส่งจดหมายให้พวกท่าน โดยมีค่าจ้างเป็นเงินจำนวนหนึ่ง ที่จริงข้าก็ไม่อยากจะใส่ร้ายท่าน แต่ฮูหยินน้อย ข้า ข้าจำเป็นจริงๆ"
" แล้วจดหมายปลอมพวกนั้น"
" เป็นคุณหนูลั่วชิงที่เขียนขึ้นมา"
" เอาหล่ะ พวกเจ้าเขียนคำสารภาพแล้วลงชื่อซะ"
ชายสองคนเขียนคำสารภาพลงกระดาษพร้อมลงลายมือชื่อ
" ทีนี้พวกข้าไปได้แล้วใช่ไหม"
" ส่งพวกมันไปให้ทางการ ให้นอนเล่นในคุกสักพัก"
" ห๊ะ อย่า อย่า ไหนบอกว่าถ้าข้าสารภาพแล้วจะไม่ส่งทางการไง"
" ฮูหยินน้อยโปรดเมตตาด้วยข้าสำนึกผิดแล้ว อย่าส่งข้าให้ทางการเลย คุณชายโปรดเมตตาด้วย"
ทั้งสองถูกลากออกไป จางฮั่นส่งจดหมายสารภาพผิดให้เมิ่งอันหลานแล้วพูดขึ้น
" ทีนี้ก็เหลืออีกเรื่อง"
จวนตระกูลห่าว
เพล้ง ห่าวตี้หลุนปาจอกน้ำชาจนแตกกระจาย เมื่อได้รู้ว่าเมิ่งอันหลานหายไป
" คนทั้งคนหายไปทั้งจวนไม่มีใครรู้ ข้าจะเลี้ยงพวกเจ้าให้เปลืองไปทำไมห๊ะ"
" คุณชาย ตอนนั้นพวกเราทุกคนต่างก็วุ่นวายอยู่กับการเตรียมงานแต่งให้ท่าน เลยไม่มีใครสนใจนาง"
" นางหายไปตั้งแต่ตอนไหน"
ทุกคนก้มหน้าเงียบ
" ไม่มีใครรู้ ดี ดียิ่ง นางบาดเจ็บ หิมะก็ตกหนัก ยังสามารถหนีออกจากจวนไปได้โดยไม่มีใครเห็น ช่างเก่งกล้าสามารถนัก"
" ในเมื่อนางไปแล้วเจ้าจะไปอาลัยอาวรณ์นางทำไม คนที่เจ้าควรใส่ใจคืออี้เอ๋อภรรยาของเจ้า"
" จะเป็นหรือไม่ไม่สำคัญ ในเมื่อข้าลืมท่านไปแล้ว ข้าไม่อยากรื้อฟื้นอีก ว่ากันว่าคนเรามักจะเลือกลืมความทรงจำที่เจ็บปวด แสดงว่าข้ากับท่านคงมีเรื่องราวไม่ดีเกิดขึ้น ข้าถึงได้ลืมท่านที่เป็นสามี ในเมื่อข้าลืมท่านแล้วท่านก็ลืมข้าไปเถอะ"" ไม่ หลานเอ๋อข้าจะลืมเจ้าได้ยังไง ในชีวิตนี้ข้ารักเจ้าคนเดียว และมีเจ้าเป็นภรรยาของข้าแค่คนเดียวเท่านั้น"หว่านเอ๋อเดินเข้ามาพร้อมถ้วยน้ำแกงบำรุงนางมัวแต่ตุ๋นน้ำแกงอยู่ เลยปล่อยให้เมิ่งอันหลานอยู่คนเดียว ไม่รู้ว่าจางฮั่นแอบเข้ามาตอนไหน" หลานเอ๋อเขาทำอะไรเจ้ารึเปล่า นี่ท่านเข้ามาทำไม"" ทำไมถึงคิดว่าข้าจะทำอะไรนาง นางเป็นภรรยาของข้านะ"" คนอย่างท่านเชื่อถือไม่ได้หรอก ปากบอกว่ารัก แต่ทุกครั้งที่นางมีอันตรายท่านไม่เคยช่วยนางเลย ตรงกันข้ามกับไปอยู่กับหญิงอื่น"" ข้า ข้าไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น หากย้อนเวลาได้ข้าจะไม่"" เวลามันย้อนคืนไม่ได้หรอก"หว่านเอ๋อพูดแทรก"หลานเอ๋อ เจ้าอยากให้ข้าเล่าเรื่องของเจ้ากับเขาไหม"เมิ่งอันหลานมองหน้าจางฮั่นก่อนจะพยักหน้า ตลอดการเล่าของหว่านเอ๋อจางฮั่นมองเมิ่งอันหลานตลอดเวลา นางมีสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึกใดๆเขาเห็นแบ
ยามเซิน จางฮั่นกับเจียเหรินก็มาถึงบ้านพักบนยอดเขา มองดูสมุนไพรที่วางตากอยู่น่าจะใช่ที่นี่ไม่ผิดแน่ มีคนออกมาเลือกเก็บสมุนไพรที่ตากอยู่ใส่ตะกร้า เจียเหรินรีบเข้าไปถามทันที" รบกวนสอบถามหน่อย ที่นี่คือบ้านพักของหมอซูใช่หรือไม่"เชี่ยนฝูกับหม่าหยูมองหน้ากัน ก่อนที่หม่าหยูจะถามกลับ" ใช่ ท่านมาหาอาจารย์รึ "" เปล่าข้ามาหาหว่านเอ๋อ"" ส่วนข้ามาหาหลานเอ๋อ"" เชี่ยนฝู หม่าหยู ได้หรือยัง ทำไมออกมานานจัง"ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเจียเหรินรีบหันควับกลับไปดู แล้วก็ได้พบกับคนที่เขาคิดถึงอยู่ทุกวัน" หว่านเอ๋อ"หว่านเอ๋อขมวดคิ้วมองเจียเหริน เขามาที่นี่ได้ยังไง มองเลยไปข้างหลังยังมีจางฮั่นอีกคน นี่มันวันอะไรกันเนี่ย ทั้งห่าวตี้หลุนทั้งจางฮั่นถึงได้มาที่นี่พร้อมกัน นางถอนหายใจหนักๆ ห่าวตี้หลุนไม่เท่าไหร่เพราะเมิ่งอันหลานบอกว่าไม่ได้รักเขาแค่สงสาร ยังไงเรื่องของนางกับเขาก็จบแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะเริ่มต้นใหม่ แต่จางฮั่น เมิ่งอันหลานรักเขาหากได้พบกันอีกครั้งไม่รู้ว่านางจะเป็นเช่นไรเชี่ยนฝูกับหม่าหยูถืออ่างน้ำแช่ว่านสมุนไพรเข้าไปวางลง เมิ่งอันหลานก็เอามือเอาเท้าลงแช่ " หือ พวกเจ้ามองข้าทำไมไม่ต้องกลัวข้า
เมิ่งอันหลานขมวดคิ้ว ชายผู้นี้ดูหน้าคุ้นๆแต่นางก็ไม่เคยรู้จักเขามาก่อน" ท่านพูดเพ้อเจ้ออะไร ข้าไม่เคยรู้จักท่านหว่านเอ๋อเราไปกันเถอะ"เมิ่งอันหลานจูงมือหว่านเอ๋อเดินออกมา แต่ห่าวตี้หลุนก็รีบมาขวางหน้า ยังคุกเข่าลง" หลานเอ๋อข้ารู้ว่าเจ้าโกรธข้าอยู่ แต่อย่าพูดแบบนี้เลย อย่าบอกว่าเราไม่รู้จักกัน อย่าบอกว่าเจ้าไม่รู้จักข้า เราเป็นสามีภรรยากันนะ"ภาพในหัวฉายขึ้นมา เป็นภาพที่นางใส่ชุดเจ้าสาวสีแดงทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน มีชายตรงหน้าเป็นเจ้าบ่าว แต่แล้วภาพก็ตัดมาที่หย่งคัง นางสะบัดหัวไล่ความมึนงง" ไม่ ท่านไม่ใช่สามีข้า"" หลานเอ๋อ ข้าห่าวตี้หลุนเป็นสามีของเจ้า"" ไม่ ท่านไม่ใช่ อย่าเข้ามาใกล้ข้า"หย่งคังกับเมิ่งสิงโจวรีบเดินเข้ามา หย่งคังดึงเมิ่งอันหลานมาโอบกอด นางกอดซบเขาพูดเสียงออดอ้อน" สามี เขาทำให้ข้ากลัว"" ไม่ต้องกลัวข้าอยู่นี่ ข้าจะพาเจ้ากลับไปพัก"ห่าวตี้หลุนมองภาพที่ทั้งคู่กอดกัน นางเรียกชายคนนั้นว่าสามี นี่มันเรื่องอะไรกัน" เจ้า เจ้าเป็นใครปล่อยนางเดี๋ยวนี้นะ"หย่งคังจ้องหน้าห่าวตี้หลุนสายตาดุดัน ก่อนจะอุ้มเมิ่งอันหลานออกไป ห่าวตี้หลุนจะตามแต่ถูกเมิ่งสิงโจวขวางเอาไว้" ท่านคือห่าว
" สามี ข้าเจ็บ"เขาเดินเข้าไปลูบผมนางเบาๆ" วันนี้พอแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้พวกข้าจะมานวดให้ศิษย์พี่ใหม่"พอเอามือเอาเท้าออกจากอ่างว่านยาสมุนไพร นางรู้สึกเบามือเบาเท้ามาก" เป็นอย่างไร"" ไม่เจ็บแล้ว"หย่งคังอุ้มนางขึ้นมาพาเดินกลับไปห้องพักเมิ่งสิงโจวจะตามแต่หว่านเอ๋อขวางเอาไว้"ข้ารู้ว่าเจ้าทั้งห่วงและหวงพี่สาวเจ้ามาก ข้าเองก็ห่วงนางเหมือนกัน แต่ตอนนี้ข้าอยากให้นางมีความสุข แม้ระยะเวลาสั้นๆ ไว้ให้นางหายดีก่อนถึงเวลานั้นค่อยบอกความจริงกับนางก็ยังไม่สาย"เมิ่งสิงโจวครุ่นคิดนัก เว่ยหลงมาตบไหล่"ข้าก็คิดเช่นเดียวกันกับแม่นางหว่าน เจ้าไม่เห็นรึว่าพี่สาวของเจ้าเวลาอยู่กับคุณชายของเรา นางดูยิ้มแย้มมีชีวิตชีวาแค่ไหนแต่ละวันเรียกหาแต่ สามี สามี"เมิ่งสิงโจวถอนหายใจ ตั้งแต่เมิ่งอันหลานฟื้นขึ้นมานางก็เอาแต่ติดหย่งคังแจ คำก็สามี สองคำก็สามี สามีกำมะลอหน่ะสิ ไหนบอกว่าความทรงจำของนางหยุดลงเมื่อสามปีก่อนไง ตอนนั้นนางมีอะไรก็ อาโจว อาโจว นางไม่เคยรู้จักพบเจอหย่งคังมาก่อน เขาไม่เข้าใจว่าพอนางฟื้นมา ทำไมถึงได้เข้าใจว่าหย่งคังเป็นสามีไปได้ ทำไมไม่คิดถึงห่าวตี้หลุนสามีคนแรกของนาง " คุณชายเรามาถึงแล้ว เขาที
กลับเข้าห้องไปหย่งคังเห็นเมิ่งอันหลานนั่งก้มหน้าอยู่ เขารีบเขาไปดูนาง" เจ้าเป็นอะไร หรือว่าเจ็บปวดตรงไหน"เห็นนางเอาแต่ก้มหน้าไม่พูดจาเขาไม่รู้จะทำยังไง จึงโอบกอดนางจับหัวนางมาซบไหล่" หลานเอ๋อ หลานเอ๋อ"" ท่านไปไหนมา"" ข้า ข้าไป ไปปลดทุกข์มา"" ข้ารอท่านตั้งนาน"" รอข้า"ไม่ใช่ว่านางหลับไปแล้วเหรอเมื่อกี้ข้าฝันร้าย ฝันว่าท่านทิ้งข้าไป ข้าเห็นท่านใส่อาภรณ์สีทองปักลายมังกร กำลังเดินขึ้นไปนั่งบนแท่นสูง ระหว่างทางมีสตรีนางหนึ่งเข้ามาเดินเคียงคู่ท่าน ท่านเดินไปกับนางไม่หันหลังกลับมามองข้าเลย พอข้าจะตามก็มีชายหลายคนใส่ชุดแบบเดียวกันมาขวางทางข้า ไม่ยอมให้ข้าตามท่านได้ พอตื่นขึ้นมาข้าก็ไม่เห็นท่านนอนอยู่ข้างๆ ข้าคิดว่าท่านทิ้งข้าไปแล้ว"หย่งคังเช็ดน้ำตาที่อาบแก้มให้นาง แล้วดึงนางมาสวมกอด" แค่ฝันเท่านั้นอย่าคิดมาก ข้าอยู่ที่นี่แล้วไม่ได้ทิ้งเจ้าไปไหน ข้าจะกอดเจ้านอนทั้งคืนอย่าได้กลัว"ยามเฉิน หว่านเอ๋อเดินมาตามเมิ่งอันหลานไปกินข้าว พอเปิดประตูเข้าไปก็ตกใจที่เห็นหย่งคังกับเมิ่งอันหลานนอนกอดกันอยู่ นางไม่รู้จะทำยังไง พอดีเมิ่งสิงโจวเดินตามมาพอเห็นภาพตรงหน้าก็รีบเข้าไปปลุกทั้งสองให้ตื่น แล้ว
จางฮั่นลาออกจากหน่วยอินทรียกตำแหน่งหัวหน้าให้เจียเหริน เพราะเรื่องฝีมือความเฉลียวฉลาด เจียเหรินเหมาะสมกว่าคนอื่นแต่เจียเหรินปฏิเสธ บอกว่าจะลาออกเหมือนกันเพื่อไปตามหาหว่านเอ๋อ เซิ่งเทียนจึงรับตำแหน่งหัวหน้าชั่วคราว จนกว่าจะมีการคัดเลือกคนใหม่ในเวลานี้จางฮั่นกับเจียเหรินกำลังปิ้งปลาอยู่ในป่า พวกเขากำลังจะเดินทางไปเขาไท่ซานตามหาคนรัก เพราะจางฮั่นคิดว่าเมิ่งอันหลานน่าจะถูกส่งตัวไปให้หมอเทวดาซูอาจารย์ของนางรักษาอยู่ที่นั่น ส่วนเจียเหรินคิดว่าเมิ่งอันหลานอยู่ที่ไหนหว่านเอ๋อก็ต้องอยู่ที่นั่นด้วยสายลมพัดโชยกิ่งไผ่ลู่ไหวโอนเอียง ผ้าม่านหน้าต่างปลิวสะบัดตามแรงลม หย่งคังลุกออกไปดู เห็นลมพัดแรงขึ้น สงสัยฝนจะตกเขาปิดหน้าต่าง คนอื่นลงเขาไปเก็บสมุนไพรกันหมด วันก่อนเขาลื่นตกเขาได้รับบาดเจ็บยังเดินกระเผลกอยู่ เลยต้องรับหน้าที่เฝ้าเมิ่งอันหลานเมิ่งอันหลานลืมตาขึ้นมามองไปรอบตัว ก่อนจะหยุดมองชายตรงหน้า ที่กำลังจ้องมองนางอยู่เหมือนกัน ต่างคนต่างจ้องมองกันไม่มีใครพูดจา ก่อนที่หย่งคังจะพูดออกมาก่อน" ตื่นแล้วเหรอ"เมิ่งอันหลานค่อยๆลุกขึ้น หย่งคังเข้าช่วยพยุงนาง ทั้งสองสบตาในระยะใกล้ยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกน