LOGINดูก็รู้ว่าเขาคือผู้ล่า ไม่ใช่เหยื่อ
สองมือของกุลจิราทาบลงกับแผ่นท้องแข็งแรงอุดมด้วยกล้ามเนื้อ เธอย่อตัวลงกับพื้น ปลายนิ้วค่อย ๆ เลื่อนลงไป สาบเสื้อแยกออกกว้างกว่าเดิม
ใจของกุลจิราเต้นแรง กลืนน้ำลายอึกหนึ่งลงคอ ใบหน้างดงามผ่าวร้อนอย่างคนกระดากอาย เมื่อมองเห็นบางส่วนของความเป็นชาย
ของจริงกับภาพในหนังโป๊ช่างให้ความรู้สึกที่ต่างกัน
หรืออาจเพราะชายหนุ่มตรงหน้าคือเขา ร่างกายของเธอถึงได้ตอบสนองไวเช่นนี้
“ออกไปก่อนได้ไหมคะ ฉัน…ขอฉี่แป๊บนึงค่ะ” จู่ ๆ กุลจิราก็เกิดใจเสาะขึ้นมา ต้องการตั้งสติ ขอเวลาเตรียมตัวเตรียมใจอีกนิดน่า…
“จะให้ผมออกไปทำไม ยังไงซะผมก็ต้องเห็นทุกอย่างที่เป็นของคุณอยู่ดี” น่าขัน คงไม่ใช่ว่าเธอเกิดใจเสาะหรืออยากถ่วงเวลาหรอกนะ
“มันก็จริงแต่ว่า…” ไม่ทันจะได้ต่อรอง อุ้งมือแข็งแรงก็ตรึงด้านหลังท้ายทอยของหญิงสาว ดันปลายคางเรียวมนให้แหงนเงยขึ้น
ภวินท์บดริมฝีปากลงบนปากอ่อนนุ่ม หญิงสาวเม้มริมฝีปากไว้ ไม่ยอมเผยอออก กระทั่งถูกเขาบีบที่แก้ม
“อ๊ะ!” ริมฝีปากอิ่มแยกแย้มออก ลิ้นสากร้อนแทรกสอดเข้ามารัดรึงเรียวลิ้นของเธอ ภวินท์ดูดปลายลิ้นเล็กแน่นเข้า จุมพิตของเขาดุดันขึ้นเรื่อย ๆ
หัวใจของกุลจิราเต้นรัวเร็ว ขาทั้งสองข้างอ่อนยวบ สองแขนเลื่อนขึ้นไปเกาะกอดบ่ากว้างเอาไว้เพื่อทรงกาย
ทั้งหวาดหวั่นกับค่ำคืนแรกหลังแต่งงาน ทั้งตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังเผชิญ
ภวินท์รัดแขนรอบเอวบางก่อนที่คนตัวเล็กจะล้มลง กุลจิราตอบสนองจุมพิตเร่าร้อนของชายหนุ่ม
ส่วนที่มีเหตุผลพยายามปฏิเสธอีกฝ่าย ทว่าร่างกายของกุลจิรากลับอยากเรียนรู้สัมผัสจากเขาอย่างน่าอาย
ตลอดเจ็ดปีที่เธอทำงานอยู่ในบริษัทของภวินทร์ นอกจากความสามารถ ฐานะทางสังคม ข่าวลือเรื่องผู้หญิง เธอก็แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขา
ตำแหน่งพนักงานฝ่ายการตลาดที่เธอทำอยู่ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เธอกับภวินท์จะต้องเจอกันในห้องประชุม แต่ไม่เคยพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว
ใครจะคิดเล่าว่าพนักงานทำงานบนโต๊ะอย่างเธอ วันหนึ่งจะได้มาอยู่บนเตียงของเขา
เสี้ยววินาทีของความคิดนั้น ภวินท์รวบตัวหญิงสาวขึ้นไปนั่งบนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า
ตลบชายชุดนอนตัวบางขึ้น รูดแพนตี้ตัวน้อยผ่านท่อนขาเรียวงามด้วยความใจร้อน
ร่างสูงใหญ่เบียดแทรกเข้ามาระหว่างเรียวขาที่แยกออก
ฝ่ามือใหญ่ทาบลงที่เนินเนื้ออิ่มนูนเกลี้ยงเกลา ราวกับต้องการประกาศว่าทุกส่วนของร่างกายเธอ
เขาต้องการจะเป็นเจ้าของมันตอนนี้ เดี๋ยวนี้ด้วย
นิ้วข้างหนึ่งของเขาสอดผ่านช่องทางคับแน่นเข้ามา เสียงแหบห้าวกระซิบที่ข้างหูพร้อมกับขยับนิ้วเข้าไป
“ครางชื่อผมสิ” สองแก้มของกุลจิราแดงปลั่งขึ้นสีเรื่อด้วยความคับข้องและอารมณ์ปรารถนาที่ถูกเขาปลุกเร้า
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วไปหมด
“คุณภะ…ภวินท์” เสียงหวานเล็ดลอดออกจากลำคอก่อนที่หญิงสาวจะกัดริมฝีปากไว้แน่น
นิ้วหัวแม่มือของภวินท์คลึงเนื้อติ่งน้อย ขณะที่ท้องนิ้วสากเสียดสีเข้ากับจุดอ่อนไหวที่ซุกซ่อนอยู่ในโพรงถ้ำ มุมปากยกยิ้ม
กุลจิราจิกเล็บลงกับต้นแขนกำยำของเขา เมื่อกระแสซาบซ่านไหลปราดลงไปยังกึ่งกลางกาย
ยอดทรวงอกชูชันดุนดันชุดนอนตัวบางจนมองเห็นรูปร่างของมัน
แน่นอนว่าเขารู้วิธีล่อลวงร่างกายของผู้หญิงเป็นอย่างดี
“เมื่อกี้ยังดูเก่งอยู่เลย ทำไมตอนนี้ทำเหมือนไม่เคย หรือว่าคุณอยากให้ผมประทับใจเลยต้องแสร้งทำว่าตัวเองยังซิงอยู่” ภวินท์กระซิบถาม ออกแรงเคล้นคลึงหนักข้อขึ้น จนได้ยินเสียงน้ำฉ่ำแฉะดังกังวาน
“ฉัน…” เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขา แม้ในใจจะเต้นแรงแทบระเบิดออกมา
เธอคิดว่าการเตรียมใจและดูหนังโป๊พวกนั้นจะทำให้เธอรับมือเขาได้ แต่เอาเข้าจริงมันไม่ได้ง่ายเลย
ร่างกายของเธอกำลังโอนอ่อนและตอบสนองเขาอย่างว่าง่าย
“เลิกเสแสร้งได้แล้ว เรามาเอาจริงกันดีกว่า” จบความคิดร้ายกาจ ภวินท์ก็กระชับร่างเล็กแน่นเข้า
กุลจิราแทบผวาเมื่อมือหนากดแผ่นหลังเธอให้แอ่นอกขึ้น ก่อนจะก้มลงไปซุกไซ้ที่เนื้อเนินอก
การจู่โจมรุนแรงไม่ทันตั้งรับส่งผลให้เธอแหงนใบหน้าไปด้านหลัง สองมือน้อยเกาะไหล่กว้างไว้มั่น ราวกับเชื้อเชิญ
เม็ดทับทิมสีหวานถูกขบเม้มและดูดดึงอย่างรุนแรงทันทีที่สายเดี่ยวของชุดนอนถูกดึงทึ้งลงไป มือข้างหนึ่งบีบขยำหน้าอกเต่งตึงไปด้วย
“อ๊ะ!” หญิงสาวหลุดเสียงครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ปลายลิ้นร้อนไล้เลียกับหน้าอกโต นิ้วยาวเคล้าคลึงเม็ดทับทิมจนแข็งเป็นตุ่มไต
กุลจิรารู้สึกเหมือนใจจะขาดอยู่รอน ๆ ร่างเล็กหอบหายใจราวกับกำลังวิ่งขึ้นภูเขา เสียงลมหายใจเธอประสานกับเสียงลมหายใจของชายหนุ่ม
ร่างกายสูงใหญ่บดเบียดเข้าหาตัวเธอ มือเรียวยาวเลื่อนลงไปลูบไล้เนินอวบอูมผ่านชุดนอนสีขาวไข่มุก ก่อนจะสอดเข้าไปข้างในเพื่อสัมผัสกับส่วนนั้นของเธอ
“เล่นละครเก่งนี่” เป็นน้ำเสียงที่แหบพร่า กุลจิราเม้มริมฝีปากแน่น
ชั่วพริบตาเดียวกางเกงชั้นในตัวบางก็ถูกดึงลงไปข้างล่าง เรียวนิ้วสอดเข้าไปในช่องทางรักของหญิงสาว อีกมือลูบไล้ไปตามเรือนร่างงดงาม ก่อนจะหยุดนวดเฟ้นที่อกเต่งตึงเพื่อระบายความต้องการของตนเอง
เขาเต็มใจช่วยเหลือครอบครัวกุลจิราก็จริง แต่ก็ใช่ว่าเขาจะเป็นคนดีขนาดจะตบแต่งเธอมาเป็นแค่สิ่งของประดับบ้าน
เธอต้องทำหน้าที่บนเตียงได้ทุกครั้งที่เขามีความต้องการ
ดวงตาคมคายจ้องใบหน้างดงาม ลึกลงไปในดวงตาคู่สวยที่บัดนี้หยาดเยิ้มไปด้วยความต้องการ
“ลองจับมันดูสิ เหมือนว่ามันจะรอให้คุณสัมผัสมันอยู่นะ กุลจิรา”
ภวินท์จับมือของเธอให้ไปสัมผัสกับส่วนนั้นของตัวเอง ให้อุ้งมือของเธอรูดรึงลำเอ็นอวบขึ้นลงจนมันโป่งพองขยายขนาด หญิงสาวรู้สึกได้ถึงเส้นเอ็นขรุขระที่ปูดโปนบนผิวของมัน
ขนาดของเขาทำให้กุลจิราหวั่นเกรงอยู่ลึก ๆ จังหวะการเต้นของหัวใจเร็วและแรงขึ้นอีกหลายระดับ
อาจเพราะสัญชาตญาณในกายที่ถูกเขาปลุกเร้าขึ้นมาและเพราะรู้แก่ใจ
เขายอมจ่ายเงินจำนวนมหาศาลก็เพื่อให้เธอมารองรับอารมณ์
กุลจิราค่อย ๆ เรียนรู้กับสิ่งที่เขากำลังยัดเยียด แม้ในใจจะกล้า ๆ กลัว ๆ ซึ่งส่วนนั้นของเขาตอบสนองมือเธออย่างรวดเร็ว
กุลจิราขยับมือเนิบช้า นึกถึงภาพของชายหญิงในหนังโป๊ะที่ร่วมรักกันไปด้วย หากแต่เธอไม่กล้ามองอนาคอนด้าใหญ่ยักษ์ในมือตัวเอง
ระหว่างนั้นหัวใจเต้นตึกตักไม่หยุด ปลายอวบหยักที่ผลุบเข้าออกระหว่างซอกนิ้วของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว
“อืม~” เสียงทุ้มแหบพร่าดังขึ้นในความเงียบ ชายหนุ่มกัดฟันขบกรามแน่นจนเห็นเป็นสันนูน เม็ดเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผากและไรผม
แท่งร้อนเริ่มชื้นด้วยหยดน้ำสีใส แก่นกายที่สะอาดสะอ้านพองตัวขึ้นจนมือของกุลจิราแทบกำไม่มิด
“โอ่ว…” เสียงครางต่ำดังขึ้นในลำคอด้วยความพอใจ มือนุ่มเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ด้วยการรูดรั้งแท่งร้อนขึ้นลงช้า ๆ มองเห็นเส้นเลือดปูดโปนรอบลำยาว ทำให้ตัวตนของภวินท์ยิ่งดูน่าเกรงขาม
ขนาดเกินมาตรฐานชายไทย ขนาดของมันใหญ่กว่าผู้ชายในหนังโป๊มาก ความยิ่งใหญ่ของมันสร้างความวิตกกังวลให้กุลจิราไม่น้อย
แต่มาถึงตอนนี้ก็ไม่มีอะไรที่เธอจะต้องถอย
ไม่สิ เธอไม่มีสิทธิ์ให้ถอยมากกว่า
“อืม แบบนั้นแหละ โอว่…” กล้ามท้องเกร็งแน่นแข็งเป็นลอน ชายหนุ่มหลับตาพริ้มกัดกรามจนนูนขึ้น
หญิงสาวรู้สึกได้ถึงมือที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำหล่อลื่น มันชุ่มฉ่ำจนไหลไปตามง่ามนิ้วของเธอ ภวินท์หอบหายใจแรง หน้าท้องเต็มไปด้วยมัดกล้ามขยับขึ้นลงถี่
“ผลเปลี่ยนใจแล้ว เราไปที่เตียงกันดีกว่า” ดวงตาคู่สวยฉายความตกใจออกมา คว้าจับที่ต้นคอแข็งแรงอัตโนมัติ ในตอนที่ถูกเขาพาออกมาจากห้องน้ำ มุ่งตรงมาที่เตียงนอนที่บัดนี้เต็มไปด้วยกลีบกุหลาบสีแดงสด
กุลจิรารับรู้ได้ถึงอันตราย หัวใจเต้นระรัว ความรู้สึกวาบหวามเข้าจู่โจมอีกครั้งตอนที่เขาวางเธอลงบนเตียง
แทบจะกลั้นลมหายใจในยามที่ชายหนุ่มก้มลงไปซุกไซ้ซอกคอขาวผ่องของตัวเอง
มือไม้เธอพลันอ่อนยวบยาบ ความหวามไหวซาบซ่านแล่นพล่านไปทั้งร่างกาย
ความรุ่มร้อนที่สุมอยู่ในกายของภวินท์หนักอึ้งขึ้นทุกขณะ
ไม่คาดคิดว่ากุลจิรา ผู้หญิงที่เขาใช้เงินซื้อมา จะทำให้เขามีอารมณ์ได้ถึงเพียงนี้
ขณะเดียวกันสมองของกุลจิราพลันว่างเปล่า
ร่างกายแตกตื่น รับรู้ได้ว่าสิ่งใดกำลังจะเกิดขึ้น
ริมปากหยักหนาเข้าครอบครองริมฝีปากจิ้มลิ้ม ภวินท์รอคอยเวลานี้มานาน
จากลูกเพื่อนบิดา สู่พนักงานคนหนึ่งในบริษัท
จากหญิงสาวที่เขาได้แต่เฝ้ามองอยู่ไกล ๆ
อยากได้ อยากครอบครอง ในสุดวันนี้ก็มาถึง
ท้องฟ้าสว่างจ้าที่บ้านเศรษฐวินิจเมื่อช่วงเช้ามืดครึ้มลงในตอนที่กุลจิรามาถึงบริษัท PSW Asset Group ราวกับเป็นลางบอกบางอย่าง“ชีวิตหลังแต่งงาน” ไม่ได้ถูกโรยด้วยกลีบกุหลาบหญิงสาวก้าวผ่านประตูทางเข้าด้วยจก้าวที่มั่นคง แม้ในอกจะมีความกังวลซ่อนอยู่ก็ตามไม่น่าเชื่อว่าเธอจะทำงานให้ที่นี่มาแล้วเจ็ดปี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายวางแผนและฝ่ายการตลาดของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่โตแม้ไม่ใช่ตำแหน่งสูงส่งแต่กุลจิราก็ทุ่มเทและพยายามอย่างหนัก เพื่อให้ตัวเองมายืนอยู่ตรงนี้ยังจำได้ขึ้นใจ ในบรรดาคนที่มาสัมภาษณ์งานทั้งหมด เธอเป็นคนที่ถูกซักถามมากที่สุด แถมรอบสุดท้ายเธอยังเป็นคนเดียวที่ต้องเข้าไปสัมภาษกับเจ้าของบริษัทโดยตรงอีกด้วย“คุณคิดว่าตัวเองมีข้อดีอะไรที่บริษัทต้องรับคุณเข้ามาทำงาน” น้ำเสียงเรียบนิ่งของภวินท์ในวันนั้นยังดังก้องอยู่ในหัวเธอเสมอเขานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามในมาดผู้บริหารสุดเนี๊ยบสมบูรณ์แบบ ใบหน้าหล่อเหลายากจะละสายตาทว่าก็แฝงไปด้วยความเย็นเฉียบที่ทำให้เธอไม่กล้าขยับตัวและที่สำคัญ…ภวินท์ทำเหมือนไม่เคยรู้จักเธอมาก่อนก็พอจะเข้าใจได้ เขาเป็นถึงผู้บริหารของบริษัทใหญ่โต ก็ต้องวางมงวางมาดเป็นธรรมดา
“ครางออกมาดังๆกว่านี้ ครางชื่อผมให้ดังกว่านี้ ให้สมกับที่ผมซื้อคุณมาด้วยเงินห้าสิบล้านหน่อย” สิ้นคำนี้ลิ้นร้อนระอุก็ดูดกลืนยอดปทุมถันสีชมพูระเรื่อเข้าไปในปาก ปลายลิ้นที่ชุ่มไปด้วยน้ำลายทั้งดูดทั้งดึงจนมันแข็งเป็นตุ่มไต ร่างบางสั่นสะท้านเกร็งไปทั้งตัว“อ๊า อื้อออ คุณภะ…ภวินท์ อ๊า…” เมื่อเป็นคำสั่งของเขากอปรกับที่ไม่อาจอดทนอดกลั้นเอาไว้ได้ กุลจิราก็ส่งเสียงครวญครางออกมา ความหวิวหวามรัญจวนเล่นงานเธออย่างหนัก ความเสียวซ่านฉีดพุ่งไปทั่วทั้งร่างกายและเหมือนมันจะเรียกร้องให้เขาทำมากกว่านี้“เสียงครางคุณโคตรลามกและมันทำให้ผมมีอารมณ์มากรู้ตัวไหม หืมมม” เขากระซิบเสียงพร่า แล้วยันกายขึ้นไปตอกตรึงความแข็งขึงเข้าไปในร่องคับอย่างเนิบนาบ สายตาจ้องมองไปยังจุดเชื่อมต่อสะโพกเพรียวตอกตรึงเข้าใส่ความนุ่มของหญิงสาวไม่หยุดร่างกายทุกส่วนของกุลจิราตอบสนองเขาอย่างน่าอายเธอไม่มีสิทธิ์จะทักท้วงหรือบอกให้เขาหยุดเขาใช้หนี้ให้ครอบครัวเธอตั้งห้าสิบล้าน เธอก็สมควรจะทำให้เขาพอใจถึงจะถูกหญิงสาวจ้องมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย เสี้ยวหนึ่งของความคิด คาดหวังว่าอยากเห็นความอ่อนโยนจากดวงตาคู่นั้นแต่มันก็ไม่มีอยู่เลยแม
จากหญิงสาวที่เขาได้แต่เฝ้ามองอยู่ไกล ๆ อยากได้ อยากครอบครอง ในสุดวันนี้ก็มาถึง มือเรียวยาวรั้งท้ายทอยให้หญิงสาวรับจูบอันแสนดูดดื่มจากตนเอง ภวินท์ส่งลิ้นเข้าไปกวาดต้อนลิ้นของกุลจิราอย่างเร่าร้อน หญิงสาวเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบดูดดื่มในไม่ช้า ยอมส่งลิ้นให้อีกฝ่ายเลาะชิมดูดดึงควานหาความหวานหอมโดยไม่ขัดขืน กระทั่งเขาเลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นมากอบกุมเต้าทรวงกลมกลึง ความสยิวก็แล่นปราดไปทั่วทั้งร่างกายของกุลจิรา ทุกรูขุมขนลุกเกรียว ช่วงล่างบดเบียดเข้าหากัน ความรู้สึกในยามที่ถูกสัมผัส เป็นแบบนี้เองหรือ ชายหนุ่มดูดเม้มข้างลำคอขาวผ่อง มือข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นมาบีบเคล้นทรวงอกของเธอ แต่ไม่ได้นุ่มนวล ไม่นานก็ถอนริมฝีปากออกจากคอระหง คนที่เพิ่งถูกสูบวิณญาณด้วยจุมพิตร้อนแรงเพิ่งรู้ตัวว่าชุดนอนวาบหวิวที่สวมอยู่ไม่ได้อยู่บนร่างกายแล้ว เนื้อตัวของหญิงสาวสะท้านขึ้นมาเมื่อถูกเขาจ้องมองเต็มทั้งสองตา คิดไม่ถึงว่าลูกสาวของก้องเกียรติจะงดงามเพียงนี้ ปากและลิ้นของภวินท์เลื่อนต่ำลงไปหาทรวงอกกลมโต ขบเม้มเนินอกอวบ ก่อนจะครอบครองยอดประทุมถัน ดูดดุนจนมันเริ่มแข็งเป็นตุ่มไต สัมผัสนี้ส่งผลให้คนไร้ประสบการณ์รู้สึก
ดูก็รู้ว่าเขาคือผู้ล่า ไม่ใช่เหยื่อสองมือของกุลจิราทาบลงกับแผ่นท้องแข็งแรงอุดมด้วยกล้ามเนื้อ เธอย่อตัวลงกับพื้น ปลายนิ้วค่อย ๆ เลื่อนลงไป สาบเสื้อแยกออกกว้างกว่าเดิมใจของกุลจิราเต้นแรง กลืนน้ำลายอึกหนึ่งลงคอ ใบหน้างดงามผ่าวร้อนอย่างคนกระดากอาย เมื่อมองเห็นบางส่วนของความเป็นชายของจริงกับภาพในหนังโป๊ช่างให้ความรู้สึกที่ต่างกันหรืออาจเพราะชายหนุ่มตรงหน้าคือเขา ร่างกายของเธอถึงได้ตอบสนองไวเช่นนี้“ออกไปก่อนได้ไหมคะ ฉัน…ขอฉี่แป๊บนึงค่ะ” จู่ ๆ กุลจิราก็เกิดใจเสาะขึ้นมา ต้องการตั้งสติ ขอเวลาเตรียมตัวเตรียมใจอีกนิดน่า…“จะให้ผมออกไปทำไม ยังไงซะผมก็ต้องเห็นทุกอย่างที่เป็นของคุณอยู่ดี” น่าขัน คงไม่ใช่ว่าเธอเกิดใจเสาะหรืออยากถ่วงเวลาหรอกนะ“มันก็จริงแต่ว่า…” ไม่ทันจะได้ต่อรอง อุ้งมือแข็งแรงก็ตรึงด้านหลังท้ายทอยของหญิงสาว ดันปลายคางเรียวมนให้แหงนเงยขึ้นภวินท์บดริมฝีปากลงบนปากอ่อนนุ่ม หญิงสาวเม้มริมฝีปากไว้ ไม่ยอมเผยอออก กระทั่งถูกเขาบีบที่แก้ม“อ๊ะ!” ริมฝีปากอิ่มแยกแย้มออก ลิ้นสากร้อนแทรกสอดเข้ามารัดรึงเรียวลิ้นของเธอ ภวินท์ดูดปลายลิ้นเล็กแน่นเข้า จุมพิตของเขาดุดันขึ้นเรื่อย ๆหัวใจของกุลจิร
“ตามผมขึ้นไปบนห้อง ขึ้นไปทำหน้าที่ของคุณให้เสร็จๆเพราะพรุ่งนี้ผมมีประชุมตอนเช้า” เสียงนั้นเยียบเย็น ดูห่างเหินเกินกว่าจะเป็นคนที่เธอเพิ่งเข้าพิธีวิวาห์ด้วยกุลจิราเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ดวงตาคู่สวยปะทะเข้ากับดวงตาคมกริบไร้ซึ่งความรู้สึกสายตาคู่นั้นยังคงมองเธอเป็นเพียงผู้หญิงต่ำต้อย ไม่ต่างจากวันแรกที่เจอหน้ากัน“ค่ะ” ในที่สุดเธอก็พยักหน้ารับคำสั่งอย่างคนที่ยอมรับในชะตากรรมของตัวเองเวลาต่อมากุลจิราสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะก้าวขาเข้าไปในห้องนอนของภวินท์หลังจากเคาะประตูบอกอีกฝ่ายแล้วทั้งที่เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ดิบดีแต่พอถึงเวลา หัวใจเธอก็เต้นผิดจังหวะอย่างไม่อาจควบคุมด้านในสุดของห้องขขนาดใหญ่กุลจิรามองเห็นบานกระจกสูงทอดยาวเปิดรับแสงจากดวงจันทร์ยามค่ำคืนที่สาดส่องเข้ามาจากคำบอกเล่าขอลำดวน แม่บ้านคนเก่าแก่ ห้องฝั่งหนึ่งคงจะเป็นห้องแต่งตัว ถัดไปเดาว่าเป็นห้องทำงานภวินท์ขึ้นมาข้างบนก่อนเธอราวสิบห้านาทีได้ ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในชุดทัคซิโด้แต่สวมเสื้อคลุมสีดำยาวไว้หลวม ๆ เส้นผมที่ชื้นเล็กน้อยบ่งบอกว่าอีกฝ่ายเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จในมือถือแก้วคริสตัลอยู่ เจ้าของใบหน้าเคร่งขรึมดูน่าเกรงขามหันมามองเ
สายลมเย็นเฉียบของปลายฤดูฝนพัดผ่านหน้าต่างบานสูงในคฤหาสน์หลังใหญ่ สัมผัสแผ่วเบากับผิวแก้มของหญิงสาวผู้ยืนเหม่อมองออกไปที่สวนหย่อมเจ้าของร่างเล็กสวมชุดเจ้าสาวสีงาช้างสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามกลืนก้อนสะอื้นที่เกาะอยู่ตรงลำคอให้จมหาย กุลจิราเลือกชุดเจ้าสาวจากร้านพรีเวตดิ้งด้วยตัวเอง แม้จะรู้ดีว่าไม่ใช่วิวาห์ที่วาดฝันไว้ เธอก็ยังอยากให้ตัวเองดูดีที่สุดในวันสำคัญของชีวิตความเงียบงันภายในห้องนอนของคฤหาสน์หลังใหญ่มีเพียงเสียงนาฬิกาบนผนังที่เดินเป็นจังหวะ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ คำพูดชื่อชมเธอจากแขกเหรื่อในงานที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่โรงแรมหรูในค่ำคืนที่ผ่านมา คงเป็นเพียงฉากละครฉากหนึ่งกุลจิรายังจำสายตาแขกในงานนับร้อยที่มองมายังเธอได้ดีบางคนยินดี หลายคนอิจฉา บ้างหัวเราะเยาะเมื่อลับจากสายตาเธอภวินท์ เศรษฐวินิจซีอีโอหนุ่มไฟแรง เจ้าของ PSW Asset Group บริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่ไม่มีใครจะไม่รู้จักในเวลานี้ภวินท์เป็นเจ้าบ่าวของเธอ คนที่ยืนเคียงข้างเธอกลับทำตัวเย็นชาเสียจนกุลจิราอยากวิ่งหนีออกไปจากตรงนี้ หากไม่ติดว่าภวินท์คือคนที่ยื่นมือเข้ามาใช้หนี้ก้อนใหญ่ให้กับครอบครัวของเธอที่กำลังจะ







