LOGIN“ตามผมขึ้นไปบนห้อง ขึ้นไปทำหน้าที่ของคุณให้เสร็จๆเพราะพรุ่งนี้ผมมีประชุมตอนเช้า” เสียงนั้นเยียบเย็น ดูห่างเหินเกินกว่าจะเป็นคนที่เธอเพิ่งเข้าพิธีวิวาห์ด้วย
กุลจิราเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ดวงตาคู่สวยปะทะเข้ากับดวงตาคมกริบไร้ซึ่งความรู้สึก สายตาคู่นั้นยังคงมองเธอเป็นเพียงผู้หญิงต่ำต้อย ไม่ต่างจากวันแรกที่เจอหน้ากัน “ค่ะ” ในที่สุดเธอก็พยักหน้ารับคำสั่งอย่างคนที่ยอมรับในชะตากรรมของตัวเอง เวลาต่อมา กุลจิราสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะก้าวขาเข้าไปในห้องนอนของภวินท์หลังจากเคาะประตูบอกอีกฝ่ายแล้ว ทั้งที่เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ดิบดีแต่พอถึงเวลา หัวใจเธอก็เต้นผิดจังหวะอย่างไม่อาจควบคุม ด้านในสุดของห้องขขนาดใหญ่กุลจิรามองเห็นบานกระจกสูงทอดยาวเปิดรับแสงจากดวงจันทร์ยามค่ำคืนที่สาดส่องเข้ามา จากคำบอกเล่าขอลำดวน แม่บ้านคนเก่าแก่ ห้องฝั่งหนึ่งคงจะเป็นห้องแต่งตัว ถัดไปเดาว่าเป็นห้องทำงาน ภวินท์ขึ้นมาข้างบนก่อนเธอราวสิบห้านาทีได้ ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในชุดทัคซิโด้แต่สวมเสื้อคลุมสีดำยาวไว้หลวม ๆ เส้นผมที่ชื้นเล็กน้อยบ่งบอกว่าอีกฝ่ายเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ ในมือถือแก้วคริสตัลอยู่ เจ้าของใบหน้าเคร่งขรึมดูน่าเกรงขามหันมามองเธอเพียงแวบเดียวก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา “มาตรงนี้สิ” น้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงแรงกดดันเอาไว้ กุลจิราข่มความประหม่า ก้าวเข้าไปใกล้ หย่อนตัวลงนั่งที่ปลายเตียงตรงข้ามกับเจ้าของห้องโดยไม่สบตา ฝ่ามือเธอเย็นเฉียบจนต้องกอบกำเข้าหากัน ใจเริ่มเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ กลัวเขาจะรู้ว่าอาการประหม่ามาจากการที่เธอยังไม่เคยผ่านศึกบนเตียงมาก่อน กุลจิราเป็นคนใฝ่เรียนมาตั้งแต่เด็ก เชื่อฟังคำบิดามารดา ในชีวิตไม่เคยนอกลู่นอกทาง ประสบการณ์เรื่องอย่างว่าจึงนับว่าอ่อนหัดนัก แต่ใครเล่าจะยอมถูกคนอย่างเขาดูแคลน เวลาเพียงหนึ่งวันก็พอให้เธอศึกษาเรื่องพวกนี้ แม้ไม่มีสิทธิ์รัก ไม่อาจแสดงความรู้สึก อย่างน้อยเธอไม่ต้องอับอายต่อหน้าเขา… ผู้ชายที่อยู่ในหัวใจเธอมาตลอด เจ็ดปีก่อน ก้องเกียรติ บิดาของเธอได้พาเธอไปพบกับภวินทร์ ตอนนั้นเขาเพิ่งเข้ารับรับตำแหน่งผู้บริหารได้ไม่นาน เนื่องจากก้องเกียรติตั้งใจจะให้เธอเข้าทำงานในบริษัทของเขา จึงพาไปทำความรู้จักล่วงหน้าก่อนถึงวันสัมภาษณ์งาน โลกช่างกลมเหลือเกิน นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่บิดามักเอ่ยชมให้เธอฟังอยู่บ่อย ๆ เป็นคนเดียวกับชายแปลกหน้าที่ฉุดดึงเธอขึ้นมาจากความสิ้นหวังในวันนั้น หนึ่งเดือนถัดมา กุลจิราได้เข้าทำงานในบริษัทของเขาผ่านการสัมภาษณ์งานและทดสอบความสามารถเช่นเดียวกับทุก คน เจ็ดปีที่ผ่านมานั้น เธอเป็นเพียงพนักงานธรรมดา แม้ก้องเกียรติจะเป็นถึงเพื่อนของคุณพิศาล บิดาของภวินทร์ ผู้บริหารคนก่อน อีกทั้งความสัมพันธ์ของทั้งคนเป็นไปด้วยดีมาตลอด แต่กุลจิราก็ไม่ได้มีสิทธิ์พิเศษเหนือพนักงานคนอื่น เธอเป็นเพียงผู้หญิงที่อยู่นอกสายตาของเขา ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่ง ชายหนุ่มผู้ไกลเกินเอื้อมจะเป็นคนที่ยื่นข้อเสนอ ‘แต่งงาน’ แลกกับการปลดหนี้สินให้กับครอบครัวของเธอ เมื่อก่อนกุลจิราเคยคิดว่า ‘การแอบรัก’ เป็นความทุกข์ใจ แต่เมื่อเธอได้มาอยู่ข้างกายเขา ถึงรู้ว่าความทุกข์ที่แท้จริงคือการขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ภรรยานอกหัวใจ’ เป็นผู้หญิงที่เขาใช้เงินซื้อมาต่างหาก เมื่อความคิดของกุลจิราหยุดลง เธอก็พบว่าแววตาคู่คมยังคงมองมาที่เธอ ภวินท์จ้องมองมาที่หญิงสาว เขาอยากรู้นักว่าตัวตนแท้จริงของ กุลจิรา วงษ์เศวต หญิงสาวที่บิดาของเขาชมให้ฟังอยู่บ่อย ๆ เนื้อแท้เป็นคนอย่างไรกันแน่ “ทำไมต้องทำหน้าเหมือนคนกำลังจะถูกเฉือนเนื้อออกมาแบบนั้น” เขาวางแก้วลง เอนตัวพิงพนักโซฟา กวาดสายตามองกุลจิราตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า นี่อาจเป็นครั้งแรกที่เขาตั้งใจมองผู้หญิงที่จะขึ้นเตียงด้วยกระมัง ที่ผ่านมาเขาแค่ต้องการปลดปล่อยความใคร่ ไม่ได้พิศวาสจนต้องใส่ใจมองอีกฝ่ายขนาดนั้น “เปล่านี่คะ ฉันแค่รู้สึกหนาวนิดหน่อย” เขาแค่นหัวเราะในทันที ไหนก้องเกียรติบอกว่าบุตรสาวคนนี้ของเขาเก่งนักเก่งหนาไง “’ก็ดี งั้นเราก็มาเริ่มกันเลย พรุ่งนี้ผมต้องตื่นเช้า” “อ๊ะ” ภวินท์รวบร่างเล็กไปนั่งที่ตักไม่ให้เธอได้ตั้งตัว เขาเชยคางเธอขึ้น นัยน์ตาสีนิลมองเข้ามาในดวงตาเธอ “แอร์ห้องผมมันหนาวจนทำคุณตัวสั่นขนาดนี้เลยเหรอ” ชายหนุ่มเหยียดยิ้มที่มุมปาก คล้ายกำลังดูแคลนเธออยู่กราย ๆ “ก็คุณไม่ให้ฉันได้ตั้งตัวนี่คะ” เธอตอบเสียงแข็ง พยายามกลบเกลื่อนอาการประหม่าเอาไว้ “อ่อ เหรอ งั้นถ้าอยากให้คืนนี้ผ่านไปเร็วๆ ก็อย่ามัวชักช้า รีบแสดงฝีมือของคุณให้ผมดูซะทีสิ” ภวินท์ก้มลงกระซิบทชิดริมหูเธอ ลมหายใจผ่าวร้อนเป่ารดที่ซอกคอระหง ริมฝีปากนุ่มเย็นกดลงที่ข้างลำคอก่อนจะขบเม้มเนื้ออ่อนที่ตรงนั้น กุลจิราตัวเกร็งโดยไม่รู้ตัว ท้องน้อยวูบหวิวขึ้นมา มือข้างหนึ่งดันอกเขาออกห่าง หลุบตามองชุดนอนวาบหวิวสีขาวที่ตัวเองเลือกมากับมือ “จะเริ่มได้รึยัง ผมอยากเห็นคุณแก้ผ้าเต็มทนแล้วนะ” ถ้อยคำห่าม ๆ ของเขาทำให้กุลจิราทั้งฉุนทั้งกระดากอาย “ใจเย็นสิคะ ฉันจะเริ่มเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” กำลังจะขยับลงจากตักเขา ภวินท์ก็คว้าเธอไว้ “เดี๋ยวก่อน ผมอยากอาบน้ำ” “อาบน้ำ?” หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น เขาเพิ่งอาบน้ำมาไม่ใช่หรือไง ทว่าไม่ทันได้คลายความสงสัย ชายหนุ่มก็อุ้มเธอขึ้นจากเตียงเดินผ่านห้องแต่งตัว ตรงไปยังห้องน้ำด้านในแล้ววางตัวเธอลงบนพื้น ร่างสูงใหญ่ขยับใกล้เข้ามา กุลจิราถอยร่นจนบั้นท้ายกลมกลึงชนเข้ากับขอบเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า เขาดึงเธอมาแนบอก “ถอดเสื้อคลุมออกให้ผมสิ” ใบหน้าไม่บอกอารมณ์ ทว่าส่วนลึกในดวงตากลับฉายรอยยิ้ม กุลจิรานิ่งไป กลืนน้ำลายอึกหนึ่งลงคอ ในชีวิตเธอเคยถอดเสื้อผ้าให้ใครซะที่ไหน ดวงตาเรียวรีกวาดมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างลืมตัว ดูเหมือนว่านอกจากเสื้อคลุม ข้างในเขาไม่ได้สวมใส่อะไร “คุณก็รู้นี่ว่าผมไม่ชอบรออะไรนานๆ” น้ำเสียงทุ้มต่ำ แฝงไปด้วยอำนาทที่อยู่เหนือกุลจิราทุกอย่าง แม้ไม่ใช่เลขาหน้าห้องแต่เวลาเจ็ดปีที่เธอทำงานให้กับเขา ต้องรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นเจ้านายที่ค่อนข้างใจร้อน หญิงสาวพยายามข่มอารมณ์แล้วรีบตั้งสติ ข่มอาการประหม่าของตัวเอง นี่มันแค่เริ่มต้น เธอยังต้องยอมให้เขาออกคำสั่ง กดขี่ข่มเหงไปทั้งชีวิตนะกุลจิรา หญิงสาวสูดหายใจลึกเข้า ค่อย ๆ ยื่นมือออกไปปลดสายเชือกที่เอวของชายหนุ่มออก สาบเสื้อคลุมแยกออกจากกัน เผยให้เห็นแผ่นอกแน่นหนั่นไปด้วยกล้ามเนื้อ ผู้ชายในหนังโป๊ที่เธอดูเพื้อใช้ศึกษาเรื่องบนเตียง หุ่นยังไม่สู้ชายหนุ่มตรงหน้าเธอตอนนี้ ภายนอกว่าดูดีและมีเสน่ห์แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าภายในยิ่งกว่าที่เธอเคยจินตนาการไว้เสียอีก แต่ใครได้มาอยู่ตรงหน้าของเขาในสภาพล่อแหลมเช่นนี้ ก็ยากจะห้ามความคิด ร่างกายของภวินท์เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อกระชับ ทั้งที่โพรไฟล์เป็นคนชอบกินดื่มสังสรรค์ และการที่คนเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบเช่นเขาลดตัวลงมาแต่งงานกับเธอ คงเพราะต้องการให้เธอกันผู้หญิงที่เข้าหาเพราะผลประโยชน์พวกนั้น หากผู้หญิงที่เขาจะเอามาไว้ข้างกาย สามารถควบคุมชีวิตได้ ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ ไม่มีสิทธิ์มีเสียง ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร อยู่ในชีวิตของเขาเพื่อรองรับความใคร่เท่านั้น ผู้หญิงที่มีไว้ใช้เรือนร่างตอบแทนหนี้บุญคุณไปตลอดทั้งชีวิต ในโลกนี้คงมีแค่เธอเท่านั้นที่เหมาะสม กุลจิราช้อนมองอีกฝ่าย ยอมรับว่าภวินท์เป็นชายหนุ่มหน้าตาดีมากคนหนึ่ง ทว่าใบหน้าราวกับปฏิมากรรมงดงาม กลับดูกระด้างและอันตราย กุลจิรายืดตัวขึ้น จุมพิตที่ข้างลำคออีกฝ่าย เรียวปากอ่อนนุ่มลากไล้ลงมาตามลาดลำคอแข็งแรง กดจูบลงมาที่เหนืออกของชายหนุ่ม มือทั้งสองกำเข้าหากันจนชื้นไปด้วยเหงื่อ ใครจะเชื่อว่าคนอายุยี่สิบเก้าปีอย่างเธอ ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องพวกนี้มาก่อน สีหน้าของชายหนุ่มเรียบนิ่งไม่บอกอารมณ์ กุลจิราเห็นเพียงว่าส่วนลึกในดวงตาของเขาดำมืดลงทุกที ภวินท์ควบคุมตัวเองได้ดีเสมอ ดูก็รู้ว่าเขาคือผู้ล่า ไม่ใช่เหยื่อท้องฟ้าสว่างจ้าที่บ้านเศรษฐวินิจเมื่อช่วงเช้ามืดครึ้มลงในตอนที่กุลจิรามาถึงบริษัท PSW Asset Group ราวกับเป็นลางบอกบางอย่าง“ชีวิตหลังแต่งงาน” ไม่ได้ถูกโรยด้วยกลีบกุหลาบหญิงสาวก้าวผ่านประตูทางเข้าด้วยจก้าวที่มั่นคง แม้ในอกจะมีความกังวลซ่อนอยู่ก็ตามไม่น่าเชื่อว่าเธอจะทำงานให้ที่นี่มาแล้วเจ็ดปี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายวางแผนและฝ่ายการตลาดของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใหญ่โตแม้ไม่ใช่ตำแหน่งสูงส่งแต่กุลจิราก็ทุ่มเทและพยายามอย่างหนัก เพื่อให้ตัวเองมายืนอยู่ตรงนี้ยังจำได้ขึ้นใจ ในบรรดาคนที่มาสัมภาษณ์งานทั้งหมด เธอเป็นคนที่ถูกซักถามมากที่สุด แถมรอบสุดท้ายเธอยังเป็นคนเดียวที่ต้องเข้าไปสัมภาษกับเจ้าของบริษัทโดยตรงอีกด้วย“คุณคิดว่าตัวเองมีข้อดีอะไรที่บริษัทต้องรับคุณเข้ามาทำงาน” น้ำเสียงเรียบนิ่งของภวินท์ในวันนั้นยังดังก้องอยู่ในหัวเธอเสมอเขานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามในมาดผู้บริหารสุดเนี๊ยบสมบูรณ์แบบ ใบหน้าหล่อเหลายากจะละสายตาทว่าก็แฝงไปด้วยความเย็นเฉียบที่ทำให้เธอไม่กล้าขยับตัวและที่สำคัญ…ภวินท์ทำเหมือนไม่เคยรู้จักเธอมาก่อนก็พอจะเข้าใจได้ เขาเป็นถึงผู้บริหารของบริษัทใหญ่โต ก็ต้องวางมงวางมาดเป็นธรรมดา
“ครางออกมาดังๆกว่านี้ ครางชื่อผมให้ดังกว่านี้ ให้สมกับที่ผมซื้อคุณมาด้วยเงินห้าสิบล้านหน่อย” สิ้นคำนี้ลิ้นร้อนระอุก็ดูดกลืนยอดปทุมถันสีชมพูระเรื่อเข้าไปในปาก ปลายลิ้นที่ชุ่มไปด้วยน้ำลายทั้งดูดทั้งดึงจนมันแข็งเป็นตุ่มไต ร่างบางสั่นสะท้านเกร็งไปทั้งตัว“อ๊า อื้อออ คุณภะ…ภวินท์ อ๊า…” เมื่อเป็นคำสั่งของเขากอปรกับที่ไม่อาจอดทนอดกลั้นเอาไว้ได้ กุลจิราก็ส่งเสียงครวญครางออกมา ความหวิวหวามรัญจวนเล่นงานเธออย่างหนัก ความเสียวซ่านฉีดพุ่งไปทั่วทั้งร่างกายและเหมือนมันจะเรียกร้องให้เขาทำมากกว่านี้“เสียงครางคุณโคตรลามกและมันทำให้ผมมีอารมณ์มากรู้ตัวไหม หืมมม” เขากระซิบเสียงพร่า แล้วยันกายขึ้นไปตอกตรึงความแข็งขึงเข้าไปในร่องคับอย่างเนิบนาบ สายตาจ้องมองไปยังจุดเชื่อมต่อสะโพกเพรียวตอกตรึงเข้าใส่ความนุ่มของหญิงสาวไม่หยุดร่างกายทุกส่วนของกุลจิราตอบสนองเขาอย่างน่าอายเธอไม่มีสิทธิ์จะทักท้วงหรือบอกให้เขาหยุดเขาใช้หนี้ให้ครอบครัวเธอตั้งห้าสิบล้าน เธอก็สมควรจะทำให้เขาพอใจถึงจะถูกหญิงสาวจ้องมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย เสี้ยวหนึ่งของความคิด คาดหวังว่าอยากเห็นความอ่อนโยนจากดวงตาคู่นั้นแต่มันก็ไม่มีอยู่เลยแม
จากหญิงสาวที่เขาได้แต่เฝ้ามองอยู่ไกล ๆ อยากได้ อยากครอบครอง ในสุดวันนี้ก็มาถึง มือเรียวยาวรั้งท้ายทอยให้หญิงสาวรับจูบอันแสนดูดดื่มจากตนเอง ภวินท์ส่งลิ้นเข้าไปกวาดต้อนลิ้นของกุลจิราอย่างเร่าร้อน หญิงสาวเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบดูดดื่มในไม่ช้า ยอมส่งลิ้นให้อีกฝ่ายเลาะชิมดูดดึงควานหาความหวานหอมโดยไม่ขัดขืน กระทั่งเขาเลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นมากอบกุมเต้าทรวงกลมกลึง ความสยิวก็แล่นปราดไปทั่วทั้งร่างกายของกุลจิรา ทุกรูขุมขนลุกเกรียว ช่วงล่างบดเบียดเข้าหากัน ความรู้สึกในยามที่ถูกสัมผัส เป็นแบบนี้เองหรือ ชายหนุ่มดูดเม้มข้างลำคอขาวผ่อง มือข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นมาบีบเคล้นทรวงอกของเธอ แต่ไม่ได้นุ่มนวล ไม่นานก็ถอนริมฝีปากออกจากคอระหง คนที่เพิ่งถูกสูบวิณญาณด้วยจุมพิตร้อนแรงเพิ่งรู้ตัวว่าชุดนอนวาบหวิวที่สวมอยู่ไม่ได้อยู่บนร่างกายแล้ว เนื้อตัวของหญิงสาวสะท้านขึ้นมาเมื่อถูกเขาจ้องมองเต็มทั้งสองตา คิดไม่ถึงว่าลูกสาวของก้องเกียรติจะงดงามเพียงนี้ ปากและลิ้นของภวินท์เลื่อนต่ำลงไปหาทรวงอกกลมโต ขบเม้มเนินอกอวบ ก่อนจะครอบครองยอดประทุมถัน ดูดดุนจนมันเริ่มแข็งเป็นตุ่มไต สัมผัสนี้ส่งผลให้คนไร้ประสบการณ์รู้สึก
ดูก็รู้ว่าเขาคือผู้ล่า ไม่ใช่เหยื่อสองมือของกุลจิราทาบลงกับแผ่นท้องแข็งแรงอุดมด้วยกล้ามเนื้อ เธอย่อตัวลงกับพื้น ปลายนิ้วค่อย ๆ เลื่อนลงไป สาบเสื้อแยกออกกว้างกว่าเดิมใจของกุลจิราเต้นแรง กลืนน้ำลายอึกหนึ่งลงคอ ใบหน้างดงามผ่าวร้อนอย่างคนกระดากอาย เมื่อมองเห็นบางส่วนของความเป็นชายของจริงกับภาพในหนังโป๊ช่างให้ความรู้สึกที่ต่างกันหรืออาจเพราะชายหนุ่มตรงหน้าคือเขา ร่างกายของเธอถึงได้ตอบสนองไวเช่นนี้“ออกไปก่อนได้ไหมคะ ฉัน…ขอฉี่แป๊บนึงค่ะ” จู่ ๆ กุลจิราก็เกิดใจเสาะขึ้นมา ต้องการตั้งสติ ขอเวลาเตรียมตัวเตรียมใจอีกนิดน่า…“จะให้ผมออกไปทำไม ยังไงซะผมก็ต้องเห็นทุกอย่างที่เป็นของคุณอยู่ดี” น่าขัน คงไม่ใช่ว่าเธอเกิดใจเสาะหรืออยากถ่วงเวลาหรอกนะ“มันก็จริงแต่ว่า…” ไม่ทันจะได้ต่อรอง อุ้งมือแข็งแรงก็ตรึงด้านหลังท้ายทอยของหญิงสาว ดันปลายคางเรียวมนให้แหงนเงยขึ้นภวินท์บดริมฝีปากลงบนปากอ่อนนุ่ม หญิงสาวเม้มริมฝีปากไว้ ไม่ยอมเผยอออก กระทั่งถูกเขาบีบที่แก้ม“อ๊ะ!” ริมฝีปากอิ่มแยกแย้มออก ลิ้นสากร้อนแทรกสอดเข้ามารัดรึงเรียวลิ้นของเธอ ภวินท์ดูดปลายลิ้นเล็กแน่นเข้า จุมพิตของเขาดุดันขึ้นเรื่อย ๆหัวใจของกุลจิร
“ตามผมขึ้นไปบนห้อง ขึ้นไปทำหน้าที่ของคุณให้เสร็จๆเพราะพรุ่งนี้ผมมีประชุมตอนเช้า” เสียงนั้นเยียบเย็น ดูห่างเหินเกินกว่าจะเป็นคนที่เธอเพิ่งเข้าพิธีวิวาห์ด้วยกุลจิราเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ดวงตาคู่สวยปะทะเข้ากับดวงตาคมกริบไร้ซึ่งความรู้สึกสายตาคู่นั้นยังคงมองเธอเป็นเพียงผู้หญิงต่ำต้อย ไม่ต่างจากวันแรกที่เจอหน้ากัน“ค่ะ” ในที่สุดเธอก็พยักหน้ารับคำสั่งอย่างคนที่ยอมรับในชะตากรรมของตัวเองเวลาต่อมากุลจิราสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะก้าวขาเข้าไปในห้องนอนของภวินท์หลังจากเคาะประตูบอกอีกฝ่ายแล้วทั้งที่เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ดิบดีแต่พอถึงเวลา หัวใจเธอก็เต้นผิดจังหวะอย่างไม่อาจควบคุมด้านในสุดของห้องขขนาดใหญ่กุลจิรามองเห็นบานกระจกสูงทอดยาวเปิดรับแสงจากดวงจันทร์ยามค่ำคืนที่สาดส่องเข้ามาจากคำบอกเล่าขอลำดวน แม่บ้านคนเก่าแก่ ห้องฝั่งหนึ่งคงจะเป็นห้องแต่งตัว ถัดไปเดาว่าเป็นห้องทำงานภวินท์ขึ้นมาข้างบนก่อนเธอราวสิบห้านาทีได้ ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในชุดทัคซิโด้แต่สวมเสื้อคลุมสีดำยาวไว้หลวม ๆ เส้นผมที่ชื้นเล็กน้อยบ่งบอกว่าอีกฝ่ายเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จในมือถือแก้วคริสตัลอยู่ เจ้าของใบหน้าเคร่งขรึมดูน่าเกรงขามหันมามองเ
สายลมเย็นเฉียบของปลายฤดูฝนพัดผ่านหน้าต่างบานสูงในคฤหาสน์หลังใหญ่ สัมผัสแผ่วเบากับผิวแก้มของหญิงสาวผู้ยืนเหม่อมองออกไปที่สวนหย่อมเจ้าของร่างเล็กสวมชุดเจ้าสาวสีงาช้างสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามกลืนก้อนสะอื้นที่เกาะอยู่ตรงลำคอให้จมหาย กุลจิราเลือกชุดเจ้าสาวจากร้านพรีเวตดิ้งด้วยตัวเอง แม้จะรู้ดีว่าไม่ใช่วิวาห์ที่วาดฝันไว้ เธอก็ยังอยากให้ตัวเองดูดีที่สุดในวันสำคัญของชีวิตความเงียบงันภายในห้องนอนของคฤหาสน์หลังใหญ่มีเพียงเสียงนาฬิกาบนผนังที่เดินเป็นจังหวะ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ คำพูดชื่อชมเธอจากแขกเหรื่อในงานที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่โรงแรมหรูในค่ำคืนที่ผ่านมา คงเป็นเพียงฉากละครฉากหนึ่งกุลจิรายังจำสายตาแขกในงานนับร้อยที่มองมายังเธอได้ดีบางคนยินดี หลายคนอิจฉา บ้างหัวเราะเยาะเมื่อลับจากสายตาเธอภวินท์ เศรษฐวินิจซีอีโอหนุ่มไฟแรง เจ้าของ PSW Asset Group บริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่ไม่มีใครจะไม่รู้จักในเวลานี้ภวินท์เป็นเจ้าบ่าวของเธอ คนที่ยืนเคียงข้างเธอกลับทำตัวเย็นชาเสียจนกุลจิราอยากวิ่งหนีออกไปจากตรงนี้ หากไม่ติดว่าภวินท์คือคนที่ยื่นมือเข้ามาใช้หนี้ก้อนใหญ่ให้กับครอบครัวของเธอที่กำลังจะ







