ตอนที่ 4 เผชิญหน้า
พอครบสัปดาห์ต่างฝ่ายต่างได้กลับมาทำงาน หลังจากจำใจต้องเข้าหออยู่ร่วมกันในเพนต์เฮ้าส์ใช้ชีวิตคู่ข้าวใหม่ปลามัน แม้ว่าจะไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไรก็ตาม อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่แล้วว่าสามีอัลฟ่ามักจะไปอยู่กับคนรักของเขาแล้วกลับมาตอนดึก ๆ หรือไม่ก็เช้าของอีกวัน
รติยังคงทำงานที่โรงแรมของตัวเองในตำแหน่งเดิมไม่ได้ย้ายไปทำที่เดียวกับชวิน ด้วยเหตุผลที่ว่าแม้โรงแรมจะถูกควบรวมกับโรงแรมในเครือของชวินแล้วก็ตาม แต่ที่เดิมและตำแหน่งเดิมเขามีความถนัดและคุ้นเคยมากกว่า และที่สำคัญคือไม่ต้องฝืนเจอหน้าสามีในนามทุกวันอีกด้วย
“เป็นยังไงบ้างลูก” น้ำเสียงแสดงความห่วงใยจากผู้เป็นแม่ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าลูกต้องฝืนใจแค่ไหนกับการแต่งงานครั้งนี้ แต่ตัวเธอเองก็ไม่มีทางเลือกทั้งข้อตกลงกันตั้งแต่สมัยลูก ๆ ยังเด็ก และธุรกิจที่กำลังอยู่ในสภาพย่ำแย่
“คิดถึงงานชะมัด” รตินั่งลงบนโซฟาในห้องทำงานพร้อมกับคำตอบเฉไฉทั้งที่รู้ว่าแม่ถามเรื่องชีวิตคู่
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะตาติ” รมย์ฤดีตามมานั่งลงข้าง ๆ ลูกชาย
“เปลี่ยนเรื่องอะไรล่ะแม่ก็...” จากโอเมก้าที่เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวพออยู่กับแม่ก็ไม่ต่างกับเด็กน้อย
“ชวินดูแลลูกดีมั้ย” มือเรียวสวยแม้จะมีริ้วรอยเหี่ยวย่นตามวัยไปบ้างลูบบนผมนุ่มของลูกชายที่ตอนนี้กำลังอ้อนซบอยู่บนไหล่บางของเธอ
“ดีสิ...วัน ๆ ได้แต่นั่ง ๆ นอน ๆ ดีนะที่ได้ออกมาทำงานไม่งั้นลูกแม่คงได้ป่วยเป็นโรคแขนขาอ่อนแรง”
“ดูพูดเข้า” มือเรียวตีป้าบเข้าให้ตรงต้นขาเรียวเล็กของเจ้าลูกชาย
“โอ๊ย! แม่มาตีติทำไมเนี่ย” รติยู่หน้าใส่คนเป็นแม่มือลูบต้นขาทำเหมือนว่าเจ็บเสียเต็มประดา
รติยังคงทำทะเล้นใส่แม่เพราะไม่อยากให้แม่เป็นห่วง แต่ก็อีกนั่นแหละ เขาพูดผิดตรงไหนกันสบายเสียจนตัวเองแทบจะทำอะไรไม่เป็นอยู่แล้ว
‘สบายแต่ว่าเหงาจับใจ’
“ติ...” รมย์ฤดีได้แต่มองลูกชายด้วยความเป็นห่วง รู้ว่ารอยยิ้มบนใบหน้าลูกชายตอนนี้ต้องการเพียงให้เธอสบายใจ
“ไม่เอาไม่เครียด แล้วพ่อจะมารับแม่หรือเปล่าหรือให้ติไปส่งที่บ้าน”
“เดี๋ยวเลี้ยงลูกค้าเสร็จก็ตามมา” เธอเองก็ไม่อยากให้ลูกเป็นห่วงก็ต้องรีบปรับอารมณ์ของตัวเองให้กลับมาปกติที่สุด
//////////
“ยังไม่เลิกงานอีกเหรอ” โอเมก้าร่างบางเดินยิ้มเข้ามาในห้องทำงานที่ชวินยังคงนั่งเคร่งเครียดอยู่กับเอกสารตรงหน้า
“ปรานต์” สายตาของชวินละจากกองเอกสารเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคย
“ปรานต์โทรเข้ามาตั้งหลายสายวินก็ไม่รับ” โอเมก้าทำเป็นตัดพ้อแต่ไม่ได้จริงจังอะไรนัก
“ผมเพิ่งประชุมเสร็จน่ะ แล้วทำไมถึงมาที่นี่ได้”
“ต้องมีอะไรถึงจะมาได้เหรอเดี๋ยวนี้ ทีเมื่อก่อนปรานต์จะมาตอนไหนก็ได้” โอเมก้าส่งสายตาแพรวพราวใส่พร้อมกับเดินอ้อมโต๊ะไปโอบรอบคออัลฟ่าหนุ่มก้มลงหอมแก้มประทับกลิ่นตัวเองไปอีกหนึ่งฟอดใหญ่
“ผมว่าปรานต์มาแบบนี้มันไม่ค่อยดีนะ”
“ทุกทีปรานต์ก็มาแบบนี้” สายตาเฉี่ยวมองอัลฟ่าหนุ่มไม่พอใจ
“ปรานต์ก็รู้ว่าตอนนี้สถานะเราเป็นยังไง ปรานต์เองก็จะถูกมองไม่ดี”
“ปรานต์ไม่แคร์”
“แต่ผมแคร์ ผมไม่อยากให้ใครมองคนรักของผมไม่ดี” ตอนแรกเหมือนจะแข็งใส่ แต่พอเจอสายตาของคนรักแล้วชวินจำต้องอ่อนลงพร้อมกับพรูลมหายใจออกมา
“ถ้าอย่างนั้นปรานต์กลับก็ได้” โอเมก้าร่างบางปล่อยมือจากรอบคอของแฟนหนุ่ม หน้าตาเชิดรั้นบึ้งตึง
“ปรานต์ครับ” มือหนารีบคว้ามือคนข้าง ๆ ขึ้นมาแนบแก้มพร้อมกับใช้น้ำเสียงออดอ้อน
“ผมหิวข้าวแล้ว ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เที่ยง” ทั้งออดอ้อนทั้งส่งสายตาหวานเยิ้มจนโอเมก้าใจอ่อน
“งานเสร็จแล้วเหรอ” ปรานต์ทำทีเป็นกระเง้ากระงอดส่งสายตาแพรวพราว
“พรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อ” ได้ยินอย่างนั้นร่างบางโน้มตัวลงโอบรอบคออัลฟ่าหนุ่มอีกครั้งพร้อมกับป้อนจูบหวานอย่างเอาใจ
ทั้งสองเดินเคียงคู่กันออกมาจากห้องทำงานโดยที่ปรานต์เกาะแขนอัลฟ่าไม่ปล่อย แต่ต้องหยุดชะงักเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนตรงหน้า
“เธอมาที่นี่ได้ไง” อัลฟ่าหนุ่มพูดขึ้นมาอย่างหัวเสีย ขณะที่ปรานต์กอดแขนของคนรักไว้แน่นกว่าเดิมพร้อมกับส่งสายตาท้าทายอย่างผู้ชนะ
“พ่อกับแม่โทรตามมาครับ” รติตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ตามมาทำไม ทำไมชั้นไม่รู้เรื่อง”
“คุณคงต้องถามพวกท่านเองแล้วล่ะ”
“เอ่อ...คุณวินคะท่านประธานอยู่ในสายค่ะ” เลขาหน้าห้องได้แต่ยืนก้มหน้ารายงานโดยที่กลิ่นฟีโรโมนของอัลฟ่าหนุ่มเริ่มเข้มข้นและเผลอกดข่มคนรอบข้างรวมทั้งปรานต์โดยไม่รู้ตัว ทำให้คนที่ยืนข้าง ๆ เหงื่อออกหายใจอึดอัด รติยืนมองอาการเหล่านั้นแล้วกลับมาสำรวจตัวเอง
‘ทำไมแรงกดข่มครั้งนี้เขาถึงแทบไม่รู้สึกอะไร’
“ครับ พ่อไม่เห็นบอกผมก่อน” ชวินยังคงคุยกับปลายสายอย่างหัวเสีย
“ก่อนจะโวยวายเช็กโทรศัพท์ตัวเองก่อน” วริศตอบกลับมาอย่างใจเย็น
ได้ยินอย่างนั้นชวินจึงรีบล้วงมือถือออกจากกระเป๋ากางเกงกดเปิดดูจึงได้รู้ว่าเขาลืมเปิดเสียงเตือนไว้ใครโทรมาจึงไม่รู้เรื่องทั้งปรานต์ พ่อของเขาและภรรยาในนาม ชวินได้แต่ยืนทำหน้าเหวอมองหน้าจอมือถือ ก่อนจะหันไปหาคนข้าง ๆ
“คุณกลับไปรอผมที่ห้องก่อนนะ เดี๋ยวเสร็จธุระแล้วผมไปหา” ทั้งที่หัวเสียแต่น้ำเสียงที่ใช้กับคนรักเต็มไปด้วยความละมุน
“คุณวิน...” ปรานต์ส่งเสียงแผ่วเบาน้ำตาคลอเบ้า ก่อนจะมองโอเมก้าตรงหน้าด้วยสายตาเคียดแค้น แต่ก็เป็นเพียงแค่ไม่ถึงเสี้ยววินาที
“เอาอย่างนั้นก็ได้” สถานการณ์แบบนี้เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมตามน้ำไปทั้งที่อยากจะกรี๊ดอยากจะอาละวาดให้สมกับอารมณ์ที่คุกรุ่นข้างใน
//////////
“ทำไมจะต้องวุ่นวายกันนักก็ไม่รู้กะอีแค่ข้าวเย็น” อัลฟ่าหนุ่มเดินล้วงกระเป๋าออกมาจากห้องอาหารระบายอารมณ์ใส่คนข้าง ๆ เมื่อพ้นสายตาของพ่อกับแม่แล้ว
“...” รติยังคงหน้านิ่งไม่แสดงอาการใด ๆ เดินเคียงข้างสามีอัลฟ่าออกไปจนถึงที่จอดรถ และเดินแยกตัวออกไปยังรถของตัวเอง
“จะไปไหน” น้ำเสียงห้วนดังถามตามหลัง
“กลับบ้านไงครับ”
“ทำไมไม่กลับด้วยกัน”
“ก็...” รติลังเลมองไปทางรถตัวเองที่จอดอยู่
“อย่าลีลา”
“...” ภรรยาในนามเลือกที่จะเดินกลับมาเปิดประตูขึ้นนั่งเงียบ ๆ ลำพังงานวันนี้ก็เหนื่อยพอแล้ว เขาขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงกับคนที่เอาแต่หาเรื่องเขามาตลอดทาง
พอเข้าห้องได้รติก็เดินเข้าห้องนอนของตัวเองทันทีไม่สนใจสามีอัลฟ่าที่มองตาม
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” โอเมก้าร่างบางในชุดคลุมเตรียมอาบน้ำเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัยที่อยู่ ๆ สามีก็มาเคาะประตูห้องเขารัว ๆ
เพราะความรู้สึกผิดลึก ๆ ในใจกับเหตุการณ์วันนี้ทำให้ชวินต้องมายืนทำหน้ากระอักกระอ่วนอยู่หน้าห้องภรรยาทว่าตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไปทำไม หรือเป็นเพราะการเผชิญหน้าของพวกเขาทั้งสามคนในวันนี้เขาเองก็ไม่แน่ใจ
รติรับรู้มาตลอดว่าชวินมีคนรักอยู่แล้วคือปรานต์ และชวินเองก็มักจะไปค้างคืนกับโอเมก้าคนรักอยู่บ่อย ๆ หรือเรียกได้ว่าแทบจะทุกวัน แต่ก็ไม่เคยต้องมาเจอกันแบบนี้
‘จะไม่รู้สึกเลยก็คงไม่ใช่’
“ชั้นอยากคุยกับเธอเรื่องปรานต์”
“ครับ”
“ชั้นจะไม่ให้เค้ามาวุ่นวายที่โรงแรมอีก”
“ครับ”
“อย่าคิดว่าชั้นทำเพราะเธอ ชั้นแค่ทำในสิ่งที่ควรทำต่างหาก หวังว่าเธอคงจะไม่เข้าใจผิดนั่งคิดเพ้อเจ้อเข้าข้างตัวเองล่ะ”
“ผมไม่คิดแบบนั้นหรอกครับ คุณวินสบายใจได้” รติตอบกลับไปด้วยความหยิ่งทะนง ใบหน้าเชิดจมูกรั้นกับริมฝีปากอิ่มที่เม้มเข้าหากัน
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัว”
ท่าทางของภรรยาที่แสดงอาการไม่แยแสกันตอนนี้ทำให้ชวินรู้สึกเหมือนถูกยั่วโทสะกัน เขาอุตส่าห์รู้สึกผิดยอมอ่อนให้แล้วยังจะมาทำท่าทางหยิ่งยโสใส่กันอีก
“ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีปรนนิบัติสามีซักหน่อยเป็นไง”
ร่างบางลอยขึ้นมาแนบอกแกร่งของสามีอัลฟ่าโดยไม่ทันตั้งตัวจนต้องรีบจับยึดบ่ากว้างไว้กันตก ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ขณะที่สามีหนุ่มกลับส่งรอยยิ้มร้ายกาจให้กับเขา
//////////
เรื่องนี้มีทั้งหมด 15 ตอน ไม่รวมปฐมบท จะทยอยลงทุกวันจนจบนะคะ (เวลาลงจบแล้วทาง app จะยังไม่กดจบให้ทีเดียวค่ะ)
ตอนที่ 5 🔥 กลิ่นกำยานชวนลุ่มหลง ≠ กลิ่นกุหลาบเย้ายวนใจร่างบางถูกอุ้มพาไปยังห้องนอนใหญ่ชั้นบน รติไม่ได้ขัดขืนกับสิ่งที่เขาถูกกระทำเพราะรู้อยู่แล้วว่าแรงตัวเองไม่มีทางสู้กับสามีอัลฟ่าได้“คุณจะให้ติทำอะไร” รติถามขึ้นเมื่อถูกวางลงบนเตียงนุ่ม“ปรนนิบัติสามีอย่างที่ภรรยาควรจะทำ” ชวินตอบกลับอย่างกวน ๆ“ถ้าอย่างนั้นก็ไปอาบน้ำก่อนเถอะครับ” ร่างบางลุกขึ้นยืน แต่ต้องกระเด็นกลับไปนั่งที่เดิมด้วยแรงผลักของสามี“ทำก่อนแล้วค่อยอาบ ชั้นขี้เกียจอาบหลายรอบ” ชวินยังคงยียวนไม่เลิก“ทำงานมาทั้งวันอาบน้ำให้สบายตัวก่อนดีกว่าครับ” ต่างกับรติที่พยายามใจเย็น“ทำไมแค่นี้รังเกียจสามีหรือไง”“ครับ” ภรรยาโอเมก้าตอบกลับหน้าตาเฉย“ติไม่ชอบร่วมรักโดยที่มีกลิ่นโอเมก้าอื่นปะปน”“แค่นี้ทำเป็นรับไม่ได้”“รับได้ แต่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องรับ”“ปากดีนักนะ”“ไปอาบน้ำครับ” รติลุกขึ้นเดินนำเข้าไปในห้องน้ำไม่สนว่าอีกคนจะหงุดหงิดเพียงใดพอตามเข้ามาในห้องน้ำสามีอัลฟ่ายังคงแสดงความเอาแต่ใจยืนนิ่งไม่ยอมถอดเสื้อผ้า จนภรรยาโอเมก้าที่กำลังเตรียมน้ำในอ่างต้องหันกลับมามองตั้งแต่หัวจดเท้าพร้อมกับถอนหายใจด้วยความระอา“ทำไมไม่ถอดเสื้อผ้าล่
ตอนที่ 4 เผชิญหน้าพอครบสัปดาห์ต่างฝ่ายต่างได้กลับมาทำงาน หลังจากจำใจต้องเข้าหออยู่ร่วมกันในเพนต์เฮ้าส์ใช้ชีวิตคู่ข้าวใหม่ปลามัน แม้ว่าจะไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไรก็ตาม อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่แล้วว่าสามีอัลฟ่ามักจะไปอยู่กับคนรักของเขาแล้วกลับมาตอนดึก ๆ หรือไม่ก็เช้าของอีกวันรติยังคงทำงานที่โรงแรมของตัวเองในตำแหน่งเดิมไม่ได้ย้ายไปทำที่เดียวกับชวิน ด้วยเหตุผลที่ว่าแม้โรงแรมจะถูกควบรวมกับโรงแรมในเครือของชวินแล้วก็ตาม แต่ที่เดิมและตำแหน่งเดิมเขามีความถนัดและคุ้นเคยมากกว่า และที่สำคัญคือไม่ต้องฝืนเจอหน้าสามีในนามทุกวันอีกด้วย“เป็นยังไงบ้างลูก” น้ำเสียงแสดงความห่วงใยจากผู้เป็นแม่ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าลูกต้องฝืนใจแค่ไหนกับการแต่งงานครั้งนี้ แต่ตัวเธอเองก็ไม่มีทางเลือกทั้งข้อตกลงกันตั้งแต่สมัยลูก ๆ ยังเด็ก และธุรกิจที่กำลังอยู่ในสภาพย่ำแย่“คิดถึงงานชะมัด” รตินั่งลงบนโซฟาในห้องทำงานพร้อมกับคำตอบเฉไฉทั้งที่รู้ว่าแม่ถามเรื่องชีวิตคู่“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะตาติ” รมย์ฤดีตามมานั่งลงข้าง ๆ ลูกชาย“เปลี่ยนเรื่องอะไรล่ะแม่ก็...” จากโอเมก้าที่เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวพออยู่กับแม่ก็ไม่ต่างกับเด็กน้อย“ชว
ตอนที่ 3 ผูกพันธะ=เริ่มผูกพันภายในห้องนอนที่มืดสนิทร่างบางยังคงนอนขดตัวคุดคู้ด้วยสภาพร่างกายที่อิดโรย หลังจากที่โดนสามีอัลฟ่ากัดคอผูกพันธะแล้ว รติก็โดนทิ้งให้นอนซมอยู่คนเดียวโดยที่สามีอัลฟ่าออกจากห้องไปทันทีอย่างไม่มีเยื่อใยหลังจากนอนหลับไปหนึ่งวันเต็ม ๆ รติจึงพอมีแรงที่จะลุกขึ้นมาดูแลตัวเอง สิ่งแรกที่ต้องทำคงไม่พ้นอาบน้ำชำระล้างคราบกามที่ติดอยู่ทั่วตัว รติสำรวจร่างกายตัวเองหน้ากระจกบานใหญ่มองดูร่องรอยที่ถูกสามีอัลฟ่ากระทำไว้ รวมถึงรอยพันธะที่ยังคงเป็นรอยแผลสดให้ได้เจ็บแปลบ แม้ร่างกายจะเจ็บปวดระบมแต่สายตาของรติไม่มีความรู้สึกเช่นเดียวกับร่างกาย เขาได้แต่พยายามกลืนก้อนความเจ็บปวดนั้นให้ย้อนกลับเข้าไปข้างในด้วยสายตาที่เด็ดเดี่ยวแทน‘แค่ให้มันจบ ๆ ไปตามที่พวกผู้ใหญ่ต้องการ’//////////“นอนกับเมียมาแล้วมานอนหมดแรงกับปรานต์เนี่ยนะ” โอเมก้านัยน์ตาเฉี่ยวอดที่จะประชดคนรักไม่ได้“อย่าพูดมากน่า” อัลฟ่าหนุ่มนอนหลับตาเหยียดตัวพูดออกมาด้วยความรำคาญ“ผมก็แค่ทำให้มันจบ ๆ ไปตามที่พ่อกับแม่ต้องการ”“แน่ใจ? ว่าจะจบ” น้ำเสียงเย้ยหยันพร้อมกับเสียงหัวเราะในลำคอ“ตอนนี้บอกให้จบ ไม่ใช่ว่าสุดท้ายปรานต์กลาย
ตอนที่ 2 ให้มันจบ ๆ ไป 🔥คืนที่สองของการแต่งงานของสามีภรรยาป้ายแดงต่างมีความกระอักกระอ่วนไม่แพ้กัน ต่างฝ่ายต่างนอนหันหลังให้กัน แต่ดูเหมือนว่าชวินจะออกอาการมากกว่าเอาแต่นอนกระสับกระส่ายดิ้นไปดิ้นมา กลิ่นฟีโรโมนแปรปรวนเดี๋ยวเข้มเดี๋ยวจางจนโอเมก้าอย่างรติเริ่มอึดอัดหายใจไม่ออก“เธอจะไปไหน” ชวินถามขึ้นเมื่ออยู่ ๆ รติก็ลุกขึ้น“ไปนอนอีกห้องนึงครับ คุณจะได้นอนสบาย”พูดจบโอเมก้าร่างบางก็ออกจากห้องไปทันที โดยมีสายตาของสามีอัลฟ่ามองตามอย่างเอาเรื่อง แต่ชวินก็ทำได้เพียงแค่มองตาม ทว่าเขาเองก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองปล่อยฟีโรโมนในระดับที่ทำให้ภรรยาโอเมก้ารู้สึกไม่สบายได้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกผิดขนาดต้องตามโอเมก้าออกไปเพื่อดูอาการรติสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะพ่นออกมาแล้วก็ทำซ้ำแบบเดิมอีกสองสามครั้งจนรู้สึกว่าออกซิเจนกลับมาเต็มปอดอีกครั้ง เขาจึงล้มตัวลงนอนแผ่กลางที่นอนนุ่ม นอนคิดถึงสิ่งที่คุยกันในวันนี้ที่พ่อกับแม่อยากให้พวกเขามีหลานให้และผูกพันธะกันเสียให้เรียบร้อย รติได้แต่นอนคิดวนไปวนมา การผูกพันธะไม่ต่างกับการผูกมัดตัวเอง สำหรับโอเมก้าอย่างเขาแล้วย่อมมีปัญหาในการใช้ชีวิตในอนาคตแน่นอน เพราะม
ตอนที่ 1 แต่งงานธุรกิจรติในชุดสูทสีขาวนั่งทิ้งตัวลงบนเตียงที่เต็มไปด้วยกลีบกุหลาบอย่างเงียบงัน สายตาทอดมองไปยังร่างสูงใหญ่ของอัลฟ่าหนุ่มในชุดสูทแบบเดียวกันกำลังยืนส่งสายตากดต่ำเหยียดหยามมองมาที่เขา กลิ่นฟีโรโมนไวน์ขาวคละคลุ้งรอบห้องเพื่อกดข่มโอเมก้าร่างบางที่พยายามเก็บอาการและความรู้สึกบนใบหน้าหวานแต่ไร้ซึ่งอารมณ์“คงไม่ร้องไห้ไปฟ้องพ่อกับแม่หรอกนะ” คำพูดทิ้งท้ายของอัลฟ่าหนุ่มก่อนจะหุนหันออกจากห้องหอไปอย่างไม่ไยดี“...” รติได้แต่นั่งเม้มริมฝีปากบางข่มอารมณ์มองตามแผ่นหลังกว้าง มือจิกกำผ้าปูที่นอนแน่นอย่างกับว่าจะให้มันขาดคามือรติพยายามสะกดอารมณ์ตัวเองไม่ให้มีน้ำตาไหลออกมาแม้เพียงหยดเดียว ทั้งที่นัยน์ตาแดงก่ำอยากจะระบายออกมาเต็มที โอเมก้าร่างบางพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านในหัวออกด้วยการปล่อยร่างกายเปลือยเปล่าไปกับการนวดคลึงของมวลน้ำวนในอ่างจากุซซี ปล่อยตัวปล่อยใจให้ล่องลอยไปอย่างไร้จุดหมายเขากับชวินถูกจับหมั้นหมายกันไว้ตั้งแต่เด็ก ๆ แต่เหมือนเป็นเพียงคำพูดไม่จริงจังนักจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย จนกระทั่งธุรกิจโรงแรมของทางบ้านรติเริ่มมีปัญหาขาดทุน จึงทำให้งานแต่งงานของทั้งสองถูกเนรมิตขึ้นในเ
ปฐมบท 2ใบหน้าคมเข้มของชวินตอนนี้มีแต่ความเคร่งเครียดคิ้วขมวดแทบจะผูกกันเป็นปม ทั้งที่ร่างกายกำลังแช่อยู่ในน้ำอุ่นอีกทั้งมีมือเรียวที่คอยนวดคลึงลูบไล้ให้ผ่อนคลายทั่วทั้งร่างกาย“แล้วปรานต์ก็กลายเป็นเมียน้อยของคุณ” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของโอเมก้าตอนนี้เศร้าไม่ต่างกัน“อย่าพูดอย่างนั้นสิปรานต์”“หรือไม่จริง”“แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง”“...” พอเจอคำถามที่จนมุมแบบนี้ปรานต์เองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน“หรือผมไม่ต้องแคร์มรดก หุ้นของผมในโรงแรมก็มีไม่น้อยแล้วปรานต์ก็มาช่วยผมทำงานแบบนี้ดีมั้ย” แววตาคมเข้มเป็นประกายขึ้นเพราะจริง ๆ แล้วชวินเองก็มีหุ้นอยู่ในโรงแรมไม่น้อย ส่วนเรื่องของมรดกมันเป็นเรื่องของอนาคตอยู่แล้ว“ไม่เอาหรอก ปรานต์ไม่มีประสบการณ์” โอเมก้ารีบปฏิเสธอย่างไม่ลังเล“ของแบบนี้มันฝึกกันได้ พอปรานต์เก่งแล้วเราจะได้สร้างโรงแรมเล็ก ๆ ของตัวเอง ปรานต์จะได้ดูแลแทนผมเต็มที่”“ไม่ไหวหรอก” โอเมก้าหน้างอฮึดฮัดเอาแต่ใจ“แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง”“งั้นคุณก็แต่งงานไปก่อน ใครมันจะทนอยู่ได้ถ้าแต่งโดยไม่มีความรักเดี๋ยวทางฝั่งนั้นก็คงขอหย่าเองถ้าคุณไม่สนใจไม่ใส่ใจ” ปรานต์ตอบกลับมาง่าย ๆ เสียอย่างนั้น ทำให้ชวิ
ปฐมบท 1“อึก...พี่วิน” เด็กน้อยโอเมก้าจ้ำม่ำสภาพนอนคลุกฝุ่นอยู่บนพื้น กำลังเบะปากเตรียมจะปล่อยโฮออกมาเมื่อเห็นพี่ชายวิ่งเข้ามาหาตัวเองหน้าตาตื่น“ติ!”“ติเจ็บ...ฮือ ๆ ๆ” พอพี่ชายอัลฟ่าวิ่งมาถึงตัวเท่านั้นแหละ เด็กน้อยโอเมก้าก็ปล่อยโฮร้องไห้ออกมาเสียงดัง“ติเจ็บตรงไหน...ตรงนี้ใช่มั้ย” ใบหน้าคมโน้มลงจนริมฝีปากใกล้หัวเข่าก่อนจะเป่าลมอุ่นลงบนแผลถลอกเพื่อปลอบโยนน้อง“พ่วง~ พี่เป่าให้แล้วเดี๋ยวก็หายนะ” น้ำเสียงละมุนของพี่ช่วยปลอบโยนให้น้องพอได้หยุดร้องไห้ มือป้อมพยายามเช็ดน้ำตาให้ตัวเองป้อย ๆ“พี่พากลับบ้านไปทำแผล” คนพี่คุกเข่าลงหันหลังให้น้องปีนขึ้นมาอยู่ข้างบน สองแขนป้อมโอบรัดคอพี่โดยที่ขาป้อมมีแขนของพี่ล็อกพยุงไว้จากสวนสาธารณะในหมู่บ้านกว่าจะถึงบ้านหลังใหญ่ท้ายซอยเด็กน้อยโอเมก้าเอาแต่สะอื้นมาตลอดทาง แผ่นหลังของพี่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาน้องแต่นั่นไม่ได้ทำให้ชวินรู้สึกว่าเป็นปัญหาเลยแม้แต่น้อย“ตาวิน! ตาติ! น้องเป็นอะไรลูก” ธาริณีเห็นสภาพเด็ก ๆ แล้วตกใจรีบเข้าไปคว้าโอเมก้าน้อยออกจากหลังพี่มานั่งบนตักทันที“น้องหกล้มครับ”💍❤️💍❤️เพราะพ่อกับแม่เป็นเพื่อนสนิทกัน สนิทขนาดที่ว่าฝากลูกให้เลี้ยง