Share

สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน

บทที่ 1 คุณแม่จากต่างมิติ

เสียงฟ้าร้องดังกระหึ่ม มาพร้อมอัศนีที่เล่นโลดบนผืนนภา

พายุฝนกระหน่ำสาดไปทั่วทั้งตำหนักวังเย็น ประตูไม้ที่แต่เดิมก็ปิดไม่สนิทอยู่แล้ว ชนกระแทกกันอย่างแรงจนเสียงดังสนั่น สาวใช้ในชุดเสื้อผ้าขาดเก่าๆ ใช้ร่างกายตนเองดันประตูไว้อย่างสุดชีวิต พร้อมกับน้ำตาที่ไหลหลั่งอย่างห้ามไม่อยู่

เจ้านายใกล้จะคลอดเต็มที ทว่าสภาพอากาศตอนนี้กลับทั้งลมแรงทั้งฝนตก

ไฉนสวรรค์จึงใจร้ายเฉกเช่นนี้

ยายเฒ่าที่ยืนอยู่ข้างขอบเตียงก็ดวงตาแดงก่ำเช่นกัน

พูดด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า “พระสนม ศรีษะทารกใกล้ออกมาแล้ว ขอเพียงพระองค์ออกแรงอีกนิด ทารกก็จะออกมาแล้ว”

บนเตียงมีหญิงสาวใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษผู้หนึ่งนอนราบอยู่ ใบหน้าสวยได้รูปเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ และท้องที่กลมโตก็เด่นสะดุดตาเป็นอย่างมาก

เธอใช้กัดริมฝีปากตัวเองอย่างแรง นิ้วมือจิกกับขอบเตียงจนเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด เส้นเลือดบนหน้าผากก็ปูดโปนชัดเจน

ทว่าเพียงเสี้ยววินาทีหญิงสาวก็หมดแรง

ยายหลี่รีบจับมือเธอเอาไว้ และพูดอย่างยากเย็น “พระสนม โปรดพยายามอีกหน่อยเพคะ ขอเพียงคลอดพระโอรส บางทีพวกเราอาจจะได้ย้ายออกจากวังเย็นก็ได้ ใต้เท้าเองก็จะสามารถกลับเมืองหลวงได้แล้ว”

หญิงสาวมิอาจกลล้ำกลืนน้ำตา พูดด้วยเสียงสะอิ้น “พ่อข้าถูกกล่าวหาใส่ร้าย ท่านเป็นคนภักดี รักบ้านเมือง จะคบคิดศัตรูได้อย่างไร”

ยายหลี่คุกเข่าลงข้างเตียง พูดพร้อมน้ำตาที่พาลไหลออกมาเช่นกัน

“ใช่แล้วเพคะ แต่นั่นก็ต้องฝ่าบาทตรัสเองถึงจะมีประโยชน์ ขอเพียงท่านคลอดทารกออกมา บางทีทุกอย่างอาจมีหนทางคลี่คลาย”

ได้ยินดังนั้น หญิงสาวก็ดูเหมือนจะมีเรี่ยวแรงฮึดสู้ขึ้นมาอย่างไม่หมดสิ้น

ขณะนั้นเอง เสียงฟ้าร้องกระหึ่มดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องของทารก ทว่าหญิงสาวผู้นั้นยังไม่แม้แต่จะได้พบหน้าทารกสักครั้ง มือก็หล่นลงอย่างอ่อนแรง

ยายหลี่รีบร้อนไปดูทารก โดยไม่ทันสังเกตุเห็นความผิดปกติของหญิงสาว

และเมื่อได้เห็นก็มีความปิติยินดีทันที “คลอดแล้วเพคะ พระสนม เป็นพระโอรสจริงๆ”

แต่เมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดของหญิงสาว ก็ต้องร้องตกใจ

“พระสนม พระองค์เป็นอะไรเพคะ?”

สาวใช้เองก็วิ่งเข้ามาดูอย่างร้อนใจ เมื่อเห็นหญิงสาวนอนแน่นิ่ง ก็ร้องไห้โฮทันที

“พระสนม พระองค์ตื่นสิเพคะ อย่าหลอกอวิ๋นฉ่ายเลย พระสนมๆ”

อินชิงเสวียนตื่นเพราะแรงเขย่า

เธอจำได้ว่าตัวเองอยู่ระหว่างทางไปบริษัทที่จะฝึกงาน แล้วอยู่ๆ ก็มีรถยนต์คันหนึ่งขับฝ่าไฟแดง แล้วเกิดเสียงดังกระหึ่ม จากนั้นอินชิงเสวียนก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย

พอลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง สิ่งที่เห็นก็คืออาคารทรุดโทรมเก่าๆ และเด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตาย แถมยังอยู่ในเสื้อผ้าชุดโบราณที่ทั้งเก่าและขาด

“คุณคือ...”

อินชิงเสวียนอ้าปากด้วยความประหลาดใจ แต่ไม่รอให้เธอพูดจบ สาวใช้ก็ร้องไห้ด้วยความดีใจ และพูดว่า “พระสนม พระองค์ตื่นแล้วหรือ เมื่อกี้บ่าวตกอกตกใจหมดเลยเพคะ”

พระสนมกับบ่าวอะไรกัน?

อยู่อินชิงเสวียนก็รู้สึกปวดหัว

และตอนนี้ อยู่ๆ ก็มีความทรงจำที่ไม่รู้จักก็หลั่งไหลเข้ามา

ขนาดที่อินชิงเสวียนเองก็ยังตกใจ

เธอ...ข้ามมิติมาหรือเนี่ย!

ร่างกายที่เธอมาอยู่ตอนนี้คือบุตรสาวจากเรือนใหญ่ของแม่ทัพใหญ่อินแห่งแคว้นต้าโจว ซึ่งมีชื่อและนามสกุลเหมือนกับเธอ

หนึ่งปีก่อน อินชิงเสวียนที่อายุสิบหกได้ออกเรือนตบแต่งไปยังจวนรัชทายาท กลายเป็นพระชายาที่ใครต่างก็ใคร่อิจฉา

สองเดือนต่อมา อดีตฮ่องเต้ประชวรและสวรรคต องค์รัชทายาทจึงสืบราชสมบัติต่อ

อินชิงเสวียนในฐานะชายาเอก ตามหลักแล้วก็จะได้เป็นฮองเฮาอย่างไม่ต้องสงสัย

ทว่ายังไม่ทันได้แต่งตั้ง ก็มีข่าวลือว่าบิดาของเธอสมคบกับกลุ่มเจียงวู วางแผนก่อกบฎ

เมื่อฮ่องเต้พระองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ ตามธรรมเนียมจะมีการอภัยโทษทั่วหล้า ดังนั้นจึงมิได้ประหารแม่ทัพอิน แต่เนรเทศทั้งตระกูลไปที่เมืองซุ่ยหานที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของต้าโจวแทน

ส่วนอินชิงเสวียนผู้เคราะห์ร้ายก็ถูกขับไล่ไปอยู่วังเย็น กลายเป็นสนมถูกปลดเพียงหนึ่งเดียวของต้าโจวที่ไม่มีแม้แต่ยศศักดิ์ ข้างกายมีเพียงอวิ๋นฉ่าย สาวใช้ประจำตัวที่ติดตามเธอตอนออกเรือนกับยายหลี่ผู้เป็นแม่นมเท่านั้น

และที่น่าเศร้ายิ่งกว่าคือ หลังจากที่มาอยู่วังเย็นได้ไม่นาน เธอก็พบว่าตนเองตั้งครรภ์

อุ้มท้องมาสิบเดือน ในที่สุกก็คลอดทารกออกมา แต่แล้วตนเองกลับสิ้นใจไปเสียอย่างนั้น

ในความเป็นจริง ต่อให้ไม่มีเรื่องของตระกูลอินเข้ามาเกี่ยว สถานภาพของอินชิงเสวียนก็ไม่ได้ดีนักอยู่แล้ว

ฮ่องเต้พระองค์ใหม่มิได้โปรดปรานเจ้าของร่างเป็นเดิมทีอยู่แล้ว ครั้งแรกที่ทั้งสองคนได้เข้าหอร่วมกันก็เพราะเธอวางแผน

คิดมาถึงตรงนี้ อินชิงเสวียนถึงกับไร้คำบรรยาย

แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน และไม่ช่วยให้หายกระหาย

ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่ ยายหลี่ก็อุ้มทารกมาและคุกเข่าลง

ยายหลี่ยังคงคิดว่าเมื่อกี้นี้อินชิงเสวียนเพียงแค่เหนื่อยล้ามากไปเท่านั้น เธอพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “ดีจริงๆ ที่พระสนมไม่เป็นอะไร พระองค์ได้ให้กำเนิดพระโอรสจริงๆ บ่าวจะไปหาวิธีแพร่กระจายเรื่องที่พระองค์ให้กำเนิดพระโอรสเดี๋ยวนี้เพคะ”

อินชิงเสวียนยื่นมือจับยายหลี่เอาไว้ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความอ่อนแอ

“อย่าไป”

แค่พียงสองคำ ก็ทำให้เธอหอบหายใจไม่ทัน

เรี่ยวแรงของเจ้าของร่างเดิมใช้กับเด็กคนนี้ไปจนหมดไม่เหลือแล้ว

ยายหลี่พูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่า “นี่เป็นข่าวดีเรื่องใหญ่เลย หากฝ่าบาทและไทเฮาทรงทราบ จะต้องดีใจเป็นอย่างมากแน่นอน”

อินชิงเสวียนเอามือกุมขมับไว้ ขมวดคิ้วและพูดว่า “พวกเจ้าเงียบก่อนสักครู่ ข้าปวดหัว”

ยายหลี่จึงรีบสั่งอวิ๋นฉ่ายทันที

“ปล่อยม่านลงมาเร็วเข้า วันนี้ลมแรง ระวังอย่าให้พระสนมโดนลมมาก”

อวิ๋นฉ่ายรับคำ แล้วปล่อยม่านที่เก่าๆ ขาดๆ ลงมาโดยเร็ว

อินชิงเสวียนตกอยู่ในภวังค์ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมอีกครั้ง

รัชทายาทไม่โปรดปรานเจ้าของร่างเดิม และครอบครัวของเธอก็เป็นขุนนางต้องโทษ

ส่วนไทเฮาก็อยากให้หลานสาวแท้ๆ ของตนเองได้เป็นชายารัชทายาทมาตลอด ตอนนี้เจ้าของร่างเดิมอยู่ในวังเย็นได้หนึ่งปีแล้ว เรียกได้ว่าแทบจะตัดขาดจากโลกภายนอก หากว่าหลานสาวของไทเฮาได้สมรสกับฮ่องเต้พระองค์ใหม่แล้วจริงๆ ย่อมไม่มีทางปล่อยเธอเอาไว้เป็นแน่

เธอในตอนนี้ หนึ่งเลยไม่มีอำนาจ สองไม่มีเงิน สามไม่มีเครือข่ายเส้นสาย ไม่มีแม้กระทั่งความสามารถที่จะรักษาชีวิต การออกไปข้างนอกสุ่มสี่สุ่มห้าจึงเป็นเรื่องที่อันตรายเอามากๆ

ยิ่งไปกว่านั้นเด็กคนนี้ เจ้าของร่างเดิมแลกมาด้วยชีวิต ไม่ว่าอย่างไรเธอจะต้องช่วยปกป้องไว้ให้ได้

ในขณะที่กำลังครุ่นคิดว่าต่อไปจะทำอย่างไร อยู่ๆ ก็มีเสียงปรากฏขึ้นในหัวว่า “ช่องว่างรวมกับผู้ยึดครองร่างอย่างสมบูรณ์ ขอมอบรางวัลน้ำพุวิญญาณหนึ่งสระ ร้านค้าสะสมคะแนนระดับเริ่มต้นหนึ่งหลัง เชิญผู้ครองเปิดใช้ด้วยตนเอง”

เพียงพริบตาเดียว ตัวเธอก็ไปปรากกอยู่ในช่องว่างที่ไม่รู้จัก

ด้านขวามีน้ำพุสะอาดอยู่หนึ่งสระ ข้างหน้าคือพื้นที่เพาะปลูก และด้านหน้าของพื้นที่เพาะปลูกมีบ้านหลังมหึมาหนึ่งหลัง

พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ นั่นคือร้านค้าอย่างที่คิด ข้างในเต็มไปด้วยสรรพสิ่งนานาชนิด มีทั้งของกินและของใช้

อินชิงเสวียนยื่นมือไปจับชามะลิที่ตัวเองชอบดื่มตามสัญชาตญาณ ทว่ากลับถูกม่านแสงที่ไร้รูปร่างดีดออก

เสียงก่อนหน้านี้ดังขึ้นอีกครั้ง “แลกซื้อได้ด้วยหนึ่งคะแนน”

ต้องใช้คะแนนด้วยหรือเนี่ย แล้วจะเก็บสะสมคะแนนได้อย่างไร?

อินชิงเสวียนถามคำถามไปสองรอบ แต่ไม่มีใครตอบรับเลย ดูเหมือนว่าเสียงนั้นจะทำได้แค่กล่าวแนะนำ แต่ไม่สามารถสนทนาได้

เธอได้ลองอย่างอื่นดูอีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถหยิบได้ จึงเดินออกจากร้านค้าอย่างหงุดหงิด

ทว่าเมื่อหางตามองไป ก็พบว่าด้านซ้ายของร้านค้ามีแดชบอร์ดที่ดูทันสมัยมากๆ หนึ่งบานตั้งอยู่ ด้านบนมีตัวหนังสือกำลังเคลื่อนไหว

ภารกิจมือใหม่ 1: เพาะปลูกพืชใดก็ได้ ได้รับ 10 คะแนน

อินชิงเสวียนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที ในเมื่อเป็นการเพาะปลูกตามใจ ก็หมายความจะปลูกอะไรก็ได้สินะ

แต่เมื่อมองหาไปรอบๆ ก็พบว่าในช่องว่างนี้สะอาดมาก ไม่มีพืชผลอะไรเลยสักอย่าง จึงต้องถอยออกมาก่อน

เป็นจังหวะเดียวกับที่ยายหลี่เลิกผ้าม่านออกพอดี และพูดขึ้นในขณะที่อุ้มทารกอยู่ว่า “พระสนม องค์ชายร้องไห้ใหญ่เลย คงจะหิวแล้ว พระองค์รีบป้อนนมให้หน่อยเถอะเพคะ”
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Big-Bee Heroine
อันนี้นิยายแปลรึเปล่าคะ กี่ตอนจบเอ่ย? ถ้ายาวมากๆๆ จะไม่โดนเทใช่มั้ยคะ
goodnovel comment avatar
Na Na
จะจบเมื่อไหร่
goodnovel comment avatar
ภัทรนันท์ ภูต้อม
แปลกใหม่ดีน่าอ่านคะไรท์.........
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status