Share

13

last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-19 09:31:38

สามวันแล้วที่เธอนอนฟังเสียงสวดมนต์อยู่ในร่างที่ไร้ลมหายใจร่างนี้ บางครั้งก็ยังได้ยินเสียงร้องไห้เบาๆ ของบิดามารดาที่สลับกันเข้ามาจนทำให้หัวใจหดหู่น้ำตาไหลตามไปด้วย

คนที่กำลังร้องไห้ตอนนี้นี่คือพ่อแม่ในภพชาตินี้ของเธอ ท่านก็คงเสียใจไม่ต่างจากภพชาติที่เธอจากมาใช่ไหม ร้องไห้อ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ลูกตัวเองฟื้นแล้วเอาชีวิตตนไปแทน นี่แหละคือความรักอันยิ่งใหญ่ที่คนอื่นไม่มีให้ ถ้าเธอฟื้นขึ้นมาได้ เธอจะใช้ชีวิตร่วมกันกับพวกท่านให้คุ้มค่าที่สุด ให้สมกับที่ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง ถึงแม้จะไม่ใช่พ่อแม่ในชาติภพเดิมก็ตาม

แต่ตอนนี้เธออยากรู้ว่าเธอจะต้องทนทรมานหลับๆ ตื่นๆ อยู่ในร่างไร้ลมหายใจนี้อีกนานแค่ไหนมากกว่า

“ท่านมัจ!”

“กรี๊ดดดด...” ตึง!

รนิดาหันไปมองทางต้นเสียงที่กรีดร้องดังลั่น ก่อนจะล้มทั้งยืนลงไปกองอยู่กับพื้น

“อาหลี่.. ใช่ไหม” หญิงสาวเรียกชื่อเธอคนนั้นตามความทรงจำที่ได้รับ แต่ก็ตบท้ายด้วยคำถามอย่างลังเล

“คุๆๆๆๆ คุณหนู..” หลี่คลานเข้าไปหาร่างใหญ่ที่ลุกพรวดขึ้นนั่งบนเตียงพร้อมกับตะโกนบางคำดังลั่น แล้วใช้นิ้วอังตรงรูจมูกตรวจสอบลมหายใจ “คุณหนูยังไม่ตายหรือเจ้าค่ะ คุณหนูของข้ายังไม่ตายจริงๆ ด้วย ข้าดีใจจริงๆ เลยเจ้าค่ะคุณหนู ข้าจะไปเรียนนายท่านกับฮูหยินก่อนนะเจ้าค่ะ”

“เดี๋ยวก่อนอาหลี่ อย่าเพิ่งรีบร้อน” คว้าแขนของสาวใช้ไว้แน่น “อย่าเพิ่งไปรบกวนพ่อกับแม่ข้าเลยนะ เล่าให้ข้าฟังก่อนได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น” เธอรู้สึกว่าท่านมัจจุราชไม่ได้ให้ความจำในส่วนนี้กับเธอมา จึงถามเอาความจริงกับเด็กสาวที่อายุอานามไม่น่าจะเกินสิบแปดปีคนนี้แทน

สาวใช้วัยสิบเจ็ดปีนามว่าหลี่เพ่งมองคุณหนูของตนอย่างแคลงใจ ไม่ใช่เพราะคำถามที่นางถามมา แต่เป็นเพราะแรงดึงของนางต่างหาก

“คุณหนูทำไมถึงมีเรี่ยวแรงเยอะอย่างนี้เจ้าคะ”

“ทำไมหรือ.. ก็แค่ดึงมือเอาไว้แค่นี้ไม่เห็นต้องใช้แรงมากมายจนน่าตกใจนี่”

“แต่คุณหนูนอนป่วยมานานหลายเดือน แม้แต่แรงยกมือก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ แต่นี่คุณหนูดึงข้าได้ว่องไวมาก ดึงจนร่างของข้าถลากลับมา”

“จริงเหรอ ข้าไม่เห็นรู้สึกเหมือนคนป่วยตรงไหนเลย”

“คุณหนูนอนป่วยมาเกือบครึ่งปีแล้วนะเจ้าคะ แล้วคุณหนูก็หยุดหายใจไปถึงสามวัน ถ้าวันนี้คุณหนูไม่ฟื้นขึ้นมา พรุ่งนี้เราคงได้นำร่างคุณหนูไปฝังที่สุสาน”

“แล้วข้าเป็นอะไรถึงได้นอนป่วยนานขนาดนั้น.. ข้าขอโทษที่ต้องถามโง่ๆ แบบนี้ แต่ข้าจำไม่ได้จริงๆ แค่จำได้รางๆ ว่าข้าเสียใจเรื่องอ๋องใหญ่มากเท่านั้น”

“เจ้าค่ะ คุณหนูตรอมใจที่ตัวเองไม่ได้อยู่ในสายตาของอ๋องใหญ่ แต่คุณหนูป่วยจนล้มหมอนนอนเสื่อ ก็เพราะนางอนุพวกนั้นเป็นต้นเหตุเจ้าค่ะ คุณหนูจำได้ไหม ที่พวกนางสามคนได้เดินทางไปชายแดนตามคำสั่งของอ๋องใหญ่”

“จำได้สิ แล้วไงต่อ” เธอโกหกเพราะอยากรู้เรื่องต่อ

“พอพวกนางกลับมาก็มาเล่าให้คุณหนูฟังกันสนุกปาก ว่าอ๋องใหญ่เรียกพวกนางสลับกันไปอุ่นเตียงให้จนรุ่งสางทุกค่ำคืน พวกนางได้ความรักจากอ๋องใหญ่กลับมาปริ่มเปรม พวกนางมีความสุขมากๆ” หลี่หยุดเล่ากลางคันเมื่อเริ่มสังเกตเห็นบางอย่างจากคุณหนูของตน

“เล่าต่อสิข้ากำลังตั้งใจฟัง” สิ่งหนึ่งที่เธอต้องชมเชยท่านมัจจุราชก็คือการให้ความกลมกลืนทางการสื่อสาร เพราะเธอเข้าใจทุกคำพูดและตอบโต้ได้เหมือนเป็นคนภพนี้จริงๆ

“คุณหนูแปลกไปนะเจ้าคะ”

“แปลกตรงไหน ข้าก็ปกติดีทุกอย่างนะหลี่”

“แค่คุณหนูมีแรงดึงข้าไว้ก็แปลกแล้วเจ้าค่ะ แต่ตอนนี้สายตาของคุณหนูไม่มีแววเจ็บปวดต่อเรื่องของอ๋องใหญ่สักนิด คุณหนูทำเหมือนไม่รู้จักอ๋องใหญ่ด้วยซ้ำ”

“เจ็บสิ ข้าเจ็บมากๆ แต่ข้าไม่อยากแสดงออกเท่านั้นเอง” สาวใช้คนนี้เป็นคนช่างสังเกตจริงๆ คุยกันแค่ไม่กี่ประโยคก็มองออกแล้วเธอจึงแกล้งตีหน้าเศร้าให้สมจริง “เล่าต่อสิหลี่ข้าอยากรู้”

“เจ้าค่ะ” มองหน้าคุณหนูด้วยแววตาลังเลก่อนจะเปิดปากเล่าต่อ “แล้วพวกนางก็บอกว่าชาตินี้คุณหนูคงเป็นได้แค่พระชายาตราตั้งของอ๋องใหญ่ ส่วนพวกนางถึงจะเป็นแค่อนุ แต่ก็ได้ครอบครองเรือนกายอันสง่างามของท่านอ๋อง ทั้งหมดนี้จะกล่าวโทษพวกนางไม่ได้ ให้กล่าวโทษเรือนร่างอันน่ารังเกียจของพระชายาเอง หลังจากนั้นคุณหนูก็เอาแต่ร้องไห้อยู่บนเตียง และไม่” หลี่สะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องดังลั่นของคุณหนูดังขัดจังหวะ

หลังจากได้ยินประโยคที่ว่าเรือนร่างอันน่ารังเกียจของพระชายา.. รนิดาจึงก้มลงมองร่างของเด็กสาวที่ตัวเองได้ครอบครองอย่างรวดเร็ว เพราะคิดว่าเธออาจจะพิกลพิการส่วนไหน แต่สิ่งที่เธอเห็นกลับทำให้เธอตกใจจนร้องกรี๊ดออกมา

“ทำไมตัวข้าถึงได้อ้วนอย่างนี้ล่ะ ทำไมคุณหนูของเจ้าถึงได้ปล่อยให้ตัวเองน่าเกลียดอย่างนี้ เอากระจกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้ ขอข้าดูหน้าตาของคุณหนูเจ้าหน่อย มัจจุราชนะมัจจุราช ไหนบอกว่าส่งข้ากลับมาเกิดในร่างของข้าไง แล้วทำไมร่างของข้าในชาตินี้ถึงเป็นแบบนี้ ข้าจะไม่ทำบุญเผื่อแผ่ถึงท่านอีกต่อไป ไม่เชื่อก็คอยดู”

“คุๆๆๆ คุณหนู..” หลี่ได้แต่ยืนปากสั่นตาค้างด้วยความกลัวเมื่อได้ยินคำพูดแปลกประหลาดจากปากคุณหนูของตน

“ไปเอากระจกมาให้ข้าสิ!” ตวาดใส่สาวใช้ที่เสียงสั่นอยู่ข้างๆ ด้วยความโมโห

“เจ้าค่ะ นี่เจ้าค่ะคุณหนู” กระจกทองเหลือบานใหญ่ที่วางไว้ในลิ้นชักข้างเตียงถูกส่งให้เกือบทันที

แม้จะกลัวคุณหนูของตนจนอยากจะวิ่งหนีออกไปจากห้อง แต่หลี่ก็เลือกที่จะยืนนิ่งอยู่กับที่เพราะถูกความสงสัยใคร่รู้ครอบงำความคิดอื่น 

นางมองคุณหนูที่กำลังส่องกระจกมองใบหน้าของตัวเอง ลูบคลำอย่างถี่ถ้วนด้วยสายตาเคร่งเครียด จากนั้นก็ลุกขึ้นมองสำรวจตัวเองอีกครั้งด้วยสายตาแบบเดิม

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สลักรักอ๋องนักรบ   35

    ทั้งสองออกจากเรือนริมน้ำได้ก็เป็นเวลายามซื่อ เขาโอบไหล่พานางเดินสู่เรือนด้านหน้า ทำเป็นไม่รู้สึกกับอาการบึ้งตึงของชายา“คุณหนู.. พระชายาเจ้าคะ” สาวใช้หลี่ที่ยืนรออยู่ตรงทางเดินระหว่างเรือนริมน้ำกับเรือนใหญ่ รีบเปลี่ยนการเรียกหาคุณหนูของนางทันทีที่นึกขึ้นได้ ย่อกายคารวะทั้งสอง “คุณชายมารอพบคุณหนูได้สักพักแล้วเจ้าค่ะ” หลี่อยากจะบอกให้หมดว่าในรอบสามวันนี้คุณชายมารอพบเป็นครั้งที่สองแล้ว แต่ก็รู้ดีว่าสิ่งไหนควรและไม่ควรจึงต้องปิดปากเอาไว้“พี่อู๋ซื่อมาหาข้าเหรอ” หน้าตาบึ้งตึงเปลี่ยนเป็นคลี่ยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน“เจ้าค่ะ”“พาข้าไปหาเขาที ข้าคิดถึงเขายิ่งนัก” นางผละออกจากวงแขนผู้เป็นสามีแล้วรีบเร่งเร้าให้สาวใช้พาไปหาพี่ชายเกาหรงซานรู้สึกหึงหวงจนเลือดขึ้นหน้า เมื่อถูกนางอันเป็นที่รักหมางเมิน“ต้าชวี่” เรียกนางที่เดินจากไปอย่างเร่งรีบเอาไว้“จะเรียกข้าไว้ทำไม ท่านจะไปก็ไปเถอะอย่ามาเสียเวลากับข้าเลย” ต้าชวี่หันกลับมาต่อว่าเขาแล้วรีบหันหลังกลับไป นางไม่ไ

  • สลักรักอ๋องนักรบ   34

    เขาดึงเรือนร่างระหงนั้นขึ้นมาในระดับเดียวกัน จ้องหน้านางแล้วกอดนางแนบอก กระซิบหนักแน่นด้วยเสียงที่ไม่ค่อยมั่นคงดั่งเดิม“เจ้าทำให้ข้าเจียนคลั่งแล้วรู้ไหม”“จริงหรือ” มือเรียวลูบไล้เรือนผมมัดเกล้าที่เริ่มหลุดลุ่ยไปบ้าง “ข้าทำให้ท่านคลั่งได้จริงๆ หรือหรงซาน” นางกระซิบถามเสียงหวานแล้วลากลิ้นหยอกเย้าใบหูของเขาขนกายที่นอนสงบนิ่งมาตลอดหลายสิบปีที่จำความได้ แข่งกันตั้งชันด้วยความสยิวซ่านเพราะปลายชิวหาของนางจนต้องเบี่ยงหน้าหนี แล้วยกนางขึ้นเล็กน้อย“เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจนัก เจ้าทำให้ข้าต้องการเจ้าอย่างที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน”“ต้องการข้ามากเลยหรือ” นางกระหยิ่มอย่างผู้มีชัย“ใช่”“ข้าไม่เชื่อท่านหรอก”“ข้าต้องการเจ้า นี่คือคำสัตย์จริง”ในที่สุดนางก็เป็นฝ่ายชนะ เรียวปากอิ่มคลี่ยิ้มกว้างเมื่อคำนั้นหลุดออกมาจากปากของเขา ขยับตัวลุกออกจากร่างใหญ่นั้นอย่างตัดใจยากยิ่ง“แต่ข้าไม่เคยต้องการท่านเลย ข้าคงต้องจบกับท่านเพียงเท่านี้

  • สลักรักอ๋องนักรบ   33

    คำตอบของนางทำให้เขามั่นใจถึงเก้าส่วนว่าคิดถูก ความหึงหวงจึงเปลี่ยนใบหน้านิ่งเรียบถึงแม้กำลังอยู่ในอารมณ์รัญจวนให้ดุดันขึ้นมาทันที“ถ้าเจ้าต้องการข้าก็จะมอบให้” กล่าวจบก็กระชากเสื้อผ้าออกจากร่างตัวเองจนขาดวิ่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เขาไม่จำเป็นต้องถนอมนางให้เปลืองแรง ในเมื่อนางไม่ใช่ดอกไม้ที่ไร้การดอมดมจากฝูงแมลงอย่างที่เข้าใจแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ใช่บุรุษที่มีนิสัยเห็นแก่ตัวเรื่องบนเตียง เขาปรารถนาที่จะทำให้นางมีความสุขเช่นตน ปรารถนาจะให้นางติดใจในรสรักของตนจนลืมของชายอื่น จึงค่อยๆ ละเลียดชิมเรือนร่างของนางอย่างช้าๆ ขัดกับอารมณ์มือเรียวของเฟิ่งต้าชวี่จิกแน่นลงไปบนเบาะใบนุ่ม ข่มกลั้นอารมณ์วาบหวิวที่ได้รับจากปลายลิ้น เรียวปาก และฝ่ามือสากของชายหนุ่มที่นางไม่อยากได้เป็นสามี แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการอันร้อนแรงของตัวเองได้เช่นกัน นางโหยหาความรู้สึกนี้ นางต้องการมัน นางคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้ นางมั่นใจว่าเขากับนางต้องเคยผ่านมันมาด้วยกันดังนั้นจึงไม่อายที่จะโต้ตอบกลับ คลายมือจากเบาะมาเกาะเนื้อแท้คล้ำแดดแต่สะอาดตาแทน เริ่มลูบไล้แผ่นหลังของเขาเบาบ้างหนักบ้างตามความสยิวซ่าน แล้วค่อยๆ เล

  • สลักรักอ๋องนักรบ   32

    ต้าชวี่มองหน้าบุรุษผู้เป็นสามี ใบหน้าที่ไม่ได้จัดว่าหล่อเหลาแต่ก็มีเสน่ห์ชวนสะดุดอย่างลึกซึ้งนั้นมีแต่ความดุดัน เขาเป็นคนไร้อารมณ์ แสดงความรู้สึกไม่เป็น แต่ก็กล้าพูดออกมาตรงๆ ด้วยเสียงที่ดังฟังชัด จะมีก็เพียงแววตาเท่านั้นที่บ่งบอกความรู้สึก นางรับรู้ได้“ข้าไม่อยากขึ้นเรือนของท่าน เชิญท่านเสพสุขกับพวกนางเถอะ ข้าจะกลับเรือน ปล่อยข้า” แต่เขากลับกอดกระชับแน่นกว่าเดิม“ออกเรือนต้องเชื่อฟังสามี”นอกจากสีหน้าไร้อารมณ์แล้วยังเจ้าเล่ห์อีก นางถลึงตาใส่เขาแล้วทุบลาดไหล่เขาหนึ่งทีด้วยความโมโห“ถ้าอยากให้ข้าดื่มน้ำชาด้วยก็ไล่พวกนางกลับไปให้หมด เพราะข้าไม่ชอบแบ่งสามีกับใคร ท่านกล้าไล่พวกนางไปไหมล่ะ” พูดกับเขาให้ได้ยินกันแค่สองคน“วางน้ำชาไว้แล้วพวกเจ้ากลับไปให้หมด ข้าต้องการอยู่กับพระชายาของข้าสองต่อสอง”“เจ้าค่ะ” สาวใช้ทั้งสามย่อกายรับคำสั่งแล้วเดินก้มหน้ากลับไปอย่างว่าง่าย ไม่กล้าแสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาแม้แต่นิด“ไม่อยากเชื่อเลยว่าท่านจะเลือกดื่มน้ำชามากกว่าทำอย่างอื่น” ต้าชวี่รู้สึกสะใจที่ได้เอาคืนสาวใช้ทั้งสาม แต่ก็ไม่ลืมส่อเสียดคนที่กอดตนไว้“ข้าต้องการเจ้ามากกว่า” ใครบอกว่าเขาจะดื่มชากับนางเ

  • สลักรักอ๋องนักรบ   31

    คล้อยหลังป้าหวังไปได้ไม่นานหลี่ก็กลับเข้ามาในห้องนอนส่วนตัวของคุณหนู“ท่านอ๋องให้มาเรียกคุณหนูไปดื่มชาด้วยกันเจ้าค่ะ”“ไปบอกเขาว่าข้าไม่ชอบดื่มชา”“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้คุณหนูอย่าขัดใจท่านอ๋องเลยเจ้าค่ะ”คิ้วเรียวเลิกสูงข้างหนึ่ง “เจ้าเป็นคนของใครกันแน่หลี่”“ข้าก็เป็นคนของคุณหนูนั่นแหละ แต่ข้ากลัวอ๋องใหญ่มากกว่าเท่านั้นเองเจ้าค่ะ ในแคว้นต้าหมิงคงมีแต่ท่านคนเดียวที่ไม่รู้ว่าอ๋องใหญ่โหดร้ายเพียงใด”ในช่วงหลายวันที่ผ่านมานางได้ประจักษ์กับตา ได้ยินกับหูแล้วว่าคุณหนูของนางคนนี้ใจกล้าบ้าบิ่นเพียงใด แต่นางไม่ใช่ นางไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับดวงตาดุดันคู่นั้นด้วยซ้ำ“คุณหนูอย่าทำให้ข้าลำบากใจสิเจ้าคะ ข้าไม่อยากกลับไปรายงานต่อท่านอ๋องนะเจ้าคะ”“ขี้ขลาดนัก ข้าไปเพื่อเจ้าก็ได้” ถลึงตาใส่สาวใช้แล้วเดินออกไปจากห้องนอนที่เคยใช้มาตลอดสองปีก่อนจากไปประมาณหนึ่งเค่อนางก็เดินมาถึงเรือนริมน้ำ ที่เรือนหลังนี้มีการสร้างสะพานทอดยาวไปยังกลางบึงที่เต็มไปด้วยดอกบัว ที่ปลายสะพานยังมีแพขนาดใหญ่ที่ทำเอาไว้อย่างมั่นคงซ่อนอยู่ และเรือนริมน้ำแห่งนี้เป็นเขตหวงห้ามของอ๋องใหญ่ ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์เหยียบย่างเข้ามาถ้าไม่

  • สลักรักอ๋องนักรบ   30

    วันต่อมา วันต่อมา และวันต่อมาที่โต๊ะอาหารเช้าภายในจวนใต้เท้าเฟิ่งจะมีแขกพิเศษมาร่วมด้วยทุกวัน และคนที่ฮึดฮัดกระฟัดกระเฟียดด้วยความไม่พอใจมากที่สุดก็คือเฟิ่งต้าชวี่ เพราะคิดไม่ถึงว่าเขาจะมาไม้นี้เมื่อสี่วันก่อนหลังจากที่นางยืนกรานเสียงแข็งว่าจะไม่กลับไปกับเขา เขาก็ยอมเดินออกจากจวนของนางไปอย่างสงบ นางก็คิดว่าทุกอย่างจะจบแล้ว แต่นางคิดผิดถนัด เพราะนางจะถูกปลุกให้ตื่นเช้าขึ้นกว่าเดิมเป็นเวลาสามวันติดกันแล้ววันนี้เป็นวันที่นางโมโหมากที่สุด เพราะถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่ยามเหม่า ต้องตื่นก่อนพระอาทิตย์เริ่มทำงานเสียอีก ที่น่าโมโหยิ่งกว่าก็คือสาวใช้ตัวแสบจะปิดประตูขังนางไว้กับเขาเพียงสองต่อสองทุกวันจนถึงเวลาอาหาร และนางก็ต้องเสียจูบให้เขาทุกครั้งที่เจอหน้า“ถ้าวันนี้เจ้าไม่กลับไปกับท่านอ๋อง ข้ากับแม่ของเจ้าจะไปส่งเจ้าด้วยตนเอง” ใต้เท้าเฟิ่งบอกกับธิดาหัวแก้วหัวแหวนที่ไม่รู้ไปเอาความดื้อรั้นแบบนี้มาจากไหน“ท่านพ่อกำลังไล่ลูกหรือเจ้าคะ” ฝ่ายลูกสาวถามบิดาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเฟิ่งเจิงจงปวดใจกับคำตัดพ้อของธิดายิ่งนัก แต่ก็ไม่ยอ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status