Share

14

last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-19 15:45:52

“ตัวข้าตอนนี้คงหนักเท่ากับข้าวสารหนึ่งกระสอบเลยกระมัง” หลังจากพิจารณาใบหน้าอ้วนกลม แต่ส่วนประกอบทั้งห้าหมดจดงดงาม ความรู้สึกเคร่งเครียดก็ลดน้อยถอยลงไปบ้าง

“ข้าวสารหนึ่งกระสอบหนักสองร้อยจิน แต่คุณหนูหนักแค่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าจินเท่านั้น”

ข้าวสารหนึ่งกระสอบหนักหนึ่งร้อยกิโลกรัม แสดงว่าเด็กสาวคนนี้ก็หนักประมาณแปดสิบกิโล แม่เจ้า!!! เธอยังเด็กและก็สวยมากๆ แต่ทำไมถึงได้ปล่อยให้อ้วนได้ขนาดนี้กัน เพราะแบบนี้สินะถึงไม่ได้เป็นเมียฮ่องเต้ ส่วนไอ้อ๋องใหญ่เฒ่าลามกนั่น ก็รับไม่ได้กับสภาพของชายาที่ถูกยัดเยียดมาให้

“ข้าสงสารเจ้าจริงๆ ข้าจะช่วยเจ้าเอง ไม่ต้องห่วงนะสาวน้อย”

“คุณหนูเจ้าคะ”

“หือ” รนิดาเลิกคิ้วขึ้นอย่างเคยชินขณะที่ขานรับในลำคอ

นางไม่ใช่คุณหนูของข้า! นางไม่ใช่คุณหนูของข้า! คุณหนูของข้าไม่เคยทำนิสัยเช่นนี้ หลี่กำมือเข้าหากันแน่นเพื่อข่มความกลัวที่กำลังสั่นเทา

“คุณหนูจำเฟิ่งต้าชวี่ได้หรือไม่เจ้าคะ”

เฟิ่งต้าชวี่คือใคร ทำไมไม่เห็นมีในความทรงจำ รนิดาพยายามนึกทบทวนก่อนตอบ

“ตั้งแต่ข้าฟื้นขึ้นมาข้าก็จำอะไรไม่ค่อยได้หรอกหลี่ เฟิ่งต้าชวี่คือใครหรือ”

สาวใช้ตัวน้อยถอยหลังหนีไปหลายก้าว มองไปที่หญิงสาวด้วยสายตาหวาดกลัวอย่างไม่ปิดบังก่อนจะถามด้วยเสียงที่สันเทา

“เจ้าไม่ใช่คุณหนูของข้า เจ้าเป็นผีร้ายที่มาสิงร่างคุณหนูของข้าใช่ไหม ออกไปจากร่างคุณหนูของข้านะ ปล่อยให้นางได้จากไปอย่างสงบเถอะ อย่ามารบกวนนางเลย”

รนิดามองสาวน้อยตัวสั่นเทานั้นด้วยความเห็นใจระคนนึกเอ็นดู นึกชมเชยในความกล้าหาญของนางจากใจจริง

“เจ้าทำให้ข้ากลัวนะหลี่ ถ้าข้าไม่ใช่คุณหนูของเจ้าแล้วข้าจะเป็นใครได้อีกล่ะ”

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใคร แต่เจ้าไม่ใช่คุณหนูของข้าแน่ๆ ถ้าเจ้ายังดื้อดึงข้าจะไปเรียกคนทรงมาปราบเจ้า”

“ต่อให้เจ้าเรียกมาทั้งเมืองก็ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก เพราะข้าคือคุณหนูของเจ้า”

“ข้าไม่เชื่อ ข้าจะไปบอกนายท่านกับฮูหยินเดี๋ยวนี้”

“อย่า!” รนิดารีบวิ่งไปขวางหน้าสาวใช้คนเก่งเอาไว้ จับมือเธอไว้แน่นแล้วลากไปนั่งลงบนเตียง “ข้าจะบอกความจริงกับเจ้าก็ได้ แต่เจ้าต้องสัญญาว่าจะเชื่อเรื่องที่ข้าพูดและห้ามไปบอกกับใครเด็ดขาด”

“เจ้าก็เล่ามาก่อนสิ แล้วข้าจะตัดสินใจเองว่าเชื่อได้หรือไม่”

“ดีมาก” เธอกล่าวเหน็บแนมก่อนจะเริ่มต้นเล่าความจริงให้ฟังทั้งหมด.. “เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ เจ้าจะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ”

หลี่ส่ายหน้าแรงๆ ไม่เชื่อเด็ดขาดว่าจะมีเรื่องข้ามภพชาติมาสิงร่างแบบนี้

“ข้าไม่เชื่อ เรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ท่านเป็นหมอผีหรือเปล่า”

“หมอผีบ้าอะไรล่ะ!” รนิดาเหลือกตาขึ้นมองเพดาน ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด “ข้าพูดภาษาตะวันตกเป็นเพราะภพที่ข้าเคยอยู่เขาสอนภาษานี้กันอย่างเสรี ข้าพูดภาษาไทยได้เพราะภพที่ข้าเกิดข้าเป็นคนไทย ข้าเรียนศิลปะป้องกันตัวหลายแบบเพราะภพที่ข้าอยู่สอนพวกนี้อย่างกว้างขวาง” เธอค่อยๆ แนะนำตัวเองต่อสาวใช้พร้อมกับสาธิตให้ดูอย่างใจเย็น

“เป็นไปได้ยังไงกัน มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ไม่น่าเชื่อสักนิด” หลี่เริ่มลังเลแต่ก็ยังไม่เชื่อสักเท่าไหร่

“บ้านข้าเรียกประเทศของเจ้าว่าประเทศจีน ประเทศของข้ากับประเทศของเจ้าเป็นเหมือนพี่น้องกัน เพราะมีคนจีนเข้าไปอาศัยทำกินเยอะมาก พอคนจีนแต่งงานกับคนไทย เมื่อมีลูกก็จะกลายเป็นคนไทยเชื้อสายจีน แม่ของข้าก็เป็นคนไทยเชื้อสายจีน แต่พ่อข้าเป็นคนจีนแท้ เกิดที่นี่แต่ไปโตที่ไทย” รนิดาเลี่ยงที่จะเอาเรื่องเกี่ยวกับการเมืองการเปลี่ยนราชวงศ์มาพูดให้อีกฝ่ายรับรู้ แต่เลือกเอาเรื่องที่สามารถผูกมิตรกับนางได้มาพูดแทน “เจ้าอยากได้ยินเพลงจีนในสมัยของข้าไหมล่ะ ข้าจะร้องให้ฟัง”

อีกฝ่ายยังไม่ทันพยักหน้ารับเธอก็เริ่มขยับปากร้องเพลงจีนอมตะเพลงแรกขึ้นมาทันที

“เถียนมีมี่ หนีเซียวตีเถียนมีมี่ ห่าวเซี่ยงฮวาเอ่อคายจ้ายชุนฟงหลี่ คายจ้ายชุนฟงหลี่ จ้ายหน่าหลี่ จ่ายหนา หลี่เจี้ยนกว้อหนี่ หนี่ตีเสี้ยวหย่งเจ้อย่างโสวซี่ หว่ออี้สือเสี่ยงปู้ฉี่ อา..จ้ายม่งหลี่ ม่งหลี่ มงหลี่เจี้ยนกว่อหนี่ เถียนมี่เซียวตีตอเถียนมี่ ซื่อหนี่ ซื่อหนี่ ม่งเจี้ยนตีจิ้วซื่อหนี่”

เธอจบเพลงแรกเมื่อจำเนื้อเพลงท่อนต่อไปไม่ได้ และต่อด้วยเพลงที่ชอบมากเป็นพิเศษอีกเพลง นั่นก็คือเพลงผู้หญิงข้าใครอย่าแตะที่นำแสดงโดยหลิวเต๋อหัวขวัญใจของตน

“ร้องต่อสิ หยุดทำไม” สาวใช้ถึงกับเคลิบเคลิ้มเพราะเสียงหวานๆ กับการขับร้องทำนองแปลกหู แต่ก็ยอมรับอย่างจริงใจว่าไพเราะมากๆ

“เจ้าเชื่อข้าแล้วหรือหลี่”

“ข้าไม่เชื่อแต่ข้าไม่รู้จะโต้แย้งอย่างไรต่างหาก” สาวใช้ตอบฉะฉาน

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าจับตาดูข้าต่อไปก็ได้ แต่ข้าตั้งมั่นกับตัวข้าในตอนนี้แล้วว่า ข้าจะปรับปรุงตัวเองให้ดูดีขึ้นกว่านี้ แล้วหลังจากนั้นข้าจะแก้แค้นนางอนุสามคนนั่นกับอ๋องใหญ่ให้สาสม”

“ท่านจะฆ่าพวกเขาเหรอ”

“บ้าสิ!” เอ็ดสาวใช้แล้วค้อนด้วยสายตา “ข้าจะไปฆ่าพวกเขาได้อย่างไรล่ะ ข้าบอกว่าจะแก้แค้นเท่านั้น การแก้แค้นไม่จำเป็นต้องฆ่ากันให้ตายหรอก”

“แล้วท่านจะทำอย่างไรเจ้าคะ” ได้ยินเรื่องการแก้แค้น ไฟในกายของหลี่ก็ลุกโชติช่วงขึ้นมา เพราะนางก็อยากแก้แค้นให้คุณหนูของตนเหมือนกัน

“ข้าไม่มีแผนหรอกหลี่ แต่ข้าจะต้องเอาคืนให้คุณหนูของเจ้าอย่างสาสม”

“แต่คุณหนูของข้ารักอ๋องใหญ่มากนะเจ้าคะ นางเคยสั่งเสียข้าไว้ก่อนตาย ว่าให้ข้าเอาเรื่องของอ๋องใหญ่ไปเล่าให้นางฟังที่หลุมศพบ่อยๆ นางจะได้หายคิดถึงอ๋องใหญ่ ข้าเกรงว่าคุณหนูของข้าจะทุกข์ใจจนไม่ได้ไปเกิดนะเจ้าคะ ถ้านางรู้ว่าเราจะแก้แค้นอ๋องใหญ่ด้วย”

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะไม่ยุ่งกับอ๋องใหญ่ของนางก็แล้วกัน” อยากจะบ้าตาย ก็อีแค่อ๋องแก่ๆ คนหนึ่งเท่านั้น ทำไมต้องรักต้องบูชาขนาดนั้นด้วยนะ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สลักรักอ๋องนักรบ   35

    ทั้งสองออกจากเรือนริมน้ำได้ก็เป็นเวลายามซื่อ เขาโอบไหล่พานางเดินสู่เรือนด้านหน้า ทำเป็นไม่รู้สึกกับอาการบึ้งตึงของชายา“คุณหนู.. พระชายาเจ้าคะ” สาวใช้หลี่ที่ยืนรออยู่ตรงทางเดินระหว่างเรือนริมน้ำกับเรือนใหญ่ รีบเปลี่ยนการเรียกหาคุณหนูของนางทันทีที่นึกขึ้นได้ ย่อกายคารวะทั้งสอง “คุณชายมารอพบคุณหนูได้สักพักแล้วเจ้าค่ะ” หลี่อยากจะบอกให้หมดว่าในรอบสามวันนี้คุณชายมารอพบเป็นครั้งที่สองแล้ว แต่ก็รู้ดีว่าสิ่งไหนควรและไม่ควรจึงต้องปิดปากเอาไว้“พี่อู๋ซื่อมาหาข้าเหรอ” หน้าตาบึ้งตึงเปลี่ยนเป็นคลี่ยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน“เจ้าค่ะ”“พาข้าไปหาเขาที ข้าคิดถึงเขายิ่งนัก” นางผละออกจากวงแขนผู้เป็นสามีแล้วรีบเร่งเร้าให้สาวใช้พาไปหาพี่ชายเกาหรงซานรู้สึกหึงหวงจนเลือดขึ้นหน้า เมื่อถูกนางอันเป็นที่รักหมางเมิน“ต้าชวี่” เรียกนางที่เดินจากไปอย่างเร่งรีบเอาไว้“จะเรียกข้าไว้ทำไม ท่านจะไปก็ไปเถอะอย่ามาเสียเวลากับข้าเลย” ต้าชวี่หันกลับมาต่อว่าเขาแล้วรีบหันหลังกลับไป นางไม่ไ

  • สลักรักอ๋องนักรบ   34

    เขาดึงเรือนร่างระหงนั้นขึ้นมาในระดับเดียวกัน จ้องหน้านางแล้วกอดนางแนบอก กระซิบหนักแน่นด้วยเสียงที่ไม่ค่อยมั่นคงดั่งเดิม“เจ้าทำให้ข้าเจียนคลั่งแล้วรู้ไหม”“จริงหรือ” มือเรียวลูบไล้เรือนผมมัดเกล้าที่เริ่มหลุดลุ่ยไปบ้าง “ข้าทำให้ท่านคลั่งได้จริงๆ หรือหรงซาน” นางกระซิบถามเสียงหวานแล้วลากลิ้นหยอกเย้าใบหูของเขาขนกายที่นอนสงบนิ่งมาตลอดหลายสิบปีที่จำความได้ แข่งกันตั้งชันด้วยความสยิวซ่านเพราะปลายชิวหาของนางจนต้องเบี่ยงหน้าหนี แล้วยกนางขึ้นเล็กน้อย“เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจนัก เจ้าทำให้ข้าต้องการเจ้าอย่างที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน”“ต้องการข้ามากเลยหรือ” นางกระหยิ่มอย่างผู้มีชัย“ใช่”“ข้าไม่เชื่อท่านหรอก”“ข้าต้องการเจ้า นี่คือคำสัตย์จริง”ในที่สุดนางก็เป็นฝ่ายชนะ เรียวปากอิ่มคลี่ยิ้มกว้างเมื่อคำนั้นหลุดออกมาจากปากของเขา ขยับตัวลุกออกจากร่างใหญ่นั้นอย่างตัดใจยากยิ่ง“แต่ข้าไม่เคยต้องการท่านเลย ข้าคงต้องจบกับท่านเพียงเท่านี้

  • สลักรักอ๋องนักรบ   33

    คำตอบของนางทำให้เขามั่นใจถึงเก้าส่วนว่าคิดถูก ความหึงหวงจึงเปลี่ยนใบหน้านิ่งเรียบถึงแม้กำลังอยู่ในอารมณ์รัญจวนให้ดุดันขึ้นมาทันที“ถ้าเจ้าต้องการข้าก็จะมอบให้” กล่าวจบก็กระชากเสื้อผ้าออกจากร่างตัวเองจนขาดวิ่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เขาไม่จำเป็นต้องถนอมนางให้เปลืองแรง ในเมื่อนางไม่ใช่ดอกไม้ที่ไร้การดอมดมจากฝูงแมลงอย่างที่เข้าใจแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ใช่บุรุษที่มีนิสัยเห็นแก่ตัวเรื่องบนเตียง เขาปรารถนาที่จะทำให้นางมีความสุขเช่นตน ปรารถนาจะให้นางติดใจในรสรักของตนจนลืมของชายอื่น จึงค่อยๆ ละเลียดชิมเรือนร่างของนางอย่างช้าๆ ขัดกับอารมณ์มือเรียวของเฟิ่งต้าชวี่จิกแน่นลงไปบนเบาะใบนุ่ม ข่มกลั้นอารมณ์วาบหวิวที่ได้รับจากปลายลิ้น เรียวปาก และฝ่ามือสากของชายหนุ่มที่นางไม่อยากได้เป็นสามี แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธความต้องการอันร้อนแรงของตัวเองได้เช่นกัน นางโหยหาความรู้สึกนี้ นางต้องการมัน นางคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้ นางมั่นใจว่าเขากับนางต้องเคยผ่านมันมาด้วยกันดังนั้นจึงไม่อายที่จะโต้ตอบกลับ คลายมือจากเบาะมาเกาะเนื้อแท้คล้ำแดดแต่สะอาดตาแทน เริ่มลูบไล้แผ่นหลังของเขาเบาบ้างหนักบ้างตามความสยิวซ่าน แล้วค่อยๆ เล

  • สลักรักอ๋องนักรบ   32

    ต้าชวี่มองหน้าบุรุษผู้เป็นสามี ใบหน้าที่ไม่ได้จัดว่าหล่อเหลาแต่ก็มีเสน่ห์ชวนสะดุดอย่างลึกซึ้งนั้นมีแต่ความดุดัน เขาเป็นคนไร้อารมณ์ แสดงความรู้สึกไม่เป็น แต่ก็กล้าพูดออกมาตรงๆ ด้วยเสียงที่ดังฟังชัด จะมีก็เพียงแววตาเท่านั้นที่บ่งบอกความรู้สึก นางรับรู้ได้“ข้าไม่อยากขึ้นเรือนของท่าน เชิญท่านเสพสุขกับพวกนางเถอะ ข้าจะกลับเรือน ปล่อยข้า” แต่เขากลับกอดกระชับแน่นกว่าเดิม“ออกเรือนต้องเชื่อฟังสามี”นอกจากสีหน้าไร้อารมณ์แล้วยังเจ้าเล่ห์อีก นางถลึงตาใส่เขาแล้วทุบลาดไหล่เขาหนึ่งทีด้วยความโมโห“ถ้าอยากให้ข้าดื่มน้ำชาด้วยก็ไล่พวกนางกลับไปให้หมด เพราะข้าไม่ชอบแบ่งสามีกับใคร ท่านกล้าไล่พวกนางไปไหมล่ะ” พูดกับเขาให้ได้ยินกันแค่สองคน“วางน้ำชาไว้แล้วพวกเจ้ากลับไปให้หมด ข้าต้องการอยู่กับพระชายาของข้าสองต่อสอง”“เจ้าค่ะ” สาวใช้ทั้งสามย่อกายรับคำสั่งแล้วเดินก้มหน้ากลับไปอย่างว่าง่าย ไม่กล้าแสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาแม้แต่นิด“ไม่อยากเชื่อเลยว่าท่านจะเลือกดื่มน้ำชามากกว่าทำอย่างอื่น” ต้าชวี่รู้สึกสะใจที่ได้เอาคืนสาวใช้ทั้งสาม แต่ก็ไม่ลืมส่อเสียดคนที่กอดตนไว้“ข้าต้องการเจ้ามากกว่า” ใครบอกว่าเขาจะดื่มชากับนางเ

  • สลักรักอ๋องนักรบ   31

    คล้อยหลังป้าหวังไปได้ไม่นานหลี่ก็กลับเข้ามาในห้องนอนส่วนตัวของคุณหนู“ท่านอ๋องให้มาเรียกคุณหนูไปดื่มชาด้วยกันเจ้าค่ะ”“ไปบอกเขาว่าข้าไม่ชอบดื่มชา”“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้คุณหนูอย่าขัดใจท่านอ๋องเลยเจ้าค่ะ”คิ้วเรียวเลิกสูงข้างหนึ่ง “เจ้าเป็นคนของใครกันแน่หลี่”“ข้าก็เป็นคนของคุณหนูนั่นแหละ แต่ข้ากลัวอ๋องใหญ่มากกว่าเท่านั้นเองเจ้าค่ะ ในแคว้นต้าหมิงคงมีแต่ท่านคนเดียวที่ไม่รู้ว่าอ๋องใหญ่โหดร้ายเพียงใด”ในช่วงหลายวันที่ผ่านมานางได้ประจักษ์กับตา ได้ยินกับหูแล้วว่าคุณหนูของนางคนนี้ใจกล้าบ้าบิ่นเพียงใด แต่นางไม่ใช่ นางไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับดวงตาดุดันคู่นั้นด้วยซ้ำ“คุณหนูอย่าทำให้ข้าลำบากใจสิเจ้าคะ ข้าไม่อยากกลับไปรายงานต่อท่านอ๋องนะเจ้าคะ”“ขี้ขลาดนัก ข้าไปเพื่อเจ้าก็ได้” ถลึงตาใส่สาวใช้แล้วเดินออกไปจากห้องนอนที่เคยใช้มาตลอดสองปีก่อนจากไปประมาณหนึ่งเค่อนางก็เดินมาถึงเรือนริมน้ำ ที่เรือนหลังนี้มีการสร้างสะพานทอดยาวไปยังกลางบึงที่เต็มไปด้วยดอกบัว ที่ปลายสะพานยังมีแพขนาดใหญ่ที่ทำเอาไว้อย่างมั่นคงซ่อนอยู่ และเรือนริมน้ำแห่งนี้เป็นเขตหวงห้ามของอ๋องใหญ่ ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์เหยียบย่างเข้ามาถ้าไม่

  • สลักรักอ๋องนักรบ   30

    วันต่อมา วันต่อมา และวันต่อมาที่โต๊ะอาหารเช้าภายในจวนใต้เท้าเฟิ่งจะมีแขกพิเศษมาร่วมด้วยทุกวัน และคนที่ฮึดฮัดกระฟัดกระเฟียดด้วยความไม่พอใจมากที่สุดก็คือเฟิ่งต้าชวี่ เพราะคิดไม่ถึงว่าเขาจะมาไม้นี้เมื่อสี่วันก่อนหลังจากที่นางยืนกรานเสียงแข็งว่าจะไม่กลับไปกับเขา เขาก็ยอมเดินออกจากจวนของนางไปอย่างสงบ นางก็คิดว่าทุกอย่างจะจบแล้ว แต่นางคิดผิดถนัด เพราะนางจะถูกปลุกให้ตื่นเช้าขึ้นกว่าเดิมเป็นเวลาสามวันติดกันแล้ววันนี้เป็นวันที่นางโมโหมากที่สุด เพราะถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่ยามเหม่า ต้องตื่นก่อนพระอาทิตย์เริ่มทำงานเสียอีก ที่น่าโมโหยิ่งกว่าก็คือสาวใช้ตัวแสบจะปิดประตูขังนางไว้กับเขาเพียงสองต่อสองทุกวันจนถึงเวลาอาหาร และนางก็ต้องเสียจูบให้เขาทุกครั้งที่เจอหน้า“ถ้าวันนี้เจ้าไม่กลับไปกับท่านอ๋อง ข้ากับแม่ของเจ้าจะไปส่งเจ้าด้วยตนเอง” ใต้เท้าเฟิ่งบอกกับธิดาหัวแก้วหัวแหวนที่ไม่รู้ไปเอาความดื้อรั้นแบบนี้มาจากไหน“ท่านพ่อกำลังไล่ลูกหรือเจ้าคะ” ฝ่ายลูกสาวถามบิดาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเฟิ่งเจิงจงปวดใจกับคำตัดพ้อของธิดายิ่งนัก แต่ก็ไม่ยอ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status