Share

3

last update Last Updated: 2025-07-17 14:41:36

หญิงสาวคนหนึ่งเดินตามหลังเธอออกมาและชนถูกเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เธอก็รีบหันไปขอโทษเพราะรู้ว่าเป็นความผิดของตนที่หยุดเดินกะทันหัน และรีบเบี่ยงหลบให้เธอคนนั้นเดินออกไปก่อนแล้วจึงเดินตามออกไป แต่ก็ไม่วายชายตามองไปทางหญิงสาวที่ชนถูกตน

และภาพที่เห็นก็ทำให้เธอตกตะลึงถึงกับตาค้าง หัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอกระโดดโลดเต้น ยิ่งกว่าครั้งที่ต้องลุ้นพี่สาวประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์เสียอีก

เธอจำผู้ชายคนนั้นได้ดีและมองเขาไม่เลิกรา มองจนเขาเดินลับตาไปกับหญิงสาวคนนั้นโดยที่เขาไม่รู้ตัว และถึงแม้จะนึกได้ว่าควรตามไปดูช้าเกินไป แต่เท้าของเธอก็รีบเดินตามหนุ่มสาวคู่นั้นออกไป.. แต่เธอไม่เห็นพวกเขาแล้ว ระหว่างนั้นหัวใจของเธอยังเต้นอย่างแรงพอๆ กับสมองที่ครุ่นคิดอย่างหนัก สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินกลับเข้าไปในโรงหนัง และดูหนังแทบจะไม่รู้เรื่องเลยก็ว่าได้

“หนังไม่สนุกเหรอนก พี่ไม่เห็นเราหัวเราะเลย” หลังจากเดินออกมาจากโรงหนัง พี่สาวคนโตก็ถามน้องสาวคนที่สองด้วยความสงสัยขณะที่รอน้องสาวอีกสามคนไปเข้าห้องน้ำ

“นกดูไม่รู้เรื่องเลยพี่หงส์ เพราะอยู่ดีๆ ก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา”

“ไม่สบายเหรอ ตัวร้อนหรือเปล่า”

“ไม่หรอกพี่หงส์ สงสัยจะเย็นแอร์” เธอบอกปัดมั่วๆ ไป “นกว่าจะถามพี่หงส์อยู่ว่าที่ติ๊กเขาไม่มาด้วย เพราะติดสอนจริงๆ หรือว่าเพราะเขารู้ว่าเตี่ยเราไม่ปลื้มเขา”

“ติ๊กเขาไม่ใช่คนคิดมากขนาดนั้นหรอกนก แล้วพี่ก็ไม่เคยบอกเขาด้วยว่าเตี่ยไม่ค่อยปลื้มเขา ที่เขาไม่มาเพราะติดสอนจริงๆ จ้ะ เมื่อกี้ก่อนที่จะดูหนังพี่โทรไปหา เขาบอกว่าเพิ่งจะสอนเสร็จ กำลังจะไปหาข้าวกินแล้วก็จะกลับที่พักไปทำรายงาน” เธอกล่าวถึงคนรักอย่างปลื้มปีติ เพราะเขากำลังมุมานะที่จะเอาปริญญาเอกมาฝากตนเป็นของขวัญครบรอบวันแต่งงานในปีหน้า

“พี่หงส์ต้องดูแลติ๊กเขามากๆ นะ อย่าปล่อยให้เขาอยู่นอกสายตาบ่อยๆ ล่ะ เรียนด้วยทำงานด้วยมันเครียดน่ะ” เธอพยายามเตือนพี่สาวอ้อมๆ

“เรื่องนี้เราคุยกันแล้ว เราสัญญากันแล้วว่าถ้ามีปัญหาคาใจเราจะคุยกันตรงๆ เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงจ้ะ”

“ถามจริงๆ นะ พี่หงส์กับติ๊กเจอกันบ่อยแค่ไหน อาทิตย์ละกี่ครั้ง”

“ทำไมถามแบบนี้ล่ะ มีอะไรหรือเปล่า” รนิดาเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของน้องสาว

“อยู่ดีๆ นกก็รู้สึกเสียดายพี่หงส์เหมือนเตี่ยอีกคนละมั้ง” แล้วเธอก็แสร้งหัวเราะกลบเกลื่อนพิรุธเมื่อเห็นสายตาจับผิดของพี่สาว “ก็เลยอยากรู้ว่าเพื่อนนกมันดีกับพี่สาวของนกแค่ไหนไง”

“ไร้สาระน่า” พี่สาวคลี่ยิ้มแล้วยีผมน้องสาวอย่างเอ็นดู “พี่เจอกับติ๊กเขาทุกครั้งที่เข้าไปสอนที่มหาลัยนั่นแหละจ้ะ แล้วเราก็จะกินข้าวด้วยกันทุกครั้งด้วย”

“แล้วนอกจากมหาลัยล่ะ”

“ก็มีเจอกันบ้างเวลาที่เราว่างตรงกัน แต่ก็ไม่ค่อยบ่อยหรอก ส่วนมากจะโทรศัพท์ถึงกันมากกว่า”

“พี่จะแต่งงานกับเขาอยู่แล้วนะ พี่ยังห่างเหินกันอีกเหรอ”

“เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าห่างเหินกันซะหน่อยนี่ เรามีความสุขและรักกันดีออก ยังคุยกันเลยว่าหลังจากแต่งงานแล้วเราอาจจะต้องแยกกันอยู่อีกสักพักจนกว่าเขาจะเรียนจบ เพราะเขาอยากมีสมาธิอยู่กับเรื่องเรียนมากกว่า”

“แล้วพี่จะรีบแต่งงานไปทำไม รอให้เขาเรียนจบแล้วค่อยแต่งไม่ดีกว่าเหรอ”

“ก็ติ๊กเขาอยากแต่งเร็วๆ นี่นา พี่เองก็อายุมากแล้วด้วย ถ้ามีลูกช้ามันก็จะไม่เป็นผลดีกับพี่สักเท่าไหร่”

“พูดกันตามจริงแล้วพี่กับติ๊กรู้จักกันมาหลายปีแล้วก็จริง แต่ก็ผิวเผินมากๆ พี่เพิ่งจะตกลงดูใจกันไม่ถึงปีเลยนะ ทำไมพี่ถึงตัดสินใจเรื่องแต่งงานเร็วแบบนี้ล่ะ” เธอทิ้งระยะเพื่อชั่งใจสักครู่ “ถามจริงๆ พี่ท้องหรือเปล่า” พี่สาวแสนสวยของเธอถึงจะมีนิสัยเหมือนผู้ชายมากกว่าผู้หญิง มีแฟนก็คบกันไม่เคยยืดเพราะผู้ชายส่วนใหญ่ทนความบ้างานของเธอไม่ได้ แต่กับธนายุทธทุกอย่างกลับตรงกันข้ามอย่างเหลือเชื่อ

“บ้าสินก! พี่ไม่ใช่เด็กสาวแล้วนะนกจะได้ปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น”

“นกไม่อยากจะบอกพี่หงส์เลย...” ฝ่ายน้องสาวอ้ำอึ้งเพราะความลำบากใจอีกครั้ง แต่ถ้าเธอไม่ทำอะไรสักอย่างพี่สาวของเธอก็คงไม่รู้สึกตัวว่ากำลังโดนสวมเขา  “ตอนที่นกเรียนกับติ๊ก ติ๊กเขามีผู้หญิงมาติดพันเยอะนะ นกกลัว..” น้องสาวใช้สายตาสื่อความหมายของคำว่ากลัว

“พี่เชื่อใจติ๊กเขานะ”

“พี่หงส์ไม่แคร์เลยเหรอ”

“ไม่หรอก พี่ไม่เครียดกับเรื่องแบบนี้หรอก คนน่ารักแบบติ๊กไม่มีคนชอบสิแปลก”

“แล้วถ้าเขานอกใจพี่หงส์ล่ะ”

“อะไรของนกเนี่ย อยู่ดีๆ ทำไมต้องมาถามคำถามไร้สาระแบบนี้กับพี่ด้วย” รนิดาจับตามองน้องสาวอย่างจริงจัง “มีอะไรก็บอกพี่มาตรงๆ เลยนก พี่ไม่ชอบอ้อมค้อม มันเสียเวลา”

อารียามองหน้าพี่สาวด้วยสายตาเคร่งเครียด ใจหนึ่งก็อยากพูดออกไปตรงๆ แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของพี่สาวขึ้นมา กลัวว่าเธอจะทำใจยอมรับไม่ได้จนถึงขั้นช็อกเพราะรู้ว่าเธอนั้นรักแฟนหนุ่มมากเพียงใด

“บอกพี่มาเถอะนก ไม่ต้องปิดบังพี่หรอก”

“คนอื่นมาแล้ว เอาไว้คืนนี้นกจะโทรหาพี่หงส์ดีกว่าจ้ะ” อารียานึกดีใจที่พี่และน้องอีกสามคนเดินเข้ามาถูกจังหวะพอดี อย่างน้อยก็ขอเวลาเรียบเรียงคำพูดและสืบดูอีกสักหน่อยก่อนดีกว่า

รนิดายอมหยุดเอาไว้แต่เพียงแค่นี้ หลังจากนั้นจึงแยกย้ายกับน้องๆ ทั้งสี่เพื่อเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดที่อำเภอบ้านแพ้ว ไปนอนเป็นเพื่อนมารดาอย่างที่บอกกับพวกเธอเอาไว้

ยามค่ำคืนในบรรยากาศที่เย็นสบายเพียงแค่เปิดพัดลมหนึ่งตัวไม่ได้ช่วยให้หญิงสาวเข้าสู่ห้วงนิทราได้เลย เพราะจิตใจของเธอกำลังเป็นกังวลกับท่าทางของน้องสาวคนที่สองเป็นอย่างมาก ที่สำคัญเธอยังไม่ได้รับโทรศัพท์จากฝ่ายนั้น และเธอก็เป็นประเภทที่ไม่ชอบโทรจิก จึงเฝ้ารอคอยอย่างใจจดจ่ออยู่เงียบๆ แต่การกระทำที่เธอคิดว่าเงียบเชียบพอ หาได้รอดพ้นสายตาของผู้เป็นมารดา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สลักรักอ๋องนักรบ   30

    วันต่อมา วันต่อมา และวันต่อมาที่โต๊ะอาหารเช้าภายในจวนใต้เท้าเฟิ่งจะมีแขกพิเศษมาร่วมด้วยทุกวัน และคนที่ฮึดฮัดกระฟัดกระเฟียดด้วยความไม่พอใจมากที่สุดก็คือเฟิ่งต้าชวี่ เพราะคิดไม่ถึงว่าเขาจะมาไม้นี้เมื่อสี่วันก่อนหลังจากที่นางยืนกรานเสียงแข็งว่าจะไม่กลับไปกับเขา เขาก็ยอมเดินออกจากจวนของนางไปอย่างสงบ นางก็คิดว่าทุกอย่างจะจบแล้ว แต่นางคิดผิดถนัด เพราะนางจะถูกปลุกให้ตื่นเช้าขึ้นกว่าเดิมเป็นเวลาสามวันติดกันแล้ววันนี้เป็นวันที่นางโมโหมากที่สุด เพราะถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่ยามเหม่า ต้องตื่นก่อนพระอาทิตย์เริ่มทำงานเสียอีก ที่น่าโมโหยิ่งกว่าก็คือสาวใช้ตัวแสบจะปิดประตูขังนางไว้กับเขาเพียงสองต่อสองทุกวันจนถึงเวลาอาหาร และนางก็ต้องเสียจูบให้เขาทุกครั้งที่เจอหน้า“ถ้าวันนี้เจ้าไม่กลับไปกับท่านอ๋อง ข้ากับแม่ของเจ้าจะไปส่งเจ้าด้วยตนเอง” ใต้เท้าเฟิ่งบอกกับธิดาหัวแก้วหัวแหวนที่ไม่รู้ไปเอาความดื้อรั้นแบบนี้มาจากไหน“ท่านพ่อกำลังไล่ลูกหรือเจ้าคะ” ฝ่ายลูกสาวถามบิดาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเฟิ่งเจิงจงปวดใจกับคำตัดพ้อของธิดายิ่งนัก แต่ก็ไม่ยอ

  • สลักรักอ๋องนักรบ   29

    อ๋องใหญ่เกาหรงซานกระตุกยิ้มมุมปากแทบจะมองไม่เห็น เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าอันสับสนวิ่งแว่วมาแต่ไกล ซึ่งถ้าไม่ใช่คนที่ฝึกวิทยายุทธ์ และมีพลังลมปราณที่แข็งแกร่งจะก็ไม่รู้สึกได้เร็วแบบเขารับรู้ถึงกลิ่นกายหอมกรุ่นที่คุ้นจมูกใกล้เข้ามาเต็มที จึงลุกขึ้นยืนรอท่าเฟิ่งต้าชวี่หยุดนิ่งที่ด้านหน้าของบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของนาง จ้องเขาตาไม่กะพริบ“เจ้าคงดีใจที่ได้เห็นหน้าข้า” แม้แต่กระเซ้านางเล่นหน้าตาก็ยังดุดันไม่แสดงอารมณ์“ใช่ ข้าดีใจมาก” พูดจบนางก็รัวกำปั้นใส่แผ่นอกหนากว้างของเขาไม่ยั้ง ดับอารมณ์โกรธแค้นที่เขาไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวด้วย แต่ทั้งหมดก็เพราะเขาเป็นต้นเหตุแม่ทัพผู้เกรียงไกรปล่อยให้นางที่อยู่ในดวงใจตลอดหลายสิบวันลงมือทำร้ายจนเรี่ยวแรงของกำปั้นน้อยๆ นั้นเริ่มแผ่วลง เขายอมนางเพราะคิดว่านางโกรธแค้นที่ไม่เคยเอาใจใส่มาตลอดสองปีกว่าที่ได้แต่งงานกัน หลังจากนั้นจึงรวบร่างระหงเอาไว้กับอก อยากจะฝังปลายจมูกลงไปที่ไหล่กลมกลึงกับไหปลาร้างามได้รูป แต่ก็ต้องยั้งใจเอาไว้“เจ้าโกรธข้าหรือ”“ข้าเกลีย

  • สลักรักอ๋องนักรบ   28

    เรือนร่างที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งสะดุดตาหายลงไปในน้ำอีกครั้งเหลือเพียงแต่ศีรษะ คำพูดเงียบไปชั่วเวลาครึ่งเค่อ มีแต่เสียงหายใจของเจ้านายกับบ่าวเท่านั้น ตลอดระยะเวลานั้นต้าชวี่คิดทบทวนคำพูดของสาวใช้คู่ใจอย่างรอบคอบ และสรุปกับตัวเองว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดนางจะยอมรับชะตากรรมทุกอย่างแต่โดยดี แต่นางจะไม่ยอมยกโทษให้เขาคนนั้นง่ายๆ เหมือนที่ใครอีกคนเคยเป็น ถ้าต้องกลับไปอยู่ด้วยกันจริงๆ นางจะสั่งสอนให้เขารู้ว่านางไม่ใช่ของตาย นางก็มีเกียรติมีศักดิ์ศรีเหมือนที่เขามีต้าชวี่ลุกขึ้นแล้วยื่นแขนให้หลี่ประคองออกจากอ่างอาบน้ำ จากนั้นกางแขนให้นางช่วยซับตัวจนแห้ง แล้วจึงสวมเสื้อคลุมเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ลงมือประทินโฉมให้ตัวเอง เพราะไม่ชอบการแต่งหน้าที่เหมือนงิ้วของสาวใช้“เจ้าทำอะไรของเจ้า” ผู้เป็นนายถามสาวใช้ที่เริ่มเกล้าผมขึ้นกลางศีรษะ“วันนี้คุณหนูจะมวยผมง่ายๆ เหมือนเดิมไม่ได้นะ คุณหนูต้องมวยผมแบบสตรีที่ออกเรือนแล้วเจ้าค่ะ”“พอเลย เจ้าไม่ต้องทำให้ข้าแล้ว ข้าจะทำของข้าเอง” พูดจบนางก็แย่งหวีจากมือสาวใช้ ใช้มือสางผมให้สยายแล้วค่อยเ

  • สลักรักอ๋องนักรบ   27

    ถึงแม้ภายนอกจะดูเป็นคนแข็งกระด้าง แววตาไม่เคยสื่อความรู้สึกใดๆ สามารถฆ่าคนได้ในพริบตา แต่จิตใจข้างในนั้นมีแต่ความห่วงใยและความจงรักภักดี ยอมพลีชีพเพื่อปกป้องแผ่นดินเกิด ไม่ยอมอยู่อย่างสุขสบายเช่นองค์ชายองค์อื่นๆ เป็นพี่ชายที่ไม่เคยมีความอิจฉาริษยามีแต่ความรักและเอาใจใส่ให้พระองค์มาตลอด พระองค์จึงรักและเคารพในตัวพี่ชายคนนี้มาก“เข้าใจก็ควรรีบปราม อย่าปล่อยให้นางหลงระเริงจนลืมตัวมากไปกว่านี้”“ข้าจะบอกกับพี่สาวของนางให้ตักเตือน เช่นนี้พี่ใหญ่พอใจหรือยัง”“พี่กับน้องก็ไม่ต่างกันหรอก” เกาหรงซานตำหนิผู้เป็นพระมเหสีต่อหน้าพระสวามีของนาง“เรื่องนั้นข้าก็รู้พี่ใหญ่ แต่นางคงไม่กล้าให้ท้ายน้องสาวของนางจนออกนอกหน้าหรอกพี่ใหญ่ อีกอย่างมันก็เป็นเรื่องของตำหนักฝ่ายใน ข้าไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายมากนัก” โอรสสวรรค์บอกเหตุผลแก่พี่ชาย เพราะกลัวเขาจะคิดว่าพระองค์ไม่ใส่ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น“ข้าเตือนเพราะกลัวพระองค์จะลืมว่าพวกนางเป็นพี่น้องกัน แต่ในเมื่อพระองค์มั่นใจว่าพระมเหสีจะจัดการอย่างเป็นธรรมข้าก็พอใจ ข้าจะกลับล

  • สลักรักอ๋องนักรบ   26

    “ทำไมพี่สะใภ้ถึงดุนักล่ะพี่ใหญ่” องค์หญิงสามที่เข้ามาเห็นเหตุการณ์ด้วยความบังเอิญ กระซิบถามบุรุษที่อำพรางกายเพื่อชมเหตุการณ์อยู่หลังพุ่มไม้“นางไม่ได้ดุหรอก นางแค่ปกป้องเกียรติของนางเท่านั้น เจ้าก็เห็นอย่างที่ข้าเห็นมิใช่หรือ” เขาตั้งใจมาดักพบนางตรงนี้ เพราะรู้ว่าเส้นทางนี้คือเส้นทางหลัก ที่ทุกคนต้องไปยังที่จอดรถม้าก่อนออกจากกำแพงวังหลวงแต่ขณะที่นางกำลังจะเดินมาถึงทางแยกแห่งนี้ หมินหมิ่นก็ตามมาหาเรื่องนางเสียก่อน ตอนที่เห็นนางถูกตบเขาแทบจะออกไปฆ่าหญิงสาวคนนั้นด้วยมือของตนเอง แต่เมื่อเห็นนางสวนกลับไปทันควันอย่างไม่น้อยหน้า เขาจึงหักห้ามใจเอาไว้ แล้วน้องสาวคนนี้ก็เดินเข้ามาสะกิดถามว่าทำอะไรอยู่ตรงนี้ เขาจึงบอกให้นางเงียบๆ และชวนให้ดูด้วยกัน“ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าหมินหมิ่นจะร้ายได้ขนาดนี้ ที่แท้นางแสร้งทำเป็นอ่อนโยนหรือเพราะว่านางโมโหกันแน่พี่ใหญ่”“เจ้าเป็นผู้หญิงเหมือนกันเจ้าดูไม่ออกหรือ” นางก็เหมือนกับพี่สาวของนางนั่นแหละ ต่อหน้าพระสวามีผู้เป็นโอรสสวรรค์ก็แสร้งทำเป็นจิตใจงดงามอ่อนโยนต่อพระสนมองค์อื่น แต่พอล

  • สลักรักอ๋องนักรบ   25

    หลี่รีบวิ่งไปหาคุณหนูของตนพร้อมรอยยิ้มกว้าง เมื่อเห็นนางเดินลงมาจากศาลาวิหคเหิน“งานเลี้ยงสนุกไหมเจ้าคะ.. คุณหนูได้กำไลเป็นรางวัลหรือเจ้าคะ” คำถามของนางเปลี่ยนไปด้วยความตื่นเต้น เมื่อมองเห็นกำไลหยกขาวที่ข้อมือซ้ายของเจ้านาย“อือ” ตอบสั้นๆ แล้วดึงสาวใช้ไปยังมุมหนึ่งของสวนหย่อม “เจ้าจำแม่ทัพใหญ่เกาหรงซานได้หรือไม่”ใบหน้าที่คลี่ยิ้มสดใสเปลี่ยนเป็นตกใจอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะพยายามคลี่ยิ้มกลบเกลื่อน“ทำไมหรือเจ้าคะ”“เขาแต่งงานแล้วหรือยัง”“แต่ง.. แต่งแล้วๆ เจ้าค่ะ คุณหนูรู้อะไรมาหรือเจ้าคะ” หรือว่านางจำได้แล้วว่าชื่อเกาหรงซานที่คุ้นหูนักคุ้นหูหนานั้นชื่อเหมือนสามีของตัวเอง และเขาคนนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือสามีของนาง“แล้วฮูหยินของเขามาร่วมงานวันนี้ด้วยหรือไม่”“ไม่.. ไม่นี่เจ้าคะ ข้าไม่เห็นนางเลย เรารีบกลับจวนกันเถอะเจ้าค่ะ หิมะเริ่มตกแล้ว เสื้อคลุมก็ไม่ได้หยิบลงมาจากรถม้า เดี๋ยวคุณหนูจะไม่สบายเอานะเจ้าคะ” หลี่รีบบอกปัดเพื่อไม่ให้นางสนใจคนผู้นั้นมากไปกว่านี้ ไม่ได้รู้เลยว่าคนผู้นั้นทำให้คุณหนูของนางใจเต้นไม่เป็นจังหวะไปหลายรอบแล้วตอนที่อยู่บนศาลาวิหคเหินจิตใจของต้าชวี่เหี่ยวเฉาลงไปเล็กน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status