Home / รักโบราณ / สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ / บทที่ 1.1 งานแต่งครั้งนี้ท่านไม่ยินยอมแล้วคิดว่าข้าเต็มใจหรือ

Share

บทที่ 1.1 งานแต่งครั้งนี้ท่านไม่ยินยอมแล้วคิดว่าข้าเต็มใจหรือ

last update Last Updated: 2025-05-28 09:17:47

1 งานแต่งครั้งนี้ท่านไม่ยินยอมแล้วคิดว่าข้าเต็มใจหรือ

รัชศกหนิงเฉิง [1] ปีที่ 3

เมื่อสารทฤดู [2] เริ่มต้นไปครึ่งทาง

ที่เรือนแห่งหนึ่งภายในจวนของชินอ๋อง กลิ่นความเป็นสิริมงคลตลบอบอวลไปทั่วห้อง รายล้อมด้วยสรรพสิ่งที่มีสีแดงของสัญลักษณ์การแต่งงาน

คราแรกเจียงเยี่ยนฟางที่ถูกพาเข้ามาในห้องหอ นางก็ยอมนั่งสงบเสงี่ยมบนเตียงนอนอยู่นานสองนาน ทว่าทันทีที่สาวใช้จากไปแล้ว มือเรียวยาวดั่งหยกก็ยกขึ้นดึงผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออก เผยให้เห็นใบหน้าปูดบวมอันจืดชืดไร้การแต่งแต้มสีชาดอย่างที่ควรเป็น หากแต่บนใบหน้าที่ดูไม่ได้ กลับมีดวงตาที่กระจ่างชัด คล้ายมองทุกสิ่งบนโลกอย่างทะลุปรุโปร่ง ติดที่ว่าสายตาคู่นั้นช่างดูเฉยเมยไร้ความรู้สึก

ยามเมื่อสิ่งบดบังสายตาถูกโยนออกไปไกลแล้ว ดวงตาของนางก็ไปตกต้องอยู่บนโต๊ะอาหารทันที

'ถึงแม้จะเข้าพิธีแต่งงานกันแล้ว แต่ท่านอ๋องพิการนั่นก็คงไม่เข้ามาในห้องหอกระมัง มิสู้ให้ปากอิ่มท้องอิ่มเสียก่อน แล้วจึงค่อยคิดแผนต่อไป'

สิ้นความคิดในหัว เจียงเยี่ยนฟางในชุดสีแดงรุ่มร่ามที่พรั่งพร้อมด้วยเครื่องหัวครบชุดก็ลุกเดินไปยังโต๊ะอาหาร ทว่าเมื่อเข้าใกล้ที่หมายมากขึ้นอีกนิด คิ้วเรียวยาวที่เรียบตึงมานานก็พลันย่นเข้าหากัน จมูกสูดดมฟึดฟัดอีกรอบเพื่อให้แน่ใจว่าตนได้กลิ่นอาหารเป็นอย่างอื่นแทน

หากแต่ยังมิทันได้เฉียดเข้าใกล้อีกนิดเพื่อตรวจสอบดู ประตูก็กระแทกเปิดออกอย่างแรง

ร่างสูงโปร่งเกินสตรีทั่วไปของเจียงเยี่ยนฟางพลันขยับกายกลับไปที่ที่เพิ่งจะจากมา แม้เครื่องหัวจะหนักไม่ใช่เล่น แต่คนกลับว่องไวราวกับปีศาจในความมืด มือคว้าผ้าสีแดงที่ถอดทิ้งไว้บนเตียงกลับมาคลุมหน้าตามเดิม ก่อนทิ้งตัวนั่งลง คล้ายมิได้ขยับไปไหนมาก่อน

'ชินอ๋องผู้นี้ ชาวบ้านในตลาดต่างกล่าวว่า เขาคือเทพสงครามที่ฟ้าไม่เห็นใจ หลังกลับจากสงครามครั้งสุดท้ายที่ทำให้บ้านเมืองสงบก็ดันโชคร้ายตกจากหลังม้าจนขาพิการ นอกจากนั้นแล้ว... ตั้งแต่เอวลงไปก็ยังใช้การไม่ได้อีก มิหนำซ้ำยังมีพระชายารองที่รักใคร่กลมเกลียวอยู่แล้วนางหนึ่ง ชาตินี้ได้ตระบัดสัตย์รักมั่นเพียงนางต่อหน้าใต้หล้า มิตบแต่งผู้ใดเพิ่มอีก

เห็นได้ชัดว่าเขามิได้สนใจเรื่องแต่งงานในครั้งนี้ แต่เพราะมีพระราชโองการลงมา มิตบแต่งก็เดือดร้อน จึงต้องกล้ำกลืนฝืนทนแต่งข้าเข้ามา เช่นนั้นก็ควรจะไม่เข้าห้องหอมิใช่หรือไร' เจียงเยี่ยนฟางบีบมือแน่น ต่อให้ใบหน้าของนางภายใต้ผ้าโปร่งสีแดงจะสงบนิ่งเพียงใด แต่อย่างไรก็กังวลอยู่ดี นึกถึงเรื่องราวที่ได้ยินมาก่อนหน้านี้ที่ทำให้นางเบาใจตกปากรับคำแต่งเข้ามา แต่ตอนนี้การกระทำของเขากลับสวนทางกับสิ่งที่นางเข้าใจมาตลอด

และแน่นอนว่านางมิได้คิดผิดว่าใครเป็นผู้มาเยือน ยืนยันได้จากเสียงล้อไม้ที่ลากไปกับพื้นมาตั้งแต่หน้าห้องหอ ก็บ่งบอกได้แล้วว่าเป็นเขาที่นางกำลังนึกถึงแน่ ๆ

"ท่านอ๋อง" เมื่อเสียงล้อลากนั้นหยุดลงตรงหน้านางแล้ว เจียงเยี่ยนฟางลุกขึ้นยืนผสานมือย่อตัวตามพิธี นางย่อมรู้นามและเรื่องราวคร่าว ๆ ของพระสวามีมาก่อน

เขาคือชินอ๋องแห่งแคว้นเฉิง เทพสงครามที่ชาวบ้านต่างยกย่อง นามเดิมคือ ลี่หยาง 'เซียวลี่หยาง' ภายหลังจากชนะศึกนับครั้งไม่ถ้วนฮ่องเต้พระองค์ก่อนจึงประทานนามให้ว่าซีฮัน [3] หากแต่นามเหล่านั้น นางจะเรียกได้หรือ ฟังจากน้ำเสียงเย็นชาของเขาในพิธีกราบไหว้ฟ้าดินก่อนหน้าแล้ว เจียงเยี่ยนฟางจึงทำได้เพียงเรียกเขาว่าท่านอ๋องเท่านั้น

"ออกไป"

น้ำเสียงเย็นเยียบที่นางจำได้ขึ้นใจพลันเอ่ยขึ้นขัดความเงียบงันภายในห้อง ดวงตาใสกระจ่างของเจียงเยี่ยนฟางมองผ่านผ้าแดงคลุมหน้าก็เห็นมือใหญ่ของอีกฝ่ายกำลังยกขึ้นเหนือบ่าของเจ้าตัวอยู่

"เพคะ" นางรับคำเสียงเบา ท่าทางย่อตัวจากลาทั้งนุ่มนวลและอ่อนหวาน แต่ในใจกลับต่างออกไป 'เหอะ! ข้าอยากอยู่ตายแหละ งานแต่งครั้งนี้ท่านไม่ยินยอม แล้วคิดว่าข้าเต็มใจหรือ ต้องขอบคุณท่านที่ไล่ข้าไป ข้าเองก็แทบไม่อยากคิดถึงการนอนร่วมเตียงกับผู้อื่น!'

แต่ไม่ทันให้นางได้มีโอกาสก้าวขา บุรุษตรงหน้าก็เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่ได้หมายถึงเจ้า!"

เจียงเยี่ยนฟางจึงชะงักอยู่ตรงนั้นตามเดิม รีบลดมือลงอย่างเชื่องช้าเพื่อแก้เก้อ หัวใจกระตุกเกร็งไปพร้อมกับเสียงเท้าของบ่าวที่พารถเข็นเข้ามาในคราแรกเดินจากไป ยิ่งเสียงปิดประตูนั้นก็คล้ายย้ำเตือนว่าหัวใจของนางยังเต้นแรงเฉกเช่นผู้อื่นเป็นด้วย

"ตระกูลเจียงไม่ได้บอกเจ้ารึไรว่าข้าเดินมิได้"

เจียงเยี่ยนฟางขบฟันแน่น รู้แน่ว่าน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยกับคำถามนั้นกำลังประชดประชันนางอยู่ นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าเขาเดินไม่ได้ ก็เห็น ๆ อยู่ว่าก่อนหน้านี้ไม่ถึงหนึ่งก้านธูป [4] นางเพิ่งจะโค้งคำนับฟ้าดินกับเขามา

แต่กราบไหว้ฟ้าดินอย่างไรถึงได้กราบไหว้กันสามคน! ด้วยคำอ้างที่ว่าเขาขยับเก้าอี้รถเข็นด้วยตัวเองได้ลำบาก จึงให้บ่าวชายคนหนึ่งคอยหันเก้าอี้รถเข็นไปทางนั้นทีทางนี้ที เพื่อทำพิธีกับนางให้ครบตามธรรมเนียม การกระทำแปลกประหลาดที่มองดูก็รู้ว่าไม่เต็มใจแต่งขนาดนี้ ผู้ใดเล่าจะลืมได้ลง!

แต่เรื่องเล่านั้นแน่นอนว่าต้องเก็บไว้ในใจ นางพยายามรักษาน้ำเสียงให้น่าฟังที่สุด ก่อนจะเอ่ยตอบเขาออกไป "หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ"

สตรีที่ดีควรอยู่เป็น เจียงเยี่ยนฟางควรจะเสริมอีกนิดว่า นางรู้อยู่แล้วและมิได้รังเกียจเขา ทั้งยังชมชอบในความสามารถของเขามานาน และยินดีเป็นพระชายาอีกคนของเขา

หากแต่นิสัยเดิมของนางหาใช่คนอ่อนหวานและโอนเอนตามแรงลมได้ตลอด ดังนั้นต่อให้รู้แล้วอย่างไร นาง ไม่ ทำ! แค่เสแสร้งย่อตัวทำความเคารพเขาอย่างลำบากเพื่อให้ดูน่ามองก็เหนือบ่ากว่าแรงแล้ว จะให้นางพยายามประจบเขาให้มากกว่านี้อีกก็คงเป็นไปได้ยาก

"ทราบแล้ว?" อีกฝ่ายถามย้ำอย่างไม่อยากเชื่อ "ทราบแล้ว แล้วยังมิมาปรนนิบัติข้าอีก หรือต้องให้บ่าวรับใช้ชายคนเมื่อครู่มาพาข้าเข้าห้องหอกับเจ้า!"


[1] หนิงเฉิง หมายถึง ความสำเร็จที่สงบสุข

[2] สารทฤดู หมายถึง ฤดูใบไม้ร่วง

[3] ซีฮัน หมายถึง เหมือนต้นไม้ใหญ่ที่คอยคุ้มครองดูแล

[4] หนึ่งก้านธูป เทียบเวลาหนึ่งชั่วโมง

(ส่วนไหนที่คำแปลยาว ไรท์จะใส่ไว้ข้างล่างแทนเพื่อไม่ให้เสียรสชาติในการอ่านค่ะ แต่จะมีฉากหนึ่งของเล่มสามที่ยาวมาก ยังไงไงไรท์จะดูอีกทีนะคะว่าจะเสริมไปพร้อมกันเลยไหม)

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.2).7 เซียวลี่หยางจะไปสำคัญอะไรอีก

    "คนเช่นเจ้า ไม่คู่ควรกับจวนของข้า" น้ำเสียงเย็นชานี้ จะว่าเบาก็เบา หากแต่ทุกผู้ทุกคนที่ยืนล้อมวงอยู่ในตอนนี้กลับได้ยินกันอย่างชัดเจนสาวใช้ของกู่เยว่ชิงต่างพากันมองหน้ากันไปมา คล้ายบอกว่าเจ้านายตนเองอย่างไรก็ต้องชนะ เรื่องในวันนี้ก็คงจะเงียบไป พวกนางก็ไม่ต้องเดือดร้อนแล้ว"..." กู่เยว่ชิงที่แสร้งตีหน้าน้อยใจยกผ้าเช็ดหน้ามาปิดปากอยู่ก็แอบซ่อนรอยยิ้มน้อย ๆ ไว้อย่างพึงพอใจเช่นกันเวลานี้แม้นคนถูกขู่หย่าจะก้มหน้าลงเหมือนเสียใจ แต่ใครจะไปรู้ความจริงที่นางปกปิดไว้ ซ้ำนางยังสวมผ้าปิดหน้าตลอดเวลา และก่อนที่เจียงเยี่ยนฟางจะเอ่ยออกไป นางยังพยายามบีบเสียงให้สั่นเครืออีกนิดเพื่อให้สมจริงขึ้นด้วย "...เช่นนั้นก็ให้คนของท่านอ๋องเข้าไปค้นเถิดเพคะ"เหตุการณ์ครั้งก่อนเรื่องยาพิษ ดูอย่างไรก็รู้ว่าเซียวลี่หยางพยายามทำให้นางเป็นคนผิด ไม่ว่านางจะเป็นคนวางยาจริงหรือไม่ แต่ปลายทางก็ถูกกำหนดให้นางเป็นผู้ผิดตั้งแต่แรกแล้ว ในไม่ช้าเขาก็ต้องกำจัดนางออกไปอยู่ดีและด้วยรู้แต่แรกว่าชินอ๋องผู้นี้ไม่เคยไว้ใจนาง อีกฝ่ายคงส่งคนมาเฝ้าเรือนนางไว้ตลอดอยู่แล้ว คนมาเฝ้าย่อมต้องเห็นแน่ว่ามีใครมาที่เรือนของนางในช่วงเวลาที่นาง

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.2).6 ยื่นหนังสือหย่าให้เจ้าแล้ว

    "ที่เจินเจินตบเจ้า หาใช่เพราะเรื่องที่เจ้าอยากพาคนเข้ามาค้นของโดยไม่ขออนุญาตจากข้า แต่ตบสั่งสอนเพื่อให้เจ้ารู้ว่าเจ้าพูดโดยไม่ทันใช้หัวคิดต่างหาก จวนอ๋องมีกฎที่ต้องปฏิบัติ แต่คนในจวนที่อยู่มานานกลับหละหลวมเสียเอง ใช้ได้เสียที่ไหน" พูดมาถึงตรงนี้เจียงเยี่ยนฟางก็หาเรื่องให้คนอื่นเดือดร้อนเล่น โดยการหันมองสาวใช้ของกู่เยว่ชิงคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ตนที่สุด และเอ่ยถามว่า "เจ้าว่าสมควรแล้วหรือไม่ที่นางถูกตบ"โดยไม่ต้องใช้เวลาคิดนาน สาวใช้ก็ตอบเสียงสั่นว่า "เพ... เพคะ สมควรแล้วเพคะ" แม้นจะถูกพระชายากู่หันมองหน้าในทันที แต่นางก็ทำเพียงหลบสายตาไป ไม่ยอมกลับคำ ก็จะให้นางตอบเช่นไรได้อีก ทางหนึ่งคือพระชายากู่ที่เป็นเจ้านายของตน และเป็นผู้ที่ชินอ๋องโปรดปรานที่สุด หากแต่อีกฝั่งก็มีบิดาเป็นถึงเสนาบดีฝ่ายซ้ายคอยหนุนหลัง ซ้ำยังยกฮ่องเต้ขึ้นมาขู่ แน่นอนว่าน้ำหนักต้องเอนเอียงไปทางฝั่งหลังมากกว่าอยู่แล้ว หากยามนี้นางตอบว่า 'ไม่' ภายหลังก็ต้องถูกจับไปสอบสวน ใครจะทนความเจ็บปวดได้ไหว อย่างไรก็ต้องเล่าเหตุการณ์เมื่อครู่ออกไปอยู่ดี มิสู้โดนพระชายากู่ทำโทษทีหลังจะยังดีเสียกว่า อย่างน้อยก็ยังรักษาชีวิตไว้ได้"เจ้าล่

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.2).5 ไม่ต้องรีบร้อน รอไส้เดือนมันดิ้นเมื่อถูกขี้เถ้า

    เป็นเจินเจินที่เดินมาจากด้านหลัง แทรกตัวผ่านเจียงเยี่ยนฟางออกมา แล้วลงมือตบหน้าจูหลิงเพื่อสั่งสอนอีกฝ่ายแทนเจ้านายตนเอง!"จูหลิง เจ้าเป็นเพียงสาวรับใช้ กล้าเสียมารยาทก็แล้วไป แต่ยังหมิ่นเบื้องสูงไม่เลิก เป็นข้าที่ตบสั่งสอนแทนการถูกตัดหัวเสียบประจานของเจ้า ก็ควรขอบคุณแล้ว!" เจินเจินกางแขนกันเจ้านายตนเองไว้ ใครหน้าไหนจะผ่านเข้าไปก็ต้องสังหารนางให้ตายก่อน แล้วค่อยเหยียบศพนางก้าวเข้าไปในเรือน!"..." กู่เยว่ชิงได้ฟังก็สูดหายใจเข้าลึก เกิดความกลัวขึ้นมาในใจ รีบเข้าไปดึงสาวใช้ของตนเองกลับมา พลางเงยหน้ามองเจียงเยี่ยนฟางอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ที่ผ่านมาสตรีผู้นี้ต่างอยู่อย่างสงบเสงี่ยมไม่เรียกร้องสิ่งใด ท่าทางที่เจอแต่ละครั้งก็อ่อนหวานระคนขี้กลัว ดั่งนกน้อยที่ตกจากรังเจอเข้ากับฝูงงู แม้นางจะตัวสูงแต่กลับดูบอบบางอยู่ตลอดเวลา ในตอนที่ท่านอ๋องไล่นางมาอยู่เรือนด้านหลัง นางก็มาอยู่โดยไม่ปริปากบ่นแม้ครึ่งคำ วันนั้นพอถูกใช้ให้ไปต้มน้ำแกงไม่ต่างจากสาวใช้คนหนึ่ง ก็ยังยินยอมทำตามอย่างว่าง่ายอยู่เลยพวกคนใช้ในจวนเองก็ต่างพูดกันให้ทั่วว่า คุณหนูใหญ่เจียงผู้นี้คงรู้ว่าตนไม่มีอำนาจเพียงไร ถึงได้อยู่อย่างเจีย

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.2).4 ตบสั่งสอน

    "เปิด..." เสียงคนด้านนอกดังแว่วเข้ามาเจียงเยี่ยนฟางที่เดินมารออยู่ก่อนแล้ว ก็ดึงประตูเรือนเปิดออกโดยไม่รอให้ใครมาทุบประตูให้หนวกหูอีก"พี่หญิง" นางทำความเคารพสตรีหน้าเรือนก่อนเป็นอันดับแรก สีหน้าและน้ำเสียงค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นกังวลใจ "ไม่ทราบว่าพี่หญิงมีเรื่องอะไรให้น้องสาวคนนี้ช่วยเหลือหรือเจ้าคะ ถึงได้พาคนมาดึกดื่นเช่นนี้""น้องหญิงเจียง เจ้าเห็นความเชื่อใจของข้าเป็นสิ่งใดกัน ทั้งที่... ทั้งที่ข้าเอ็นดูเจ้าขนาดนั้น" กู่เยว่ชิงพูดไปก็เช็ดน้ำตาไป ดวงตาก็เหลือบมองไปด้านหลังตนเองตลอดเวลาเจียงเยี่ยนฟางก็ทำทีเป็นมองไม่เห็นว่าเหมือนนางกำลังรอใครบางคนให้มาถึงอยู่ ในเมื่ออีกฝ่ายเสแสร้งได้แนบเนียน นางเองก็ทำได้เช่นกัน เวลานั้นก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากอกเสื้อ ขึ้นมาปิดใบหน้าเลียนแบบอีกฝ่าย "พี่หญิง ท่านพูดเรื่องอะไรกันเจ้าคะ""อย่ามัวเสียเวลาเลยเพคะพระชายา" จูหลิงที่ยืนประคองเจ้านายไว้ก็พูดไปปลอบไป ครั้นจบประโยคนั้นก็หันไปสั่งสาวใช้ที่มาด้วยกันอีกกลุ่มใหญ่ว่า "ค้นเรือน!""เดี๋ยว!" เจียงเยี่ยนฟางยืดตัวเต็มความสูงพลางยื่นมือขวางทางเข้าไว้ แผ่นหลังเหยียดตรง โยนผ้าเช็ดหน้าทิ้งไปที่อื่น น้ำเสียงเอง

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.2).3 หาเรื่องกันไม่ว่างเว้น

    กระทั่งคืนวันต่อมา เจินเจินก็ได้ยินข่าวว่าท่านอ๋องแอบส่งคนไปตามหมอสวี่เข้ามาทางประตูหลัง มารักษาอาการท้องร่วงให้พระชายากู่และคนในเรือนเอินทั้งหมด!เจินเจินพอได้ยินเรื่องนี้แล้วก็รีบรุดไปดูด้วยตาของตนเองว่าเรื่องที่นางได้ยินจากคนใช้ในจวนเป็นความจริงหรือไม่ ครั้นมาถึงเรือนเอินแล้วก็ได้ยินพระชายากู่โวยวายเสียงดังออกมาว่า"ยาพิษที่ทำให้ท้องร่วงพวกนั้นเจ้าเก็บดีหรือไม่ เหตุใดพวกเราถึงโดนไปด้วย!""หม่อมฉันเก็บดีแล้วนะเพคะพระชายา" จูหลิงน้ำเสียงสั่น เมื่อวานนางเพิ่งจะถูกลดเบี้ยของเดือนนี้ไป วันนี้ก็ดันเกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว"แล้วเหตุใดข้าถึงท้องร่วง น่าขายหน้ายิ่งนัก พี่ลี่หยางจะมองข้าอย่างไร! เจ้ามันไม่ได้เรื่อง!" สิ้นเสียงของกู่เยว่ชิงก็มีเสียงของแตกตามมาไม่หยุด"พระชายา ทรงเย็นพระทัยก่อนเพคะ บางที บางทีอาจเป็นพวกของกินที่ห้องครัวเตรียมมาให้ไม่สะอาด จึงทำให้พวกเรา..." เสียงของจูหลิงขาดห้วงไม่เป็นประโยค ด้วยเพราะวิ่งหลบของที่ถูกปามาใส่"เจ้าคิดว่าจะหลอกผู้ใดกัน!" กู่เยว่ชิงตะโกนเสร็จก็หอบหายใจด้วยความเหนื่อย ต่อให้อาหารถูกเตรียมมาไม่ดีแล้วเหตุใดท่านอ๋องทรงไม่เป็นอะไร คนในเรือนอื่นก็ไม่เป็นอะ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.2).2 เอาคืนทีละนิด

    ด้านเจินเจินไม่ได้สนว่าใครเพิ่งจะตกน้ำไป นางพยายามประคองร่างในมือดันขึ้นไปบนสะพานแทน ปากพร่ำถามว่าพระชายาเป็นอย่างไรบ้างอยู่หลายครั้ง และพอส่งคนขึ้นไปได้แล้ว นางถึงได้ปีนตามขึ้นไป"ไปช่วยนางขึ้นมา!" เซียวลี่หยางหันไปบอกเติ้งอู๋ที่ยังคงยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนเติ้งอู๋พอถูกสั่งก็ปลดอาวุธประจำกายวางไว้ ก่อนจะลงน้ำไปเพื่อช่วยกู่เยว่ชิงขึ้นมาจูหลิงที่กำลังรออยู่บนสะพานรีบหันไปบอกให้สาวใช้อีกสองคนไปเอาน้ำชากับผ้าคลุมที่อยู่ในศาลามาเตรียมรอเจ้านาย"พระชายา ทรงเป็นอย่างไรบ้างเพคะ" เจินเจินยังคงถามย้ำอีกรอบ รีบกวาดตามองดูตามร่างกายของคนตรงหน้าที่ฟุบอยู่กับพื้นสะพานให้แน่ใจอีกที"..." เจียงเยี่ยนฟางที่ยังไอไม่หยุดก็ยกมือโบกไปมาแทนคำตอบ พอรับรู้ได้ว่ามือตัวเองสั่นขนาดไหนก็รีบลดมือลง แล้วใช้มืออีกข้างเท้าพื้นให้ตัวเองลุกขึ้นมานั่งให้ดี ๆ แทนจังหวะต่อมาเติ้งอู๋ก็พาคนขึ้นมาจากสระบัวได้แล้ว จูหลิงที่ปาดเข้าไปประคองกู่เยว่ชิงก็รีบยกมือลูบแผ่นหลังให้เจ้านายตนเองเพื่อไอเอาน้ำออกมาให้หมด"พี่หญิงกู่ ท่านเป็นอะไรหรือไม่ ขอโทษด้วย เมื่อครู่ไม่ทันระวังดึงท่านแรงไปหน่อย ไม่คิดว่าท่านที่ยื่นมือมาช่วยจะไม่เกร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status