3
ทอดสะพาน
“จำวันแรกที่เราเจอกันได้ไหมครับ”
ตะวันถามหญิงสาวตรงหน้า ที่กว่าเธอจะยอมมาดินเนอร์กับเขา ชายหนุ่มต้องใช้เวลาอ้อนวอนอยู่หลายครั้ง
“วันไหน อลิสจำไม่ได้ พี่ตะวันจำได้เหรอคะ ไหนเล่าให้ อลิสฟังหน่อย”
หญิงสาวในชุดสีขาวแขนกุด คอเสื้อของเธอผ่าลงเป็นรูปตัววีจนถึงร่องอก โชว์เนินอกอิ่ม ที่ทั้งขาวและดูอวบเต็มมือ จนชายหนุ่มในร้านต่างพากันมอง
อลิสเธอแกล้งจำในสิ่งที่ตะวันพูดถึงไม่ได้ เพราะอยากให้ชายหนุ่มตรงหน้า เล่าให้เธอฟัง
“พี่คงไม่มีอะไรสะดุดตาพอ ให้อลิสจำได้แน่ๆ แต่สำหรับพี่ ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกันพี่ก็จำผู้หญิงสวยที่เกือบล้มเพราะถูกพี่เดินชนได้ตลอด”
ชายหนุ่มเอื้อมือไปวางทับมือหญิงสาวที่วางไว้บนโต๊ะอาหาร ก่อนที่อลิสจะดึงมือของเธอกลับ
“พี่ตะวันความจำดีจังเลยค่ะ ส่วนอลิสจะเลือกจำเฉพาะคนที่ทำอะไรให้อลิสอยากจำเท่านั้น”
น้ำเสียงที่อ้อนหวานของอลิส นางเอกดังในเวลานี้ ที่ใครๆ ต่างก็พากันชื่นชอบและติดตามผลงานของเธอ ฟังแล้วดูอ่อนหวานแต่เหมือนมีบางอย่างซ่อนอยู่ในเสียงนั้น ตะวันสัมผัสได้ แต่เขาไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่
“แล้วพี่ต้องทำยังไง ถึงจะได้เป็นคนที่อลิสจำได้”
ชายหนุ่มปากหวาน คามรมของเขาไม่ธรรมดา ถ้าอลิสไม่ได้มานั่งตรงนี้เพราะความแค้นสั่งมา หญิงสาวคงตกหลุมรักคำหวานทุกคำของพระเอกสุดฮอตแน่ๆ
“ร้านนี้คนเริ่มเยอะแล้วนะคะ อลิสว่าเราไปหาที่คุยเงียบแบบส่วนตัวกันดีกว่า”
หญิงสาวส่งสายตาแบบยั่วยวน ให้ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างตั้งใจ ให้เขาเข้าใจ ว่าเธอต้องการไปที่ไหน
“ได้สิครับ คอนโดของพี่ทั้งเงียบและบรรยากาศดี ได้อยู่กันแบบส่วนตัว อย่างที่อลิสต้องการแน่ๆ”
หญิงสาวยิ้มอย่างพอใจ การจะทำให้ใครสักคนหลงรัก มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ การแก้แค้นครั้งนี้ ถึงแม้เธออาจจะต้องเสียตัว หญิงสาวก็ยอม ถ้ามันจะทำให้เขาหลงรักเธอ และเมื่อวันนั้นมาถึง เธอคงได้ล้างแค้นให้เพื่อนสำเร็จ
ห้องของชายหนุ่มอยู่ชั้นบนสุด เป็นห้องชุดขนาดใหญ่ ในนั้นมีห้องนอนอีกสองห้อง และห้องรับแขกหนึ่งห้อง ห้องครัวหนึ่งห้อง
อลิสพยายามมองรอบๆห้อง หญิงสาวรู้สึกไม่แน่ใจ ว่าเหมือนภาพที่ไข่มุกเคยให้เธอดูไหม เพราะนานแล้วที่หญิงสาวได้เห็นภาพนั้น
“ดื่มอะไรดี”
พระเอกถามก่อนเดินมาโอบเอวนางเอกสาวหน้าใหม่ เหมือนต้องการหยั่งเชิง ว่าคืนนี้ หญิงสาวจะยอมให้เขาใกล้ชิดเธอได้แค่ไหน
“อะไรก็ได้ค่ะ อลิสเป็นคนง่ายๆ ถ้าชอบก็ชอบแต่ถ้าไม่ชอบก็...ไม่”
สาวสวยมองคนถามด้วยแววตาที่แสนจะเจ้าชู้ ต่อด้วยใช้ลิ้นสวยเลียปากตัวเองอย่างยั่วยวน
“แล้วอลิสชอบ...หรือ...ไม่ชอบอะไร พี่เดาใจไม่ถูกเลย”
ตะวันพยายามกดอารมณ์ความรู้สึกของเขา ที่มันกำลังถูกโหมด้วยไฟสวาท ที่หญิงสาวกำลังโปรยทางให้
“ของแบบนี้ต้องลองค่ะ ถ้าไม่ลอง...ก็ไม่รู้”
สองมือขาวคล้องคอของชายหนุ่มและกดคอเขาให้ก้มลง จนหน้าทั้งคู่แทบจะชิดติดกัน ตะวันรู้สึกว่าเขากำลังได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นไม่เป็นจังหวะ
“ผู้หญิงที่มาที่นี่ ส่วนใหญ่ชอบดื่มอะไรกัน ลองเอามาให้อลิสลองก่อนดีกว่า ว่าลิ้นของผู้หญิงพวกนั้นกับลิ้นของอลิสจะเหมือนกันไหม”
หญิงสาวเลียปากตัวเองช้าๆอีกครั้ง ก่อนที่จะค่อยๆปล่อยมือทั้งสองข้างออกจากคอของชายหนุ่ม และพาสะโพกกลมได้รูปของเธอมานั่งที่โซฟากลางห้อง
“ไวน์ยี่ห้อดีจากเยอรมัน ละมุนลิ้น เหมาะกับสาวสวยที่สุดของผม”
ตะวันเดินมานั่งข้างๆ หญิงสาว พร้อมกับแก้วไวน์ในมือ เขายื่นแล้วให้เธอ โดยไม่ละสายตาที่กำลังมองสบตากันอย่างหวานซึ้ง จนแทบจะกลืนกินกันเข้าไปข้างใน
“พี่โยเกิร์ต ชอบกินไวน์ยี่ห้อนี้เหรอคะ เวลาที่มาที่นี่”
หญิงสาวเริ่มถามเก็บข้อมูล โดยที่เธอยังไม่ยอมดื่มเครื่องดื่มที่ตะวันยื่นให้
“เธอไม่เคยมาที่นี่” ตะวันเถียงทันที
“ไม่เคยก็ไม่เคยค่ะ ทำไมพี่ตะวันต้องทำเสียงจริงจังแบบนี้คะ อลิสตกใจหมดเลย”
หญิงสาววางแก้วไวน์ลง และคล้องแขนชายหนุ่มด้วยมือทั้งสองข้าง เอนศีรษะซบลงกับไหล่ข้างขวาของตะวันอย่างยั่วยวนและเอาใจ
“อย่าบอกนะคะ ว่านอกจากอลิสแล้ว พี่ตะวันยังไม่เคยพาผู้หญิงคนอื่นมาที่นี่เลย” หญิงสาวยังไม่เปลี่ยนเรื่อง
“แล้วถ้าพี่บอกว่าใช่ อลิสจะเชื่อพี่ไหมล่ะ”
ชายหนุ่มใช้มือหนาเชยคางหญิงสาวที่กำลังซบหน้ากับอกของเขา ให้เงยหน้าขึ้นมา
“ไม่เชื่อค่ะ”
อลิสส่ายหน้าไปมาอย่างยั่วยวน ใบหน้าสวยยื่นเข้ามาใกล้กับใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่ม จนลมหายใจของคนทั้งคู่สัมผัสถึงกัน
“อลิส....”
ตะวันคว้าเอวหญิงสาวตรงหน้าและจับเธอพลิกตัวลงนอนบนโซฟาใหญ่กลางห้อง อย่างทนไม่ไหวอีกแล้ว
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นคะ อลิสทำอะไรผิดเหรอ”
คนตัวเล็กที่ถูกพลิกตัวจนอยู่ใต้กายหนา ยังไม่มีอาการว่าจะตื่นตกใจอะไร ยังคงมองคนตรงหน้าด้วยสายตายั่วยวนเหมือนเดิม
“พูดดีนะเรา” ตะวันก้มหน้าลงมาใกล้กับหน้าของหญิงสาว
“ถ้าไม่อยากให้พูด ก็ทำให้เงียบสิคะ”
ชายหนุ่มได้ยินคำพูดที่แสนจะเชื้อเชิญเขาขนาดนี้ ตะวันไม่สามารถที่จะเก็บกลั้นความเป็นชายที่มันพร้อมจะเปิดศึกได้ทุกเมื่อไว้ไม่ไหวต่อไปแล้ว
“อืออ....”
ปาหนาบดขยี้ปากบางสีชมพู จนหญิงสาวครางออกมาด้วยความพึงพอใจ
“ไม่พูดอะไรอีกล่ะ”
ชายหนุ่มหยุดเดินหน้ากิจกรรมที่กำลังทำ ก่อนจะมองหน้าหญิงสาวตรงหน้า ที่กำลังทำท่าเหมือนถูกขัดใจ
อลิสไม่มีคำตอบ เธอใช้มือทั้งสองข้างโน้มคอชายหนุ่ม และใช้ปากบางของเธอเป็นฝ่ายบดขยี้ปากหนาของเขาแทน
ตะวันเมื่อถูกฝ่ายหญิงลงมือเองแบบนี้ ถ้าขืนยังชักช้าคงเสียเชิงชายน่าดู
ลิ้นสากหนาของเขาตวัดเข้าไปสาละวนในปากบางของหญิงสาว ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนต่ำลงมาที่ซอกคอ ที่แอ่นรอรับการซุกไซ้อยู่อย่างรู้งาน
“อ่าสสส.....อ่อสสส”
ร่างบางบิดตัวไปมา ด้วยความเสียวซ่าน หญิงสาวยอมปล่อยอารมณ์ทุกอย่างไปตามคนข้างบน ที่กำลังเดินเกมรักอย่างเร้าร้อนแต่นุ่มนวล
“อ๋อย......”
อลิสสะดุ้งด้วยความเสียวที่มาอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อมือหนาของพระเอกหนุ่มรุกล้ำเข้าไปในเสื้อในของตัวจิ๋ว นิ้วเรียวบดขยี้ยอดอกชูชันอย่างสนุกมือ
“พี่ตะวัน”
หญิงสาวไม่รู้ตัวเหมือนกัน ว่าเธอเผลอเรียกชื่อเขาเพราะอะไร แต่อยู่ดีหัวใจของเธอมันก็สั่งแบบนั้น
“ปล่อยค่ะ”
มือหนากำลังจะพยายามถอดชุดสวยของ หญิงสาว แต่ต้องหยุดชะงักลง เมื่อได้ยินอลิส สั่งให้เขาหยุดและปล่อยมือจากชุดของเธอ
“ทำไม ไม่รักพี่เหรอ”
ชายหนุ่มถามด้วยเสียงแหบแห้ง และสั่น ดวงตาของเขาแสดงออกถึงความรู้สึกและอารมณ์ที่เหมือนคนกำลังควบคุมตัวเองไม่ไหว
หญิงสาวผลักคนตัวใหญ่ ที่คร่อมตัวของเธอไว้ ก่อนจะยันแขน เพื่อดึงตัวเองให้ลุกขึ้นมายืน และรีบคว้ากระเป๋าที่วางไว้บนโต๊ะใกล้โซฟาทันที
“อลิสรักพี่ตะวันนะคะ รักมากด้วย แต่...ไม่อยากมีปัญหากับพี่โยเกิร์ต พี่ตะวันยังไม่ยอมแก้ข่าวเรื่องกำลังคบกับเธออยู่ อลิสไม่อยากตกเป็นข่าวมือที่สาม”
หญิงสาวไม่รอฟัง ว่าชายหนุ่มจะอ้อนวอนอะไรเธอต่อ เพราะตัวอลิสเอง ก็เริ่มไม่ไว้ใจตัวเอง เธอจึงรีบเปิดประตูและลงมาจากห้องให้เร็วที่สุด
“ใจเย็นนะไข่มุก อีกไม่นาน”
หญิงสาวใช้มือขวาจับที่จี้รูปหัวใจ ที่ไข่มุกซื้อให้เธอเมื่อวันเกิด ก่อนที่ไข่มุกจะจากไปเพียงไม่กี่เดือน
อลิสเธอมั่นใจ ว่าตอนนี้ตะวันกำลังต้องการร่างกายของเธอ แต่นั่นมันไม่ใช่สิ่งที่หญิงสาวต้องการ เธอต้องการให้เขา หลงรักเธอจนต้องสุญเสียทุกอย่าง ชื่อเสียง ครอบครัว และถ้ามันเป็นไปได้ อลิสอยากให้ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต
“มาวิน เรากำลังจะกลับห้องแล้วนะ”
หญิงสาวโทรรายงานเพื่อนชายคนสนิททันที เธอรู้ว่าตอนนี้มาวินคงกำลังนอนไม่หลับ เพราะเป็นห่วงกลัวเธอจะพลาดพลั้งให้กับชายหนุ่ม และจะเป็นฝ่ายเสียใจเสียเอง
“อลิสเธอ....” มาวินลังเลไม่กล้าถาม
“เรายังอยู่รอดปลอดภัย เขาก็แค่ได้นิดๆหน่อยๆเท่านั้นแหละ นายไม่เชื่อใจเราเหรอ”
อลิสสัญญากับมาวินไว้แล้ว ว่าถ้าไม่จำเป็นเธอจะไม่ยอมเสียตัว และครั้งนี้เป็นเพียงแค่ครั้งแรก ที่เธอยอมให้ตะวันใกล้ชิดแบบนี้ ถ้ายอมตั้งแต่ครั้งแรก เกมนี้ก็จบ อลิสจึงไม่มีทางยอมง่ายๆ
“เฮ้อ!...ค่อยโล่งหน่อย กลับห้องดีๆล่ะ ถึงแล้วอย่าลืมไลน์มาบอกนะ” มาวินโล่งใจ
ตั้งแต่เข้าวงการบันเทิง หญิงสาวก็ออกมาอยู่คอนโดไม่ได้อยู่บ้านกับแม่ เพราะเธอทำงานไม่เป็นเวลา บางวันกลับดึก บางวันก็กลับเช้า เลยไม่อยากให้แม่ต้องเป็นห่วง
ตอนที่ 12ซาตานแพ้รัก ข่าวเสี่ยโดนยิงดังไปทั่วจังหวัดตอนนี้หมอแจ้งว่าไม่มีกระสุนฝังในและไม่โดนยิงในส่วนที่อันตรายจึงได้ทำการรักษาและพาขึ้นไปอยู่ที่ห้องพิเศษเพื่อพักฟื้น ผู้คนจากหลายตำบลต่างพากันมาเยี่ยม จนต้องทำสมุดให้เซ็นเพราะหมอไม่อยากให้เยี่ยมมากกลัวจะทำให้แผลติดเชื้อและคนไข้ไม่ได้พักผ่อน ตอนนี้คนที่เฝ้ากลางวันจะเป็นเสกส่วนกลางคืนจะเป็นโชคกับเดือนอ้าย “อ้ายขอน้ำหน่อย คอแห้ง” พยาบาลส่วนตัวรีบลุกไปหยิบแก้วน้ำดื่มให้กับคนเจ็บทันทีเพราะกกลัวชายหนุ่มจะพยายามขยับตัวแล้วจะมีผลต่อแผล “มากอดหน่อยสิ ปิดกันได้อย่างไรเรื่องท้อง พี่เป็นพ่อนะ” เสี่ยหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์หลอกให้เดือนอ้ายไปใกล้ ๆ เพื่อจะคว้าตัวเธอมากอด “ก็อ้ายเห็นเสี่ยไม่มาหาเลยก็คิดว่าคงลืมกันไปแล้ว ลูกคนเดียวอ้ายเลี้ยงได้ถ้าพ่อของลูกไม่ได้ตั้งใจให้มีเขาขึ้นมา” บู๊เอียงตัวหญิงสาวที่เป็นรักแรกของเขาและรักสุดท้ายให้หันหน้ามามองสบตาและฟังในสิ่งที่เขาจะพูด “ฟังนะอ้าย ไม่ว่าเธอจะคิดอะไร จะมองว่าเสี่ยบู๊คนนี้เป็นแบบไหน แต่พี่ยืนยันว่าพี่ยังเป็นพี่
ตอนที่ 11คิดถึง หนึ่งเดือนผ่านไป บ้านซ่อมแซมเสร็จนานแล้วแต่เดือนอ้ายก็ยังคงไม่ย้ายออกมาจากไร่ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมและในเกือบทุกคืนเธอกับอดีตเจ้านี้ก็มีความสัมพันธ์กันทั้งที่มันไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นแล้ว วันนี้หญิงสาวตัดสินใจเก็บของกลับบ้าน เธอมาแค่เพียงกระเป๋าใบเดียว เธอก็กลับไปเพียงแค่นั้น เธอบอกเรื่องนี้ให้เสี่ยรู้ตั้งแต่เมื่อคืน เธอคิดว่าเขาคงจะไปส่งเธอกลับบ้านแต่เขากลับให้โชคไปส่งเธอและเอาจักรยานของเธอขึ้นท้ายรถไป “เริ่มต้นใหม่นะอ้าย ว่าง ๆ ก็มาเที่ยวที่ไร่ได้นะ ทุกคนยินดีต้อนรับ” โชคบอกร่ำลาเพื่อนหลังจากที่ช่วยถือกระเป๋าไปไว้บนบ้านและเอาจักรยานของเธอลงไว้ที่ใต้ถุน “โชคดีนะโชค ขอบคุณที่ดูแลอ้ายมาตลอด” สองคนเพื่อนรักโบกมือลากันทั้งที่ความจริงไร่ห่มรักกับบ้านของเธออยู่ห่างไม่ได้มากอะไร บ้านหลังเดิมที่ไม่เหมือนเดิม หลังคาเปลี่ยนใหม่ผนังบ้านเปลี่ยนใหม่ จากที่เป็นบ้านโ ล่ง ๆ ตอนนี้ก็มีห้องนอนสองห้อง หน้าต่างติดเหล็กดัด มีโทรทัศน์เครื่องใหญ่ ตู้เย็นและมีห้องครัวอยู่ที่ระเบียงหลังบ้านที่ตอนนี้ไม่โล่งเหมือนเดิน
ตอนที่ 10คืนอิสระ โชคยิ้มให้กับตัวเองเมื่อเขาคิดไว้ไม่มีผิดไม่ถึงชั่วโมงเจ้านายของเขาก็ขับรถมาถึงทั้งที่ความจริงจากตัวจังหวัดมาที่ไร่เกือบชั่วโมงแต่คนปากแข็งใช้เวลาไม่ถึงสี่สิบนาที “ไหนว่าจะไม่กลับอย่างไรล่ะครับเจ้านาย” โชคยิ้มแซวทั้งที่รู้ว่าเวลนี้เจ้านายของเขาคงไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่นด้วยก็ตาม “ลืมของโว๊ย!” บู๊ตะโกนตอบลูกน้องแบบไม่ใส่ใจเพราะรีบเดินเข้าไปยังห้องนอน “นายเขาลืมหัวใจไว้ เอ็งก็ทำเป็นไม่รู้นะไอ้โชค” เสกและลูกน้องอีกสองคนลงจากรถพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าที่ตั้งใจว่าคืนนี้จะไปนอนโรงแรมกัน เจ้าหนี้จอมปากแข็งเปิดประตูห้องนอนเข้าไป เขานั่งข้าง ๆ เดือนอ้ายอยู่นานจนแน่ใจว่าเธอหลับสนิท เขาจึงเอาฝ่ามือแตะที่หน้าผากของเธอ “กินยาไปแล้วยังตัวร้อนอยู่เลย” บู๊ไม่คิดว่าเดือนอ้ายจะไม่สบายเป็นไข้ตัวร้อนหนักแบบนี้ ดีนะที่เขาตัดสินใจกลับมา ผ้าชุบน้ำแตะลงที่ตัวของคนป่วยเธอจึงค่อย ๆ ลืมตา พอเห็นว่าเป็นใครที่กำลังเช็ดตัวให้เธออยู่เธอก็หลับตาลงอีกครั้งด้วยความอ่อนแรง ทั้ง
ตอนที่ 9ฝังใจ สองสัปดาห์เต็มที่เดือนอ้ายมาอยู่ที่ไร่ห่มรัก เธอเพิ่งหาเงินใช้หนี้แค่เพียงสามหมื่นจากสองครั้งที่เขานอนกับเธอ หญิงสาวจึงตั้งใจจะพยายามวันนี้อีกครั้งและเป็นการพยายามที่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากที่เธอพยายามแบบธรรมดามาหลายคืนแล้ว คืนนี้ชายหนุ่มก็กลับบ้านดึกเหมือนเช่นทุกวันและเดือนอ้ายก็ยังคงรอเขากินข้าวเหมือนเดิม เธอพยายามพูดจาเอาใจชายหนุ่มในแบบที่ไม่ใช่เธอ ทั้งที่ตัวเธอเองก็สัมผัสได้ว่าคนฟังก็รู้ว่าเธอกำลังพยายามเอาใจเขาไม่ได้เกิดจากความรู้สึกที่แท้จริง ไฟทุกดวงปิดลงแสงที่ลอดผ่านม่านเข้ามาในห้องทำให้บู๊ที่ยังคงไม่หลับมองเห็นหญิงสาวตรงหน้าในสภาพเปลือยเปล่า “เธอทำอะไรของเธอ” ชายหนุ่มตะคอกด้วยความไม่พอใจ “ก็ทำให้เสี่ยนอนกับอ้ายไงล่ะ ทำไมคะในเมื่อเสี่ยอยากได้อ้ายมาบำเรอใช้หนี้แต่ตอนนี้เสี่ยกลับนอนเฉย ๆ ทุกคืน เสี่ยไม่พอใจอ้ายเหรอหรือว่าอ้ายมันไม่สวยไม่เก่งเหมือนผู้หญิงคนอื่น” หญิงสาวก้าวขึ้นเตียงเธอพยายามจะเอาตัวเองคร่อมล่างชายหนุ่มที่กำลังตกใจแต่ไม่สำเร็จเพราะสู้แรงอีกฝ่ายไม่ไหว บู๊ผลักร่างบางที่พยายามจะขึ้น
ตอนที่ 8ยืดเวลา อาหารมื้อเย็นวันนี้แม่ครัวคนใหม่ทำเมนูง่าย ๆ เพราะเธอยังไม่คุ้นชินกลับครัวที่นี่จากเคยใช้เตาถ่านก็เปลี่ยนมาใช้เตาแก๊สแทน “มื้อนี้ขอแบบเบา ๆ ก่อนนะคะ ยังไม่ชินกับครัวใหม่เลยกว่าจะใช้เตาแก๊สเป็นก็กลัวแทบแย่ ทำอีกสักครั้งสองครั้งก็คงดีขึ้น เสี่ยทน ๆ กินไปก่อนแล้วกัน” คนนั่งรอกินไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะสำหรับชายหนุ่มที่ชีวิตโหยหาคำว่าครอบครัวมานานแสนนานแค่ได้มีโอกาสได้กินข้าวที่บ้าน ณ ไร่ห่มรักโดยมีผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าตอนนี้เป็นเมียเขา ทำกับข้าวให้กินก็สุขใจเกินพอแล้ว “พรุ่งนี้ให้โชคพาไปดูในไร่หน่อยได้ไหมคะ ไม่อยากไปคนเดียวไม่รู้จักใคร” ตอนแรกอ้ายคิดว่าเธออยู่ที่นี่แค่ไม่นานคงไม่ทันเบื่อแค่คอยทำกับข้าวในแต่ละวันก็คงหมดวันแล้ว แต่พอมาคิดมาคิดไปเธอเริ่มอยากรู้ว่าในไร่ห่มรักมีอะไรบ้าง ทำไมจึงทำให้บู๊จากเด็กชายธรรมดามีฐานะดีขึ้นมาเร็วแบบนี้ “ได้สิ นัดกับโชคเอาแล้วกัน เพราะตอนนี้พี่ให้โชคอยู่เป็นเพื่อนเราทุกวัน มันก็คงไม่อยู่หน้าประตูไร่ก็เดินไปเดินมาแถวนี้แหละ” พรุ่งนี้งานนอกเข้ามาเสี่ยจำเป็นต้องไปจัดการสะสาง
ตอนที่ 7ความดีที่ไม่มีใครเห็น เดือนอ้ายเดินมาเพื่อขึ้นรถไปซื้อของตามคำสั่งของเจ้าหนี้เธอ ทั้งที่เธอก็คิดมาทั้งวันว่าเธอคงอยู่ที่นี่เต็มที่ก็แค่เดือนเดียวทำไมอีกฝ่ายต้องลงทุนให้ไปซื้อของเข้าครัวทำเหมือนเธอจะมาอยู่ที่นี่ เป็นปีหรือหลายปี “ทำไมยังไม่ไปคะ” หญิงสาวขึ้นมานั่งบนรถได้เกือบห้านาทีแล้ว เธอยังไม่เห็นว่าคนขับทำท่าจะขับออกไปเลยจึงถามด้วยความแปลกใจ “รอคนงาน เขาจะพาแม่ไปหาหมอจะขับไปพร้อมกัน ๆ ” “แม่เขาเป็นอะไรหรือคะ” คนถามได้ยินแบบนี้ยิ่งคิดถึงแม่ขึ้นมาเพราะเวลาที่เธอจะพาแม่ไปหาหมอแต่ละครั้งแสนลำบากยังดีที่รถรับจ้างคิดเงินเธอไม่แพงเพราะสงสาร “ปวดขาเฉย ๆ คนที่ไปหาหมอชื่อป้าพร มีลูกสองคนเป็น ฝาแฝดกันชื่อพีกับเพื่อน ป้าพรก็รู้จักอ้ายนะแต่อ้ายคงจำแกไม่ได้แล้วเพราะตั้งแต่แกมาทำงานในไร่ก็ไม่ค่อยออกไปไหนเลย” บู๊พูดจบรถคันใหญ่สีดำก็ขับผ่านหน้าเขาไปไม่ถึงสองนาที เขาก็ขับตามออกไป “ถ้าอยู่แต่บ้านแล้วมันเหงาไปช่วยงานในไร่ก็ได้นะ ลองปั่นจักรยานดูก็ได้ว่าอยากทำอะไร เพราะก็เลือกให้ไม่ถูกเหมือนกัน”