บทที่ 11 ไม่ชอบใจ
เสิ่นเกาหลานหลายวันมานี้เขาคลุกอยู่กับเจี่ยฟางจนแทบไม่ได้ออกไปทำงานช่วยท่านพ่อที่ร้านค้า หรือแม้แต่ไปตรวจดูท่าเรือที่ส่งของเมื่อเขาเดินเพียงลำพังทำให้เขาครุ่นคิดได้แล้วว่าวันนี้จะต้องไปหาท่านพ่อบ้างมิเช่นนั้นจะถูกต่อว่าเอาได้ เขากำลังย่ำเท้าไปหาสวี่หยางตามที่เจี่ยฟางขอร้องแต่ทว่าเมื่อเดินมาเรื่อย ๆ ระหว่างที่ไปห้องของนางได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังอยู่ไม่ไกล คิ้วของเสิ่นเกาหลานเริ่มขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย เพราะมิใช่เสียงสาวใช้แต่เป็นน้ำเสียงของสวี่หยางกับเสิ่นจิ้นที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขานั่นเอง ท่าทางของสวี่หยางยิ้มกว้างหัวเราะออกมาราวกับไม่ทุกข์ระทมหัวใจอย่างที่เจี่ยฟางกังวลแถมยังหน้าระรื่นให้เสิ่นจิ้นอีกต่างหาก
"ฮ่า ฮ่า เพราะคุณชายเสิ่นจิ้นเลยทำให้ข้าหัวเราะจนน้ำตาไหล ขอบคุณท่านอีกครั้งนะเจ้าคะ และมีอีกอย่างข้าขอฝากขอบคุณท่านแม่ด้วยที่เป็นห่วงข้า ข้าจะดื่มยาจนหมดเลยเจ้าค่ะ "
"พี่สะใภ้อารมณ์ดีเพราะข้าหรือขอรับ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีของข้าเหลือเกินที่ทำให้ท่านยิ้มได้เช่นนี้ " เสิ่นจิ้นนำเรื่องที่พบเจอก่อนจะมาเยือนสวี่หยางที่เรือนเป็นเรื่องตลกของลูกค้าที่มาซื้อของที่ร้านของท่านพ่อทำให้สวี่หยางหัวเราะออกมาอย่างลืมตัว ทำให้ผู้ที่ยืนมองดูทั้งสองเริ่มไม่พอใจที่เสิ่นจิ้นมาสนิทใกล้ชิดสวี่หยางเช่นนี้
เขายืนเอามือไขว้ไปด้านหลังก่อนจะทำหน้าให้คลายความบึ้งตึงหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะกระแอ่มให้ทั้งสองรู้ตัวว่ายามนี้มิได้มีเพียงสองคนแต่ทว่ามีเขาที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ
"อะแฮ่ม!! " ทันทีที่เสียงกะแอ่มของเสิ่นเกาหลานดังขึ้นทำให้ทั้งสองต่างพากันหันมาสนใจ ใบหน้าของสวี่หยางเริ่มเย็นชาอีกครั้งเมื่อครู่นางพึ่งจะอารมณ์ดีแท้ ๆ ทำไมต้องมาเจอเสิ่นเกาหลานตั้งแต่เช้าเช่นนี้ด้วย
"เจ้ามาทำไมที่นี่ ช่วงนี้เจ้ามักมาเยือนที่เรือนของข้าบ่อยครั้งเหลือเกิน เห็นทีข้าต้องหารือกับท่านพ่อท่านแม่เพื่อหาสตรีที่คู่ควรแต่งกับเจ้าเสียที จะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายที่ีเรือนของข้า " คำพูดคล้ายตำหนิปะปนจนทำให้สีหน้าของเสิ่นจิ้นเจือไปด้วยความขุ่นหมองเช่นกัน เขาคิดว่าเขาพยายามเก็บอาการไม่แสดงสีหน้าแววตาเอาไว้แล้วแต่ไม่คิดเลยว่าท่านพี่ของตนจะมองออก
ก่อนจะฉีกปากยิ้มกว้างยกตะกร้ายาสมุนไพรที่ท่านแม่ไหว้วานมาให้สวี่หยาง
"ท่านพี่กล่าวเกินไปแล้วขอรับ ข้ามาที่นี่บ่อย ๆ เพราะท่านแม่วานข้าให้นำยาสมุนไพรมาให้พี่สะใภ้ ท่านพี่ก็รู้ว่าท่านแม่ต้องการให้ท่านมีบุตรในเร็ววัน ยาตัวใดที่ว่าดีกินแล้วบำรุงร่างกายท่านแม่ย่อมอยากให้พี่สะใภ้ได้กิน แต่ทว่าหากกินยาจนหมดนี่แต่ไร้คนนอนเคียงข้างก็ย่อมไม่มีผล ข้าได้ยินมาว่าตั้งแต่ท่านพี่แต่งฮูหยินรองเข้ามามิเคยมาเยือนที่ห้องของพี่สะใภ้เรื่องนี้หากถึงหูท่านแม่คงไม่ดีนะขอรับ "
"นี่เจ้ากำลังต่อว่าข้าเช่นนั้นหรือ? ฮึ! เพราะช่วงนี้เจ้าอยู่ใกล้กับนางนิสัยของนางคงส่งทอดมาถึงเจ้าสินะ หากหมดธุระก็กลับไปได้แล้วเรื่องในเรือนของข้าไม่ต้องให้ผู้ใดมาคอยบอกคอยสอน มิใช่กงการของเจ้า " เสิ่นเกาหลานเริ่มโมโหที่เสิ่นจิ้นว่าเขาเช่นนั้นคงเป็นเพราะสวี่หยางฟ้องหรือพูดให้แก่เสิ่นจิ้นฟังหากเรื่องนี้ถึงหูฮูหยินผู้เฒ่าคงเป็นเขาที่ถูกตำหนิ เสิ่นเกาหลานไม่คิดเลยว่าสวี่หยางจะอิจฉาริษยาแม้แต่น้องสาวของตน
แต่เสิ่นเกาหลานหารู้ไม่ว่าสิ่งที่เขาเอ่ยมามิใช่อย่างที่เขาคิด เพียงแต่ตอนเดินเข้ามาในเรือนเสิ่นจิ้นได้ยินสาวใช้พูดคุยกับเกี่ยวกับฮูหยินและฮูหยินรองทำให้เขาได้รู้ความเป็นมาภายในเรือน สวี่หยางมิได้เอ่ยเรื่องนี้ออกมาแม้แต่น้อย และไม่มีเหตุผลที่นางจะเอ่ยออกมาให้ผู้ใดรู้อีกด้วย
บัดนี้สวี่หยางที่ยืนฟังอยู่ถึงกับกำมือแน่นดวงตาจ้องมองไปยังเสิ่นเกาหลานแม้กระทั่งน้องชายแท้ ๆ เขายังไม่ละเว้นอีกอย่างที่เขาเอ่ยออกมาเช่นนี้ช่างทำร้ายความรู้สึกของสวี่หยางเหลือเกิน
"คุณชายรองเสิ่นจิ้นข้าขอบคุณสำหรับสมุนไพรนะเจ้าคะ " สวี่หยางเห็นท่าทีของเสิ่นจิ้นที่อดกลั่นพยายามข่มอารมณ์ตน นางจึงเอ่ยขอบคุณเพื่อให้เขากลับไปไว้หน้าซึ่งกันและกัน
"นี่ขอรับ ...เช่นนั้นข้าขอตัวกลับนะขอรับ ท่านพี่เสิ่นเกาหลานหากข้าล้ำเส้นเกินไปก็ขออภัยด้วย ข้าลืมไปว่าท่านพี่แยกเรือนออกมาแล้ว ข้ายังคงคิดว่าเราคือครอบครัวเดียวกันข้าเองแค่อยากตักเตือนท่านพี่ให้ได้รู้ว่าในเรือนแห่งนี้ผู้ใดคือฮูหยินของท่านอย่าให้สาวใช้เข้าใจผิดและนำไปเอ่ยไปทั่วเช่นนั้นมิใช่ท่านพี่ที่เสียหายหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปนอกเรือน พี่สะใภ้เองก็อาจจะถูกกล่าวหาว่าเป็นสตรีที่บกพร่องได้ ที่ข้าเอ่ยมาเพราะเป็นห่วงทั้งสอง ข้าขอตัวขอรับ" เป็นครั้งแรกที่สวี่หยางได้เห็นสีหน้าแววตาของเสิ่นจิ้นที่จริงจังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ก่อนที่นางจะก้มโค้งรับคำนับที่เขาโค้งคำนับก่อนกลับพร้อมรับตะกร้าสมุนไพรจากเขา สวี่หยางยืนดูแผ่นหลังของเสิ่นจิ้นเดินจากไปพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ไม่สนใจผู้ที่ยืนอยู่ด้านหลัง
ครั้นก้าวเท้าจะเดินกลับห้องของตนแต่แล้วก็ต้องหยุดเดินชะงักเมื่อได้ยินคำพูดไร้การถนอมน้ำใจของเสิ่นเกาหลาน
"ยามอยู่ใกล้ข้าแม้แต่รอยยิ้มในดวงตาข้าแทบไม่เคยจะพบเห็น แต่เมื่ออยู่กับเสิ่นจิ้นใบหน้าหรือแม้แต่แววตายังปกปิดไม่มิดข้าผู้เป็นสามีช่างชวนให้ซาบซึ้งโดยแท้ สามีผู้ใช้ชีวิตร่วมกันจนแก่เฒ่ากลับเฉยชากับชายอื่นนั้นกลับยิ้มใบหน้าระรื่น"
สวี่หยางหันกลับมาจ้องมองใบหน้าของเสิ่นเกาหลานดวงตาแข็งทื่อไร้แวว
"ชายอื่นที่ท่านกล่าวมามิใช่น้องชายของท่านหรอกหรือเจ้าคะ? หากท่านกล่าวเรื่องรอยยิ้มของข้าผู้ใดยิ้มมาข้ายิ้มตอบ ผู้ใดสาดวาจาไม่ดีมาข้าเองก็สาดวาจาไม่ดีกลับ ท่านอย่าลืมสิเจ้าคะว่านิสัยของข้าเป็นเช่นใด! " สวี่หยางเอ่ยจบหันหลับเดินหนีโดยไม่สนใจว่ายามนี้เขาจะไม่พอใจในคำพูดของนางเพียงใด
เสิ่นเกาหลานจ้องมองตามหลังจากอย่างหงุดหงิดหัวใจทำไมเขาถึงได้ไม่พอใจยามที่เห็นนางสนิทใกล้ชิดกับเสิ่นจิ้น
ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้มีความสนใจนางแท้ ๆ และครั้งแรกที่พบเจอกันเขาแจ้งเจตนาของเขาให้นางรู้ทุกอย่างยามนี้เขามีเจี่ยฟางอยู่ในหัวใจ แต่เมื่อเห็นสวี่หยางอยู่ใกล้เสิ่นจิ้นเลือดในร่างกายของเขาตื่นตัวร้อนรุ่มทุกครั้ง อย่างหาข้อสงสัยในเรื่องนี้มิได้
บทที่ 59 ข้าจะลิขิตเองน้ำเสียงจริงจังแววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นของเสิ่นจิ้นทำให้สวี่หยางส่ายหัวไปมาลอบยิ้มหนึ่งคราก่อนจะตอบเขาไป“เรื่องนั้นอยู่ที่ฟ้าจะลิขิตแล้วเจ้าค่ะว่าท่านจะหาข้าพบหรือไม่? หากท่านหาข้าพบจริง ๆ ครานั้นข้าจะตอบคำถามนี้นะเจ้าคะ ตอนนี้ข้าต้องเดินทางก่อนต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะถึงที่ที่ข้าจะไป ข้าหวังว่าท่านจะพบสตรีที่งดงามและท่านรักนางหมดใจจนล้มเลิกความคิดที่จะตามหาข้า ลาก่อนเจ้าค่ะ” สวี่หยางเอ่ยจบเดินจากเสิ่นจิ้นขึ้นรถม้าที่อยู่หน้าเรือนตามด้วยหลีลี่จื่อ นางเห็นเสิ่นจิ้นได้โค้งคำนับลงหนึ่งครั้งก่อนจะขึ้นรถม้าตามสวี่หยางออกเดินทางเสิ่นจิ้นยืนมองรถม้าเคลื่อนออกไปลมได้พัดผ่านความเย็นมาระลอกหนึ่งประหนึ่งคำกล่าวลาของสวี่หยาง เขาหัวเราะออกมาอย่างขบขัน ก่อนจะพึมพำเอ่ยตามหลังนาง“ผู้ใดว่าข้าจะให้สวรรค์ลิขิตกัน ข้าเสิ่นจิ้นขอลิขิตเองและสตรีที่ข้าหมายใจมีเพียงเจ้าผู้เดียวสวี่หยางไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใดไกลพันลี้ข้าจะตามหาเจ้าให้เจอ เมื่อนั้นข้าจะไม่ยอมปล่อยให้เจ้าจากข้าไปได้อีกต่อไปเตรียมรับมือจากข้าได้เลย” แววตาของเสิ่นจิ้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แม้จะใช้เวลานานก็ถือว่าเขาได้พ
บทที่ 58 จากลาเสิ่นเกาหลานเดินจากไปให้เสิ่นจิ้นที่ยืนอยู่ด้านนอกเข้ามาหาสวี่หยางเพราะเห็นท่าทางของเสิ่นจิ้นแล้วเขาน่าจะอยากคุยกับนางมากกว่าเขาเสียอีกสวี่หยางหันไปมองหลุมป้ายชื่ออีกครั้งนางไม่คิดจะอยู่ที่นี่เพราะไม่อยากพบเจอเสิ่นเกาหลานอีกแค่เห็นเขานางก็หวนคิดถึงเจี่ยฟางไม่จางหาย หากนางสะสางทุกอย่างเสร็จสิ้นจะเดินทางไปหาท่านป้าที่ทิศเหนือไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขปลูกผักเลี้ยงสัตว์เย็บผ้าอย่างเรียบง่าย หนีเรื่องวุ่นวายจะดีกว่า แม้ว่าไม่ทำงานอะไรสมบัติของท่านพ่อที่มีนางคงใช้ไม่หมดแน่ ๆ“ท่านตัดสินใจหย่ากับท่านพี่จริง ๆ หรือ”“จริงเจ้าค่ะ จริงสิข้ายังไม่ได้ขอบคุณท่านเลย ท่านคอยเคียงข้างมาตลอดหากไม่มีท่านข้าก็ไม่รู้จะทำเช่นไรเหมือนกันเจ้าค่ะ ขอบคุณด้วยความจริงใจนะเจ้าคะ” สวี่หยางหันมาก้มโค้งลงอย่างนอบน้อมทราบซึ้งน้ำใจของเสิ่นจิ้น เขารีบประคองนางขึ้นมาไม่ให้นางต้องขอบคุณเขาเพราะที่เขาทำไปเพราะเขาอยากทำด้วยใจจริงเช่นกัน“ไม่เห็นต่องทำเช่นนี้เลยขอรับ ไม่ได้มากมายอันใดที่ข้าช่วยเหลือท่านเพียงเท่านี้เล็กน้อย”“คุณชายเป็นคนดี วันนี้ข้าจะขออวยพรในฐานะพี่สะใภ้ของท่าน ขอให้ท่านพบเจอความรักที่สวยงามแล
บทที่ 57 ทำทุกอย่างให้ถูกต้องหลังจากที่ปลอบใจของสวี่หยางอยู่ไม่นานบ่าวรับใช้กลับมาพร้อมผู้ตรวจการ ช่วยพากันนำรางของใต้เท้าสวี่ลงมาจากขื่อตรวจสอบดูในห้องไร้ร่องรอยการต่อสู้แน่ชัดแล้วว่าเขาตั้งใจปลิดชีพตนเองเพราะมีจดหมายที่เขียนด้วยฝีมือของเขาอยู่บนเตียงนอนสวี่หยางสงบสติอารมณ์แม้จะเจ็บร้าวไปทั้งหัวใจแต่ยามนี้นางต้องตั้งสติเพื่ออ่านเนื้อความในจดหมาย“สวี่หยางข้ารู้ว่าอีกไม่นานเจ้าคงมาหาข้าที่เรือน ครั้งก่อนข้าเห็นเจ้าเช่นกันเจ้าแอบมาหาข้า ครั้นเมื่อข้ารู้ว่าเจ้ากลับไปที่เรือนเสิ่นเกาหลานข้าอยากไปพบหน้าเจ้าเหลือเกิน แต่ข้ากลับละอายใจข้าเป็นบิดาที่ไม่เอาไหน ไม่สามารถปกป้องเจ้าเพียงเพราะคิดว่าเจ้าเก่งสามารถปกป้องตนเองได้ ข้าจึงเอาแต่สนใจเจี่ยฟาง และข้ามีสิ่งหนึ่งจะบอกแก่เจ้าข้าปกปิดทุกคนมาตลอด เจี่ยฟางมิใช่น้องสาวที่คลานตามกันออกมาแต่เป็นเพราะความโง่เขลาของข้าที่ทำให้ข้าพลาดพลั้งไปมีอะไรกับสาวใช้ จึงทำให้นางท้อง ข้าปิดบังไม่ให้มารดาของเจ้ารู้จึงปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ ๆ วันที่แม่ของเจ้าคลอดคือวันที่สาวใช้ผู้นั้นคลอดเช่นกัน และโชคร้ายที่น้องชายของเจ้าเ
บทที่ 56 ข้าเพียงฝันไปใช่มั้ยหลังพายุที่โหมกระหน่ำได้หยุดลงเวลานี้ก็สองยามแล้ว หลังจากที่เสิ่นจิ้นพาสวี่หยางกลับมารีบให้บ่าวรับใช้ไปตามตัวท่านหมอมาตรวจดูอาหารหลีลี่จื่อเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ชุดใหม่ให้และเล่าเรื่องก่อนหน้าให้แก่เสิ่นจิ้นฟัง ส่วนซื่อจินหนีไม่รอดนางถูกทหารจับแต่ทว่าเมื่อจับตัวนางไปคุมขังนางกลับเลือกใช้ยาพิษกรอกปากของตนเพื่อจบชีวิตดีกว่าถูกทางการทรมานรุ่งเช้ามาเยือนแม้ว่าเจี่ยฟางจะหมดลมหายใจแต่ทว่าความผิดของนางครั้งนี้ใหญ่หลวงยิ่งนักทำให้ทางการถอดถอนยศของใต้เท้าสวี่ให้เป็นเพียงคนสามัญชนธรรมดาเท่านั้น สวี่หยางลืมตาขึ้นกวาดสายตามองไปรอบ ๆ นี่มันห้องของนางนี่น่าแล้วนางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรนางจำได้ว่าครั้งสุดท้ายอยู่กับเจี่ยฟางที่หน้าผา จู่ ๆ สวี่หยางพรวดลุกขึ้นทันที“เจี่ยฟาง ข้าจะไปช่วยเจี่ยฟาง” หลีลี่จื่อที่อยู่เฝ้าอาการสวี่หยางทั้งคืนตื่นขึ้นจากเสียงร้องของสวี่หยาง“ฮูหยินฟื้นแล้วหรือเจ้าคะ โชคดีเหลือเกินที่ท่านไม่เป็นอันใดมาก”“หลีลี่จื่อ เจี่ยฟางล่ะนางปลอดภัยดีหรือไม่?”“ฮูหยินเจ้าคะ นางทำร้ายสารพัดแต่ฮูหยินยังเป็นหวงนางอยู่หรือเจ้าคะ ยามนี้ร่างของนางถูกคุณชายเ
บทที่ 55 ยิ้มทั้งน้ำตาฝั่งด้านเสิ่นจิ้นเมื่อมาถึงเรือนของเสิ่นเกาหลานพบหลีลี่จื่อที่มีสีหน้าตื่นตระหนกตกใจ นางกำลังจะจับตัวของซื่อจินตามคำสั่งของสวี่หยางจึงแอบซุ่มอยู่แต่เมื่อเห็นว่าซื่อจินรีบร้อนไปแจ้งเจี่ยฟาง นางจึงแอบตามไปจึงเห็นว่าสวี่หยางถูกเจี่ยฟางพาตัวหนีไปด้วย หากนางจะตามไปก็เกรงจะไม่มีผู้ใดแจ้งทางการเพราะไม่มีคนรู้เรื่องนี้เช่นนางสักคน“คุณชายเสิ่นจิ้นช่วยฮูหยินด้วยเจ้าค่ะ”“เกิดอะไรขึ้นกับนาง เจ้ารีบบอกข้ามา”“เรื่องมันยาวเจ้าค่ะ แต่ทว่ายามนี้คุณชายรีบตามไปที่หลังเรือนเถอะเจ้าค่ะ คุณหนูเจี่ยฟางกำลังพาฮูหยินหนีไปทางนั้น ส่วนซื่อจินกำลังไปอีกทางเจ้าค่ะ” เสิ่นเกาหลานตามมาทีหลังได้ยินถึงกับตกใจ รีบสั่งให้ทหารไปตามจับซื่อจินส่วนเขาจะไปช่วยสวี่หยางแต่เขาก็ช้ากว่าเสิ่นจิ้นหนึ่งก้าว เสิ่นจิ้นวิ่งนำไปก่อนแล้วฝนโปรยปรายลงมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ สายลมกระหน่ำลงมาอย่างบ้าคลั่ง เจี่ยฟางเริ่มหวาดกลัวเสื้อผ้าของนางและสวี่หยางเริ่มเปียกปอน“มันต้องไม่ใช่อย่างนี้สิ ข้าแค่เพียงต้องการเป็นหนึ่งเดียวของท่านพี่เสิ่นเกาหลานเท่านั้น ข้าแค่หวังอยากอยู่ครองรักจนกว่าจะหมดลมหายใจเหตุใดมันต้องยุ่งยากเช่นนี้
บทที่ 54 ข้าเกลียดท่าน“เพราะข้าเกลียดท่าน ยิ่งท่านรักข้ามากเท่าไหร่ข้ายิ่งเกลียดท่าน ท่านมันจะไปรู้อะไรคนที่เกิดมาในตระกูลที่ดี มารดาเป็นคุณหนูต่างจากข้าที่มีมารดาเป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น! ที่ข้าอยากจัดการท่านเพราะต้องการทุกอย่างที่ท่านมี ท่านพ่อไม่เคยรักข้าเลยมักจะต่อว่า ว่าข้าไม่ได้เรื่องอันใดไม่เหมือนท่าน ข้าพยายามมากมายที่จะเป็นสตรีที่เพรียบพร้อมกิริยามารยาทงามเพื่อไม่ให้พ่อท่านต้องเป็นกังวลแต่ก็ไม่วายที่ท่านพ่อยังคงรักแต่ท่าน” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของเจี่ยฟางตวาดใส่สวี่หยางดังกึกก้อง แต่ไม่ทันที่นางจะเอ่ยจบสวี่หยางรับฟังคำที่พรั่งพรู่ออกมาจากปากของนางทำให้นางเสียใจไม่น้อยจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่ตบเข้าที่ใบหน้าของเจี่ยฟาง“เพี๊ยะ!!!!. แรงสั่งสะเทือนของน้ำมือสวี่หยางทำให้ร่างบางอย่างเจี่ยฟางถลาล้มไปกับพื้นจนล้มลง“เจ้าต่างหากที่โง่เขลา ข้าไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าเจ้ามิใช่น้องแท้ ๆ ของข้า ทั้งข้าทั้งท่านพ่อต่างรักเจ้ามากกว่าสิ่งใด เจ้ามันโง่งมที่ไม่เข้าใจความรักที่ข้ามอบให้ แต่กลับคิดร้ายว่าข้าสงสารเจ้าอย่างนั้นหรือ! เพราะใจอคติของเจ้าต่างหากที่ทำให้เจ้าหน้ามืดตามัวทำเรื่องเลวร้ายขึ้นมาทั้งหมด