Главная / รักโบราณ / สอนรักพยัคฆ์หน้าตาย / ตอนที่  7   ค่าตอบแทนที่คุ้มค่า

Share

ตอนที่  7   ค่าตอบแทนที่คุ้มค่า

last update Последнее обновление: 2025-04-07 22:25:58

 

เฟิ่งเซียวมองไปที่รถม้าคันใหญ่ ที่ขนส่งยาเกือบเต็มคันและรีบคว้าใบรายการยานั้นไปหาซินเยว่ ที่ยืนสั่งให้เพิ่มยาอีกบางอย่างไปกับรถส่งของครั้งนี้ด้วย

“ซินเยว่ ข้าขอคุยด้วยหน่อยสิ”

“ท่านหมอเฉิน มีอะไรอยากจะสั่งเพิ่มหรือ บอกมาได้เลยนะที่ในรถม้ายังพอเหลือใส่ได้อีกนิดหน่อย”

“ไม่ใช่ มานี่เถอะ”

เขาดึงมือนางเดินมายังลานตากยาสมุนไพรด้านหลัง ซึ่งมีสตรีหลายคนที่อยู่ช่วยกันเก็บยา เมื่อเห็นพวกเขาเดินมาแต่ละคนก็พากันมอง เพราะไม่เคยเห็นซินเยว่พาบุรุษเข้ามาในร้านมาก่อน

“ซินเยว่นี่หมายความว่าอย่างไร เหตุใดยามากมายขนาดนี้เจ้าจึงไม่คิดเงินกับทางการ”

“ท่านหมายถึงยาสมุนไพรพวกนี้น่ะหรือ ไม่เป็นไรหรอกถือว่าข้าช่วยก็แล้วกัน”

“ไม่ได้ ยาพวกนี้มีมูลค่าสูงเกินไป หากข้าจะเอาไปเปล่า ๆ เช่นนี้มันเอาเปรียบร้านเจ้ามากเกินไป เจ้าคิดเงินมาเถอะอย่าทำเช่นนี้เลย”

ซินเยว่เม้มปากเล็กน้อย และหันมาสบตาเขาพร้อมกับยิ้ม เฟิ่งเซียวไม่เข้าใจนางเลยว่าเหตุใดซินเยว่ไม่พูดอะไรเลยสักคำ

“ข้าบอกว่าไม่คิดเงินก็ไม่คิดสิ เหตุใดท่านต้องปิดทางการช่วยเหลือของข้าด้วยเล่า ท่านไม่รับน้ำใจข้าหรือ”

“ไม่ใช่เช่นนั้นเจ้าเข้าใจข้าผิด แต่ยามากมายขนาดนี้มันออกจะมากเกินไป”

“เช่นนั้นท่านมองดูพวกนาง”

เฟิ่งเซียวหันไปมองสตรีนับสิบคนที่ลานกว้าง ซึ่งบางคนก็เริ่มเก็บยาที่ตากแล้วไปเก็บ บางคนกำลังคัดแยกยา และอีกฟากหนึ่งก็กำลังนั่งบดยาอยู่ 

“พวกนาง… ทำไมหรือ”

“พวกนางล้วนแต่เป็นผู้ที่เคยประสบภัยมาก่อน และเป็นคนอาสามาช่วยข้าเก็บยาสมุนไพร เพื่อนำไปช่วยพวกท่านที่จวนหมอหลวงเวิน อีกอย่างเพราะมีพวกนางช่วย ไม่ว่าตอนไปเก็บสมุนไพรในป่า เอามาล้าง ตาก บด และปรุงส่งให้ ล้วนแต่เป็นแรงงานของคนที่อยากช่วยเหลือ หากท่านอยากจะให้เงิน ก็เอาไปให้พวกนางสิ ลองดูว่าพวกนางจะรับหรือไม่”

“แต่ว่า… เหตุใด…”

“ก็เหมือนเด็กที่ท่านเห็นนั่นแหละ ตอนนี้เลิกคิดมากหรือยัง”

“เช่นนั้นเรื่องของเด็ก ๆ ที่นี่ ให้ข้าจัดการต่อได้หรือไม่”

“ท่านหมายความว่าอย่างไร”

“ข้าหมายความว่าข้าจะจัดการ…เอ่อส่งเรื่องไปให้ที่เมืองเสิ่นโจว จัดหาโรงเรียนและครูมาสอนพวกเด็ก ๆ และรีบหาที่อยู่ให้พวกเขา จะได้ไม่ต้องเร่ร่อนเช่นนี้”

“เช่นนั้นก็เยี่ยมเลย นี่สิถือเป็นค่าตอบแทนที่คุ้มค่า ขอบคุณแทนพวกเขาด้วยเจ้าค่ะ”

เพียงแค่รอยยิ้มของคนตรงหน้า เฟิ่งเซียวก็รู้สึกว่านี่คือค่าตอบแทนที่คุ้มค่ามากแล้ว เขาเคยพบสตรีมามากมาย ทั้งอ่อนหวาน ดุดันเหมือนพี่สะใภ้ของเขา ขี้โวยวายและสตรีชั้นสูงที่งดงาม แต่กลับไม่มีผู้ใดที่ยิ้มแล้วทำให้เขาเบิกบานใจได้เท่าถานซินเยว่ผู้นี้

“เช่นนั้นวันนี้ข้าคงต้องขอตัวกลับก่อน ว่าแต่เจ้าไม่กลับจวนหรือ”

“จวนหรือ… ไม่ล่ะ ข้าพักอยู่ที่นี่กับพวกเขา”

“แต่เจ้าเป็นบุตรสาวของคหบดีถานมิใช่หรือ เหตุใดมาพักอยู่ในร้านเล่า อีกอย่างตรอกนี้ก็…ดูเงียบและไม่น่าจะปลอดภัยนะ”

“ไม่เป็นอะไรหรอกพวกเราอยู่กันจนชินแล้ว อีกอย่างช่วงนี้ที่ร้านขายดีมากและต้องใช้ยาอีกเยอะ ถ้าข้าไม่อยู่ใครจะช่วยตาแก่ขี้บ่นบ้าน้ำตาลนั่นทำงานเล่า”

“งั้นหรือ”

“ก็ใช่น่ะสิ จริงสิท่านหมอเฉินหน้านิ่ง ท่านมาอยู่นี่เกือบครึ่งวันแล้วน่าจะต้องรีบกลับไปช่วยหมอจางกับหมอเวินได้แล้ว ถึงท่านจะพึ่งมาถึงก็อย่าเอาเปรียบท่านหมอคนอื่น ๆ สิ หมอจางก็อายุใกล้เคียงกับท่านแต่เขาไม่เคยหาเรื่องหลบเลี่ยงงานเหมือนท่านเลยนะ ไปได้แล้ว”

“หมอจาง… เจ้าสนิทกับจางหลงจื่อมากเลยหรือ”

“ท่านถามอะไรนี่ รีบกลับเถอะ”

“เอ่อ… เช่นนั้นข้ากลับก่อนนะ”

“เอาไว้พบกันใหม่นะ ท่านหมอเฉินหน้านิ่ง”

“เจ้า…”

เฟิ่งเซียวชี้มือไปที่ซินเยว่ที่ยืนยิ้ม และโบกมือให้เขาก่อนจะหันหลังวิ่งเข้าไปหาเด็ก ๆ ที่นั่งเล่นกันที่ด้านหน้าเรือนพัก เมื่อเฟิ่งเซียวเดินกลับมาก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้

จิ่นหาวถึงกับยืนอึ้งเมื่อเห็นว่าท่านอ๋องของเขายิ้มออกมา ซึ่งรอยยิ้มเช่นนี้หาไม่ดูมิได้ง่ายเลย เมื่อหันมาเห็นองครักษ์ที่ยืนตกตะลึงอยู่เขาก็รีบกระแอมขึ้นมาทันที

“มัวยืนอยู่ทำไม กลับได้แล้ว”

“ขอรับ!”

“เจ้าจะเสียงดังทำไมนี่”

จิ่นหาวยังตั้งสติไม่ได้ เพราะตั้งแต่เขาอยู่ข้างกายท่านอ๋องมาเป็นสิบปี ยากนักที่จะเห็นรอยยิ้มของอ๋องแดนทักษิณผู้มากด้วยความรู้คนนี้

เขาถือเป็นหนึ่งในวิญญูชนของใต้หล้าที่ผู้คนยกย่อง เป็นหมอเทวะที่เก่งกาจที่สุดและยังมีฝีปากในการเจรจาด้านการทูต ชื่อของเขาคือ “พยัคฆ์แดนทักษิณ” ที่ลือเลื่องเกี่ยวกับปราชญ์และความรู้

 วันถัดมา

ซินเยว่แวะมาหาเฟิ่งเซียวทุกวัน บางครั้งก็อยู่นั่งคุยกับเขาจนถึงเย็นกว่าจะกลับไปที่ร้าน 

“นี่ท่านหมอเฉิน ท่านไม่เคยชอบสตรีจริงหรือ”

“ถานซินเยว่ ข้าตอบไปครั้งที่เก้าแล้วว่าข้าสนใจแต่เรื่องการช่วยผู้ประสบภัยเท่านั้น หากเจ้าไม่มีธุระอันใด นี่ก็เย็นแล้วควรจะกลับ...”

“ท่านเอาแต่ไล่ข้าเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไล่ข้าทุกวันแบบนี้ไม่เบื่อบ้างหรือ”

“เฮ้อ… ข้ายังต้องเขียนใบเทียบยาและต้องไปตรวจผู้ป่วย ยังไงคงต้องขอตัวก่อน”

“นี่ท่านหมอเฉินท่านอายหรือ ข้าก็แค่อยากถามนิดเดียวเองเหตุใดต้องหนีด้วยเล่า”

หลายวันที่เฟิ่งเซียวต้องอดทนกับถานซินเยว่ ที่เอาแต่ถามในเรื่องที่ไม่อยากตอบ เดิมทีเขาก็มิใช่คนที่จะสนทนากับใครมากอยู่แล้ว

“ท่านนี่น่าเบื่อเสียจริง”

“ถูกต้องแล้วข้าก็เป็นเช่นนี้แหละ เจ้าก็น่าจะกลับไปได้แล้วกระมัง ร้านเป่าจิ้นถานของเจ้าไม่กลับไปดูแลแบบนี้จะดีหรือ”

“หรือว่าท่านจะไม่มีความรู้สึกจริง ๆ ไม่เคยรักใครเลยจริงหรือ ท่านมีพี่น้องไหม หรือว่า...”

“ถานซินเยว่!”

เฟิ่งเซียวหันมาพูดเสียงแข็งใส่นาง ซินเยว่ตกใจไปเล็กน้อยจนดวงตาคู่โตนั้นเบิกกว้าง เขาเองก็พึ่งจะเคยเห็นนางทำหน้าเช่นนี้จึงได้รีบเปลี่ยนท่าที

“คือว่าข้ายังมีงานยุ่ง หากเจ้าไม่มีเรื่องใดแล้วขอตัวก่อน”

เขาเดินเข้าไปในกระโจมรักษาแล้ว ทิ้งให้ซินเยว่ที่มองตามยืนสงสัยอยู่ หมอจางจึงเดินเข้ามาหานาง

“นี่เจ้ายังไม่เลิกตามตื๊อเขาอีกหรือซินเยว่”

“ตามตื๊องั้นหรือ ข้าทำเช่นนั้นเมื่อใดกัน ก็แค่หาเรื่องคุยเท่านั้น”

“ใคร ๆ ก็เห็นทั้งนั้นนี่เจ้าไม่รู้ตัวหรอกหรือ อย่าพยายามเลยดีกว่าน่า คุณชายเฉินน่ะไม่สนใจสตรีหรอก เหตุใดเจ้าจึงไม่เลือกมองผู้ที่… อยากให้เจ้าสนใจ”

“ไม่สนใจสตรีจริงหรือ คนอะไรแปลกชะมัดเลย ช่างเถอะข้ากลับก่อนดีกว่าเอาไว้ค่อยพบกันใหม่เจ้าค่ะหมอจาง”

“เอ่อ… เช่นนั้นก็กลับดี ๆ นะ”

ซินเยว่เดินกลับไปที่ม้าแล้ว จางจื่อหลงจึงได้แต่พึมพำออกไปตามหลังนาง

“นอกจากท่านหมอเฉินแล้ว ในสายตาของเจ้าก็ไม่เคยเห็นผู้ใดอีกเลยสินะถานซินเยว่”

สามวันถัดมา

“ส่งจดหมายไปให้น้องเก้าที่ตงโจว ให้เขาจัดการเรื่องนี้ด่วนที่สุด”

“ขอรับ”

“จริงสิจิ่นหาว เห็นบอกว่าหลายวันมานี้มีคนป่วยเพิ่มขึ้นอีกงั้นหรือ”

“ขอรับ ท่านหมอเวินและหมอหลวงคนอื่น ๆ ก็เริ่มป่วยเป็นไข้หวัดกันแล้ว ดังนั้นจึงไม่อยากให้คุณชายออกไปข้างนอกบ่อย ๆ เกรงว่าจะป่วยเพิ่มขอรับ”

“เช่นนั้นคงต้องสั่งสมุนไพรเพื่อทำยาแก้หวัดเพิ่มแล้ว”

“เมื่อวานนี้ร้านยาเป่าจิ้นถานส่งมาให้แล้วบางส่วนขอรับ เห็นว่าคุณหนูถานเองก็ป่วยเช่นกัน”

พู่กันในมือของเฟิ่งเซียวชะงัก และหยุดลงบนกระดาษที่กำลังจะเขียนรายงานเพื่อทูลขอความช่วยเหลือฮ่องเต้ แต่เมื่อได้ยินเรื่องของถานซินเยว่เขาก็หยุดนิ่งทันที เพราะเขาเองก็ไม่เจอนางมาสามวันแล้วเช่นกัน

“คุณชายขอรับ กระดาษ…”

“นางป่วยงั้นหรือ ตั้งแต่เมื่อใดกันวันก่อนยังเห็นดี ๆ อยู่เลย”

เขาถามเมื่อค่อย ๆ จับกระดาษขึ้นมาและกำทิ้งทันทีโดยมิได้ใส่ใจ แต่สีหน้านั้นกำลังถามจิ่นหาวอย่างนึกเป็นห่วง

“เห็นว่านางขึ้นไปเก็บสมุนไพรบนเขากับชาวบ้าน ขากลับลงมาเจอฝนก็เลยป่วยขอรับ”

“ไม่ชอบอยู่เฉยเลยจริง ๆ วันแรกก็โดนม้าลาก ว่างก็มาชวนข้าคุยที่นี่ทุกวัน นี่ยังออกไปตากฝนจนป่วยอีก เช่นนั้นตอนนี้…”

“ไม่ได้ขอรับ คุณชายอย่าออกไปเลย ตอนนี้ด้านนอกมีแต่คนป่วยรายล้อม อีกอย่างท่านหมอเวินบอกว่าอย่างน้อยรอให้พวกเขาหายดีเสียก่อน จะได้เหลือคนไว้ผลัดเปลี่ยนช่วยผู้ป่วยขอรับ”

“เห็นทีจะรอการช่วยเหลือจากเมืองหลวงไม่ได้แล้ว เอากระดาษมาให้ข้าที”

“ขอรับ”

จิ่นหาวจัดเตรียมกระดาษใหม่ให้เฟิ่งเซียว เขานั่งเขียนจดหมายอยู่ราวครึ่งวัน เมื่อออกมาก็ต้องนำจดหมายเหล่านั้นไปส่งทันทีเพราะทุกอย่างเป็นเรื่องเร่งด่วน ส่วนตัวของเฉินเฟิ่งเซียวนั้นเหมือนกับถูกกักบริเวณก็ไม่ปานเพราะเขาต้องอยู่เพียงจวนพักเท่านั้น

สี่วันถัดมา / จวนหมอหลวง 

“คุณหนูถาน ท่านมาส่งสมุนไพรหรือขอรับ”

“พี่จิ่นหาวข้าเอายาแก้หวัดมาส่ง ครั้งนี้น่าจะพอใช้อีกหลายวัน อ้อจริงสิท่านหมอเฉินเล่า”

“คือว่าคุณชาย…”

“แคก แคก ซินเยว่เจ้ามาส่งยาหรือ”

เฉินเฟิ่งเซียวเดินออกมาพร้อมกับสวมผ้าผูกหน้า ดูเหมือนว่าตัวเขาเองก็จะไม่รอดจากหวัดเช่นกัน

“นี่ท่านก็ป่วยด้วยหรือ”

“อากาศค่อนข้างชื้นก็เลยเป็นหวัดนิดหน่อย ได้ข่าวว่าเจ้าเองก็ป่วยตอนนี้หายดีหรือยัง”

“หายดีแล้ว หวัดแค่นี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก ท่านอย่าลืมสิว่าข้าเป็นใคร…”

“นั่นสินะ”

“ว่าแต่ท่านเถอะ ไม่สบายเช่นนี้ควรจะเข้าไปนอนพักสิ ไม่ต้องมาทักทายข้าก็ได้ ท่านกลับเข้าไปพักผ่อนเถอะ”

“เอ่อ…ที่จริงข้า…”

ไม่ทันที่เขาจะได้ตอบ รถม้าขบวนใหญ่ก็วิ่งเข้ามาจอดตรงหน้าจวนหมอหลวง ทุกคนต่างรู้สึกแปลกใจเพราะรถม้าสีขาวขนาดใหญ่น่าจะวิ่งมาจากต่างเมือง

“คุณชาย รถม้ามาถึงแล้วขอรับ”

เมื่อได้ยินที่จิ่นหาวรายงานเขา ซินเยว่หันไปมองผู้ที่กำลังเดินลงมา นางเป็นสตรีสวมชุดขาว ใบหน้าผุดผ่องงดงามราวกับหลุดออกมาจากภาพวาด เมื่อนางเดินลงมาก็เดินผ่านเข้าไปทักทายเฟิ่งเซียวที่ยืนอยู่ทันที

“คารวะศิษย์พี่เฟิ่งเซียว ซูหรันมาช้าเพราะฝนตกตลอดทาง ต้องขออภัยด้วย”

ท่านหมอเวินและคนอื่น ๆ เมื่อเห็นการปรากฏตัวของสตรีผู้นี้ก็ถึงกับดีใจและวิ่งออกมาทักทายพร้อมกัน

“ยอดไปเลย หมอเทวดาอวิ่นท่านมาถึงแล้ว คุณชายกำลังกังวลอยู่เลยคิดว่าท่านจะติดฝนจนผ่านมาไม่ได้”

“ที่แท้เขาก็มิได้ออกมาพบข้าหรอกหรือ ช่างน่าขันเสียจริงคิดอะไรอยู่กันนะถานซินเยว่ เจ้ามิได้สำคัญอะไรขนาดนั้นเสียหน่อย”

ซินเยว่ถูกหลายคนที่อยากจะเดินเข้ามาทักทายหมอหญิง ดันออกมา จนนางต้องถอยไปที่ม้าของตัวเอง นางลูบแผงคอเพื่อมิให้มันตกใจ จางหลงจื่อเดินเข้ามาหานางหลังจากที่ไปทักทายผู้มาเยือนแล้ว

“ซินเยว่ครั้งนี้ลำบากเจ้าหน่อยนะ เห็นว่าไม่สบายหลายวันเจ้าหายดีแล้วหรือ”

“ข้าหายดีแล้วท่านหมอจาง ขอบคุณเจ้าค่ะว่าแต่นางผู้นั้นคือใครหรือเจ้าคะ”

ทั้งสองมองไปยังกลุ่มคนที่ยังยืนล้อมทั้ง “อวิ่นซูหรัน” และเฟิ่งเซียวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นาง สายตาของซินเยว่หม่นลงไปเล็กน้อยพร้อมกับความรู้สึกบางอย่างที่นางก็มิอาจอธิบายได้ จนจางหลงจื่อหันมาตอบกับนาง

“นางก็คือหมอหลวงอวิ่นซูหรัน เป็นหมอหญิงที่เก่งมากและเป็นศิษย์น้องของคุณชายเฉินเฟิ่งเซียว”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สอนรักพยัคฆ์หน้าตาย   ตอนพิเศษ 3

    “น้องแปด มีเรื่องด่วนอะไรงั้นหรือ ให้พวกข้า…”ฟ่านหรงยกมือขึ้นห้ามพี่สามของตัวเอง และส่ายศีรษะทันที “ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกพ่ะย่ะค่ะ พี่สามอย่าได้เป็นห่วง”“ก็แค่องค์หญิงต่างแคว้นที่ถูกส่งมาเป็นเชลยหย่าศึก พยายามแอบหนีออกจากเมืองก็เท่านั้นเองพ่ะย่ะค่ะ”“น้องเก้า! หุบปากของเจ้าไปเลย”ตงหรานหันไปมองหน้าเฟิ่งเซียวทันที พวกเขารู้ว่าก่อนที่ฟ่านหรงจะไปที่เมืองหลิงโจวครั้งก่อน ได้ทำศึกที่ชายแดนตะวันออกและได้รับตัวองค์หญิงต่างแคว้นมาคนหนึ่ง แต่พวกเขาก็ไม่เคยได้ถามที่มาที่ไปเดิมทีคนอย่างเฉินฟ่านหรงที่ชอบช่วยเหลือพี่น้องของตัวเอง แต่พอเป็นเรื่องของเขาในดินแดนบูรพา กลับไม่อยากให้พี่น้องคนอื่น ๆ ร่วมรับรู้ด้วย และมักจะชอบจัดการด้วยวิธีของเขาเอง ซึ่งทุกคนล้วนทราบกันดี“ข้าเข้าใจแล้ว แต่หากเจ้าอยากจะให้ช่วยเรื่องใดต้องรีบบอกทันที ข้ากับเยว่เอ๋อร์คงจะกลับไปพักที่เสิ่นโจวพักใหญ่ และไม่ได้กลับไปหลิงโจวในตอนนี้”“ขอบคุณพี่สาม แต่เหตุการณ์ที่นั่นข้าเพียงคนเดียวก็สามารถจัดการได้พ่ะย่ะค่ะ อย่างไรข้าขอตัวไปเก็บของก่อน”“เช่นนั้นก็รีบไปเถอะ”แม้ว่าสีหน้าของเฉินฟ่านหรงจะไม่ค่อยสู้ดีนักที่ต้องแจ้งข่าวกับทุกคน

  • สอนรักพยัคฆ์หน้าตาย   ตอนพิเศษ 2

    “นะ แน่นอน ซี๊ด!! อาา… เยว่เอ๋อร์ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว”เขาดึงท้ายทอยนางเข้ามาและบดริมฝีปากลงไปอีกครั้ง ซินเยว่ยอมปล่อยมังกรยักษ์ของเขาแล้ว ท่านอ๋องรวบตัวนางยกขึ้นและไปวางที่ขอบสระอย่างเบามือ ขาของนางค่อย ๆ ถูกกางออกมา“ท่านพี่…อ๊าา!!”ลิ้นร้อนที่ค่อย ๆ เกลี่ยเปิดทางร่องรักที่เปียก นิ้วมือของท่านอ๋องค่อย ๆ สอดเข้าไปอย่างทะนุถนอม ซินเยว่เอนกายแอ่นรับสัมผัสเสียวซ่านนี้อีกครั้ง มือเรียวจับที่ศีรษะของสามีเอาไว้อย่างลืมตัว“อื้อ…อ๊ะ! ไม่ได้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว อ๊าาา”เมื่อนางให้สัญญาณ นิ้วมือของเขาก็เร่งจังหวะทันที ลิ้นหนาเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ยอดปทุมคู่งามตรงหน้าแทน ไม่นานซินเยว่ก็กรีดร้องออกมา เสียงของนางเร่งกระตุ้นความอยากของท่านอ๋องจนแทบไม่อยากรอ“ท่านพี่…ได้โปรด”ไม่ต้องรรอให้นางขอ เขาก็พร้อมจะเติมเต็มความรักให้นางอยู่แล้ว ร่างบางถูกยกขึ้นมาอีกครั้ง ขาทั้งสองถูกยกขึ้นมาพาดที่ไหล่กว้างก่อนที่มังกรยักษ์จะสอดเข้าไปจนสุดทาง “อ๊าา!! ท่านพี่..อ๊าาา”เสียงครวญครางสลับกับเสียงน้ำที่กระเพื่อมในสระ ยิ่งสร้างบรรยากาศสงครามรักครั้งใหม่ให้รุนแรงมากยิ่งขึ้น ท่านอ๋องเปลี่ยนให้นางยืนหันหลังให้ ซินเยว่แทบจะยืน

  • สอนรักพยัคฆ์หน้าตาย   ตอนพิเศษ 1

    สามวันถัดมา“เยว่เอ๋อร์ รถม้าพร้อมแล้ว”“ทราบแล้วเพคะ” ซินเยว่เดินออกมานอกห้อง วันนี้พวกเขาจะไปที่สำนักศึกษา ซึ่งสร้างที่ร้านเป่าจิ้นถานเดิม ท่านอ๋องสั่งการให้นายอำเภอเป็นผู้ดำเนินการสร้างให้เป็นสำนักศึกษาอำเภอลี่เหมิน และให้อาจารย์ผู้สอนจากหลายที่มาสมัคร ซึ่งล้วนแต่เป็นคนที่ท่านอ๋องคัดเลือกมาแล้วทั้งสิ้นสำนักศึกษาอำเภอลี่เหมิน“ถวายบังคมท่านอ๋อง พระชายาพ่ะย่ะค่ะ”“นายอำเภอไม่ต้องเกรงใจ”“เชิญทั้งสองพระองค์เสด็จก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”นายอำเภอนำทางทั้งสองไปยังที่ประทับ แต่ท่านอ๋องกลับยิ้มให้และตรัสอีกครั้ง“ไม่เป็นไรท่านทำงานไปเถิด เรากับพระชายาจะเดินดูรอบ ๆ ขอบใจท่านมากที่เป็นธุระจัดการทุกอย่างให้”“มิได้พ่ะย่ะค่ะ ล้วนเป็นหน้าที่ของกระหม่อม จริงสิพระชายามีชาวบ้านมากมายที่อยากขอบพระทัยพระองค์ ที่ทรงมอบที่ดินผืนนี้ให้เพื่อสร้างเป็นสำนักศึกษาสำหรับเด็กเล็ก นี่นับว่าสร้างประโยชน์ได้มากจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ท่านอย่าได้เกรงใจ ที่ดินแห่งนี้เป็นของบิดาข้า ไฟไหม้ครั้งก่อนก็ทำให้ไม่สามารถปรับปรุงร้านขึ้นมาได้ สร้างเป็นสำนักศึกษาแทนถือว่าได้ใช้ประโยชน์มากกว่า”“เป็นเช่นนั้นจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“เราไปกัน

  • สอนรักพยัคฆ์หน้าตาย   ตอนที่ 50   สัญญารักตราบนิรันดร์ (ตอนจบ)

    “เฟิ่งเซียว ข้าอยากกลับแล้ว”“ได้สิ ข้าจะพาเจ้ากลับนะ”พวกเขาออกมาจากลานประหาร เฉินเฟิ่งเซียวพานางมาที่เขื่อนซึ่งตอนนี้สร้างเกือบจะเสร็จแล้วด้วยความร่วมมือของชาวบ้าน ทหารและกลุ่มพ่อค้าที่ถานต่งซุนไปขอความร่วมมือก่อนหน้านี้ จึงทำให้เขื่อนเสร็จเร็วกว่ากำหนด เมื่อซินเยว่ลงมาจากรถม้าสายลมเย็น ๆ ที่พัดเข้ามาก็ทำให้นางรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น“ที่นี่… อากาศดียิ่งนัก”“ข้าคิดเอาไว้แล้วว่าเจ้าต้องชอบ ข้าตั้งชื่อเขื่อนนี้ว่า “เฟิ่งเยว่” เจ้าว่าเพราะหรือไม่"“เขื่อนเฟิ่งเยว่… ชื่อไพเราะยิ่งนักเพคะ”“ไปเถอะ ไปเดินเล่นกัน”เฟิ่งเซียวพานางเดินขึ้นไปด้านบนสันเขื่อน ซึ่งสามารถมองเห็นแผงกั้นน้ำที่ทำจากหินและแอ่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ ริมนั้นปลูกดอกไม้เอาไว้ และมีศาลาพร้อมกับโต๊ะม้าหินวางเป็นจุด ๆ เหมาะสำหรับการเดินเล่นพักผ่อน“ที่นี่เหมือนธารสวรรค์เลยเพคะ”“อืม ชื่อนี้เพราะยิ่งนัก เช่นนั้นตั้งชื่อว่าสันเขื่อนธารสวรรค์ก็แล้วกัน”ซินเยว่ยิ้มให้เขา และเดินไปนั่งศาลาหินอ่อนซึ่งน่าจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ นางมองไปไกลแสนไกล“เมืองหลวงอยู่ทางนั้นใช่หรือไม่เพคะ”“ไม่ใช่ ทางตะวันออกเฉียงไปทางเหนือต่างหาก ทางนี้”“อ้อ เช่นน

  • สอนรักพยัคฆ์หน้าตาย   ตอนที่ 49  ยินดีรับโทษ (NC)

    เมื่อประตูห้องนอนปิดลง ร่างของซินเยว่ก็ถูกนำไปวางที่เตียงนุ่มด้านใน ไม่ทันที่จะเอ่ยคำใดเฟิ่งเซียวก็ค่อย ๆ ก้มลงมาทันที ริมฝีปากของเขาค่อย ๆ ละเมียดเกลี่ยไปทั่วปากของนางก่อนจะขยับเข้าไปแนบแน่นและเริ่มเร่าร้อนขึ้น“อื้อ…อ๊ะ เฟิ่งเซียว”เขาปลดชุดของนางออกอย่างเบามือ ซินเยว่เองก็ช่วยเขาปลดเข็มขัดและชุดออกเช่นกัน ราวกับเรื่องทั้งหมดไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งสองจัดการทุกอย่างที่ขวางทางออกจนหมดสิ้น สลับกับระดมจูบแทนรักกันเพื่อให้อีกฝ่ายไว้ใจมากขึ้น“เยว่เอ๋อร์… ข้ายินดีรับโทษจากเจ้า”“จริงหรือ”“แน่นอน”“ก็ได้”“โอ๊ย! ฮึก!”ซินเยว่หันไปกัดที่หัวไหล่ของเขาทันที เฟิ่งเซียวจดจำความเจ็บนี้เอาไว้แล้ว ไม่นานนางก็ปล่อยและหันมาจูบเขาแทน ซึ่งเขาเองก็รูดชุดชั้นในที่เหลือของนางออกเช่นกัน“อ๊าา ท่านอ๋อง…อื้อ ดีจริง อ๊ะ”เขาเผลอขบเม้มหน้าอกของนางแรงไปนิด เพื่อจะลงโทษคนตรงหน้าด้วยเช่นกัน เพียงแค่เห็นนางเดินกับชายอื่นหัวใจเขาก็เจ็บปวด และรู้สึกโกรธจนต้องหาที่ระบาย“ท่านโกรธข้าอยู่สินะ”“ข้าไม่ปฏิเสธที่โกรธเจ้า แต่นั่นไม่ใช่ความผิดของเจ้าเช่นกัน”“เช่นนั้นข้าก็ยินดีให้ท่านลงโทษด้วยเช่นกัน… ดีหรือไม่”“ก็ดี เช่นนั้

  • สอนรักพยัคฆ์หน้าตาย   ตอนที่ 48 เจ้ายังโกรธนางอยู่หรือ

    เฟิ่งเซียวหันกลับไป และเดินนำนางไปที่เรือนของอวิ๋นซีทันทีโดยมิได้พูดอะไรอีก เมื่อเข้ามาถึงก็พบตงหรานที่กำลังป้อนผลไม้ให้กับพระชายาอยู่ด้านใน เมื่อเห็นทั้งสองเข้ามาพวกเขาจึงได้ทักทาย“อีกคำเดียวนะ กินมากเดี๋ยวจะเสาะท้องเอา”“แต่ว่าข้าอยากกินอีก…ซินเยว่! เจ้ามาแล้วหรือ ว้าวนั่นหอบอะไรมาเยอะแยะน่ะ”“ของที่ท่านชอบอย่างไรเล่า นางซื้อมาฝาก”“ยอดไปเลย ขอบใจมากนะซินเยว่มานั่งก่อนสิ”“ถวายบังคมท่านอ๋อง”“อย่ามากพิธีเลยครอบครัวเดียวกันทั้งนั้นจริงไหมน้องห้า… เอ่อ นั่งก่อนเถอะ”เฉินตงหรานรีบหันมาชักชวนนางให้นั่งลง เมื่อมองหน้าเฟิ่งเซียวที่ยังยืนบึ้งตึงอยู่ตอนวางของลง เขาเลือกมานั่งข้าง ๆ พระเชษฐาแทนที่จะนั่งกับซินเยว่“นี่เจ้ายังโกรธอยู่หรือ ไหน ๆ นางก็มาแล้ว ทำหน้าให้มันเหมือนคนปกติหน่อยสิ”“ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย”เฟิ่งเซียวมองของที่ซินเยว่ซื้อมา ก็นึกหงุดหงิดเมื่อคิดไปถึงคนที่พานางไปซื้อมาก่อนหน้านี้ อวิ๋นซีสังเกตเห็นความผิดปกตินี้จึงได้กระแอมครั้งหนึ่งก่อนจะเริ่มทำลายความเงียบจนน่าอึดอัดนี้“นี่ของชอบข้าทั้งนั้นเลย ขอบใจเจ้ามากนะซินเยว่”“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ พี่เฟิ่งเซียวบอกว่าท่านชอบกินถั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status