คอนโด
“หยุด…พอก่อน อ๊ะ…อ๊าา”
เสียงขอร้องในค่ำคืนเร่าร้อนไม่มีผล บั้นท้ายงอนงามถูกหนุ่มกำยำดีกรีเดือนคณะวิศวะปีที่สี่ยังคงถูกกระแทกไม่หยุดเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่มุดหน้ากับหมอนเพื่อกั้นเสียงร้อง
“อื้อ… พี่วินทร์…ฮึก!!”
จังหวะสุดท้ายที่เข้าสอดลึกและแช่เอาไว้ “ลักษิกา” จึงรู้ว่าทุกอย่างจบลงแล้ว …แต่เธอเข้าใจผิดว่าเขาจะหยุดเพราะตอนนี้ “ภาวินทร์” กำลังถอดเครื่องป้องกันและจัดการตัวเอง ไม่ทันที่เธอจะได้ขยับดึงผ้าห่มก็ได้ยินเสียงฉีกซองป้องกันถุงใหม่อีกครั้ง
“เดี๋ยวก่อนค่ะ พรุ่งนี้มิวมีสอบย่อย คืนนี้คง…”
“นอนลงไปดี ๆ เถอะมิวอย่าให้พี่โมโห พี่เคยบอกแล้วว่าอย่ากลับไปทำงานแบบนั้นอีกไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ใช่นะคะพี่วินทร์เข้าใจผิด มิวแค่ อ๊าา!!”
เขากดศีรษะเธอลงและเริ่มสอดใส่เข้าไปด้านหลังอีกครั้ง แม้ว่ามิวจะไม่ต่อต้านแต่คืนนี้เขาทำแบบนี้มาเกินสองรอบแล้วซึ่งเธอเริ่มจะหมดแรงจนพูดไม่ออกแล้ว
“ฮึก!! เสียวฉิบหาย อาา… มิว”
“อื้อ….”
“มานี่ มาขึ้นให้หน่อย”
“ไม่เอานะพี่วินทร์ อย่าทำแบบนี้ อ๊าา”
เขาดึงตัวเธอมานั่งคร่อมตักและค่อย ๆ สอดอาวุธประจำตัวเข้าไป มิวที่ทั้งจุกและเสียวร้องครางกระเส่าเมื่อเขาสั่งให้เธอขยับเอวขึ้นอีก
“เร็วอีก!! อย่าดื้อสิมิว ไม่งั้นไม่จบแค่รอบนี้แน่ มิวก็รู้ว่าพี่กำลังโกรธหรือจะให้ทำทั้งคืน”
“อื้อ…อ๊าา อย่าจับเอว อย่า!! อ๊าาา กรี๊ด!!!”
เธอเสร็จไปอีกครั้งเมื่อเขาตกลงที่จะจัดการที่เหลือเองเพราะหากรอเธอทำเขาคงอารมณ์ค้างอยู่แบบนี้อีกนาน หน้าอกที่เคยขาวเนียนตอนนี้เต็มไปด้วยรอย แม้ว่าเธอจะขอร้องเขาไม่ให้ทำแต่สุดท้ายทุกครั้งเธอก็ไม่เคยได้กลับไปแบบไร้ริ้วรอยเลยสักครั้ง
“ให้รู้เสียบ้างว่าอย่าลองดีกับภูวินทร์ พี่เตือนเธอแล้วนะ”
ร่างบางถูกวางเบา ๆ ลงที่เตียงหลังจากกิจครั้งสุดท้ายจบลง ภูวินทร์เดินไปเทน้ำมาจิบก่อนจะหันมาถามคนที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียงในคอนโดหรูของเขา
“ดื่มน้ำหน่อยไหม”
เธอส่ายหัวเป็นคำตอบ เขารู้ว่าเธอคงโกรธไม่น้อยที่เขาทำแบบนี้แต่ระหว่างเขากับเธอ ไม่ใช่คู่รัก ไม่ใช่แฟน ไม่ได้คบกัน ทั้งสองคนเพียงแค่มีข้อตกลงกันอย่างลับ ๆ เท่านั้นเอง เมื่อภูวินทร์เดินไปอาบน้ำ ลักษิกาก็รีบจัดการตัวเองทันที
เธอค่อย ๆ ลุกจากเตียงและคว้าเสื้อผ้าที่กระจายอยู่รอบ ๆ ห้องมาใส่ทีละชิ้นและรีบออกจากคอนโดของเขาทันทีโดยไม่ลาเขา ส่วนคนที่อาบน้ำอยู่เมื่อออกมาไม่พบเธอก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่ตอนนี้ยังไม่ดึกมากเขาจึงไม่คิดจะไปตามเธอกลับมา
“ยังมีแรงเดินกลับได้อีกเหรอ ฮึ ดูเหมือนว่าฉันจะใจดีเกินไปสินะยัยลูกแกะน้อย”
หอพัก DC
“ลักษิกา” หอบร่างที่ขาสั่นและแทบหมดแรงเรียกรถให้พาเธอกลับมาถึงหอพักที่หน้ามหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่ มิวเป็นนักศึกษาคณะพยาบาลปีสาม ซึ่งปีนี้มีเรียนหนักขึ้นอีกอย่างนักศึกษาก็ต้องเวียนไปฝึกงานที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยเพื่อเก็บคะแนนก่อนจบ เมื่อเธอเปิดประตูเข้าห้องพักไปได้ก็พบกับ “แยม” เพื่อนสนิทคนเดียวที่รออยู่ที่ห้อง
“มิว! เชี่ย… นี่พี่วินทร์ทำแกถึงขนาดนี้เลยเหรอ”
“แยม... เราเหนื่อย หิวน้ำ หมดแรง”
“รอเดี๋ยวก่อนอยู่นิ่ง ๆ นะ”
“ธนัญญา” หรือแยมรีบวิ่งไปเปิดตู้เย็นและเทน้ำมาให้เพื่อนสนิทค่อย ๆ จิบก่อนที่มิวจะนั่งสงบอารมณ์ได้แยมก็หันมาโมโหและด่ากราดขึ้นทันที
“อีพี่วินทร์นี่ยังไงนะ ทำไมแม่งกินโหดขนาดนี้ ถ้าไม่ติดว่ามันมีความลับของแกอยู่ ฉันจะแฉให้ทั้งมหาลัยรู้เลยว่ามันชั่วขนาดไหน ไหวไหมมิว”
“ไม่มีประโยชน์หรอก มีใครไม่รู้บ้างว่าเขาเป็นคนยังไง”
“เฮ้อ ก็นั่นสินะ เสือผู้หญิง เพลย์บอยพวกเจ้าชู้ ใครจะไม่รู้ล่ะว่าแก๊งมันแต่ละคนสันดานเป็นยังไง เฮ้อ แกไหวแน่นะมิว”
“อืม ฉันไม่เป็นไร ฉันพลาดเองนี่ที่ทำให้เขาจับได้จนต้องเป็นแบบนี้”
“ไอ้ทุนเนี่ยฉันว่าถ้ามันยากนักแกก็ไม่ต้องเอาหรอก เอาแบบนี้ฉันบอกคุณพ่อให้ออกเงินกู้ให้แกเรียนต่อ เรียนจบแล้วค่อยทยอยใช้ไม่ดีกว่าเหรอ”
“ไม่ได้หรอก แกก็พูดเรื่องนี้มาหลายรอบแล้วนะแยมแต่ฉันไม่อยากเป็นหนี้ใคร ถ้าฉันตายหรือเป็นอะไรขึ้นมาละ หนี้ไม่สูญเปล่าเหรอ ไม่เอาหรอกฉันไม่อยากให้แกเสียชื่อเพราะฉัน”
“แต่ว่าแกจะไปทำงานแบบนี้มันก็อันตรายจริง ๆ นั่นแหละ อีกอย่างการที่แกรับปากไอ้พี่วินทร์นั่นมันก็…”
“ฉันอยากอาบน้ำสักหน่อย แกนอนก่อนได้เลยนะ”
“แกเดินไหวแน่นะ”
“ไหวสิแค่นี้ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวกินยาแล้วก็จะนอนแล้วพรุ่งนี้มีสอบแต่เช้า”
“อืม ค่อย ๆ เดินล่ะ”
มิวค่อย ๆ เดินเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อเธอถอดชุดออกก็เห็นหน้าตัวเองในกระจก ใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยเครื่องสำอางที่ล้างออกไม่หมดและรอยจ้ำแดงที่หน้าอกนับสิบ แม้ว่าภาวินทร์จะใจดีไม่ทำที่คอก็ตาม
“ความสัมพันธ์แบบนี้มันควรจะจบไปได้แล้ว”
มิวลูบไปที่กระจกเพื่อปลอบใจตัวเองพร้อมกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุด เรื่องราวทั้งหมดนี้มันจะไม่เกิดขึ้นหากว่าเธอไม่พบเขาและเกิดเรื่องไม่คาดคิดเมื่อสามเดือนที่ผ่านมา
ก่อนหน้านั้นลักษิกาก็ยังเป็นแค่นักศึกษาพยาบาลธรรมดาที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร เธอมักจะสวมชุดนักศึกษาหลวม ๆ และกระโปรงยาวเลยเข่า รองเท้าผ้าใบสวมแว่นตาซึ่งเป็นปกติของเด็กเนิร์ดทั่ว ๆ ไป แต่เธอกลับมีความลับบางอย่างที่มีแค่แยมคนเดียวที่รู้
Q-Bar
“เยี่ยมเลยเรเน่ ขอ “มาการ์เรเน่” อีกสองที่นะ”
“ได้ค่ะ”
“เรเน่” คือชื่อที่ทุกคนเรียกเธอในบาร์แห่งนี้ซึ่งที่นี่เป็นร้านเหล้าในย่านดัง เธอเลือกทำงานที่นี่เพราะค่อนข้างห่างจากมหาวิทยาลัยและไม่เสี่ยงที่จะมีเพื่อนร่วมมหาลัยพบเข้า อีกอย่างเธอเองก็เปลี่ยนจากสาวแว่นเด็กเนิร์ดที่ใคร ๆ เห็นเป็นสาวเปรี้ยวเข็ดฟันแต่งตัววาบหวิวในชุดบาร์เทนเดอร์สาวสุดสวยในบาร์แห่งนี้
“เยี่ยมไปเลย นี่ทิปลูกค้าบอกว่าให้เธอ”
“ขอบคุณมากทอม”
“ยินดี เอาไว้เลี้ยงข้าวฉันด้วย”
“ได้เลย”
เงินค่าจ้างที่เยอะและทิปจากลูกค้าที่หนามากพอทำให้เธอเลือกอาชีพนี้ อีกอย่างเธอก็เป็น “บาร์เทนเดอร์” ที่มีลีลาดีและมีความสามารถซึ่งพรสวรรค์นี้เธอได้มาจากแม่ที่เคยสอนตอนเด็ก ๆ แม้ว่าเธอจะดื่มไม่เก่งเลยก็ตาม
“เดอร์ตี้ มาร์ตินี่ที่หนึ่ง”
“ได้ค่ะ”
มิวเกือบจะทำเครื่องผสมตกเมื่อหันมามองคนที่สั่งเครื่องดื่มของเธอซึ่งตอนนี้มานั่งที่บาร์ตรงหน้าเธอ เขาเป็นรุ่นพี่คณะวิศวะซึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่สาว ๆ ดีว่าเขาเจ้าชู้และ “เอวไว” ซึ่งเป็นผู้ชายที่เธอเกลียดมากที่สุดเพราะตอนที่เธออยู่ปีหนึ่งเคยถูกเขาและเพื่อน ๆ แซวจนแทบจะไม่มีคนคบ
“ยัยแว่นเฉิ่มเบ๊อะ พยาบาลน่ะต้องสวย ๆ รูปร่างดี ๆ พี่จ้างสามพันไปซื้อชุดใหม่ดีไหม ไม่มีใครเอาชุดคุณแม่สมัยสาว ๆ มาใส่หรอกนะ”
เธอจำได้ว่าถูกล้อเลียนจากพวกเขาเพราะกลุ่มเพื่อน ๆ ของภาวินทร์มีแต่คนหล่อ ๆ และที่บ้านมีฐานะ แม้ว่าน้อยครั้งที่ภาวินทร์จะเข้าร่วมแซวเธอด้วยแต่เพราะเธอฝังใจจนเกลียดพวกเขาสี่คนไปแล้วดังนั้นจึงไม่อยากแม้แต่จะทักทาย
“ไอ้คนปากรั่ว มั่วผู้หญิงมาก ๆ ระวังนะคะรุ่นพี่จะเป็นโรคติดต่อเอา”
“นิธิศ” เพื่อนในกลุ่มของภาวินทร์เดินเข้ามาเพื่อจะเอาเรื่องเธอแต่ลักษิกาที่โกรธจัดก็ไม่ยอมแล้วเช่นกัน จนกระทั่งเธออยู่ปีสามเมื่อเจอพวกเขาเมื่อไหร่ก็เป็นต้องถูกล้ออยู่จนเธอทนไม่ไหว
“เฮ้ย!! ปากแบบนี้มันน่า…”
“เดี๋ยวไอ้ธิศ น้องมันก็แค่โมโหที่พวกมึงล้อน้องมาหลายปีแล้วนี่น้องสาว ไม่ใช่ว่าจะปลงจนอยากไปบวชชีเสียล่ะ”
ลักษิกาหันมามองหน้าภาวินทร์ที่ดึงนิธิศออกไปและหันมายิ้มกวน ๆ ให้เธอแทน มิวโกรธจนแทบจะคุมสติไม่อยู่และยิ่งเห็นภาวินทร์พูดแบบนี้เธอจึงเผลอพูดเหน็บแรง ๆ กลับไปสักครั้งหนึ่ง
“ค่ะ บวชให้พ่อพี่ตอนตายน่ะค่ะ จะได้ไม่ต้องเสียใจที่มีลูกสันดานแบบนี้”
นิธิศเดินมากอดเธอจากด้านหลัง และเริ่มซุกหน้ามาที่ซอกคอเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของเธอ“ไม่ต้องมาอ้อนเลย วันนี้...อื้อ อืออ”นิธิศรู้ว่าเธอกำลังจะเริ่มอีกแล้ว หาเรื่องทะเลาะ แต่เขารู้ทันและไม่ยอมให้เธอมีโอกาสหรอก เขาดื่มมานิดหน่อย เพราะต้องการปลุกอารมณ์เธอนี่แหละ“ที่รักคะ คุณ...ดูรีบร้อนจัง”“คุณไม่รู้หรอกว่า ผมรีบแล้วก็หิวแบบนี้ทุกคืนนั่นแหละ แต่ผมเข้าใจคุณ ที่ต้องเลี้ยงลูกทั้งวัน ผมก็เลยไม่อยากกวนคุณ แต่คืนนี้ลูกชายของเราเป็นใจแบบนี้ ผมขอทวงคืนเวลาของผมบ้าง ได้ไหม”“ก็ได้ค่ะ”จูบที่เล้าโลม หวานซึ้งจนแยมแทบจะทนไม่ไหว เสียงรูดชุดเดรสของเขาทำเอาหลังเธอเย็นวาบเพราอากาศในห้อง ไม่นานชุดสวยก็ถูกดึงออกจากตัว ลิ้นทีเกี่ยววนพัลวันในปาก เริ่มทำให้หายใจติดขัด เมื่อเธอเริ่มผละออกมาและช่วยเขาถอดเสื้อผ้า“ไหนว่าจะไปแช่อ่าง”“เอาไว้ทีหลังเถอะ ผมทนไม่ไหวแล้ว”“อื้อ...”เขาอุ้มร่างของภรรยาสาว ไปที่เตียงทันที เมื่อกี้เขาคิดจะพาเธอไปอาบน้ำก่อนจริง ๆ นั่นแหละ แต่พอจับเธอถอดชุดแล้ว เขาก็เปลี่ยนใจ อยากทำอย่างอื่นแทน“อื้อ....ที่รักคะ เสียว อ๊า....”ลิ้นที่พรมจูบไปทั่วหน้าอก นิ้วมือที่บีบเคล้นสองเต้า และบดขยี้ส่
บ้านของภาวินทร์“เด็ก ๆ ครับ ไปล้างมือกันได้แล้ว จะได้มากินขนมกันเร็วเข้า”“ไปกันเถอะกองทัพ คุณพ่อเอาขนมมาให้แล้ว”“ครับ พี่คินทร์”กองทัพ เด็กน้อยซึ่งเป็นลูกของแยมและนิธิศ เพื่อนสนิทอีกคู่หนึ่ง ที่แต่งงานกันหลังจากภาวินทร์และลักษิกา คลอดภาคินทร์ได้เพียงหกเดือน“มาเร็ว ๆ ค่ะ ไปล้างมือให้สะอาด กองทัพแม่บอกว่ายังไงครับ”“รู้แล้วครับคุณแม่ ผมจะตามพี่คินทร์ไปเดี๋ยวนี้”“ดีมากเด็กดี”“อย่าไปดุลูกมากเลย ลูกกลัวจนไม่กล้ามองหน้าแกแล้วนั่น”“ฉันเหรอดุ แกไม่เห็นพ่อของกองทัพน่ะสิ พี่ธิศดุกว่าฉันเสียอีก ถ้าอะไรเกี่ยวกับลูกนะ ไม่ได้เลย นี่ฉันยังคิดอยู่เลยว่า เขาเรียนจบวิศวะมาจริงเหรอ ดูแล้วละเอียดมากกว่าพยาบาลวิชาชีพอย่างฉันเสียอีก”“จริงสิ ว่าแต่แกจะไม่กลับไปทำงาน ที่โรงพยาบาลแล้วจริง ๆ เหรอ”“แกดูหน้าผัวฉันก่อน ตอนนี้แค่พูดขึ้นมาว่า ขอไปเยี่ยมเพื่อน ๆ ที่โรงพยาบาล หน้าก็หงิกไปสองวัน อารมณ์อย่างกับสาววัยทอง”“พี่ธิศเขาขี้หึงขนาดนั้นเลยเหรอ ดูไม่ออกเลยว่า จะขี้หึงขนาดนั้น”“ใครจะไปเหมือนพี่วินทร์ของแกกันล่ะ รายนั้นทั้งขี้อ้อนทั้งกลัวเมีย น่าอิจฉาจะตายไป แกไม่รู้เหรอว่า คนอื่นเขาบอกกันว่า พี่วินทร์
ทั้งหมอฟิวส์และฝัน รุ่นน้องต่างคณะยืนนิ่งไปทันที เมื่อถูกวีรภัทร ที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุ และปากหมาของคณะวิศวะ ด่าสาดเสียเทเสียจนทำหน้าไม่ถูก“จริงเหรอแคร์... เขากับแคร์”“ยังไม่ชัดอีกเหรอ ถ้ามึงกล้ามายุ่งกับแฟนกูอีกละก็ อย่าหาว่ากูไม่เกรงใจ ไปบอกหมาตัวเมีย ที่หึงจนตกมันของมึงด้วย”“พี่ว่าใครเป็นหมาตกมัน! ทำไมหยาบคายแบบนี้”“ทำไม คนที่หยาบก่อนไม่ใช่เธอเหรอ โยนก้อนหินให้คนอื่นมา จะให้โยนทองให้หรือไง”“พี่ฟิวส์คะ อย่าไปยุ่งกับพวกเขาเลย เรากลับบ้านกันดีกว่า”“เดี๋ยวก่อน”“คุณต้องการอะไรอีก”วีรภัทรที่ยืนกอดแคร์ ซึ่งกำลังช็อกกับเหตุการณ์ตรงหน้า เธอไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน ก็เลยพูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ มีแต่วีรภัทรที่ยืนด่าแทนให้“มายืนด่าแฟนคนอื่นขนาดนี้ ขอโทษสักคำน่ะทำเป็นไหม ขอโทษแคร์เดี๋ยวนี้เลย ไม่งั้นอย่าหาว่ารุ่นพี่ไม่เตือน”“ผมน่าจะรุ่นเดียวกับคุณ หรือไม่ก็เป็นรุ่นพี่”“จะรุ่นไหนผมไม่สน แต่คนทำผิดก็ต้องขอโทษไม่ใช่เหรอหมอ หรือว่าคณะของหมอ ไม่สอนเรื่องมารยาท”“พี่ฟิวส์! อย่าไปเถียงกับพวกคณะหยาบคายนี่เลย เรากลับบ้านกันเถอะค่ะ”“ถ้าเธอกล้าเดินออกไป โดยไม่ขอโทษแคร์ หลังจากพรุ่งนี้ไป ก็เต
ประเทศอังกฤษ“ที่รักครับ ผมเก็บของที่มาส่ง เข้ามาให้แล้วนะ”“ขอบคุณค่ะพี่ภัทร”แคร์เดินมาดูของหลายอย่าง ที่ถูกส่งมาจากประเทศไทย เธอแต่งงานกับวีรภัทร และย้ายมาอยู่ที่อังกฤษ หลังจากเรียนจบ ตอนนี้ทั้งคู่กำลังดูแลธุรกิจของที่บ้านวีรภัทรอยู่“นั่นกล่องอะไรเหรอ ดูจากชื่อนี้ เมียไอ้วินทร์ส่งมาให้ล่ะสิ”“รูปเก่า ๆ สมัยเรียนน่ะค่ะ ตายจริงไม่คิดว่ามิวจะมีเยอะขนาดนี้”“น้องมิวส่งรูปสมัยเรียนมาทำไมกัน”“แคร์บอกให้มิวส่งมาเองแหละค่ะ อยากจะเก็บเอาไว้ให้ “เฟรย์ย่า”ดูตอนที่ลูกโตขึ้นมา จะได้รู้ว่าสมัยเรียน พ่อกับแม่เป็นยังไง”“แต่ลูกยังไม่คลอดเลยนะที่รักจ๋า หรือแคร์กลัวว่า ลูกจะเกิดมาไม่สวยเหมือนแม่ แต่พี่ไม่กลัวเลยนะ เพราะพี่มั่นใจมากว่า เมียพี่สวยที่สุด”“เหรอคะ แต่ตอนนั้นพี่ภัทร ก็ไม่ได้คิดจะจีบแคร์ก่อนเลยนี่คะ เพราะแคร์ไม่ใช่ผู้หญิงที่ตรงสเป็กพี่”“โธ่ที่รัก เรื่องมันก็นานมาแล้วนะ ยังจำได้อีกเหรอ” “นี่ถ้าลูกคลอดออกมา แล้วพี่บอกว่า มาชอบแคร์ตอนที่นั่งเล่นไพ่ในงานศพ ลูกจะขำหรือเปล่านะ”“ใครบอกว่าพี่ชอบแคร์ ตอนที่เล่นไพ่กันล่ะ”แคร์หันมามองหน้าวีรภัทร เธอจำได้ว่า ครั้งนั้นที่ทั้งสองคนเริ่มสนิท และเร
สี่ปีผ่านไป“ดูสิคะรูปลูกของแคร์กับพี่ภัทร นี่พวกเขาไม่คิดจะกลับเมืองไทยมาให้เรารับขวัญหลานเลยสินะ”“ช่วยไม่ได้นี่นาเห็นว่าไอ้ภัทรเปิดบริษัทที่โน่น พ่อมันเองก็ไปอยู่ด้วยอีกนานเลยมั้งกว่าจะกลับเมืองไทย”“แยมกับพี่ธิศจะมาหาวันอาทิตย์นี้นะคะจะพา "กองทัพ" มาด้วย”“ได้สิ อย่างน้อยก็มีเพื่อนเล่นละนะ “ภาคินทร์” จะได้มีเพื่อนเล่น"“แล้วนี่ลูกไปไหนแล้วคะ”“โน่น ไปเดินเล่นกับพี่เรย์ พอมาเจอกันก็พากันซนเห็นว่าไปเล่นทราย”“อะไรนะ! เล่นทรายอีกแล้วเดี๋ยวก็เขาหูอีก…โอย…”“เมียจ๋าอย่าโวยวายสิ อย่าลืมสิครับว่าท้องเกือบเจ็ดเดือนแล้ว อย่าพึ่งวีนนะเดี๋ยวพี่ไปจัดการเอง”“พี่วินทร์เป็นแบบนี้อีกแล้ว บอกแล้วว่าอย่าให้เล่นทรายบ่อย ๆ มันล้างออกยากถ้าลูกต้องไป…โอย”“ที่รักจ๋าอย่าโวยวายนะผัวผิดไปแล้วมา ๆ ตีมือผัวนี่ไม่เอาน่ามีพี่นัยช่วยดูอยู่เด็ก ๆ ไม่เป็นไรหรอกอีกอย่างมีป้ารินทร์เฝ้าอยู่ เจ้าคินทร์ตัวแสบนั่นไม่กล้าดื้อหรอก”“พยุงหน่อยเร็ว ๆ เข้า”“จ้า ๆ มาแล้ว ๆ ไม่ตะเบ็งเสียงแล้วนะครับคนดีค่อย ๆ เดินนะ มาพี่พยุงเข้าบ้าน”“ปึก!”“โอ๊ย! เจ็บนะทำไมความโหดไม่ลดลงเลยล่ะ สิบปีก็จะโหดแบบเดิมไม่ได้นะ หรือว่าพอจะได้ลูก
Q-Bar / 1 ปีถัดมา“ดรายมาร์ตินี่ครับ”ภาวินทร์นั่งที่หน้าบาร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มที่เขาชอบดื่ม และต้องเป็นบาร์เทนเดอร์สาวสวย “เรเน่” คนเดียวเท่านั้นที่เป็นชงให้ดื่ม เรเน่ในชุดบาร์เทนเดอร์สาวที่รัดกุมมากกว่าเดิมแต่ก็หรูหราและดูมีระดับมากขึ้นเริ่มชงเครื่องดื่มและเท ระหว่างที่เทก็ยิ้มให้เขาเมื่อเธอยกขึ้นมาก็ส่งให้เด็กเสิร์ฟทันที“ของโต๊ะห้าค่ะ”“ครับบอส”ภาวินทร์มองเครื่องดื่มที่เด็กยกออกไปแล้วหันมาค้อนภรรยาสาวอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เธอรับหน้าที่ดูแลบาร์แทนพัชรินทร์ที่ลาคลอดอยู่ ส่วนภาวินทร์รับหน้าที่ดูแลผับทั้งหมดแทนคุณพ่อที่กำลังเห่อหลานชาย“ที่รัก แล้วของผม…”“ตึง!”ลักษิกายกนมผลไม้คั้นสดมาให้เขาตรงหน้า ภาวินทร์ขมวดคิ้วมองเธอทันที“นี่อะไรน่ะ ทำไมผมต้องดื่มนมผลไม้นี่อีกแล้ว”“เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ”“แต่ว่าที่รัก… ผมขอแค่แก้วเดียวเองคุณก็รู้ว่าผมไม่ได้ดื่มมากเหมือนเมื่อก่อน”“แต่คุณต้องขับรถให้มิวนะคะที่รัก เพราะฉะนั้นคืนนี้ดื่มไม่ได้ค่ะ”“อะไรกัน ไม่ยุติธรรมเลยรู้แบบนี้ไม่ให้มาทำหรอก”“คุณภาวินทร์คะขอร้องอย่ามางอแงแบบนี้ หรืออยากจะให้มิวกลับไปทำงานที่โรงพยาบาลอีก”“ไม่เอา! ไม่เอาครับเมียจ๋า