Home / วัยรุ่น / สะพานรักซีลีน / ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นกูคืนให้มึง

Share

ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นกูคืนให้มึง

last update Last Updated: 2025-12-02 12:19:08

คณะสถาปัตย์ – ห้องเลกเชอร์ 401

เสียงเครื่องปรับอากาศบนเพดานดังสลับกับเสียงกระซิบกระซาบของนักศึกษาปีสี่ ที่ทยอยเข้าห้องเรียนในช่วงสายของวันด้วยสภาพอิดโรยไม่ต่างกัน เพราะหลายคนยังอยู่ในสภาพที่ยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน

โชคดีที่ช่วงนี้อาจารย์แต่ละรายวิชายังเว้นระยะการเข้าคลาสให้ไปทำโปรเจกต์ใหญ่ของแต่ละคน ทำให้นักศึกษาปีสี่ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตกินนอนที่ห้องสโมสรของคณะเป็นส่วนใหญ่ เพราะด้วยชิ้นงานโปรเจกต์มีขนาดและรายละเอียดที่ไม่สะดวกในการเคลื่อนย้ายบ่อย ๆ

แต่ทั้งนี้คลาสที่ต้องมาเช็กชื่อและประกาศข่าวสารก็ยังคงมีอยู่เรื่อย ๆ เหมือนกับวันนี้ที่ประธานรุ่นแจ้งประชุมรวมนักศึกษาปีสี่ที่ห้องเลกเชอร์ใหญ่ ซึ่งซีลีนที่รู้ข่าวคร่าว ๆ จากเมฆก็พอจะเดาได้ว่าเรื่องที่อาจารย์จะแจ้งให้นักศึกษาทราบเป็นเรื่องอะไร

ร่างบางเดินเข้ามาในห้องทิ้งตัวลงนั่งข้างชายหนุ่มที่เป็นเพื่อนสนิทเหมือนอย่างเคย ก่อนจะทอดสายตาหยุดอยู่ที่แก้วกาแฟเย็นในมือของเมฆที่ยื่นมาให้ ก่อนจะยกขึ้นดื่มเล็กน้อย

“เมื่อคืนกลับกี่โมง”

เมฆถามหญิงสาวที่กำลังยกแก้วกาแฟที่ตนเตรียมมาให้ขึ้นดื่มช้า ๆ ด้วยสภาพที่ยังคงงัวเงียจากการนอนไม่พอ แต่มันกลับไม่สามารถบดบังความสวยบนใบหน้าของหญิงสาวได้เลย

“ตีสี่ แต่ทำไปได้เกินครึ่งแล้ว เหลือขัดฐานกับลบเส้น”

“พิงมาถ้าจะนอน ถ้าอาจารย์เข้าเดียวเรียก”

“ขอบใจ”

เธอตอบเรียบ ๆ ก่อนจะหลับตาลงแล้วพิงศีรษะของตัวเองลงบนแขนของเพื่อนสนิทที่นั่งข้างกันอย่างไม่คิดปฏิเสธ เพราะความง่วงกำลังเล่นงานเธออย่างหนัก หลังจากที่เธอเพิ่งกลับคอนโดเมื่อตอนตีสี่ แต่กว่าจะขับรถถึงคอนโด อาบน้ำเสร็จก็เกือบเช้าพอดี เท่ากับตอนนี้เธอเพิ่งได้นอนไปไม่ถึงสามชั่วโมงด้วยซ้ำ

“นอนซะ”

เสียงทุ้มบอกกับหญิงสาวที่นั่งข้างกัน เมฆจ้องมองใบหน้าสวยที่หลับตาพริ้ม ทั้งท่าทางและสีหน้าของซีลีนที่แสดงออกมาให้เห็น ไม่ต่างจากเด็กน้อยที่กำลังงอแงเพราะความง่วงนอน ทำให้เมฆหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ ในลำคอด้วยความรู้สึกเอ็นดู แล้วปล่อยให้คนตัวเล็กใช้แขนของตัวเองเป็นที่พักพิงสายตา

ทว่าเวลาผ่านไปได้ไม่นานอาจารย์เจ้าของคลาสก็เดินเข้ามาพร้อมช้อนสายตาไปรอบห้อง เสียงพูดคุยกันก่อนหน้าเบาลงอย่างรวดเร็ว

“วันนี้มีประกาศสำคัญที่อาจารย์จะมาแจ้งให้ทุกคนทราบ”

เสียงอาจารย์ศิริพรดังขึ้นชัดเจน พร้อมเปิดสไลด์บนจอเรียกความสนใจให้กับบรรดานักษาหลายคนได้เป็นอย่างดี รวมถึงซีลีนที่กำลังพักสายตาไปได้ไม่นานก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น

“เนื่องจากทางผู้บริหารเล็งเห็นความสำคัญในการสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างมหาวิทยาลัยและชุมชน จึงได้มีนโยบายริเริ่มโครงการนี้ขึ้นมา เพื่อให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการทำประโยชน์ให้กับชุมชน โดยจะมีการคัดเลือกตัวแทนของคณะสถาปัตย์ให้เป็นผู้ออกแบบสะพานและร่วมกันสร้างสะพานขึ้นมาพร้อมกับตัวแทนจากคณะวิศวกรรมศาสตร์”

นักศึกษาหลายคนเงียบไปทันที บางคนเริ่มบ่นพึมพำแล้วมองหน้ากันด้วยความโอดครวญ เพราะแค่โปรเจกต์ที่ต้องทำอยู่ก็หนักจนแทบจะไม่มีเวลาได้นอนอยู่แล้ว และดูเหมือนจะไม่มีใครอยากเป็นตัวแทนในการทำโครงการนี้เลยสักคน

“คณะเราจะส่งตัวแทนสองคน เพื่อร่วมสำรวจพื้นที่จริงและทำงานร่วมกับฝั่งวิศวะจนกว่าสะพานสร้างเสร็จ โดยผลคัดเลือกอิงจากผลงาน ภาคปฏิบัติที่ผ่านมาของแต่ละบุคคล ส่วนนักศึกษาที่เป็นตัวแทนจะได้รับสิทธิ์พิเศษในการขยายเวลาส่งโปรเจกต์ของตัวเองออกไป เพิ่มอีกสองอาทิตย์”

อาจารย์เว้นจังหวะเล็กน้อย ห้องทั้งห้องเงียบสนิทก่อนพูดชื่อใครบางคนออกมา

“นายธรรมนิตย์ ศิริโชค และนางสาวพรพระจันทร์ ธาดาภิวัฒน์”

หญิงสาวชะงักก่อนจะเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ห้องทั้งห้องดูเหมือนจะเงียบลงเล็กน้อย เธอไม่ได้รู้สึกตกใจมากนัก และชื่อเธอกับเมฆก็ไม่ใช่ชื่อที่แปลกหูในสายตาเพื่อนร่วมคณะ

“ยินดีด้วยนะ ผลออกมาตามคาด”

“ไอ้สะพานนั่น มันตามมาหลอกหลอนฉันแล้วใช่ไหม”

ซีลีนถอนหายใจออกมาเบา ๆ อย่างปลงตก พร้อมกับความง่วงที่มีก่อนหน้าก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง ได้แค่คิดปลอบใจตัวเองที่อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ทำโครงการนี้คนเดียว

“อยากรู้จังว่าใครจะมาเป็นตัวแทนฝั่งวิศวะ”

เมฆพูดพลางเหลือบมองไปทางรายชื่ออีกฝั่งที่ยังไม่เปิดเผย เธอซีลีนมองตามสายตาของเมฆไปทันที เธอรู้ดีว่ามันคือโอกาสที่ดี แต่เธอกลับไม่ได้รู้สึกดีใจมากนักที่ต้องมาทำโครงการนี้

“การประชุมนอกพื้นที่การประสานงานยกให้นายจัดการ ส่วนการออกแบบและส่วนอื่น ๆ ฉันรับผิดชอบเอง”

ซีลีนเริ่มจัดแจงโยนภาระหน้าที่ที่ตัวเองไม่อยากทำให้กับชายหนุ่มที่นั่งข้างกันทันที แบบไม่ต้องถามความคิดเห็น เพราะเธอจะไม่ยอมออกไปตากแดดตากลมและไปประสานงานอะไรร่วมกับตัวแทนของทางฝั่งนั้นเด็ดขาด

“รับทราบครับท่านหญิง”

เมฆได้แต่ยักไหล่เบา ๆ เพราะสำหรับเขาเธอว่าไงเขาก็ว่าตามนั้น

ตึกคณะวิศวะโยธา

ท่ามกลางห้องประชุมขนาดเล็กที่มีเพียงชายหนุ่มร่างสูงไม่กี่คนนั่งอยู่กลางโต๊ะไม้ยาว ทุกคนที่อยู่ในห้องคือคนที่ถูกคัดเลือกมาแล้วและมีโอกาสจะถูกส่งรายชื่อไปเป็นตัวแทนนักศึกษาที่ต้องเข้าร่วมโปรเจกต์สร้างสะพานร่วมกับคณะสถาปัตย์ ซึ่งจะมีการประกาศรายชื่อตัวแทนในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

“เมื่อไหร่อาจารย์กับไอ้ซันจะมา”

 เดย์นั่งเอนหลังเอาแขนพาดพนักเก้าอี้บ่นพึมพำออกมาอย่างงุ่นง่านใจโดยไม่คิดสนใจสิ่งรอบตัว เพราะมันเริ่มเลยเวลาที่เขานัดกับแสงเหนือเอาไว้มากแล้ว ต่างกับฝาแฝดของตนอีกคนที่ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาที่มีเสื้อช้อปสีน้ำเงินคลุมหน้าเอาไว้

“มึงใส่ชื่อมันลงไปจริงเหรอวะ”

เสียงของเดย์ดังขึ้นขณะที่ลมกำลังนั่งเอนหลังพิงพนักเก้าอี้คุยแชทกับสาว ๆ ที่เขานัดเอาไว้คืนนี้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความพึงใจ ราวกับกำลังรอดูละครสนุกเรื่องหนึ่งที่ตนเองเป็นคนเขียนบทเองกับมือ

“เออสิ”

ลมตอบหน้าตายก่อนจะยกขวดน้ำอัดลมในมือขึ้นจิบอย่างสบายอารมณ์

“ไม่ใส่ชื่อมัน แล้วจะให้ใส่ชื่อใครวะ กูไม่ว่างต้องคอยใส่ใจสาว ๆ เดียวทุกคนจะเหงา หรือมึงสองคนอยากไปแทนมันก็เชิญนะ แต่ระวังมีคนมาจีบแสงเหนือแล้วกัน”

 “ดูเหมือนมึงจะมั่นใจมากนะว่าไอ้ซันจะได้เป็นตัวแทนครั้งนี้”

“ชื่อมันอยู่ในลิสต์ชัวร์” ลมยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ

“คะแนนมันดี โปรเจกต์ก็ผ่านหมด อาจารย์เรียกกูไปคุยแล้ว กูก็เลยเสียสละใส่ชื่อมันไปแทน”

“แล้วถ้ามันรู้ว่ามึงทำอะไรกับชื่อมัน มึงจะไม่โดนเตะออกจากกลุ่มก่อนเหรอวะ?”

“มันไม่กล้าหรอก” ลมยิ้มกว้าง

“กูอุตส่าห์ส่งมันไปอยู่ใกล้น้องไอริสเลยนะ รับรองสุดท้ายมันต้องมาขอบใจกูแน่ ๆ”

เดย์ได้แต่ถอนหายใจ ส่ายหน้าอย่างปลงตกกับความคิดพิเรนทร์ของเพื่อนตัวเอง

“แล้วใครเป็นตัวแทนฝั่งสถาปัตย์?”

“ยังไม่รู้ แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็เถอะ ถ้าไม่เรื่องมากก็ทำงานกับไอ้ซันได้ทั้งนั้นแหละ”

“ฟังดูง่ายดีนะ” เดย์พึมพำ

“แต่กูมั่นใจว่าโอกาสเจอคนเรื่องเยอะน่ะสูงฉิบ เพราะฝั่งนั้นผู้หญิงเยอะจะตาย”

ลมแค่นหัวเราะ เพราะความวุ่นวายมันก็เป็นสีสันของชีวิตที่เขาตั้งใจยัดเยียดให้เพื่อนสนิทของตัวเอง

“อีกเดี๋ยวก็รู้แล้วล่ะว่าใครจะไปคุมไซต์”

แววตาของเขาเป็นประกาย กึ่งตื่นเต้น กึ่งรอดูละครที่เขียนบทเองกับมือที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างใจจดใจจ่อ

ครืดดดดดดดดด

เสียงประตูถูกเปิดออกพร้อมร่างสูงของใครบางคนที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง พอเห็นคนที่ตัวเองเขียนชื่อเข้าไปเดินตรงมาด้วยสีหน้าแบบนั้น ลมก็ยิ่งยิ้มกว้างเหมือนยิ่งแน่ใจว่าเพื่อนต้องกำลังของขึ้นอยู่แน่ ๆ ซันวางซองเอกสารบนโต๊ะไม้ ก่อนเอ่ยขึ้นมาเรียบ ๆ

“อาจารย์ติดประชุม ฝากมาให้ประกาศรายชื่อตัวแทนที่จะต้องไปคุมงานสร้างสะพาน”

เพื่อน ๆ หลายคนเริ่มขยับตัวเข้ามาฟัง แต่ลมยังคงเอนหลังพิงโต๊ะราวกับกำลังรอดูโชว์สนุก ๆ

“ไง…มึงโดนแล้วใช่ไหมล่ะ”

เขาพูดยิ้ม ๆ มองหน้าเพื่อนสนิท ก่อนที่ซันจะมองเขากลับมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่งพร้อมกับดันซองเอกสารมาตรงหน้า

“เปิดดูเอง เดี๋ยวมึงก็รู้”

ลมหยิบซองขึ้นมาเปิดด้วยความมั่นใจเต็มร้อย ล้วงกระดาษด้านในขึ้นมาอ่านเสียงดังอย่างตั้งใจ แต่แล้วเสียงของเขาก็เริ่มแผ่วเบาลงทีละนิด ๆ ก่อนแล้วชะงักไปในทันที

“เฮ้ย!!”

ลมกวาดสายตามองบนกระดาษอีกครั้งอย่างไม่เชื่อสายตา แต่ไม่ว่าเขาจะอ่านมันซ้ำอีกกี่ครั้งชื่อที่ปรากฏบนหน้ากระดาษก็ยังเป็นชื่อของตัวเอง นายปรานวริทธิ์ นิธิวรากุล ไม่มีชื่อของซันอย่างที่เขาคิดไว้

“อะไรวะเนี่ย”

 ร่างสูงเริ่มบ่นพึมพำ มองหน้าซันที่ยืนกอดอกมองมาทางเขานิ่ง ๆ เหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย

“แล้วไอ้ชื่อที่กูยื่น...”

“คัดออก” ซันพูดเรียบ ๆ

“อาจารย์บอกว่ารายชื่อที่จะส่งไปต้องมีลายเซ็นยินยอมด้วยตัวเอง แต่มึงดันใส่ชื่อกูไปโดยพลการ โชคดีที่วันนั้นเขาเรียกกูเข้าไปถามก่อน…กูเลยบอกว่ามึงเปลี่ยนใจแล้วกูก็เขียนชื่อมึงยืนยันกลับไปให้แทน”

“ไอ้เหี้ย แล้วทำไมที่แบบนี้อาจาร์ยเขาไม่รอให้กูเซ็นชื่อเองว่ะ”

 “เพราะคนที่ต้องไปคือมึงตั้งแต่แรกไง เป็นไงความรู้สึกที่โดนหักหลัง อยากให้กูไปนักนิ” ซันพูดยิ้มมุมปาก

“กูอุตส่าห์วางแผนดิบดี สุดท้ายกูซวยเองเหรอวะ”

ลมนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจยาว ยกมือปิดหน้า ซันยักไหล่นิด ๆ แล้วหมุนตัวจะเดินออกไป ก่อนจะชะงักและหันกลับมา

“โชคดีนะตัวแทนคณะ นี่แหละให้ทุกข์แก่เพื่อน ทุกข์นั้นกูคืนให้มึง”

ประตูปิดลง พร้อมเสียงหัวเราะและเสียงโห่ดีใจของใครอีกหลายคน เพราะไม่มีใครอยากทำโปรเจกต์นี้สักคน ก่อนที่ทุกคนแยกย้ายออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี ต่างกับลมที่กำกระดาษรายชื่อเอาไว้ในมือด้วยสีหน้าที่อยากร้องไห้ แต่ต้องกลั้นขำในเวลาเดียวกัน

“แม่งซวยฉิบหาย นึกว่าจะรอดอยู่แล้วแท้ ๆ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สะพานรักซีลีน   เล่นใหญ่

    เสียงเครื่องยนต์ดังคำรามตลอดเส้นทาง ลมขับรถตรงดิ่งไปที่คณะ ใบใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์นัก แต่ความคิดในหัวกลับตีกันวุ่นวาย ต่าง ๆ นานา คิดถึงแต่ใครบางคนที่หายไปตั้งแต่เช้าไม่นาน แมคเคลเรล720S All Black คันคุ้นเคยก็เลี้ยวเข้าไปในลานจอดรถคณะวิศวะฯ ก่อนที่ร่างสูงจะเดินจากรถตรงไปยังกลุ่มเพื่อนที่กำลังนั่งรวมกันใต้ต้นไม้ใหญ่ทุกคนได้แต่ชะงักและหันมามองแทบพร้อมกัน เสียงฮือฮาของผู้คนรอบข้างดังขึ้นทันทีเมื่อเห็นหนุ่มฮอตปรากฏตัว โดยเฉพาะพวกสาว ๆ ที่ดูจะกรี้ดกร้าดเป็นพิเศษ เพราะตั้งแต่ที่มีโปรเจกต์ลมก็ไม่ค่อยได้เข้าคณะเลย“เฮ้ย ไอ้ลม! มาได้ไงวะ ปกติมึงน่าจะอยู่ที่ไซต์”“หน้าเครียดเชียว กูว่าต้องมีเรื่องแน่ ๆ”เสียงทุ้มของเดย์เอ่ยถามทันที เมื่อเห็นว่าใครกำลังเดินเข้ามา ตามด้วยเสียงของไนท์ที่หันไปมองตามเสียงของแฝดตัวเองลมเดินเข้ามาหย่อนตัวลงนั่งบนม้านั่งไม้ กวาดตามองพวกมันทีละคน เสยผมขึ้นด้วยท่าทีหงุดหงิด“กูมาหาพวกมึงไม่ได้หรือไง”เขาพูดเสียงเรียบ ก่อนเอนหลังพิงพนัก มือยกโทรศัพท์ขึ้นไถ่ฟีดเลื่อนไปมาอย่างหงุดหงิด เพราะไม่รู้จะไปตามหาอีกคนที่ไหน เขาเลยตัดสินใจขับรถมาหาเพื่อน ๆ ที่คณะแทน“สรุปว

  • สะพานรักซีลีน   ช่วยด้วยครับ

    แสงแดดในช่วงสายของวันที่ลอดผ่านผ้าม่านสีเข้มเข้ามา ทำให้ลมค่อย ๆ รู้สึกตัว ก่อนมือหนาจะคว้านหาร่างบางที่เขากอดมาตลอดทั้งคืน แต่ปรากฏว่าข้างกายเขากลับว่างเปล่า มีเพียงร่องรอยยับย่นบนผ้าปูที่ยืนยันว่า เมื่อคืนเขาไม่ได้อยู่คนเดียว กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ของร่างบางยังติดอยู่บนปลอกหมอน ในเมื่อเขาเป็นคนอุ้มเธอกลับมาจากที่ไซต์งานมาต่อที่ห้องด้วยตัวเอง แต่เจ้าตัวกลับหายไปไหน“หนีไปอีกแล้วสินะ”ร่างแกร่งหยัดกายลุกเอนหลังพิงหัวเตียง มือหนาเอื้อมคว้าโทรศัพท์ที่หัวเตียง ก่อนจะเปิดเช็กบางอย่าง เพราะเขารู้ดีว่าคนตัวเล็กมักจะชอบโพตทุกอย่างไว้บนสตอรี่ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนก็ตาม แต่เช้านี้มันกลับว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลยเรียวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ความเงียบในห้องยิ่งทำให้ความรู้สึกข้างในวาวโรจ์นขึ้นมา ลมโยนโทรศัพท์ลงบนที่นอน ร่างสูงหยัดกายลุกขึ้นนั่ง เสยผมขึ้นอย่างหงุดหงิด“ได้ฉันแล้วจะทิ้งเหรอ”เสียงทุ้มพึมพำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอทิ้งเขาไว้คนเดียวบนเตียงแบบนี้ร่างแกร่งลุกขึ้นจากเตียงด้วยร่างกายเปื่อยเปล่าที่เต็มไปด้วยรอยแดงและการขีดข่วนจากปลายเล็บ ลมยังคงเดินหาใครบางคนจน

  • สะพานรักซีลีน   ไม่ปล่อย

    จูบที่เริ่มจากการรุกเร้าเบา ๆ กลับกลายเป็นไฟราคะที่ลุกโชน ริมฝีปากหนาไม่ปล่อยโอกาสให้เธอได้พัก มือใหญ่เลื่อนจากแผ่นหลังขึ้นมากดท้ายทอยเล็ก รั้งเธอให้รับแรงจูบลึกขึ้นเรื่อย ๆ“อื้อออออ”มือหนาอีกข้างเลื่อนต่ำมาทาบเอวบาง ลากปลายนิ้วไปตามสันโค้งจนเธอสั่นสะท้าน ร่างเล็กที่นั่งบนตักเผลอขยับเบียดแน่นขึ้นทุกครั้งที่เขาดึงให้เข้าใกล้“ต้องการกันไหมครับ”ลมกระซิบเสียงพร่าแนบข้างหู ก่อนจะเล็มจูบลงมาตามแนวสันกรอบหน้า สัมผัสกับผิวเนียนที่แดงจัด“ฉัน…ไม่”คำคัดค้านเอ่ยขึ้นอย่างติด ๆ ขัด ๆ เมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวซุกลงมาตรงลำคอขาว มือเล็กเผลอเกาะบ่ากว้างแน่นเพื่อหาที่พยุง เสียงหัวเราะทุ้มพร่าเล็ดลอดจากลำคอเขา เมื่อเห็นร่างบางสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมแขน“ร่างกายเธอมันกำลังต้องการฉัน”ลมกดจูบหนักลงที่ซอกคอ ฝากทิ้งร่องรอยรักแดงสีกุหลาบอย่างไม่ยอมออมแรง ขณะมือหนาบีบเคล้นหน้าอกอวบอิ่ม มืออีกข้างก็ลูบไล้ไปตามเอวบางและสะโพกกลม จนเธอคล้อยตามไปกับสิ่งที่เขากำลังนำพาเธอไปคนตัวเล็กเริ่มหอบหายใจถี่ หน้าแดงจัดจนแทบลามไปถึงหู ทั้งร้อน ทั้งอาย แต่กลับมีเพียงเสียงครางกระเส่าที่หลุดออกมาเบา ๆ เท่านั้น“อื้มมม ลม”แต่คนตั

  • สะพานรักซีลีน   หนีไม่พ้น

    ลมเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับ ด้วยท่าทีไม่เร่งรีบ แต่กลับกดดันจนเธอรู้สึกเหมือนถูกบังคับกลาย ๆ ร่างบางชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะนั่งลงไปอย่างเสียไม่ได้ ทว่าประตูปิดลง กลิ่นกายอุ่นที่คุ้นเคยจากเมื่อคืนก็โอบล้อมเข้ามาในพื้นที่แคบทันทีร่างบางรีบเบือนหน้าออกไปทางหน้าต่าง เพราะกลัวจะเผลอใจสั่นจากความใกล้ชิดที่ที่เกิดขึ้น“ทำหน้าเหมือนถูกลากมาขาย”น้ำเสียงทุ้มแฝงรอยหัวเราะดังขึ้นจากเบาะข้าง ๆ ซีลีนหันขวับไปมองตาขวางทันที“แต่นายบังคับฉันมาอย่างไม่เต็มใจ”ลมเหลือบตามองเธอเพียงเสี้ยววินาที ริมฝีปากหนายกยิ้มกวน ๆ ก่อนโน้มตัว เอื้อมมือข้างหนึ่งมาดึงสายคาดเบลต์ข้ามตัวเธอแล้วกด ล็อกแน่น ด้วยท่าทีธรรมดาราวกับไม่มีอะไร แต่ใกล้ชิดกันจนลมหายใจของเขาเป่ารดต้นคอ ก่อนที่เข้าจะใช้ปลายจมูกไล้ผิวแก้มเธอเบา ๆ ทำเอาหัวใจเต้นแรงอีกครั้ง“บังคับ?” เขาทวนคำแล้วกระซิบเสียงต่ำข้างใบหู แต่ไม่ยอมขยับออกไปไหน“ฉันแค่มาตามหาคนรับผิดชอบ เพราะเมื่อคืนมีคนขโมยกอดฉันแน่นไม่ยอมปล่อย”แก้มใสของซีลีนแดงวาบขึ้นทันที เธอยกมือผลักอกเขาแรง ๆ พลางหันหน้าหนี“อย่ามาพูดบ้า ๆ นะลม!”เสียงหัวเราะทุ้มดังขึ้นในรถ เขายกมือกลับไปจับพวงมาลัยอย่

  • สะพานรักซีลีน   ความลับ

    เช้าวันต่อมา แสงแดดอ่อนลอดผ่านผ้าม่านสีขาวร่ำไร ร่างสูงขยับพลิกตัวเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตา ภาพตรงหน้าคือห้องสีขาวเรียบดูสะอาดตาแต่กลับเป็นห้องที่เขารู้สึกไม่คุ้นชิน ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบมันกลับเต็มไปด้วยรายละเอียดที่บอกตัวตนเจ้าของห้องชัดเจนกรอบรูปหญิงสาวในชุดต่าง ๆ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม และกลิ่นน้ำหอมบางเบาที่เป็นเอกลักษณ์ของใครบางคนที่เขาจำได้ดี“ปวดหัวชะมัด”เสียงทุ้มพร่าต่ำเอ่ยกับตัวเอง เขาลุกขึ้นนั่งพลางยกมือกุมขมับความหนักอึ้งจากอาการแฮงค์เมื่อคืน ยังตามมาหลอกหลอนเขาในเช้านี้ สายตาคมยังคงมองหาเจ้าของห้องที่ที่ไม่รู้ว่าหายไปไหน และเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง“หึ ยัยคุณหนูตัวแสบ”ทว่ายังไม่ทันที่ลมจะทำอะไรต่อ ภาพเลือนรางในหัวก็ปรากฏขึ้นมาในตัวทีละน้อย สัมผัสอ่อนนุ่ม และกลิ่นกายหอมบางเบาเหมือนกลิ่นของเจ้าของห้อง อ้อมแขนที่เขาโอบรั้ง และริมฝีปากนุ่มที่เขาบดจูบซ้ำ ๆ ไม่ยอมปล่อยก็ฉายชัดขึ้นมาริมฝีปากหนายกยิ้มจาง ๆ โดยไม่รู้ตัว แต่ทันทีที่เดินสำรวจไปรอบห้องกลับไม่เจอคนตัวเล็ก ความสงสัยก็แล่นเข้ามาแทนที่“หายไปไหน”เขาพึมพำเบา ๆ ขณะทอดสายตาไปยังผ้าห่มที่พับวางเรียบร้อยข้างกันบนเ

  • สะพานรักซีลีน   ทิ้งไว้กลางทาง

    เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยคึกคักในช่วงหัวค่ำค่อย ๆ จางหาย เหลือเพียงเสียงแมลงและสายลมยามค่ำคืนที่พัดผ่านกายแทน โต๊ะไม้ที่เคยเต็มไปด้วยผู้คนและอาหาร ตอนนี้เหลือแค่แก้วเหล้ากระจัดกระจาย และทีมงานที่กำลังฟุบหน้าลงบนโต๊ะเมาหลับไปทีละคนลมเอนหลังพิงเก้าอี้ไม้อย่างทิ้งตัว ดวงตาคมแสนเจ้าเล่ห์เริ่มพร่ามัวเล็กน้อย บนตัวเต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์อบอวลคละคลุ้งจนคนตัวเล็กต้องส่ายหน้าระอา“นายเมามากแล้วนะ”ซีลีนกดถามเสียงต่ำ ขมวดคิ้วมองร่างสูงที่หมดสภาพไม่ต่างจากคนอื่น ๆ“ใครเมา ไม่มี” เขาตอบเสียงต่ำแหบพร่ายืดยาวจนฟังแทบจะไม่รู้เรื่อง ก่อนเงยหน้าขึ้นมามองช้า ๆ“สภาพแบบนี้ยังมีหน้ามาบอกว่าไม่เมา”“ฉันไม่ได้เมาสักนิด”“ยกไม่พักแบบนั้นจะเหลือเหรอ” เธอบ่นพลางดันแก้วออกห่าง เขาหัวเราะเบา ๆ สภาพของทุกคนตอนนี้ดูไม่ต่างกันเลยสักนิด“ที่ห้าม เพราะเธอเป็นห่วงฉันใช่ไหม ยัยตัวแสบ”“พูดบ้าอะไรของนายเนี่ย”เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ ริมฝีปากหนาเฉียดแก้มเนียนใสไปเล็กน้อย ก่อนจะสะบัดศีรษะเบาๆ เพื่อตั้งสติจ้องมองคนตัวเล็กด้วยแววตาพร่ามัว แต่แฝงไปด้วยจริงจังจนหัวใจของเธอเต้นแรง ใบหน้าร้อนผาวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ แต่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status