/ รักโบราณ / สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง / ตอนที่ 5||พิธีสมรสหน้าป้ายวิญญาณ

공유

ตอนที่ 5||พิธีสมรสหน้าป้ายวิญญาณ

last update 최신 업데이트: 2025-04-09 15:46:49

ตอนที่ 5||พิธีสมรสหน้าป้ายวิญญาณ

เวลาเจ็ดวันผ่านไปรวดเร็วยิ่งและแล้วฤกษ์มงคลก็มาถึงในวันนี้อากาศแจ่มใสท้องฟ้ากระจ่างแสงแดดอ่อนต้นยามเฉินสาดส่องลงมายังพื้นปฐพี ทุกชีวิตในหมู่บ้านถงหลัวต่างมารวมตัวกันที่เรือนสกุลหลินเพื่อเป็นสักขีพยานให้กับคู่บ่าวสาวในงานสมรสวันนี้

ตามธรรมเนียมของชาวต้าฉู่แล้ว หญิงสาวผู้เป็นเจ้าสาวต้องสวมชุดแต่งงานสีแดงเข้ม ปักลวดลายนกยวนยางอันเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคดีและความเจริญรุ่งเรืองหากเป็นคู่แต่งงานเป็นชาวบ้านทั่วไป ส่วนเจ้าสาวที่เป็นเชื้อพระวงศ์ลวดลายที่ปักจะเป็นสงห์ ดังนั้นชุดที่หลินหลีฮวาสวมจะมิได้หรูหราดังเช่นของคุณหนูสูงศักดิ์ แต่ผ้าเนื้อดีสีแดงสดนี้ก็เป็นผ้าไหมที่ซ่งไป๋เซียวจัดหามาให้ ลวดลายที่ปักยังเป็นช่างมากฝีมืออันหนึ่งในหยางโจวอีกด้วย เวลาเพียงสิบเอ็ดวันก็เสร็จเรียบร้อย หากไม่มีเงินยากนักที่จะทำได้เช่นนี้

ทำเอาสตรีภายในหมู่บ้านถงหลัวล้วนตื่นตาตื่นใจและมีหลายคนรู้สึกริษยาเจ้าสาวขึ้นมา แต่ก็เพียงส่วนน้อย คนส่วนใหญ่ก็ล้วนยินดีไปกับอาหลี เด็กน้อยชะตาอาภัพกันทั้งสิ้น ชุดแต่งงานว่างดงามแล้วแต่ด้วยกิริยาสงบนิ่งเกินอายุของหลินหลีฮวากลับทำให้นางงามสง่าไม่แพ้สตรีชั้นสูง และที่เป็นดังนั้นก็เพราะถึงร่างนี้จะเป็นเพียงเด็กสาวอายุสิบสามปี แถมอาหลีคนเก่าไม่เคยไปไหนไกลจากหมู่บ้านถงหลัว แต่ดวงวิญญาณแท้จริงของนางคือท่านหญิง กิริยามารยาทถูกฝึกฝนมาตั้งแต่จำความได้ดังนั้นเจ้าสาวตัวน้อยจะมีกิริยาราวกับสตรีชั้นสูงผิดหูผิดตาย่อมไม่แปลก

ผ้าคลุมหน้าเป็นแพรบางสีแดงปักลวดลายวิจิตรถูกหย่อนลงมาคลุมศีรษะของผู้เป็นเจ้าสาวหลังจากท่านผู้เฒ่าฝ่ายหญิงมาหวีผมให้เจ้าสาวเสร็จสิ้น ผ้าผืนงามปกปิดใบหน้าของเจ้าสาวให้เหลือเพียงโครงร่างที่งดงามแม้นางจะยังเป็นเด็กสาวยังไม่เจริญวัยเต็มที่แต่กลับงดงามราวกับเทพธิดาตัวน้อยๆ

หลินหลีฮวาถูกสตรีอาวุโสบอกให้นั่งนิ่งรอฤกษ์อย่างสงบเสงี่ยมในห้องนอนของนางเอง เนื่องจากพิธีวันนี้ซ่งไป๋เซียวเลือกที่จะใช้เรือนเล็กแห่งนี้ประกอบพิธีแทนที่จะจัดในจวนของหัวหน้าหมู่บ้านเพราะเขาบอกว่าอยากจัดงานในสถานที่ของครอบครัวสกุลหลิน ได้เคารพป้ายวิญญาณของทุกคน เพื่อที่อาหลีจะได้รู้สึกว่าตนเองมีญาติผู้ใหญ่ของตนเป็นสักขีพยานอย่างแท้จริง

ด้านนอก เรือนถูกประดับด้วยโคมแดงดวงเล็ก ๆ แม้จะไม่หรูหราโอ่อ่าเช่นงานแต่งของตระกูลใหญ่ แต่กลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น ชาวบ้านมาช่วยกันเตรียมงานอย่างเต็มใจ หลายคนยิ้มยินดี หลายคนซุบซิบถึงบุรุษเจ้าบ่าวผู้นั้นท่านหมอซ่ง ผู้เคร่งขรึมและเย็นชา แต่เขากลับหล่อเหลาและดูร่ำรวยมากล้นทั้งที่อายุไม่มาก ช่างเป็นวาสนาของอาหลีจริงๆ

ไม่นานนัก เสียงกล่าวนำพิธีของผู้เฒ่าในหมู่บ้านก็ดังขึ้น

"ถึงยามมงคลแล้ว! เจ้าบ่าวเชิญเจ้าสาวออกมา!"

ภายใต้แสงแดดแผดจ้า ซ่งไป๋เซียวสวมอาภรณ์สีแดงเข้มเข้ากับพิธี ยืนตัวตรงสง่างาม แม้ใบหน้ายังคงเรียบเฉยตามนิสัย แต่ดวงตากลับฉายแววแน่วแน่

หลินหลีฮวาถูกประคองออกมาโดยเหล่าผู้เฒ่าผู้แก่ นางก้าวเดินอย่างสงบ แม้ภายในใจจะเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายแน่นอนว่ายังเป็นความคิดที่สับสนค่อนข้างกังวลตามประสาของสตรีที่กำลังจะเปลี่ยนสถานะ เมื่อเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเผชิญหน้ากัน ทั้งสองต่างมองกันผ่านผ้าคลุมหน้า ซ่งไป๋เซียวยังคงแน่วแน่หากแต่หลินหลีฮวานั้นยังมีหวั่นไหวและไม่แน่ใจว่าตนเองตัดสินใจถูกหรือผิด อายุของนางก็เพียงสิบห้าในยามตายลงจากชาติเก่า ไม่แปลกที่จะลังเลและสับสนกับการเลือกหนทางชีวิตของตนเองในคราวนี้

"คำนับฟ้าดิน!"

แต่จะอย่างไรก็ตามตามพอจ้าวพิธีกล่าวนำพิธีการทั้งคู่ก็ก้มลงทำความเคารพฟ้าดิน อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการขอพรให้ชีวิตคู่ราบรื่น

"คำนับบรรพบุรุษ!"

พวกเขาหันไปทางโต๊ะบูชาที่มีธูปเทียนปักอยู่ เคารพบรรพบุรุษของฝ่ายหญิง แม้เรือนสกุลหลินจะไม่มีผู้ใดเหลืออยู่นอกจากหลินหลีฮวา แต่ป้ายวิญญาณของพี่ชายและคนในครอบครัวของนางก็ถูกวางไว้ครบถ้วน ณ ที่แห่งนี้ เพื่อเป็นสักขีพยานในงานสำคัญของน้องและบุตรหลานสาวที่เหลือเพียงผู้เดียว

"สามีภรรยาคำนับกันและกัน!"

ซ่งไป๋เซียวก้มศีรษะลงอย่างสง่างาม หลินหลีฮวาก็ทำตาม ก่อนที่เสียงเฮจากเหล่าชาวบ้านจะดังขึ้น เรียบง่ายแต่ดูเข้มขลัง

"พิธีเสร็จสิ้น! ส่งคู่บ่าวสาวเข้าห้องหอได้แล้ว!"

ตามธรรมเนียมของชาวต้าฉู่แล้วหลังจบพิธีคำนับฟ้าดินจะส่งบ่าวสาวเข้าห้องหอ เพื่อจะทำพิธีกรรมต่อเช่นผูกผมลงตามในหนังสือสมรสกับกินข้าวที่เป็นอาหารมงคลและขนมบัวลอย ระหว่างที่เดินไปส่งทั้งคู่เสียงเอ่ยแซวและเสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นจากเหล่าชาวบ้านที่มาร่วมงานอย่างมีความสุข หลินหลีฮวาที่ยังคงสับสนและอยู่ในอารมณ์ไม่มั่นคงไม่ได้รู้สึกเขินอายดังเจ้าสาวคนอื่น นางเพียงหลุบตาลงต่ำมองแค่ปลายเท้าตนเอง ขณะที่ซ่งไป๋เซียวเพียงพยักหน้ารับคำ อวยพรก่อนจะประคองหลินหลีฮวากลับเข้าไปในห้องหอตามสตรีสูงวัยที่จะเข้าไปปูเตียงและกล่าวนำพิธีต่อภายในห้องหอทุกขั้นตอนผ่านไปด้วยดี

พอถึงยามโพล้เพล้ก็เป็นงานเลี้ยง เจ้าบ่าวถูกพามาร่วมดื่มกินกับแขกจนถึงค่ำคืนบรรยากาศอบอวลไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง แม้ซ่งไป๋เซียวจะเป็นคนแปลกหน้าแต่หลังผ่านพิธีแต่งงานชาวบ้านถงหลัวก็นับเขาเป็นลูกหลานของหมู่บ้านนี้ไปแล้ว จากเรือนเล็ก ๆ ของหลินหลีฮวาที่เคยมีเพียงสาวน้อยและอาจ้านแมวสีดำตัวอ้วนกลม บัดนี้กลับครึกครื้นด้วยผู้เฒ่าผู้แก่และชาวบ้านที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีสมรสที่จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย

ฝ่ายเจ้าสาวเช่นหลินหลีฮวาหลังจบพิธีต่างๆ นางก็ถูกป้าจางกับป้าหลี่อบรมถึงการเป็นภรรยาที่ดี จนค่ำ ทุกคนจึงปล่อยให้เจ้าสาวได้พักผ่อนรอผู้เป็นเจ้าบ่าว หลินหลีฮวาเลยถือโอกาสดังกล่าวอาบน้ำเสียเลย หลังจากนั้นนางจึงเข้ามาตรวจดูข้าวของว่าตนเองยังต้องเก็บอันใดอีกหรือไม่เนื่องจากพรุ่งนี้ช่วงบ่ายซ่งไป๋เซียวจะพานางกลับเหยียนจิ่งแล้ว

พอตกดึกเวลาสมควรแล้วชาวบ้านจึงส่งเจ้าบ่าวเข้าห้องหอตามธรรมเนี่ยมซ่งไป๋เซียวก้าวเข้ามาภายในห้องหอ ที่ยังคงสว่างไสวไปด้วยแสงเทียนมงคล ห้องหอของเขานั้นเรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้าน มีเตียงไม้ที่ถูกเปลี่ยนเป็นหลังใหม่ให้ใหญ่กว่าของเก่าที่แต่เดิมหลินหลีฮวาใช้นอนลำพังปูด้วยผ้าห่มสีแดงสดตามธรรมเนียม

หลินหลีฮวาไม่ได้รวมสุดเจ้าสาวและนั่งอยู่ริมเตียงเช่นเจ้าสาวคนอื่น นางเปลี่ยนมาสวมชุดนอนเรียบร้อย กำลังจัดการจัดเรียงตำราเกี่ยวกับสมุนไพรที่นางซื้อหาลงหีบเงียบๆ ไม่มีการเปิดผ้าคลุมหน้า และไม่มีท่าทางเอียงอายของเจ้าสาว

"ท่านมาแล้ว"

หลังจากเสียงประตูห้องหอปิดลงหลินหลีฮวาก็เหลียวหน้ามามองก่อนจะเอ่ยปากทักทาย และตามมาด้วยรอยยิ้มจริงใจ

"เก็บของหรือ"

"เจ้าค่ะ"

"ข้ากำชับให้หัวหน้าหมู่บ้านคอยส่งคนมาดูแลเรือนหลังนี้เจ้าไม่ต้องกังวลนะ"

ชายหนุ่มก้าวไปทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ริมหน้าต่างอุ้มอาจ้านที่กำลังนอนสบายอยู่บนเก้าอี้ขึ้นมาวางบนตักของตนเอง ทอดสายตามองไปที่เด็กสาวที่กำลังจัดข้าวของส่วนตัวของนางลงหีบใบขนาดย่อมที่เขาให้คนเตรียมมาให้

"จริงสิ จนแต่งงานกันแล้วข้ายังไม่เคยทราบเลยว่าท่านบ้านของท่านเขายินดีจะต้อนรับสะใภ้เช่นข้าหรือไม่"

ซ่งไป๋เซียวฟังแล้วก็ยิ้มอ่อนออกมาเด็กคนนี้ผ่านมาจนถึงวันนี้เพิ่งจะนึกออกหรือไร คำถามเช่นนี้สมควรถามเขาก่อนที่จะรับปากแต่งงาน

"ท่านต้องเข้าใจนะ ข้าก็แค่เด็กสาวอายุสิบสามเท่านั้นแถมขณะนั้นข้าก็กำลังสับสนและเสียใจกับการจากไปตลอดกาลของพี่ใหญ่ ใครจะนึกอะไรได้ทัน "

"อย่างกังวลไปเลย ข้าเป็นลูกคนรองที่เกิดจากอี๋เหนียงซึ่งหนีตามชายชู้ไป บิดาของข้าถึงจะเป็นเสนาบดีกรมคลังแต่เขาชิงชังข้า รับรองสะใภ้เช่นเจ้าเขาย่อมไม่อยากพบหน้า"

อา...

"ฟังแล้วอาหลีสบายใจขึ้นมากจริงๆ"

แน่นอนว่านางไม่ได้สบายใจ แต่นางพูดประชด!

"ข้าอยากไปดื่มสุรากับอาลู่ เจ้าจะไปกับข้าหรือไม่"

จู่ๆ ซ่งไป๋เซียวก็เปลี่ยนเรื่อง มือเรียวของหลินหลีฮวาชะงัก แต่คิดไปคิดมาได้ดื่มสุราช่วงเวลานี้ก็ดีเช่นกัน นางเองก็กำลังสับสนเพราะหวาดกลัวกับอนาคต ไม่แน่ใจแล้วว่าที่เลือกจะแต่งงานกับท่านหมอซ่งแล้วย้ายตามเขาไปเหยียนจิ่งนี้ตนเองเลือกเส้นทางชีวิตถูกแล้วจริงๆ

"ไป!"

เช่นนั้นแล้วท่ามกลางแสงจันทร์คืนเพ็ญเก้าค่ำหนึ่งเงาร่างสูงใหญ่กับหนึ่งเงาร่างเล็ก จึงเคียงข้างกันไปบนหลังอาชาตัวใหญ่มุ่งหน้าไปยังสุสานสกุลหลิน พร้อมกับสุราอย่างดีสองไห

"อาลู่ คืนนี้ข้ามาดื่มสุรากับเจ้า"

หลังยืนอยู่หน้าหลุมศพของหลินลู่เฟย ซ่งไป๋เซียวก็จัดแจงเทสุราลงชาม วางลงบนหน้าหลุมศพ จากนั้นเขาก็ทรุดลงนั่งยกสุราของตนเองดื่ม

"พี่ใหญ่ ท่านย่า ท่านปู่ ท่านพ่อ ท่านแม่ อาหลีมาลา พรุ่งนี้อาหลีจะไปเมืองหลวงแล้ว ไม่รู้เมื่อใดจะได้กลับมา"

หลินหลีฮวาเองก็จัดแจงเทสุราใส่ถ้วยแล้วนำไปวางหน้าหลุมศพของทุกคน แต่มีหนึ่งถ้วยที่เกินมาซ่งไป๋เซียวจึงสงสัย

"ถ้วยนั้นของผู้ใด"

"ของสหายเก่าของข้า"

เจ้าของร่างนี้ก็นับเป็นสหายเก่าก็แล้วกัน อย่างน้อยนางก็อาศัยร่างและนามของอาหลีคนเก่า ต่อไปนางจะจากไปแล้ว ชะตาชีวิตนางไม่ทราบอนาคต จึงอยากอำลาทุกดวงวิญญาณ

"ข้าจะพยายามหาเวลาเจ้ามากราบไหว้พวกเขาทุกปี"

ไม่ใช่คำสัญญาณ แต่มันคือเป้าหมายของเขาซ่งไป๋เซียวคิดเช่นนั้น นับจากวันที่หลินลู่เฟยเสียสละชีวิตปกป้องและตายแทนเขา ซ่งไป๋เซียวนั้นก็ปฏิญาณกับตนเองเอาไว้แล้วว่าชีวิตที่เหลือจะใช้มันปกป้องท่านย่าและน้องสาวแทนหลินลู่เฟย บัดนี้เหลือเพียงหลินหลีฮวาเขายิ่งต้องมีชีวิตเพื่อดูแลนางปกป้องนาง และหวังดีต่อนางให้เท่ากับพี่ชายของนางหรือมากกว่า

"อาหลี"

"เจ้าค่ะ"

"หากวันหน้า เจ้าพบบุรุษที่รัก เจ้าบอกกับข้าได้นะ ข้ายินดีสนับสนุนเจ้า"

"หมายถึงท่านยินดีจะหย่าให้ข้า?"

"ใช่ ขอเพียงบุรุษผู้นั้นเป็นคนดีและรักเจ้า ไม่รังเกียจที่เจ้าเคยแต่งงานมาแล้ว ข้ายินดี"

"..."

รู้สึกแปลกอยู่บ้าง ค่ำคืนแต่งงานนอกจากไม่ได้เข้าหอเช่นสามีภรรยาคู่อื่นแต่มาดื่มสุราที่หน้าหลุมศพแล้ว สามีของนางยังบอกจะหย่าให้ แปลกดียิ่ง!

แต่จะอย่างไรในใจของทั้งต่างก็ไม่ได้แต่งงานกันด้วยความรักและความเห็นของผู้ใหญ่ หากวันหน้าเกิดมีอันใดเปลี่ยนแปลงก็ถือว่ามันเป็นชะตาชีวิต ในที่สุดหลินหลีฮวาก็คิดตก เลิกสับสน เลิกกังวล ชีวิตคนเรามันก็เท่านี้ อดีตผ่านมาแล้วแก้ไขไม่ได้ ส่วนพรุ่งนี้มันก็ยังมาไม่ถึง นางจะคิดมากไปไย ชีวิตของคนเรามีแค่วันนี้ หากวันนี้นางทำเต็มที่แล้ว พรุ่งนี้ก็ให้มันเป็นเรื่องของพรุ่งนี้ก็แล้วกัน...

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 50 || หัวใจของข้ามันตายไปพร้อมกับเจ้า!

    ตอนที่ 50 || หัวใจของข้ามันตายไปพร้อมกับเจ้า!…คุกหลวงของกรมอาญา…ภายในห้องขังมืดมิด ไร้แสงสว่าง มีเพียงแสงจากคบเพลิงด้านนอกที่ส่องลอดผ่านลูกกรงเข้ามาให้เห็นเงาราง ๆ ของร่างที่ถูกจองจำเหล่ยหลัวเฟย นั่งพิงกำแพง หายใจรวยริน นางหมดเรี่ยวแรง ขยับร่างกายไม่ได้แม้เพียงปลายนิ้วพิษของยาสลายกระดูกยังแทรกซึมไปทั่วร่าง แต่นั่นมิใช่สิ่งที่ทำให้นางเจ็บปวดที่สุดสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือ…คนที่ส่งนางมาที่นี่คือเหล่ยหลัวฟาง!"หลัวฟาง… เจ้าสมควรได้รับผลกรรมที่เจ้าก่อ! "เสียงของ ซ่งไป๋เซียว ดังขึ้นอย่างเย็นเยียบจากนอกห้องขัง ก่อนที่เขาจะก้าวเข้ามาในเงามืด ยืนกอดอกมอง ‘นาง’ ด้วยแววตาเย็นชาหลัวเฟยพยายามเปล่งเสียงเรียกเขา… แต่นางทำไม่ได้!"เจ้าวางแผนร้าย ต้องการเอาชีวิตของอาหลี เช่นนั้นจงได้ลิ้มรสของความตายเสียบ้าง!"กึก! กึก! กึก!เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้น ไม่นานเงาร่างของ เฉียงเว่ย ก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับถุงผ้าสีดำใบเล็ก ๆ ก่อนจะเปิดมันออกเผยให้เห็น…งูพิษสีดำตัวใหญ่จากแคว้นซีเยี่ยนถึงห้าตัว!ดวงตาของหลัวเฟยเบิกกว้าง นางพยายามขยับตัวแต่ไร้เรี่ยวแรง น้ำตาของนางไหลออกมาอย่างไม่อาจควบคุม…นางกำลังจะตาย!

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 49 ||แม้แต่น้องสาวเจ้าก็กล้าขาย!

    ตอนที่ 49 ||แม้แต่น้องสาวเจ้าก็กล้าขาย!ภายในเรือนของฮูหยินซ่ง ไป๋ซั่ว นั่งไขว้ขาบนเก้าอี้ ดวงตาคมปลาบจ้องตรงไปยังเหวินเปียวที่ยืนทำความเคารพอยู่ตรงหน้า หลังจากได้รับรายงานเกี่ยวกับเบื้องหลังของเรื่องทั้งหมด สีหน้าของไป๋ซั่วเคร่งเครียดและเต็มไปด้วยความคาดไม่ถึง"เป็นนางไปได้อย่างไร?"เขาพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยสงสัย เหล่ยหลัวฟาง มาก่อน แต่นางเป็นพี่สาวฝาแฝดของว่าที่ฮูหยินของเขา! คนเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกันแท้ ๆ ไฉนเลยจะมีจิตใจอำมหิตถึงเพียงนี้? ที่สำคัญ… หลัวฟางไม่ห่วงน้องสาวของตนบ้างเลยหรือ?ต่างจาก ไป๋เซียว ที่นั่งเฝ้าอาหลีอยู่ไม่ไกล สีหน้าของเขาดำทะมึนลงทันทีที่ได้ฟังรายงานจากเหวินเปียว เพลิงโทสะในดวงตาของเขาร้อนแรงจนแทบจะลุกไหม้ได้"หลัวฟาง…" ไป๋เซียวกัดฟันกรอด ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงกดต่ำ"คราวนี้ข้าจะไม่ปล่อยนางไว้แน่!"บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความตึงเครียด ท้องฟ้ายามราตรีของจวนสกุลซ่งเงียบสงัด ทว่าเบื้องหลังความเงียบงันนั้นคือพายุร้ายที่กำลังก่อตัว"หลักฐานทั้งหมดมัดตัวหลัวฟางแน่นหนา นางเป็นผู้วางแผนทั้งหมด นางต้องรับโทษ!" ไป๋เซียวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 48 || สืบหาผู้อยู่เบื้องหลังงูพิษ

    ตอนที่ 46 || สืบหาผู้อยู่เบื้องหลังงูพิษภายในเรือนของ ฮูหยินซ่ง บรรยากาศเต็มไปด้วยความกดดันและเคร่งเครียด ไป๋เซียว นั่งเฝ้าข้างเตียงของ อาหลี ไม่ห่าง สองมือของเขากุมมือเล็กที่ซีดเซียวไว้แน่น ความเย็นของมือนางทำให้เขาแทบบ้าตายเขาไม่เคยรู้สึกสิ้นหวังและโกรธแค้นเท่านี้มาก่อน!"อาหลี… เจ้าต้องไม่เป็นอะไร…"เขากัดฟันแน่น นับตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงยามเฉิน เขาเปลี่ยนยาดูดพิษและป้อนยาให้นางตรงตามเวลา แต่อาการของอาหลีกลับดีขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดวงตาคมปลาบแฝงไปด้วยเพลิงโทสะที่พร้อมเผาผลาญทุกคนที่ทำร้ายนางแต่บัดนี้… ไป๋เซียว ยังมิอาจทำตามใจตนเองได้เขาจะรอให้อาหลีฟื้นขึ้นมาก่อน… จากนั้นเขาจะทำให้ผู้ที่คิดร้ายกับนางไม่ได้ตายดีแน่!ทันใดนั้นเอง เสียงฝีเท้าหนักแน่นก็ดังขึ้นหน้าห้อง ก่อนที่ร่างสูงของ ไป๋ซั่ว จะก้าวเข้ามา ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดไม่แพ้กัน"ข้ากลับมาจากวังหลวงก็ได้ยินเรื่องของอาหลีแล้ว!"น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหนักใจและโกรธแค้น ในสายตาของ ไป๋ซั่ว น้องสะใภ้ผู้นี้อยู่ในฐานะเดียวกับน้องสาวของเขาเองพอได้เห็นอาหลีบาดเจ็บหนัก นอนนิ่งไม่รู้สึกตัวเช่นนี้ ไป๋ซั่วก็โกรธจนแทบระเบิด!เ

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 47 || ส่งเสริมน้องสะใภ้สุดกำลัง!

    ตอนที่ 45 || ส่งเสริมน้องสะใภ้สุดกำลัง!ในขณะที่จวนซ่งอาหลีต้องเผชิญเรื่องร้าย ท่านด้านซ่งไป๋ซั่วนั้นก็ถูกไท่หมิงฮ่องเต้เรียกเข้าเฝ้าเป็นการส่วนตัว…บัดนี้ที่ห้องรับรองเล็ก ภายในตำหนักอวิ๋นหลงของวังหลวง ที่ประทับส่วนพระองค์ของไท่หมิงฮ่องเต้ มีบุรุษผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินต้าฉู่นั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วยกิริยาผ่อนคลาย ที่มือซ้ายถือถ้วยชาลวดลายมังกรวิจิตรเอาไว้ ท่าทีดูผ่อนคลายก็จริงแต่สายนั้นยังคมลึกเต็มไปด้วยความน่าเกรงขามซ่งไป๋ซั่วยืนอยู่ด้านล่าง บรรยากาศรอบตัวไม่ถึงกับเคร่งขรึม เช่นเมื่ออยู่ในท้องพระโรงใหญ่ ทว่าใบหน้าของท่านราชเลขากลับยังคงนิ่งสงบสำรวมเช่นเดิม"เจ้าบอกว่า… ฮูหยินของไป๋เซียว เสี่ยงชีวิตเข้าไปรักษาคนป่วยในหอนางโลม?" ไท่หมิงฮ่องเต้เอ่ยถาม ดวงตาของพระองค์จับจ้องไป๋ซั่วแน่วแน่ไป๋ซั่วประสานมือคารวะ "พ่ะย่ะค่ะ""นางรู้หรือไม่ว่าสิ่งนี้อาจทำให้ตนเองเดือดร้อน?""นางย่อมรู้ดีพ่ะย่ะค่ะ" ไป๋ซั่วกล่าวเสียงหนักแน่น"แต่นางกลับยังเลือกที่จะทำ เพราะสำหรับอาหลีแล้ว ความเป็นความตายของผู้คนสำคัญกว่าชื่อเสียงของตนเอง"ไท่หมิงฮ่องเต้เงียบไปครู่หนึ่งหลังฟังจบ ก่อนเขาจะวางถ้วยชาลง แววตาของพระองค์

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่ 46 ||งูกัดเจ้าแต่พิษกระจายมาถึงหัวใจข้าแล้ว…

    ตอนที่ 46 ||งูกัดเจ้าแต่พิษกระจายมาถึงหัวใจข้าแล้ว…ภายในห้องของ ฮูหยินซ่ง บรรยากาศตึงเครียดจนแทบไม่มีใครกล้าหายใจแรง ทุกคนต่างเฝ้ามอง อาหลี ด้วยความเป็นห่วง ร่างของเด็กสาวตัวเล็กนอนอยู่บนเตียงกว้าง เหงื่อเย็นไหลซึมทั่วใบหน้า เสื้อผ้าที่นางสวมใส่เปียกชุ่มไปหมด ริมฝีปากซีดเผือด ดวงตากลมโตพร่ามัวเพราะพิษกำลังแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือดถึงอย่างนั้น นางกลับไม่ร้องไห้แม้แต่ครึ่งคำอาหลีเป็นหมอ นางย่อมรู้ว่าหากตนเองขาดสติ จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก และอาการของนางอาจหนักจนเกินกว่าจะรักษาได้ ดังนั้นนางจึงอดทนทุกข์ทรมานโดยไม่ปริปาก นางรู้สึกเหมือนร่างกายถูกไฟแผดเผาจากภายใน ความร้อนและอาการชาแผ่ขยายจากข้อเท้าขึ้นมาเรื่อย ๆ หากยังไม่มีใครมาถอนพิษ นางคงหมดสติในอีกไม่นานแต่ต่อให้นางเจ็บปวดทรมานเพียงใด อาหลีก็ยังคงมีสติและคิดแทนผู้อื่น"อาหนิว อาจิ่ว… ยา… เตรียมสมุนไพร… ไว้ให้พร้อม… อย่าลืม…"เสียงของนางแหบแห้ง และแผ่วเบาราวกับลมหายใจ แต่นางยังคงสั่งการอย่างมั่นคง อาหนิวกับอาจิ่วรีบพยักหน้า ทั้งสองสาวใช้ที่ภักดีต่อฮูหยินของพวกนาง น้ำตานองหน้า แต่ก็ทำตามคำสั่งโดยไม่อิดออดนางคือฮูหยินของท่านหมอซ่

  • สะใภ้รองสกุลซ่งผู้ถูกบิดาสามีชิงชัง   ตอนที่45|| แผนปลิดชีพอาหลีของหลัวฟาง

    ตอนที่45|| แผนปลิดชีพอาหลีของหลัวฟางภายในห้องส่วนตัวของ เหล่ยหลัวฟาง บรรยากาศเต็มไปด้วยความคับแค้นและเดือดดาล ความเงียบภายในเรือนถูกทำลายด้วยเสียงสบถของนางที่เต็มไปด้วยโทสะรุนแรง"นังอาหลีนั่นรอดไปได้อีกแล้ว!"เสียงของนางดังลั่นราวกับจะสะท้อนความโกรธเคืองออกมาให้ทั่วทั้งเรือนรับรู้ นางกำหมัดแน่นจนเล็บจิกลงไปในเนื้อของตนเอง ความโกรธแค้นทำให้ดวงตาของนางแดงก่ำ ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านไปด้วยเพลิงโทสะที่เดือดพล่านทำไม?ทำไมนังสวะนั่นถึงรอดมาได้ทุกครั้ง!?แผนการของนางถูกวางไว้อย่างแยบยล นางรู้ดีว่า ซ่งไท่จวิน และ ใต้เท้าซ่ง อยากขับไล่หลินหลีฮวาออกจากจวนสกุลซ่ง อีกทั้งพวกเขาก็อยากได้ ‘สะใภ้ที่คู่ควร’ เช่นนางเข้ามาแทนที่! แต่ทุกอย่างกลับพังพินาศเพราะ ฮูหยินซ่ง หญิงแก่ใจอ่อนที่ดันเข้ามาปกป้องนังเด็กนั่นและยิ่งนางคิดถึง ซ่งไป๋เซียว ที่พยายามทุกวิถีทางเพื่อปกป้องอาหลี หัวใจของนางก็แทบลุกเป็นไฟเขาไม่เคยมองนางเลย...ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าหลัวฟางจะทำเช่นไร ไป๋เซียวก็ยังคงเลือกปกป้อง นังเด็กสกุลหลิน!"ข้าจะไม่ยอมให้มันรอดไปได้อีก! ข้าไม่ยอม! ข้าจะต้องฆ่ามันให้ได้!!""คุณหนู ใจเย็นก่อนเถิดเจ้าค่ะ!"

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status