Share

บทที่ 8

เธอกลืนน้ำลายลงแรง ๆ ข่มความขมเฝื่อนในลำคอ “แต่ภาพลักษณ์ของฉู่ซืออี๋ไม่เข้ากับธีมผลิตภัณฑ์”

ฉู่ซืออี๋ทำงานอยู่เมืองนอกสไตล์โก้หรู

“นี่เป็นเรื่องของเธอ ไม่ใช่เรื่องของฉัน” ฟู่เจิงพูด “ฉันรู้ว่าเธอต้องมีวิธีแน่นอน แบรนด์แอมบาสเดอร์นี้สำคัญกับซืออี๋มาก ดังนั้นเธอต้องติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ”

เวินเหลียงตัวชาไปหมด ผิวหน้าแข็งทื่อ ไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี

ฟู่เจิงให้ความสำคัญกับความสามารถของเธอขนาดนี้ แต่กลับผลักรักแรกของเขามาให้ภรรยาตัวจริงอย่างเธอด้วยความโหดเหี้ยม

ฟู่เจิง คุณเห็นฉันเป็นตุ๊กตาดินปั้นจริง ๆ เหรอ เสียใจเจ็บปวดไม่เป็นใช่ไหม?

“ได้ ฉันจะพยายามสุดความสามารถแน่นอนค่ะ” ภายในลำคอของเวินเหลียงเหมือนมีเศษแก้วที่แตกระเนระนาดเกลื่อนพื้น แหบแห้งเต็มประดา ต้องใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดในการเปล่งแต่ละคำ

……

ในห้องน้ำ

เวินเหลียงอาเจียนแห้งไม่หยุด กลับไม่มีอะไรออกมาเลย

เธอลูบท้องน้อยและปลอบลูกในท้อง

กระจกตรงหน้าสะท้อนภาพผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งมีสีหน้าซีดขาว ขอบตาแดงระเรื่อ

เวินเหลียงวักน้ำเย็นล้างหน้าอย่างต่อเนื่อง

ไม่เป็นไร...

ไม่เป็นไร

ก็แค่ให้ฉู่ซืออี๋เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เองไม่ใช่เหรอ?

ก็แค่ติดตามการถ่ายโฆษณาของฉู่ซืออี๋กับการเปิดตัวเองไม่ใช่เหรอ?

นี่คืออาชีพของเธอ เธอต้องทำได้แน่

เวินเหลียงมองตัวเองในกระจกและพยายามคลี่ยิ้มเล็กน้อย

เธอเคยรับปากพ่อไว้ว่า หลังจากเขาจากไป ไม่ว่าเจอเรื่องอะไรจะต้องเข้มแข็งต่อ

พอกลับถึงห้องทำงาน เวินเหลียงโทรศัพท์กลับไปหาผู้จัดการส่วนตัวหลินเยียนหรันเพื่อปลุกปลอบขออภัย แล้วมอบแบรนด์แอมบาสเดอร์น้ำหอมแบรนด์เล็ก ๆ อีกแบรนด์หนึ่งในมือให้หลินเยียนหรันแทน พร้อมรับปากว่าในอนาคตถ้ามีโฆษณาที่เหมาะสมจะพิจารณาหลินเยียนหรันเป็นคนแรก พี่ลี่จึงยอมเลิกราในที่สุด

หลังจากวางสายโทรศัพท์ เวินเหลียงเรียกผู้ช่วยให้เอาข้อมูลเชิงลึกของฉู่ซืออี๋เข้ามา และเปิดประชุมกับพนักงานในแผนก

หลังจากยุ่งงวดทั้งวันจึงกำหนดแผนงานมาสามตัวเลือกได้

เวินเหลียงให้ผู้ช่วยติดต่อผู้จัดการส่วนตัวของฉู่ซืออี๋อีกครั้งเพื่อนัดหมายหารือเรื่องแบรนด์แอมบาสเดอร์

เวินเหลียงพิงพนักเก้าอี้ นวดระหว่างคิ้ว พลางมองเอกสารข้างมืออย่างอ่อนล้า——หนังสือสัญญาหย่า

เธอพลิกอ่านคร่าว ๆ

ฟู่เจิงใจป้ำ ไม่ตระหนี่ถี่เหนียวกับค่าเลิกราสักนิด

บ้านเดี่ยวสองหลัง รถหรูสองคัน เงินหนึ่งร้อยล้านบาท

ใจกว้างเสียจริงนะ ประธานฟู่

เวินเหลียงยิ้มขมขื่นในใจ

เวินเหลียงรีบไปห้องประชุม ช่วงเวลาระหว่างนี้ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ หัวหน้าทีมออกแบบและคนอื่น ๆ ทยอยมาถึงตามลำดับแล้ว

พักหนึ่ง ยังไม่เห็นฉู่ซืออี๋และทีมงานมาเลย

เวินเหลียงพูดกับผู้ช่วย “ไปติดต่อผู้จัดการส่วนตัวของฉู่ซืออี๋ เร่งเร็ว ๆ หน่อย”

ไม่นานผู้ช่วยก็กลับมา “ผู้อำนวยการเวินคะ เร่งแล้วค่ะ พวกเขาบอกว่าจะถึงแล้ว”

รอครึ่งค่อนเช้า หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการและคนอื่น ๆ เริ่มไม่พอใจแล้ว

เวินเหลียงพูดด้วยใบหน้าที่หงุดหงิด “ผู้จัดการส่วนตัวของฉู่ซืออี๋เบอร์อะไร ส่งมาให้ฉัน”

ขณะผู้ช่วยกำลังจะตอบก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้าประตูมา

“คุณฉู่ ประธานฟู่ คุณมาได้ยังไงคะ?” พนักงานรีบไปต้อนรับ

สองคนที่เดินนำหน้ามาก็คือฉู่ซืออี๋กับฟู่เจิง

เธออยู่ในชุดกระโปรงยาวสีเหลืองอ่อน คล้องแขนฟู่เจิงอย่างสนิทสนม

ส่วนฟู่เจิงอยู่ในชุดสูทสง่าทั้งตัว เป็นชุดที่เธอเลือกเอาไว้แล้ววางอยู่ปลายเตียงตอนเช้า

ทุกคนเห็นความสนิทสนมของทั้งสอง แลกเปลี่ยนสายตากันทีหนึ่ง พลันเข้าใจอะไรบางอย่าง

มีข่าวลือมานานแล้วว่าราชินีแห่งวงการภาพยนตร์ฉู่เป็นรักแรกของประธานฟู่ ดูท่าจะจริงแฮะ

เหมาะสมกันแท้ ๆ!

เวินเหลียงเจ็บแปลบในใจนิด ๆ ห้านิ้วกำแน่นแล้วเดินไปข้างหน้าด้วยใบหน้าสงบ “ประธานฟู่ คุณฉู่ ในเมื่อมาแล้วก็รีบเริ่มกันเถอะค่ะ”

ฟู่เจิงบอกว่าหลังจากหย่าแล้วจะยังคงเห็นเธอเป็นน้องสาว

แต่เวินเหลียงรู้ดี คนที่เคยรักด้วยใจจริงจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้อีกเด็ดขาด

ดูเขากับฉู่ซืออี๋รักซึ้งหวานแหวว เธอคงทำไม่ได้

พอหย่าแล้ว เธอมีแต่จะไปให้ไกล

ฉู่ซืออี๋เห็นเวินเหลียงก็ดึงมือเธอมาแบบเซอร์ไพรส์เล็กน้อย “อาเหลียง เธอก็อยู่ด้วยเหรอ!”

เวินเหลียงหลุบตามองมือของฉู่ซืออี๋แวบหนึ่ง ก่อนจะดึงกลับอย่างแนบเนียนแล้วพยักหน้าเล็กน้อย

ฉู่ซืออี๋คล้ายยังไม่สังเกตเห็น “ไม่เจอกันสามปี เธอเหินห่างกับฉันจังเลย ฉันยังจำได้นะ ตอนนั้นเธอเรียนมหาลัยยังเรียกฉันว่าพี่สะใภ้รองอยู่เลย”

ทุกคนกลับไม่ประหลาดใจ

หัวหน้าเวินเป็นน้องสาวบุญธรรมของประธานฟู่ ราชินีวงการภาพยนตร์ฉู่ดูจะสนิมกับเธอมาก คาดว่างานมงคลของประธานฟู่คงใกล้เข้ามาแล้ว

เวินเหลียงรู้มาตลอด เธอสู้ฉู่ซืออี๋ไม่ได้

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status