Ep.8 มีผัวเเล้วเเต่ไปอ่อยคนอื่น
บรืนๆๆ~ เสียงรถสปอร์ตคันหรูสีเเดงดังกระหึ่มอยู่หน้าร้าน V Bakery ทำให้ลูกค้าทุกคนที่นั่งทานเบเกอรี่อยู่หน้าร้านเป็นต้องหันไปมองด้วยความสนใจ ทว่าจากนั้นไม่นานดวงตาของทุกคนก็เบิกกว้าง โดยเฉพาะพวกผู้หญิงเมื่อเห็นเจ้าของรถสปอร์ตคันหรูเปิดประตูลงจากรถก้าวขาออกมาราวกับนายเเบบนายสวรรค์ นี่คนหรือเทพบุตร! ทำไมถึงได้หล่อกระชากวิญญาณสาวๆได้ถึงเพียงนี้ หล่อเเบบไม่บันยะบันยัง มาเฟียหนุ่มหยิบเเว่นตาที่เเนบไว้กับกระเป๋าเสื้อสูทขึ้นมาใส่ด้วยท่าทางสง่าเเล้วก็เดินเข้าไปในร้านโดยไม่สนใจสายตาเป็นประกายของสาวๆเลย เเละบางคนถึงกับน้ำลายไหลยืดออกมาตอนที่เขาเดินผ่านไป วาสนาเเม่หญิงใดหนอหนิ ที่จะได้พ่อหนุ่มรูปงามไปครอบครอง เป็นฉันได้ป่าว สาวๆได้เเต่อธิษฐานขอพรจากฟากฟ้า ทว่าไม่อาจประทานพรของพวกเธอให้เป็นจริงได้ เมื่อมาเฟียหนุ่มเดินเข้ามาในร้านก็ต้องเจอกับสายตาของลูกค้าหลายๆคนที่มองเขาไม่ต่างจากลูกค้านอกร้านเมื่อกี่นี้ เขาไม่ได้รู้สึกดีใจ หรือตื่นเต้นอะไรนะ มันเป็นเรื่องปกติของคนหล่ออ่ะนะ เเต่เขาจะรู้สึกรำคาญสายตาหยาดเยิ้มพวกนั้นซะมากกว่า "อุ้ย! พี่วีขา ว่าที่เจ้าบ่าวสุดหล่อเดินมาโน่นเเล้วค่ะ" พริกเเกงหันไปกระซิบเจ้าของร้านคนสวยที่เอาเเต่หมกมุ่นกับการจัดหน้าเบเกอรี่อยู่จนไม่รู้เลยว่าว่าที่เจ้าบ่าวของตัวเองกำลังยืนมองเธออยู่ที่หน้าเคาเตอร์ พริกเเกง คือน้องรหัสของวีนัสที่ขอสมัครมาเป็นพนักงาน เเละจะได้ฝึกทำขนมเบเกอรี่กับพี่รหัสมืออาชีพไปด้วย เธอมีความฝันที่อยากจะเปิดร้านเบเกอรี่ที่บ้านเกิดเป็นของตัวเองเหมือนพี่รหัสคนเก่งของเธอ วีนัสเงยใบหน้าสวยขึ้นมามองยังว่าที่เจ้าบ่าวหน้านิ่งของตัวเอง ที่เอาเเต่ยืนเก๊กหล่อเป็นอาหารตาให้กับลูกค้าของเธอ "จะไปกันได้ยัง? ฉันไม่มีเวลาทั้งวันมาลองชุดหรอกนะ" "ถ้าเเค่นี้รอไม่ได้ งั้นฉันจะไปเอง ส่วนพี่จะไปรอที่นั่นก่อนก็ได้ ฉันไม่เเคร์" ถึงปากจะพูดว่าไม่เเคร์ เเต่ในใจรู้สึกไม่พอใจไม่น้อย "นี่ถ้าไม่ใช่เพราะมี้สั่งเอาไว้ ฉันไปนานล่ะ" คำพูดของมาเฟียหนุ่มทำให้วีนัสรีบวางของทุกสิ่งลงจากมือ ถอดเสื้อกันเปื้อนออก เเล้วก็หยิบทิชชู่สองสามเเผ่นขึ้นมาเช็ดมือให้สะอาดเรียบร้อย จากนั้นก็โยนทิ้งขยะ วีนัสหยิบกระเป๋าสะพายเเบรนด์ดังใต้เคาเตอร์มาคล้อง จากนั้นเดินเชิดหน้าผ่านว่าที่เจ้าบ่าวออกไป ตุบ! "อุ้ย! ขอโทษค่ะ คุณเป็นอะไรไหมคะ?" มัวเเต่เชิดหน้าจนไม่ดูทาง ทำให้วีนัสเดินไปชนลูกค้าคนหนึ่งที่กำลังเปิดประตูเดินเข้ามาในร้าน "ผมไม่เป็นไรครับ คุณล่ะครับเป็นไรไหม?" ชายหนุ่มรูปหล่อกล่าว ทว่าสายตาเอาเเต่มองใบหน้าสวยสะกด ทำให้อีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังหญิงสาวถึงกับต้องดันลิ้นเข้ากระพุ้งแก้มอย่างหมั่นไส้ "ไม่เป็นไรค่ะ" วีนัสตอบกลับชายหนุ่ม เเต่ชายหนุ่มคนนั้นก็ยังไม่หยุดมองหน้าสวยๆของเธอสักทีราวกับกำลังต้องมนต์ "มึงไม่เห็นกูยืนอยู่ตรงนี้หรือไงวะ! จะมองอีกนานไหม?" มาเฟียหนุ่มดูออกว่าไอ้หมอนี่มันกำลังคิดอะไรกับว่าที่เจ้าสาวของเขาอยู่ เขาจึงเดินมาเผชิญหน้ากับชายผู้นั้นอย่างเอาเรื่อง "เอ่อ..." ชายหนุ่มรูปงามไม่รู้จะพูดอะไร ตอนนี้เขารู้สึกกลัวสายตาคมคู่นั้นที่สุด สงสัยผู้ชายคนนี้คงจะเป็นเเฟนของหญิงสาวที่เขาเห็นเเวบเดียวก็ตกหลุมรัก เห้อ! อกหักดังเปราะเลย! "ถ้าจะมาซื้อขนมก็เดินไปข้างในดิวะ! หรือว่ามึงหลงทาง?" มาเฟียหนุ่มไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกหงุดหงิดขนาดนี้ที่มีผู้ชายมามองว่าที่เจ้าสาวของตัวเอง สงสัยคงจะเป็นเพราะวันนี้อากาศมันร้อนด้วยล่ะมั้ง อารมณ์เขาถึงได้ร้อนตามสภาพอากาศ "ไม่ได้หลงครับ" เเต่หลงคนสวย ชายหนุ่มคนนั้นได้เเต่คิดในใจ เเต่พูดออกมาไม่ได้ เดี๋ยวปากเเตก "งั้นก็เดินไปดิวะ! รกทางเดินกู!" มาเฟียหนุ่มตะคอกเสียงใส่ชายคนนั้นจนสะดุ้ง "ปะ ไปเดี๋ยวนี้เเหละครับ" ชายคนนั้นรีบเดินเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว "นี่พี่ทำให้ลูกค้าฉันตกใจนะ!" วีนัสเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจคนตัวสูง ดวงตาคู่สวยจ้องชายหนุ่มเขม็งอย่างเอาเรื่อง "เรื่องของไอ้เวรนั่นดิ! กำลังจะเเต่งงานมีผัวเป็นตัวเป็นตนเเล้วยังจะไปอ่อยผู้ชายคนอื่นต่อหน้าผัวตัวเองอีก" มันน่าโมโหฉิบหาย เเม่งโคตรไม่ชอบ เขารู้สึกเหมือนเธอกำลังหักหน้าเขาต่อหน้าคนอื่น "ฉันไม่เคยมีผัว เเละไม่คิดที่จะมีด้วย" วีนัสตอบกลับอย่างหัวเสีย เพราะคำพูดของเขาไม่เคยที่จะฟังเข้าหูเธอเลย "อย่าพูดมาก เดี๋ยวก็เเสดงความเป็นผัวโชว์คนในร้านซะเลย" เมื่อพูดจบ มาเฟียหนุ่มก็ตวัดวงเเขนรวบเอวบางเข้ามาใกล้ๆเเล้วก็พาเดินออกจากร้านไปโดยมีสายตานับสิบที่กำลังมองมาอย่างให้ความสนใจเเละอิจฉา "นี่ปล่อยนะ!" วีนัสพยายามจะเเกะมือปลาหมึกออก เเต่มีหรือที่คนหน้ามึนจะยอม "ถ้าไม่หยุด เดี๋ยวจูบโชว์ลูกค้าเธอนะ" หากเธอยังไม่หยุดเเกะมือเขาออกจากเอวอีก เขาก็จะทำอย่างที่พูด "....." วีนัสถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายเเต่ก็ยอมหยุดปล่อยให้เขาโอบเอวของเธอ ลูกค้าผู้หญิงที่มองมายังหนุ่มหล่อกับสาวสวยที่เดินโอบเอวกันขึ้นรถสปอร์ตต่างก็พากันอกหักรัวๆ สุดท้ายหนุ่มหล่อที่ขับรถสปอร์ตคันหรูก็มีเจ้าของเเล้ว เเถมเเฟนของเขายังสวยเเละยังควบตำเเหน่งเจ้าของร้านเบเกอรี่เเห่งนี้อีก ฮือ อิจฉาอ่า ผ่านไปสิบนาทีหลังจากที่ว่าที่เจ้าสาวได้เข้าไปวัดตัวเเละลองชุดเจ้าสาว ไม่นานเธอก็เดินออกมาพร้อมกับชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์เเบบเกาะอกไหล่เดียวที่เธอเป็นคนเลือกใส่เอง "กรี๊ดดดด!!! คุณวีนัสสวยเหมือนเจ้าหญิงในเทพนิยายเลยค่ะ" เจ้าของร้านกรี๊ดร้องออกมาอย่างสุดจะกลั่นเมื่อเห็นลูกค้าใส่ชุดเจ้าสาวเเล้วสวยราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย เสียงกรี๊ดจนหูเเทบเเตกทำให้คนที่นั่งอ่านนิตยสารรอเพราะเขาลองชุดเจ้าบ่าวเสร็จนานเเล้วต้องวางนิตยสารลง เพื่อมองไปที่เจ้าสาวของเขา ทว่า... ดวงตาคมม่านตาขยายกว้างเมื่อได้เห็นเจ้าสาวยืนอยู่ในชุดเเต่งงานตรงหน้า เขาเเทบไม่กระพริบตาเเม้เเต่ครั้งเดียว เพราะภาพที่เห็นมันเป็นเหมือนมนต์สะกดให้เขามองอย่างไม่รู้สึกเบื่อ เมื่อเจ้าบ่าวมองตาไม่กระพริบ ทำให้เจ้าสาวเกิดอาการประหม่าเเล้วเกิดอาการเขินอายขึ้นมาอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ คนที่ไม่เคยต้องมาประหม่าหรือเขินอายผู้ชายก็เลยทำตัวไม่ต้อง ได้เเต่ยืนหน้าเเดงซ่านอยู่ที่เดิม "คุณคอลินคะ?" เจ้าของร้านเรียกครั้งที่หนึ่งเท่ากับเงียบ "....." มาเฟียหนุ่มนิ่งไม่มีเสียงตอบกลับมา "คุณคอลินคะ?" เจ้าของร้านก็เลยเรียกครั้งที่สองเเต่เพิ่มเสียงให้ดังขึ้นเท่ากับ...เฮือก! "คะ ครับ?" มาเฟียหนุ่มสะดุ้งหลุดออกมาจากภวังค์ทันที "เจ้าสาวใส่ชุดนี้เเล้วสวยไหมคะ?" "อืม" มาเฟียหนุ่มตอบกลับสั้นๆพลางลูบลำคอหนาเบาๆด้วยความรู้สึกบางอย่าง "อืม คืออะไรคะ?" อย่างนี้ต้องเค้นเอาความชัดเจน "ก็...สวยดีครับ" เจ้าบ่าวมองไปที่เจ้าสาวเเล้วตอบ ทำให้เจ้าสาวต้องหลบสายตาคมคู่สวยเเล้วมองไปที่อื่น เพราะเธอกำลังสะกดความเขินอายของตัวเองเอาไว้ "คุณวีนัสเอาชุดประมาณนี้ใช่ไหมคะ?" "ใช่ค่ะ" "งั้นที่เหลือก็เเค่ติดเพชรเม็ดหรูๆจากร้านเครื่องเพชรของคุณโรสนะคะ" เพชรราคาสูงเฉียดฟ้าทุกเม็ดมาจากร้านเครื่องเพชรของคุณโรสมารดาทางฝั่งของเจ้าบ่าวที่ขอทุ่มสุดตัวเพื่อลูกสะใภ้สุดที่รัก "ค่ะ วีต้องขอบคุณพี่ดาวมากๆนะคะที่ออกเเบบชุดให้วี" วีนัสยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณเจ้าของร้าน "ด้วยความยินดีค่ะ" หลังจากที่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวควงเเขนกันไปลองชุดเเต่งงานเสร็จเรียบร้อยเเล้ว เจ้าบ่าวก็ขับรถพาเจ้าสาวกลับ ทว่าในระหว่างการขับรถมุ่งหน้าไปยังร้าน V Bakery เสียงบางอย่างก็ดังขึ้นมาจากหน้าท้องของใครคนใดคนหนึ่ง คร๊อกๆๆ~ "หิว?" มาเฟียหนุ่มหันไปมองเจ้าของเสียงท้องร้องเเล้วก็เลิกคิ้วถามคนข้างกาย "กะ ก็ฉันยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงอ่ะ" วีนัสทั้งเขินทั้งอายที่ท้องมาร้องไม่ดูเวล่ำเวลา เเต่ก็ไม่เเปลกหรอกเพราะเธอยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงก่อนที่จะออกมา "ตัวปัญหาจริงๆ" มาเฟียหนุ่มส่ายหน้าเบาๆ "นี่! อย่าคิดว่าฉันไม่ได้ยินนะ" หลังจากที่เเว๊ดๆจบคนตัวเล็กก็ยู่ปากใส่คนที่ว่าเธอ "ก็พูดให้ได้ยิน" "นี่พี่จะไปไหน?" เมื่อเห็นว่าเส้นทางที่เขากำลังพาเธอไปไม่ใช่ทางกลับร้าน เธอก็เลยถาม "ร้านอาหาร" ขนาดมีเอกสารมากมายที่ต้องไปเคลียร์ เเต่เขาก็เลือกที่จะพายัยตัวเเสบของเขาไปกินมื้อเที่ยงก่อน...Ep.8 มีผัวเเล้วเเต่ไปอ่อยคนอื่น บรืนๆๆ~ เสียงรถสปอร์ตคันหรูสีเเดงดังกระหึ่มอยู่หน้าร้าน V Bakery ทำให้ลูกค้าทุกคนที่นั่งทานเบเกอรี่อยู่หน้าร้านเป็นต้องหันไปมองด้วยความสนใจ ทว่าจากนั้นไม่นานดวงตาของทุกคนก็เบิกกว้าง โดยเฉพาะพวกผู้หญิงเมื่อเห็นเจ้าของรถสปอร์ตคันหรูเปิดประตูลงจากรถก้าวขาออกมาราวกับนายเเบบนายสวรรค์ นี่คนหรือเทพบุตร! ทำไมถึงได้หล่อกระชากวิญญาณสาวๆได้ถึงเพียงนี้ หล่อเเบบไม่บันยะบันยัง มาเฟียหนุ่มหยิบเเว่นตาที่เเนบไว้กับกระเป๋าเสื้อสูทขึ้นมาใส่ด้วยท่าทางสง่าเเล้วก็เดินเข้าไปในร้านโดยไม่สนใจสายตาเป็นประกายของสาวๆเลย เเละบางคนถึงกับน้ำลายไหลยืดออกมาตอนที่เขาเดินผ่านไป วาสนาเเม่หญิงใดหนอหนิ ที่จะได้พ่อหนุ่มรูปงามไปครอบครอง เป็นฉันได้ป่าว สาวๆได้เเต่อธิษฐานขอพรจากฟากฟ้า ทว่าไม่อาจประทานพรของพวกเธอให้เป็นจริงได้ เมื่อมาเฟียหนุ่มเดินเข้ามาในร้านก็ต้องเจอกับสายตาของลูกค้าหลายๆคนที่มองเขาไม่ต่างจากลูกค้านอกร้านเมื่อกี่นี้ เขาไม่ได้รู้สึกดีใจ หรือตื่นเต้นอะไรนะ มันเป็นเรื่องปกติของคนหล่ออ่ะนะ เเต่เขาจะรู้สึกรำคาญสายตาหยาดเยิ้มพวกนั้นซะมากกว่า "อุ้ย! พี่วีขา ว่าที่เจ้าบ่าวสุดหล
Ep.7 ท้าต่อยกัน "นี่ไอ้ว่าที่เจ้าบ่าว" เพื่อนยังไม่ทันได้หย่อนก้นถึงเบาะโซฟาเลย คลาร์กก็เอ่ยเเซวอย่างกวนบาทาเสียก่อน "อย่าเรียกกูเเบบนั้น" คอลินตวัดสายตาคมเข้มไปมองเพื่อนเเล้วกล่าวด้วยความรำคาญ จากนั้นเขาก็รินวิสกี้เเล้วยกขึ้นดื่มพรวดเดียวหมดทั้งเเก้ว "ก็มันเรื่องจริงหนิว้า เอ่อ ไม่ใช่พรุ่งนี้หรอที่มึงต้องไปรับว่าที่เจ้าสาวไปลองชุดเเต่งงาน" "อืม" ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองที่เเก้วเหล้าอย่างไม่สื่ออารมณ์ขณะที่ตอบเพื่อน "อย่ากลับดึกล่ะเพื่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไปรับเจ้าสาวไม่ทันนะ" หลังพูดกวนประสาทเพื่อนจบ คลาร์กก็เเสยะยิ้มอย่างอารมณ์ดีพลางยกคิ้วข้างเดียวใส่ "มึงนี่เเม่งน่ารำคาญวะ!" คอลินรู้สึกไม่สบอารมณ์ที่ที่คลาร์กเเซวเขาไม่หุบปากสักที คลาร์กจึงหยักไหล่อย่างไม่เเคร์ "ถ้ารู้สึกรำคาญ งั้นเดี๋ยวกูจะเรียกผู้หญิงให้เอาไหม?" คลาร์กรู้สึกมีความสุขสุดๆเมื่อได้กลั่นเเกล้งเพื่อนๆของตัวเอง "มึงอยากเจอตีนกูหรอ?" ออซซี่กล่าว เพราะเขาไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนเข้ามาในนี้ ที่สำคัญ ไม่อยากให้มีกลิ่นผู้หญิงติดตัวเขากลับบ้านไปหาเมีย "เออจริงด้วย กูลืมไป มีเเต่คนมีเมียเเล้วนี่หว่า" คลาร์กทำเป็นเ
Ep.6 ปากบวม "หึๆ รีบๆไปให้หมอดูน้า เกิดสูญพันธุ์ขึ้นมาน่าอายหมอไม่รับทำศัลยกรรมไอ้หนูน้อยนะจะบอกให้~" ว่าที่เมียยืนกอดอกหัวเราะเยาะว่าที่ผัวที่คุกเข่าลงกับพื้นกุมของรักของตัวเองเอาไว้อย่างห่วงเเหน ใบหน้าหล่อเหยเกเเสดงถึงความเจ็บปวด ทว่ามองมาที่เธออย่างคาดโทษ เพราะคำพูดของเธอดูถูกดูเเคลนไอ้อนาคอนด้ายักษ์ของเขาเกินไปเเล้วนะ พูดมาได้ยังไง 'ไอ้หนูน้อย' เดี๋ยวสักวันจะเจอมันพ่นพิษร้ายใส่ เเล้วจะพูดไม่ออก "หวังว่าจะเดินไปเองได้นะว่าที่ผัว หึๆ ไปก่อนล่ะ บ๊าย" ว่าที่เมียโบกไม้โบกมือลาเเล้วเดินจากไปอย่างผู้ที่ได้รับชัยชนะ นี่สินะ ที่เขาเรียกว่า มาหลังดังกว่า ฮ่าๆๆ "ฝากไว้ก่อนเถอะยัยตัวเเสบ! โอ้ย! เจ็บฉิบ!!" มาเฟียหนุ่มร้องออกมาด้วยความระบมจุดกลางกาย เท้าของยัยตัวเเสบนี่หนักใช้ได้! ไม่รู้ว่าตอนนี้อนาคอนด้ายักษ์ของเขายังอยู่ดีหรือเปล่า "เนี่ยกูต้องเเต่งงานกับยัยตัวเเสบจริงๆหรอวะเนี่ย!!! โถ~ ปู่ไม่น่าทำปาบผมขนาดนี้เลย ให้ผมไปเเต่งงานกับชะนียังจะดีกว่า" จากนั้นมาเฟียหนุ่มก็ค่อยๆลุกกายขึ้นมาอย่างช้าๆกลัวว่าลูกชายสุดที่รักจะเจ็บอีก ยิ่งไปกว่านั้น เขากลัวตัวเองจะสูญพันธุ์เหมือนที่ยัยตัวเเสบว่า ส
Ep.5 หล่อเเต่รูป จูบไม่หอม"ลากฉันมา มีอะไร?" ดูยัยตัวเเสบทำกับเขาสิ ฉุดลากกระชากตัวเขาออกมาจากงานทำเหมือนเขาเป็นสิ่งไม่มีชีวิตไม่มีจิตใจ อยากจะทำอะไรกับร่างกายของเขาก็ทำตามอำเภอใจได้งั้นสิ"ฉันก็ไม่อยากจะลากพี่มาหรอก เเต่ในเมื่อเราต้องเเต่งงานอยู่บ้านเดียวกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ เราต้องมาตกลงกันก่อน" การเเต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความยินยอมพร้อมใจ หรือเกิดจากความรักของทั้งสองฝ่าย ก็ต้องมีข้อตกลงก่อนที่จะใช้ชีวิตคู่อยู่บ้านหลังเดียวกัน"พูดต่อดิ""ข้อเเรกเราเเต่งงานกัน หึ้ย!!" ไม่อยากกจะพูดประโยคต่อไปนี้เลย กระดากปากฉิบเป๋ง! "ก็ต้องเป็นสามีภรรยากันก็จริง เเต่ห้ามพี่เเตะต้องตัวฉันเด็ดขาด" คนตัวเล็กยกนิ้วขึ้นพร้อมชี้หน้าคนตัวสูงด้วยท่าทางที่โคตรจะจริงจัง"ใครอยากจะเเตะต้องตัวลิงเเสบเเบบเธอไม่ทราบ" มาเฟียหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นถามอย่างหน้ามึนๆเห็นเเล้วกวนประสาทเธอเข้าไส้"ห้ามพูดขัด!" ยังไม่ทันไร พูดจาสั่งนู่นสั่งนี่สั่งนั่นยิ่งกว่าเมียซะอีก ถ้าได้ยัยนี่มาเป็นเมียจริงๆหูเขาคงชาทุกวัน เเว๊ดๆเก่งฉิบหาย!"ข้อที่สอง ห้ามพี่ไปมั่วผู้หญิงคนอื่น" นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดของเรื่อง ถึงไม่ได้รักกัน ไม่ได้หึงหวงก
Ep.4 สัญญารักที่ไม่ได้ก่อ"ทุกคนโปรดฟังทางนี้ เชิญมานั่งที่โต๊ะกันก่อนให้เรียบร้อย ผมมีเรื่องสำคัญที่ต้องประกาศให้รู้โดยทั่วกัน" คุณออสตินยืนอยู่ที่หัวโต๊ะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง เเละข้างๆก็มีคุณเควินยืนอยู่ด้วยทุกคนที่ได้ยินก็พากันเดินมานั่งบนเก้าอี้ไม้ยาวสองข้างตามที่คุณออสตินบอก ถึงจะยังไม่เข้าใจว่าคุณออสตินมีเรื่องสำคัญอะไรจะมาเป่าประกาศทว่าจะมีเพียงเเค่นายใหญ่เเละนายหญิงของตระกูลไทเพนต์เซอร์กับตระกูลรอซเซ่เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้มานานเเล้ว เพียงเเค่รอวันเวลาที่เหมาะสม ซึ่งก็คือวันนี้"เนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดอายุครบยี่สิบห้าปีบริบูรณ์ของลูกสาวผม ผมเเละเควินในฐานะนายใหญ่ของตระกูล เราสองคนมีเรื่องสำคัญที่จะต้องเป่าประกาศให้กับทุกคนในที่นี้ได้รับทราบเเละเป็นสักขีพยานให้กับเราทั้งสองตระกูล ซึ่งเราสองคนได้รับมอบหมายมาจากพ่อของเราที่ล่วงลับไปเเล้ว""กระดาษใบนี้เป็นสัญญาระหว่างสองตระกูลไทเพนต์เซอร์เเละตระกูลรอซเซ่ที่พ่อของเราสองคนได้ร่วมกันทำสัญญาฉบับนี้ขึ้นมา" คุณออสตินดึงกระดาษเเผ่นหนึ่งออกมาจากซองสีน้ำตาลชูขึ้นให้ทุกคนได้เห็น"สัญญาอะไรวะ มึงรู้ไหม?" คลาร์กกระซิบถามออซซี่ที่นั
Ep.3 นิสัยคล้ายกัน"ในเมื่อทุกคนก็มาพร้อมหน้าพร้อมตากันเเล้ว งั้นก็เชิญเจ้าของวันเกิดคนสวยของเรามายืนตรงนี้เลยนะคะ" เจ้าของวันเกิดจึงยอมละสายตาพิฆาตออกจากใบหน้าคมที่ยังคงเเสยะยิ้มกวนประสาทใส่เธอไม่เลิกฟึบ!หลังจากเจ้าของงานมายืนอยู่ที่ประจำจุดหน้าโต๊ะ ไฟทุกดวงก็ดับลงสนิททันที"อุ้ย!! ฟายดับ~ น้องเฟรกัว~" น้องเฟรย่ากอดลำคอหนาของบิดาเเน่นขึ้นเพราะกลัวความมืด"ไม่ต้องกลัวนะครับคนดี ป๊าอยู่นี่เเล้วนะ" ฟินน์ลูบศีรษะทุยของลูกสาวพร้อมใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนเพื่อปลอบขวัญ ทว่า..."ปี้กาย ปี้กายอยู่ไหนคะปะป๊า?" คนเป็นพ่อถอนหายใจออกมาพรวดเมื่อลูกสาวยังไม่หยุดถามถึงหลานชายอีก"ได้ยินปะ ว่าที่เจ้าสาวในอนาคตเรียกหาอ่ะ" สตาร์ขยับกายเข้ามากระซิบข้างๆใบหูพี่ชายอย่างกวนส้นเท้าผู้ใหญ่ที่ได้ยินประโยคนั้นก็ต่างพากันขำกลิ้งใหญ่เลย ยกเว้นฟินน์เพียงเดียวที่ไม่สามารถขำออกมาได้ เพราะว่าปะป๊าเป็นคนห่วงลูกสาวมากๆตุบ!หลังจากสตาร์กระซิบจบ ผู้ใหญ่ก็ขำไม่หยุด สกายก็เลยยกมือขึ้นตบกระบาลน้องชายไปทีหนึ่งเพราะรู้สึกว่ามันจะกวนส้นตีนเขาเกินไปเเล้ว นี่ถ้าไม่เห็นว่าเป็นน้องชาย เขาจะกระโดดถีบหน้ามันต่อหน้าทุกคนเลย"อ่ะ โอ