@หลายวันถัดมา
นับตั้งแต่วันนั้นก็ยังไม่มีใครโทรเข้ามาอีกเลย เคทรอจนถอดใจว่าอีกฝ่ายคงไม่สนใจโทรศัพท์มือถือตัวเองที่หายไปแล้วจริง ๆ
เธอนั่งเท้าคางมองเจ้าเครื่องสีดำด้วยสีหน้าสิ้นหวัง
“นี่ก็สามวันแล้วนะ ไม่รู้สึกตัวจริง ๆ เหรอว่าตัวเองเผลอทิ้งโทรศัพท์ไปน่ะ”
ป่านนี้ฉันโดนตราหน้าว่าเป็นหัวขโมยไปแล้วแน่ ๆ เห้อออ
ก้อกก้อกก้อก!!
และแล้วสิ่งที่รอคอยก็มาถึง เคทเปิดประตูออกกว้างแล้วสิ่งยิ้มให้พนักงานที่นำผ้าขึ้นมาส่งให้เธอเป็นประจำ
“ขอบคุณนะคะ”
เคทรีบนำเสื้อสูทและเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ซักแห้งเรียบร้อยจนหอมฟุ้งไปเก็บในตู้เสื้อผ้า ก่อนรีบมุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยตามนัดหลังโดนตามจิกจนเครื่องแทบน็อค
เนื่องจากอาทิตย์หน้าจะมีการสอบปลายภาคของเทอมแรกแล้ว เธอจึงนัดติวกับเพื่อนๆ กันหน่อยถึงแม้วันนี้ตัวเธอจะไม่มีเรียนก็ตาม
ร่างอรชรในชุดนักศึกษาพอดีตัวอวดทรวดทรงพร้อมกระโปรงสอบทรงเอสั้น 16 นิ้ว โชว์เรียวขาขาวผ่อง ก้าวฉับ ๆ ผ่านกลุ่มนักศึกษารุ่นน้องในโรงอาหารไปยังโต๊ะประจำ ก่อนหย่อนสะโพกนั่งลงข้าง ๆ ขวัญข้าวที่รออยู่ก่อนแล้ว
“เจ้าแม่สายเสมอ!”
เห็นสีหน้าลั้นลาของคนที่เพิ่งมาแล้วขวัญข้าวก็อดแขวะสักประโยคไม่ได้ แต่คนถูกแขวะกลับไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
“นิด ๆ หน่อย ๆ เอง อย่าซีเรียสสิจ๊ะ ไม่เอานะไม่กัดเพื่อน”
เคทแกล้งเกาคางเพื่อนสนิทเล่น ก่อนจะหันซ้ายหันขวามองหาคนอื่น ๆ ไม่น่ามีใครมาสายไปกว่าเธอแล้วนะ
“ซันกับบริ้งค์ไปซื้อเสบียง อีกเดี๋ยวคงมา”
ขวัญข้าวไขข้อสงสัยให้ เธอเขยิบตัวเข้าใกล้เพื่อนมากขึ้นแล้วจ้องหน้าจับผิดไปด้วย
“จ้องหน้าฉันทำไมยะ จะถามอะไรก็ถามมา!”
“แกตอบฉันมานะ ว่าเจ้าของสูทคือใคร หล่อใช่มะแกถึงยอมเก็บเสื้อเน่าๆ กลับมา”
เคทกระหยิมยิ้มย่องพลางใช้มือเล็กดันหน้าผากเพื่อนออกห่าง
“รู้แค่ว่าชื่อวิน แล้วก็.......”
เธอแกล้งลากเสียงเพ่งมองสีหน้าอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนแล้วนึกขำ
“เอ้า! อย่าลีลาได้มะ ตอบมาเร็วๆ ยัยนี่นิ!”
ขวัญข้าวเขย่าแขนเพื่อนสาว เร่งเร้าคนชอบแกล้งที่ไม่ยอมบอกชื่อซะที
“ฮ่า ๆ เออ! หล่อ! หล่อมากกกกกกกก!!”
ขวัญข้าวกรี๊ดกร๊าดเสียงดังก่อนจะถูกคนข้าง ๆ ตะครุบปากอย่างไว เพราะเสียงแปดหลอดของเธอทำเอานักศึกษาที่นั่งอยู่ในระแวกใกล้เคียงหันมามองเป็นตาเดียวกันหมด
“เบาๆ สิ! แกจะแหกปากทำไมเนี้ย กินโทรโข่งเข้าไปเป็นอาหารเช้าหรือไงยะ”
เคทเอ็ดเพื่อนเสียงเข้มก่อนที่จะหยิบหนังสือขึ้นมากางบนโต๊ะ ยกสองมือขึ้นปิดหูทำเป็นไม่สนใจจะตอบคำถามอื่น ๆ ของคนขี้เผือกที่เอาแต่ใช้หัวกระแซะๆ ไม่หยุด จนสุดท้ายอีกฝ่ายยอมแพ้แบะปากใส่แล้วเปิดหนังสืออ่านตาม
ไม่ถึงสิบนาทีซันกับบริ้งค์ก็หอบเอาเสบียงถุงใหญ่มาวางบนโต๊ะ ทั้งสี่นั่งอ่านหนังสือและผลัดกันถามในหัวข้อที่จะมีการสอบจนกระทั่งบ่ายคล้อย ถึงแม้ว่าความเป็นจริงจะหมดเวลาไปกับการหยอกเล่นกันมากกว่า 70% ของเวลาทั้งหมดก็ตาม
ครืดครืด ครืดครืด
เสียงโทรศัพท์สั่นเตือนสั้นๆ พร้อมหน้าจอที่ปรากฏภาพอีเมลเด้งเตือน
มือเล็กปัดเศษขนมออกจากนิ้วมือก่อนจิ้มเปิดอ่านข้อความด้านในและรูปภาพที่แนบมาด้วย
“กรี๊ดดดดดด ฉันได้ที่ฝึกงานแล้วเว้ยยยย”
และไม่หยุดคิดให้เสียเวลา!ใบหน้าคมฟุบลงกลางกายสาวอย่างรวดเร็ว ปลายลิ้นร้อนตวัดเลียลงบนยอดเกสรระรัว มือกดล็อคร่างบางที่ดิ้นพล่านเอาไว้แน่นแล้วใช้มืออีกข้างกดนิ้วกลางแทรกเข้าไปด้านในจนสุดความยาว“ฮืมมม แน่น”แค่นิ้วยังแน่นขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเกิดเป็นของเขาสอดเข้าไป มันจะแน่นสักแค่ไหน กวินครางงึมงำแล้วเร่งจังหวะปลายลิ้นให้เร็วขึ้น นิ้วมือชักเข้าออกรัวเร็วก่อนเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปอีก“อื้อออ เจ็บ!”เคทนิ่วหน้าสะดุ้งกับความคับแน่นกลางกาย ร่างกายร้อนรุ่มไปทั้งตัว รู้สึกเจ็บแปลบและเสียวซ่านปะปนกันไป ขาเรียวเหยียดเกร็งสั่นระริก มือเล็กสอดเข้าใต้เรือนผมดกดำดึงทึ้งเพื่อระบายความเสียวซ่านที่กำลังโจมตีเธออย่างต่อเนื่องร่องรักคับแคบตอดรัดระรัวทำให้เขารับรู้ได้ว่าหญิงสาวกำลังจะแตะเส้นชัยในไม่ช้า เขาเร่งความเร็วของนิ้วมือมากขึ้นพร้อมทั้งดูดดึงยอดเกสรอย่างแรงสะโพกอวบยกลอยขึ้นตามลิ้นร้อนเกร็งกระตุกอย่างรุนแรงปลดปล่อยน้ำหวานออกมาจนชุ่มฉ่ำ“พะ...พอก่อน อะ อ๊าย”ร่างบางทิ้งสะโพกลงบนที่นอนอย่างหมดแรง เสียวสะท้านจนแก้มนวลแดงระเรื่อกับการเสร็จสมอย่างรุนแรงหอบหายใจแรงจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง ท้องน้อยว
“รอบนี้เอาเบา ๆ ก็พอ ไม่ต้องให้ถึงตาย”กวินสั่งการเสียงเย็นเยียบทิ้งท้าย ก่อนจะช้อนตัวหญิงสาวขึ้นอุ้มแนบอกเดินออกมายังรถยนต์คันหรูที่จอดอยู่ในโซน VVIP เขาวางร่างบางลงบนเบาะแล้วรัดเข็มขัดให้เรียบร้อย“เห็นที่วันนี้คงต้องสั่งสอนกันยาว โทษฐานที่เธอหนีเที่ยว!”กวินกล่าวคาดโทษคนเมาแล้วขับรถมุ่งตรงไปยังเพนท์เฮ้าส์ส่วนตัวสุดหรูในย่านสุขุมวิทเพียงไม่กี่นาทีจากคลับ รถยนต์คันหรูก็แล่นเข้าไปจอดในที่ประจำใต้ตึก ลิฟท์ส่วนตัวเคลื่อนขึ้นสูงหลังเขาสแกนลายนิ้วมือแล้วกดชั้นที่ต้องการเขามักจะแวะมานอนที่นี่เป็นประจำเพราะไม่อยากกลับไปเหยียบบ้านหลังเก่า นอกจากเดินทางสะดวกสบายแล้วยังมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม หมดห่วงเรื่องนักข่าวที่ตามเกาะแกะให้รำคาญใจติ้ง!ประตูลิฟท์เปิดกว้างพร้อม ๆ กับประตูบ้านที่เป็นกระจกขนาดใหญ่เลื่อนเปิดปิดอัตโนมัติ กวินก้าวเท้าเข้าไปในห้องก่อนจะวางร่างบางลงบนเตียงที่ยังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนย่างกรายเข้ามานอนบนนี้มาก่อน“อืมมม ใครน่ะ?”เคทผุดลุกขึ้นนั่งพลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ้อเอ้ เธอเอียงคอแล้วปรือตาพยายามเพ่งมองใบหน้าคมคายตรงหน้าอย่างตั้งใจมือเล็กยกขึ้นประกบสองแก้มสากแล้
Happy birthday to youHappy birthday to youHappy birthday dear SunHappy birthday to you ~ มือเล็กประคองเค้กผลไม้ในมือ ด้านบนปักเทียนวันเกิดเป็นตัวเลข 22 ถูกจุดสว่างไสวส่องให้มองเห็นใบหน้าสวยของหญิงสาวผู้ถือเค้กอย่างชัดเจนหัวใจแกร่งพองโตจนคับอกขณะจ้องมองหญิงสาวก้าวเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ ร่างบางก้าวเดินผ่านผู้คนมากมายตรงไปหาเพื่อนชายคนสนิท ปากเล็กเอ่ยร้องเพลงคลอไปด้วย ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าเจ้าของวันเกิด“Happy birthday มีความสุขมาก ๆ นะ”เคทคลี่ยิ้มละมุนยื่นเค้กให้ซันอธิษฐานแล้วเป่าเทียน เสียงปรบมือประสานกับเสียงโห่แซวชายผู้โชคดีดังสนั่นซันยกแขนขึ้นคล้องคอหญิงสาวรั้งเข้ามาใกล้พลางกระซิบขอบคุณข้างหู ท่ามกลางสายตายินดีปนอิจฉาของบรรดาหนุ่มๆ น้อยใหญ่ที่กำลังมองดูอย่างสนอกสนใจ เพราะหญิงสาวถือได้ว่าเป็นระดับดาวเด่นในคลับเลยก็ว่าได้กวินยกแก้วที่บรรจุแอลกอฮอล์ดีกรีสูงไร้มิกเซอร์ผสมขึ้นดื่มจนหมด ก่อนกระแทกแก้วลงบนเคาน์เตอร์บาร์อย่างแรง สายตาคมกริบจ้องมองคู่ชายหญิงที่ยืนใกล้ชิดกันอยู่อย่างไม่วางตาทั้งสองเอาแต่กระซิบกระซาบกันแล้วหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างมีความสุขราวกับโลกทั้งใบมีเพียง
โชคดีที่ไฟลท์กลับเป็นรอบเช้า เคทจึงไม่ต้องอยู่ใกล้กับเขานานเกินไป เธอยกผ้าห่มขึ้นคลุมปิดหน้าตลอดการเดินทางเพราะยังทำใจมองหน้าหรือพูดคุยกับเขาเหมือนเดิมไม่ได้ เหตุการณ์เมื่อคืนยังคงติดตาตรึงอยู่ในความทรงจำไม่จางหาย ทั้งอายทั้งสับสนปนเปกันไปหมดทันทีที่เดินพ้นประตูทางออกของผู้โดยสารขาเข้า เธอก็รีบหันมาก้มหัว กล่าวอำลาท่านประธานอย่างเป็นทางการ“ขอบคุณที่ให้ลาหยุด ไว้วันจันทร์จะรีบทำรายการสรุปการประชุมไปให้นะคะ สวัสดีค่ะ”กวินมองตามแผ่นหลังบอบบางของหญิงสาววิ่งหน้าตั้งหนีหายไปแล้วยกยิ้มมุมปาก ทั้ง ๆ ที่ลึกซึ้งกันจนถึงขั้นนั้นแล้ว ทำไมเธอก็ยังคงเว้นระยะห่างจากเขาอยู่ดี แถมดูเหมือนว่ามันจะยิ่งถูกเว้นให้ห่างมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก สงสัยคงต้องทำการกระชับมิตรกันหน่อยแล้วครืดดดด ครืดดดด‘เตชินท์’เสียงโทรศัพท์สั่นเตือนสายเรียกเข้า กวินมองรายชื่อที่โชว์แล้วถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรมา“เออว่าไง!”( ได้ข่าวว่ามึงเหมาโรงแรมกูหมดเลยเหรอครับคุณกวิน )“เออ! ทำไม? ก็กูรวย!”( พาหญิงไปเชือดไกลนะมึง )“มึงมีธุระกับกูแค่นี้ใช่ไหม แค่นี้นะกูยุ่งอยู่!”กวินตัดสายทิ้งโดยไม่รอให้อีกฝ่
“ถึงคิวของฉันแล้ว”มือหนาอันสั่นเทารีบปลดเปลืองเครื่องแต่งกายของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว แล้วโยนไปกองรวมกันอย่างไม่ใส่ใจ เขาดึงร่างบางให้ขยับเข้ามาใกล้ในท่าเตรียมพร้อม อีกมือหยิบซองอุปกรณ์เสริมออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่กองอยู่ใกล้มือ“ไม่ ไม่นะ ฉันไม่ให้ทำนะ!!”เคททำตาโตหลังมองเห็นท่อนลำใหญ่โตที่กำลังชี้หน้าเธออย่างเต็มตา ขาเรียวหุบเข้าหากันแน่น กระเถิบถอยหนีไปจนสุดทางของระเบียงพลางส่ายหน้าระรัว ร้องปฏิเสธเสียงสั่น“อะไรวะ มาถึงขั้นนี้แล้วเธอคิดว่าจะรอดเหรอ มานี่!”กวินพ่นลมหายใจหนักๆ ด้วยความหงุดหงิดที่หญิงสาวออกแรงดิ้นหนี เขากระชากคนตัวเล็กให้กลับมาอยู่ในท่าพร้อมรบ แต่พอมองเห็นน้ำตาที่เอ่อคลอเต็มสองเบ้าด้วยความหวาดกลัวของคนใต้ร่างก็ทำต่อไม่ลงกวินผละออกห่างแล้วเดินหนีเข้าไปข้างในทั้งที่ยังเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่ ทั้งโมโหทั้งอารมณ์ค้าง และตอนนี้ก็ไม่มีอารมณ์จะมานั่งจัดการด้วยตัวเอง แต่ถ้าปล่อยไว้ก็คงนอนทรมานจนเช้าแบบเมื่อคืนอีกถึงเขาจะฟาดฟันมาหลายสนามแต่ก็ล้วนเป็นความเต็มใจของคนทั้งสองฝ่าย และไม่นิยมบังคับข่มขืนใจใครให้นอนกับเขาอีกด้วยเสียงโครมครามดังลอยออกมาจากด้านในห้องนอน ทำเอาเค
ผ่านไปเพียงครึ่งชั่วโมงก็มีใครบางคนเริ่มเมาอย่างไม่รู้ตัวเสียแล้ว แก้มนวลขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู“ออกไปนั่งดูดาวด้วยกันไหมคะ”เคทเอ่ยชักชวนเสียงใสพลางหอบเครื่องดื่มออกไปวางที่นอกระเบียงโดยไม่รอคำตอบรับ เธอลงมือดึงผ้าห่มสำรองที่เพิ่งได้มาจากแม่บ้านมาปูพื้นและวางหมอนใบโตไว้รองหลังกันเมื่อยสำหรับคนสองคนเสร็จสรรพ แล้วยกมือเล็กขึ้นกวักเรียกอีกฝ่ายให้ตามมาพร้อมรอยยิ้มหวานกวินหัวเราะเบา ๆ กับความน่ารักของเด็กดื้อ เดินตามออกไปนั่งลงข้าง ๆ เธออย่างเอาใจความอึดอัดคลายตัวลงไปพร้อมกับคนทั้งคู่ที่เริ่มเผยตัวตนออกมามากขึ้น อาจจะเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเพราะความรู้สึกพิเศษบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นในใจคนทั้งคู่อย่างช้า ๆเริ่มเกิดเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะ ๆ เคล้าคลอกับเสียงเพลงที่หญิงสาวเปิดทิ้งไว้เพื่อทำลายความเงียบ“ยิ้มก็เป็นนี่คะ ทีหลังยิ้มบ่อย ๆ สิ คุณยิ้มแล้วดูดีออกนะคะ”ราวกับมีกระแสไฟแล่นผ่านไปทั่วร่าง! รอยยิ้มแข็งค้างบนใบหน้าคมคายเมื่อมือเล็กประกบเข้าที่สองแก้มสากแล้วบีบมันเบาๆ กวินจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตากลมโตของเธอที่บัดนี้หยาดเยิ้ม จนให้ความรู้สึกคล้ายกำลังยั่วยวนชายหนุ่มอยู