@คอนโด A
ไม่ถึง 20 นาทีรถสปอร์ตคันหรูก็แล่นเข้าไปจอดหน้าทางเข้าใต้ตึกที่คุ้นเคย
เคทก้าวลงจากรถอย่างเชื่องช้า แขนเล็กสั่นระริกและรู้สึกปวดร้าวไปทั้งแขนจนถึงหัวไหล่
“ฉันเข้าห้องก่อนนะ แกก็คุยกันดี ๆ แล้วกัน”
ขวัญข้าวกระซิบข้างหูเพื่อนสนิทก่อนจ้ำอ้าวหนีเข้าคอนโด ทิ้งให้สองคนด้านหลังสะสางปัญหาชีวิตกันสองต่อสอง แต่ไม่วายหันมาชูสองนิ้วให้กำลังใจเพื่อนสาวก่อนจะเดินตัวปลิวเข้าลิฟท์ไปอย่างรวดเร็ว
ยัยเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด!!! ยัยเพื่อนทรยศ!!!!
เคทได้แต่ทำปากขมุบขมิบก่นด่าเพื่อนสนิทไล่หลัง ก่อนจะค่อย ๆ หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับเพื่อนชายที่อารมณ์ยังคงคุกกรุ่นเต็มไปด้วยความโกรธเคือง
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะใช้นิ้วเรียวจิ้มจึ๊กจึ๊ก ดึงชายเสื้อเชิ้ตกระตุกเบาๆ ทำสีหน้าให้ดูสำนึกผิดที่สุดเท่าที่จะทำได้
ซันเหล่ตามองคนแกล้งสำนึกผิดแล้วถอนหายใจ เบือนหน้าหนีไปอีกทาง ริมฝีปากหนากระตุกยิ้ม ก่อนจะรีบปรับสีหน้าให้ดูราบเรียบแล้วหันกลับมองว่าอีกคนจะไถ่โทษด้วยวิธีไหนอีก
เคทสบสายตาคนโกรธพลางชูสามนิ้วกล่าวปฏิญาณตน ทำตาละห้อยแล้วกะพริบตาปริบ ๆ ให้ดูน่าสงสารที่สุด
“ผิดไปแล้ว ต่อไปจะไม่เดินเพ่นพ่านไปไหนมาไหนคนเดียวอีกแล้วคร๊าบบบบ”
พอเห็นอีกฝ่ายยังคงยืนนิ่งเลยรีบงัดไพ่เด็ดออกมา
“เดี๋ยวพรุ่งนี้จดเลคเชอร์การเงินแทนเลยเอ้า!”
หายโกรธเถอะนะฉันหมดมุขจะง้อแล้ว ง้อเพื่อนทำไมมันยากกว่าง้อผู้ชายนักวะ
ซันทำสีหน้าครุ่นคิดมองหญิงสาวที่เริ่มร้อนรนจนยืนไม่นิ่งสักพัก ก่อนจะพยักหน้ายอมรับข้อเสนอในที่สุด
“งั้นถ้าถึงบ้านแล้วไลน์มานะ พรุ่งนี้พาฉันเอาโทรศัพท์ไปซ่อมด้วย”
“โอเคงั้นเดี๋ยวสิบโมงมารับ จะได้แวะไปกินข้าวที่โรงอาหารก่อนด้วย”
“รับทราบเจ้าค่ะ!”
เคทฉีกยิ้มกว้าง ยืนโบกมือให้เพื่อนชายจนรถยนต์คันหรูลับสายตา เธอถอนหายใจโล่งอกที่ง้อสำเร็จแล้วรีบหมุนตัวเดินเข้าคอนโด
พอขึ้นปี 4 เธอและขวัญข้าวตัดสินใจย้ายออกมาเช่าคอนโดอยู่ด้วยกันเพื่อสะดวกสบายในการไปเรียนและทำวิจัยจบ ตัวห้องจึงเป็นแบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
โดยที่พวกเธอมีกฎว่าหากคนใดคนหนึ่งจะพาผู้ชายมาที่ห้อง จะต้องแจ้งอีกฝ่ายให้รับรู้อย่างน้อย 1 วัน และห้ามให้ค้างคืนด้วยเด็ดขาด! เพื่อความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่าย
กว่าเคทจะขึ้นห้องมา ขวัญข้าวก็แยกตัวเข้าห้องนอนไปแล้ว เธอบรรจงแขวนเสื้อสูทและเสื้อเชิ้ตไว้ที่ราวแขวนหลังห้อง เพื่อรอส่งร้านซักรีดใต้ตึกในวันพรุ่งนี้
มือเล็กลูบไล้ตามไปเสื้อสูทแล้วขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
นี่อ้วกของเธอมีพลานุภาพมากถึงขนาดที่เจ้าตัวยอมทิ้งสูท Armani ตัวละสี่ห้าหมื่นได้ลงคอจริง ๆ เหรอ หึ้ยย! น่ากลัวจริง ๆ
“นอกจากทิ้งสูทแล้วยังทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ด้วยอีกแหะ ราคารวมๆ กันก็ร่วมแสนแล้วนะพ่อคุณ!”
ไม่ใช่ไม่อยากโทรหาเจ้าของ แต่เพราะมันต้องปลดล็อคด้วยใบหน้า เธอจึงทำได้เพียงรอให้มีใครสักคนติดต่อเข้ามาเท่านั้น
เธอพลิกโทรศัพท์มือถือในมือไปมา พลางเพ่งกระแสจิตอย่างต่อเนื่องให้เจ้าของโทรเข้ามาตามมันกลับบ้านเสียที
ครืดครืดดดดด ครืดครืดดดดด
เคทสะดุ้งจนเกือบปล่อยโทรศัพท์หลุดมือเมื่อจู่ ๆ ก็มีสายเรียกเข้า เธอมองชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอก่อนจะรีบกดรับสายอย่างรวดเร็ว
หุหุ! กระแสจิตฉันได้ผลแล้ว!
“ฮะ....”
( เธอเป็นใคร ทำไมมารับสาย )
“เอ่อ...คือฉัน”
( ช่างเถอะ! พรุ่งนี้บอกวินมันด้วยว่าฉันจะเข้าไปหา )
“คือฉัน...”
ติ้ด!!!
“จ๊ะ! จ๊ะ! จ้าาาาาา! ไม่รอให้ฉันพูดจนจบสักประโยคเลย ปัดโถ่!!!”
เคทตะโกนใส่โทรศัพท์แล้วทำหน้าเซ็งที่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรคืบหน้า เอ๊ะ! แต่ฉันก็ได้รู้ชื่อของผู้ชายคนนั้นแล้วดิ
“วินงั้นเหรอ หึหึ! โลกนี้มีเป็นล้านวินเลย จะเอาวินไรดีอ่ะ วินมอไซด์ดีมะ”
เคทเหลือบมือหน้าจอแล้วถอนหายใจใส่อีกครั้ง ไม่ไหวละง่วง พรุ่งนี้ค่อยว่ากันแล้วกัน!
และไม่หยุดคิดให้เสียเวลา!ใบหน้าคมฟุบลงกลางกายสาวอย่างรวดเร็ว ปลายลิ้นร้อนตวัดเลียลงบนยอดเกสรระรัว มือกดล็อคร่างบางที่ดิ้นพล่านเอาไว้แน่นแล้วใช้มืออีกข้างกดนิ้วกลางแทรกเข้าไปด้านในจนสุดความยาว“ฮืมมม แน่น”แค่นิ้วยังแน่นขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเกิดเป็นของเขาสอดเข้าไป มันจะแน่นสักแค่ไหน กวินครางงึมงำแล้วเร่งจังหวะปลายลิ้นให้เร็วขึ้น นิ้วมือชักเข้าออกรัวเร็วก่อนเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปอีก“อื้อออ เจ็บ!”เคทนิ่วหน้าสะดุ้งกับความคับแน่นกลางกาย ร่างกายร้อนรุ่มไปทั้งตัว รู้สึกเจ็บแปลบและเสียวซ่านปะปนกันไป ขาเรียวเหยียดเกร็งสั่นระริก มือเล็กสอดเข้าใต้เรือนผมดกดำดึงทึ้งเพื่อระบายความเสียวซ่านที่กำลังโจมตีเธออย่างต่อเนื่องร่องรักคับแคบตอดรัดระรัวทำให้เขารับรู้ได้ว่าหญิงสาวกำลังจะแตะเส้นชัยในไม่ช้า เขาเร่งความเร็วของนิ้วมือมากขึ้นพร้อมทั้งดูดดึงยอดเกสรอย่างแรงสะโพกอวบยกลอยขึ้นตามลิ้นร้อนเกร็งกระตุกอย่างรุนแรงปลดปล่อยน้ำหวานออกมาจนชุ่มฉ่ำ“พะ...พอก่อน อะ อ๊าย”ร่างบางทิ้งสะโพกลงบนที่นอนอย่างหมดแรง เสียวสะท้านจนแก้มนวลแดงระเรื่อกับการเสร็จสมอย่างรุนแรงหอบหายใจแรงจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง ท้องน้อยว
“รอบนี้เอาเบา ๆ ก็พอ ไม่ต้องให้ถึงตาย”กวินสั่งการเสียงเย็นเยียบทิ้งท้าย ก่อนจะช้อนตัวหญิงสาวขึ้นอุ้มแนบอกเดินออกมายังรถยนต์คันหรูที่จอดอยู่ในโซน VVIP เขาวางร่างบางลงบนเบาะแล้วรัดเข็มขัดให้เรียบร้อย“เห็นที่วันนี้คงต้องสั่งสอนกันยาว โทษฐานที่เธอหนีเที่ยว!”กวินกล่าวคาดโทษคนเมาแล้วขับรถมุ่งตรงไปยังเพนท์เฮ้าส์ส่วนตัวสุดหรูในย่านสุขุมวิทเพียงไม่กี่นาทีจากคลับ รถยนต์คันหรูก็แล่นเข้าไปจอดในที่ประจำใต้ตึก ลิฟท์ส่วนตัวเคลื่อนขึ้นสูงหลังเขาสแกนลายนิ้วมือแล้วกดชั้นที่ต้องการเขามักจะแวะมานอนที่นี่เป็นประจำเพราะไม่อยากกลับไปเหยียบบ้านหลังเก่า นอกจากเดินทางสะดวกสบายแล้วยังมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม หมดห่วงเรื่องนักข่าวที่ตามเกาะแกะให้รำคาญใจติ้ง!ประตูลิฟท์เปิดกว้างพร้อม ๆ กับประตูบ้านที่เป็นกระจกขนาดใหญ่เลื่อนเปิดปิดอัตโนมัติ กวินก้าวเท้าเข้าไปในห้องก่อนจะวางร่างบางลงบนเตียงที่ยังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนย่างกรายเข้ามานอนบนนี้มาก่อน“อืมมม ใครน่ะ?”เคทผุดลุกขึ้นนั่งพลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ้อเอ้ เธอเอียงคอแล้วปรือตาพยายามเพ่งมองใบหน้าคมคายตรงหน้าอย่างตั้งใจมือเล็กยกขึ้นประกบสองแก้มสากแล้
Happy birthday to youHappy birthday to youHappy birthday dear SunHappy birthday to you ~ มือเล็กประคองเค้กผลไม้ในมือ ด้านบนปักเทียนวันเกิดเป็นตัวเลข 22 ถูกจุดสว่างไสวส่องให้มองเห็นใบหน้าสวยของหญิงสาวผู้ถือเค้กอย่างชัดเจนหัวใจแกร่งพองโตจนคับอกขณะจ้องมองหญิงสาวก้าวเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ ร่างบางก้าวเดินผ่านผู้คนมากมายตรงไปหาเพื่อนชายคนสนิท ปากเล็กเอ่ยร้องเพลงคลอไปด้วย ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าเจ้าของวันเกิด“Happy birthday มีความสุขมาก ๆ นะ”เคทคลี่ยิ้มละมุนยื่นเค้กให้ซันอธิษฐานแล้วเป่าเทียน เสียงปรบมือประสานกับเสียงโห่แซวชายผู้โชคดีดังสนั่นซันยกแขนขึ้นคล้องคอหญิงสาวรั้งเข้ามาใกล้พลางกระซิบขอบคุณข้างหู ท่ามกลางสายตายินดีปนอิจฉาของบรรดาหนุ่มๆ น้อยใหญ่ที่กำลังมองดูอย่างสนอกสนใจ เพราะหญิงสาวถือได้ว่าเป็นระดับดาวเด่นในคลับเลยก็ว่าได้กวินยกแก้วที่บรรจุแอลกอฮอล์ดีกรีสูงไร้มิกเซอร์ผสมขึ้นดื่มจนหมด ก่อนกระแทกแก้วลงบนเคาน์เตอร์บาร์อย่างแรง สายตาคมกริบจ้องมองคู่ชายหญิงที่ยืนใกล้ชิดกันอยู่อย่างไม่วางตาทั้งสองเอาแต่กระซิบกระซาบกันแล้วหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างมีความสุขราวกับโลกทั้งใบมีเพียง
โชคดีที่ไฟลท์กลับเป็นรอบเช้า เคทจึงไม่ต้องอยู่ใกล้กับเขานานเกินไป เธอยกผ้าห่มขึ้นคลุมปิดหน้าตลอดการเดินทางเพราะยังทำใจมองหน้าหรือพูดคุยกับเขาเหมือนเดิมไม่ได้ เหตุการณ์เมื่อคืนยังคงติดตาตรึงอยู่ในความทรงจำไม่จางหาย ทั้งอายทั้งสับสนปนเปกันไปหมดทันทีที่เดินพ้นประตูทางออกของผู้โดยสารขาเข้า เธอก็รีบหันมาก้มหัว กล่าวอำลาท่านประธานอย่างเป็นทางการ“ขอบคุณที่ให้ลาหยุด ไว้วันจันทร์จะรีบทำรายการสรุปการประชุมไปให้นะคะ สวัสดีค่ะ”กวินมองตามแผ่นหลังบอบบางของหญิงสาววิ่งหน้าตั้งหนีหายไปแล้วยกยิ้มมุมปาก ทั้ง ๆ ที่ลึกซึ้งกันจนถึงขั้นนั้นแล้ว ทำไมเธอก็ยังคงเว้นระยะห่างจากเขาอยู่ดี แถมดูเหมือนว่ามันจะยิ่งถูกเว้นให้ห่างมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก สงสัยคงต้องทำการกระชับมิตรกันหน่อยแล้วครืดดดด ครืดดดด‘เตชินท์’เสียงโทรศัพท์สั่นเตือนสายเรียกเข้า กวินมองรายชื่อที่โชว์แล้วถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรมา“เออว่าไง!”( ได้ข่าวว่ามึงเหมาโรงแรมกูหมดเลยเหรอครับคุณกวิน )“เออ! ทำไม? ก็กูรวย!”( พาหญิงไปเชือดไกลนะมึง )“มึงมีธุระกับกูแค่นี้ใช่ไหม แค่นี้นะกูยุ่งอยู่!”กวินตัดสายทิ้งโดยไม่รอให้อีกฝ่
“ถึงคิวของฉันแล้ว”มือหนาอันสั่นเทารีบปลดเปลืองเครื่องแต่งกายของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว แล้วโยนไปกองรวมกันอย่างไม่ใส่ใจ เขาดึงร่างบางให้ขยับเข้ามาใกล้ในท่าเตรียมพร้อม อีกมือหยิบซองอุปกรณ์เสริมออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่กองอยู่ใกล้มือ“ไม่ ไม่นะ ฉันไม่ให้ทำนะ!!”เคททำตาโตหลังมองเห็นท่อนลำใหญ่โตที่กำลังชี้หน้าเธออย่างเต็มตา ขาเรียวหุบเข้าหากันแน่น กระเถิบถอยหนีไปจนสุดทางของระเบียงพลางส่ายหน้าระรัว ร้องปฏิเสธเสียงสั่น“อะไรวะ มาถึงขั้นนี้แล้วเธอคิดว่าจะรอดเหรอ มานี่!”กวินพ่นลมหายใจหนักๆ ด้วยความหงุดหงิดที่หญิงสาวออกแรงดิ้นหนี เขากระชากคนตัวเล็กให้กลับมาอยู่ในท่าพร้อมรบ แต่พอมองเห็นน้ำตาที่เอ่อคลอเต็มสองเบ้าด้วยความหวาดกลัวของคนใต้ร่างก็ทำต่อไม่ลงกวินผละออกห่างแล้วเดินหนีเข้าไปข้างในทั้งที่ยังเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่ ทั้งโมโหทั้งอารมณ์ค้าง และตอนนี้ก็ไม่มีอารมณ์จะมานั่งจัดการด้วยตัวเอง แต่ถ้าปล่อยไว้ก็คงนอนทรมานจนเช้าแบบเมื่อคืนอีกถึงเขาจะฟาดฟันมาหลายสนามแต่ก็ล้วนเป็นความเต็มใจของคนทั้งสองฝ่าย และไม่นิยมบังคับข่มขืนใจใครให้นอนกับเขาอีกด้วยเสียงโครมครามดังลอยออกมาจากด้านในห้องนอน ทำเอาเค
ผ่านไปเพียงครึ่งชั่วโมงก็มีใครบางคนเริ่มเมาอย่างไม่รู้ตัวเสียแล้ว แก้มนวลขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู“ออกไปนั่งดูดาวด้วยกันไหมคะ”เคทเอ่ยชักชวนเสียงใสพลางหอบเครื่องดื่มออกไปวางที่นอกระเบียงโดยไม่รอคำตอบรับ เธอลงมือดึงผ้าห่มสำรองที่เพิ่งได้มาจากแม่บ้านมาปูพื้นและวางหมอนใบโตไว้รองหลังกันเมื่อยสำหรับคนสองคนเสร็จสรรพ แล้วยกมือเล็กขึ้นกวักเรียกอีกฝ่ายให้ตามมาพร้อมรอยยิ้มหวานกวินหัวเราะเบา ๆ กับความน่ารักของเด็กดื้อ เดินตามออกไปนั่งลงข้าง ๆ เธออย่างเอาใจความอึดอัดคลายตัวลงไปพร้อมกับคนทั้งคู่ที่เริ่มเผยตัวตนออกมามากขึ้น อาจจะเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเพราะความรู้สึกพิเศษบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นในใจคนทั้งคู่อย่างช้า ๆเริ่มเกิดเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะ ๆ เคล้าคลอกับเสียงเพลงที่หญิงสาวเปิดทิ้งไว้เพื่อทำลายความเงียบ“ยิ้มก็เป็นนี่คะ ทีหลังยิ้มบ่อย ๆ สิ คุณยิ้มแล้วดูดีออกนะคะ”ราวกับมีกระแสไฟแล่นผ่านไปทั่วร่าง! รอยยิ้มแข็งค้างบนใบหน้าคมคายเมื่อมือเล็กประกบเข้าที่สองแก้มสากแล้วบีบมันเบาๆ กวินจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตากลมโตของเธอที่บัดนี้หยาดเยิ้ม จนให้ความรู้สึกคล้ายกำลังยั่วยวนชายหนุ่มอยู