หลังจากเหตุการณ์ในห้องนอน พราวตะวันรู้สึกสับสนและว้าวุ่นใจมากขึ้นกว่าเดิม เธอพยายามสลัดภาพและสัมผัสจากอคิณออกไปจากหัว แต่ก็ทำไม่ได้ หนทางเดียวที่จะยืนยันว่าเธอไม่ได้หวั่นไหวคือการยึดมั่นใน ฟิล์ม เธอจึงพยายามติดต่อเขาให้มากขึ้น หวังว่าจะได้ระบายความอึดอัดในชีวิตคู่ที่อ้างว้างนี้
ข้อความแล้วข้อความเล่าถูกส่งไปหาฟิล์ม เล่าถึงความทุกข์ใจ การถูกบีบบังคับและความรู้สึกโดดเดี่ยวที่ต้องเผชิญ ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับมานั้นช้าลงเรื่อย ๆ และมักจะมาพร้อมข้ออ้างเดิม ๆ
"พี่กำลังเรียนหนักมากเลยพราว"
"วันนี้มีงานกลุ่มด่วน พี่ต้องรีบส่ง" หรือแม้แต่
"พราวอย่าคิดมากสิ พี่ช่วยอะไรไม่ได้อยู่แล้ว"
พราวตะวันกุมโทรศัพท์แน่น ดวงตาจับจ้องหน้าจอที่ว่างเปล่า ความผิดหวังเล็ก ๆ น้อย ๆ เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ คนที่เธอเคยคิดว่าเป็นที่พึ่งเดียวในชีวิต กลับดูห่างเหินและไม่สนใจความทุกข์ของเธอเลยแม้แต่น้อย เธอเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังพูดอยู่กับกำแพง ยิ่งเธอบอกเล่าความเจ็บปวดมากเท่าไหร่ ฟิล์มก็ยิ่งดูห่างไกลออกไปเท่านั้น
ค่ำวันหนึ่งสุริยะและอรัญญาพ่อและแม่ของพราวตะวัน พร้อมด้วยพราวฟ้าน้องสาวของเธอ ได้รับเชิญมาทานอาหารเย็นที่บ้านของอคิณและพราวตะวัน
บรรยากาศอบอุ่นกว่าที่พราวตะวันคาดไว้มาก คุณหญิงอรุณีและนายแพทย์ธีระก็มาต้อนรับด้วยตัวเอง และท่านดูแลพ่อและแม่ของพราวตะวันเป็นอย่างดี ทำให้พราวตะวันรู้สึกเกรงใจในความใจดีของอีกฝ่าย
บนโต๊ะอาหารมื้อค่ำเต็มไปด้วยอาหารเลิศรส พราวตะวันนั่งอยู่ระหว่างอคิณและพราวฟ้า เธอเห็นผู้เป็นพ่อที่อาการดีขึ้นมากแล้ว พูดคุยอย่างออกรสกับนายแพทย์ธีระและอคิณ เรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจ การแพทย์ และเรื่องราวในอดีตที่ทั้งสองครอบครัวเคยสนิทกัน
สุริยะดูถูกใจอคิณมาก อคิณพูดคุยกับพ่อตาด้วยความเคารพและสนใจทุกคำที่ท่านเอ่ยออกมา สายตาของอคิณที่มองไปยังพ่อตาของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจและนั่นทำให้พราวตะวันรู้สึกประหลาดใจ
“คุณพ่อครับ ผมดีใจมากที่อาการของคุณพ่อดีขึ้น” อคิณกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“หลังจากนี้ถ้ามีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ อย่าเกรงใจนะครับ”
“ขอบใจมากนะอคิณ ลุงคงต้องรบกวนไปอีกนาน” สุริยะกล่าวพร้อมรอยยิ้มอย่างจริงใจ พราวตะวันมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย เธอเห็นความสุขในดวงตาของพ่อ เธอเห็นความใจดีของอคิณที่พ่อของเธอยอมรับและมันทำให้เธอรู้สึกผิดกับแผนการที่กำลังทำอยู่แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำให้เขาหย่ากับเธอให้เร็วที่สุด
หลังจากทานอาหารเสร็จ พราวตะวันเดินไปส่งพ่อแม่และน้องสาวที่รถ คุณสุริยะโอบกอดเธอแน่น
“พ่อดีใจนะพราว ที่ลูกมีความสุข” สุริยะกระซิบ
“อยู่กับอคิณทำตัวดี ๆ นะลูก เขาเป็นคนดี” คำพูดของพ่อเหมือนมีดกรีดลงกลางใจ พราวตะวันรู้สึกจุกในลำคอ เธอจะบอกพ่อได้อย่างไรว่าเธอไม่ได้มีความสุขเลยแม้แต่น้อย และเธอกำลังทำทุกวิถีทางเพื่อทำลายความสุขที่เขาเห็น
หลายวันต่อมาที่ห้องทำงานส่วนตัวของอคิณ ชวินเพื่อนสนิทของเขากำลังนั่งอยู่บนโซฟา มือถือแท็บเล็ตเครื่องหนึ่ง
“แกแน่ใจนะเว้ยคินน์ ว่าจะให้ฉันสืบเรื่องไอ้ฟิล์มนั่นจริง ๆ” ชวินถามด้วยสีหน้าจริงจัง ปกติแล้วเขาจะเป็นคนขี้เล่นแต่เมื่อเป็นเรื่องของเพื่อนรักเขากลับจริงจังเสมอ
อคิณพยักหน้าสีหน้าเรียบเฉยแต่แววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“ฉันอยากรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับมันชวิน” อคิณกล่าวเสียงเรียบ
“ฉันอยากรู้ว่ามันเป็นคนยังไง และสิ่งที่พราวเชื่อมั่นในตัวมัน มันเป็นเรื่องจริงแค่ไหน”
ชวินถอนหายใจ “ก็ได้วะ เพื่อแกนะเนี่ย” เขากดพิมพ์อะไรบางอย่างลงไปบนแท็บเล็ตอย่างรวดเร็ว ชวินเชี่ยวชาญในการเจาะระบบข้อมูลและนี่คือสิ่งที่อคิณต้องการจากเขา
“ฉันได้รับข้อมูลบางอย่างมาแล้วนะเว้ย” ชวินกล่าวพลางเลื่อนหน้าจอแท็บเล็ตให้อคิณดู
“ไอ้ฟิล์มคนนี้น่ะ ดูท่าจะไม่ใสซื่ออย่างที่พราวคิดนะเว้ย” อคิณกวาดสายตาอ่านข้อมูลบนหน้าจออย่างรวดเร็ว คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อเห็นรูปภาพบางรูปที่ปรากฏขึ้น
“ฉันต้องการข้อมูลที่ละเอียดกว่านี้” อคิณกล่าวเสียงเย็น
“ทุกอย่าง” ชวินพยักหน้า
“ได้เลยเพื่อน แต่แกแน่ใจนะว่าอยากรู้ทุกอย่าง”
“แน่ใจ” อคิณตอบสั้น ๆ น้ำเสียงหนักแน่น เขารู้ดีว่าความจริงอาจจะเจ็บปวดแต่เพื่อพราวตะวัน เขาจำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง
ในคืนนั้นพราวตะวันกลับขึ้นห้องนอน เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง เลื่อนดูข้อความที่เธอส่งไปหาฟิล์มไม่มีข้อความตอบกลับล่าสุดจากเขาเลยแม้แต่ฉบับเดียว ข้อความสุดท้ายที่ได้รับคือเมื่อสองวันก่อนและเป็นเพียงข้อความสั้น ๆ ที่บอกว่า
"โอเค พราวดูแลตัวเองนะ"
พราวตะวันรู้สึกหัวใจชาไปหมด ความผิดหวังในตัวฟิล์มเริ่มกัดกินหัวใจเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อรักษาความรักของเขากลับต้องมาเจอแบบนี้
เขาไม่ได้เป็นอย่างที่เธอวาดฝันไว้เลยแม้แต่น้อย เขาไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเธอได้เลยในวันที่เธอต้องการที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่ได้แสดงความห่วงใยหรือความเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรเลยหรือเป็นเพราะเขาโกรธที่เธอแต่งงานกับคนอื่น พราวตะวันคิดไปต่าง ๆ นานาเพื่อหาเหตุผลให้กับฟิล์มว่าทำไมเขาถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้
เธอล้มตัวลงนอนบนเตียง หันหน้าเข้าหาผนัง น้ำตาหยดลงบนหมอนช้า ๆ ไม่ใช่เพราะความเสียใจที่ต้องแต่งงานกับอคิณเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะความผิดหวังในตัวฟิล์มที่รุนแรงยิ่งกว่า ความรักที่เธอทุ่มเทให้เขาทั้งหมดแต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแต่เธอเองก็ไม่อยากโทษฟิล์มแต่เพียงผู้เดียว เธอเองก็มีส่วนผิดแต่คนที่ผิดมากไปกว่านั้นคืออคิณ พราวตะวันคิดไปคิดมา สุดท้ายคนที่พราวตะวันคิดว่าผิดก็เป็นอคิณอยู่ดี
อคิณที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง เห็นท่าทางของพราวตะวัน เขารับรู้ได้ถึงความเศร้าจากแผ่นหลังที่สั่นเทาของเธอ อคิณเดินเข้าไปใกล้เตียงช้า ๆ และล้มตัวลงนอนบนพื้นข้างเตียงเช่นเคย เขาไม่ได้พูดอะไร มีเพียงความเงียบที่เข้าปกคลุมห้อง แต่ในความเงียบนั้น อคิณกำลังตัดสินใจที่จะทำบางอย่าง เพื่อปกป้องพราวตะวัน และเปิดเผยความจริงที่เธอไม่เคยรู้
ตอนที่ 50 แผนร้ายแต่ก็ยังรักในเวลาเดียวกัน อคิณกำลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เขาได้รับข้อความจากฟิล์มที่บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย อคิณรู้สึกสงสัยแต่ก็ตัดสินใจที่จะมาพบฟิล์มเพียงลำพังเพื่อที่จะได้รู้ความจริงทั้งหมด ฟิล์มปรากฏตัวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและดูเหนื่อยล้า“ผมต้องขอโทษด้วยที่โทรหาคุณในเวลาแบบนี้” ฟิล์มพูด “แต่ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ”อคิณวางแก้วกาแฟลงแล้วมองฟิล์มอย่างสงสัย “ว่ามาเลย”“พราวตะวัน... เธอยังติดต่อกับผมอยู่” ฟิล์มบอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความลังเล “เราไม่ได้เลิกกันจริงๆ เราแค่แกล้งทำเป็นเลิกกันเพื่อให้คุณตายใจ”อคิณมองฟิล์มด้วยสายตาที่ว่างเปล่าราวกับว่าคำพูดของเขาเป็นเพียงแค่เรื่องตลก “คุณกำลังพูดเรื่องอะไร”“ก็เรื่องที่พราวตะวันกับฉันยังคบกันอยู่ไง” ฟิล์มพูด “เธอแค่ต้องการจะแก้แค้นคุณที่ทิ้งเธอไป แล้วเธอก็ใช้ฉันเป็นเครื่องมือ”อคิณหัวเราะในลำคอ “คุณคิดว่าผมจะเชื่อเรื่องแบบนี้เหรอ”“แต่ผมพูดความจริง!” ฟิล์มตะโกน “คุณต้องเชื่อผม”อคิณส่ายหน้า “ผมเชื่อในตัวพราว” อคิณบอก“และผมก็ไม่เชื่อว่าคุณจะยอมมาเจอผมเพียงลำพังเพื่อพูดเรื่องแบบนี้”ฟิล์ม
ตอนที่50แผนร้ายแต่ยังรัก เสียงกริ่งประตูบ้านดังขึ้นในยามเย็น พราวตะวันมองไปที่หน้าจออินเตอร์คอมแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อเห็นณิชายืนอยู่ข้างนอกเพียงลำพัง พราวตะวันเปิดประตูบ้านให้พร้อมกับเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง“มีอะไรหรือเปล่าคะณิชา”ณิชาไม่ตอบ เธอเดินเข้ามาในบ้านอย่างถือวิสาสะ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความมั่นใจที่เกินจริง“ฉันรู้ว่าอคิณไม่อยู่ และฉันก็มีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอ”พราวตะวันถอนหายใจ “ถ้าไม่มีเรื่องอะไรที่สำคัญจริงๆ ฉันขอให้คุณกลับไปเถอะค่ะ”“เรื่องของอคิณไงล่ะ” ณิชาพูดพร้อมกับยิ้มเยาะ “เธอคิดว่าเธอชนะแล้วเหรอพราวตะวัน”พราวตะวันมองณิชาด้วยสายตาที่สงสาร “ฉันไม่เคยคิดจะเอาชนะใครค่ะ และฉันก็ไม่ได้อยากแข่งกับคุณด้วย”“แต่ฉันอยากแข่ง!” ณิชาตะคอก“ฉันอยากจะบอกเธอว่าสิ่งที่เธอได้มามันคือความหลอกลวง!” ณิชาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดเสียงให้พราวตะวันฟัง เป็นเสียงของฟิล์มที่พูดว่า“ฉันจะบอกความจริงทั้งหมดให้อคิณรู้ว่าเราแค่เล่นละครตบตาเขา”พราวตะวันอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงของฟิล์ม แต่เธอก็รีบดึงสติกลับมาและรู้ทันทีว่านี่คือแผนการของณิชาที่จะทำลายความสัมพันธ์ของเธอก
ตอนที่ 49เลขาคนใหม่อคิณขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะลุกไปเปิดประตู เมื่อประตูเปิดออกเขาก็พบกับอคินัย น้องชายของเขาที่ยืนอยู่ข้างนอกด้วยท่าทางที่ดูจริงจังผิดปกติ อคินัยไม่รอช้าที่จะเดินเข้ามาในห้องแล้วพูดกับอคิณทันที “พี่คินน์ครับ ผมมีเรื่องอยากจะปรึกษา” อคิณพยักหน้าให้เขา แล้วทั้งสองก็นั่งลงบนโซฟาแล้วหันไปมองพราวตะวัน“เดี๋ยวผมขอคุยกับน้องชายก่อนนะครับ” พราวตะวันยิ้มให้ก่อนจะขอตัวออกไปจากห้องทำงาน แต่เมื่อเธอจะเดินออกไปเธอก็พบกับ พราวฟ้าที่ยืนอยู่หน้าห้องพอดี“พี่พราว ฟ้าคิดถึงก็เลยมาหาค่ะ ได้ยินว่าพี่มาทำงานวันแรกก็เลยซื้อผลไม้มาฝากค่ะ”พราวตะวันรับถึงผลไม้มาแล้วยิ้ม “ขอบใจนะ เดี๋ยวเราไปนั่งรอข้างนอกก่อนนะ พอดีพี่คินน์มีเรื่องต้องคุยกับอคินัย”พราวฟ้าพยักหน้าเข้าใจแล้วก็เดินไปนั่งที่โซนร้านอาหารของโรงพยาบาลในห้องทำงาน อคินัยเริ่มพูดกับอคิณด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เลขาคนเก่าของผมลาออกกะทันหัน ผมอยากให้พี่ช่วยหาเลขาคนใหม่ให้หน่อย” “ถ้าพี่หาให้ได้ พี่จะได้อะไรเหรอ” อคิณถามอย่างยิ้มๆ อคินัยเลิกคิ้ว “แล้วพี่อยากได้อะไรล่ะครับ” “ฉันมีคนในใจแล้ว” อคิณตอบก่อนจะหันไ
ตอนที่48ข่าวลือที่ไม่อาจสั่นคลอนวันจันทร์ที่สดใส พราวตะวันเดินทางมายังโรงพยาบาลของอคิณด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้นและกังวลใจในเวลาเดียวกัน เธอสวมชุดทำงานที่ดูทะมัดทะแมงและมั่นใจในตัวเอง อคิณเดินมารอรับเธอที่หน้าลิฟต์ด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น“พร้อมไหมครับคุณผู้ช่วย” เขาถามอย่างล้อเล่นพราวตะวันยิ้มตอบ “พร้อมแล้วค่ะ”เมื่อลิฟต์เปิดออก พราวตะวันก็ต้องตกใจเมื่อเห็นพนักงานจำนวนมากกำลังยืนรอต้อนรับเธออยู่ อคิณหันไปแนะนำพราวตะวันกับทุกคน“นี่คือพราวตะวัน ภรรยาของผม และเธอกำลังจะมาเป็นผู้ช่วยผู้บริหารคนใหม่ของผมครับ”พนักงานต่างปรบมือแสดงความยินดี แต่พราวตะวันก็สังเกตเห็นสายตาบางคู่ที่มองเธออย่างไม่เป็นมิตรและมีการกระซิบกระซาบกันเบาๆ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจนักอคิณพาเธอเข้าไปในห้องทำงานของเขาและอธิบายรายละเอียดต่างๆ ของงานให้เธอฟัง พราวตะวันตั้งใจฟังทุกคำพูดของอคิณ แต่ในใจของเธอก็ยังคงกังวลกับสายตาแปลกๆ ของพนักงานเหล่านั้นในระหว่างที่พักเที่ยง พราวตะวันตัดสินใจเดินไปที่โซนพักผ่อนเพื่อหาอะไรดื่ม แต่แล้วเธอก็ได้ยินพนักงานกลุ่มหนึ่งกำลังพูดคุยกันถึงข่าวลือที่กำลังแพร่สะพัดในโซเชียลมีเดีย“ได้ยิน
ตอนที่47ไม่รับสาย หลังจากใช้เวลที่บ้านสวนด้วยกันอย่างมีความสุข อคิณและพราวตะวันก็ขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับบ้านที่อยู่ในตัวเมือง บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยความรัก ของทั้งสองที่ยิ่งได้อยู่ด้วยกันก็ยิ่งรักกันมากขึ้น พราวตะวันเองก็ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะรักอคิณได้เพราะวันแรกเธอแทบไม่อยากจะอยู่ใกล้เขาเสียด้วยซ้ำ อคิณขับรถด้วยรอยยิ้ม ขณะที่พราวตะวันเอนศีรษะซบลงที่ไหล่ของเขาอย่างผ่อนคลาย “คุณมีความสุขไหมครับ” อคิณเอ่ยถามเบาๆ พราวตะวันพยักหน้า “ที่สุดเลยค่ะ” เธอตอบ “พราวไม่คิดเลนว่าการได้มาอยู่ด้วยกันแบบนี้จะมีความสุขได้มากขนาดนี้” อคิณยิ้ม “ผมจะทำให้ทุกๆ วันของเราเป็นวันที่มีความสุขแบบนี้ไปเรื่อยๆ ครับ” เขาบอกพลางยกมือขึ้นลูบผมของเธอเบาๆ ระหว่างที่รถกำลังแล่นอยู่บนถนน จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของพราวตะวันก็ดังขึ้น เธอหยิบมันขึ้นมาดูแล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ เพราะชื่อที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอคือฟิล์ม อคิณหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อนี้ “ใครโทรมาหาเหรอพราว” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มไม่สบายใจ เขารู้ว่าเป็นใครแต่ก็แกล้งถามไปอย่างนั้น พรา
ตอนที่46เร่าร้อนที่บ้านสวน หลังจากงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยความสุขจบลง อคิณและพราวตะวันก็เดินกลับเข้ามาในบ้านสวนที่เงียบสงบยามค่ำคืน บรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนจากความครื้นเครงมาเป็นความเงียบสงบที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ทั้งคู่มีให้กัน อคิณดึงพราวตะวันเข้ามากอดจากด้านหลังแน่นขึ้นขณะที่เดินผ่านห้องโถง “ผมรักคุณนะพราว” เสียงกระซิบแหบพร่าเบาๆ ที่ข้างหูทำให้พราวตะวันรู้สึกถึงกระแสความอบอุ่นที่วิ่งไปทั่วร่าง “ฉันก็รักคุณค่ะคินน์” เธอกระซิบตอบกลับพร้อมกับหันหน้าเข้าหาเขา ริมฝีปากของอคิณทาบทับลงมา พราวตะวันตอบรับสัมผัสจากเขาอย่างเร่าร้อน มือของเธอประสานเข้าไปในกลุ่มผมด้านหลังของอคิณก่อนจะดึงทิ้งอย่างแผ่วเบาเพื่อเพิ่มความเร่าร้อนให้กับการจูบ มือของอคิณก็เลื่อนลงมาโอบเอวของพราวตะวันไว้แน่นก่อนจะค่อยๆ ไล่ขึ้นไปตามแผ่นหลัง ทำให้ทั้งคู่รู้สึกถึงความต้องการของกันและกัน ลมหายใจของทั้งคู่เริ่มติดขัดเมื่ออคิณค่อยๆ ถอดเสื้อของพราวตะวันออกจนเปลือยเปล่า อ้อมกอดที่อบอุ่นค่อยๆ เคลื่อนมาโอบกอดร่างกายเปลือยเปล่าของเธอไว้ ก่อนที่จะค่อยๆ อุ้มเธอขึ้นมาอย่างช้าๆ พราวตะวันโอบแขนรอบคอขอ