Share

บทที่2

last update Last Updated: 2025-02-22 18:39:09

 

บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเงียบสนิท ตงหยางหน้านิ่งเอาแต่นั่งตักข้าวใส่ปาก ไร้แม้บทสนทนา ทำเอาบรรยากาศพลอยอึดอัดอยู่เล็กน้อย ส่วนซิงเหยียนเธอเองก็ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะพูดหรือถามอะไร ทั้งๆ คนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะคือคนที่เธอต้องแต่งงานด้วย

ดูเหมือนว่าบรรยากาศจะพาอึดอัดจริงๆ ตงฉินเหลือบสายตาขึ้นมองใบหน้านิ่งราวหุ่นยนต์ของพี่ชาย ก่อนที่ตัวเขาจะเป็นคนเอ่ยถาม

“พี่ใหญ่ งานแต่งจะจัดขึ้นตอนไหน”

เชื่อเถอะว่าคนที่ แทบสำลักอาหารที่ทานคือซิงเหยียน ส่วนตงหยางหน้านิ่งเขาชะงักก็จริงแต่ก็ทำนิ่งต่อ จนน้องชายต้องเอ่ยถามด้วยความอยากรู้

“พี่ได้ยินที่ผมพูดหรือเปล่า ผมถามว่าพี่จะแต่งงานกับเหยียนเหยียนตอนไหน”

ใบหน้าที่นิ่งยิ่งกลัวสายน้ำที่ไม่ไหวติงนั้น ช้อนสายตาขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่ตัวเขาจะวางช้อนและส้อมลงที่จานใบหรู หยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบดื่มด้วยท่าทางสง่า จากนั้นก็หันมามองใบหน้าสวยที่เอาแต่นั่งก้มหน้า

“เดือนหน้า คงไม่ช้าไปใช่ไหมซิงเหยียน?”

น้ำเสียงเยือกเย็น พร้อมสายตาที่แฝงความโหดร้ายทำเอาซิงเหยียนไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเขา เธอตอบเขาอย่างตะกุกตะกัก

“มะ ไม่ช้าหรอกค่ะ เร็วไปด้วยซ้ำ”

“ดี! ฉันจะสั่งคนให้มาดูแลเธอและพาเธอไปลองชุด”

“อ้าว ทำไมพี่ไม่พาเหยียนเหยียน ไปละครับ”

เสียงที่แทรกขึ้นนั้น ทำเอาสายตาคู่ที่ไม่เป็นมิตรหันมามองน้องชายเพียงคนเดียวของเขา ก่อนที่ประโยคอันแสนเจ็บปวดจะหลุดออกมาจากปากเจ้าของร่างสูง

“ฉันไม่มีเวลาไปทำเรื่องไร้สาระหรอกนะ!”

พรึ่บ

พูดจบก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วสาวเท้ายาวออกจากโต๊ะอาหารทันที พร้อมทิ้งประโยคนั้นไว้ให้ซิงเหยียนจุกอก

“เหยียนเหยียน เธออย่าสนใจคำพูดพี่ใหญ่เลย เขาก็เป็นแบบนี้แหละ”

เธอรู้ว่าเขาเป็นแบบนั้น แต่เขาน่าจะคิดบ้างว่าเธอกำลังจะแต่งงานใช้ชีวิตคู่ หากไม่ชอบเธอแล้วทำไมถึงยอมแต่ง

“พี่ฉิน ฉันไม่เป็นไรค่ะ ทานเถอะเดี๋ยวอาหารเย็นจะไม่อร่อย”

เธอพยายามจะกลบเกลื่อน ไม่อยากให้สิ่งที่น่าสมเพชที่สุดต้องไหลออกมาต่อหน้าตงฉิน หากจะถามว่าเธอรู้สึกอย่างไรนั้นมันก็คงเจ็บ การแต่งงานที่เขามองว่าไร้สาระ หากจะเป็นแบบนั้นไม่ต้องแต่งเสียดีกว่า

เวลาผ่านไปค่อนข้างจะเร็วมาก อย่างที่ตงหยางพูดไว้ เขาจัดการส่งคนมาช่วยซิงเหยียนเพื่อพาไปร้านชุดเจ้าสาว มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่เธอจะต้องทำคือลองชุด เพราะเขาบอกเธอว่าที่เหลือเขาจัดการเอง

ร้านอาหาร

คนที่นัดไว้ว่าจะมาทานข้าวด้วยกันวันนี้ก็คือ ซูซ่าน เธอเป็นเพื่อนของซิงเหยียนตั้งแต่เรียนมัธยมจนกระทั่งมหาวิทยาลัย และที่นัดทานข้าวกันวันนี้เป็นเรื่องที่ซิงเหยียนเธออยากปรับทุกข์ในใจกับเพื่อนเท่านั้น

“เหยียนเหยียน มานานแล้วเหรอ”

เสียงที่โพล่งมาก่อนตัว จนซิงเหยียนที่นั่งอยู่ก่อนหน้าต้องเงยหน้าขึ้นมามอง พร้อมรอยยิ้มหวานส่งให้เพื่อน

“ฉันพึ่งมาไม่นาน”

ซูซ่านเลื่อนเก้าอี้แล้วนั่งฝั่งตรงข้ามของซิงเหยียน รอยยิ้มตาหยีแสดงความมีสุขเมื่อเห็นใบหน้าของเพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา

“ทำไมอยู่ๆ อยากนัดมาทานข้าวละ หรือว่าเจ้าบ่าวของเธอไม่ว่างเลยนัดฉันแทน”

ประโยคของซูซ่านทำเอาใบหน้าผ่องที่มีรอยยิ้มเมื่อครู่ ต้องหุบยิ้ม สีหน้าของเธอบึ้งตึงลงเล็กน้อย มันแสดงถึงความเศร้าที่เกาะกินในหัวใจ ที่นัดเพื่อนมาวันนี้ ก็เพราะเรื่องงานแต่งที่จะถึงไม่กี่วันข้างหน้า

“ทำไมเธอทำหน้าแบบนั้น ดูเหมือนคนไม่มีความสุขเลยนะ”

“ก็เพราะเรื่องแต่งงานนี้แหละที่ฉันนัดเธอออกมาทานข้าวด้วย อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็เป็นวันมงคล แต่พี่หยางเขาไม่เคยสนใจเรื่องงานเลย ฉันไม่เข้าใจว่าทำไม คุณปู่ถึงอยากให้ฉันแต่งงานกับเขา”

เสียงพ่นลมดังพรืดใหญ่ ซูซ่านรับรู้ถึงความรู้สึกเพื่อนที่มีต่อตงหยาง แม้ว่าชายหนุ่มคนนั้นจะไม่ได้มองซิงเหยียนอยู่ในสายตาก็ตาม ทว่า ความรักที่มันแอบเกิดขึ้นในใจสมัยซิงเหยียนตั้งแต่อยู่มอปลาย เหมือนจะมั่นคงตลอดมา

“เหยียนเหยียน คุณปู่กู้คงอยากให้เธอสมหวังกับความรัก และท่านคงคิดดีแล้ว”

“แต่พี่หยางเขาไม่เคยรักฉันสักนิด พี่หยางก็มองฉันเป็นศัตรูเสมอมา”

“นั่นเพราะคุณนายหลี่ต่างหากละ เมื่อก่อนตงหยางก็ไม่ได้เกลียดเธอนี่เพียงแต่เขาไม่พูดเท่านั้น แต่ที่เกลียดเธอเพราะแม่เขาเป่าหูหรอก หาว่าเธอทำพ่อเขาตาย แต่เขาจะรู้ไหมความจริงคืออะไรกันแน่”

“ช่างเถอะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว ต่อให้เรื่องจริงเป็นแบบไหน พี่หยางเขาก็เกลียดฉันไปแล้วละ”

ระหว่างที่นั่งคุยกันในร้าน เมนูของทางร้านก็ถูกเปิดออก ดวงตาคู่หวานของซิงเหยียนกวาดมอง ก่อนที่เธอจะสั่งเมนูที่อยากทาน ส่วนซูซ่านก็เช่นกัน

บรรยากาศภายในร้านค่อนข้างที่จะสบายดูไม่แออัดจากผู้คนที่เข้ามาใช้บริการ หรือเพราะร้านนี้ถูกตั้งอยู่รอบนอกเมืองมีต้นไม้ให้ความร่มรื่น ต่างจากเขตเมืองที่ผู้คนแออัดจนรู้สึกว่าจะทานอะไรก็ไม่คล่องตัว

หลังจากที่นั่งทานมื้อเที่ยงกันแล้ว ซิงเหยียนเธอก็เล่าให้ซูซ่านฟังเรื่องที่เธอพึ่งไปลองชุดโดยไม่มีว่าที่เจ้าบ่าวไปด้วย และสิ่งที่เขาพูดเมื่อหลายวันก่อนก็ทำเอาเธอเองแอบน้อยใจอยู่บ้าง

หลังจากที่นั่งทานและพูดคุยกันอยู่สักพัก ซิงเหยียนเธอก็ขอแยกกับเพื่อนตรงนั้น โดยมีคนขับรถของทางบ้านมารอรับอยู่แล้ว ไม่ต้องลำบากนั่งแท็กซี่ แม้ว่าเธอเองจะเป็นแค่ผู้อาศัยเมื่อครั้งคุณปู่ยังอยู่ แต่ท่านก็ไม่เคยให้เธอนั่งรถคันอื่นสักครั้ง นอกจากรถที่บ้านเท่านั้น และยิ่งตอนนี้เธอมีฐานะเป็นถึงเจ้าของบ้านอีก

บ้านตระกูลกู้

กว่าจะกลับมาถึงคฤหาสน์หรูได้ ก็เกือบหกโมงเย็นเข้าไปแล้ว ที่ช้าก็เพราะแวะซื้อของใช้ส่วนตัว แต่เมื่อมาถึงก็เห็นว่ารถประจำตัวของตงหยางจอดอยู่ เพียงสายตาเหลือบไปมองก็เหมือนจะแปลกใจอยู่บ้าง ปกติแล้วตงหยางจะไม่กลับบ้านเร็วขนาดนี้

ร่างเล็กบอบบางเดินเข้ามาในคฤหาสน์หรู พร้อมข้าวของส่วนตัวที่เธอซื้อเข้ามาใช้ เวลานี้เหล่าแม่บ้านหลายคนก็ต่างให้ความเคารพเธอ เพราะเธอคือเจ้าของบ้านคนใหม่ที่ไม่ใช่คุณนายหลี่ แต่หลายคนก็ยังมองเธอว่า เธอเป็นกิ้งก่าได้ทอง ฮุบสมบัติของตระกูล เธอมันก็แค่เด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยงเท่านั้น

 

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สัญญาร้ายนายมาเฟีย   บทที่41 ตอนจบ

    ตงหยางกลับเข้ามาที่โรงพยาบาล ทว่า เป็นจังหวะที่หมอกำลังเข็นร่างของซิงเหยียน ออกจากห้องฉุกเฉิน เขารีบวิ่งไปประชิดเตียงผู้ป่วย พร้อมคำถามที่ถามหมอประจำตัว"ซิงเหยียนเป็นยังไงบ้างครับ""คุณเป็นอะไรกับเขาหรือครับ""ผมเป็นสามีเธอ""อ้อ....โชคดีที่มาโรงพยาบาลทัน แม่และเด็กปลอดภัย ส่วนคนไข้เธอสลบไปด้วยความตกใจ ต้องพักฟื้นอีกสักหน่อย"รอยยิ้มที่ไม่เคยเกิดขึ้นมานานแล้ว ฉีกออกจนกว้าง แค่คำว่าแม่ลูกปลอดภัยทำเอาหัวใจชื่นมื่นขึ้นมาซิงเหยียนถูกส่งตัวมาที่ห้องพักฟื้นโดยมีตงหยางเป็นคนเฝ้าไม่ห่าง เขาแทบไม่หลับไม่นอน ไม่ออกไปไหนกลัวว่าซิงเหยียนตื่นขึ้นมาจะไม่เจอใคร นาทีนั้นหมอซางก็เข้ามาพอดี"เป็นไงบ้าง"เขาเอ่ยถามคนเฝ้า ตงหยางตอนนี้เหมือนแมวเชื่องๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น"ปลอดภัยแล้ว"แคร่กๆเธอไอแห้งๆ ก่อนจะลืมตาตื่นขึ้นมา ทว่าเมื่อรู้สึกตัวเท่านั้นก็กวาดสายตามอง จากนั้นก็เห็นว่าตงหยางนั่งอยู่ข้างเตียง"พี่หยาง ลูกละ ลูกเป็นยังไง เขาอยู่ไหม"ชายหนุ่มเอื้อมมือไปลูบกลุ่มเส้นผม เผยอริมฝีปากจูบอย่างอ่อนโยนโดยไม่แคร์หมอซางที่ยืนอยู่ ทำเอาหมอซางต้องปลีกตัวออกไปปล่อยให้ทั้งคู่คุยกัน"ลูกเราปลอดภัย เขายังอยู่"น้

  • สัญญาร้ายนายมาเฟีย   บทที่40

    หนึ่งเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก ท้องของซิงเหยียนป่องขึ้นเล็กน้อย เธอยังคงทำตัวเหมือนเดิม ไปทำงานที่โรงพยาบาล แต่มีตงหยางคอยเฝ้าอยู่ไม่ห่าง แถมสถานะเขาตอนนี้เหมือนคนที่โรงพยาบาลจะพอรู้แล้วการมานั่งเฝ้า ซื้อของมาฝาก หรือแม้กระทั่ง การคอยรับกลับคอนโด แม้ว่าซิงเหยียนเธอจะไม่กลับด้วย แต่ตงหยางก็คอยขับรถตาม รถที่ซิงเหยียงนั่ง"นับวันยิ่งประสาท"เธอบ่นกับตัวเองเบาๆ ขณะที่นั่งอยู่ในรถ เมื่อรถจอดสนิท เธอก็เดินลง มุ่งหน้าขึ้นลิฟต์ ไปยังห้องที่เธออยู่ ส่วนตงหยางหน้าที่หลักคงเป็นบอดี้การ์ดคอยตามเมียไปแล้ววันเวลาผ่านไป ตงฉินคอยทำหน้าที่ประธานบริษัท ส่วนคุณนายหลี่ก็เข้าวัดสวดมนต์ ปรับเปลี่ยนไปเยอะ ที่เปลี่ยนเพราะตัวเองวิตกจนหาที่พึ่ง ไม่อยากจะคิดมากเรื่องลูกชายทั้งสอง ไม่อยากเห็นพี่น้องต้องชิงอำนาจกันแต่ใครจะไปคิดว่า สิ่งที่ตงฉินทำ เขาแค่อยากดัดนิสัยพี่ชาย คนหน้าตายชักสีหน้าตลอดอย่างเขาสมควรโดนแบบนี้เสียบ้างวันหยุดของซิงเหยียน ปกติก็ไม่ค่อยออกไปไหน ด้วยความที่ตัวเองท้องแถมก็เดินเที่ยวค่อนข้างลำบาก ทว่า วันนี้กลับนึกอยากเดินไปหาซื้อของ เพราะรู้สึกว่าของใช้ภายในห้องมันเริ่มหมด อีกทั้งตงฉินก็ไม่ได้ซื

  • สัญญาร้ายนายมาเฟีย   บทที่39

    ตงหยางซดเหล้าจนตาแดงก่ำ เดินเซมาที่ห้องของน้องชาย เวลานี่ห้าทุ่มเข้าไปแล้ว เขามีเรื่องที่อยากจะคุยกับตงฉินให้รู้เรื่องก๊อก ก๊อกเคาะประตูในขณะที่ตัวเองแถบยืนไม่อยู่ เมื่อประตูแง้มออก ก็รับจับไปที่คอเสื้อตงฉิน ทว่าเรียวแรงคนเมา มันไม่ได้ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงเหมือนก่อน ทำให้ตงฉินสะบัดร่างเขากองไปอยู่ที่พื้น"พี่มีอะไร""แกจะเอายังไง""เรื่อง? ""เรื่องซิงเหยียน แกเลิกยุ่งกับซิงเหยียนซะ"ขณะพยายามพยุงร่างตัวเองขึ้นมาเพื่อพูดกับน้องชาย ทำเอาตงฉินเบ้ปาก จากนั้นก็มองพี่ชายที่ตัวเองยกย่องเสมอมา"ท่านประธานตงหยางผู้ชักสีหน้านิ่งตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ดูสภาพพี่ตอนนี้สิ เหมือนหมาข้างถนน เมาขนาดนี้ หากคนอื่นเห็นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน""แกไม่ต้องนอกเรื่องฉันถามว่าแกจะเอายังไง เลิกยุ่งกับซิงเหยียนซะ""อยากให้เลิกยุ่งเหรอ เอาอะไรมาแลกดีละ""แกหมายความว่ายังไง""ทุกอย่าง ต้องมีเงื่อนไข พี่อยากให้ผมเลิกยุ่งกับซิงเหยียน พี่จะเอาอะไรมาแลกถึงจะสมน้ำสมเนื้อ""แกอยากได้อะไร""อืม....สิ่งที่อยากได้งั้นเหรอ ตำแหน่งท่านประธานดีไหม""ตงฉิน!!""ก็แล้วแต่พี่นะ แลกไม่แลกผมไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว ตอนนี้เหยียนเหยียนท้อง

  • สัญญาร้ายนายมาเฟีย   บทที่38

    "นายครับ คนของเราบอกว่าคุณซิงเหยียนไปพบหมอที่ห้องสูติครับนาย"เจียวมิ่งรายงานเสียงเข้ม ทำเอาตงหยางที่นั่งตวัดลายเซ็นต้องเงยหน้าขึ้นมองหน้าคนสนิท พร้อมทั้งทวนคำพูดของเจียวมิ่งด้วย"ว่าไงนะ ห้องสูติเหรอ เธอไปทำอะไร""ไม่ทราบเหมือนกันครับนาย"ตงหยางนึกคิด แผนกสูติส่วนมากเขาเป็นแผนกที่หญิงตั้งครรภ์ควรจะไป แต่ทำไมซิงเหยียนถึงเข้าไปพบหมอที่แผนกนั้น เมื่อครุ่นคิดแล้ว ก็ถึงกับดีดตัวพรวดพราดขึ้นจากเก้าอี้"นายจะไปไหนครับ"เขาไม่ตอบ สิ่งที่เขาทำคือมุ่งหน้าออกจากบริษัท จากนั้นก็ไปที่คอนโดของหญิงสาวเวลานี้ซิงเหยียนนั่งทานผลไม้ พร้อมกับเปิดทีวีดูสิ่งบันเทิง มือน้อยๆ ของเธอลูบไปที่ท้อง พร้อมคำพูดแสนหวาน"ทานเก่งนะเรา แม่อ้วนเป็นหมูแล้ว ตั้งแต่ที่หายแพ้ก็เอาแต่กินไม่หยุด หนูคงชอบทานผลไม้ใช่ไหม"พูดกับลูกในครรภ์พร้อมรอยยิ้ม พลางหยิบแอปเปิลเข้าปาก เคี้ยวอย่างอร่อย ไม่นานนักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นก๊อก ก๊อก"สงสัยคุณอาฉินมาแล้ว มาเร็วกว่าที่คิด"เธอคิดว่าเป็นตงฉิน เพราะนัดกันไว้แล้ว ตงฉินติดงานหลังเลิกงานบอกว่าจะมาหาเธอเพื่อถามอาการ เพราะวันนี้เธอไปตรวจครรภ์มาร่างเล็กเดินไปที่ประตูก่อนที่จะเปิดมันออก

  • สัญญาร้ายนายมาเฟีย   บทที่37

    แต่ใครจะไปคิดว่า ตงหยางใช้คำอาจสั่งให้น้องชายเข้าประชุมแทน ส่วนตัวเองก็มานั่งเฝ้าซิงเหยียนเธอเดินออกมาด้านนอกโดยไม่สนใจที่จะมองตงหยาง ในเมื่อตัดแล้วก็ต้องการตัดให้ขาด แต่"พี่หยาง ปล่อยฉันนะ"อยู่ๆ ร่างสูงที่เดินตามเธอมา แล้วรีบคว้าที่แขนเธอพาเธอมาที่รถแม้ว่าเจียวมิ่งจะไม่ใช่คนขับ แต่คนอย่างตงหยางไปที่ไหนก็ต้องมีคนคอยคุมภัยอยู่แล้ว"พี่จะพาฉันไปไหนฉันไม่ไป""ขึ้นรถ แค่จะไปส่ง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาฉันไม่เคยได้ทำหน้าที่พี่ชายกับเธอ วันนี้ฉันขอทำหน้าที่แทนตงฉินแล้วกัน""แล้วพี่ฉินไปไหน? ""ตงฉินมีประชุม"พี่ชายอย่างนั้นเหรอ เธออยากจะหัวเราะ แต่มันฝืดเคืองมากกว่า พี่ชายที่มีลูกเขาอยู่ในท้องแต่ก็ต้องจำยอมขึ้นไปนั่ง ก็เขาดันร่างเธอขนาดนั้น ไม่อยากขัดขืนให้เกิดอันตรายแม้แต่นิดเขาบอกว่าจะไปส่งเธอ แต่ดันพาเธอมาร้านอาหาร แต่มันก็น่าแปลกทั้งน่าขำ ตอนที่เป็นสามีภรรยากัน แทบจะไม่พาเธอไปไหน ทานข้าวก็มีแต่ทานในบ้าน ออกงานแค่ครั้งเดียวคือวันรับตำแหน่ง"ร้านนี่อร่อยนะ ปกติฉันไม่เคยพาเธอมาทานแบบนี้สักครั้ง เธออยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม""ไม่ค่ะ พี่ฉินซื้ออาหารไปไว้ให้ฉันหมดแล้ว อีกอย่างฉันก็ยังไม่หิว ห

  • สัญญาร้ายนายมาเฟีย   บทที่36

    ในเมื่อไม่อยากกระทำอะไรที่มันร้ายแรงลงกว่าเดิม ตงหยางจำยอมที่จะออกจากห้องรู้สึกว่าที่ผ่านมาตัวเองแย่จริงๆ เพราะพินัยกรรมสมบัตินั้นแท้ๆ ที่ทำให้เขาต้องใช้สัญญามาบีบบังคับเธอทางอ้อมหลังจากที่ตงหยางออกไปจากห้อง ความรู้สึกเสียใจก็ย่อมมี แต่ก็ต้องอดกลั้นมันไว้ ไม่อยากให้ความอ่อนแออยู่เหนือทุกอย่าง ไม่อย่างนั้นก็ตัดเขาออกจากใจไม่ได้สักทีสองวันผ่านไปตงหยางสั่งให้ลูกน้องมาสืบ จนรู้ว่าซิงเหยียนมาทำงานที่โรงพยาบาล และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมาทำ พอเขารู้ก็เหมือนจะเสียใจมาก เพราะตัวเองไม่ขอรับรู้เรื่องของเธอก่อนหน้า จนวันนี้มาถึง แต่ก็คงเป็นผลกรรมที่ตัวเองได้ทำไว้ หากเธอจะโกรธจนไม่ให้อภัย ก็คงเป็นเพราะชะตาลิขิตไว้แล้วยิ่งตอนนี้คนที่ตีสนิทกับซิงเหยียนก็คือน้องชาย แน่นอนว่าหากซิงเหยียนจะกลายมาเป็นน้องสะใภ้ เขาเองย่อมรับไม่ได้ และไม่มีวันยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้น#โรงพยาบาลเป๋ยร่างสูงมุ่งหน้ามาที่ห้องบัตร สายตาของเขาเรียบนิ่งก่อนหยุดยืนแล้วพูดเสียงเย็น"ฉันมาหาหมอ""เป็นอะไรมาค่ะ"ซิงเหยียนรับคำแต่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมอง เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคืออดีตสามี ทำเอาดวงตาคู่สวยเลิ่กลั่ก จังหวะนั้น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status