Share

บทที่ 2 (รีไรท์)

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-21 23:07:29

แสงแดดยามสายสาดส่องลอดผ่านผ้าม่านกำมะหยี่สีเทาเข้มเข้ามาตกกระทบเปลือกตา ปลุกให้ธนิดาตื่นจากห้วงนิทราอันหนักอึ้ง เธอขยับตัวเล็กน้อย ความนุ่มนวลของฟูกที่นอนอันหนานุ่มและกลิ่นที่ลอยมาเตะจมูกของเธอนั้นมันเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเครื่องนอนราคาแพงทำให้เธอเผลอคิดไปชั่ววูบว่าเรื่องเมื่อคืนเป็นเพียงฝันร้าย

แต่ทันทีที่ลืมตาขึ้น เพดานสูงลิบประดับโคมระย้าคริสตัลระยิบระยับก็กระชากเธอกลับสู่ความเป็นจริง

ที่นี่ไม่ใช่บ้านไม้เก่าซอมซ่อของเธอ แต่เป็นเสมือนกรงทองของนาวินมากกว่า

ธนิดาดีดตัวลุกขึ้นนั่งกวาดสายตาไปรอบห้องนอนขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นลักชูรีโทนสีขรึม ทุกอย่างดูหรูหราเกินกว่าที่เธอจะจินตนาการถึง แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือประตูไม้บานใหญ่ที่ปิดสนิท และกล้องวงจรปิดตัวเล็กที่มุมห้องซึ่งกำลังกะพริบไฟสีแดงจางๆ ราวกับดวงตาของปีศาจที่จับจ้องเธออยู่ตลอดเวลา

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้น ก่อนที่ประตูจะเปิดออกโดยไม่ต้องรอเสียงอนุญาต

หญิงวัยกลางคนในชุดแม่บ้านสีกรมท่าเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มที่ดูใจดี "ตื่นแล้วเหรอคะคุณผู้หญิง ดิฉันเตรียมเสื้อผ้าและน้ำอุ่นไว้ให้แล้วค่ะ"

"คุณ... เป็นใครคะ?” ธนิดาถามเสียงระแวง ถอยหลังจนแผ่นหลังชิดหัวเตียง

"ดิฉันชื่อ มณี ค่ะ เป็นหัวหน้าแม่บ้านที่นี่" หญิงสูงวัยตอบน้ำเสียงนุ่มนวล วางชุดเดรสสีครีมเนื้อดีลงบนปลายเตียง “คุณนาวินสั่งให้ดิฉันมาดูแลคุณ และเรียนเชิญคุณลงไปรับประทานอาหารเช้าค่ะ ท่านรออยู่"

ธนิดามองรอยยิ้มของป้ามณี มันดูอบอุ่นเหมือนรอยยิ้มของผู้ใหญ่ใจดีทั่วไป แต่ทำไมลึกๆ แล้วเธอถึงรู้สึกเย็นสันหลังวาบ ราวกับว่าภายใต้รอยยิ้มนั้นมีบางอย่างซ่อนอยู่

บางอย่างที่เธออ่านไม่ออก

"ถ้าฉันไม่ลงไปล่ะคะ"

"ดิฉันเกรงว่านั่นไม่ใช่ทางเลือกค่ะ" ป้ามณียิ้มกว้างขึ้น แต่แววตาไม่ได้ยิ้มตาม "ที่นี่มีกฎเพียงข้อเดียว คือคำสั่งของคุณนาวินถือเป็นประกาศิตค่ะ"

สิบห้านาทีต่อมา ธนิดาในชุดเดรสสีครีมที่พอดีตัวราวกับสั่งตัดมาเพื่อเธอ เดินลงบันไดวนหินอ่อนมาสู่โถงชั้นล่าง โดยมีป้ามณีเดินตามประกบไม่ห่าง

บรรยากาศภายในคฤหาสน์เงาจันทราเงียบเชียบจนน่าอึดอัด ชายฉกรรจ์ในชุดสูทดำยืนประจำจุดต่างๆ ราวกับรูปปั้น สายตาคมกริบของพวกเขามองตามเธอทุกฝีก้าว ทำให้เธอรู้สึกเหมือนนักโทษที่กำลังเดินเข้าสู่ลานประหาร

เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องอาหาร ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งคนหนึ่งยืนรออยู่ เขามีบุคลิกต่างจากลูกน้องคนอื่น ดูสุขุมและมีการศึกษามากกว่า ผมสีน้ำตาลเข้มถูกจัดทรงเรียบร้อย ใบหน้าเกลี้ยงเกลาประดับด้วยรอยยิ้มบางๆ

"เชิญครับ คุณธนิดา" เขาผายมือเปิดประตูให้ "ผมนึกว่าคุณจะนอนตื่นสายกว่านี้เสียอีกหลังจากเจอศึกหนักเมื่อคืน"

"คุณคือ..."

"ผมชื่อ ภูมิ ครับ เป็นเลขาฯ และคนสนิทของคุณนาวิน" เขาแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงสุภาพนุ่มนวล แตกต่างจากเจ้านายของเขาอย่างสิ้นเชิง "ไม่ต้องกลัวนะครับ อยู่ที่นี่ตราบใดที่คุณไม่ออกนอกลู่นอกทาง ผมรับรองความปลอดภัยของคุณได้"

ธนิดาพยักหน้ารับแกนๆ แม้ภูมิจะดูเป็นมิตรที่สุดในบรรดาคนที่นี่ แต่สัญชาตญาณบางอย่างบอกเธอว่า ในดงเสือสิงห์กระทิงแรดแบบนี้ คนที่ดูไม่มีพิษมีภัยที่สุด อาจจะเป็นคนที่น่ากลัวที่สุดก็ได้

เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่ห้องอาหาร กลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟคั่วบดและขนมปังอบใหม่ลอยมาแตะจมูก แต่บรรยากาศในห้องกลับเย็นยะเยือก

นาวินนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะอาหารยาวเหยียด เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนเสื้อขึ้นลวกๆ เผยให้เห็นท่อนแขนกำยำที่มีเส้นเลือดปูดโปนเล็กน้อย ในมือถือแท็บเล็ตอ่านข่าวหุ้นพลางจิบกาแฟดำ ดูผ่อนคลายราวกับเรื่องฆ่าคนเมื่อคืนไม่เคยเกิดขึ้น

"นั่งสิ" เขาพูดโดยไม่เงยหน้ามอง ชี้ไปที่เก้าอี้ฝั่งขวามือของเขา

ธนิดานั่งลงอย่างจำยอม ตรงหน้าเธอมีจานอาหารเช้าแบบอเมริกันถูกจัดวางไว้อย่างสวยงาม

"กินซะ จะได้มีแรงตอบคำถาม" เขาวางแท็บเล็ตลง แล้วหันมาจ้องหน้าเธอด้วยดวงตาสีรัตติกาลคู่นั้น "รหัสผ่านของพ่อเธอ อยู่ที่ไหน"

ธนิดาวางส้อมลงเสียงดังเคร้ง "ฉันบอกคุณไปเป็นร้อยรอบแล้วว่าฉันไม่รู้ พ่อไม่เคยบอกอะไรฉันเลย วันๆ เขาเอาแต่ขลุกอยู่ในห้องทำงาน หายตัวไปทีละหลายวันแล้วก็กลับมาพร้อมแผลฟกช้ำ ฉันนึกว่าเขาติดพนันด้วยซ้ำ"

นาวินหรี่ตามองจับผิด คล้ายกำลังชั่งน้ำหนักคำพูดของเธอ “พ่อของเธอไม่ได้ติดพนัน แต่เขากำลังเล่นกับไฟ เขาขโมยข้อมูลเส้นทางการขนส่งสินค้าล็อตใหญ่ของฉันไปและเอาไปขายให้ศัตรู พวกแก๊งเสือดาว"

"แก๊งเสือดาว?"

"ใช่ พวกเดรัจฉานที่กัดไม่ปล่อย" นาวินเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ "พวกมันต้องการข้อมูลนั้นเพื่อดักปล้นสินค้าฉัน และทำลายเครดิตของเงาจันทรา พ่อของเธอคงคิดว่าจะเล่นเกมสองหน้า กินเงินทั้งสองทาง แต่สุดท้ายก็กลายเป็นเหยื่อเสียเอง"

"แล้วพ่อฉันอยู่ไหน" เสียงของเธอสั่นเครือ "คุณรู้ใช่ไหมว่าพ่ออยู่ที่ไหน"

ความเงียบเข้าปกคลุมชั่วขณะ นาวินวางแก้วกาแฟลงช้าๆ แววตาของเขาวูบไหวเป็นประกายประหลาดที่เธออ่านไม่ออก ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชาดุจน้ำแข็ง

“เขาหนีไปแล้ว ทิ้งเธอไว้รับกรรมแทนไงล่ะ"

"ไม่จริง! พ่อไม่มีวันทิ้งฉัน!"

"โลกความจริงมันโหดร้ายกว่านิทานก่อนนอนนะสาวน้อย" นาวินลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาก้าวเดินอ้อมโต๊ะมาหยุดยืนซ้อนหลังเก้าอี้ของเธอ แล้วโน้มตัวลงมากระซิบข้างหู กลิ่นกายหอมเย็นของเขาโอบล้อมเธอไว้อีกครั้ง

"จนกว่าพ่อเธอจะโผล่หัวออกมา หรือจนกว่าฉันจะรู้ว่ารหัสผ่านซ่อนอยู่ที่ไหน เธอต้องอยู่ที่นี่ อยู่ในสายตาของฉัน ห้ามคลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว"

มือหนาเลื่อนลงมาวางทาบที่ไหล่บางแล้วบีบเบาๆ สัมผัสนั้นหนักแน่นและแสดงความเป็นเจ้าของอย่างโจ่งแจ้ง

"กินข้าวซะ อย่าให้ฉันต้องป้อนด้วยวิธีของฉัน เธอคงไม่อยากรู้หรอกว่ามันเป็นยังไง"

ธนิดาขนลุกซู่ เธอสัมผัสได้ถึงความนัยที่แฝงมาในคำขู่นั้น มันไม่ใช่แค่เรื่องการกินข้าว แต่มันหมายถึงการควบคุมทุกอย่างในชีวิตเธอ

ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ของภูมิก็ดังขึ้นขัดจังหวะ ภูมิรีบกดรับสาย สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันตาก่อนจะหันมารายงาน

“นายท่านครับ มีสายรายงานเข้ามา ที่โกดังท่าเรือสินค้าล็อตเมื่อคืนมีปัญหาครับ"

นาวินผละออกจากธนิดาทันที แววตาเปลี่ยนเป็นดุดัน "เตรียมรถ ฉันจะไปดูด้วยตัวเอง"

เขาหันกลับมามองธนิดาเป็นครั้งสุดท้าย "อยู่แต่ในบ้าน อย่ารนหาที่ตายด้วยการคิดหนี เพราะข้างนอกนั่นมีคนที่อยากได้ตัวเธอมากกว่าฉัน และพวกมันจะไม่ใจดีเลี้ยงข้าวเธอแบบนี้แน่"

พูดจบเขาก็เดินออกไปพร้อมกับภูมิ ทิ้งให้ธนิดานั่งอยู่ท่ามกลางความเงียบและความหวาดหวั่นเพียงลำพัง โดยมีสายตาของป้ามณีที่ยืนสงบนิ่งอยู่มุมห้องจ้องมองแผ่นหลังของเธอด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา

เกมกระดานนี้เพิ่งเริ่มต้น และเธอก็เป็นเพียงหมากตัวเล็กๆ ที่ถูกวางอยู่กลางวงล้อมของราชสีห์

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   ตอนพิเศษ 5 (NC)

    ฟ้าร้องกึกก้องจนผนังสั่นสะเทือน เม็ดฝนกระหน่ำราวกับพายุร้ายกำลังโหมกระหน่ำใส่โลกใบนี้ไม่หยุดในห้องใต้ดินขนาดเล็กที่ซ่อนตัวอยู่หลังคฤหาสน์ ธนิดากับนาวินนั่งอยู่ด้วยกันบนฟูกผืนเก่า มีเพียงแสงเทียนริบหรี่เป็นเพื่อน ความเงียบชวนอึดอัดกำลังคืบคลานขึ้นระหว่างทั้งสองคน“ข้างบนระเบิดเสียหายหนัก” นาวินพูดเรียบ ๆธนิดาพยักหน้า ดวงตาไม่กล้าสบกับเขา “เราจะติดอยู่ที่นี่นานแค่ไหน?”“จนกว่าคนของฉันจะกวาดล้างพวกมันหมด... หรืออาจจะต้องรอจนกว่าฝนจะหยุด”เธอกอดเข่าตัวเองแน่น ลมหายใจเบาเหมือนกลัวว่าเสียงจะไปกระทบใจใครผ่านไปเกือบสิบนาที นาวินจึงลุกไปหยิบผ้าห่มผืนใหญ่ที่วางอยู่มุมห้อง และโยนมันคลุมตัวเธอ“เข้ามานี่” เขาเอ่ยนิ่ง ๆ พลางตบฟูกข้างตัวเธอลังเล “ฉัน... ไม่หนาว”“อย่าดื้อ”เมื่อเธอขยับตัวเข้าไปใกล้ ใต้ผ้าห่มเดียวกัน ความอบอุ่นของร่างกายเริ่มแผ่ซ่านออกมา แต่มันไม่ใช่แค่เพียงไออุ่นจากผิวหนัง หากแต่เป็นความร้อนที่ซ่อนอยู่ในใจทั้งคู่ฝนยังคงตกแต่เสียงฝนเริ่มจางลงในใจของทั้งสอง เมื่อดวงตาคู่นั้นเริ่มสบกันโดยไม่มีคำพูดใด ๆ“รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงพาเธอมาที่นี่?” เขาถามเบา ๆ“เพราะฉันเสี่ยงตายเพื่อคุณงั้น

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   ตอนพิเศษ 4

    เสียงปิดประตูดังปัง พร้อมแรงดึงที่กระชากไหล่เล็กให้หันกลับมาเผชิญหน้าร่างสูงที่เต็มไปด้วยความคุกรุ่น“คิดจะหนีฉันเหรอ!” น้ำเสียงของนาวินต่ำลึกและเต็มไปด้วยแรงกดดัน เขาแทบไม่ต้องข่มอารมณ์ให้มากกว่านี้ เพราะตอนนี้ทุกหยดเลือดในกายกำลังเดือดพล่านธนิดาถอยกรูดหลังชิดผนัง ใบหน้าซีดเผือดทั้งที่ดวงตายังเปล่งแสงกร้าว “ฉันไม่ได้หนี ฉันแค่... เลือกจะไม่อยู่ในที่ที่อันตรายอีกต่อไป!”“อันตรายเหรอ?” เขาก้าวเข้ามาใกล้อีกหนึ่งก้าว ดวงตาคู่คมไล่มองเรือนร่างเธออย่างไม่ปิดบังเจตนา “หรือว่าเธอกลัวหัวใจตัวเอง?”“อย่ามาเล่นคำกับฉันนะ...”นาวินไม่ให้เธอพูดจบ มือหนาตรึงข้อมือเล็กทั้งสองไว้เหนือศีรษะ เขากระแทกเธอกับผนังอย่างไม่อ่อนโยน แล้วกระซิบชิดใบหู“ถ้ากล้าจะ ‘ไป’ โดยไม่บอก ฉันก็จะ ‘ลงโทษ’ เธอให้หลาบจำไปจนถึงเช้า”เขาไม่ปล่อยเวลาให้เธอตั้งตัว ริมฝีปากหยาบกร้านกดลงบนลำคอขาวเนียน ก่อนจะลากต่ำลงเรื่อย ๆ ผ่านกระดูกไหปลาร้า ราวกับกำลังลงอาคมแห่งความเป็นเจ้าของธนิดาเผลอครางเสียงสั่นเมื่อริมฝีปากของเขาแตะจุดไวสัมผัสตรงเหนือเนินอก นิ้วมือของเขาคลายกระดุมเสื้อเธอทีละเม็ดช้า ๆ ทว่าร้อนแรง“นาวิน...หยุด...” เธอครางอ

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   ตอนพิเศษ 3 (NC) - (รีไรท์)

    แสงแดดยามเช้าตรู่สาดส่องผ่านผ้าม่านโปร่งสีขาวเข้ามาตกกระทบเตียงนอนนุ่ม สร้างลวดลายของแสงเงาที่ดูอบอุ่นและสงบเงียบ เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วจากสวนหน้าบ้านและเสียงคลื่นกระทบฝั่งแผ่วเบา เป็นนาฬิกาปลุกธรรมชาติที่ดีที่สุดสำหรับบ้านพักริมทะเลแห่งนี้นาวินลืมตาตื่นขึ้นก่อนใครตามความเคยชิน เขานอนตะแคงเท้าแขนมองดูหญิงสาวในอ้อมกอดที่ยังคงหลับสนิท ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอของธนิดาเปรียบเสมือนดนตรีที่ไพเราะที่สุดที่ขับกล่อมจิตวิญญาณอันแข็งกระด้างของเขาให้อ่อนโยนลงปลายนิ้วหนาเกลี่ยปอยผมที่ตกลงมาปรกแก้มใสของภรรยาอย่างเบามือ เขายิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ใครจะเชื่อว่าอดีตหัวหน้าแก๊งมาเฟียที่เคยมองโลกเป็นสีเทาหม่น จะมานอนยิ้มให้กับคนรักในยามเช้าแบบนี้"อือ..." ธนิดาขยับตัวเล็กน้อย ครางงัวเงียในลำคอเมื่อถูกรบกวน เธอกะพริบตาถี่ๆ ปรับโฟกัส ก่อนจะคลี่ยิ้มหวานเมื่อเห็นใบหน้าของสามีเป็นสิ่งแรกของวัน"อรุณสวัสดิ์ค่ะ... คุณบาริสต้า" เสียงหวานแหบพร่าเล็กน้อยจากการเพิ่งตื่น"อรุณสวัสดิ์ครับ คุณนาย" นาวินก้มลงจูบหน้าผากมนหนักๆ "ตื่นสายนะวันนี้ เมื่อคืนโดนกวนดึกไปหน่อยเหรอ?"ธนิดาหน้าแดงซ่าน นึกถึงกิจกรรมรักท่ามกลางสายฝนเมื

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   ตอนพิเศษ 2 (NC) - (รีไรท์)

    ท้องฟ้าเหนือทะเลแปรเปลี่ยนเป็นสีเทาทะมึน เมฆฝนก้อนใหญ่เคลื่อนตัวเข้าปกคลุมจนบดบังแสงจันทร์ที่เคยสุกสกาว เสียงฟ้าคำรามครืนครั่นดังมาจากขอบฟ้าไกลๆ ก่อนที่สายฝนเม็ดหนาจะเทกระหน่ำลงมาอย่างบ้าคลั่ง ราวกับโกรธเกรี้ยวใครมานับร้อยปีภายในห้องนอนชั้นสองของบ้านพักริมทะเล บรรยากาศกลับแตกต่างจากภายนอกอย่างสิ้นเชิง แสงไฟสีส้มสลัวจากโคมไฟหัวเตียงสร้างความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย กลิ่นเทียนหอมอโรมากลิ่นวานิลลาลอยอบอวลจางๆ ผสมกับเสียงเม็ดฝนกระทบกระจกหน้าต่างที่กลายเป็นดนตรีขับกล่อมยามค่ำคืนธนิดานั่งกอดเข่าอยู่บนม้านั่งบุนวมริมหน้าต่าง เหม่อมองออกไปในความมืดมิดที่มีเพียงเส้นสายของน้ำฝน เธอสวมเพียงเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของนาวินที่ยาวคลุมลงมาถึงต้นขา เผยให้เห็นขาเรียวสวยที่ซ่อนอยู่ในเงามืด"คิดอะไรอยู่..."เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับวงแขนแกร่งที่โอบรัดรอบเอวเธอจากด้านหลัง นาวินเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เขาสวมเพียงกางเกงนอนขายาวเปลือยท่อนบน อวดมัดกล้ามสวยงามที่มีหยดน้ำเกาะพราว ผมเปียกชื้นลู่ลงมาปรกหน้าผากทำให้เขาดูเด็กลงและเซ็กซี่อย่างร้ายกาจนาวินวางคางลงบนไหล่เล็ก สูดดมกลิ่นหอมของสบู่ที่ติดอยู่บนผิวกายเธอ "หรือเธ

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   ตอนพิเศษ 1 (NC) - (รีไรท์)

    ค่ำคืนที่ท้องฟ้าเปิดโล่ง ไร้เมฆหมอกบดบัง ดวงจันทร์กลมโตทอแสงสีนวลสาดส่องลงบนผืนน้ำทะเลจนเกิดเป็นประกายระยิบระยับดุจเพชรนับพันเม็ด เสียงคลื่นซัดสาดหาดทรายขาวดังเป็นจังหวะขับกล่อมธรรมชาติให้หลับใหล แต่สำหรับคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่เพิ่งสวมแหวนหมั้นกันหมาดๆ รัตติกาลนี้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นนาวินจูงมือธนิดาเดินลัดเลาะไปตามชายหาดที่เงียบสงบ ห่างไกลจากบ้านพักและร้านกาแฟของพวกเขาออกมาพอสมควร จนกระทั่งถึงเวิ้งอ่าวเล็กๆ ที่ถูกโอบล้อมด้วยโขดหินธรรมชาติ เป็นมุมส่วนตัวที่มีเพียงหาดทราย สายลม และแสงจันทร์"คุณพาฉันมาเดินไกลขนาดนี้ จะแอบพาไปฆ่าหมกทรายหรือเปล่าคะเนี่ย" ธนิดาแกล้งแซว ทำลายความเงียบนาวินหยุดเดิน หันมามองเธอด้วยสายตาพราวระยับที่ทำให้ธนิดารู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว เขารั้งเอวบางเข้ามาแนบชิด จนหน้าอกนุ่มหยุ่นของเธอเบียดกับแผงอกแกร่งของเขา"ฆ่าหมกทรายมันเชยไป..." เขากระซิบเสียงพร่าชิดริมฝีปากเธอ “พามากินไปชมวิวไป น่าจะเหมาะกว่า"ธนิดาหน้าแดงซ่าน ตีอกเขาเบาๆ "คนทะลึ่ง! ที่โล่งแจ้งขนาดนี้ใครจะไปยอม...""ไม่มีใครหรอก แถวนี้เป็นเขตส่วนตัวของเรา" นาวินไม่พูดเปล่า เขาช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาวอ

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   บทที่ 16 (รีไรท์)

    เสียงคลื่นซัดสาดหาดทรายขาวละเอียดดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เคล้าคลอไปกับเสียงกระดิ่งลมที่แขวนอยู่หน้าประตูร้านกาแฟเล็กๆ สไตล์มินิมอลริมทะเล กลิ่นหอมกรุ่นของเมล็ดกาแฟคั่วบดลอยอบอวลผสมผสานกับไอเค็มของทะเล สร้างบรรยากาศที่แปลกใหม่แต่ลงตัวอย่างน่าประหลาดป้ายไม้เหนือประตูร้านสลักคำว่า The Moonlight ตัวอักษรหวัดๆ แต่สวยงามฝีมือเจ้าของร้านภายในเคาน์เตอร์บาร์นาวินในชุดเสื้อยืดสีขาวสะอาดตากับผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลเข้มกำลังขะมักเขม้นกับการเทนมลงในถ้วยกาแฟเพื่อทำลาเต้อาร์ต แม้ใบหน้าจะยังคงความคมเข้มดุดันตามแบบฉบับอดีตมาเฟีย แต่แววตาที่จ้องมองฟองนมนั้นกลับเต็มไปด้วยความตั้งใจและอ่อนโยนจนน่าเอ็นดู"เบี้ยวอีกแล้วค่ะคุณบาริสต้า"เสียงใสๆ ดังขึ้นจากโต๊ะมุมร้าน ธนิดาละสายตาจากบัญชีรายรับรายจ่ายในแท็บเล็ต เงยหน้าขึ้นมองผลงานศิลปะในถ้วยกาแฟของสามีแล้วหลุดขำออกมา "นั่นรูปหัวใจหรือรูปก้อนเมฆคะเนี่ย"นาวินถอนหายใจพรืด วางเหยือกนมลงแล้วยกมือเท้าเอว "ยากกว่ายิงปืนอีก ฉันว่าฉันเหมาะกับการชงกาแฟดำเพียวๆ มากกว่านะ""ไม่ได้ค่ะ" ธนิดาลุกเดินมาหาเขาที่เคาน์เตอร์ เอื้อมมือไปจัดปกเสื้อให้เขาเรียบร้อย "คุณบอกเองว่าจะเปิดร

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status