Home / วาย / สัมปทานอาญาเถื่อน / บทที่ ๕ สัมปทานรังสิมันต์

Share

บทที่ ๕ สัมปทานรังสิมันต์

last update Last Updated: 2025-06-26 12:20:58

ดึกดื่นจู่ ๆ ก็มีเรือเข้ามาจอดเทียบท่าชายหาด แสงไฟฉายจากคนงานต่างสาดส่องไปทั่วบริเวณ เพื่อนำทางบุคคลที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหมอตามมาอย่างเร่งด่วน

ขลุ่ยที่กำลังนอนซมด้วยพิษไข้ไม่มีกะจิตกะใจสนใจอะไรรอบตัว ลมหายใจร้อนผ่าว แถมความหนาวจากข้างนอกยังคงเล็ดลอดถาโถมเข้ามาอยู่เป็นระยะ ร่างผอมบางขดตัวเข้าหากัน พลันยกแขนกอดอกแน่น ก่อนจะกระชับผืนผ้าห่มขึ้นคลุมกายไว้มิดชิด

ทันใดนั้นบุคคลในชุดกาวน์ก็เข้ามาทำการรักษาคนที่กำลังนอนไม่ได้สติ เสาค้ำไม้เก่าข้าง ๆ ถูกนำมาเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อแขวนน้ำเกลือชั่วคราว เสียงร้องของขลุ่ยดังออกมาเป็นระยะ เนื่องจากขั้นตอนการล้างบาดแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

“อย่าลืมกำชับคนไข้ให้ทานยาตรงเวลา และครบจนหมดด้วยนะครับ” เสียงของหมอเปรยขึ้นกับเสือที่กำลังยืนรออยู่ข้างนอกเพื่อรอส่งคุณหมอกลับพอดี เดิมทีเพิ่งอาบน้ำเสร็จ แต่กลับได้รับคำสั่งเร่งด่วนจากไอ้ทัพ คราแรกได้ยินนึกว่าหูฝาด เพราะปกตินายหัวไม่เคยปรนนิบัติลูกหนี้คนไหนแบบนี้เลย

.

.

.

“เป็นไงบ้าง” คำพูดแรกเอ่ยถาม ในขณะที่ลูกน้องอย่างทัพเพิ่งเข้ามาถึง

“เรียบร้อยครับนายหัว”

“อืม ขอบใจ งั้นมึงออกไปได้แล้ว”

“...ครับนายหัว!”

ทั้งคืนอิฐเอาแต่ใช้ความคิดอย่างหนัก จนแทบไม่ได้นอน ร่างกำยำพลิกตัวไปมาไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เมื่อคนที่ตามหาอยู่ใกล้ตัวเองขนาดนี้ พอรุ่งเช้ามาถึงก็รีบดีดตัวทั้งที่ยังคงอยู่ในชุดมัดยอมเดิม เพื่อมาตามดูอีกฝ่ายถึงละแวกที่พักคนงานแถวนั้น

แกร๊ก!

เสียงเปิดประตูแผ่วเบา ดวงตามองเห็นร่างผอมบางกำลังนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหน้าด้วยใบหน้าซูบซีดอยู่ลำพัง ตามตัวเผยให้เห็นรอยแผลเป็นที่มาจากฝีมือเขาประปราย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่นึกเสียใจเท่าไหร่ ยิ่งได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร หากยังดื้อรั้นก็คงต้องจัดการขั้นเด็ดขาดเพื่อควบคุมอยู่ดี

“...แค่ก…แค่ก” เสียงไอแห้งดังเล็ดลอดจากคนที่กำลังนอนอย่าไงไม่รู้เรื่องรู้ราวว่ากำลังมีใครอยู่ในห้องร่วมด้วย

อิฐกวาดสายตามองหาน้ำใกล้ตัว ก่อนพบขวดน้ำดื่มและยาที่ตั้งไม่ห่างจากฟูกนอนเท่าไหร่ มือหยาบคว้าปลายหลอด พร้อมยื่นให้กับเจ้าตัว

“ขะ…ขอบคุณครับ” ขณะเดียวกันขลุ่ยรับน้ำขึ้นมาดื่มอย่างกระหาย ก่อนใบหน้าเรียวยาวได้รูปดูมีเลือดฝาดกว่าวันเก่า จะเงยหน้าสบเข้ากับดวงตาสีดำขลับที่กำลังนั่งอยู่ใกล้ ๆ พอดี

“มะ...มึงออกไปเลยนะ!” น้ำในขวดถูกปัดตกลงมา จนเปียกเต็มพื้นไปหมด

“ตื่นมาก็ดื้อเลยนะ ไหนขอฉันดูก้นนายหน่อยสิว่าเป็นยังไงบ้าง” แม้จะงงงวยกับสรรพนามที่อีกฝ่ายเรียกแทนตัวเอง แต่เพราะยังรู้สึกปวดระบมไปทั้งร่าง จึงไม่มีแรงจะคัดค้านอะไร

“อย่ามายุ่งกับกู!!...อ่ะ โอ๊ย!!” ร่างผอมบางรีบถอยกายหนีอัตโนมัติ จนลืมไปว่าร่างกายยังคงไม่สันทัด สุดท้ายก็ไม่ทันความเร็วของอีกคนที่จับข้อเท้าเอาไว้ แถมยังรูดรั้งกางเกงจนเห็นแก้มก้นขาวมีรอยริ้วเต็มไปหมด

“เดี๋ยวฉันทายาให้” ขลุ่ยจำใจนอนนิ่ง ๆ ให้มือใหญ่หยาบนั้นสัมผัสตามอำเภอใจ เพราะไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อกรด้วยแล้ว

“...”

“อยู่นิ่ง ๆ” ทันทีที่ปลายนิ้วของคนโฉดแตะลงแก้มก้น เสียงร้องอึกอักและครวญครางก็พลันดังขึ้นมา จนปลุกสิ่งที่อยู่ภายใต้ช่วงล่างของกางเกงให้ผงาดขึ้นมา

“ซี้ด…อ่าส์ จะ…เจ็บ”

อิฐยังคงมองผ่านไม่ถือสา ก่อนรีบแหวกสองก้อนกลมเพื่อสำรวจดูช่องทางเพื่อทาแผลที่ทั้งบวมและยื่นออกมาจากบริเวณนั้น

“ตรงนั้นเดี๋ยวกูทำเอง” มือใหญ่หยุดชะงักมองคนที่กำลังนอนคว่ำหน้าอยู่

“เจ็บขนาดนี้จะทำไหวยังไง อย่าอวดเก่ง”

“แล้วที่กูบาดเจ็บขนาดนี้ ไม่ใช่ฝีมือมึงเหรอ”

“...นี่ไงฉันเลยมารับผิดชอบ”

“มึงออกไปเถอะ เดี๋ยวกูให้พี่เสือทาให้ก็ได้” ทันใดนั้นดวงตามัจจุราชหันขวับไปมองคนที่ยังไม่รู้อะไรดี ก่อนค่อย ๆ ถามเสียงเข้มกลับ

“นายว่าอะไรนะ”

“...ผมบอกว่าจะให้พี่ เสือ ช่วย ทา ให้ ก็ ได้” คำพูดเรียงเป็นลำดับชั้นเน้น ๆ เพื่อให้คนข้างกายได้ยินชัดเจน

“สนิทจนถึงขั้นนั้นเมื่อไหร่” คราวนี้ขลุ่ยไม่คิดตอบกลับ เพราะเริ่มเหนื่อยกับการโต้ตอบที่ไม่จบสิ้นสักที ก่อนทำเพียงใช้สายตาอ่อนล้าและไม่ยอมลงมองกลับไปเท่านั้น กลับกันในใจคิดว่านายหัวเช่นเขาต้องการอะไรจากลูกหนี้จน ๆ กันแน่

อิฐที่เตรียมเข้าคว้าหมับร่างอ่อนระโหย แต่กลับต้องระงับอารมณ์โทสะเอาไว้

“รีบหายล่ะ เพราะฉันจะกลับมาทบต้นทบดอกแน่” ร่างกำยำเอ่ยกระซิบข้างหู พลันหมุนกายกลับไปตรงประตูทางเข้า แถมยังไม่วายทิ้งคำพูดหวาดกลัวไว้กับขลุ่ยอีกเช่นเคย

.

.

.

ผ่านไปราวหนึ่งสัปดาห์นับจากวันที่ขลุ่ยต้องมาอยู่ที่นี่และต้องเจอกับเรื่องราวที่เปรียบเสมือนความเลวร้ายที่สุดในชีวิต อาการต่าง ๆ ก็เริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว แข้งขาเดินเหินสะดวกกว่าเดิม ถึงแม้ตามตัวยังคงมีบาดแผลหลงเหลือทิ้งเอาไว้อยู่

ขลุ่ยอาบน้ำแต่งตัวออกมารับแสงแดดและลมทะเลข้างนอกด้วยท่าทีสดใสกว่าเก่า ก่อนสังเกตเห็นว่าเรือที่คาดว่าเป็นของชาวบ้านละแวกนั้นหายไปแล้ว

“เฮ้อ เมื่อไหร่จะหมดหนี้แล้วกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมสักที”

“...พึมพำอะไร”

“เฮ้ย…อะ!” ขลุ่ยตกใจเสียงที่มาไม่ตั้งตัว จนเสียหลักเกือบล้มลง

“...ดีนะที่ฉันรับทัน” ขลุ่ยอยู่ในอ้อมแขนของอิฐและกำลังพยายามงัดแงะมือที่แข็งดั่งคีมเหล็กออกไป

“ปล่อยสิวะ!” ไม่รู้นึกสนุกอะไร ฉับพลันมือที่คอยประคองร่างผอมบางอยู่ก็ปล่อยร่างนั้นให้ล้มจ้ำเบ้าลงบนพื้นทรายทันที

ตุ๊บ!

“โอ๊ย!...กูเจ็บนะ!…ปล่อยมาได้ไง!” ขลุ่ยตะคอกอย่างคนหัวเสีย แถมเมื่อเห็นท่าทียียวนกวนประสาท ยิ่งทำให้คนที่กองอยู่เบื้องล่างโมโหโกรธเกรี้ยวกว่าเดิม

“หายแล้วก็ลุกไปทำหน้าที่ของนายซะ” ปล้องไฟฉาย อีกทั้งอุปกรณ์เสื้อผ้าและป้องกันต่าง ๆ ถูกโยนลงมาอยู่ตรงหน้าขลุ่ย

“...กูต้องทำอะไร”

“ของที่อยู่ตรงหน้า ฉันคิดว่านายคงไม่โง่พอจนดูไม่ออกหรอกนะ  อย่าลืมสิว่าที่นี่คือเกาะสัมปทานรังนก”

ขลุ่ยเงียบพลันมองไปรอบ ๆ ก่อนครุ่นคิดตามคำบอกเล่าของเสือในวันแรกที่เข้ามาว่าหน้าที่ตรงนี้ต้องเป็นของคนที่ไว้ใจจริง ๆ เท่านั้น ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่านายหัวนั่นคิดจะทำอะไรกันแน่

ร่างผอมบางในชุดอุปกรณ์แน่นหนา เดินตามอิฐต้อย ๆ อย่างจำใจ จนมาถึงทางเข้าของถ้ำขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างอันตรายอยู่ตรงหน้า

ร่างกำยำหันมองคนข้างหลังเป็นระยะ มีแสงสลัวจากคบเพลิงที่แขวนอยู่บนผนังถ้ำทำให้เห็นบันไดไม้เก่า ๆ กับกลุ่มคนงานจำนวนมากต่างตั้งใจเก็บเกี่ยวและทำหน้าที่ของตัวเองอย่างขยันขันแข็ง

“นี่คือฤดูเก็บเกี่ยวรอบแรก จะต้องทำก่อนที่นกจะออกไข่ เพื่อให้สามารถสร้างรังใหม่ได้ทัน และต้องระวังเป็นพิเศษด้วย”

ขลุ่ยตั้งน่าฟังที่อิฐกำลังอธิบายราวกับกำลังเรียนรู้ ก่อนมองไปรอบ ๆ ยังคงมีนกนางแอ่นอยู่กันเต็มไปหมด แต่พวกมันกลับไม่แตกตื่นเลยสักนิดเดียว

“หน้าที่ของนายแค่ต้องรอขนรังนกพวกนี้ไปทำความสะอาดและจัดเก็บให้เรียบร้อย แต่อาจมีรายละเอียดขั้นตอนอื่นอีกเล็กน้อย ซึ่งเดี๋ยวจะมีคนคอยสอนนายอีกที”

ขลุ่ยพยักหน้าตอบรับอย่างเข้าใจ ก่อนชะเง้อใบหน้าคอยมองหาคนที่ไม่ได้เห็นหน้าคาตามาหลายวันแล้ว

“มองอะไร?” เสียงเรียบของอิฐเอ่ยถาม

“...พี่เสือละ” เมื่อได้ยินชื่อของลูกน้องตัวเองออกจากปากอีกคน อารมณ์ที่เคยดี ๆ อยู่ก็พลันขุ่นมัวเสียดื้อ ๆ

“อ๋อ ฉันให้มันย้ายมาทำงานร่วมกับไอ้ทัพแทนแล้วล่ะ”

“ทำไมจู่ ๆ มึงถึงย้ายพี่เสือละ” ขลุ่ยเตรียมจะอ้าปากถามซ้ำอีกรอบ

“ลูกน้องฉัน…และฉันมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้” ใบหน้าคมเข้มมีหนวดเคราเริ่มมีน้ำโห จนเกือบจะเขวี้ยงอุปกรณ์ใกล้ตัวทุ้มลงพื้น

“แต่...”

“ขืนนายยังถามอีกละก็…โดนดีแน่” สายตาเอาเรื่องมองขลุ่ยตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า จนต้องรีบปิดปากลง เนื่องจากเพิ่งหายป่วยและยังไม่พร้อมรับศึกหนักตอนนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๙ โหดจนได้เมีย (END)

    อิฐที่ตื่นขึ้นมาในเช้าวันนี้ดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เขาอาศัยจังหวะจังหวะที่ขลุ่ยยังไม่ตื่นดี นอนตะแคงมองใบหน้าคนข้างกายอย่างเงียบ ๆ ด้วยความรู้สึกอบอุ่นและสุขล้นในอก รอยยิ้มบางผุดขึ้นตรงมุมปาก ก่อนกายกำยำจะก้มลงหอมพวงแก้มอิ่มเบา ๆ อย่างอ่อนโยนแกร๊ก! พรึ่บ!ภายหลังอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว อิฐคว้าลูกบิดเปิดประตูออกจากห้องหวังจะออกไปสะสางงานที่คั่งค้างอยู่ทันที แต่ทันใดนั้นร่างของลูกน้องที่เปรียบเสมือนทั้งมือซ้ายและขวากลับล้มระเนระนาดลงมากองอยู่ตรงหน้า แถมเสื้อผ้ายังคงอยู่ในชุดเดิมราวกับว่าเมื่อคืนพวกมันสองตัวนั่งกันอยู่ตรงนี้“... แหะ ๆ ครึกครื้นดีนะครับนายหัว ” เสือสะลึมสะลือพูดขึ้นมา ทั้งที่ตายังไม่ทันลืมดี“คะ…คือผมกับไอ้เสือจะมาแจ้งว่า ลูกค้ารายใหญ่จากสิงคโปร์ที่เราเลื่อนดีลสินค้าเอาไว้เมื่อวาน จะเข้ามาช่วงสายวันนี้ครับ”“อืม…กูเห็นอีเมลแจ้งจากลูกค้าแล้ว ส่วนพวกมึงรีบจัดการธุระของตัวเองให้เรียบร้อย สายไปแค่วินาทีเดียว กูหักเงิน!”ขณะเดียวกันขลุ่ยที่รู้สึกหนัก ๆ ตัว จากขนอะไรบางอย่างที่กำลังทิ่มแทงอยู่บนใบหน้า แต่เมื่อลืมตาขึ้นมากลับพบว่าเป็นเจ้าเตาฟืนนั่นเองที่มานอนแหมะอยู่บ

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๘ โอกาสสุดท้ายที่จะได้รัก

    แม้ต้องกลับมาเพราะแผนที่วางไว้ล่มไม่เป็นท่า แถมลูกชายยังปวดหนึบและเจ็บตึงไปหมด อิฐก็ได้แต่กัดฟันทน ข่มความกระสันที่ถูกปลุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ คิดในใจว่า...หากได้ขลุ่ยกลับมาเมื่อไหร่ เขาจะจัดให้หนักสมกับที่ต้องอดทนรอเกือบเดือน แต่ตอนนี้ต้องเบรกทุกความคิดไว้ก่อน เพราะทั้งเสือและทัพต่างก็เตือนกันหนักหนา ว่าหากไม่อยากสูญเสียอีกฝ่ายไปก็ต้องหักห้ามใจให้มากกว่านี้อิฐนึกถึงคำพูดที่ขลุ่ยเคยบอกไว้เมื่อตอนนั้น ก่อนตัดสินใจค่อย ๆ ละนิสัยความรุนแรงของตัวเองลง แต่ถามว่าหายขาดเลยไหม…ก็คงไม่ เพราะทุกอย่างต้องใช้เวลา แม้กระทั่งตอนที่เขาไม่สามารถพาอีกฝ่ายกลับมาได้ ทั้งที่ความจริงจะลากกลับไปเลยก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ผลได้เสียจากนั้นคงไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยง จึงจำใจต้องอดทนรออยู่อย่างนั้น จนกว่าอีกฝ่ายจะพร้อม“อึ้ม...อ่าส์...ซี้ด...ขลุ่ย…” เสียงครางต่ำสะท้อนก้องออกมาจากห้องน้ำ เงาร่างสูงกำยำที่กำลังพิงผนังรูดรั้งส่วนกลางกาย มือหยาบใหญ่เร่งเร้าขณะนึกถึงใบหน้าได้รูปของอีกคน เมื่อครั้งร่วมรักกัน ไม่นานน้ำสีขาวขุ่นก็ทะลักออกจากส่วนปลายพุ่งเปรอะเต็มพื้นกระเบื้องหรู พร้อมเสียงหอบถี่จากแรงอารมณ์ที่ผ่อนเบาลงแล้ว

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๗ ทางเลือกหัวใจ

    “กว่าจะมาได้นะมึง แล้วนั่นที่คอโดนอะไรกัดมาน่ะ” มือบางรีบคว้าปิดลำคอตัวเองเอาไว้ ใบหน้าเลิ่กลั่ก ก่อนรีบตอบแก้เก้อ“สงสัยคงเป็นแมลงแถวนี้มั้งพ่อ แถวบ้านเราจะมีบ้างก็ไม่แปลกหรอก...เนอะ” ขลุ่ยว่าพลางเสิร์ฟข้าวสวยร้อน ๆ พร้อมกุนเชียงผัดไข่วางลงบนโต๊ะ“เออ ๆ จะนอนหรือทำอะไรก็ปัด ๆ หน่อยแล้วกัน”“ได้พ่อ” ขลุ่ยก้มหน้าถอนหายใจอย่างโล่งอก แววตาเหลือบมองรอบ ๆ เห็นเสือกับทัพกำลังกลั้นหัวเราะกันอยู่ แถมไม่ไกลจากนั้น คนที่เป็นเจ้าของรอยประทับบนคอก็กำลังยืนปั้นหน้าแบบไม่รู้สึกรู้สาขลุ่ยชวนเสือและทัพมาทานข้าวด้วยกัน ผิดกับอีกคนแม้ไม่ได้เอ่ยสักนิด กลับมานั่งแหมะอยู่ข้าง ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมตักข้าวให้ตัวเองเสร็จสรรพ“นายหัวกินได้เหรอครับ?” คำพูดเชิงประชดถูกแทรกกลางวงสนทนาขึ้นมา“นั่นสิ จะกินกันได้เหรอ” สองพ่อลูกผู้มีศักดิ์เป็นเจ้าของบ้านเอ่ยถาม เนื่องจากเห็นพ้องต้องกัน“ก็แค่กับข้าว อยู่ไหนก็กินได้หมดนั่นแหละครับ” อิฐพูดพลางตักข้าวเข้าปากไม่หยุด จนจานตรงหน้าพร่องไปเกือบหมดในพริบตา“งั้นผมถามอะไรจริง ๆ เลยนะนายหัว” มือที่กำลังกวาดข้าวก้อนสุดท้ายหยุดลง ก่อนเงยหน้าตั้งใจฟังอย่างดี“ไอ้ขลุ่ยมันใช้ห

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๖ คนที่ร้ายคนที่รัก

    เป็นเวลาตีสองกว่าแล้วเจ้าของห้องยังเอาแต่นั่งขบคิดว่าจะทำยังไงให้อีกฝ่ายยอมคืนดี คิดวกไปวนมาอยู่อย่างนั้น จนแทบไม่ได้นอนจริงจังเสียที กระทั่งจังหวะเหลือบไปมองเจ้าเตาฟืนที่กำลังขดตัวนอนอย่างสบายใจข้างล่าง จู่ ๆ อิฐก็ผุดไอเดียบางอย่างขึ้นมาได้ เขาลุกไปอุ้มมันออกมา จากนั้นจึงพลิกตัวลำตัวที่เริ่มหนักของมันไปมา พร้อมจัดท่าทางให้ดูเหมือนกำลังตรอมใจม๊าว!...ฟ่อ...เสียงขู่ฟ่อ ๆ ดังลั่น เพื่อแสดงถึงความไม่พอใจสุดขีด เล็บแหลม ๆ ของมันกางออกมาเตรียมจะข่วนอีกครั้ง“อยากได้แม่แกกลับมาหรือเปล่า ฉะนั้นทำตัวให้มีประโยชน์หน่อยสิ” อิฐเริ่มจัดท่าทางจนได้มุมที่ต้องการแล้ว เขาก็รู้สึกว่ามันยังไม่พอ ก่อนหยิบถ้วยชามที่เพิ่งเติมไว้จนเต็ม จากนั้นอุ้มเจ้าเตาฟืนมานอนเกยอยู่ตรงนั้น ราวกับว่ามันเศร้าซึมสุด ๆ จนไม่สามารถกินอะไรได้ เก็บไว้เป็นไม้ตายเผื่อเอาไว้เรียกร้องความสนใจจากอีกฝ่ายระหว่างทางนั่งสปีดโบ๊ททั้งเสือและทัพต่างคอยรายงานถึงคำสั่งที่นายหัวได้สั่งเอาไว้ว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี และไม่มีอะไรต้องกังวล“แล้วของที่กูสั่งไว้ล่ะ ได้มาครบหรือยัง”“ครบแล้วครับนาย” เสือเป็นคนรายงานรายละเอียดทั้งหมด เพราะตอน

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๕ อิสระที่ไม่ได้โหยหา

    อิฐกลับมาถึงเกาะก็ต้องเคลียร์งานจนหัวหมุน หลังเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเช็กงานอีเมลต่าง ๆ ก็ทยอยหลั่งไหลเข้ามารัว ๆ ส่วนปัญหาที่น่าปวดหัวที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องจากลูกค้าเก่าที่เวียดนามแจ้งมาว่าพบสินค้าที่ส่งไปมีตำหนิหลายจุด แต่พอเช็กดูดี ๆ ก็พบว่าทุกอย่างเกิดจากการท่าขนส่ง ถึงจะไม่ใช่ความผิดของบริษัทต้นทางเราเต็ม ๆ ก็ต้องรับผิดชอบอยู่ดี ในห้องทำงานที่เอกสารกองพะเนินล้นโต๊ะ อิทธิกรเอนกายพิงพนักเก้าอี้ ผ่อนลมหายใจเฮือกยาวทิ้งอย่างคนได้หยุดพัก พอหันกลับไปดูปฏิทินถึงได้รู้ว่าเวลาผ่านไปเกือบสองอาทิตย์แล้ว ร่างกำยำนั่งเงียบ ๆ อยู่คนเดียว ใจพะวงคิดถึงใครบางคน ดวงตาเคล้าโศกเศร้า ใบหน้าเรียวยาวได้รูป ริมฝีปากที่ต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่เกรงกลัว ทั้งที่ตั้งใจว่าจะขึ้นไปหาบ่อย ๆ แต่ก็มัวแต่ยุ่งจนไม่ได้ออกไปไหนเลยแต่ไม่เป็นไร ตอนนี้เขาว่างแล้ว จะไปทุกวันเลย ต่อให้อีกคนไม่อยากเจอก็ไม่สน...ตรงหน้าอิทธิกรที่ไม่รู้จะทำอะไรต่อ หยิบรีโมตขึ้นมากดเปิดโทรทัศน์แบบลวก ๆ หวังแค่หาสิ่งใดมาช่วยเบี่ยงเบนความคิดถึงชั่วคราว ภาพบนหน้าจอปรากฏเป็นรายการข่าวด่วน ผู้ประกาศสาวสวยน้ำเสียงฉะฉานรายงานถึงการเสียชีวิตของเสี่ยมนต

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๔ หน้าสิ่วหน้าขวาน

    “คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ โชคดีที่ไม่โดนอวัยวะสำคัญ และจะย้ายผู้ป่วยไปยังห้องพิเศษทั่วไปนะครับ” เสียงคุณหมอดังขึ้นทันทีที่ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก ทุกสายตาหันขวับไปมองต้นทางอย่างจดจ่อไม่กี่นาทีต่อมา พยาบาลเข็นเตียงออกมา อิทธิกรที่ยังคงหลับไม่ได้สติ ตามตัวมีสายระโยงระยางเต็มไปหมด ขลุ่ยตั้งท่าเดินขนาบเตียง แต่ทว่ากลับต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงจากเหมที่ยืนอยู่ข้างหลัง“ดีนะที่มึงปลอดภัย เฮ้อ!” ขลุ่ยและเป้หันขวับมามองทันที“พี่เหมรู้จักเขาด้วยเหรอครับ?” เป้ถามขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ“อะ…เอ่อ แหะ ๆ ครับ” เหมหัวเราะแห้ง ๆ ลูบท้ายทอยแก้เขินกลบเกลื่อน ขลุ่ยเลิกคิ้วน้อย ๆ ความสงสัยก่อตัวตั้งแต่ได้ยินคำพูดสนิทสนมของทั้งคู่แล้ว“มึงกับพี่เขากลับไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูเฝ้าต่อเอง” ขลุ่ยหันไปบอกเป้“แน่ใจนะ” เป้ถามให้แน่ใจอีกที“อือ ไปเถอะ”“แต่ถ้ามีอะไร โทรหากูได้ตลอดนะ”“...อื้อ”“พี่ฝากมันด้วยล่ะ” เหมเอ่ยพลางมองออกไปยังหน้าห้องผู้ป่วยที่เพิ่งเดินออกมาด้วยสายตาเป็นห่วง"พี่เสือและคุณทัพก็เหมือนกัน"“งั้นพวกกูฝากนายหัวด้วยนะไอ้ขลุ่ย พรุ่งนี้เช้าจะรีบมาหา” เสียงจากเสือแทรกตามมาด้วย ส่วนทัพทำเพียงพยักหน้าข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status