Accueil / วาย / สัมปทานอาญาเถื่อน / บทที่ ๔ แสนสาหัส

Share

บทที่ ๔ แสนสาหัส

last update Dernière mise à jour: 2025-06-23 13:39:16

ร่างผอมบางขดขาเกร็งอยู่ในห้องที่มีแสงสว่างหลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิด ใบหน้าที่เคยขาวเนียนบัดนี้แลดูซูบซีดและอ่อนล้า เนื่องจากบาดแผลจากการถูกลงโทษซ้ำ ๆ อย่างสาหัสสากรรจ์

ขลุ่ยประสานสองฝ่ามือบีบเอาไว้แน่น ก่อนค่อย ๆ หลับตาลงเพื่อหวังจะบรรเทาความเจ็บปวดตรงนี้ลงไปบ้าง…

เสียงกุกกักดังเล็ดลอดจากข้างนอก ทำให้ขลุ่ยจำต้องเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้นมามองด้วยความหวาดระแวง ก่อนรีบถอยกายห่างไปข้างหลังอัตโนมัติ

ร่างกำยำคุ้นเคยเดินมาคนเดียว พร้อมกระเป๋าสีดำปริศนาในมือ ก่อนนั่งลงยอง ๆ พลางรวบใบหน้าที่กำลังมองเขาราวกับโกรธเกรี้ยวขึ้นมา

“ไง อยู่ตรงนี้เหงาหรือเปล่า”

“...มึงมันเหี้ย” เสียงอ่อนระโหยพูดอย่างเดือดดาล

“จุ๊ ๆ จากนี้มึงคือทาสของกูเท่านั้น…”

“ตอนเด็กครอบครัวของมึงไม่ได้สั่งสอนเหรอวะ! ว่าอย่าใช้ความรุนแรงกับคนอื่นแบบนี้!” อิฐที่กำลังรูดซิปก้มมองหาอุปกรณ์ในกระเป๋าเงยหน้าขึ้นมา เมื่อถูกจี้จุดให้ย้อนนึกถึงอดีตอันแสนเจ็บปวดอีกครั้ง

“เรื่องของกู ไม่ต้องมาสะเออะจะดีกว่านะ…”

“...สารเลว”

“หึ เดี๋ยวมึงก็รู้ว่าความรุนแรงแบบนี้ จะสั่งสอนให้มึงเชื่องได้แค่ไหน ดูจากตอนนี้ก็พอเป็นคำตอบได้แล้วนะ” มีดสั้นถูกหยิบขึ้นมา ก่อนร่างกำยำจะค่อย ๆ เดินอ้อมไปข้างหลังของขลุ่ย ปลายแหลมคมจ่อเข้าซอกคอตวัดไปมาช้า ๆ

มือใหญ่อาศัยจังหวะที่อีกคนกำลังกลัวเกรง ตวัดปลายลิ้นไล้เลียแผ่นหลังชื้นเหงื่อที่เต็มไปด้วยรอยแตกนูนจากการถูกเฆี่ยน ร่างผอมบางชะงักเพื่อขืนตัวออก แต่กลับขยับไปไหนไม่ได้ เพราะมีอาวุธจ่ออยู่ตรงคอหอย

“รู้ตัวหรือเปล่า ว่าชื่อของมึงทำให้กูนึกถึงใครบางคนขึ้นมา”

“งั้นก็ไปหาเขาสิ”

“ถ้ากูตามหาเจอคงเก็บไว้ข้างตัวแน่ แต่เสียดายเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้น่ะสิ”

“มึงคงเหี้ยเกินเยียวยา จนไม่มีใครอยากอยู่ด้วยสินะ” ขลุ่ยแสยะยิ้มมองตอบ

“ผิดแล้ว...เพราะกูเจอเขาตอนเด็ก ๆ พอโตขึ้นก็ต้องแยกย้าย และไม่เคยมีโอกาสได้เห็นต่างหากล่ะ”

“ถึงจะเป็นอย่างนั้น ถ้าเขามาเจอมึงตอนนี้ก็คงไม่อยากอยู่ด้วยหรอก!”

“แล้วใครว่ากูจะแคร์ละ…หืม จับมาขังไว้ข้างกายเสียก็สิ้นเรื่องแล้ว” เมื่อได้ยินประโยคดังกล่าวขลุ่ยก็แทบสำรอกออกมาแทนคนคนนั้นทันที

“...”

“อ๋อ อีกอย่างชื่อของมึงเหมือนเขาเลยล่ะ มันเลยเป็นเหตุผลให้กูรู้สึกพออกพอใจ แถมมึงเองยังดื้อรั้น จนกูนึกสนุกเลยทีเดียว”

“...โรคจิต” ขลุ่ยแค่นเสียงด่าอมงอย่างขยะแขยง

ร่างกำยำยืดกายเต็มความสูง พร้อมเทกระเป๋าที่มีอุปกรณ์หลากหลายลงมา ขลุ่ยมองอย่างตื่นตระหนก เพราะนับจากวินาทีนี้ไม่รู้ต้องเจอกับอะไรจากชายโหดผู้นี้บ้าง

อิฐกระตุกยิ้มเย็น ดึงรั้งข้อเท้าของคนที่กำลังถอยกายหนีอย่างทุรนทุราย เชือกหนังเส้นหนาพอสมควรถูกหยิบยกขึ้นมามัดเอาไว้แน่น ควบคู่กับกุญแจถูกคล้องเอาไว้ตรงหน้า

“จะทำอะไร! ปล่อยกู!”

อิฐไม่สนเสียงด่ากราด รีบปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาจนเปลือยเปล่าเช่นเดียวกับร่างที่กำลังคลานหนีอย่างไร้หนทางสู้ ก่อนใช้น้ำหนักตัวเป็นแรงกดทับเข้าควบคุมไม่ให้ดิ้นหลุดไปไหน

“...ลูกหนี้ที่ยอมทำตามว่าง่ายคนเมื่อวานหายไปไหนแล้วล่ะ อย่าลืมสิ...พ่อของมึงอยู่ในมือกูนะ” คำขู่ของคนที่กำลังคร่อมตัวอยู่ มันมากพอจะทำให้ขลุ่ยหยุดดีดดิ้นและยอมศิโรราบ

เพี้ยะ!

“หันหลัง!” ร่างผอมบางสั่นเทา กัดฟันแน่น พยายามกลืนก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคอลงไปเงียบ ๆ

ปลายหัวเข่าของขลุ่ยสัมผัสพื้นเย็น ๆ ส่วนอิฐกลับมองดูราวกับเป็นภาพสวยงาม อีกทั้งยังรู้สึกว่าตัวเขาสามารถควบคุมคนตรงหน้าได้แล้ว

ร่างกำยำเปลือยเปล่าไม่รอช้า หยิบแส้คู่กายเข้าควบกลางลำตัว พร้อมสอดแทรกท่อนแข็งขืนเพียงพรวดเดียวเท่านั้น

“อึก!!!!...” คงไม่ต้องบอกว่าเจ็บปวดแค่ไหน ช่องทางที่เพิ่งผ่านสงครามหนักหน่วง หนำซ้ำยังไม่ทันหายดีก็ถูกทะลวงเข้ามาอีกรอบ

มือใหญ่ของอิฐที่ยังว่างอยู่กระชากเส้นผมของขลุ่ย ดึงให้เงยหน้าขึ้นมา ดวงตาสีดำขลับเย็นชาไร้ความปรานี จับจ้องคนใต้ร่าง ราวกับอีกฝ่ายเป็นเพียงวัตถุที่เขาใช้เพื่อระบายอารมณ์

“อย่าเกร็งสิวะ”

ฟึ่บ! เพี้ยะ!

ทั้งจากแส้และการกระแทกกระทั้นของร่างกำยำที่มีน้ำหนักมากกว่าถาโถม จนรู้สึกรับไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ขลุ่ยค่อย ๆ รู้สึกว่าภาพตรงหน้าเลือนราง ก่อนลำตัวที่เคยแข็งขืนจะไหลราบลงกับหน้าพื้นเย็นเหยียบสลบไป

อิฐสังเกตได้ถึงความผิดปกติ พลันเหลือบมองคนที่แน่นิ่งไปแล้วด้วยความหงุดหงิด เพราะอารมณ์ยังคงค้างเติ่งและปวดหนึบเพื่อหาทางระบายอยู่

“...แม่งเอ๊ย จนได้สินะ”

.

.

.

“ฮือ…ฮือ…คุณอิฐผมเจ็บ” ร่างเปลือยเปล่าของชายหนุ่มปริศนาผู้เคราะห์ร้าย ถูกจับมาระบายความใคร่แทนคนที่เพิ่งสลบไปและทำให้อารมณ์ของเขายังคงคั่งค้างคาอยู่

อิฐไม่คิดสนใจเสียงร้องไห้น่ารำคาญนั่น กายกำยำเอาแต่กระแทกร่างตรงหน้าเพื่อหวังจะปลดปล่อยให้จบ ๆ ไปสักที และพยายามนึกว่าใต้อาณัติคือเด็กอ่อนปวกเปียกที่เพิ่งถูกเขาทารุณจนสลบไป

“อ่าส์…” เสียงที่แสดงให้เห็นว่าการระบายความใคร่และอัดอั้นจบลงแล้ว ชายหนุ่มปริศนารีบยันกายนั่งอยู่ตรงปลายเตียง มองคนที่ลุกออกไปไม่แยแส

อิฐสวมเสื้อคลุมสีขาวนั่งลงบนเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย ขาข้างหนึ่งพาดขึ้นสูง พลางหยิบบุหรี่บนโต๊ะขึ้นจุดบนผิวปาก สูดลมหายใจลึกแล้วพ่นออก ก่อนหางตาจะเหลือบมองชายหนุ่มปริศนาที่กำลังนั่งร้องไห้จนหน้าตาดูแทบไม่ได้

“...ออกจากเกาะไปซะ!! ส่วนหนี้ที่ติด กูจะถือว่าแลกกับเรื่องเมื่อกี้แล้วกัน” น้ำเสียงแม้จะราบเรียบ แต่กลับแฝงเอาไว้ซึ่งแรงกดดันทางอ้อม

“ขะ…ขอบคุณครับ”

อิฐถอนหายใจทันที ก่อนกายกำยำจะลุกขึ้นจากเก้าอี้พ่นควันบุหรี่ที่ยังหลงเหลืออยู่ให้ลอยละล่องหายไปในอากาศและขบคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ภาพของขลุ่ยที่สลบไปต่อหน้าต่อตาทำให้เขาอดคิดถึงความรุนแรงที่เคยเจอมาสารพัดในอดีต

คำพูดของผู้เป็นพ่อผุดขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ทั้งที่อยากลืมแทบขาดใจ ตั้งแต่ยังเด็กมักถูกสอนให้จดจำว่าความอ่อนโยนไร้ซึ่งอำนาจ ยศ และขาดความน่าเชื่อถือ กลับกันสายตานิ่งเรียบ มือที่หนักแน่น และความเจ็บปวดต่างหากที่จะทำให้คนยอมศิโรราบ

 ทุกครั้งที่เสียงหวดดังขึ้นแนบเนื้อกายของเขาซ้ำ ๆ จนเจ็บแสบ เขาจึงเรียนรู้ว่าหากไม่อยากเป็นฝ่ายถูกกระทำก็ต้องเป็นฝ่ายควบคุมเสียเอง...

อีกฟากเสือกำลังช่วยหายาและเช็ดตัวเพื่อให้ไอร้อนจากพิษไข้ในตัวของขลุ่ยบรรเทาลง ขณะเดียวกันเสือยื่นปลายนิ้วแตะตรงจมูก สังเกตลมหายใจ ก่อนเบาใจลงเมื่อเห็นว่าคนที่นอนแน่นิ่งยังคงมีชีวิตอยู่

“ไอ้ขลุ่ย! เอ๊ย!…ตื่นสิวะ ไม่งั้นกูจะเรียกคนมาทำศพแล้วนะ” ทั้งเสียงตะโกนและจากแรงเขย่าทำให้คนที่สลบไปต้องหรี่ตาขึ้นมามองดู

“...พี่เสือ”  ขลุ่ยแม้น้ำเสียงแหบแห้ง แต่ยังคงพยายามเอ่ยปากพูดคุย

“กินยา แล้วพักผ่อนยาว ๆ ไป ส่วนเรื่องของนายหัวมึงไม่ต้องห่วง เขาคงไม่มายุ่งกับมึงอีกสักพักแหละ” เสือเอ่ยเพื่อให้ขลุ่ยสบายใจ จะได้ไม่ต้องมานั่งคิดอะไรให้ปวดหัว ส่วนวันข้างหน้าเป็นยังไงอย่าเพิ่งคิดเลย เอาวันนี้ให้รอดก่อนดีกว่า

พลบค่ำระหว่างที่อิฐกำลังสะสางและตรวจตราความเรียบร้อยภายในถ้ำ เพราะอีกไม่กี่วันก็ใกล้ถึงฤดูเก็บเกี่ยวและเตรียมส่งออกแล้ว ซึ่งขั้นตอนนี้นับว่าสำคัญยิ่ง เนื่องจากมักมีคู่แข่งหรือพวกคิดไม่ซื่อลักลอบขโมยอยู่บ่อยครั้ง จนต้องออกคำสั่งเพื่อให้มีคนงานคอยคุ้มกันเสมอ เพื่อป้องกันเหตุและลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างเข้มงวด

ก๊อก ๆ ๆ

“นายหัวครับ ข้อมูลที่ให้ไปสืบได้มาแล้วครับ” เสียงของทัพดังขึ้น ก่อนเจ้าตัวจะเปิดประตูเข้ามา พร้อมยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลส่งให้

“อืม มึงออกไปได้แล้ว” อิฐรับซองมาจากลูกน้องโดยไม่สนใจหันมอง

“ครับ นายหัว” ทัพโค้งตัวเล็กน้อย ก่อนเดินออกจากห้องไป

ร่างกำยำเอนกายพิงพนักค่อย ๆ ใช้นิ้วหมุนปลายเชือกให้คลายหลุดออกมา ก่อนดึงเอกสารข้างในขึ้นมาเปิดดูด้วยสีหน้าราบเรียบ ทันใดนั้นแววตาที่เคยนิ่งงันพลันกระตุกวูบราวกับตื่นตะลึง เมื่อเห็นภาพที่แนบมา พร้อมปรากฏรายชื่อและประวัติทั้งหมดยืนยันทุกอย่างชัดเจน

นายขลุ่ยทอง วงศาคำ

เพียงวูบเดียวปลายมุมปากกลับยกยิ้มสูง ความพึงพอใจฉายชัดเป็นประกายในแววตา

“...ที่แท้ก็อยู่แค่เอื้อมนี่เอง” มือใหญ่เคาะลงบนโต๊ะทำงานเป็นจังหวะเนิบช้า คล้ายกำลังครุ่นคิดด้วยสีหน้าแยบยลและเจ้าเล่ห์

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๙ โหดจนได้เมีย (END)

    อิฐที่ตื่นขึ้นมาในเช้าวันนี้ดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เขาอาศัยจังหวะจังหวะที่ขลุ่ยยังไม่ตื่นดี นอนตะแคงมองใบหน้าคนข้างกายอย่างเงียบ ๆ ด้วยความรู้สึกอบอุ่นและสุขล้นในอก รอยยิ้มบางผุดขึ้นตรงมุมปาก ก่อนกายกำยำจะก้มลงหอมพวงแก้มอิ่มเบา ๆ อย่างอ่อนโยนแกร๊ก! พรึ่บ!ภายหลังอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว อิฐคว้าลูกบิดเปิดประตูออกจากห้องหวังจะออกไปสะสางงานที่คั่งค้างอยู่ทันที แต่ทันใดนั้นร่างของลูกน้องที่เปรียบเสมือนทั้งมือซ้ายและขวากลับล้มระเนระนาดลงมากองอยู่ตรงหน้า แถมเสื้อผ้ายังคงอยู่ในชุดเดิมราวกับว่าเมื่อคืนพวกมันสองตัวนั่งกันอยู่ตรงนี้“... แหะ ๆ ครึกครื้นดีนะครับนายหัว ” เสือสะลึมสะลือพูดขึ้นมา ทั้งที่ตายังไม่ทันลืมดี“คะ…คือผมกับไอ้เสือจะมาแจ้งว่า ลูกค้ารายใหญ่จากสิงคโปร์ที่เราเลื่อนดีลสินค้าเอาไว้เมื่อวาน จะเข้ามาช่วงสายวันนี้ครับ”“อืม…กูเห็นอีเมลแจ้งจากลูกค้าแล้ว ส่วนพวกมึงรีบจัดการธุระของตัวเองให้เรียบร้อย สายไปแค่วินาทีเดียว กูหักเงิน!”ขณะเดียวกันขลุ่ยที่รู้สึกหนัก ๆ ตัว จากขนอะไรบางอย่างที่กำลังทิ่มแทงอยู่บนใบหน้า แต่เมื่อลืมตาขึ้นมากลับพบว่าเป็นเจ้าเตาฟืนนั่นเองที่มานอนแหมะอยู่บ

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๘ โอกาสสุดท้ายที่จะได้รัก

    แม้ต้องกลับมาเพราะแผนที่วางไว้ล่มไม่เป็นท่า แถมลูกชายยังปวดหนึบและเจ็บตึงไปหมด อิฐก็ได้แต่กัดฟันทน ข่มความกระสันที่ถูกปลุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ คิดในใจว่า...หากได้ขลุ่ยกลับมาเมื่อไหร่ เขาจะจัดให้หนักสมกับที่ต้องอดทนรอเกือบเดือน แต่ตอนนี้ต้องเบรกทุกความคิดไว้ก่อน เพราะทั้งเสือและทัพต่างก็เตือนกันหนักหนา ว่าหากไม่อยากสูญเสียอีกฝ่ายไปก็ต้องหักห้ามใจให้มากกว่านี้อิฐนึกถึงคำพูดที่ขลุ่ยเคยบอกไว้เมื่อตอนนั้น ก่อนตัดสินใจค่อย ๆ ละนิสัยความรุนแรงของตัวเองลง แต่ถามว่าหายขาดเลยไหม…ก็คงไม่ เพราะทุกอย่างต้องใช้เวลา แม้กระทั่งตอนที่เขาไม่สามารถพาอีกฝ่ายกลับมาได้ ทั้งที่ความจริงจะลากกลับไปเลยก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ผลได้เสียจากนั้นคงไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยง จึงจำใจต้องอดทนรออยู่อย่างนั้น จนกว่าอีกฝ่ายจะพร้อม“อึ้ม...อ่าส์...ซี้ด...ขลุ่ย…” เสียงครางต่ำสะท้อนก้องออกมาจากห้องน้ำ เงาร่างสูงกำยำที่กำลังพิงผนังรูดรั้งส่วนกลางกาย มือหยาบใหญ่เร่งเร้าขณะนึกถึงใบหน้าได้รูปของอีกคน เมื่อครั้งร่วมรักกัน ไม่นานน้ำสีขาวขุ่นก็ทะลักออกจากส่วนปลายพุ่งเปรอะเต็มพื้นกระเบื้องหรู พร้อมเสียงหอบถี่จากแรงอารมณ์ที่ผ่อนเบาลงแล้ว

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๗ ทางเลือกหัวใจ

    “กว่าจะมาได้นะมึง แล้วนั่นที่คอโดนอะไรกัดมาน่ะ” มือบางรีบคว้าปิดลำคอตัวเองเอาไว้ ใบหน้าเลิ่กลั่ก ก่อนรีบตอบแก้เก้อ“สงสัยคงเป็นแมลงแถวนี้มั้งพ่อ แถวบ้านเราจะมีบ้างก็ไม่แปลกหรอก...เนอะ” ขลุ่ยว่าพลางเสิร์ฟข้าวสวยร้อน ๆ พร้อมกุนเชียงผัดไข่วางลงบนโต๊ะ“เออ ๆ จะนอนหรือทำอะไรก็ปัด ๆ หน่อยแล้วกัน”“ได้พ่อ” ขลุ่ยก้มหน้าถอนหายใจอย่างโล่งอก แววตาเหลือบมองรอบ ๆ เห็นเสือกับทัพกำลังกลั้นหัวเราะกันอยู่ แถมไม่ไกลจากนั้น คนที่เป็นเจ้าของรอยประทับบนคอก็กำลังยืนปั้นหน้าแบบไม่รู้สึกรู้สาขลุ่ยชวนเสือและทัพมาทานข้าวด้วยกัน ผิดกับอีกคนแม้ไม่ได้เอ่ยสักนิด กลับมานั่งแหมะอยู่ข้าง ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมตักข้าวให้ตัวเองเสร็จสรรพ“นายหัวกินได้เหรอครับ?” คำพูดเชิงประชดถูกแทรกกลางวงสนทนาขึ้นมา“นั่นสิ จะกินกันได้เหรอ” สองพ่อลูกผู้มีศักดิ์เป็นเจ้าของบ้านเอ่ยถาม เนื่องจากเห็นพ้องต้องกัน“ก็แค่กับข้าว อยู่ไหนก็กินได้หมดนั่นแหละครับ” อิฐพูดพลางตักข้าวเข้าปากไม่หยุด จนจานตรงหน้าพร่องไปเกือบหมดในพริบตา“งั้นผมถามอะไรจริง ๆ เลยนะนายหัว” มือที่กำลังกวาดข้าวก้อนสุดท้ายหยุดลง ก่อนเงยหน้าตั้งใจฟังอย่างดี“ไอ้ขลุ่ยมันใช้ห

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๖ คนที่ร้ายคนที่รัก

    เป็นเวลาตีสองกว่าแล้วเจ้าของห้องยังเอาแต่นั่งขบคิดว่าจะทำยังไงให้อีกฝ่ายยอมคืนดี คิดวกไปวนมาอยู่อย่างนั้น จนแทบไม่ได้นอนจริงจังเสียที กระทั่งจังหวะเหลือบไปมองเจ้าเตาฟืนที่กำลังขดตัวนอนอย่างสบายใจข้างล่าง จู่ ๆ อิฐก็ผุดไอเดียบางอย่างขึ้นมาได้ เขาลุกไปอุ้มมันออกมา จากนั้นจึงพลิกตัวลำตัวที่เริ่มหนักของมันไปมา พร้อมจัดท่าทางให้ดูเหมือนกำลังตรอมใจม๊าว!...ฟ่อ...เสียงขู่ฟ่อ ๆ ดังลั่น เพื่อแสดงถึงความไม่พอใจสุดขีด เล็บแหลม ๆ ของมันกางออกมาเตรียมจะข่วนอีกครั้ง“อยากได้แม่แกกลับมาหรือเปล่า ฉะนั้นทำตัวให้มีประโยชน์หน่อยสิ” อิฐเริ่มจัดท่าทางจนได้มุมที่ต้องการแล้ว เขาก็รู้สึกว่ามันยังไม่พอ ก่อนหยิบถ้วยชามที่เพิ่งเติมไว้จนเต็ม จากนั้นอุ้มเจ้าเตาฟืนมานอนเกยอยู่ตรงนั้น ราวกับว่ามันเศร้าซึมสุด ๆ จนไม่สามารถกินอะไรได้ เก็บไว้เป็นไม้ตายเผื่อเอาไว้เรียกร้องความสนใจจากอีกฝ่ายระหว่างทางนั่งสปีดโบ๊ททั้งเสือและทัพต่างคอยรายงานถึงคำสั่งที่นายหัวได้สั่งเอาไว้ว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี และไม่มีอะไรต้องกังวล“แล้วของที่กูสั่งไว้ล่ะ ได้มาครบหรือยัง”“ครบแล้วครับนาย” เสือเป็นคนรายงานรายละเอียดทั้งหมด เพราะตอน

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๕ อิสระที่ไม่ได้โหยหา

    อิฐกลับมาถึงเกาะก็ต้องเคลียร์งานจนหัวหมุน หลังเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเช็กงานอีเมลต่าง ๆ ก็ทยอยหลั่งไหลเข้ามารัว ๆ ส่วนปัญหาที่น่าปวดหัวที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องจากลูกค้าเก่าที่เวียดนามแจ้งมาว่าพบสินค้าที่ส่งไปมีตำหนิหลายจุด แต่พอเช็กดูดี ๆ ก็พบว่าทุกอย่างเกิดจากการท่าขนส่ง ถึงจะไม่ใช่ความผิดของบริษัทต้นทางเราเต็ม ๆ ก็ต้องรับผิดชอบอยู่ดี ในห้องทำงานที่เอกสารกองพะเนินล้นโต๊ะ อิทธิกรเอนกายพิงพนักเก้าอี้ ผ่อนลมหายใจเฮือกยาวทิ้งอย่างคนได้หยุดพัก พอหันกลับไปดูปฏิทินถึงได้รู้ว่าเวลาผ่านไปเกือบสองอาทิตย์แล้ว ร่างกำยำนั่งเงียบ ๆ อยู่คนเดียว ใจพะวงคิดถึงใครบางคน ดวงตาเคล้าโศกเศร้า ใบหน้าเรียวยาวได้รูป ริมฝีปากที่ต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่เกรงกลัว ทั้งที่ตั้งใจว่าจะขึ้นไปหาบ่อย ๆ แต่ก็มัวแต่ยุ่งจนไม่ได้ออกไปไหนเลยแต่ไม่เป็นไร ตอนนี้เขาว่างแล้ว จะไปทุกวันเลย ต่อให้อีกคนไม่อยากเจอก็ไม่สน...ตรงหน้าอิทธิกรที่ไม่รู้จะทำอะไรต่อ หยิบรีโมตขึ้นมากดเปิดโทรทัศน์แบบลวก ๆ หวังแค่หาสิ่งใดมาช่วยเบี่ยงเบนความคิดถึงชั่วคราว ภาพบนหน้าจอปรากฏเป็นรายการข่าวด่วน ผู้ประกาศสาวสวยน้ำเสียงฉะฉานรายงานถึงการเสียชีวิตของเสี่ยมนต

  • สัมปทานอาญาเถื่อน   บทที่ ๒๔ หน้าสิ่วหน้าขวาน

    “คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ โชคดีที่ไม่โดนอวัยวะสำคัญ และจะย้ายผู้ป่วยไปยังห้องพิเศษทั่วไปนะครับ” เสียงคุณหมอดังขึ้นทันทีที่ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก ทุกสายตาหันขวับไปมองต้นทางอย่างจดจ่อไม่กี่นาทีต่อมา พยาบาลเข็นเตียงออกมา อิทธิกรที่ยังคงหลับไม่ได้สติ ตามตัวมีสายระโยงระยางเต็มไปหมด ขลุ่ยตั้งท่าเดินขนาบเตียง แต่ทว่ากลับต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงจากเหมที่ยืนอยู่ข้างหลัง“ดีนะที่มึงปลอดภัย เฮ้อ!” ขลุ่ยและเป้หันขวับมามองทันที“พี่เหมรู้จักเขาด้วยเหรอครับ?” เป้ถามขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ“อะ…เอ่อ แหะ ๆ ครับ” เหมหัวเราะแห้ง ๆ ลูบท้ายทอยแก้เขินกลบเกลื่อน ขลุ่ยเลิกคิ้วน้อย ๆ ความสงสัยก่อตัวตั้งแต่ได้ยินคำพูดสนิทสนมของทั้งคู่แล้ว“มึงกับพี่เขากลับไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูเฝ้าต่อเอง” ขลุ่ยหันไปบอกเป้“แน่ใจนะ” เป้ถามให้แน่ใจอีกที“อือ ไปเถอะ”“แต่ถ้ามีอะไร โทรหากูได้ตลอดนะ”“...อื้อ”“พี่ฝากมันด้วยล่ะ” เหมเอ่ยพลางมองออกไปยังหน้าห้องผู้ป่วยที่เพิ่งเดินออกมาด้วยสายตาเป็นห่วง"พี่เสือและคุณทัพก็เหมือนกัน"“งั้นพวกกูฝากนายหัวด้วยนะไอ้ขลุ่ย พรุ่งนี้เช้าจะรีบมาหา” เสียงจากเสือแทรกตามมาด้วย ส่วนทัพทำเพียงพยักหน้าข

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status