LOGIN“มีก้าพ่ออยากให้ลูกคิดให้ดีอีกครั้ง มันยังมีวิธีและพ่อจะไปคุณกับคุณหลางเอง”
วัฒนาเจออดีตมาเฟียใหญ่ทุกปีอยู่แล้ว เพราะในหนึ่งปีจะมีงานแซยิดที่เขาจะต้องไปร่วมงาน และทุกคนภายใต้ตระกูลโจวต้องไปร่วมงาน เราสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องนี้ที่เจ้าพ่อใหญ่เชื่อว่าตัวเองยังคงมีศักดิ์ศรีพอที่จะค้ำประกันชีวิตลูกสาวไว้ได้
“มีก้าคิดดีแล้วค่ะ ทางเดียวที่จะหยุดความโกรธแค้นของเขาได้ คือลูกต้องไปอยู่ที่นั่น”
ไปอยู่รับกรรมที่พี่ชายบุญธรรมเป็นคนก่อ
คงไม่มีใครเข้าใจว่าธรรมิกาจะไปทำไม แต่เพราะเธอก็รู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาชาไชยก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ และเธอเองยินยอมที่จะเป็นแบกรับทุกความโกรธแค้นของวาดิมไว้เอง มันดีกว่าที่บิดาของเธอต้องมารับเรื่องนี้เอาไว้
ธรรมิกาได้โอกาสจากวาดิม ตามข้อตกลงคือเธอจะไปทำงานกับเขา หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าตัวประกัน ทางอาชาไชยต้องพาตัวเมสันกลับมาให้วาดิมเพื่อแลกกับชีวิตทายาทเพียงหนึ่งเดียว
วัฒนากุมมือลูกสาวเอาไว้ ก่อนจะปลดปล่อยน้ำตาของความพ่ายแพ้ให้ไหลริน ลูกสาวของเขาต้องไปเป็นตัวประกันจนกว่าจะหาเมสันเจอ และเมื่อนั้นวาดิมจะปล่อยธรรมิกากลับคืนสู่อ้อมกอดของคนเป็นพ่อ
“พ่อไม่ยินยอม…ลูกจะไปอยู่ยังไง” สภาพลูกสาวในตอนนี้ทำเอาหัวใจคนเป็นพ่อแหลกสลาย ทั้งที่เขาร้องไห้น้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด แต่ธรรมิกากลับไม่มีน้ำตาเลยสักหยดเดียว
“มีก้าเกิดเป็นลูกคุณพ่อก็จะเข้มแข็งให้เหมือนคุณพ่อ เราไม่มีเวลาอ่อนแอหรือเสียใจแล้วค่ะ ยืดเยื้อต่อไปเขาก็จะหาเรื่องมากดดันคุณพ่ออีก” วัฒนาก้มหน้าลงมองมือตัวเองที่โดนมือเล็กบอบบางของลูกกอบกุมเอาไว้
“พ่อขอโทษที่ทำให้มีก้าเดือดร้อน พ่อ…”
เสียงเปิดประตูห้องพักผู้ป่วยดังขึ้น ธรรมิกาส่งยิ้มให้บิดาก่อนจะซับน้ำตาให้กับท่าน
“มีก้ารอคุณพ่อไปรับนะคะ และขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าลูกสาวคนนี้เอาตัวรอดได้ คุณพ่ออยู่จัดการทางนี้ ถึงที่นั่นแล้วมีก้าจะโทร. หาคุณพ่อค่ะ”
เสียงฝีเท้าเล็ก ๆ ที่เดินเร็วออกไปพร้อมกับคนของมาเฟียใหญ่ ทำเอาวัฒนาถึงกับปล่อยโฮ หัวใจของเจ้าพ่อใหญ่หลุดปลิวตามลูกสาวสุดที่รักดั่งดวงใจไปแล้ว
ร่างเล็กในชุดทะมัดทะแมงขึ้นกว่าเดิมเดินมาขึ้นรถตู้ที่จอดรออยู่ใต้ถุนโรงพยาบาลชื่อดังในกรุงเทพฯ ข้างกายเธอไร้คนติดตาม มีเพียงกระเป๋าเดินทางใบเล็กที่ลากมาด้วยเท่านั้น
ทันทีที่ประตูรถตู้ถูกเปิดออก ร่างเล็กก็ถูกตรวจอาวุธอย่างละเอียดก่อนขึ้นรถ หญิงสาวยกสองมือขึ้นเพื่อให้ลูกน้องของวาดิมตรวจค้น
หญิงสาวกัดริมฝีปากใต้แมสก์ปิดปาก เนื่องจากบาดแผลตามเนื้อตัวที่ร้าวระบม หมวกแก๊ปที่เธอสวมใส่โดนกระชากออกไปด้วยผู้ชายคนเดิมที่ลงมือทำร้ายเธอ ผมยาวสลวยที่ถูกขมวดใส่ไว้ในหมวกแก๊ปในนั้นร่วงหล่นลงมาในทันที
“ถอดรองเท้าด้วย”
ธรรมิกาทำตามที่ลูกน้องวาดิมบอกทุกอย่างโดยไม่อิดออด เพราะทุกการกระทำของเธอมีผลต่ออารมณ์ของคนในรถตู้คันนั้นเป็นอย่างมาก
“ขึ้นรถสักที!”
น้ำเสียงทรงพลังดังออกมาจากภายใต้รถโดยสาร ธรรมิกาสวมใส่รองเท้าผ้าใบก่อนจะก้าวเท้าขึ้นไปบนรถตู้คันนั้น เธอนั่งลงยังที่นั่งที่อยู่ใกล้ประตูและเงียบเสียงลงโดยที่ไม่เอ่ยปากพูดอะไรอีก
“ฉันบอกให้เธอเอาคนไปด้วยได้…ทำไมไม่เอาไป?” คนข้าง ๆ เอ่ยปากถามแต่ธรรมิกาไม่ได้ตอบ
“ฉันถามทำไมไม่ตอบ!” หญิงสาวลืมตาขึ้นก่อนจะขยับกายเพียงเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากจะตอบแต่เพราะพิษไข้จากบาดแผลเริ่มเล่นงาน
ท่อนแขนเรียวข้างขวาโดนกระชากก่อนที่วาดิมจะออกแรงบีบ หญิงสาวนิ่วหน้า เธอหลับตาลงข่มกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้
“ฉันอยากไปคนเดียว” หญิงสาวพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น แต่คนฟังก็จับความรู้สึกเธอจากกระแสเสียงได้ เสียงหัวเราะทุ้มหลุดลอดออกมาจากลำคอหนา
“อย่าเพิ่งรีบตายนะมีก้า ที่นู่นมีอะไรให้คนทรยศอย่างเธอทำอีกเยอะเลย”
“คุณอยากให้ฉันทำอะไรฉันทำทั้งนั้น ขอแค่คุณรักษาคำพูดที่คุณให้กับฉันไว้ด้วย อย่ายุ่งกับครอบครัวฉัน”
เหมือนว่าธรรมิกาจะเอ่ยคำขอร้องแต่นี่มันคือคำสั่ง ทั้งสายตาและน้ำเสียงที่เธอใช้ช่างอวดดี!
“หึ!” วาดิมผลักร่างเล็กให้ออกห่างจนแขนอีกข้างของเธอกระแทกประตูรถอีกฝั่ง
เขาไม่ชอบผู้หญิงปากอย่างใจอย่าง ทั้งที่สายตาของเธอก็แสดงออกว่าเกลียดเขาเหมือนที่เขาเกลียดเธอ
แต่ธรรมิกาก็ซ่อนความเกลียดชังในภายใต้น้ำเสียงที่ฟังแล้วระรื่นหู การต่อรองของเธอมีชั้นเชิงไม่ธรรมดา บ่งบอกว่าไอ้ท่าทีที่ทำเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร ที่แท้เธอมันก็คนหลังม่านดี ๆ นี่เอง
วัฒนาต้องพาเมสันกลับมาแลกกับธรรมิกาให้ได้ หรือถ้าทำไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้ก็จะไม่มีวันเป็นอิสระ นี่คือข้อตกลงที่วาดิมใช้ต่อรองกับบิดาตัวเอง
ในเมื่อเขาขึ้นเป็นผู้นำตระกูลแล้วแต่บิดากลับมาแทรกแซงเรื่องที่เขาจะจัดการ วาดิมยินยอมทำตามที่ท่านร้องขอก็ได้ แต่ท่านก็ต้องยินยอมในสิ่งที่เขาขอกลับเช่นกัน
‘ผมไว้ชีวิตคนทรยศได้ แต่ป๊าก็ต้องมีอะไรมาแลก’
‘ลูกสาวคุณเจินคือสมบัติส่วนตัวของผม…ป๊าอย่าได้มายุ่ง!’
***********
ฮั่นแน่...แกก็อย่ามาปล่อยโป๊ะแถวนี้
คนเขาก็รู้วววกันทั่ววววว
บทที่ 5 ไม่ใช่อย่างที่คิดวาดิม โจว เป็นทายาทตระกูลมาเฟียใหญ่ผู้ทรงอิทธิพล ชื่อเสียงของเขาเป็นที่ต้องการรู้จักในช่วงสองปีให้หลังมานี้ หลังจากที่มาเฟียใหญ่อย่าง หลาง โจว ล้มป่วยลง ลูกชายเพียงคนเดียวอย่างวาดิมก็ขึ้นนั่งตำแหน่งตระกูลโจวมีบุญคุณล้นเหลือกับตระกูลอาชาไชยมาหลายชั่วอายุคน และไว้ใจอาชาไชยประหนึ่งคนร่วมสายเลือด ถึงได้กล้าให้ดูแลกิจการสัมปทานท่าเรือขนส่งในประเทศไทยโดยไม่เคยส่งใครมาตรวจสอบจนเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นในโลกออนไลน์ประเทศไทย มีการกล่าวหาว่าอาชาไชยทำเรื่องผิดกฎหมายและที่ทำได้ไม่มีใครกล้าแตะต้องเพราะมีนายทุนใหญ่หนุนหลังนั่นก็คือตระกูลโจว ตระกูลผู้มีอิทธิพลในฮ่องกงข่าวเดี๋ยวนี้มันดังข้ามประเทศอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักตระกูลโจวโดนตรวจสอบ แม้จะบอกว่าเป็นการตรวจเยี่ยมประจำปีของทางภาครัฐ แต่ไม่ว่าจะคลังสินค้า เรือทุกลำที่ผ่าน หรือแม้แต่กระทั่งบริษัทเองก็โดนภาครัฐเข้าเยี่ยมทั้งหมดที่ผ่านมาตระกูลโจวไม่เคยโดนอะไรแบบนี้ ข่าวเรื่องนี้จึงส่งผลต่อธุรกิจและความน่าเชื่อถือของตระกูลโดยตรง ทำให้หัวหลักอย่างวาดิมที่เพิ่งขึ้นนั่งตำแหน่งได้ไม่นานรู้สึกโกรธจนอยากจะแล่เนื้อเถือหนังอาชาไชยเป็นช
บทที่ 4 สมบัติส่วนตัว“มีก้าพ่ออยากให้ลูกคิดให้ดีอีกครั้ง มันยังมีวิธีและพ่อจะไปคุณกับคุณหลางเอง”วัฒนาเจออดีตมาเฟียใหญ่ทุกปีอยู่แล้ว เพราะในหนึ่งปีจะมีงานแซยิดที่เขาจะต้องไปร่วมงาน และทุกคนภายใต้ตระกูลโจวต้องไปร่วมงาน เราสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องนี้ที่เจ้าพ่อใหญ่เชื่อว่าตัวเองยังคงมีศักดิ์ศรีพอที่จะค้ำประกันชีวิตลูกสาวไว้ได้“มีก้าคิดดีแล้วค่ะ ทางเดียวที่จะหยุดความโกรธแค้นของเขาได้ คือลูกต้องไปอยู่ที่นั่น”ไปอยู่รับกรรมที่พี่ชายบุญธรรมเป็นคนก่อ คงไม่มีใครเข้าใจว่าธรรมิกาจะไปทำไม แต่เพราะเธอก็รู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาชาไชยก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ และเธอเองยินยอมที่จะเป็นแบกรับทุกความโกรธแค้นของวาดิมไว้เอง มันดีกว่าที่บิดาของเธอต้องมารับเรื่องนี้เอาไว้ธรรมิกาได้โอกาสจากวาดิม ตามข้อตกลงคือเธอจะไปทำงานกับเขา หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าตัวประกัน ทางอาชาไชยต้องพาตัวเมสันกลับมาให้วาดิมเพื่อแลกกับชีวิตทายาทเพียงหนึ่งเดียววัฒนากุมมือลูกสาวเอาไว้ ก่อนจะปลดปล่อยน้ำตาของความพ่ายแพ้ให้ไหลริน ลูกสาวของเขาต้องไปเป็นตัวประกันจนกว่าจะหาเมสันเจอ และเมื่อนั้นวาดิมจะปล่อยธรรมิกากลับคืนสู่อ
บทที่ 3 ต่อรองธรรมิกาไม่เถียงว่าเมสันใช้นามสกุลอาชาไชยเช่นเดียวกันกับเธอ ความห่างเหินของสองพี่น้องเริ่มต้นตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ได้ แต่มารู้ตัวอีกทีเราก็พูดคุยกันน้อยมากแต่พี่ชายบุญธรรมของเธอก็ไม่ได้แย่กับเธอนัก เพียงแต่เขาไม่ได้สนิทสนมกับเธอเหมือนแต่ก่อน และธรรมิกาก็รู้ว่านิสัยของเมสันจะดีแต่กับบิดาของเธอ ส่วนกับคนอื่น ๆ โดยเฉพาะคนที่ต่ำกว่าเขา เมสันจะกดหัวรวมไปถึงเฉยชาไม่ว่ากับใครก็ตาม แม้กระทั่งบางครั้งเมสันก็เฉยชากับเธอราวกับคนที่ไม่ใช่พี่น้องกันธรรมิกาไม่คิดจะถือสาเพราะเข้าใจเมสันดีว่าการเติบโตมาท่ามกลางการที่ต้องพิสูจน์ตัวเองตลอดเวลามันลำบากและทุกข์ใจแค่ไหน เมสันต้องผ่านการพิสูจน์ตัวเองมาไม่น้อยและอาจจะมากกว่าคนอื่น ๆ ด้วยซ้ำ ต่างกันกับเธอที่ไม่จำเป็นต้องพยายามอะไรเลย เพราะสายเลือดของเธอคืออาชาไชยที่แท้จริงคนเราแววตามันบอกทุกอย่างและด้วยความอยากรู้อยากเห็น ธรรมิกาอยากจะลองวิชาที่ร่ำเรียนมาสักหน่อย หญิงสาวจึงเอาเอกสารบัญชีงบการเงินของบริษัทมาคำนวณสักหนึ่งชุด และก็นั่นแหละเธอพบความแปลกประหลาดของงบการเงินที่มันไม่สมดุลนั่นก็หมายความว่ามีคนโกง และโกงเป็นขบวนการธรรมิการู้ว่ามี
บทที่ 2 สองตระกูล“คุณโจวฆ่าผมเถอะ ผมขอแค่คุณรับปาก…ปล่อยลูกสาวผมไป มีก้าไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย”“ถ้าคุณพ่อตาย! มีก้าก็จะตายไปกับคุณพ่อ!”ทั้งที่ปืนจอหน้าผากคนเป็นพ่อ ส่วนลูกโดนบีบคอจนเกือบตาย แต่พ่อลูกก็มีความทะนงตนในตัวเองวัฒนายังไม่ยอมรับว่าสิ่งที่ลูกชายมันทำ คนของอาชาไชยคนอื่นมีส่วนรู้เห็นด้วย คิดว่าตายคนเดียวแล้วเรื่องมันจะจบง่ายหรือไง!“อะ ไอ้ อึกกก สะ สารเลว อือออ” ธรรมิกาไม่ได้ด่าคนที่กำลังบีบคอเธออยู่ แต่หญิงสาวด่าวาดิมต่างหากดวงตากลมโตที่แสนจะดื้อรั้นและอวดดียังคงมองเขาไม่ละสายตา ส่วนปากเธอก็ทำงานอย่างหนักมุมปากของวาดิมยกสูงขึ้น เขามองลูกน้องตัวเองที่กำลังบีบลำคอลูกสาวสุดที่รักของวัฒนามาเฟียหนุ่มนึกสนุกจึงยกมือขึ้นคล้ายจะห้าม ลูกน้องเขาก็คลายแรงบีบที่ลำคอเธอ ก่อนที่วาดิมจะกระดิกนิ้วอีกครั้ง และครั้งนี้ธรรมิกาดวงตาเหลือกลาน จนเมื่อเธอจะขาดใจเขาจึงสั่งให้พอวัฒนาก้มลงไปขอร้องเอาศีรษะกระแทกรองเท้าวาดิม มาเฟียหนุ่มจ้องมองคนรุ่นพ่อที่กำลังยุ่มย่ามกับรองเท้าของเขาอย่างไม่ชอบใจนัก แต่ก็ไม่ได้ยกปลายเท้าหนีแต่อย่างใด“ผมจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง ฮึกกก คุณโจว ผม…”วัฒนายอมสละได้ทุกอ
บทที่ 1 คำขอร้องฝ่ามือหยาบกร้านฟาดลงมาบนใบหน้าสวยหวานจนโลหิตสีแดงฉานไหลหยดออกมาจากมุมปากเธอในทันทีธรรมิกาแหงนหน้าขึ้นไปมองคนที่ลงมือทำร้ายเธอด้วยสายตาเย็นเยือก ก่อนจะถ่มน้ำลายก้อนใหญ่ใส่เขาอย่างไม่กริ่งเกรงว่าจะโดนทำร้ายซ้ำอีกครั้ง“ตบไม่ได้ทำให้ตายไม่รู้หรือไง?”ลูกสาวของวัฒนาไม่ได้เกรงกลัวคนของมาเฟียหนุ่มเลย เธอเชิดใบหน้าที่แตกยับขึ้นก่อนจะจ้องมองวาดิมอย่างไม่ละสายตา“หึ!” วาดิมนับถือใจของหญิงสาวที่ละม้ายคล้ายคลึงตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ ความสูงของเธอถ้าเทียบกับลูกน้องของเขา แค่เพียงพวกมันลงมือหนักหน่อยคนอวดดีก็ไม่พ้นความตายคนเป็นพ่อเห็นลูกสาวโดนทำร้ายคาตาแบบนั้นก็ทรุดกองลงแดดิ้นกับพื้นดินสกปรกตรงหน้ามาเฟียหนุ่มวัฒนาคลานเข่าเข้าไปใกล้วาดิม แต่ก็ถูกลูกน้องของเขามากันทางไว้“คุณโจว! คุณโจวผมขอร้อง ผมกราบก็ได้ ได้โปรดปล่อยลูกสาวผมไป มีก้าไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย!!”มาเฟียหนุ่มจ้องมองคนพูดด้วยสายตาว่างเปล่า ในมือเขาหมุนปลอกกระสุนปืนที่ถูกใช้ไปแล้วกับคนของอาชาไชย“งั้นใครที่รู้…พวกมันหรือไง?” น้ำเสียงทรงพลังทำเอาวัฒนาตัวชาวาบ ปากหยักของวาดิมยกขึ้นสูงมองคนสนิทเจ้าพ่อใหญ่ถูกลากตัวมาหยุดอยู
ลองตายดูสิ...เผื่อฉันจะปล่อยเธอไปสัมผัสรักมาเฟียร้าย[วาดิม x มีก้า]-TOXIC RELATIONSHIP-“เมื่อมีคนทรยศ...ก็ต้องมีคนรับผิดชอบ”“คุณมันคนสารเลว”วาดิม โจว หรือ คุณโจวนักธุรกิจหนุ่มทายาทเจ้าของท่าเรือขนส่งในฮ่องกง อายุ 32 ปี เบื้องหน้าเขาคือนักธุรกิจผู้มั่งคั่งในเงินทองและอำนาจเบื้องหลังเขาคือมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล มีอดีต เกลียดการหักหลัง และชอบเอาคืนธรรมมิกา อาชาไชย หรือ มีก้าลูกสาวสุดรัก วัฒนา อาชาไชย ผู้ดูแลสัมปทานธุรกิจท่าเรือขนส่งในไทยภายใต้ตระกูลโจวหญิงสาววัยแรกแย้มผู้ที่ถูกเลี้ยงมาดั่งนกน้อยในกรงทอง อายุ 27 ปีดื้อเงียบ อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ ⛔️ห้ามคัดลอกดัดแปลงนิยาย โครงเรื่อง การดำเนินเรื่อง⛔️พบเจอ คูณ 10 ของรายได้ทุกแอปพลิเคชันที่ลงนิยายเรื่องนี้ไว้หนังสือเล่มนี้คุ้มครองตามความแห่ง พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 27,69ห้ามทำซ้ำหรือดัดแปลง เผยแพร่ต่อสาธารณชนหรือให้เช่าต้นฉบับหรือสำเนางานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ และสิ่งบันทึกเสียงก่อนได้รับอนุญาตต่อเจ้าของผลงานเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น#คำเตือน เนื้อหานิยายมีคำหยาบคาย เพศ และการใช้ภาษา เยาวชนควรใช้วิจา







