Главная / โรแมนติก / สัมผัสร้าย สัมผัสรัก / สัมผัสร้าย 1 เอาเล่นๆ (3)

Share

สัมผัสร้าย 1 เอาเล่นๆ (3)

Aвтор: Yaygoh
last update Последнее обновление: 2025-10-29 18:44:29

“หยุดโวยวายได้แล้วสิ”

“นี่นาย! รู้ตัวหรือเปล่าว่าทำอะไรลงไป”

ฉันหันไปจิกกัดเรซ ยังจะมีหน้ามาพูดอีกเหรอ ให้ตายสิ เขาไม่ได้มองหน้าฉันด้วยซ้ำ สายตาเรซจับจ้องที่ถนนอย่างไม่สะทกสะท้านแต่มุมปากกลับยกยิ้มคล้ายกำลังหัวเราะเยาะ

“มีความสุขมากเหรอ”

“เปล่านี่”

“เปล่าอะไร สนุกนักเหรอที่ได้ก่อกวนคนอื่น”

“พูดเรื่องอะไรของเธอ” สีหน้าเรซจริงจังขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ จู่ๆ เขาก็หันมามองหน้าฉัน แม้จะเป็นแค่แวบสั้นๆ แต่มันก็เพียงพอจะทำให้ฉันรู้สึกได้ถึงความห่างเหินและเย็นชาจากแววตาคู่นั้น

...ไม่มีอะไรพิเศษซ่อนอยู่ในสายตาของเรซเลย เพราะแบบนั้นฉันยิ่งไม่เข้าใจ เขาลากฉันมาด้วยทำไม ถ้าไม่มีอะไรจริงๆ

“นายพาฉันมาด้วยแบบนี้ จะให้ฉันคิดยังไงล่ะ”

“แล้วแต่เธอจะคิด ถือว่าไปเที่ยวสิ”

“นี่เรซ! มันใช่เรื่องตลกหรือไง บ้าชะมัด ทำไมฉันถึงขึ้นรถมากับไอ้คนเฮงซวยแบบนี้ได้นะ”

“ไม่เห็นแปลก ขนาดมีเซ็กส์ยังเคยมาแล้วเลย”

ฉันหันขวับไปจ้องหน้าเรซจนคอแทบเคล็ด รู้สึกเกลียดอย่างบอกไม่ถูก 

“นาย… จำได้ด้วยเหรอ”

แล้วเรซก็ชำเลืองมองฉันด้วยสายตาที่บอกว่าเรื่องแค่นี้ทำไมจะจำไม่ได้

“เดี๋ยวนะ นายไม่ได้ลืม แต่กลับเมินฉัน ไม่คิดจะพูดอะไรบ้างเลยหรือไง รู้มั้ยฉันตกใจแค่ไหนที่ถูกทำแบบนั้น”

“เธอตกใจเหรอ เห็นเชี่ยวขนาดนั้นนึกว่าจะวินๆ ซะอีก”

“หา!!!!” ฉันอ้าปากค้างกับความคิดเรซ นี่เขามองฉันเป็นผู้หญิงยังไงกันแน่เนี่ย

หลายชั่วโมงต่อมา

ฉันเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตะวันตกดินแล้ว 

“นี่ เราอยู่ที่ไหน”

“ป่าตอง เอาของไปเก็บที่พักก่อน”

ฉันบีบต้นคออย่างเหนื่อยล้า มองออกไปรอบนอกพลางอ้าปากหาว ถึงจะเพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรกก็ไม่รู้สึกตื่นเต้นเลยสักนิด ง่วงจะแย่อยู่แล้ว

ราวๆ สิบห้านาทีให้หลัง ก็ถึงโรงแรมหรูของป่าตอง ชื่ออะไรสักอย่างตอนขับรถผ่านฉันอ่านป้ายไม่ทัน 

“จองเอาไว้ล่วงหน้าหรือเปล่าคะ”

“อืม” เรซตอบพนักงานรับรองที่อยู่หลังเคาน์เตอร์พลางยื่นบัตรประชาชนให้ พนักงานมองบัตรแล้วเช็กข้อมูลครู่หนึ่งก็ส่งบัตรคืนเรซ

“เรียบร้อยแล้วค่ะ”

“เอ่อ แล้วฉันต้องยื่นบัตรหรือเปล่า” ฉันโพล่งถามอย่างสงสัย

“อ๋อ ไม่ต้องค่ะ ใช้คนเดียวก็พอค่ะ”

“ออ… เอ๊ะเดี๋ยวนะ เรซนี่ฉันนอนห้องเดียวกับนายเหรอ” ฉันคว้าท่อนแขนเรซที่กำลังจะเดินออกประตู 

“อืม”

“เฮ้!”

“ถ้าไม่พอใจก็เปิดห้องใหม่” เขาบอก 

ฉันมองสบสายตาคมกริบของเรซนิ่งครู่หนึ่ง กำลังจะหันกลับไปถามห้องว่างที่เคาน์เตอร์เสียงเรซก็ดักขึ้นมาซะก่อน

“ค่าห้องออกเอง จัดการเอง ฉันไม่ออกให้”

“ห๊ะ?”

“คืนละห้าพันนิดๆ ห้องดีหน่อยก็หมื่นนึง แต่เธอคงไม่เดือดร้อนหรอก เอาเป็นว่าเอาที่เธอสะดวกแล้วกัน”

หน้าฉันแห้งตั้งแต่ได้ยินคำว่าคืนละห้าพันแล้ว ประสาทหรือไง ทำไมฉันต้องจ่ายค่าห้องแพงๆ ทั้งที่ไม่ได้เต็มใจมาเที่ยวแบบนี้ด้วย 

เรซ! ไอ้บ้านั่นคิดจะแกล้งฉันหรือไง แล้วที่พูดเมื่อกี้ ที่บอกว่าฉันไม่เดือดร้อนน่ะหมายความว่ายังไง เข้าใจว่าฉันรวยหรือแค่ประชด โว้ย นี่ฉันจะบ้าตายจริงๆ แล้วนะ

“เรซ รอฉันด้วย!”

สุดท้ายฉันก็ต้องวิ่งตามเขามาที่ห้องอย่างไม่มีทางเลือก เงินห้าพันไม่ใช่น้อยๆ นะ ใครจะโง่เสียเงินวะ บ้าเปล่า

“ให้เวลาครึ่งชั่วโมง”

“เดี๋ยวอะไรอีก”

เพิ่งจะเข้ามาในห้อง แอร์ยังไม่ทันเย็นด้วยซ้ำเขาก็พูดเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอกอย่างงั้นแหละ

เรซมองกระเป๋าเดินทางที่ฉันหิ้วมาด้วย ก่อนย้ำออกมาชัดๆ “ไม่ต้องพูดมาก รีบแต่งตัวซะ มีธุระต้องไปต่อ”

พูดเสร็จเขาก็ถอดเสื้อที่สวมแล้วเปิดกระเป๋าที่หิ้วมาด้วยค้นเสื้อยืดเท่ๆ ตัวใหม่ออกมาสวม

ฉันมองผิวขาวๆ ของเรซที่เต็มไปด้วยรอยขีดข่วนจากเล็บแล้วใจคอไม่ดีแปลกๆ สงสัยว่าจะเป็นรอยที่เกิดจากเมื่อคืนหรือเปล่า หรือว่ามาจากคนอื่น…

“มัวทำอะไร รีบแต่งตัว หรือจะไปชุดนั้น”

“ห๊ะ? เอ่อ ฉันจะอยู่ที่นี่ นายไปเถอะ ฉันอยากพักผ่อนมากกว่า”

ฉันบอกไปตามตรง รู้สึกเพลียจนอยากล้มตัวลงนอนซะเดี๋ยวนั้น แต่เรซไม่ยอมให้ฉันอยู่ห้องคนเดียว หมอนั่นใช้น้ำเสียงเข้าข่มจนฉันไม่กล้าขัด สุดท้ายก็ต้องยอมออกมากับเขาจนได้

เรซขับรถพาฉันออกมาที่ร้านอาหารริมทะเล มีเพลงคลอเบาๆ กับลมเย็นๆ ช่วยทำให้อารมณ์ที่ขุ่นมัวของฉันแจ่มใสขึ้นมานิดหน่อย

“เรซ”

ใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ตะโกนเรียก เรซหันไปมองแล้วเดินตรงเข้าไปหาทันที พอดูใกล้ๆ ฉันถึงรู้ว่าเป็นใคร

ฮาน… หัวหน้าทีมเรดซัน ฉันรู้เพราะคะนิ้งเคยเอารูปสมาชิกในทีมเรดซันมาเปิดให้ดู

“อยู่คนเดียวเหรอ”

เรซกวาดตามองไปรอบๆ ราวกับกำลังหาใครอยู่

“อืม แล้วนั่นพาใครมา” สายตาฮานชำเลืองมาที่ฉัน 

“เพื่อนคะนิ้ง ติดรถมาด้วยเฉยๆ ไม่มีอะไรมาก แล้วคนอื่นล่ะ”

“พวกนั้นไปคุยที่ผับ แต่กูรำคาญเสียงเพลงในผับมันดัง คุยกันคงไม่รู้เรื่อง เลยนัดพวกมันไปที่ฮาล์ฟมูน อย่างน้อยๆ ที่นั่นก็โล่งกว่า”

“อืม ตามนั้น”

ฉันไม่ได้ฟังที่เรซกับฮานคุยกัน เพียงแต่ความหิวทำให้ฉันต้องหาที่นั่งแล้วหยิบเมนูข้างๆ ฮานมาดู เห็นตรงหน้าเขามีจานข้าวผัดเลยเผลอพูดออกมาอย่างลืมตัว

“ข้าวผัดอร่อยหรือเปล่า”

“....” สองคนนั้นหันมามองฉันทันที 

“หืม?” ฉันส่งสายตากลับไปให้เรซกับฮาน ทำไมต้องมองเหมือนฉันทำอะไรผิดแบบนั้น หรือฉันไม่มีสิทธิ์พูด ควรนั่งเงียบๆ แล้วรอให้พวกเขาคุยกันเสร็จก่อนงี้เหรอ 

ไม่มีทาง ฉันหิวฉันก็จะกิน

“งั้นสั่งข้าวผัดดีกว่า ท่าทางกินง่าย นายเอาอะไรมั้ยเรซ จะได้สั่งพร้อมกัน”

“ไม่” 

เขาตอบสั้นๆ แล้วหันไปคุยกับฮานต่อ ไม่หิวเหรอ? ตั้งแต่มายังไม่ได้กินอะไรเหมือนกันไม่ใช่เหรอ เอ้อช่างเหอะ ฉันสั่งมากินคนเดียวก็ได้

Продолжить чтение
Scan code to download App

Latest chapter

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   ตอนพิเศษ (2)

    “สวัสดีค่ะ หนูชื่อเทียน เป็นแฟนเรซ...”ย่ามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างประเมินครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าแล้วกวักมือเรียก“มานี่สิ เข้ามาใกล้ๆ ให้เห็นหน้าชัดๆ หน่อย”ฉันมองเรซอย่างไม่แน่ใจ แต่เขาก็พยักหน้าให้ ไม่เพียงแค่นั้นยังจูงมือฉันที่กำลังตื่นเต้นพาเดินเข้าไปหาย่าอีก“เรซ... นี่หลานสะใภ้ย่าเรอะ” ย่ามองเรซอย่างตั้งตัวไม่ทัน การแสดงออกของเรซทำให้ย่าเห็นว่าเขาห่วงใยฉันแค่ไหน“ครับย่า”“คนไทยใช่มั้ย”“ครับ”“อืม อย่างน้อยๆ ก็คงไม่คิดหนีย่าไปอยู่ต่างประเทศเหมือนพ่อใช่มั้ย”“วางใจเถอะครับ ผมไม่ไปไหน”“ดีแล้ว อืม หนูชื่อเทียนใช่หรือเปล่า” ย่าพยักหน้าให้เรซอย่างรู้สึกวางใจก่อนหันกลับมาพูดกับฉัน“ค่ะคุณย่า”“เรียกย่าเฉยๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตอง” ย่าเรซโบกมืออย่างไม่ถือ ก่อนหันไปทางแนท “แล้วนี่เมื่อไหร่แนทจะพาหลานเขยมาแนะนำให้พวกเรารู้จักบ้าง”“ย่า...” แนทลนลาน ท่าทางไม่รู้จะตอบย่ายังไงดี สุดท้ายก็ทำหน้าง้ำกลบเกลื่อนแล้วไม่พูดอะไรต่อ หลังจากนั้นไม่นานคนรับใช้ก็เข้ามาแจ้งว่าตั้งโต๊ะเสร็จแล้ว ปู่จึงสั่งให้เรียกลูกหลานที่ใกล้ชิดทุกคนมารวมกันที่โต๊ะอาหารเพื่อร่วมอวยพรวันเกิดครบรอบเจ็ดสิบปีของย่าบรรยากา

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   ตอนพิเศษ (1)

    บ้านพักของเรซที่เพชรบูรณ์ตั้งอยู่ในไร่มะขาม แยกตัวออกจากบ้านใหญ่ที่ปู่กับย่าเรซอยู่ ฉันรู้สึกโล่งใจที่รู้ว่าเราจะพักกันที่นี่วันนี้เป็นวันเกิดย่าเรซ เขาต้องกลับมาร่วมงานทุกปี แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่เขาพาคนอื่นมาด้วย ซึ่งก็คือฉัน ครั้งแรกที่รู้ว่าต้องมาเยี่ยมบ้านเรซฉันก็กดดันและกังวลจนเผลอแสดงสีหน้าออกมาให้เรซเห็น แต่เขาก็คอยปลอบใจฉันพร้อมกับบอกว่าปู่กับย่าใจดีไม่มีอะไรต้องห่วง พวกเราเพิ่งมาถึง ยังไม่มีโอกาสเจอใครนอกจากคนงานสองสามคนที่มารอรับหน้าบ้านเพื่อคอยอำนวยความสะดวก หลังเตรียมเสื้อผ้าที่จะใส่ไปกินข้าวเย็นบ้านปู่กับย่าเรซเสร็จ ฉันก็ลงมาข้างล่าง เรซกำลังคุยกับคนงาน เสร็จแล้วค่อยเดินมาหาฉันที่โซฟา“เก็บของเสร็จแล้วเหรอ”“อืม เหนื่อยหรือเปล่าขับรถ นอนก่อนมั้ย” ฉันจับแขนเขาอย่างเป็นห่วง“อยากนอนตรงนี้” เรซถือโอกาสเอนตัวลงนอนหนุนตักฉันทันที เขาดึงมือฉันไปทาบกับแก้มตัวเองอย่างอ้อนๆ ฉันเลยหยิกเขาไปทีหนึ่งอย่างมันเขี้ยว“นอนดีๆ สิ จะได้ไม่เมื่อย”“ไม่เมื่อย” เรซหลับตาอย่างไม่ใส่ใจเสียงเตือนของฉัน แกล้งหลับดื้อๆ ฉันอมยิ้มจางๆ เห็นท่าทางน่ารักของเรซแล้วไล่ให้ไปนอนบนเตียงไม่ลง “เรซ?” ฉันเร

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   บทส่งท้าย

    @Rewell Corp. ฉันผลักประตูเข้ามาในออฟฟิศ ที่นี่ไม่ใหญ่มาก เป็นห้องโล่งๆ มีโต๊ะทำงานแบ่งออกเป็นสามโซน แต่ละโซนโต๊ะทำงานหันหน้าเข้าหากันมีแค่ผนังกระจกยิงลายเกมกั้น ฝั่งขวามือเป็นห้องประชุม ลึกเข้าไปด้านในมีทางแยกฝั่งซ้ายที่เป็นผนังทึบ ตรงนั้นฉันคิดว่าน่าจะเป็นห้องทำงานของประธานบริษัทฉันเดินลากรองเท้าส้นสูงผ่านประตูมาได้แค่สองก้าวก็ถูกสายตาของคนข้างในจับจ้อง“ขอโทษค่ะ พอดีว่ามาสัมภาษณ์งานกับน้าริช รู้มั้ยคะว่าน้าริชอยู่ที่ไหน” ฉันถามพี่ผู้หญิงที่อยู่ใกล้สุด เธอมองชุดนักศึกษาที่ฉันสวมแวบหนึ่งก่อนชี้มือไปทางห้องกระจกฝั่งขวา“ทางนั้น ประชุมทีมอยู่”“อ๋อค่ะ ขอนั่งรอตรงนี้ได้หรือเปล่าคะ”“ตามสบาย”“ขอบคุณค่ะ” ฉันถือโอกาสนั่งแล้วมองสำรวจรอบๆ ไปด้วย แอบมองพี่คนข้างๆ ทำงานไปด้วย บางครั้งก็เผลอถามโน่นถามนี่ โชคดีที่พี่คนนี้เป็นคนใจเย็น หันมาพูดกับฉันอย่างไม่ถือสา จนตอนนี้เรารู้ชื่อกันแล้ว การสนทนาก็เริ่มเป็นกันเองมากขึ้น และมิตรภาพก็ค่อยๆ ลามไปถึงคนข้างๆ เกือบครึ่งชั่วโมงที่ฉันนั่งรอแทบจะรู้จักพี่ๆ กันทั้งโต๊ะ ประตูห้องกระจกใสเปิดออก พร้อมกับคนสี่ห้าคนเดินออกมาด้วยสีหน้

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   สัมผัสรัก 10 หอมกลิ่นความรัก (5)

    เรซสอดแทรกความต้องการเข้ามาตามคำเรียกร้องของฉัน ความอึดอัดรัดรึงเสือกไถเข้ามาจนสุดทาง ฉันหลุดเสียงครางหวิวไหว ร่างกายสั่นระทดระทวยเกาะพรมไปด้วยหยาดเหงื่อ ทั่วทั้งห้องตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายรักใคร่และเสียงอันหนักหน่วงจากการสอดประสานกันอย่างร้อนแรงของร่างสองร่างบนโซฟาเนิ่นนานกว่าไฟอารมณ์จะมอดดับ ฉันจะยืนยังไม่ไหว ต้องให้เรซอุ้มเข้าห้องน้ำ เรานอนกอดเกยกันอยู่ในอ่าง ร่างเปลือยเปล่าแนบชิดและเหมือนเรซจะรู้สึกขึ้นมาอีกครั้ง เขาสอดใส่เข้ามาใต้น้ำ ร่างกายฉันเกร็งเครียดไปหมด เรซขบเม้มติ่งหูพลางลูบไล้ทรวงอกเพื่อช่วยให้ฉันผ่อนคลาย รู้สึกสุขสมไปพร้อมๆ กับเขา น้ำในอ่างกระฉอกตามแรงกระทบกระแทกด้านล่าง เสียงก้องกังวานสะท้อนไปทั่วห้องน้ำ ฉันเสียวซ่านจนแทบทนไม่ไหว เรซโหมกระแทกรัวแรงขึ้นเรื่อยๆ ฉันรู้สึกเหมือนใจจะขาด กรีดร้องออกมาอย่างคลุ้มคลั่งตอนที่อารมณ์พุ่งถึงขีดสุดแห่งห้วงหฤหรรษ์เสียงหอบหายใจสองสายดังสะท้อนถี่รัวอยู่พักหนึ่งค่อยกลับเป็นปกติ ฉันเหนื่อยจนจะหลับได้อยู่แล้ว ฟาดแขนเรซไปหนึ่งทีอย่างฉุนๆ “เกินไปแล้วนะเรซ กะจะรีดให้หมดตัวเลยหรือไง”“ใครเริ่มก่อนล่ะ ตามจริงตั้งใจจะงดให้หนึ่งวัน”เรซใช้ปลา

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   สัมผัสรัก 10 หอมกลิ่นความรัก (4)

    “เรซไม่อยากให้เทียนไปทำหนิ แล้วทำไมยังอุตส่าห์หางานมาให้ล่ะ”“เพราะเทียนอยากทำ”“เรซ... ทำไม...” ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีกแล้ว ตอนเที่ยงเขาเล่นตัดบทฉันดื้อๆ แต่ว่าตอนนี้กลับช่วยฉันทั้งที่เขาก็ไม่ได้เห็นด้วยเท่าไหร่ ภายในอกฉันตื้นตันจนยากจะเอ่ยออกมาเป็นคำพูด สวมกอดคนข้างๆ เอาไว้แน่น ซุกหน้าคลอเคลียลำคอแกร่ง เรซลูบแขนฉันตอบเบาๆทำไมกัน ทั้งที่เราไม่ได้จะจากกันไปไหนเลย แต่ความรู้สึกกลับเปลี่ยวเหงาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ไม่อยากแยกจากแม้แต่วินาทีเดียว แค่ฉันจะไปทำงานเฉยๆ แต่เรซก็ทำเหมือนจะเหี่ยวเฉาอยู่รอมร่อ“ขอบคุณนะ”ฉันจูบลูกกระเดือกเรซเบาๆ ผิวขาวของเรซแดงซ่านขึ้นมาทันที ลูกกระเดือกเป็นจุดที่อ่อนไหวของผู้ชาย เพราะงั้นตอนนี้เขาถึงก้มลงมองฉันด้วยสายตาลึกล้ำเป็นพิเศษ “จะไปหรือเปล่า?” เรซกลืนน้ำลายลงคอ ลูกกระเดือกขยับขึ้นลงท่าทางข่มกลั้นอารมณ์ของเรซเห็นแล้วชวนใจละลายไม่น้อย“ไปสิ”ฉันตอบอย่างไม่ลังเล เรซแววตาสลดลงวูบหนึ่ง “เห็นให้อมยิ้ม นึกว่าจะยอมแพ้ไปแล้ว”“ก็ตัดใจไปแล้วครึ่งหนึ่ง เทียนไม่อยากทำให้เรซเป็นห่วง นึกถึงเวลาเรซไปรอรับหน้าที่ทำงานแล้วรู้สึกผิด เลยคิดว่าจะลองหาวิธีอื่น…” ฉันยื่นมื

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   สัมผัสรัก 10 หอมกลิ่นความรัก (3)

    บทจะดื้อเรซก็เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ตลอด ไม่ยอมเปิดใจอะไรง่ายๆ หลังกินข้าวเสร็จ ฉันเก็บจานไปล้างแล้วเปลี่ยนชุดไปเรียน เรซขับรถมาส่ง ระหว่างทางเราพูดคุยกันน้อยมากแทบนับคำได้ เหมือนย้อนกลับไปช่วงที่ยังไม่ได้คบกัน “อ้าวเทียน มาเมื่อไหร่เนี่ย กินข้าวยัง” คะนิ้งกับทีมเพื่อนๆ เดินออกจากศูนย์อาหารมาเจอฉันที่ถนนหน้าตึกเรียนพอดี ฉันยิ้มทักทายทุกคนตามปกติ “อื้ม เรียบร้อยแล้ว” “เรซมาส่งเหรอ” “อืม” ฉันพยักหน้าให้คะนิ้ง เดินตามคนอื่นๆ เข้ามาในตึก “เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าเครียดๆ” คะนิ้งท้วง เธอมองหน้าฉันด้วยแววตาผิดสังเกต ฉันถอนหายใจอย่างลังเล แต่สุดท้ายก็ระบายความอัดอั้นข้างในออกมา คะนิ้งฟังฉันเล่าแล้วครุ่นคิดด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะเรื่องที่ฉันพูดค่อนข้างยาวและเป็นส่วนตัว เพื่อนที่มาด้วยจึงล่วงหน้ากันไปก่อนไม่เว้นแม้แต่เค้ก ตอนนี้จึงเหลือแค่ฉันกับคะนิ้งอยู่ใต้ตึกกันสองคน “นิ้งไม่เข้าใจว่าเทียนกลัวอะไร อย่าคิดมากสิ เรซไม่ใช่คนโง่ที่ยอมให้ใครมาเกาะ เว้นแต่ว่าเขายินดีให้เกาะ” คะนิ้งพูดแบบนี้ ฉันควรรู้สึกดีหรือไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status