Главная / โรแมนติก / สัมผัสร้าย สัมผัสรัก / สัมผัสร้าย 1 เอาเล่นๆ (4)

Share

สัมผัสร้าย 1 เอาเล่นๆ (4)

Aвтор: Yaygoh
last update Последнее обновление: 2025-10-29 18:52:01

แต่สักพัก เครื่องดื่มก็เริ่มถูกสั่งมาเต็มโต๊ะ แถมฮานยังหันมาพูดกับฉันแล้วชวนฉันชนแก้วอีก เล่นเอาฉันงงไปหมด หรือเพราะคุยเรื่องงานกับเรซเสร็จแล้วหรือเปล่านะ ก่อนหน้านี้ได้ยินพวกเขาพูดเรื่องสปอนเซอร์ เงินสนับสนุนโน่นนี่นั่นกับรายละเอียดแข่งรายการอะไรสักอย่าง ฉันได้ยินแค่ผ่านๆ ไม่ได้ตั้งใจฟัง มือหนึ่งตักข้าวเข้าปาก อีกมือก็เลื่อนหน้าจอเพื่อเช็กข่าวในโซเชียลต่างๆ ก่อนจะถูกเสียงของฮานดึงดูดความสนใจไป

“เพื่อนคะนิ้งเหรอ เห็นแวบๆ ที่หัวหิน คนเดียวกันหรือเปล่า”

“อ้อ ใช่ค่ะ ชื่อเทียน”

“หืม แล้วทำไมมากับเรซล่ะ”

“แฮร่... เรื่องนั้น” ฉันยิ้มเจื่อนๆ ชำเลืองสายตาไปทางเรซเผื่อเขาจะอยากตอบ แต่เรซแค่หันมามองหน้าฉันแวบเดียวแล้วก็ละสายตาไปทางอื่น ไม่คิดจะช่วยแก้ต่างอะไรให้เลย 

“เอ่อ คือเรซชวนมาน่ะ” ฉันพูดออกมาไม่เต็มเสียง จะแกล้งเงียบเหมือนเรซก็ใจไม่ด้านพอเพราะฮานเล่นจ้องเอาคำตอบแบบไม่ละสายตาเลย 

“อ่อ เป็นงั้นหรอกเหรอ ดื่มเก่งหรือเปล่า” ฮานพยักหน้าหลังได้ฟังคำตอบ เขายิ้มให้ฉันอย่างเป็นกันเอง แล้วยกแก้วขึ้นขอชน 

“ก็นิดหน่อย ดื่มเยอะๆ ก็เมาได้” ฉันพูดขำๆ พลางยกแก้วขึ้นชน “อื้มแล้วนี่จะไปไหนต่อหรือเปล่า” ฉันมองหน้าฮาน หลังจากดื่มไปครึ่งแก้ว

“เดี๋ยวไปคุยกับหุ้นส่วน พูดถึงก็ติดต่อมาพอดี”

ฮานหยิบโทรศัพท์ที่มีข้อความเด้งเตือนขึ้นมาดู ก่อนจะหันไปเรียกเรซ 

“พวกนั้นมากันแล้ว”

“อืม เช็กบิลล์เลย”

เรซบอก เขาลุกออกไปเป็นคนแรก เฮ้ยเดี๋ยวดิ… ฉันรีบลุกจากเก้าอี้ มองจานข้าวกับแก้วเหล้าตัวเองอย่างไม่แน่ใจว่าต้องหารหรือเปล่า แต่ว่าฮานก็หยุดความสงสัยของฉันด้วยการยื่นบัตรเครดิตให้พนักงาน 

“ไปกันเถอะ”

เขาหันมาส่งยิ้มให้ฉัน ฉันรีบพยักหน้าแล้วเดินตามเขาออกมาทันที แต่ฉันไม่ได้สนิทกับฮาน ถ้าเมื่อกี้คนจ่ายเป็นเรซฉันจะไม่คิดมากเลย

“ค่าอาหารนั่น เทียนจะคืนให้ทีหลังนะ” ฉันบอกอย่างรู้สึกเกรงใจ

“หืม? ใครเขาให้ผู้หญิงจ่ายค่าอาหารกันล่ะ” ฮานหันมาขยิบตาให้ฉันก่อนจะเดินแยกออกไปที่รถตัวเอง 

ฉันอึ้งไปชั่วขณะ ถึงจะรู้ว่าฮานไม่ได้พูดเพื่อจะเอาใจฉันแต่มันก็ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นมากที่ได้เจอเขาที่นี่

“ถ้าจะไปต่อ ช่วยส่งฉันที่ห้องก่อนได้มั้ย”

ฉันบอกเรซที่กำลังยืนสูบบุหรี่รออยู่ข้างประตูรถฝั่งคนขับ เขาชำเลืองมองฉันนิ่ง นิ้วเคาะเถ้าบุหรี่ออก ยกขึ้นอัดเข้าปอดแรงๆ ก่อนจะทิ้งลงบนพื้นแล้วใช้เท้าขยี้จนดับ

“ขึ้นรถ”

“เรซ”

ฉันไม่รู้ว่าเขาได้ฟังที่บอกหรือเปล่า แต่ยังไม่ทันอ้าปาก เรซก็เปิดประตูเข้าไปในรถแล้ว แล้วจะให้ฉันทำยังไง มองไปรอบๆ ก็เจอแต่ทิวทัศน์ที่ไม่คุ้นเคย ฉันไม่เคยมาภูเก็ต ไม่รู้ว่าจะกลับโรงแรมยังไง ถึงจะมองเห็นสามล้อรับจ้างจอดเรียงเป็นแถวก็เถอะ แต่ฉันก็ไม่บ้าพอจะเรียกสามล้อกลับโรงแรมที่แม้แต่ชื่อก็ยังจำไม่ได้หรอกนะ

ฉันอ้อมมาขึ้นรถกับเรซอย่างไม่มีทางเลือก หันไปถามเสียงฉุน

“นายไปส่งฉันก่อนได้หรือเปล่า”

“จะอ้อมไปอ้อมมาทำไมให้เสียเวลา”

“แต่ว่าฉัน”

“หรือจะนั่งสามล้อ”

เรซเหลือบมองฉันระหว่างที่กำลังถอยรถ จู่ๆ เขาก็เบรกกึก รอให้ฉันเป็นคนตัดสินใจว่าจะเอายังไง ฉันนิ่งอึ้ง ละล่ำละลักจะพูดแต่ก็พูดไม่ออก 

“สามล้อ ถ้าอยากกลับก็เชิญ” 

เขาพยักหน้าไปทางถนนอีกฝั่งที่มีคิวสามล้อจอดอยู่ ฉันกำมือแน่น ทั้งจุกทั้งโกรธ มองสบสายตาไร้เยื่อใยของเรซด้วยใบหน้าที่รู้สึกชาไปหมด

“นายคิดว่าฉันจะนั่งสามล้อหรือไง”

ฉันเหวี่ยงกลับ เรซไม่พูดอะไรเลย ถอยรถต่อแล้วก็ขับออกไปอย่างไม่ใส่ใจ ข้างในฉันระอุไปหมด ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องมานั่งในรถของเรซ ความจริงฉันไม่ควรมาอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ อยากกลับกรุงเทพแล้ว คิดถึงพี่แสง 

ฮือออ จะร้องงง

ฉันก้มมองหน้าจอโทรศัพท์ เข้าเฟสบุ๊ค เลื่อนดูรูปเก่าๆ ที่เราเคยถ่ายกัน ในเฟสพี่แสงไม่มีอัปเดตอะไรใหม่ เฟสฉันก็เหมือนกัน ไม่ได้อัปเดตอะไรเพิ่มตั้งแต่ภาพถ่ายกับเค้กที่หัวหินเมื่อสองวันก่อน

อยู่ดีๆ ก็รู้สึกกังวลขึ้นมา ไปโกหกพี่แสงว่าน้องชายรถล้มแบบนั้นจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ บ้าบอจริงๆ เลย ทำไมฉันต้องมาเดือดร้อนเพราะผู้ชายอย่างเรซด้วย ยิ่งคิดยิ่งเครียด อยากหันไปพ่นไฟใส่เรซจริงๆ แต่ก็ทำได้แค่นั่งหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่กับเบาะ 

รันทด!

“ที่นี่คือ…”

ความง่วงและความเหน็ดเหนื่อยถูกบรรยากาศครึกครื้นและเสียงดนตรีมันๆ เหนี่ยวรั้งความสนใจเอาไว้ ฉันเอ่ยถามเรซที่กำลังจ่ายเงินซื้อบัตรผ่าน ก่อนจะเหลือบไปเห็นป้ายที่เขียนเอาไว้ว่า พาราไดซ์บรีท และเรซก็ไม่ตอบฉันเหมือนเดิม หมอนั่นหลังจากเคลียร์ทางเข้าเสร็จก็หันมามองฉันแวบหนึ่งแล้วเดินออกไป

เดี๋ยวสิ ไอ้บ้านั่น ฉันรีบสาวเท้าตามไปอย่างหงุดหงิด จะพูดหรือเรียกฉันสักคำดอกพิกุลมันจะร่วงหลุดจากปากหรือไงห๊ะ ทีตอนจูบกลับใช้ปากเก่งนักเชียว เหอะ!

“มาแล้วเหรอ” ฮานหันมามอง ท่าทางเขาจะมาถึงก่อนได้สักพักแล้ว ฮานส่งสายตามาทักทายฉันพอเป็นพิธีก่อนจะหันไปแนะนำคนอื่นๆ ที่อยู่บนโต๊ะให้เรซรู้จัก 

“นี่คุณวิชัยเจ้าของเต็นท์รถที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ ส่วนนี่ก็ช่างมาร์ติน เป็นช่างประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ เคยทำงานให้บริษัทผลิตรถสปอร์ตที่เมืองนอก”

เรซพยักหน้าทักทายคนทั้งสองพอหอมปากหอมคอก่อนจะเดินไปนั่ง ส่วนฉัน… ก็ต้องดูแลตัวเองตามระเบียบ ฉันมองหาที่นั่งเหมาะๆ แล้วหย่อนก้นลงใกล้ฮาน ใช่ฉันนั่งข้างฮาน ขณะที่เรซนั่งฝั่งตรงข้ามกันเลย 

“ไงเทียน เมาแล้วเหรอ”

เสียงของฮานทำให้ฉันเงยหน้าจากจอมือถือ 

“อ้อ เปล่าหรอก แค่ง่วงน่ะ เพิ่งกลับจากหัวหินแล้วก็ดิ่งมานี่เลยรู้สึกเพลียๆ” ฉันยิ้มให้ฮาน ความห่วงใยที่ผิวเผินไม่ช่วยทำให้จิตใจที่กำลังห่อเหี่ยวของฉันดีขึ้นแม้แต่น้อย ยิ่งเห็นเรซคุยกับแขกทั้งสองอย่างไม่สนโลกฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่มีความหมายที่จะอยู่ที่นี่ต่อ

“ฮาน รู้ใช่มั้ยว่าเราพักที่ไหน”

“หืม ทำไม”

“ไปส่งหน่อยนะ ไม่ดิ บอกชื่อโรงแรมมาก็ได้ เดี๋ยว… หาทางกลับเอง”

ฉันนึกโกรธตัวเองที่ไม่เด็ดขาดตั้งแต่แรก ถ้าตอนนั้นยอมเสี่ยงกลับสามล้อก็คงไม่ต้องมาทรมานอยู่แบบนี้

“ทนอีกนิดเดียว นี่ก็ตีสองกว่าแล้ว ไม่น่านานหรอก”

“แต่เทียนไม่ไหวแล้ว งั้นขอยืมไหล่หน่อยได้มั้ย” ฉันเอียงหน้าลงซบไหล่ฮานโดยไม่รอให้เขาอนุญาต ฮานเอียงคอมอง คงประหลาดใจในความใจกล้าหน้าด้านของฉัน แต่ฉันไม่สนว่าเขาจะคิดยังไง ฉันแค่อยากพักระหว่างรอให้พวกเขาคุยธุระเสร็จเท่านั้น

Продолжить чтение
Scan code to download App

Latest chapter

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   ตอนพิเศษ (2)

    “สวัสดีค่ะ หนูชื่อเทียน เป็นแฟนเรซ...”ย่ามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างประเมินครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าแล้วกวักมือเรียก“มานี่สิ เข้ามาใกล้ๆ ให้เห็นหน้าชัดๆ หน่อย”ฉันมองเรซอย่างไม่แน่ใจ แต่เขาก็พยักหน้าให้ ไม่เพียงแค่นั้นยังจูงมือฉันที่กำลังตื่นเต้นพาเดินเข้าไปหาย่าอีก“เรซ... นี่หลานสะใภ้ย่าเรอะ” ย่ามองเรซอย่างตั้งตัวไม่ทัน การแสดงออกของเรซทำให้ย่าเห็นว่าเขาห่วงใยฉันแค่ไหน“ครับย่า”“คนไทยใช่มั้ย”“ครับ”“อืม อย่างน้อยๆ ก็คงไม่คิดหนีย่าไปอยู่ต่างประเทศเหมือนพ่อใช่มั้ย”“วางใจเถอะครับ ผมไม่ไปไหน”“ดีแล้ว อืม หนูชื่อเทียนใช่หรือเปล่า” ย่าพยักหน้าให้เรซอย่างรู้สึกวางใจก่อนหันกลับมาพูดกับฉัน“ค่ะคุณย่า”“เรียกย่าเฉยๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตอง” ย่าเรซโบกมืออย่างไม่ถือ ก่อนหันไปทางแนท “แล้วนี่เมื่อไหร่แนทจะพาหลานเขยมาแนะนำให้พวกเรารู้จักบ้าง”“ย่า...” แนทลนลาน ท่าทางไม่รู้จะตอบย่ายังไงดี สุดท้ายก็ทำหน้าง้ำกลบเกลื่อนแล้วไม่พูดอะไรต่อ หลังจากนั้นไม่นานคนรับใช้ก็เข้ามาแจ้งว่าตั้งโต๊ะเสร็จแล้ว ปู่จึงสั่งให้เรียกลูกหลานที่ใกล้ชิดทุกคนมารวมกันที่โต๊ะอาหารเพื่อร่วมอวยพรวันเกิดครบรอบเจ็ดสิบปีของย่าบรรยากา

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   ตอนพิเศษ (1)

    บ้านพักของเรซที่เพชรบูรณ์ตั้งอยู่ในไร่มะขาม แยกตัวออกจากบ้านใหญ่ที่ปู่กับย่าเรซอยู่ ฉันรู้สึกโล่งใจที่รู้ว่าเราจะพักกันที่นี่วันนี้เป็นวันเกิดย่าเรซ เขาต้องกลับมาร่วมงานทุกปี แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่เขาพาคนอื่นมาด้วย ซึ่งก็คือฉัน ครั้งแรกที่รู้ว่าต้องมาเยี่ยมบ้านเรซฉันก็กดดันและกังวลจนเผลอแสดงสีหน้าออกมาให้เรซเห็น แต่เขาก็คอยปลอบใจฉันพร้อมกับบอกว่าปู่กับย่าใจดีไม่มีอะไรต้องห่วง พวกเราเพิ่งมาถึง ยังไม่มีโอกาสเจอใครนอกจากคนงานสองสามคนที่มารอรับหน้าบ้านเพื่อคอยอำนวยความสะดวก หลังเตรียมเสื้อผ้าที่จะใส่ไปกินข้าวเย็นบ้านปู่กับย่าเรซเสร็จ ฉันก็ลงมาข้างล่าง เรซกำลังคุยกับคนงาน เสร็จแล้วค่อยเดินมาหาฉันที่โซฟา“เก็บของเสร็จแล้วเหรอ”“อืม เหนื่อยหรือเปล่าขับรถ นอนก่อนมั้ย” ฉันจับแขนเขาอย่างเป็นห่วง“อยากนอนตรงนี้” เรซถือโอกาสเอนตัวลงนอนหนุนตักฉันทันที เขาดึงมือฉันไปทาบกับแก้มตัวเองอย่างอ้อนๆ ฉันเลยหยิกเขาไปทีหนึ่งอย่างมันเขี้ยว“นอนดีๆ สิ จะได้ไม่เมื่อย”“ไม่เมื่อย” เรซหลับตาอย่างไม่ใส่ใจเสียงเตือนของฉัน แกล้งหลับดื้อๆ ฉันอมยิ้มจางๆ เห็นท่าทางน่ารักของเรซแล้วไล่ให้ไปนอนบนเตียงไม่ลง “เรซ?” ฉันเร

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   บทส่งท้าย

    @Rewell Corp. ฉันผลักประตูเข้ามาในออฟฟิศ ที่นี่ไม่ใหญ่มาก เป็นห้องโล่งๆ มีโต๊ะทำงานแบ่งออกเป็นสามโซน แต่ละโซนโต๊ะทำงานหันหน้าเข้าหากันมีแค่ผนังกระจกยิงลายเกมกั้น ฝั่งขวามือเป็นห้องประชุม ลึกเข้าไปด้านในมีทางแยกฝั่งซ้ายที่เป็นผนังทึบ ตรงนั้นฉันคิดว่าน่าจะเป็นห้องทำงานของประธานบริษัทฉันเดินลากรองเท้าส้นสูงผ่านประตูมาได้แค่สองก้าวก็ถูกสายตาของคนข้างในจับจ้อง“ขอโทษค่ะ พอดีว่ามาสัมภาษณ์งานกับน้าริช รู้มั้ยคะว่าน้าริชอยู่ที่ไหน” ฉันถามพี่ผู้หญิงที่อยู่ใกล้สุด เธอมองชุดนักศึกษาที่ฉันสวมแวบหนึ่งก่อนชี้มือไปทางห้องกระจกฝั่งขวา“ทางนั้น ประชุมทีมอยู่”“อ๋อค่ะ ขอนั่งรอตรงนี้ได้หรือเปล่าคะ”“ตามสบาย”“ขอบคุณค่ะ” ฉันถือโอกาสนั่งแล้วมองสำรวจรอบๆ ไปด้วย แอบมองพี่คนข้างๆ ทำงานไปด้วย บางครั้งก็เผลอถามโน่นถามนี่ โชคดีที่พี่คนนี้เป็นคนใจเย็น หันมาพูดกับฉันอย่างไม่ถือสา จนตอนนี้เรารู้ชื่อกันแล้ว การสนทนาก็เริ่มเป็นกันเองมากขึ้น และมิตรภาพก็ค่อยๆ ลามไปถึงคนข้างๆ เกือบครึ่งชั่วโมงที่ฉันนั่งรอแทบจะรู้จักพี่ๆ กันทั้งโต๊ะ ประตูห้องกระจกใสเปิดออก พร้อมกับคนสี่ห้าคนเดินออกมาด้วยสีหน้

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   สัมผัสรัก 10 หอมกลิ่นความรัก (5)

    เรซสอดแทรกความต้องการเข้ามาตามคำเรียกร้องของฉัน ความอึดอัดรัดรึงเสือกไถเข้ามาจนสุดทาง ฉันหลุดเสียงครางหวิวไหว ร่างกายสั่นระทดระทวยเกาะพรมไปด้วยหยาดเหงื่อ ทั่วทั้งห้องตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายรักใคร่และเสียงอันหนักหน่วงจากการสอดประสานกันอย่างร้อนแรงของร่างสองร่างบนโซฟาเนิ่นนานกว่าไฟอารมณ์จะมอดดับ ฉันจะยืนยังไม่ไหว ต้องให้เรซอุ้มเข้าห้องน้ำ เรานอนกอดเกยกันอยู่ในอ่าง ร่างเปลือยเปล่าแนบชิดและเหมือนเรซจะรู้สึกขึ้นมาอีกครั้ง เขาสอดใส่เข้ามาใต้น้ำ ร่างกายฉันเกร็งเครียดไปหมด เรซขบเม้มติ่งหูพลางลูบไล้ทรวงอกเพื่อช่วยให้ฉันผ่อนคลาย รู้สึกสุขสมไปพร้อมๆ กับเขา น้ำในอ่างกระฉอกตามแรงกระทบกระแทกด้านล่าง เสียงก้องกังวานสะท้อนไปทั่วห้องน้ำ ฉันเสียวซ่านจนแทบทนไม่ไหว เรซโหมกระแทกรัวแรงขึ้นเรื่อยๆ ฉันรู้สึกเหมือนใจจะขาด กรีดร้องออกมาอย่างคลุ้มคลั่งตอนที่อารมณ์พุ่งถึงขีดสุดแห่งห้วงหฤหรรษ์เสียงหอบหายใจสองสายดังสะท้อนถี่รัวอยู่พักหนึ่งค่อยกลับเป็นปกติ ฉันเหนื่อยจนจะหลับได้อยู่แล้ว ฟาดแขนเรซไปหนึ่งทีอย่างฉุนๆ “เกินไปแล้วนะเรซ กะจะรีดให้หมดตัวเลยหรือไง”“ใครเริ่มก่อนล่ะ ตามจริงตั้งใจจะงดให้หนึ่งวัน”เรซใช้ปลา

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   สัมผัสรัก 10 หอมกลิ่นความรัก (4)

    “เรซไม่อยากให้เทียนไปทำหนิ แล้วทำไมยังอุตส่าห์หางานมาให้ล่ะ”“เพราะเทียนอยากทำ”“เรซ... ทำไม...” ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีกแล้ว ตอนเที่ยงเขาเล่นตัดบทฉันดื้อๆ แต่ว่าตอนนี้กลับช่วยฉันทั้งที่เขาก็ไม่ได้เห็นด้วยเท่าไหร่ ภายในอกฉันตื้นตันจนยากจะเอ่ยออกมาเป็นคำพูด สวมกอดคนข้างๆ เอาไว้แน่น ซุกหน้าคลอเคลียลำคอแกร่ง เรซลูบแขนฉันตอบเบาๆทำไมกัน ทั้งที่เราไม่ได้จะจากกันไปไหนเลย แต่ความรู้สึกกลับเปลี่ยวเหงาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ไม่อยากแยกจากแม้แต่วินาทีเดียว แค่ฉันจะไปทำงานเฉยๆ แต่เรซก็ทำเหมือนจะเหี่ยวเฉาอยู่รอมร่อ“ขอบคุณนะ”ฉันจูบลูกกระเดือกเรซเบาๆ ผิวขาวของเรซแดงซ่านขึ้นมาทันที ลูกกระเดือกเป็นจุดที่อ่อนไหวของผู้ชาย เพราะงั้นตอนนี้เขาถึงก้มลงมองฉันด้วยสายตาลึกล้ำเป็นพิเศษ “จะไปหรือเปล่า?” เรซกลืนน้ำลายลงคอ ลูกกระเดือกขยับขึ้นลงท่าทางข่มกลั้นอารมณ์ของเรซเห็นแล้วชวนใจละลายไม่น้อย“ไปสิ”ฉันตอบอย่างไม่ลังเล เรซแววตาสลดลงวูบหนึ่ง “เห็นให้อมยิ้ม นึกว่าจะยอมแพ้ไปแล้ว”“ก็ตัดใจไปแล้วครึ่งหนึ่ง เทียนไม่อยากทำให้เรซเป็นห่วง นึกถึงเวลาเรซไปรอรับหน้าที่ทำงานแล้วรู้สึกผิด เลยคิดว่าจะลองหาวิธีอื่น…” ฉันยื่นมื

  • สัมผัสร้าย สัมผัสรัก   สัมผัสรัก 10 หอมกลิ่นความรัก (3)

    บทจะดื้อเรซก็เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ตลอด ไม่ยอมเปิดใจอะไรง่ายๆ หลังกินข้าวเสร็จ ฉันเก็บจานไปล้างแล้วเปลี่ยนชุดไปเรียน เรซขับรถมาส่ง ระหว่างทางเราพูดคุยกันน้อยมากแทบนับคำได้ เหมือนย้อนกลับไปช่วงที่ยังไม่ได้คบกัน “อ้าวเทียน มาเมื่อไหร่เนี่ย กินข้าวยัง” คะนิ้งกับทีมเพื่อนๆ เดินออกจากศูนย์อาหารมาเจอฉันที่ถนนหน้าตึกเรียนพอดี ฉันยิ้มทักทายทุกคนตามปกติ “อื้ม เรียบร้อยแล้ว” “เรซมาส่งเหรอ” “อืม” ฉันพยักหน้าให้คะนิ้ง เดินตามคนอื่นๆ เข้ามาในตึก “เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าเครียดๆ” คะนิ้งท้วง เธอมองหน้าฉันด้วยแววตาผิดสังเกต ฉันถอนหายใจอย่างลังเล แต่สุดท้ายก็ระบายความอัดอั้นข้างในออกมา คะนิ้งฟังฉันเล่าแล้วครุ่นคิดด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะเรื่องที่ฉันพูดค่อนข้างยาวและเป็นส่วนตัว เพื่อนที่มาด้วยจึงล่วงหน้ากันไปก่อนไม่เว้นแม้แต่เค้ก ตอนนี้จึงเหลือแค่ฉันกับคะนิ้งอยู่ใต้ตึกกันสองคน “นิ้งไม่เข้าใจว่าเทียนกลัวอะไร อย่าคิดมากสิ เรซไม่ใช่คนโง่ที่ยอมให้ใครมาเกาะ เว้นแต่ว่าเขายินดีให้เกาะ” คะนิ้งพูดแบบนี้ ฉันควรรู้สึกดีหรือไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status