เทวทิณณ์ฉุกคิดได้ตั้งแต่มัชชุพรเอ่ยเตือนสติเขาในเย็นวันนั้น
“กี่วันกี่คืนที่มัชต้องเข้านอนคนเดียว ทำกับข้าวรอเก้อกี่ครั้ง เจ็บป่วยก็ต้องดูแลตัวเอง แล้วมัชยังดีไม่พออีกเหรอคะ มัชก็เหงาเป็น ตั้งแต่แต่งงานมา มัชอยู่แต่บ้านตลอด มีแค่เมื่อวานคืนเดียวที่อยากจะออกไปหาความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง รู้ตัวบ้างไหมคะ…ว่าพี่ทิณก็เป็นสามีที่แย่เหมือนกัน มัชไม่ได้ต้องการเงินทองหรือกระเป๋าแบรนด์เนมต่าง ๆ ที่พี่ทิณซื้อมาเอาใจหรือต้องการขอโทษ มัชอยากได้เวลาที่เราได้อยู่ด้วยกันบ้าง ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ นอนคุยแลกเปลี่ยนสารพันปัญหาที่พบเจอมาในแต่ละวัน…ก็เท่านี้ มัชเป็นภรรยาที่ขอสามีมากเกินไปหรือคะ หรือว่าพี่ทิณเห็นว่ามัชไม่พูดอะไร มัชดูแลตัวเองได้เลยไม่ต้องใส่ใจ จะละเลยยังไงก็ได้”
เขาเป็นสามีที่แย่จริง ๆ แถมยังไม่เห็นความผิดของตัวเอง การเอ่ยขอโทษก่อนไม่ใช่เรื่องน่าอาย เขาและภรรยากว่าจะได้แต่งงานใช้ชีวิตร่วมกับนั้นระหว่างทางไม่ได้สวยหวานหรือโรยด้วยกลีบกุหลาบ และเขาจะไม่มีวันยอมเสียมัชชุพรไปเป็นอันขาด
หลังจากตรวจงานและเซ็นเอกสารที่คั่งค้างอยู่บนโต๊ะจนหมดแล้วจึงเก็บของกลับบ้านตั้งแต่หัววัน อยากจะใช้ชีวิตร่วมกับภรรยาและโทรศัพท์หาพ่อแม่ที่บ้านบ้าง เทวทิณณ์ก้มลงมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองเลื่อนหาชื่อรายชื่อที่ต้องการ นานมากแล้วจริง ๆ ที่เขาไม่ได้โทรหามัชเลย สองปีที่ผ่านมาไม่เคยคาดคิดว่าจะละเลยภรรยามากขนาดนี้ เขารู้สึกถึงคนที่รอก็ตอนที่กดโทรหาแล้วหวังว่าปลายสายจะกดรับสักที
แต่ละสายที่ไม่มีสัญญาณตอบรับทำเอาชายหนุ่มร้อนรนแทบบ้า
ทำอะไรของเขาอยู่นะ บ่นพึมพำกับตัวเองเสร็จ เทวทิณณ์เก็บของบนโต๊ะและตัดสินใจกลับบ้านตั้งแต่หัววัน
มัชชุพรนอนในห้องเล็ก มื้ออาหารเย็นเมื่อหญิงสาวตั้งใจจะให้มันเป็นมื้อที่เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา ที่ไหนได้กลับโดนสามีบริภาษเสียอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่พี่ทิณไม่ได้ใช้ถ้อยคำรุนแรงแต่เดิมมัชชุพรเองก็เก็บความน้อยใจเอาไว้กับตัวเองมานาน พอได้ยินอย่างนั้นจะไม่ให้โมโหได้อย่างไร
อีกทั้งงานใกล้จะถึงเดดไลน์เข้าไปทุกที ภาพคอมมิชชั่นที่ลูกค้าได้สั่งไว้ตั้งแต่สองสัปดาห์ก่อน แม้จะเศร้าโศกแค่ไหน แต่ว่าเรื่องงานต้องมาก่อน เธอนั่งทำงานหลังขดหลังแข็งจนเช้า และเข้านอนเกือบฟ้าสาง ก่อนหน้าเทวทิณณ์กว่าจะกลับกว่าจะนอนก็ดึกดื่น ไหนจะออกไปทำงานตั้งแต่ฟ้าสางจึงไม่เคยร้องขอให้ภรรยาเตรียมชากาแฟให้ หนึ่งเพราะเขาไม่มีเวลา สองเพราะเกรงใจมัช เพราะเวลาทำงานของภรรยาส่วนใหญ่จะเป็นตอนกลางคืน มัชชุพรชอบบรรยากาศเงียบสงบ ผู้คนต่างก็เข้านอนพักผ่อนเพื่อตื่นมาสู้กับเช้าวันใหม่ บรรยากาศรถติด ผู้คนเดินขวักไขว่ตามท้องถนนคล้ายอันตรธานหายไปในเวลากลางดึกแบบนี้ มีเพียงแสงไฟที่คอยให้แสงสว่างเมื่อความมืดมิดเข้ามากลืนกินแสงสว่าง
มัชชุพรที่กำลังตกสู่ในห้วงนิทรานิ่วหน้าทันทีที่ได้ยินเสียงกรีดร้องของโทรศัพท์ตั้งแต่สายของวันอย่างนี้ เธองัวเงียควานหาโทรศัพท์ที่ข้างเตียงโดยที่ตายังไม่ลืม ก่อนจะกดรับด้วยความงัวเงียไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าปลายทางคือใคร
“ฮัลโหล”
“คุณมัชคะ คุณมัช” ปลายสายส่งเสียงเรียกหญิงสาวด้วยความตื่นตระหนก
อาการงัวเงียหายเป็นปลิดทิ้ง ร่างกายชาวาบไปทั้งตัวเมื่อได้ยิน
“คุณหญิงลื่นล้มคะ ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลXX”
“ว่าไงนะ”
มัชชุพรพลิกตัวลงจากเตียงอย่างรวดเร็วพลางมองหน้าจอโทรศัพท์ที่เมมชื่อปลายทางเอาไว้
‘บ้านสุขสกุล’ เป็นเบอร์บ้านแม่ของเทวทิณณ์ แม้ว่าคุณสาวิตรีจะเป็นเพียงแม่ยายแต่ว่ามัชชุพรก็รักและเคารพอีกฝ่ายไม่ต่างจากแม่บังเกิดเกล้าของตัวเอง ตอนนี้มัชชุพรเหลือเพียงญาติผู้ใหญ่ทางสามีที่เธอต้องดูแล พ่อแม่ของมัชชุพรเสียตั้งแต่หญิงสาวเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสอง ช่วงนั้นชีวิตเหมือนเคว้งไปช่วงหนึ่งที่รู้ว่าตัวเองต้องยืนหยัดอยู่บนโลกนี้เพียงลำพัง แต่จะมีญาติพี่น้องทางฝั่งพ่อและแม่เหลืออยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันมากนัก แทบจะไม่เดินทางไปมาหาสู่กันด้วยซ้ำ ธิชาเป็นเพียงกำลังใจเดียวที่ทำให้มัชชุพรเดินหน้าต่อไปได้
ด้วยเหตุนี้จึงให้ทั้งสองคนไม่เพียงแต่เป็นเพื่อนรักที่สนิทสนมกันเพียงเท่านั้น สำหรับมัชชุพร ธิชายังเป็นหนึ่งในครอบครัวที่เหลืออยู่ของเธอด้วย
วันนี้ธิชาและเพื่อนรักอย่างมัชชุพร ทั้งสองครอบครัวนัดกันมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่ทะเลแห่งหนึ่งในภาคใต้มิตรภาพที่ยาวนานร่วมสิบปีของสองสาว ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นภาพนี้ด้วยกัน รวมไปถึงสองหนุ่มเพื่อนสนิทอย่างเทวทิณณ์และพิภพ ที่ต่างก็มองภรรยาและลูกน้อยก่อปราสาททรายกันอย่างสนุกสนาน“ถ้ารู้ว่ามีครอบครัวแล้วมีความสุขอย่างนี้ กูมีไปนานแล้ว ไม่น่าไปฟังไอ้พวกนั้นที่เอาแต่บ่นกระปอดกระแปด” เทวทิณณ์ยกเบียร์กระป๋องในมือขึ้นมาจิบก่อนจะยักไหล่ “ก็ไอ้พวกนั้นไม่ได้มีเมียเหมือนมัช และไม่ได้ใจกว้างเหมือนธิชา” เทวทิณณ์ได้ทีเอ่ยชมภรรยาไม่ขาดปาก“ก็จริง ชาเค้าไม่เคยทำตัวแบบว่าเมียใหญ่สุด หรือกูต้องทำตัวเป็นพ่อบ้านใจกล้า ไอ้พวกนั้นทำยังกะว่าเรื่องแต่งเมียเหมือนขายของหรือไง”“ก็โดนคลุมถุงชน เป็นกูก็ไม่อยากกลับบ้านเปล่าวะ”“ดีที่ชาเค้ายังกลับมาหากู ไม่งั้นกูคงไม่ได้เห็นภาพนี้ หรือไม่ก็ไม่มีภาพนี้ในหัวเลย” เทวทิณณ์ตบบ่าเพื่อนรักเพื่อให้กำลังใจ“รักษาเค้าให้ดี ๆ ไม่ใช่ละเลยทำตัวเสเพลเหมือนเดิมอีกนะมึง ลูกเต้าก็มีแล้วทำตัวให้สมกับที่เป็นพ่อคน”“ครับ” พิภพหันมาพนมมือไหว้เพื่อนรัก ที่สั่งสอนยังกะพ่อ ตั้งแต่แต่งงาน
คู่แต่งงานใหม่ก็พากันมาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ไกลถึงต่างประเทศ ธิชาและพิภพต่างก็กกกอดกันอย่างแนบแน่นทุกเช้าค่ำระหว่างท่องเที่ยวฮันนีมูนในโรงแรมแห่งหนึ่ง “อื้อ สะ สามี เบาหน่อย”ตั้งแต่งานแต่งงาน พวกเขาทั้งสองต่างก็เหนื่อยลากเลือดกันทั้งคู่ ไม่มีเวลามาจู๋จี๋ตามประสาข้าวใหม่ปลามันกันสักเท่าไหร่ สรรพนามที่เอ่ยเรียกกันก็เปลี่ยนไป“ชาจ๋า ชาของพี่หวานที่สุด”“อื้อ”สองเต้าที่ถูกมือใหญ่บีบเคล้น อีกทั้งยังถูกดูดอย่างกระหายอย่างนี้ทำเอาธิชาถึงกับกลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่ได้ เห็นแต่ผมดกดำที่ขยับอยู่ตรงหน้าอกของเธออยู่นานสองนาน เขาทั้งขบกัด หยอกล้อกับเม็ดบัวทั้งสองข้างอย่างมันเขี้ยว ร่างบางสั่นระริกด้วยความเสียว อีกทั้งช่องทางสวาทยังหลั่งน้ำเมือกสีใสออกมาจนต้นขาด้านในเฉอะแฉะไปหมด สองขาถูไถกับเตียงกว้างจนผ้าปูที่นอนยับย่น ข้อมือได้แต่กำมุมหมอนเพื่อระบายความเสียวที่ตีตื้นขึ้นมาทำเอาเธอเกือบจะเสร็จสมไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง“อ๊ะ”พิภพจูบลูบไล้ร่างกายที่สะโอดสะอง เอวคอดสะโพกผาย ธิชามีรูปร่างเหมือนนาฬิกาทราย ผู้ชายอย่างพิภพไม่รู้ว่าร่างกายที่ผอมเพรียวของเธอแบกเต้าทรงโต และเข่าที่แบกสสะโพกผายได้ยังไง ไม่ว
“ไม่ต้องร้องแล้วนะคะคนดี” พิภพเอ่ยปลอบพลางก้มลงจูบหน้าผากเนียนด้วยความรักใคร่ กระชับอ้อมกอดให้แน่นมากยิ่งขึ้น พอเห็นเพื่อนรักแต่งงานมีครอบครัวที่สมบูรณ์พูนสุข มันก็กระตุ้นความปรารถนาของพิภพให้แจ่มชัดมากยิ่งขึ้น เขาประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงานแล้ว แต่ชีวิตคู่กลับตรงกันข้าม เขาจินตนาการการมีครอบครัว แต่งงานมีลูกกับใครสักคนไม่ออก หากตอนแรกเขาไม่เลิกกับธิชาก็คงยังมองภาพนั้นไม่ออก แต่พอได้เลิกรากับอีกฝ่ายไป ภาพที่เคยเลือนรางและคิดว่าไม่มีอยู่จริงกลับมองเห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น เขาวาดภาพบ้านและครอบครัวของตัวเองออกมาหลายภาพ และมองเห็นอนาคตที่จะใช้ชีวิตร่วมกับใครอีกคนไปจนแก่เฒ่า และคนคนนั้นก็คือธิชา…หญิงสาวตรงหน้าหากไม่เคยสูญเสียก็ไม่รู้คุณค่าของมันวันนี้เขารู้ซึ้งแล้ว และจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายหลุดมือเป็นครั้งที่สองงานแต่งงานของธิชาและพิภพจัดขึ้นที่ริมทะเลจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ บรรยากาศเรียบง่ายแต่อบอุ่น มีญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงคนสนิทเพียงเท่านั้น มัชชุพรและเทวทิณณ์พร้อมยัยหนูมัชฌิมาในวัยแปดเดือน สวมชุดกระโปรงน่ารักพร้อมผ้าคาดหัว บนแท่นเวทีบ่าวสาวกำลังเอ่ยคำสาบาน‘ข้าพเจ้านายพิภพ รับ นางสาวธิ
ไม่รู้ว่าสถานะนี้คืออะไร แต่ต่างฝ่ายต่างสบายใจที่จะไปมาหาสู่กันอย่างนี้ บางทีเวลาก็ช่วยเยียวยาและตกตะกอนความคิดต่าง ๆ ให้ผู้คนต่างก็เติบโตและไม่จมกับความผิดพลาดในอดีต อีกทั้งตอนนี้พวกเขาต่างก็เดินหน้าด้วยความระมัดระวัง เพราะรู้แล้วว่ากว่าจะเจอรักดี ๆ คนรักดี ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องแตกสลายและเสียน้ำตามากมายไปไม่รู้เท่าไหร่กว่าจะกลับมาเจอกันอีกครั้ง พูดคุยและหัวเราะด้วยกันอีกครั้งแบบนี้ โดยเฉพาะอดีตคาสโนว่าอย่างพิภพ ที่เหมือนจะถูกถอดเขี้ยวเล็บไปจนหมด ตอนนี้กลายเป็นคนที่เจอตัวยากพอ ๆ กับเทวทิณณ์ อย่างเทวทิณณ์ที่กำลังจะเป็นพ่อคนอยู่ติดบ้านก็ไม่แปลก แต่คนที่มักจะออกท่องราตรีเป็นประจำอย่างพิภพกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ อยู่ติดบ้าน ออกสังสรรค์บ้างแต่ก็นับครั้งได้ ธิชาเองก็ไม่เคยกะเกณฑ์หรือพูดขอร้องอะไร เธอไม่เคยพูดให้เขาเปลี่ยน เพราะหากเขาไม่เปลี่ยน ใครก็คิดที่จะเปลี่ยนเขาไม่ได้ อีกทั้งธิชาก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามครรลอง ถ้าถามถึงความรู้สึก…เธอก็ยังรักตัวเองมากกว่าจะรักใครคนอื่นหลังจากดูหนังจนจบ พิภพก็พาหญิงสาวมาทานอาหารดาดฟ้าโรงแรมดัง “นี่หรือเปล่าคะที่ย้ำนัก
ตั้งแต่วันนั้นธิชากับพิภพก็ไม่ได้เจอกันอีกจนงาน Baby Shower ของยัยมัชที่จัดงานที่บ้านสวนที่อยุธยาบ้านของพี่ทิณ เรียกได้ว่าเป็นงานรวมกัลยาณมิตรเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ เพื่อนฝูง ต่างก็มากันเกือบครบหมด ว่าที่คุณแม่ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ไม่ใช่แค่แขกในงานที่ลุ้นเพศ สามีอย่างเทวทิณณ์เองก็ลุ้นจนตัวโก่งเหมือนกัน มีแต่มัชชุพรที่รู้ ลูกโป่งสีสวยบรรจุแผ่นกระดาษไว้ภายใน สีฟ้าลูกชาย สีชมพูลูกสาว เพื่อน ๆ ต่างก็พนันกันอย่างสนุกสนาน ธิชาเองก็เหมือนกัน ลูบท้องยัยมัชออกจะบ่อย ท้องแหลมแบบนี้โบราณเขาว่าจะได้ลูกสาว งานปาร์ตี้เล็ก ๆ แต่ทว่ากลับอบอุ่น ตอนนี้เองพิภพก็เดินมาหาเธอ พวกเขาต่างก็ไม่มีใครเคอะเขิน พูดคุยทักทายกันอย่างออกรสตามประสาคนรู้จัก“ชาว่าไอ้ทิณจะได้ลูกชายหรือลูกสาว”“ต้องลูกสาวอยู่แล้วค่ะ”“ถ้าลูกชายล่ะ?”“งั้นมาพนันกันไหมละคะ” ก่อนจะหัวเราะออกมาทั้งคู่มัชชุพรถือลูกโป่งยักษ์สีขาวไว้ในมือ เพื่อน ๆ ต่างส่งเสียงเชียร์ฝั่งเพื่อนชายก็ส่งเสียง BOY/ ส่วนฝั่งผู้หญิงก็ GIRL ต่างไม่มีใครยอมใคร อีกทั้งข้าวของเครื่องใช้เด็ก ๆ ที่เพื่อน ๆ ต่างขนมาให้กองพะเนินจนคุณย่าอย่างสาวิตรีอดที่จะหัวเราะกับคนห
หลังจากเกิดเรื่องทางบริษัทเองก็ไม่ได้ใจดำกับลูกน้อง ทางหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานต่างก็เอ่ยปากให้ธิชาลาพักได้อีกสักสองสามวัน เพราะเป็นห่วงเรื่องสภาพจิตใจ และคดีความ แต่ธิชาปฏิเสธอีกทั้งงานตรงหน้าทำให้สมองของเธอหยุดคิดเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาได้ขณะหนึ่ง เพื่อนร่วมงานก็ต่างชวนคุย ดีกว่านั่งอุดอู้อยู่ที่โรงแรมเป็นไหน ๆ ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ทางพิภพเองก็บอกว่ารอให้หาคอนโดได้ใหม่จะส่งมาให้ เธอเองก็เห็นว่าไม่เสียหายอะไร จึงเอาตามนั้น แต่ระหว่างนี้ก็ไม่มีอะไรเกินเลยกันอีก แม้จะพักอยู่ห้องเดียวกันก็ตามธิชาเองก็รู้สึกปลอดภัยที่อีกฝ่ายมาอยู่เป็นเพื่อน หากสภาพจิตใจดีมากกว่านี้อีกสักหน่อยคงต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิม…แต่เธอเองก็ไม่ได้เห็นแก่ตัว พยายามหาห้องใหม่ให้เร็วที่สุด ทางอิทธิเองก็เอ่ยปากช่วยหาห้องใหม่ให้ รวมไปถึงเพื่อนร่วมงานหญิงโสดหลายคนก็แนะนำให้อยู่บ้าง แต่เธอต้องขบคิดสักเล็กน้อย ห้องที่ดี ความปลอดภัยสูงราคาก็แพงตาม ลำพังพนักงานออฟฟิศเงินเดือนไม่มากเท่าไหร่ จะให้หารูมเมทก็ไม่ชอบ เฮ้อ!ธิชากลับโรงแรมที่พักด้วยสภาพอิดโรย หลังเลิกงานต้องตระเวนหาที่อยู่ใหม่อีก “ชา กลับมาแล้วเหรอ ทานอะไรหรือย