วันนี้ธิชาและเพื่อนรักอย่างมัชชุพร ทั้งสองครอบครัวนัดกันมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่ทะเลแห่งหนึ่งในภาคใต้
มิตรภาพที่ยาวนานร่วมสิบปีของสองสาว ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นภาพนี้ด้วยกัน รวมไปถึงสองหนุ่มเพื่อนสนิทอย่างเทวทิณณ์และพิภพ ที่ต่างก็มองภรรยาและลูกน้อยก่อปราสาททรายกันอย่างสนุกสนาน
“ถ้ารู้ว่ามีครอบครัวแล้วมีความสุขอย่างนี้ กูมีไปนานแล้ว ไม่น่าไปฟังไอ้พวกนั้นที่เอาแต่บ่นกระปอดกระแปด” เทวทิณณ์ยกเบียร์กระป๋องในมือขึ้นมาจิบก่อนจะยักไหล่ “ก็ไอ้พวกนั้นไม่ได้มีเมียเหมือนมัช และไม่ได้ใจกว้างเหมือนธิชา” เทวทิณณ์ได้ทีเอ่ยชมภรรยาไม่ขาดปาก
“ก็จริง ชาเค้าไม่เคยทำตัวแบบว่าเมียใหญ่สุด หรือกูต้องทำตัวเป็นพ่อบ้านใจกล้า ไอ้พวกนั้นทำยังกะว่าเรื่องแต่งเมียเหมือนขายของหรือไง”
“ก็โดนคลุมถุงชน เป็นกูก็ไม่อยากกลับบ้านเปล่าวะ”
“ดีที่ชาเค้ายังกลับมาหากู ไม่งั้นกูคงไม่ได้เห็นภาพนี้ หรือไม่ก็ไม่มีภาพนี้ในหัวเลย” เทวทิณณ์ตบบ่าเพื่อนรักเพื่อให้กำลังใจ
“รักษาเค้าให้ดี ๆ ไม่ใช่ละเลยทำตัวเสเพลเหมือนเดิมอีกนะมึง ลูกเต้าก็มีแล้วทำตัวให้สมกับที่เป็นพ่อคน”
“ครับ” พิภพหันมาพนมมือไหว้เพื่อนรัก ที่สั่งสอนยังกะพ่อ ตั้งแต่แต่งงานมีลูก มีครอบครัวทั้งเทวทิณณ์และพิภพต่างก็เปลี่ยนแปลงตัวเองขนานใหญ่ อาทิเรื่องกลับบ้านตรงเวลาจนพนักงานอดยิ้มให้กับเจ้านายของพวกหล่อนไม่ได้ แถมยังไม่ให้พนักงานทำงานล่วงเวลาอีก บอกว่าควรได้ใช้เวลากับคนที่รักให้มากหน่อย เรื่องงานถ้าไม่เร่งด่วนอะไรก็เอาไว้วันพรุ่งนี้ก็ได้ ด้วยเหตุนี้พนักงานบริษัทจึงทำงานกันอย่างถวายหัวโดยที่ไม่ต้องรอให้เจ้านายจ้ำจี้จ้ำไช
สองสาวที่สวมชุดบีกินีก่อปราสาททรายกับเจ้าตัวน้อยทั้งสามคน ซึ่งลูกสาวของเทวทิณณ์อายุสี่ขวบ มิวมิวเป็นหัวหน้าแก๊ง แฝดชายที่มีอายุสองขวบ พายุและวายุ ต่างก็เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก
“ไม่เอาเข้าปากนะครับ” ธิชาเอ่ยปรามแฝดพี่ที่เห็นอะไรเป็นอันต้องเอาเข้าปาก ตามประสาเด็กที่อยากรู้ อยากเอาเข้าปากไปเสียหมด เด็กแฝดสวมเพียงกางเกงว่ายน้ำ โชว์พุงป่องยิ้มหยีจนเห็นฟันล่างสองซี่
“ไม่เอาเข้าปากนะครับ” ธิชาพูดพลางหัวเราะเมื่อวายุกำลังจะหยิบเปลือกหอยเข้าปาก พลางเอื้อมมือไปแบต่อหน้าเด็กน้อยขอเปลือกหอย
วายุมองฝ่ามือนั้นสักครู่ ก่อนจะยอมคลายฝ่ามือที่กำเปลือยหอยเอาไว้ลงบนฝ่ามือมารดาอย่างแสนเสียดาย
“ฮ่า ๆ” มัชชุพรอดขำกับท่าทีของวายุไม่ได้ “วายุครับ ทานไม่ได้นะครับ”
“ทานไม่ได้นะ” มิวมิวได้ทีก็เอ่ยขึ้นมาบ้าง รวมไปถึงช่วยดูแลน้อง ๆ ไม่ให้หยิบของแปลกปลอมเข้าปาก
สองสาวมองหน้าหัวเราะกันอย่างครื้นเครง จนสองหนุ่มอดที่จะเดินเข้ามาแจมไม่ได้
“หัวเราะอะไรกันเอ่ย” เทวทิณณ์เดินมาอุ้มมิวมิวพลางหอมแก้มจนแก้มเด็กน้อยบู้บี้ไปหมด
พิภพเองก็เช่นกัน เขาเดินมานั่งข้างเด็กแฝดทั้งสอง แถมยังเกาพุงขาว ๆ ของเด็กน้อยอย่างมันเขี้ยว
“ทำอะไรอยู่ครับ วายุ พายุ” เด็กน้อยมองบิดาตาแป๋วก่อนจะตอบ “หอย” ชูเปลือกหอยในมือก่อนจะยื่นไปยังฝ่ามือที่แบรอรับอยู่อย่างว่าง่าย
“สวยจังเลย พายุเก็บเองเหรอครับ แล้ววายุละลูกทำอะไรเอ่ย”
วายุก้มหน้าก้มตาใช้ช้อนปลูกของเล่นขุดดินอย่างสนุกสนาน อีกทั้งพวกเขายังในอยู่ใต้ร่มไม้ ลมทะเลพัดผ่านเอากลิ่นอายของทะเลลอยตลบอบอวลไปทั่วชายหาด
“รอแดดร่มลมตกอีกสักนิดค่อยลงน้ำดีไหมเอ่ย” พิภพก้มหน้าก้มตาพูดกับลูกน้อยเป็นตุเป็นตะ อีกทั้งสองสามีภรรยาคุยกันว่าเขาจะไม่ใช้ภาษาเด็ก เพราะไม่อยากให้เด็ก ๆ จดจำ แต่จะพูดเหมือนกับผู้ใหญ่ เด็ก ๆ จึงสื่อสารได้ดี แม้จะพูดเป็นประโยคไม่ได้ก็ตาม
แถมที่คอเจ้าสองแฝดต่างก็สวมผ้าซับน้ำลายที่ปักชื่อเอาไว้อีกด้วย พิภพซับน้ำลายที่มุมปากของเด็กทั้งสองอย่างอ่อนโยน จะว่าไปสามีของเธอเลี้ยงลูกเก่งกว่าเธอเสียอีกมั้ง ธิชาตั้งแต่คลอดลูกออกมาก็มีสามีอย่างพิภพคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด เด็ก ๆ เติบโตมาพร้อมกับสุขภาพจิตที่ดี ธิชาอมยิ้มกับภาพสามพ่อลูกที่เล่นก่อปราสาทด้วยกันไม่ได้ ส่วนทางด้านเพื่อนรักอย่างมัชชุพรก็มีครอบครัวที่สมบูรณ์ไม่ต่างกัน แถมในพุงยังมีเบบี๋อีกคนอีกด้วย
ธิชาอดที่จะยื่นมือไปลูบพุงขาว ๆ ที่ยื่นออกมาไม่ได้ เรียกได้ว่าพุงนำนม
“กี่เดือนแล้วเนี่ย”
“ห้าแล้วล่ะ”
“พี่ทิณก็ขยันทำการบ้านจริง ๆ”
“แกก็” มัชชุพรเขินจนหน้าแดงเมื่อเพื่อนรักเอ่ยแซวต่อหน้า เทวทิณณ์ที่อุ้มมิวมิวไปล้างมือเดินกลับมาจึงไม่ได้ยินประโยคเอ่ยแซวเมื่อครู่ “แกเองก็ใช่ย่อย เสกเด็กเข้าท้องทีเดียวตั้งสองคน ฉันล่ะนับถือแกจริง ๆ” สองสาวกระซิบกระซาบกัน หัวเราะกันอย่างออกรส
“ไม่น่าเชื่อเลยเนาะ ว่าฉันจะได้เห็นแกในมุมนี้”
“ยังไง” ธิชาถาม
“ก็มุมที่แกแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา แถมยังเป็นแม่ของเด็กทั้งสองอีก ตอนแรกฉันยังไม่เชื่อเลยตอนแกบอกจะแต่งงาน” ธิชาถอนหายใจ
“อย่าว่าแต่แกเลย แม้แต่ฉันเองก็ไม่ได้คิดเหมือนกันว่าจะมีวันนี้ วันที่พวกเราสองครอบครัวจะมีภาพบรรยากาศแบบนี้ ตอนแรกฉันปลงเรื่องความรัก เรื่องของพี่ภพ และคิดว่าจะตัดใจ แต่เพราะเกิดเรื่องที่คอนโดครานั้น มันเหมือนว่าเราเปิดใจคุยกันมากขึ้น เป็นอีกเวอร์ชันหนึ่งในฐานะที่โตกว่าเดิม ผ่านการขัดเกลา ตกตะกอนความคิดด้วยกาลเวลา” ธิชาเว้นจังหวะก่อนจะเอ่ย
“พอกลับมาคุยกันอีกครั้ง มันก็เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็น” มัชชุพรพยักหน้า
“แล้วแกไม่กลัวว่าเขาจะกลับไปทำตัวแบบเดิมเหรอ อดีตคาสโนว่าเลยนะนั่น” ธิชาก้มหน้าก่อนจะเอ่ย
“ไม่อะ ไม่มีใครเปลี่ยนเขาได้ นอกจากตัวเขาเอง หากเขาอยากจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมก็แค่ต้องยอมรับ…ไม่มีใครรู้อนาคต ฉันไม่อยากมานั่งคิดให้ปวดหัว อีกอย่างฉันคิดว่าฉันเข้มแข็งพอที่จะเลี้ยงลูกได้เอง” มัชชุพรเห็นความหนักแน่นและความเด็ดเดี่ยวในแววตาเพื่อนรักก็รู้สึกเบาใจ
“ไม่ใช่แค่แกนะเว้ย ฉันก็เคยคิด อนาคตไม่แน่ไม่นอน ฉันก็ยอมรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเหมือนกัน” สองสาวมองตากันก่อนจะกอดกันกลม สองหนุ่มมองภรรยาตัวเองก่อนจะหยักไหล่ให้กัน
“ฉันอยู่ข้างแกเสมอ วันหน้ามีปัญหาอะไรอย่าเก็บไว้คนเดียว ผัวเลิกไปก็เป็นคนอื่น แต่มิตรภาพระหว่างฉันกับแกจะยังคงเหมือนเดิม แกก็ยังคงจะเป็นเพื่อนรักของฉันเสมอ” มัชชุพรเอ่ย
“จ้า คุณแม่ลูกสอง”
“มึงว่าเมียพวกเราคุยอะไรกันวะ” เทวทิณณ์ถามเพื่อนรักที่ก้มหน้าก้มตาเล่นกับลูกน้อยอย่างเพลิดเพลิน
“ใครจะไปรู้วะ”
“แต่กูว่าเสียวสันหลังยังไงไม่รู้” สายตาที่มัชมองกูเมื่อกี้ ทำเอากูขนลุกซู่
“แล้วมึงไปทำอะไรมาล่ะ”
“เปล่า” เทวทิณณ์ตอบเสียงแข็ง
“แล้วมึงจะกลัวอะไร”
“ก็คงจะแบบวันไหนที่มึงทำมัชเสียใจ เมียกูคงตามไปเฉ่งให้อกแตกตายกันไปข้าง”
“มึงก็เหมือนกัน วันไหนมึงทำธิชาเสียใจ กูว่าเมียกูลับมีดไว้รอแน่” พิภพหัวเราะในลำคอก่อนจะเอ่ย
“ถ้าวันนั้นมาถึงจริง กูจะให้มัชเฉือนให้เป็ดกินเลยเอ้า”
เด็ก ๆ พอได้ยินป๊ะป๊าพูดเป็ด ก็ร้องก๊าบ ก๊าบ ตามบทเพลงที่ได้ยินเป็นประจำทุกวัน เรียกเสียงหัวเราะให้คนทั้งกลุ่ม
เมื่อส่งเด็ก ๆ เข้านอนก็เป็นเวลาพักของสองสามีภรรยา
พิภพเอ่ยกระซิบข้างหูภรรยา “พี่รักชา”
“ชาก็รักพี่ภพค่ะ”
“ขอบคุณที่เป็นภรรยาที่แสนดี เป็นแม่ที่น่ารักของเด็ก ๆ พี่…ยังรู้สึกแย่ไม่หายที่ทำชาเสียใจตั้งหลายครั้ง”
ธิชาซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของสามีก่อนจะเอ่ย “เรื่องอดีตก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะนะ อีกอย่างเราก็ย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีก ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอ”
“อื้ม” พิภพจุมพิตที่กระหม่อมบางนั้นด้วยความรักใคร่
“ว่าแต่เดือนนี้พี่ไม่เห็นชาไปซื้อของเลย” ของที่ว่าก็คือผ้าอนามัย เขาไม่เห็นธิชาใช้หรือไม่เห็นในขยะรู้สึกว่าจะร่วมสองเดือนได้
“พี่ภพเดาสิคะ”
“พี่เคยอ่านมาว่าถ้าให้เด็ก ๆ ดูดเต้ารอบเดือนจะมาช้า หรือไม่ก็มาขาด ๆ หาย ๆ ไปหาหมอไหมจะได้ตรวจให้แน่ใจ” เมื่อเห็นสีหน้าวิตกกังวลของสามีเลยไม่อยากจะแกล้งต่อ
“เด็ก ๆ กำลังจะมีน้องค่ะ”
“หา…ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมชาไม่บอกพี่”
“ตอนแรกกะว่าจะบอก แต่พอดี ๆ ยุ่ง ๆ แล้วไหนจะมาพักผ่อนที่นี่อีก”
อ้อมแขนกระชับร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดก่อนจะเอ่ย
“ชาเหนื่อยแย่เลย พี่มันเห็นแก่ตัวจริง ๆ”
“ไม่เลยค่ะ ชาเต็มใจ” หญิงสาวยิ้มก่อนจะผงกหัวไปจุมพิตปลายคางสามี
“ชา” พิภพน้ำตารื้น ก่อนจะซุกใบหน้าลงข้างลำคอระหงของภรรยา “ขอบคุณชาที่เสียสละ ขอบคุณที่มีลูกให้พี่อีกคน” ธิชาหัวเราะ “ก็สามีชาเลี้ยงลูกเก่งขนาดนี้” พอนึกถึงภาพที่พิภพเอาผ้าอ้อมพาดบ่า อุ้มเด็กน้อยทั้งสองพลางร้องเพลงกล่อม หรือภาพที่สามีกำลังตบก้นลูกน้อยแปะ ๆ เพื่อกล่อมเด็ก ๆ เข้านอน อีกทั้งยังเข้าคลาสโยคะสำหรับคุณพ่ออีกด้วย
“ชาเองก็ต้องขอบคุณพี่ภพที่ทำหน้าที่สามีและพ่อของเด็ก ๆ ได้อย่างไม่มีตกบกพร่อง” หญิงสาวพูดพร้อมกับจุมพิตแก้มสากนั้นด้วยความรักเช่นกัน
“กี่เดือนแล้วเนี่ย กลับไปฝากท้องด้วยกันนะ”
ครอบครัวของเขากำลังจะมีสมาชิกใหม่เพิ่มมาอีกคน พิภพเองก็ไม่คิดจะไปหาความสุขจากที่ไหนอีก ไม่ว่าภรรยาและลูกน้อยต่างก็คือความสุขของเขา ความสุขที่เขาตามหามาอย่างน้อยครึ่งชีวิตต่างก็อยู่ที่นี่จนหมด
ความสุขเรียบง่าย สุขจากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
จบบริบูรณ์
วันนี้ธิชาและเพื่อนรักอย่างมัชชุพร ทั้งสองครอบครัวนัดกันมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่ทะเลแห่งหนึ่งในภาคใต้มิตรภาพที่ยาวนานร่วมสิบปีของสองสาว ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นภาพนี้ด้วยกัน รวมไปถึงสองหนุ่มเพื่อนสนิทอย่างเทวทิณณ์และพิภพ ที่ต่างก็มองภรรยาและลูกน้อยก่อปราสาททรายกันอย่างสนุกสนาน“ถ้ารู้ว่ามีครอบครัวแล้วมีความสุขอย่างนี้ กูมีไปนานแล้ว ไม่น่าไปฟังไอ้พวกนั้นที่เอาแต่บ่นกระปอดกระแปด” เทวทิณณ์ยกเบียร์กระป๋องในมือขึ้นมาจิบก่อนจะยักไหล่ “ก็ไอ้พวกนั้นไม่ได้มีเมียเหมือนมัช และไม่ได้ใจกว้างเหมือนธิชา” เทวทิณณ์ได้ทีเอ่ยชมภรรยาไม่ขาดปาก“ก็จริง ชาเค้าไม่เคยทำตัวแบบว่าเมียใหญ่สุด หรือกูต้องทำตัวเป็นพ่อบ้านใจกล้า ไอ้พวกนั้นทำยังกะว่าเรื่องแต่งเมียเหมือนขายของหรือไง”“ก็โดนคลุมถุงชน เป็นกูก็ไม่อยากกลับบ้านเปล่าวะ”“ดีที่ชาเค้ายังกลับมาหากู ไม่งั้นกูคงไม่ได้เห็นภาพนี้ หรือไม่ก็ไม่มีภาพนี้ในหัวเลย” เทวทิณณ์ตบบ่าเพื่อนรักเพื่อให้กำลังใจ“รักษาเค้าให้ดี ๆ ไม่ใช่ละเลยทำตัวเสเพลเหมือนเดิมอีกนะมึง ลูกเต้าก็มีแล้วทำตัวให้สมกับที่เป็นพ่อคน”“ครับ” พิภพหันมาพนมมือไหว้เพื่อนรัก ที่สั่งสอนยังกะพ่อ ตั้งแต่แต่งงาน
คู่แต่งงานใหม่ก็พากันมาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ไกลถึงต่างประเทศ ธิชาและพิภพต่างก็กกกอดกันอย่างแนบแน่นทุกเช้าค่ำระหว่างท่องเที่ยวฮันนีมูนในโรงแรมแห่งหนึ่ง “อื้อ สะ สามี เบาหน่อย”ตั้งแต่งานแต่งงาน พวกเขาทั้งสองต่างก็เหนื่อยลากเลือดกันทั้งคู่ ไม่มีเวลามาจู๋จี๋ตามประสาข้าวใหม่ปลามันกันสักเท่าไหร่ สรรพนามที่เอ่ยเรียกกันก็เปลี่ยนไป“ชาจ๋า ชาของพี่หวานที่สุด”“อื้อ”สองเต้าที่ถูกมือใหญ่บีบเคล้น อีกทั้งยังถูกดูดอย่างกระหายอย่างนี้ทำเอาธิชาถึงกับกลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่ได้ เห็นแต่ผมดกดำที่ขยับอยู่ตรงหน้าอกของเธออยู่นานสองนาน เขาทั้งขบกัด หยอกล้อกับเม็ดบัวทั้งสองข้างอย่างมันเขี้ยว ร่างบางสั่นระริกด้วยความเสียว อีกทั้งช่องทางสวาทยังหลั่งน้ำเมือกสีใสออกมาจนต้นขาด้านในเฉอะแฉะไปหมด สองขาถูไถกับเตียงกว้างจนผ้าปูที่นอนยับย่น ข้อมือได้แต่กำมุมหมอนเพื่อระบายความเสียวที่ตีตื้นขึ้นมาทำเอาเธอเกือบจะเสร็จสมไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง“อ๊ะ”พิภพจูบลูบไล้ร่างกายที่สะโอดสะอง เอวคอดสะโพกผาย ธิชามีรูปร่างเหมือนนาฬิกาทราย ผู้ชายอย่างพิภพไม่รู้ว่าร่างกายที่ผอมเพรียวของเธอแบกเต้าทรงโต และเข่าที่แบกสสะโพกผายได้ยังไง ไม่ว
“ไม่ต้องร้องแล้วนะคะคนดี” พิภพเอ่ยปลอบพลางก้มลงจูบหน้าผากเนียนด้วยความรักใคร่ กระชับอ้อมกอดให้แน่นมากยิ่งขึ้น พอเห็นเพื่อนรักแต่งงานมีครอบครัวที่สมบูรณ์พูนสุข มันก็กระตุ้นความปรารถนาของพิภพให้แจ่มชัดมากยิ่งขึ้น เขาประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงานแล้ว แต่ชีวิตคู่กลับตรงกันข้าม เขาจินตนาการการมีครอบครัว แต่งงานมีลูกกับใครสักคนไม่ออก หากตอนแรกเขาไม่เลิกกับธิชาก็คงยังมองภาพนั้นไม่ออก แต่พอได้เลิกรากับอีกฝ่ายไป ภาพที่เคยเลือนรางและคิดว่าไม่มีอยู่จริงกลับมองเห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น เขาวาดภาพบ้านและครอบครัวของตัวเองออกมาหลายภาพ และมองเห็นอนาคตที่จะใช้ชีวิตร่วมกับใครอีกคนไปจนแก่เฒ่า และคนคนนั้นก็คือธิชา…หญิงสาวตรงหน้าหากไม่เคยสูญเสียก็ไม่รู้คุณค่าของมันวันนี้เขารู้ซึ้งแล้ว และจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายหลุดมือเป็นครั้งที่สองงานแต่งงานของธิชาและพิภพจัดขึ้นที่ริมทะเลจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ บรรยากาศเรียบง่ายแต่อบอุ่น มีญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงคนสนิทเพียงเท่านั้น มัชชุพรและเทวทิณณ์พร้อมยัยหนูมัชฌิมาในวัยแปดเดือน สวมชุดกระโปรงน่ารักพร้อมผ้าคาดหัว บนแท่นเวทีบ่าวสาวกำลังเอ่ยคำสาบาน‘ข้าพเจ้านายพิภพ รับ นางสาวธิ
ไม่รู้ว่าสถานะนี้คืออะไร แต่ต่างฝ่ายต่างสบายใจที่จะไปมาหาสู่กันอย่างนี้ บางทีเวลาก็ช่วยเยียวยาและตกตะกอนความคิดต่าง ๆ ให้ผู้คนต่างก็เติบโตและไม่จมกับความผิดพลาดในอดีต อีกทั้งตอนนี้พวกเขาต่างก็เดินหน้าด้วยความระมัดระวัง เพราะรู้แล้วว่ากว่าจะเจอรักดี ๆ คนรักดี ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องแตกสลายและเสียน้ำตามากมายไปไม่รู้เท่าไหร่กว่าจะกลับมาเจอกันอีกครั้ง พูดคุยและหัวเราะด้วยกันอีกครั้งแบบนี้ โดยเฉพาะอดีตคาสโนว่าอย่างพิภพ ที่เหมือนจะถูกถอดเขี้ยวเล็บไปจนหมด ตอนนี้กลายเป็นคนที่เจอตัวยากพอ ๆ กับเทวทิณณ์ อย่างเทวทิณณ์ที่กำลังจะเป็นพ่อคนอยู่ติดบ้านก็ไม่แปลก แต่คนที่มักจะออกท่องราตรีเป็นประจำอย่างพิภพกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ อยู่ติดบ้าน ออกสังสรรค์บ้างแต่ก็นับครั้งได้ ธิชาเองก็ไม่เคยกะเกณฑ์หรือพูดขอร้องอะไร เธอไม่เคยพูดให้เขาเปลี่ยน เพราะหากเขาไม่เปลี่ยน ใครก็คิดที่จะเปลี่ยนเขาไม่ได้ อีกทั้งธิชาก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามครรลอง ถ้าถามถึงความรู้สึก…เธอก็ยังรักตัวเองมากกว่าจะรักใครคนอื่นหลังจากดูหนังจนจบ พิภพก็พาหญิงสาวมาทานอาหารดาดฟ้าโรงแรมดัง “นี่หรือเปล่าคะที่ย้ำนัก
ตั้งแต่วันนั้นธิชากับพิภพก็ไม่ได้เจอกันอีกจนงาน Baby Shower ของยัยมัชที่จัดงานที่บ้านสวนที่อยุธยาบ้านของพี่ทิณ เรียกได้ว่าเป็นงานรวมกัลยาณมิตรเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ เพื่อนฝูง ต่างก็มากันเกือบครบหมด ว่าที่คุณแม่ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ไม่ใช่แค่แขกในงานที่ลุ้นเพศ สามีอย่างเทวทิณณ์เองก็ลุ้นจนตัวโก่งเหมือนกัน มีแต่มัชชุพรที่รู้ ลูกโป่งสีสวยบรรจุแผ่นกระดาษไว้ภายใน สีฟ้าลูกชาย สีชมพูลูกสาว เพื่อน ๆ ต่างก็พนันกันอย่างสนุกสนาน ธิชาเองก็เหมือนกัน ลูบท้องยัยมัชออกจะบ่อย ท้องแหลมแบบนี้โบราณเขาว่าจะได้ลูกสาว งานปาร์ตี้เล็ก ๆ แต่ทว่ากลับอบอุ่น ตอนนี้เองพิภพก็เดินมาหาเธอ พวกเขาต่างก็ไม่มีใครเคอะเขิน พูดคุยทักทายกันอย่างออกรสตามประสาคนรู้จัก“ชาว่าไอ้ทิณจะได้ลูกชายหรือลูกสาว”“ต้องลูกสาวอยู่แล้วค่ะ”“ถ้าลูกชายล่ะ?”“งั้นมาพนันกันไหมละคะ” ก่อนจะหัวเราะออกมาทั้งคู่มัชชุพรถือลูกโป่งยักษ์สีขาวไว้ในมือ เพื่อน ๆ ต่างส่งเสียงเชียร์ฝั่งเพื่อนชายก็ส่งเสียง BOY/ ส่วนฝั่งผู้หญิงก็ GIRL ต่างไม่มีใครยอมใคร อีกทั้งข้าวของเครื่องใช้เด็ก ๆ ที่เพื่อน ๆ ต่างขนมาให้กองพะเนินจนคุณย่าอย่างสาวิตรีอดที่จะหัวเราะกับคนห
หลังจากเกิดเรื่องทางบริษัทเองก็ไม่ได้ใจดำกับลูกน้อง ทางหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานต่างก็เอ่ยปากให้ธิชาลาพักได้อีกสักสองสามวัน เพราะเป็นห่วงเรื่องสภาพจิตใจ และคดีความ แต่ธิชาปฏิเสธอีกทั้งงานตรงหน้าทำให้สมองของเธอหยุดคิดเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาได้ขณะหนึ่ง เพื่อนร่วมงานก็ต่างชวนคุย ดีกว่านั่งอุดอู้อยู่ที่โรงแรมเป็นไหน ๆ ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ทางพิภพเองก็บอกว่ารอให้หาคอนโดได้ใหม่จะส่งมาให้ เธอเองก็เห็นว่าไม่เสียหายอะไร จึงเอาตามนั้น แต่ระหว่างนี้ก็ไม่มีอะไรเกินเลยกันอีก แม้จะพักอยู่ห้องเดียวกันก็ตามธิชาเองก็รู้สึกปลอดภัยที่อีกฝ่ายมาอยู่เป็นเพื่อน หากสภาพจิตใจดีมากกว่านี้อีกสักหน่อยคงต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิม…แต่เธอเองก็ไม่ได้เห็นแก่ตัว พยายามหาห้องใหม่ให้เร็วที่สุด ทางอิทธิเองก็เอ่ยปากช่วยหาห้องใหม่ให้ รวมไปถึงเพื่อนร่วมงานหญิงโสดหลายคนก็แนะนำให้อยู่บ้าง แต่เธอต้องขบคิดสักเล็กน้อย ห้องที่ดี ความปลอดภัยสูงราคาก็แพงตาม ลำพังพนักงานออฟฟิศเงินเดือนไม่มากเท่าไหร่ จะให้หารูมเมทก็ไม่ชอบ เฮ้อ!ธิชากลับโรงแรมที่พักด้วยสภาพอิดโรย หลังเลิกงานต้องตระเวนหาที่อยู่ใหม่อีก “ชา กลับมาแล้วเหรอ ทานอะไรหรือย