ไม่รู้ว่าสถานะนี้คืออะไร แต่ต่างฝ่ายต่างสบายใจที่จะไปมาหาสู่กันอย่างนี้ บางทีเวลาก็ช่วยเยียวยาและตกตะกอนความคิดต่าง ๆ ให้ผู้คนต่างก็เติบโตและไม่จมกับความผิดพลาดในอดีต อีกทั้งตอนนี้พวกเขาต่างก็เดินหน้าด้วยความระมัดระวัง เพราะรู้แล้วว่ากว่าจะเจอรักดี ๆ คนรักดี ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องแตกสลายและเสียน้ำตามากมายไปไม่รู้เท่าไหร่กว่าจะกลับมาเจอกันอีกครั้ง พูดคุยและหัวเราะด้วยกันอีกครั้งแบบนี้ โดยเฉพาะอดีตคาสโนว่าอย่างพิภพ ที่เหมือนจะถูกถอดเขี้ยวเล็บไปจนหมด ตอนนี้กลายเป็นคนที่เจอตัวยากพอ ๆ กับเทวทิณณ์ อย่างเทวทิณณ์ที่กำลังจะเป็นพ่อคนอยู่ติดบ้านก็ไม่แปลก แต่คนที่มักจะออกท่องราตรีเป็นประจำอย่างพิภพกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ อยู่ติดบ้าน ออกสังสรรค์บ้างแต่ก็นับครั้งได้ ธิชาเองก็ไม่เคยกะเกณฑ์หรือพูดขอร้องอะไร เธอไม่เคยพูดให้เขาเปลี่ยน เพราะหากเขาไม่เปลี่ยน ใครก็คิดที่จะเปลี่ยนเขาไม่ได้ อีกทั้งธิชาก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามครรลอง ถ้าถามถึงความรู้สึก…เธอก็ยังรักตัวเองมากกว่าจะรักใครคนอื่น
หลังจากดูหนังจนจบ พิภพก็พาหญิงสาวมาทานอาหารดาดฟ้าโรงแรมดัง “นี่หรือเปล่าคะที่ย้ำนักย้ำหนาให้ชาแต่งตัวสวย ๆ” ธิชาเอ่ยถามคนข้าง ๆ ในลิฟต์
“ก็พี่ชอบเวลาที่ชาแต่งตัวสวย ๆ นี่นา” พิภพตอบพลางจ้องมองอีกฝ่ายไม่วางตา ธิชาไม่ว่าจะลุคไหนก็สวย โดยเฉพาะลุคสาวออฟฟิศที่สวมแว่นรวบผมหางม้า มันดูสดใสและเข้ากับธิชามากกว่า แต่ว่าลุควันนี้ในเดรสสีดำปาดไหล่ก็สวยไปอีกแบบ
“เช็ดน้ำลายด้วยค่ะ หกหมดแล้ว” ธิชาเอ่ยปากแซว พิภพทำทีเป็นกระแอมก่อนจะสัมผัสสิ่งที่อยู่ในอกเสื้อ สูดหายใจเข้าเพื่อเรียกความกล้า
ห้องที่เลือกเป็นห้องกระจกส่วนตัว มองเห็นวิวริมแม่น้ำสามร้อยหกสิบองศา แถมยังมีนักไวโอลินบรรเลงเพลงช่วยขับบรรยากาศให้โรแมนติกมากขึ้นไปอีก
เมื่อก่อนกับตอนนี้มันต่างกันมาก ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยออกเดตกันในร้านอาหารแบบนี้มาก่อน แต่ทว่าเมื่อก่อนธิชารู้สึกได้ว่าชายหนุ่มทำไปอย่างนั้นเพื่อเอาใจ เพื่อไถ่โทษอะไรก็ตามแต่ แต่ครั้งนี้มันรับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก คล้ายว่าอีกฝ่ายเลือกสรรร้านด้วยความตั้งใจ ไม่ว่าจะสายตา เพลงที่เลือกใช้ต่างแฝงไว้ด้วยความหมายลึกซึ้ง โดยเฉพาะดวงตาสีนิลคู่นั้น ที่ตั้งแต่หญิงสาวนั่งลง เขาก็ไม่ละสายตาไปจากเธอแม้สักวินาทีเดียว
“มองอะไรขนาดนั้นคะ” ธิชายกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบแก้เขิน มองอะไรขนาดนั้นนะ มองจนรู้สึกประหม่าไปหมดแล้วเนี่ย
“วันนี้ชาของพี่สวยมาก”
“วันอื่นไม่สวยเหรอคะ” เธอย้อน
“แต่วันนี้ชาสวยและพิเศษที่สุด…มานี่สิ” ไม่พูดเปล่าพิภพยังลุกจากเก้าอี้เข้ามาผายมือให้เธอพร้อมกับรอให้หญิงสาววางมือลงบนฝ่ามือนั้น
ธิชานิ่งไปสักพักก่อนจะวางมือลงบนฝ่ามือนั้นลุกยืนเดินไปตามอีกฝ่ายที่เดินนำไปยังหน้ากระจกที่สะท้อนภาพคนทั้งสอง พิภพใช้มือข้างที่ว่างล้วงไปยังกระเป๋าชุดสูทด้านใน ก่อนจะคุกเข่าในท่าที่ชันเข่าขึ้นมาข้างหนึ่ง เขาจับมือนิ่มนั้นเอาไว้อย่างทะนุถนอม ก่อนจะเปิดกล่องกำมะหยี่สีแดง ภายในมีแหวนเพชรเม็ดงามอยู่วงหนึ่ง
ธิชายืนอึ้งอยู่อย่างนั้น เธอไม่คาดคิดมาก่อนถึงวันนี้…วันที่อีกฝ่ายคุกเข่าขอเธอแต่งงานแบบนี้
“พี่ภพ”
“ชา…พี่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่มันเลวแค่ไหน แต่ชาทำให้พี่ได้เรียนรู้ว่าความรักคืออะไร เมื่อก่อนพี่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง แต่พอตอนที่ชาไม่อยู่พี่ถึงได้รู้ใจตัวเอง…ว่าพี่รักชามากแค่ไหน ที่ผ่านมาพี่อาจยังทำให้ชาวางใจไม่ได้ แต่พี่ขอโอกาสอีกสักครั้งได้ไหม…ขอให้โอกาสให้พี่ได้พิสูจน์ตัวเอง ขอให้พี่ได้ดูแลชาไปอย่างนี้ ถ้าพี่ผิดคำสาบาน ขอให้—”
ธิชายื่นฝ่ามือไปปิดปากอีกฝ่ายทันที “อย่าสาบานอะไรส่งเดชเลยค่ะ”
“แต่พี่อยากให้ชาเชื่อใจ ว่าพี่พูดจริง ทำจริง” หญิงสาวยืนอมยิ้มอยู่อย่างนั้น ไม่เคยเห็นสีหน้าที่กระวนกระวายใจของอีกฝ่ายมาก่อนเลยแฮะ ก่อนจะทำหน้าจริงจัง “พี่ภพคิดดีแล้วเหรอคะว่าอยากจะอยู่กับชาไปตลอดชีวิต หากพี่ภพทำไม่ได้ใบหย่าชาแพงมากเลยนะคะ ขอเตือนไว้ก่อน” หญิงสาวคาดโทษแต่อีกฝ่ายกลับยิ้มรับ
“หากพี่ทำให้ชาเสียใจอีก จะเท่าไหร่พี่ก็จะยอมจ่าย ให้ชาไปเจอคนที่ดีกว่า แต่อย่าฝันว่าจะมีวันนั้น พี่จะอยู่กับชาไปจนแก่เฒ่า” พูดเสร็จก็จุมพิตมือขาวนั้นก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง “แต่งงานกับพี่นะชา พี่ขอสาบานจะเป็นสามี เป็นพ่อที่ดี จะไม่ทำให้ชาต้องเสียใจอีก” ภาพตรงหน้าหญิงสาวพร่าเบลอไปด้วยหยาดน้ำตา ก่อนจะพยักหน้าสองสามที เธอปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นมองอีกฝ่ายที่บรรจงสวมแหวนเพชรน้ำงามลงบนนิ้วกลางข้างซ้ายของเธอ “วงนี้จองไว้ก่อน วันจริงจะต้องเม็ดใหญ่แล้วก็สวยกว่านี้ ที่สำคัญชาจะต้องเป็นฝ่ายเลือกด้วยตัวเอง ตกลงไหมคะ…”
ธิชาไม่ได้ตอบ แต่พยักหน้าพลางกลืนก้อนสะอื้นลงไปในลำคอ ก่อนจะโผเข้าหาอีกฝ่าย ซุกใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาเข้าสู่อกอุ่น อ้อมกอดนี้ที่เธอใฝ่ฝันว่าจะได้ครอบครองคนเดียว บัดนี้เป็นจริงแล้ว…
วันนี้ธิชาและเพื่อนรักอย่างมัชชุพร ทั้งสองครอบครัวนัดกันมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่ทะเลแห่งหนึ่งในภาคใต้มิตรภาพที่ยาวนานร่วมสิบปีของสองสาว ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นภาพนี้ด้วยกัน รวมไปถึงสองหนุ่มเพื่อนสนิทอย่างเทวทิณณ์และพิภพ ที่ต่างก็มองภรรยาและลูกน้อยก่อปราสาททรายกันอย่างสนุกสนาน“ถ้ารู้ว่ามีครอบครัวแล้วมีความสุขอย่างนี้ กูมีไปนานแล้ว ไม่น่าไปฟังไอ้พวกนั้นที่เอาแต่บ่นกระปอดกระแปด” เทวทิณณ์ยกเบียร์กระป๋องในมือขึ้นมาจิบก่อนจะยักไหล่ “ก็ไอ้พวกนั้นไม่ได้มีเมียเหมือนมัช และไม่ได้ใจกว้างเหมือนธิชา” เทวทิณณ์ได้ทีเอ่ยชมภรรยาไม่ขาดปาก“ก็จริง ชาเค้าไม่เคยทำตัวแบบว่าเมียใหญ่สุด หรือกูต้องทำตัวเป็นพ่อบ้านใจกล้า ไอ้พวกนั้นทำยังกะว่าเรื่องแต่งเมียเหมือนขายของหรือไง”“ก็โดนคลุมถุงชน เป็นกูก็ไม่อยากกลับบ้านเปล่าวะ”“ดีที่ชาเค้ายังกลับมาหากู ไม่งั้นกูคงไม่ได้เห็นภาพนี้ หรือไม่ก็ไม่มีภาพนี้ในหัวเลย” เทวทิณณ์ตบบ่าเพื่อนรักเพื่อให้กำลังใจ“รักษาเค้าให้ดี ๆ ไม่ใช่ละเลยทำตัวเสเพลเหมือนเดิมอีกนะมึง ลูกเต้าก็มีแล้วทำตัวให้สมกับที่เป็นพ่อคน”“ครับ” พิภพหันมาพนมมือไหว้เพื่อนรัก ที่สั่งสอนยังกะพ่อ ตั้งแต่แต่งงาน
คู่แต่งงานใหม่ก็พากันมาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ไกลถึงต่างประเทศ ธิชาและพิภพต่างก็กกกอดกันอย่างแนบแน่นทุกเช้าค่ำระหว่างท่องเที่ยวฮันนีมูนในโรงแรมแห่งหนึ่ง “อื้อ สะ สามี เบาหน่อย”ตั้งแต่งานแต่งงาน พวกเขาทั้งสองต่างก็เหนื่อยลากเลือดกันทั้งคู่ ไม่มีเวลามาจู๋จี๋ตามประสาข้าวใหม่ปลามันกันสักเท่าไหร่ สรรพนามที่เอ่ยเรียกกันก็เปลี่ยนไป“ชาจ๋า ชาของพี่หวานที่สุด”“อื้อ”สองเต้าที่ถูกมือใหญ่บีบเคล้น อีกทั้งยังถูกดูดอย่างกระหายอย่างนี้ทำเอาธิชาถึงกับกลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่ได้ เห็นแต่ผมดกดำที่ขยับอยู่ตรงหน้าอกของเธออยู่นานสองนาน เขาทั้งขบกัด หยอกล้อกับเม็ดบัวทั้งสองข้างอย่างมันเขี้ยว ร่างบางสั่นระริกด้วยความเสียว อีกทั้งช่องทางสวาทยังหลั่งน้ำเมือกสีใสออกมาจนต้นขาด้านในเฉอะแฉะไปหมด สองขาถูไถกับเตียงกว้างจนผ้าปูที่นอนยับย่น ข้อมือได้แต่กำมุมหมอนเพื่อระบายความเสียวที่ตีตื้นขึ้นมาทำเอาเธอเกือบจะเสร็จสมไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง“อ๊ะ”พิภพจูบลูบไล้ร่างกายที่สะโอดสะอง เอวคอดสะโพกผาย ธิชามีรูปร่างเหมือนนาฬิกาทราย ผู้ชายอย่างพิภพไม่รู้ว่าร่างกายที่ผอมเพรียวของเธอแบกเต้าทรงโต และเข่าที่แบกสสะโพกผายได้ยังไง ไม่ว
“ไม่ต้องร้องแล้วนะคะคนดี” พิภพเอ่ยปลอบพลางก้มลงจูบหน้าผากเนียนด้วยความรักใคร่ กระชับอ้อมกอดให้แน่นมากยิ่งขึ้น พอเห็นเพื่อนรักแต่งงานมีครอบครัวที่สมบูรณ์พูนสุข มันก็กระตุ้นความปรารถนาของพิภพให้แจ่มชัดมากยิ่งขึ้น เขาประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงานแล้ว แต่ชีวิตคู่กลับตรงกันข้าม เขาจินตนาการการมีครอบครัว แต่งงานมีลูกกับใครสักคนไม่ออก หากตอนแรกเขาไม่เลิกกับธิชาก็คงยังมองภาพนั้นไม่ออก แต่พอได้เลิกรากับอีกฝ่ายไป ภาพที่เคยเลือนรางและคิดว่าไม่มีอยู่จริงกลับมองเห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น เขาวาดภาพบ้านและครอบครัวของตัวเองออกมาหลายภาพ และมองเห็นอนาคตที่จะใช้ชีวิตร่วมกับใครอีกคนไปจนแก่เฒ่า และคนคนนั้นก็คือธิชา…หญิงสาวตรงหน้าหากไม่เคยสูญเสียก็ไม่รู้คุณค่าของมันวันนี้เขารู้ซึ้งแล้ว และจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายหลุดมือเป็นครั้งที่สองงานแต่งงานของธิชาและพิภพจัดขึ้นที่ริมทะเลจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ บรรยากาศเรียบง่ายแต่อบอุ่น มีญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงคนสนิทเพียงเท่านั้น มัชชุพรและเทวทิณณ์พร้อมยัยหนูมัชฌิมาในวัยแปดเดือน สวมชุดกระโปรงน่ารักพร้อมผ้าคาดหัว บนแท่นเวทีบ่าวสาวกำลังเอ่ยคำสาบาน‘ข้าพเจ้านายพิภพ รับ นางสาวธิ
ไม่รู้ว่าสถานะนี้คืออะไร แต่ต่างฝ่ายต่างสบายใจที่จะไปมาหาสู่กันอย่างนี้ บางทีเวลาก็ช่วยเยียวยาและตกตะกอนความคิดต่าง ๆ ให้ผู้คนต่างก็เติบโตและไม่จมกับความผิดพลาดในอดีต อีกทั้งตอนนี้พวกเขาต่างก็เดินหน้าด้วยความระมัดระวัง เพราะรู้แล้วว่ากว่าจะเจอรักดี ๆ คนรักดี ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องแตกสลายและเสียน้ำตามากมายไปไม่รู้เท่าไหร่กว่าจะกลับมาเจอกันอีกครั้ง พูดคุยและหัวเราะด้วยกันอีกครั้งแบบนี้ โดยเฉพาะอดีตคาสโนว่าอย่างพิภพ ที่เหมือนจะถูกถอดเขี้ยวเล็บไปจนหมด ตอนนี้กลายเป็นคนที่เจอตัวยากพอ ๆ กับเทวทิณณ์ อย่างเทวทิณณ์ที่กำลังจะเป็นพ่อคนอยู่ติดบ้านก็ไม่แปลก แต่คนที่มักจะออกท่องราตรีเป็นประจำอย่างพิภพกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ อยู่ติดบ้าน ออกสังสรรค์บ้างแต่ก็นับครั้งได้ ธิชาเองก็ไม่เคยกะเกณฑ์หรือพูดขอร้องอะไร เธอไม่เคยพูดให้เขาเปลี่ยน เพราะหากเขาไม่เปลี่ยน ใครก็คิดที่จะเปลี่ยนเขาไม่ได้ อีกทั้งธิชาก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามครรลอง ถ้าถามถึงความรู้สึก…เธอก็ยังรักตัวเองมากกว่าจะรักใครคนอื่นหลังจากดูหนังจนจบ พิภพก็พาหญิงสาวมาทานอาหารดาดฟ้าโรงแรมดัง “นี่หรือเปล่าคะที่ย้ำนัก
ตั้งแต่วันนั้นธิชากับพิภพก็ไม่ได้เจอกันอีกจนงาน Baby Shower ของยัยมัชที่จัดงานที่บ้านสวนที่อยุธยาบ้านของพี่ทิณ เรียกได้ว่าเป็นงานรวมกัลยาณมิตรเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ เพื่อนฝูง ต่างก็มากันเกือบครบหมด ว่าที่คุณแม่ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ไม่ใช่แค่แขกในงานที่ลุ้นเพศ สามีอย่างเทวทิณณ์เองก็ลุ้นจนตัวโก่งเหมือนกัน มีแต่มัชชุพรที่รู้ ลูกโป่งสีสวยบรรจุแผ่นกระดาษไว้ภายใน สีฟ้าลูกชาย สีชมพูลูกสาว เพื่อน ๆ ต่างก็พนันกันอย่างสนุกสนาน ธิชาเองก็เหมือนกัน ลูบท้องยัยมัชออกจะบ่อย ท้องแหลมแบบนี้โบราณเขาว่าจะได้ลูกสาว งานปาร์ตี้เล็ก ๆ แต่ทว่ากลับอบอุ่น ตอนนี้เองพิภพก็เดินมาหาเธอ พวกเขาต่างก็ไม่มีใครเคอะเขิน พูดคุยทักทายกันอย่างออกรสตามประสาคนรู้จัก“ชาว่าไอ้ทิณจะได้ลูกชายหรือลูกสาว”“ต้องลูกสาวอยู่แล้วค่ะ”“ถ้าลูกชายล่ะ?”“งั้นมาพนันกันไหมละคะ” ก่อนจะหัวเราะออกมาทั้งคู่มัชชุพรถือลูกโป่งยักษ์สีขาวไว้ในมือ เพื่อน ๆ ต่างส่งเสียงเชียร์ฝั่งเพื่อนชายก็ส่งเสียง BOY/ ส่วนฝั่งผู้หญิงก็ GIRL ต่างไม่มีใครยอมใคร อีกทั้งข้าวของเครื่องใช้เด็ก ๆ ที่เพื่อน ๆ ต่างขนมาให้กองพะเนินจนคุณย่าอย่างสาวิตรีอดที่จะหัวเราะกับคนห
หลังจากเกิดเรื่องทางบริษัทเองก็ไม่ได้ใจดำกับลูกน้อง ทางหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานต่างก็เอ่ยปากให้ธิชาลาพักได้อีกสักสองสามวัน เพราะเป็นห่วงเรื่องสภาพจิตใจ และคดีความ แต่ธิชาปฏิเสธอีกทั้งงานตรงหน้าทำให้สมองของเธอหยุดคิดเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาได้ขณะหนึ่ง เพื่อนร่วมงานก็ต่างชวนคุย ดีกว่านั่งอุดอู้อยู่ที่โรงแรมเป็นไหน ๆ ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ทางพิภพเองก็บอกว่ารอให้หาคอนโดได้ใหม่จะส่งมาให้ เธอเองก็เห็นว่าไม่เสียหายอะไร จึงเอาตามนั้น แต่ระหว่างนี้ก็ไม่มีอะไรเกินเลยกันอีก แม้จะพักอยู่ห้องเดียวกันก็ตามธิชาเองก็รู้สึกปลอดภัยที่อีกฝ่ายมาอยู่เป็นเพื่อน หากสภาพจิตใจดีมากกว่านี้อีกสักหน่อยคงต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิม…แต่เธอเองก็ไม่ได้เห็นแก่ตัว พยายามหาห้องใหม่ให้เร็วที่สุด ทางอิทธิเองก็เอ่ยปากช่วยหาห้องใหม่ให้ รวมไปถึงเพื่อนร่วมงานหญิงโสดหลายคนก็แนะนำให้อยู่บ้าง แต่เธอต้องขบคิดสักเล็กน้อย ห้องที่ดี ความปลอดภัยสูงราคาก็แพงตาม ลำพังพนักงานออฟฟิศเงินเดือนไม่มากเท่าไหร่ จะให้หารูมเมทก็ไม่ชอบ เฮ้อ!ธิชากลับโรงแรมที่พักด้วยสภาพอิดโรย หลังเลิกงานต้องตระเวนหาที่อยู่ใหม่อีก “ชา กลับมาแล้วเหรอ ทานอะไรหรือย