หลังจากเกิดเรื่องทางบริษัทเองก็ไม่ได้ใจดำกับลูกน้อง ทางหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานต่างก็เอ่ยปากให้ธิชาลาพักได้อีกสักสองสามวัน เพราะเป็นห่วงเรื่องสภาพจิตใจ และคดีความ แต่ธิชาปฏิเสธอีกทั้งงานตรงหน้าทำให้สมองของเธอหยุดคิดเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาได้ขณะหนึ่ง เพื่อนร่วมงานก็ต่างชวนคุย ดีกว่านั่งอุดอู้อยู่ที่โรงแรมเป็นไหน ๆ ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ทางพิภพเองก็บอกว่ารอให้หาคอนโดได้ใหม่จะส่งมาให้ เธอเองก็เห็นว่าไม่เสียหายอะไร จึงเอาตามนั้น แต่ระหว่างนี้ก็ไม่มีอะไรเกินเลยกันอีก แม้จะพักอยู่ห้องเดียวกันก็ตาม
ธิชาเองก็รู้สึกปลอดภัยที่อีกฝ่ายมาอยู่เป็นเพื่อน หากสภาพจิตใจดีมากกว่านี้อีกสักหน่อยคงต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิม…
แต่เธอเองก็ไม่ได้เห็นแก่ตัว พยายามหาห้องใหม่ให้เร็วที่สุด ทางอิทธิเองก็เอ่ยปากช่วยหาห้องใหม่ให้ รวมไปถึงเพื่อนร่วมงานหญิงโสดหลายคนก็แนะนำให้อยู่บ้าง แต่เธอต้องขบคิดสักเล็กน้อย ห้องที่ดี ความปลอดภัยสูงราคาก็แพงตาม ลำพังพนักงานออฟฟิศเงินเดือนไม่มากเท่าไหร่ จะให้หารูมเมทก็ไม่ชอบ เฮ้อ!
ธิชากลับโรงแรมที่พักด้วยสภาพอิดโรย หลังเลิกงานต้องตระเวนหาที่อยู่ใหม่อีก “ชา กลับมาแล้วเหรอ ทานอะไรหรือยัง”
“ทานแล้วค่ะ พี่ภพละคะ”
“ยัง…พี่รอทานกับชา” ธิชาถอนหายใจก่อนจะเข้าไปนั่งข้าง ๆ อีกฝ่ายที่นั่งรออยู่ตรงโซฟา บนโต๊ะเต็มไปด้วยเอกสารและไอแพด ดูก็รู้ว่าเขายุ่งน่าดู แถมยังต้องหอบงานกองโตมาทำที่นี่ด้วย
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะ แต่ตอนนี้ชาโอเคขึ้นมากแล้ว คง…” หญิงสาวเม้มปากก่อนจะเอ่ย “คงไม่รบกวนพี่ภพแล้ว ชาหาห้องได้แล้วละคะ ส่วนข้าวของหากชาย้ายเข้าแล้วคงรบกวนพี่ภพช่วยส่งมาให้ด้วยได้ไหมคะ”
“ชา…พี่”
“พี่ภพมีอะไรจะพูดหรือเปล่าคะ” เมื่อเห็นเขาอ้ำอึ้งเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่พูดออกมาสักที เอาแต่จ้องหน้าเธอจนรู้สึกประหม่า
“พี่…ก็แค่อยากอยู่กับชา พี่เป็นห่วงชามากรู้ไหม”
“พี่ภพจะมาอยู่กับชาได้ไงคะ” ธิชาไม่รู้ว่าเขาอยากจะพูดอะไรกันแน่ อยู่ด้วยกันงั้นเหรอ ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนเขาหวงความเป็นส่วนตัวมากขนาดนั้น
“เราอยู่ด้วยกันไม่ได้หรอกค่ะ พี่ภพก็รู้ว่าเพราะอะไร”
“ชา”
“เราเลิกกันแล้วนะคะ อีกอย่างอย่าให้ถึงกับตัดความเป็นพี่เป็นน้องกันเลยดีกว่า” ธิชาเม้มปาก “ถ้าพี่ภพรู้สึกสงสาร ชาก็ยินดีน้อมรับไว้ แต่ว่าตอนนี้ชาอยู่ได้ แล้วก็อยู่ได้ดีด้วย พี่ภพไม่ต้องเป็นห่วง หรือรู้สึกผิดอะไร”
“ชา พี่ไม่ได้คิดแบบนั้น” ชายหนุ่มเอื้อมมือหมายจะจับมือนิ่มนั้น แต่ทว่าธิชากลับประสานมือทั้งสองวางไว้อยู่ตรงหน้าตัก
“ชาต้องขอบคุณพี่ภพมาก ๆ ที่มาอยู่เป็นเพื่อนและช่วยเป็นธุระต่าง ๆ ให้ แต่ชาคิดว่าเราไม่ควรเจอกันอีกสักระยะ”
“ชา พี่ขอโทษ พี่อยากจะขอโอกาส พี่รักชานะ รักมาตลอด พอไม่มีชาพี่เหมือน…”
“ความรักของพี่ภพกับของชามันคงไม่เหมือนกัน แต่ก็ต้องขอบคุณพี่ภพนะคะที่ทำให้ชารักตัวเองมากขึ้น ถ้าพี่ภพรักชาจริง คงไม่ทำแบบนั้น ชาไม่รู้ว่าความรักของพี่ภพเป็นแบบไหน แต่ก็คงไม่มีผู้หญิงที่ไหนชอบและยอมรับได้ ถ้าพี่ภพรักชาจริง ทำไมถึงไม่มีชาคนเดียว” ธิชากลืนก้อนสะอื้นลงไปในคอ เธอพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาก่อนจะเอ่ย
“ชาถามตัวเองตลอดว่าชาผิดอะไร เป็นคนรักที่ไม่ได้เรื่องหรือเปล่า เหมือนว่าความรักที่ชาให้พี่ภพไปไม่เคยเต็ม จนต้องไปหาจากคนอื่น ที่ทำงานก็ถูกเขม่น ไม่ว่าเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน ชารอมาตลอด รอว่าสักวันหนึ่งพี่ภพจะเห็นความดีของชาบ้าง ที่ไม่ตามหึงหวง ไม่เซ้าซี้ก็เพราะไม่อยากเป็นคนที่น่ารำคาญในสายตาของแฟนตัวเอง ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน ไม่ตีโพยตีพาย ไม่โทรจิก ทำตัวเป็นแม่พระทั้ง ๆ ที่ในใจไม่ยินดี…ความสัมพันธ์ของเราไม่เคยมองเห็นอนาคต แล้วชาก็คิดได้ว่ามันเสียเวลาที่จะรอ…”
“ชา” พิภพมองใบหน้าสวยเฉี่ยวที่เมื่อก่อนมักจะแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางหนาเตอะ แต่ตอนนี้กลับแต่งแต้มเพียงเบาบาง ใบหน้าสวยหวานเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา เขาไม่เคยคิดในแง่มุมนี้มาก่อน เขาคิดแค่ว่าเขาให้ธิชาเป็นที่หนึ่ง วางไว้เหนือทุกคน แต่ไม่เคยรับรู้ความรู้สึกของคนรักมาก่อนเลย พอคิดถึงการกระทำที่ผ่านมาของตัวเองก็อดที่จะลูบหน้าตัวเองไม่ได้ เขาเอนตัวพิงพนักโซฟาจ้องมองอีกฝ่ายที่ก้มหน้าซ่อนน้ำตา แต่มันหยดลงกระโปรงจนเปียกชุ่มไปหมด เขาคุกเข่าลงตรงหน้าหญิงสาว เอื้อมมือไปเกลี่ยเช็ดน้ำตาให้อย่างเบามือ
“อย่าร้องเลยนะ พี่ขอโทษ ขอโทษที่ทำร้ายชา พี่มันเห็นแก่ตัว พี่…” พิภพเองก็แทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว เขาโอบกอดร่างบางที่ร้องไห้จนสะอึกสะอื้น ตบหลังคล้ายปลอบประโลม แผลภายนอกยังพอทิ้งร่องรอยให้รู้ว่าควรจะรักษาต่อไปยังไง แต่แผลภายในจิตใจของธิชา เขาไม่รู้เลยว่าต้องเริ่มรักษาจากตรงไหน อีกทั้งเขาเองยังเป็นตัวต้นเหตุ ความคิดที่อยากจะขอคืนดีก่อนหน้า เป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวของเขาจริง ๆ
ตอนมีอยู่ก็ทิ้งขว้างไม่ไยดี พอหายไปอยากได้คืน
บางทีเวลาอาจเป็นคำตอบเดียวในตอนนี้ ให้เวลาคอยเยียวยาบาดแผลและต่างก็แยกย้ายกันไปเติบโต เพื่อที่จะได้รู้ว่าเราต่างก็ต้องการกันและกันอยู่หรือเปล่า
วันนี้ธิชาและเพื่อนรักอย่างมัชชุพร ทั้งสองครอบครัวนัดกันมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่ทะเลแห่งหนึ่งในภาคใต้มิตรภาพที่ยาวนานร่วมสิบปีของสองสาว ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นภาพนี้ด้วยกัน รวมไปถึงสองหนุ่มเพื่อนสนิทอย่างเทวทิณณ์และพิภพ ที่ต่างก็มองภรรยาและลูกน้อยก่อปราสาททรายกันอย่างสนุกสนาน“ถ้ารู้ว่ามีครอบครัวแล้วมีความสุขอย่างนี้ กูมีไปนานแล้ว ไม่น่าไปฟังไอ้พวกนั้นที่เอาแต่บ่นกระปอดกระแปด” เทวทิณณ์ยกเบียร์กระป๋องในมือขึ้นมาจิบก่อนจะยักไหล่ “ก็ไอ้พวกนั้นไม่ได้มีเมียเหมือนมัช และไม่ได้ใจกว้างเหมือนธิชา” เทวทิณณ์ได้ทีเอ่ยชมภรรยาไม่ขาดปาก“ก็จริง ชาเค้าไม่เคยทำตัวแบบว่าเมียใหญ่สุด หรือกูต้องทำตัวเป็นพ่อบ้านใจกล้า ไอ้พวกนั้นทำยังกะว่าเรื่องแต่งเมียเหมือนขายของหรือไง”“ก็โดนคลุมถุงชน เป็นกูก็ไม่อยากกลับบ้านเปล่าวะ”“ดีที่ชาเค้ายังกลับมาหากู ไม่งั้นกูคงไม่ได้เห็นภาพนี้ หรือไม่ก็ไม่มีภาพนี้ในหัวเลย” เทวทิณณ์ตบบ่าเพื่อนรักเพื่อให้กำลังใจ“รักษาเค้าให้ดี ๆ ไม่ใช่ละเลยทำตัวเสเพลเหมือนเดิมอีกนะมึง ลูกเต้าก็มีแล้วทำตัวให้สมกับที่เป็นพ่อคน”“ครับ” พิภพหันมาพนมมือไหว้เพื่อนรัก ที่สั่งสอนยังกะพ่อ ตั้งแต่แต่งงาน
คู่แต่งงานใหม่ก็พากันมาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ไกลถึงต่างประเทศ ธิชาและพิภพต่างก็กกกอดกันอย่างแนบแน่นทุกเช้าค่ำระหว่างท่องเที่ยวฮันนีมูนในโรงแรมแห่งหนึ่ง “อื้อ สะ สามี เบาหน่อย”ตั้งแต่งานแต่งงาน พวกเขาทั้งสองต่างก็เหนื่อยลากเลือดกันทั้งคู่ ไม่มีเวลามาจู๋จี๋ตามประสาข้าวใหม่ปลามันกันสักเท่าไหร่ สรรพนามที่เอ่ยเรียกกันก็เปลี่ยนไป“ชาจ๋า ชาของพี่หวานที่สุด”“อื้อ”สองเต้าที่ถูกมือใหญ่บีบเคล้น อีกทั้งยังถูกดูดอย่างกระหายอย่างนี้ทำเอาธิชาถึงกับกลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่ได้ เห็นแต่ผมดกดำที่ขยับอยู่ตรงหน้าอกของเธออยู่นานสองนาน เขาทั้งขบกัด หยอกล้อกับเม็ดบัวทั้งสองข้างอย่างมันเขี้ยว ร่างบางสั่นระริกด้วยความเสียว อีกทั้งช่องทางสวาทยังหลั่งน้ำเมือกสีใสออกมาจนต้นขาด้านในเฉอะแฉะไปหมด สองขาถูไถกับเตียงกว้างจนผ้าปูที่นอนยับย่น ข้อมือได้แต่กำมุมหมอนเพื่อระบายความเสียวที่ตีตื้นขึ้นมาทำเอาเธอเกือบจะเสร็จสมไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง“อ๊ะ”พิภพจูบลูบไล้ร่างกายที่สะโอดสะอง เอวคอดสะโพกผาย ธิชามีรูปร่างเหมือนนาฬิกาทราย ผู้ชายอย่างพิภพไม่รู้ว่าร่างกายที่ผอมเพรียวของเธอแบกเต้าทรงโต และเข่าที่แบกสสะโพกผายได้ยังไง ไม่ว
“ไม่ต้องร้องแล้วนะคะคนดี” พิภพเอ่ยปลอบพลางก้มลงจูบหน้าผากเนียนด้วยความรักใคร่ กระชับอ้อมกอดให้แน่นมากยิ่งขึ้น พอเห็นเพื่อนรักแต่งงานมีครอบครัวที่สมบูรณ์พูนสุข มันก็กระตุ้นความปรารถนาของพิภพให้แจ่มชัดมากยิ่งขึ้น เขาประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงานแล้ว แต่ชีวิตคู่กลับตรงกันข้าม เขาจินตนาการการมีครอบครัว แต่งงานมีลูกกับใครสักคนไม่ออก หากตอนแรกเขาไม่เลิกกับธิชาก็คงยังมองภาพนั้นไม่ออก แต่พอได้เลิกรากับอีกฝ่ายไป ภาพที่เคยเลือนรางและคิดว่าไม่มีอยู่จริงกลับมองเห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น เขาวาดภาพบ้านและครอบครัวของตัวเองออกมาหลายภาพ และมองเห็นอนาคตที่จะใช้ชีวิตร่วมกับใครอีกคนไปจนแก่เฒ่า และคนคนนั้นก็คือธิชา…หญิงสาวตรงหน้าหากไม่เคยสูญเสียก็ไม่รู้คุณค่าของมันวันนี้เขารู้ซึ้งแล้ว และจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายหลุดมือเป็นครั้งที่สองงานแต่งงานของธิชาและพิภพจัดขึ้นที่ริมทะเลจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ บรรยากาศเรียบง่ายแต่อบอุ่น มีญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงคนสนิทเพียงเท่านั้น มัชชุพรและเทวทิณณ์พร้อมยัยหนูมัชฌิมาในวัยแปดเดือน สวมชุดกระโปรงน่ารักพร้อมผ้าคาดหัว บนแท่นเวทีบ่าวสาวกำลังเอ่ยคำสาบาน‘ข้าพเจ้านายพิภพ รับ นางสาวธิ
ไม่รู้ว่าสถานะนี้คืออะไร แต่ต่างฝ่ายต่างสบายใจที่จะไปมาหาสู่กันอย่างนี้ บางทีเวลาก็ช่วยเยียวยาและตกตะกอนความคิดต่าง ๆ ให้ผู้คนต่างก็เติบโตและไม่จมกับความผิดพลาดในอดีต อีกทั้งตอนนี้พวกเขาต่างก็เดินหน้าด้วยความระมัดระวัง เพราะรู้แล้วว่ากว่าจะเจอรักดี ๆ คนรักดี ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องแตกสลายและเสียน้ำตามากมายไปไม่รู้เท่าไหร่กว่าจะกลับมาเจอกันอีกครั้ง พูดคุยและหัวเราะด้วยกันอีกครั้งแบบนี้ โดยเฉพาะอดีตคาสโนว่าอย่างพิภพ ที่เหมือนจะถูกถอดเขี้ยวเล็บไปจนหมด ตอนนี้กลายเป็นคนที่เจอตัวยากพอ ๆ กับเทวทิณณ์ อย่างเทวทิณณ์ที่กำลังจะเป็นพ่อคนอยู่ติดบ้านก็ไม่แปลก แต่คนที่มักจะออกท่องราตรีเป็นประจำอย่างพิภพกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ อยู่ติดบ้าน ออกสังสรรค์บ้างแต่ก็นับครั้งได้ ธิชาเองก็ไม่เคยกะเกณฑ์หรือพูดขอร้องอะไร เธอไม่เคยพูดให้เขาเปลี่ยน เพราะหากเขาไม่เปลี่ยน ใครก็คิดที่จะเปลี่ยนเขาไม่ได้ อีกทั้งธิชาก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามครรลอง ถ้าถามถึงความรู้สึก…เธอก็ยังรักตัวเองมากกว่าจะรักใครคนอื่นหลังจากดูหนังจนจบ พิภพก็พาหญิงสาวมาทานอาหารดาดฟ้าโรงแรมดัง “นี่หรือเปล่าคะที่ย้ำนัก
ตั้งแต่วันนั้นธิชากับพิภพก็ไม่ได้เจอกันอีกจนงาน Baby Shower ของยัยมัชที่จัดงานที่บ้านสวนที่อยุธยาบ้านของพี่ทิณ เรียกได้ว่าเป็นงานรวมกัลยาณมิตรเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ เพื่อนฝูง ต่างก็มากันเกือบครบหมด ว่าที่คุณแม่ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ไม่ใช่แค่แขกในงานที่ลุ้นเพศ สามีอย่างเทวทิณณ์เองก็ลุ้นจนตัวโก่งเหมือนกัน มีแต่มัชชุพรที่รู้ ลูกโป่งสีสวยบรรจุแผ่นกระดาษไว้ภายใน สีฟ้าลูกชาย สีชมพูลูกสาว เพื่อน ๆ ต่างก็พนันกันอย่างสนุกสนาน ธิชาเองก็เหมือนกัน ลูบท้องยัยมัชออกจะบ่อย ท้องแหลมแบบนี้โบราณเขาว่าจะได้ลูกสาว งานปาร์ตี้เล็ก ๆ แต่ทว่ากลับอบอุ่น ตอนนี้เองพิภพก็เดินมาหาเธอ พวกเขาต่างก็ไม่มีใครเคอะเขิน พูดคุยทักทายกันอย่างออกรสตามประสาคนรู้จัก“ชาว่าไอ้ทิณจะได้ลูกชายหรือลูกสาว”“ต้องลูกสาวอยู่แล้วค่ะ”“ถ้าลูกชายล่ะ?”“งั้นมาพนันกันไหมละคะ” ก่อนจะหัวเราะออกมาทั้งคู่มัชชุพรถือลูกโป่งยักษ์สีขาวไว้ในมือ เพื่อน ๆ ต่างส่งเสียงเชียร์ฝั่งเพื่อนชายก็ส่งเสียง BOY/ ส่วนฝั่งผู้หญิงก็ GIRL ต่างไม่มีใครยอมใคร อีกทั้งข้าวของเครื่องใช้เด็ก ๆ ที่เพื่อน ๆ ต่างขนมาให้กองพะเนินจนคุณย่าอย่างสาวิตรีอดที่จะหัวเราะกับคนห
หลังจากเกิดเรื่องทางบริษัทเองก็ไม่ได้ใจดำกับลูกน้อง ทางหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานต่างก็เอ่ยปากให้ธิชาลาพักได้อีกสักสองสามวัน เพราะเป็นห่วงเรื่องสภาพจิตใจ และคดีความ แต่ธิชาปฏิเสธอีกทั้งงานตรงหน้าทำให้สมองของเธอหยุดคิดเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาได้ขณะหนึ่ง เพื่อนร่วมงานก็ต่างชวนคุย ดีกว่านั่งอุดอู้อยู่ที่โรงแรมเป็นไหน ๆ ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ทางพิภพเองก็บอกว่ารอให้หาคอนโดได้ใหม่จะส่งมาให้ เธอเองก็เห็นว่าไม่เสียหายอะไร จึงเอาตามนั้น แต่ระหว่างนี้ก็ไม่มีอะไรเกินเลยกันอีก แม้จะพักอยู่ห้องเดียวกันก็ตามธิชาเองก็รู้สึกปลอดภัยที่อีกฝ่ายมาอยู่เป็นเพื่อน หากสภาพจิตใจดีมากกว่านี้อีกสักหน่อยคงต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิม…แต่เธอเองก็ไม่ได้เห็นแก่ตัว พยายามหาห้องใหม่ให้เร็วที่สุด ทางอิทธิเองก็เอ่ยปากช่วยหาห้องใหม่ให้ รวมไปถึงเพื่อนร่วมงานหญิงโสดหลายคนก็แนะนำให้อยู่บ้าง แต่เธอต้องขบคิดสักเล็กน้อย ห้องที่ดี ความปลอดภัยสูงราคาก็แพงตาม ลำพังพนักงานออฟฟิศเงินเดือนไม่มากเท่าไหร่ จะให้หารูมเมทก็ไม่ชอบ เฮ้อ!ธิชากลับโรงแรมที่พักด้วยสภาพอิดโรย หลังเลิกงานต้องตระเวนหาที่อยู่ใหม่อีก “ชา กลับมาแล้วเหรอ ทานอะไรหรือย