ตอนที่ 7
ตัดสัมพันธ์ด้ายแดง
ด้วยธรรมเนียมที่นางรู้มาและยังมีเหล่าท่านป้าทั้งหลายคอยพร่ำสอนนั้น หากบุรุษใดมอบปิ่นหรือป้ายหยกสลักชื่อตระกูลให้สตรีนางใด นั่นหมายความว่าบุรุษผู้นั้นต้องการให้นางเป็นฮูหยินเอกของเขา
“ต้องเสียมารยาทกับคุณชายหลงแล้ว ข้าคงไม่อาจรับของฝากเหล่านี้เอาไว้เจ้าค่ะ” นางเอ่ยตอบโดยไม่หลบตาเขา
“น่าเสียดายยิ่งนัก เช่นนั้นข้าก็จะไม่บังคับคุณหนูให้เกิดความคับข้องหมองใจแล้วกัน แต่คงมีสักวันที่คุณหนูจะได้รับของเหล่านี้แน่นอน”
ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วเดินออกจากศาลาไปโดยไม่เอ่ยลานางสักคำ สร้างความงุนงงให้แก่นางและพวกบ่าวเป็นอย่างมาก
“เยี่ยนเหยียนนั่นใครหรือ ใช่คุณชายหลงที่คนกำลังลือกันอยู่ในตอนนี้หรือไม่ รูปงามนักข้าเห็นแล้วรู้สึกว่าหัวใจข้าคล้ายจะหยุดเต้นเลยล่ะ” จางเลี่ยงซูเอ่ยขึ้นขณะเดินเข้ามานั่งในศาลา
จางเลี่ยงซูเป็นสหายที่รู้จักกันมาปีกว่าแล้ว บิดาของนางเป็นพ่อค้าที่ถือว่ามีอิทธิพลผู้หนึ่งในเมืองไห่เฟิงเลยทีเดียว ทั้งสองได้รู้จักและสนิทกันตอนงานเลี้ยงวันเกิดท่านเจ้าเมือง ตั้งแต่นั้นทั้งสองก็ไปมาหาสู่กันอยู่เรื่อย ๆ
“ใช่! เป็นคนผู้นั้นแหละ มีดีแค่หน้าตาแต่บรรยากาศรอบตัวเขาน่ากลัวจนข้าขนลุกทุกทีที่เข้าใกล้เขาเลยล่ะ” นางเอ่ยพร้อมกับทำท่าลูบแขนตัวเอง
“ไม่จริงเจ้าไม่ชอบเขาต่างหาก เมื่อครู่ที่ข้าเข้ามายังเห็นเขายิ้มให้เจ้าอยู่เลย แต่พอเห็นข้าเขาก็ลุกออกไปทันที เอ๊ะ!! เขารังเกียจข้าหรือ!!” จางเลี่ยงซูพูดเองสรุปเองแล้วก็โกรธเองอยู่คนเดียว
“เอาล่ะไหน ๆ เจ้าก็มาแล้ว เรามาทำหม้อไฟกินกันดีหรือไม่ ข้าให้คนเตรียมทุกอย่างเอาไว้เหลือเพียงเสียบไม้ก็เสร็จแล้ว”
นางเอ่ยเปลี่ยนเรื่อง ตอนแรกก็ว่าจะทำกินกับสาวใช้ในเรือน แต่กินกับสหายตัวเองก็ดีจะได้มีเพื่อนคุยด้วย แม้เรื่องเมื่อครู่จะรบกวนจิตใจนางอยู่ตลอดก็เถอะ
ด้านหลงจิวซิ่งแม้จะถูกปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้รู้สึกขุ่นเคืองใจอะไร กลับกันยังรู้สึกชื่นชอบนางมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ ไม่แน่ว่าอนาคตเขาอาจจะให้น้ำหนักในใจกับนางมากขึ้นอีกเล็กน้อยก็ได้
“คุณชายทำเช่นนี้นางจะไม่เอาไปบอกท่านอ๋องหรือขอรับ” บ่าวคนสนิทเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกังวล
“บอกได้ก็เท่านั้น ท่านอ๋องทำอะไรข้าไม่ได้หรอก หึหึหึ”
เอ่ยพร้อมกับหัวเราะในลำคออย่างอารมณ์ดี ก่อนจะออกไปจัดการเรื่องขยายกิจการร้านต่อ
ข่าวเรื่องที่คุณชายหลงไปพบบุตรสาวที่เรือน ทำให้ท่านอ๋องแทบจะควบม้ากลับมาที่จวนทันที แต่เพราะงานตรงหน้าไม่สามารถทิ้งไปได้จึงได้แต่นั่งทำหน้าทะมึนทึงใส่ลูกน้องอยู่ในตอนนี้
“ท่านอ๋องเรื่องที่ท่านเจ้าเมืองเอ่ยเมื่อครู่นี้เห็นควรว่าอย่างไรดีพะย่ะค่ะ” บ่าวคนสนิทเอ่ยเรียกนายตน
“หื้ม!! อะไรนะพูดอีกรอบซิเมื่อครู่ข้าไม่ทันฟัง” ท่านอ๋องคล้ายจะได้สติกลับมาก่อนเอ่ยถามย้ำ
“เรื่องที่มีกลุ่มคนแอบลักลอบขนเกลือเถื่อนผ่านเมืองของเรา ข้าคิดว่าจะขอกำลังทหารจากท่านอ๋องให้ช่วยเป็นหูเป็นตาเพิ่ม เพราะหากเกิดการปะทะ ความเสียหายในเมืองของเราอาจจะน้อยกว่าพะย่ะค่ะ”
ท่านเจ้าเมืองเอ่ยคำพูดของตัวเองเมื่อครู่อีกครั้ง พร้อมกับเหลือบตามองคนอื่น ๆ ในห้องอย่างขอความช่วยเหลือ
ก็ตอนนี้เหมือนท่านอ๋องจะไม่ได้ฟังสิ่งที่พวกเขาพูดกันเลยนะสิ แถมยังเอาแต่ทำหน้าตาบึ้งตึงจนพวกเขากลัวกันไปหมดแล้ว
“เอาตามที่ท่านว่ามาเลยแล้วกัน จะขอกำลังพลกี่นายก็เขียนรายงานมา วันนี้ก็พอแต่เพียงเท่านี้เถอะข้าขอตัวก่อนมีธุระที่ต้องไปจัดการต่อ”
เอ่ยจบท่านอ๋องก็ลุกออกไปจากห้องทันที โดยไม่รอให้คนใต้บังคับบัญชาได้ก้มหัวลา
“ท่านอ๋องรีบไปไหนกัน ตั้งแต่รับใช้ท่านอ๋องมาข้าไม่เคยเห็นท่านอ๋องรีบร้อนเช่นนี้มาก่อน”
ท่านแม่ทัพหยางถงจิ่งเอ่ยขึ้น แม้เขาจะเพิ่งมาประจำที่เมืองนี้ได้ไม่กี่ปีแต่ก็พอรู้นิสัยท่านอ๋องมาบ้าง
ยามนั้นที่มีพวกนอกด่านบุกเข้ามาในแถบชายแดนใกล้เคียง ท่านอ๋องยังไม่เห็นแสดงท่าทีร้อนรนให้เห็นเลย
“ข้าแอบได้ยินมาว่าคุณชายหลงไปขอพบคุณหนูเยี่ยนเหยียนที่เรือนนะสิ ท่านอ๋องที่เป็นคนหวงลูกสาวเลยเป็นเช่นที่เห็น” กุนซือประจำกองทัพเอ่ยไขข้อข้องใจของทุกคน
“อืม...เช่นนั้นข้าก็ไม่แปลกใจแล้ว จะว่าไปข้ากลับไปหาบุตรสาวที่จวนบ้างดีกว่า”
ท่านเจ้าเมืองเอ่ยขึ้นก่อนจะลุกไปอีกคน ทิ้งให้ท่านแม่ทัพกับกุนซือจากเมืองหลวงนั่งมองหน้ากันอยู่สองคน พวกเขาก็คิดถึงฮูหยินกับลูกที่จวนเหมือนกันนะ
ท่านอ๋องกลับมาถึงจวนก็ตรงดิ่งไปหาบุตรสาวก่อนเป็นอันดับแรก ด้วยเพราะเป็นห่วงและกลัวจะถูกบุรุษผู้นั้นมาล่อลวงบุตรสาวตัวเอง
“ตอนนี้บุตรสาวข้าอยู่ที่ใด!!!!”
“อยู่ที่เรือนของคุณหนูเองพะย่ะค่ะ ตอนนี้กำลังกินหม้อไฟทะเลอยู่กับคุณหนูจางอยู่” พ่อบ้านเอ่ยรายงาน ท่านอ๋องจึงตรงไปที่เรือนบุตรสาว
“แล้วบุรุษผู้นั้นเล่ามันยังอยู่กับลูกข้าหรือไม่!!” ท่านอ๋องยังถามต่อทั้งที่ขายังก้าวฉับ ๆ ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
“คุณชายหลงออกไปข้างนอกตั้งแต่กลับจากเรือนคุณหนูแล้วพะย่ะค่ะ ตอนนี้ยังไม่กลับเข้ามาเลย” เมื่อได้ยินแบบนั้นท่านอ๋องจึงลดฝีเท้าลง ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางกลับไปที่เรือนตัวเองแทน
“อ้าว!! ท่านอ๋องไม่ไปหาคุณหนูแล้วหรือพะย่ะค่ะ!!” พ่อบ้านหลุดปากถามอย่างลืมตัว
“ไม่ไปแล้ว! สหายของนางกลับแล้วเจ้าไปตามนางมาพบข้าที่ห้องหนังสือด้วย!” เอ่ยจบก็เดินหนีไปทันที ทิ้งให้พ่อบ้านยื่นงงอยู่ตรงนั้นเพราะตามอารมณ์เจ้านายไม่ทัน
โจวเยี่ยนเหยียนได้ยินว่าบิดากลับมาแล้ว หลังจากกินหม้อไฟกับจางเลี่ยงซูเสร็จตนจึงจะไปหา แต่ยังไม่ทันเดินออกจากเรือนบิดาก็เข้ามาหาเสียก่อน
“ท่านพ่อ ลูกกำลังจะไปหาพอดีเลยเพคะ” นางเอ่ยเมื่อเห็นบิดาเดินเข้ามาในเรือนตัวเอง
“พ่อได้ยินว่าคุณชายหลงมาหาเจ้า เขาทำอะไรให้เจ้าไม่สบายใจหรือไม่” บิดาเอ่ยถามด้วยสีหน้ากังวลใจ
“เขาเพียงมาพบเท่านั้นไม่ได้ล่วงเกินลูกเพคะ ว่าแต่ท่านพ่อออกไปจัดการเรื่องพวกค้าเกลือเถื่อนไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงกลับมาเร็วนัก” นางพูดให้บิดาสบายใจ ก่อนจะหาทางเปลี่ยนเรื่องคุย
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ พ่อมีเรื่องจะปรึกษาเจ้า” ท่านอ๋องเอ่ยก่อนจะก้มหน้าราวกับกำลังคิดเรื่องบางอย่าง
“เรื่องอะไรงั้นหรือเพคะ ใช่เรื่องของลูกหรือไม่” นางอ่านแววตาของบิดาออกจึงได้ถามออกไปตามตรง
“หากว่าพ่อจะให้เจ้าแต่งงาน เจ้าจะโกรธพ่อหรือไม่” ท่านอ๋องเอ่ยพร้อมกับเงยหน้ามองบุตรสาวอย่างรู้สึกผิด
โจวเยี่ยนเหยียนนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง ตั้งแต่ที่บิดารับนางเป็นบุตรสาวบุญธรรมเขาไม่เคยพูดเรื่องที่จะให้นางแต่งออกไปสักครั้ง
“เพราะคุณชายหลงหรือเพคะ” นางเอ่ยถามถึงบุคคลผู้นั้น ที่ตั้งแต่เข้ามาขออาศัยในจวน บิดาก็ดูจะอารมณ์ไม่คงที่กว่าแต่ก่อนมาก
ท่านอ๋องหลบสายตาบุตรสาว ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จะบอกให้บุตรสาวรู้ได้อย่างไรว่าบุรุษผู้นั้นจ้องจะเอานางเป็นเครื่องมือในการกุมอำนาจทางการค้าในเขตปกครองของเขา
“พ่อจะหาบุรุษที่คู่ควรและให้เกียรติเจ้า รับรองว่าวันหน้าเจ้าจะไม่เสียใจเพราะเขาแน่นอน” ท่านอ๋องไม่ตอบแต่ให้คำมั่นสัญญากับนางแทน
“หากว่าท่านพ่อเห็นสมควรลูกก็ไม่ขัดข้องเพคะ แต่ท่านพ่อก็รู้ลูกหาได้เป็นสตรีโง่เขลามองคนไม่ออก ท่านอย่าได้คิดกังวลแทนลูกไปทุกอย่างเช่นนี้เลยเพคะ ไม่เช่นนั้นท่านจะล้มป่วยเอาได้นะ”
นางเอ่ยกับบิดาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะเห็นว่าบิดาหันมามองนางด้วยสายตารักใคร่เอ็นดู
“เจ้าหาว่าพ่อเป็นตาแก่ขี้โรคหรือ เรื่องเท่านี้ทำอะไรคนอย่างอ๋องโจวจิ้งห้าวไม่ได้หรอก ฮ่าฮ่าฮ่า!!!” เอ่ยจบก็หัวเราะร่า ก่อนที่สองพ่อลูกจะชวนกันไปทานของว่าง
ข้าไม่ยกบุตรสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจให้เป็นเครื่องมือบุรุษทรราชเช่นเจ้าหรอกนะ หลงจิวซิ่ง
ตอนที่ 10ไร้ราคา“ผิดแล้วท่านป้าฮัว บุญคุณที่ข้าติดค้างพวกท่านไว้ ข้าได้ชดใช้คืนให้หมดแล้ว จะให้ข้าพูดหรือไม่ว่าบ้านที่พวกท่านอยู่ทุกวันนี้เป็นเงินของผู้ใดที่พวกท่านเอามาสร้าง” นางเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเงียบไม่พูดต่อในความทรงจำของเจ้าของร่างนี้มีเหตุการณ์หนึ่ง ที่เจ้าตัวบังเอิญไปพบโสมต้นหนึ่งเข้าขณะไปเก็บผักป่าช่วยมารดาตอนอายุแปดขวบตัวมารดาเห็นครั้งแรกก็ดีใจจนออกนอกหน้า วันถัดมาบิดากับมารดาก็เข้าเมืองและซื้อของกลับบ้านมามากมาย แต่นางไม่ได้แตะต้องของเหล่านั้นเลยสักชิ้นต่อมาก็ได้จ้างช่างมาทำบ้านใหม่อย่างดี ทุกคนมีห้องแยกเป็นของตัวเองยกเว้นนางอีกเช่นเคย เพราะนางถูกสั่งให้ไปนอนที่ห้องเก็บฟืนพอนางได้ความทรงจำของร่างนี้มาจึงได้เข้าใจทุกอย่าง ทั้งที่ก่อนหน้านี้นางปล่อยพวกเขาไปแล้วแท้ ๆ ไม่คิดว่าจะเป็นพวกเขาเองที่เดินเข้ามาให้นางเอาคืนถึงบ้านหลังใหม่“ตะ แต่หากไม่ได้ข้ามีหรือเจ้าจะได้มานั่งชูคอเป็นลูกสาวท่านอ๋องอยู่ในตอนนี้ ไม่รู้แหละ!! วันนี้เจ้าต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้พวกข้าสิบตำลึงทอง ไม่เช่นนั้นข้าจะประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเจ้าเป็นคนอกตัญญูเพียงใด!!!”ฮัวเฉิงเห็นท่าว่าอย่างไรก็พูดกันดี ๆ
ตอนที่ 9บุญคุณต้องทดแทนหลังจากที่ขบวนของหมั้นกับเหล่าขันทีจากเมืองหลวงออกจากจวนไปแล้ว บิดาก็เรียกนางเข้าไปพบที่ห้องทำงานใบหน้าของบิดายามนี้ดูอิดโรยนัก ราวกับทำงานหนักติดต่อกันมาหลายวันโดยไม่ได้นอน ทั้งที่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย“ท่านพ่ออย่าทรงคิดมากเลยเพคะ ข้าเพียงแต่งงานเท่านั้นไม่ได้ตายเสียหน่อย” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใสเพราะไม่อยากให้บิดาคิดมาก“เห้อ!!! พ่อรู้ แต่เจ้าลูกเต่านั่นเล่ห์เหลี่ยมของมันมากมายนัก พ่อกลัวว่าเจ้าจะต้องเจ็บปวดเพราะเขา” อ๋องโจวจิ้วห้าวเอ่ยสิ่งที่ตนคิดกังวลออกมา“ท่านพ่ออย่าคิดมากสิเพคะเดี๋ยวแก่เร็วนะ ข้าไม่เป็นไรเลยจริง ๆ ไม่แต่งให้เขาก็ยังมีบุรุษอื่นที่ข้าต้องออกเรือนด้วย แล้วก็ดีเสียอีกที่เป็นคุณชายหลง เรารู้ว่าเขาต้องการสิ่งใดเราก็เพียงยื่นข้อแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อกับเขาก็พอ เท่านี้ชีวิตลูกก็ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว”“หากวันหน้าพ่อไม่อยู่เขาก็จะคิดกำจัดเจ้า แล้วหาตัวประโยชน์คนใหม่มาแทนที่ พ่อยอมไม่ได้ที่จะให้เจ้าเป็นเช่นนั้น”“ท่านพ่อเพคะ! กว่าจะถึงเวลานั้นข้าก็ตั้งหลักได้แล้ว ท่านคิดว่าบุตรสาวผู้นี้จะนั่งทำตัวไร้ประโยชน์เป็นฮูหยินในจวนเขาเฉย ๆ งั้นหร
ตอนที่ 8ฝืนชะตาเรื่องที่ท่านอ๋องจะหาบุรุษให้บุตรสาวบุญธรรมเพียงคนเดียวนั้น ไปถึงหูหลงจิวซิ่งในเย็นวันนั้น ทำให้เขารู้สึกว่าต้องวางแผนทุกอย่างใหม่ ไม่เช่นนั้นตนคงเสียผลประโยชน์ที่คาดการณ์ไว้แน่“นายท่านขอรับ คนของเราบอกมาว่าคุณหนูโจวมักจะออกไปจุดตะเกียงด้วยตัวเองทางด้านหลังเรือนทุกวันตอนยามซวีขอรับ”บ่าวคนสนิทเอ่ยรายงาน ทำให้ผู้เป็นนายที่นั่งอยู่ครุ่นคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้“ปล่อยข่าวลือว่าคุณหนูโจวกับข้ามีใจปฏิพัทธ์ต่อกัน และตอนนี้กำลังพัฒนาความสัมพันธ์กันอยู่ แม้บิดาของนางจะไม่เห็นด้วยก็ตาม”“.....”“เรื่องนี้ทำให้มันเป็นเพียงแค่เรื่องนินทากันในกลุ่มสตรีเท่านั้น ไม่ต้องให้เรื่องใหญ่มากนัก และกำชับคนของเราให้จับตาดูทุกความเคลื่อนไหวของนางให้ดี แล้วมารายงานข้าทุกวัน”“ขอรับ”บ่าวคนสนิทรับคำ ก่อนจะถอยออกจากห้องไป ดูท่าแล้วนายท่านของเขาคงไม่ไช่เพียงต้องการหาผลประโยชน์จากคุณหนูโจวอย่างเดียวแล้ว แต่คงถูกใจนางด้วยส่วนหนึ่งต่างหากรุ่งเช้าข่าวลือเรื่องนี้ก็เริ่มแพร่กระจายไปทีละนิด จนรู้กันทั่วในกลุ่มของฮูหยินและเหล่าคุณหนูในเมืองไห่เฟิง กว่าท่านอ๋องจะรู้ก็หยุดข่าวลือนี้ไม่ได้แล้ว“นี่มันเ
ตอนที่ 7ตัดสัมพันธ์ด้ายแดงด้วยธรรมเนียมที่นางรู้มาและยังมีเหล่าท่านป้าทั้งหลายคอยพร่ำสอนนั้น หากบุรุษใดมอบปิ่นหรือป้ายหยกสลักชื่อตระกูลให้สตรีนางใด นั่นหมายความว่าบุรุษผู้นั้นต้องการให้นางเป็นฮูหยินเอกของเขา“ต้องเสียมารยาทกับคุณชายหลงแล้ว ข้าคงไม่อาจรับของฝากเหล่านี้เอาไว้เจ้าค่ะ” นางเอ่ยตอบโดยไม่หลบตาเขา“น่าเสียดายยิ่งนัก เช่นนั้นข้าก็จะไม่บังคับคุณหนูให้เกิดความคับข้องหมองใจแล้วกัน แต่คงมีสักวันที่คุณหนูจะได้รับของเหล่านี้แน่นอน”ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วเดินออกจากศาลาไปโดยไม่เอ่ยลานางสักคำ สร้างความงุนงงให้แก่นางและพวกบ่าวเป็นอย่างมาก“เยี่ยนเหยียนนั่นใครหรือ ใช่คุณชายหลงที่คนกำลังลือกันอยู่ในตอนนี้หรือไม่ รูปงามนักข้าเห็นแล้วรู้สึกว่าหัวใจข้าคล้ายจะหยุดเต้นเลยล่ะ” จางเลี่ยงซูเอ่ยขึ้นขณะเดินเข้ามานั่งในศาลาจางเลี่ยงซูเป็นสหายที่รู้จักกันมาปีกว่าแล้ว บิดาของนางเป็นพ่อค้าที่ถือว่ามีอิทธิพลผู้หนึ่งในเมืองไห่เฟิงเลยทีเดียว ทั้งสองได้รู้จักและสนิทกันตอนงานเลี้ยงวันเกิดท่านเจ้าเมือง ตั้งแต่นั้นทั้งสองก็ไปมาหาสู่กันอยู่เรื่อย ๆ“ใช่! เป็นคนผู้นั้นแหละ มีดีแค่หน้า
ตอนที่ 6แรกพบเจอ“เจ้าว่าอย่างไรนะ!! แล้วคุณชายหลงคนพี่หรือคนน้องที่มา” บิดานางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก“คุณชายหลงคนพี่พะย่ะค่ะ ชื่ออะไรนะ อ่อ...หลงจิวซิ่ง ใช่ ๆ ที่มีบรรยากาศน่ากลัว ๆ หน่อย”บ่าวผู้นั้นรายงานจบก็รีบขอตัวกลับออกไป เพราะอารมณ์คนหวงลูกสาวเริ่มปะทุขึ้นมาแล้ว“เหยียนเอ๋อร์เจ้าอยู่แต่ในเรือนตัวเองห้ามออกไปไหนเด็ดขาดจนกว่าพ่อจะให้คนไปตาม เข้าใจหรือไม่!!” บิดาหันมาเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงจริงจัง ราวกับกำลังเกิดศึกสงครามอย่างไรอย่างนั้น“เพคะ ๆ เอาแบบเดิมใช่หรือไม่เพคะ” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ เพราะเวลามีแม่สื่อหรือคุณชายบ้านใดมาที่จวน บิดาก็จะสั่งนางเช่นนี้เสมอ“ไป๋ลู่พาคุณหนูเจ้ากลับเรือนไปให้ไวเลย!!” บิดาเอ่ยก่อนจะขอตัวไปรับแขก นางจึงเดินกลับเรือนไปอย่างว่าง่ายบิดานางก็แปลกคน เขาผ่านมาขอพักที่จวนไม่ได้มาสู่ขอนางอย่างทุกครั้งเสียหน่อย ทำเป็นหวงนางไปได้“คุณหนูเมื่อครู่พ่อบ้านบอกว่ามีคนเอาสัตว์เปลือกแข็งมาส่ง คุณหนูจะทำอะไรทานดีเพคะ” ไป๋ลู่เอ่ยรายงานขณะเดินตามนางกลับเรือน“จริงหรือ!!! ไปดูกันเถอะถ้าได้กุ้งเยอะรอบนี้ข้าจะทำข้าวต้มกุ้งให้ท่านพ่อลองทาน” นางเอ่ยอย่างตื่
ตอนที่ 5สถานะที่แท้จริงเมื่อนายท่านพูดจบในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบทันที โดยเฉพาะฮัวหนิงอันที่พูดคำใดไม่ออกไปชั่วครู่ เจ้าของร่างนี้เป็นถึงลูกพระชายาอ๋องเลยงั้นหรือ!!“มะ หม่อมฉันเป็นลูกของพระชายาเลยหรือเพคะ!” นางเอ่ยถามเพื่อความมั่นใจ แต่ก็ต้องนิ่งค้างไปอีกครั้งกับคำตอบของนายท่านตรงหน้า“ไม่ใช่ เจ้าเป็นลูกของข้ากับนางต่างหาก เจ้าอ๋องชั่วช้าผู้นั้นไม่สมควรเป็นบิดาของใครด้วยซ้ำ!!” ฮัวหนิงอันยิ่งงุนงงมากกว่าเดิมท่านเอ่ยเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกันแน่ ไม่ใช่ว่ามารดาของนางแอบคบชู้แล้วไปแต่งกับบุรุษอีกคนหรอกนะ ยุคจีนโบราณมีเรื่องอะไรเช่นนี้ด้วยหรือ“.......”“ข้าโจวจิ้งห้าวเป็นน้องชายของอ๋องผู้นั้น และเป็นอดีตคนรักของมารดาเจ้า จากนี้ข้าจะรับเจ้าเป็นลูกบุญธรรมของข้าเอง” นายท่านหรือท่านอ๋องโจวจิ้งห้าวเอ่ยกับเด็กสาวที่นั่งทำหน้างุนงงอยู่“แปลว่านายท่านก็คือท่านอ๋องเช่นกันหรือเพคะ แล้วหมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าข้าคือลูกของท่านกับท่านแม่ ช่วยอธิบายให้ข้าเข้าใจมากกว่านี้ได้หรือไม่เจ้าคะ”นางเอ่ยถามโดยไม่สนใจคำแทนตัวที่แสนยุ่งยากนั่น ทำให้คนตรงหน้าพอจะรู้ตัวว่าตนยังไม่ได้อธิบายเรื่องทุกอย่างให้