แชร์

บทที่ 3 สมรสพระราชทาน

ผู้เขียน: กะปอมพ่นไฟ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-04 12:20:08

“น้องหญิงรองรีบเกินไปหรือไม่ งานเลี้ยงจัดปลายยามอู่ นี่เพิ่งจะต้นยามเซิ่นเท่านั้นเอง น้องหญิงรองคงจะตื่นเต้นมากเกินไปเป็นแน่อายุ 17 หนาวแล้วแต่พึ่งจะเคยได้ออกงานใหญ่เป็นครั้งแรก”

หยางซูมี่เหยียดยิ้มหวานปานน้ำผึ้ง แต่คำพูดนั้นกลับทำให้คนฟังรู้สึกเจ็บปวดใจ ด้วยฐานะของหยางเจียลี่เป็นเพียงแค่บุตรีที่ถือกำเนิดมาจากฮูหยินรอง

การที่หยางเจียลี่จะได้รับเทียบเชิญให้ไปร่วมงานเลี้ยงนั้นมีจนนับนิ้วได้ และโดยเฉพาะงานเลี้ยงในพระราชวังนั้น นี่ถือเป็นครั้งแรกที่นางจะได้ร่วมงานเลี้ยง นางจึงอดจะตื่นเต้นตามที่หยางซูมี่เอ่ยมิได้จริงๆ หยางเจียลี่ได้แต่กัดฟันยิ้มหวานเอ่ยตอบไป

“เป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ น้องตื่นเต้นมากเกินไป ต้องขออภัยพี่หญิงใหญ่ด้วยนะเจ้าคะ”

หยางซูมี่ทำเพียงโบกมือไปมาอย่างไม่ถือสา แล้วก้าวเดินขึ้นไปนั่งบนรถม้าโดยมีซินซินช่วยประคอง

เมื่อรถม้าตระกูลหยางจอดที่ด้านหน้าพระราชวัง ผู้คนโดยรอบต่างเมียงมองกันมาทางนี้ ภายในแคว้นเซี่ยนั้นตระกูลหยางนับเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ที่มีอำนาจอีกสามตระกูลคือ ตระกูลจ้าวของท่านแม่ทัพจ้าวซีซวน ตระกูลหม่าของฮองเฮาหม่าลี่อิง และตระกูลมู่ของไทเฮามู่อิงฮวา ทั้งสี่ตระกูลล้วนคานอำนาจกันมาโดยตลอด

เสนาบดีหยางหมิงก้าวลงมาเป็นคนแรก แม้ว่าจะอยู่ในวัยกลางคนแล้ว แต่ก็มิอาจลดทอนความหล่อเหลา สง่างามของเขาได้เลยกลับกันยิ่งอายุเยอะกลับยิ่งดูภูมิฐานและมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก คุณชายใหญ่หยางเฟยเทียน ก้าวลงมาเป็นคนที่สอง เขามีใบหน้าคมเข้มที่ถอดแบบหยางหมิง มีเพียงนัยน์ตาที่เรียวคมดุจนัยน์ตาเหยี่ยว ผิวของเขาคล้ำเข้มอย่างผู้ที่ฝึกยุทธ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นถึงรองแม่ทัพแห่งทิศประจิม ภายใต้การนำทัพของท่านแม่ทัพจ้าวซีซวนผู้เป็นตา

เมื่อหยางซูมี่ก้าวลงมาจากรถม้าคันที่สอง ทั้งบุรุษและสตรีต่างพากันหยุดหายใจไปหนึ่งจังหวะ โฉมสะคราญที่มีใบหน้ารูปหัวใจ คิ้วโก่งดั่งคันศร สอดรับกับจมูกโด่งรั้นสวย นัยน์ตากลมโตแวววาวดั่งนัยน์ตากวาง ปลายหางตาเชิดขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากสีแดงก่ำดั่งผลอิงเถา วันนี้หยางซูมี่สวมใส่อาภรณ์สีขาวปักลายดอกอิงฮวาสีแดง ปักปิ่นหยกสีเขียวมันแพะที่แกะสลักเป็นดอกอิงฮวา ความงามของหยางซูมี่ให้ความรู้สึกงดงามสูงค่าประหนึ่งเซียนสาวลงมาเที่ยวเล่นยังแดนมนุษย์

หยางซูมี่เดินเข้าไปหาหยางเฟยเทียน นางยอบกายคารวะผู้อาวุโสที่เดินเข้ามาทักทายบิดา และพี่ชายใหญ่ด้วยท่วงท่างดงามถูกต้องตามหลักการแบบแผนของสตรีชนชั้นสูง

หยางเจียลี่และหยางเฟยหรง ก้าวลงมาจากรถม้าเป็นคนสุดท้าย สองพี่น้องพากันเดินไปสมทบกับเสนาบดีหยางหมิง แม้ว่าวันนี้หยางเจียลี่จะสวมอาภรณ์สีเหลืองอ่อนปักลายดอกเหลียนฮวา ให้ความรู้สึกน่ารัก สดใสสมวัย แต่เมื่อยืนใกล้กับหยางซูมี่แล้วความงามของนางยังด้อยกว่าถึงสามส่วน

หยางเฟยหรงคือบุตรชายคนเล็กที่ถือกำเนิดจากหม่าอี่นั่ว ปีนี้เขาอายุได้ 10 หนาวแล้วจึงสามารถมาร่วมงานเลี้ยงที่พระราชวังได้ หยางเฟยหรงอายุได้เพียง 10 หนาว แต่ก็ได้ฉายแววความหล่อเหลาออกมาให้เริ่มมองเห็นแล้ว ใบหน้าของเขาถอดแบบเสนาบดีหยางหมิงถึงแปดส่วน คนตระกูลหยางนั้นขึ้นชื่อเรื่องหน้าตาที่งดงามหล่อเหลาทั้งสิ้น

งานเลี้ยงจะเริ่มเมื่อปลายยามอู่แต่เวลานี้เพิ่งต้นยามเซิ่นเท่านั้น คุณหนูคุณชายที่มาถึงก่อนเวลาจึงได้ใช้ช่วงเวลานั้นเพื่อพูดคุยพบปะกับสหายกันที่อุทยานหลวงที่ถูกจัดไว้ให้ ขุนนางที่สนิทสนมกันต่างก็พากันจับกลุ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนข่าวสารกัน งานเลี้ยงวันนี้ถือว่าเป็นการผ่อนคลายจากการทำงานอย่างหนักของเหล่าขุนนาง

หยางหมิงได้เดินแยกไปหาสหายที่เป็นขุนนาง หยางเฟยเทียนได้ชวนหยางเฟยหรงไปยังลานยิงธนู หยางซูมี่นั้นจำต้องพาหยางเจียลี่ไปด้วยกัน เดินมาได้สักพักหยางเจียลี่ก็พบกับสหายทั้งคู่จึงได้เดินแยกทางกัน จะมาพบกันอีกครั้งเมื่อถึงเวลาที่งานเลี้ยงเริ่ม

“เหตุใดเจ้าถึงได้พาน้องสาวมาด้วยเล่ามี่เอ๋อร์”

หม่าฮุ่ยหลิงเอ่ยถามสหายสนิทของตน เมื่อหยางซูมี่เข้ามานั่งที่ศาลา

“ท่านพ่ออยากให้นางได้มาเปิดหูเปิดตา ปีนี้นางจะอายุ 17 หนาวแล้ว สมควรมองหาคู่ครองได้แล้ว” หยางซูมี่เอ่ยตอบสหายอย่างไม่ใส่ใจนัก

“แล้วเจ้าเล่ามี่เอ๋อร์ ปีนี้เจ้าก็อายุ 18 หนาวแล้วได้เริ่มมองหาคู่ครองบ้างหรือยังเล่า มีคุณชายตระกูลไหนที่เจ้าหมายตาไว้บ้าง”

“ข้าอยากจะเป็นสาวเทื้อขึ้นคานเสียมากกว่า”

หยางซูมี่เอ่ยตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก สหายที่นั่งในศาลาต่างพากันหัวเราะ ถ้าโฉมสะคราญดั่งหยางซูมี่ขึ้นคานกลายเป็นสาวเทื้อ สตรีในใต้หล้านี้ก็ไม่มีผู้ใดได้แต่งงานออกเรือนแล้ว

“เจ้าอย่าได้พูดเล่น ข้าได้ข่าวจากข้างในว่าฮ่องเต้จะทรงพระราชทานสมรสให้กับท่านอ๋องเซี่ยเหวินหรง ในแคว้นเรามีเพียงหญิงงามสามคนเท่านั้นที่เหมาะสม

เถาซูเม่ยเอ่ยด้วยเสียงเบาราวกับกระซิบ

“เม่ยเอ๋อร์เจ้าจะกระซิบไปทำไม ข่าวลือนี้เขารู้กันไปทั่ว แม้แต่ชาวบ้านยังรู้เลย”

หม่าฮุ่ยหลิงส่ายหน้าอย่างอ่อนใจกับสหายของตน นี่นางตกข่าวไปหรือไม่

“อันนั้นคือข่าวทั่วไป แต่ข้านั้นรู้แล้วว่าผู้ใดจะได้สมรสพระราชทานกับท่านอ๋องเซี่ยเหวินหรง”

เถาซูเม่ยเอ่ยอย่างไม่ยอมแพ้ ใบหน้ากระหยิ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“เจ้ารู้สิ่งใดก็รีบคลายออกมาเลยนะ”

หม่าฮุ่ยหลิงเริ่มตื่นเต้นไปกับข่าวของเถาซูเม่ย

“ไทเฮาทรงประสงค์จะให้คุณหนูมู่เหลียนฮวาแต่งเข้ามาเป็นพระชายา แต่ฮ่องเต้กับฮองเฮาทรงประสงค์ที่จะให้คุณหนู...”

เถาซูเม่ยยังเอ่ยไม่ทันจบ นางกำนัลก็ได้เข้ามาเชิญให้พวกนางกลับเข้าไปที่งานเลี้ยง เพราะอีกไม่นานงานเลี้ยงจะเริ่มขึ้นแล้ว หม่าฮุ่ยหลิงกับหยางซูมี่ได้แต่ทำหน้าเสียดาย แต่จนใจที่ต้องเดินตามนางกำนัลออกไป เถาซูเม่ยส่งสายตาหยอกล้อมาที่สหายของตน พลางหัวเราะออกมาเสียงเบา สร้างความหมั่นไส้ให้กับหยางซูมี่และหม่าฮุ่ยหลิง

เมื่อทุกคนนั่งประจำที่กันเรียบร้อยแล้ว เสียงประกาศของขันทีดังลั่นเป็นสัญญาณเพื่อบอกให้ทุกคนทราบว่าตอนนี้โอรสสวรรค์ได้ทรงเสด็จเข้ามายังงานเลี้ยงแล้ว

“ฮ่องเต้เสด็จ ฮองเฮาเสด็จ ไทเฮาเสด็จ”

ทุกคนต่างรีบลุกขึ้นยืนแล้วถวายความเคารพอย่างพร้อมเพรียงกัน

เมื่อฮ่องเต้ทรงประทับนั่งบนบัลลังก์มังกรสีเหลืองอร่ามเรียบร้อยแล้ว จึงโบกพระหัตถ์เพื่อให้ทุกคนนั่งลงได้ ที่นั่งของแต่ละพระองค์ถูกจัดไว้ตามลำดับขั้นฐานะ ที่นั่งทางด้านขวาพระหัตถ์ของฮ่องเต้ทรงมีฮองเฮาประทับอยู่ ส่วนทางด้านซ้ายของพระหัตถ์นั้นเป็นไทเฮา

เก้าอี้ถัดมานั้นทางด้านซ้ายจะเป็นที่นั่งของบุรุษ โดยคนแรกคือท่านอ๋องเซี่ยเหวินหรง ถัดไปเป็น จวิ้นอ๋องเซี่ยเหวินหลิน เป้ยเล่อเซี่ยป๋อหลิน และถัดไปเป็นครอบครัวของขุนนางที่เป็นบุรุษ

ส่วนทางด้านขวานั้นจะเป็นที่นั่งของบรรดาเหล่าสนมทั้งหลายของฮ่องเต้ และครอบครัวของเหล่าขุนนางที่เป็นสตรีทั้งหมด

ท่านอ๋องเซี่ยเหวินหรงนั้นถือกำเนิดมาจากพระสนมเว่ยกุ้ยเฟยทรงพระนามว่าเว่ยซูฉี ส่วนท่านอ๋องทั้งสองนั้นล้วนถือกำเนิดจากพระสนมขั้นผิน หลังจากฮ่องเต้พระองค์ก่อนสิ้นพระชนม์ ฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลงได้ทรงพระราชทานตำแหน่งอ๋องและตำหนักให้ มีเพียงเซี่ยเหวินหรงที่ไม่ได้ตำแหน่งอ๋องที่ชัดเจน มีเพียงตำแหน่งท่านแม่ทัพแห่งกองทัพพยัคฆ์ทมิฬเท่านั้น แต่ทุกคนต่างรู้กันดีว่าอำนาจของท่านอ๋องเซี่ยเหวินหรงเปรียบดั่งตำแหน่งของชินอ๋อง

เซี่ยเฟยหลงเอ่ยเปิดงานเพื่อเริ่มงานเลี้ยงได้ จากนั้นจึงได้มีการแสดงต่างๆ ตรงกลางลานแสดง นางกำนัลต่างยกอาหารและสุรามารับรองแขกทั้งหลาย น้ำชาก็ล้วนเป็นชาชั้นดี หยางซูมี่นั่งชมการแสดงอย่างสุนทรีย์

อาหารล้วนมีหลากหลายให้เลือกชิม ทั้งอาหารคาวและของหวาน ขึ้นชื่อว่านี่คืองานเลี้ยงในพระราชวัง สิ่งใดดีล้วนมีทั้งสิ้น สุราเองก็เป็นสุราที่ทำมาจากผลท้อที่ใช้เวลาหมักถึงห้าปี รสชาติหวานละมุนติดขมที่ปลายลิ้น หยางซูมี่ดื่มหมดไปถึงสามจอก หากเป็นสตรีอื่นคงเกิดอาการมึนเมาบ้างแล้ว แต่มิอาจจะทำอะไรกับหยางซูมี่ได้

เซี่ยเหวินหรงสนใจเพียงแค่จอกสุราในมือ และโฉมงามที่กำลังยกจอกสุราขึ้นดื่มเป็นจอกที่ห้า ประหนึ่งว่าในจอกนั้นเป็นเพียงน้ำชาหาใช่สุราไม่ ความสนใจของเขาที่มีต่อโฉมงามนั้นทำให้เขามิอาจจะละสายตาออกไปได้เลย แม้ว่าเขากำลังสนทนากับน้องชายอย่างเซี่ยเหวินหลิน แต่สายตาคมก็จะวกกลับไปหาที่นางตลอด

ช่วงเวลาสำคัญของงานเลี้ยงได้มาถึงแล้ว เซี่ยเฟยหลงทรงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยด้วยพระสุรเสียงดังกังวาน

“งานเลี้ยงในวันนี้เจิ้นจัดขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะเหนือแคว้นฉิน แต่ถึงแม้เราจะเอาชนะมาได้ แต่เราก็ได้สูญเสียทหารกล้าที่พลีชีพเพื่อแผ่นดินบ้านเกิด เพื่อให้ลูกหลานของแคว้นเซี่ยได้ดำรงชีวิตอยู่ต่อไป จอกนี้เจิ้นขอดื่มเพื่อไว้อาลัยแด่ทหารกล้าที่พลีชีพเพื่อบ้านเมือง”

เซี่ยเฟยหลงยกจอกสุราขึ้นดื่ม ทุกคนต่างก็ทำตามเช่นกัน

“ครอบครัวของทหารกล้าที่พลีชีพจะได้รับเงินชดเชยจากเจิ้น ทหารที่ทำผลงานได้ดีเจิ้นจะตกรางวัลให้อย่างเหมาะสม และเซี่ยเหวินหรงแม่ทัพแห่งกองทัพพยัคฆ์ทมิฬผู้นำทัพที่สามารถรบชนะแคว้นฉินได้ เจิ้นมีรางวัลพิเศษให้”

ทุกคนต่างลุ้นระทึกและคาดเดาไปต่างๆ นานา ถึงรางวัลที่ฮ่องเต้จะทรงพระราชทานให้กับท่านอ๋องเซี่ยเหวินหรง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีข่าวลือออกมา ทุกคนต่างพากันคาดเดาว่าสตรีใดที่จะเป็นผู้โชคดีที่ได้แต่งเข้าจวนของท่านอ๋องเซี่ยเหวินหรง

“เซี่ยเหวินหรงพระอนุชาแห่งเราผู้นำทัพแห่งกองทัพพยัคฆ์ทมิฬสามารถนำชัยชนะแคว้นฉินได้ เราในฐานะโอรสสวรรค์ผู้ปกครองแคว้นเซี่ย ประสงค์มอบสมรสพระราชทานให้เซี่ยเหวินหรงกับคุณหนูใหญ่ หยางซูมี่ บุตรีของเสนาบดีกรมคลังหยางหมิง นับจากนี้อีกหนึ่งเดือนให้แต่งเข้ามาเป็นพระชายาเอกในชินอ๋องเซี่ยเหวินหรง”

สิ้นเสียงของโอรสสวรรค์ ดั่งมีสายฟ้าฟาดผ่าเปรี้ยงลงมา

นอกจากฮ่องเต้จะทรงพระราชทานสมรสแล้ว ยังทรงประกาศมอบตำแหน่งชินอ๋องให้กับเซี่ยเหวินหรงอีกด้วย แม้ว่าหลายคนพอจะคาดเดาได้ว่าผู้ใดจะได้แต่งเข้าจวนอ๋อง

แต่การที่ฮ่องเต้ทรงประกาศว่าหยางซูมี่จะถูกแต่งตั้งเป็นพระชายาเอกชินอ๋องนั้น แสดงให้เห็นว่าพระอนุชาผู้นี้มีน้ำหนักในพระทัยของพระองค์เป็นอย่างมาก ตำแหน่งชินอ๋องนั้นปกติจะเป็นรองเพียงองค์รัชทายาทเท่านั้น แต่ตอนนี้ฮ่องเต้ยังไม่มีพระโอรสหรือพระธิดา ดังนั้นตำแหน่งชินอ๋องจึงเป็นรองเพียงฮ่องเต้เท่านั้น

การที่ฮ่องเต้ทรงเลือกหยางซูมี่ให้เป็นพระชายาเอกของเซี่ยเหวินหรงนั้น มีทั้งผู้ที่ยินดีในวาสนาของหยางซูมี่ และก็มีหลายๆ คนที่ผิดหวังเสียใจ และริษยาที่วาสนานี้ไม่ได้ตกมาถึงตนเอง แต่กลับมีใครบางคนที่กำลังรู้สึกเกรี้ยวกราดจนยากจะสงบใจไว้ได้ แม้ใบหน้าจะยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่ภายในใจกลับร้อนรุ่มไปด้วยเพลิงโทสะ แผนการที่วางไว้ในใจมานานหลายปี กลับพังทลายลง ก้าวช้าเพียงหนึ่งก้าวหมากล้มทั้งกระดาน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 4 (ตอนปลาย)

    ตอนพิเศษ 4 (ตอนปลาย) “คุณหนูกู่เกรงใจเกินไปแล้ว ในฐานะตัวแทนของฝ่าบาทพวกข้าต้องมาร่วมยินดีอยู่แล้ว”หยางซูมี่เดินเข้างานไปเลย ไม่ได้สนใจสตรีนางนี้มากนัก ทำเพียงเหมือนกับว่านางไม่คู่ควรที่จะให้พระชายาเช่นนางต้องมาเสวนาด้วย กู่เจียอีได้แต่ลอบกำมือแน่น คอยดูเถอะวันนี้ข้าจะเหยียบหน้าจมให้จมดิน และจะกลายมาเป็นพระชายาของชินอ๋องให้จงได้“เจ้าอยากเล่นกับนางหรือไม่” เซี่ยเหวินหรงหันมาเอ่ยถามภรรยาคนงาม“ให้บทเรียนกับนางเบาๆ ก็พอเจ้าค่ะ” หยางซูมี่หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ใส่พระสวามีงานเลี้ยงในจวนเจ้าเมืองวันนี้ กลับพบว่าขณะที่ทั้งหมดกำลังสนุกสนานกันภายในงานเลี้ยงนั้น กลับพบว่าคุณหนูกู่เจียอีผลัดตกลงไปในสระน้ำ แต่โชคดีที่มีคุณชายท่านหนึ่งช่วยเอาไว้ได้ แต่เพราะตอนเปียกน้ำทำให้ทั้งสองได้แนบชิดกัน และด้วยอาภรณ์ของกู่เจียอีนั้นที่เป็นสีขาว ทำให้มองเห็นเรือนร่างของนาง จนมองเห็นไปถึงเอี๊ยมตัวใน และคุณชายผู้นี้ก็ได้แตะต้องนางไปแล้วแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ด้วยเหตุนี้ในหนึ่งเดือนต่อมาจึงได้เกิดงานมงคลขึ้นกู่เจียอีได้แต่งเข้าไปเป็นฮูหยินรอง เน

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 4 (ตอนต้น)

    ตอนพิเศษ 4 (ตอนต้น) หลังจากงานแต่งผ่านไปได้หนึ่งเดือน คนในตระกูลหยางนำโดยท่านเสนาบดีหยางหมิงได้เดินทางกลับเมืองหลวง พวกเขานั้นได้จากเมืองหลวงมานานมากแล้ว สมควรต้องไปจัดการงานที่ค้างคาเอาไว้ แม้จะเสียดายที่หยางซูมี่กับเซี่ยเหวินหรงไม่ได้กลับไปด้วยก็ตาม“ท่านพ่อเดินทางกลับดีๆ นะเจ้าคะ อีก 3 เดือนลูกจะกลับเมืองหลวงพร้อมท่านอ๋องเจ้าค่ะ”“ดูแลตัวเองดีๆ ด้วยมี่เอ๋อร์ ข้าน้อยขอฝากบุตรสาวด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ประโยคท้ายหยางหมิงหันไปเอ่ยกับเซี่ยเหวินหรง“ท่านพ่อตาอย่าได้เป็นห่วง มี่เอ๋อร์อยู่กับข้าย่อมต้องปลอดภัย”เซี่ยเหวินหรงให้คำมั่น ทั้งสองยืนส่งจนขบวนรถม้าเคลื่อนตัวห่างไปเรื่อยๆ“พี่ต้องกลับไปยังจวนเจ้าเมืองเพื่อพบหน้ากับเจ้าเมืองคนใหม่ เจ้าอยู่ที่นี่ดีๆ แล้วพี่จะรีบกลับมา” เซี่ยเหวินหรงลูบหัวหยางซูมี่ด้วยความเอ็นดู“เจ้าค่ะท่านพี่”หยางซูมี่พยักหน้ารับ แล้วเขย่งปลายเท้ายื่นหน้าไปจูบแก้มสาก จนใบหูของเขาขึ้นสีแดงก่ำ“รีบกลับมานะเจ้าคะ ข้าจะรออาบน้ำพร้อมกับท่านพี่”หยางซูมี่ขยิบตาใส่เซี่ยเหวินหรง

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 3 (ตอนปลาย)

    ตอนพิเศษ 3 (ตอนปลาย) เซี่ยเหวินหรงเองก็รีบปลดอาภรณ์ของเขาออกเช่นกัน ร่างกายสูงใหญ่ไร้อาภรณ์ปกปิดกาย มองเห็นกล้ามหน้าท้องหนั่นแน่นที่เป็นลอนสวยอย่างคนที่ออกกำลังกาย ตรงกึ่งกลางเห็นแท่งหยกที่เริ่มจะขยายตัวอวดความศักดิ์ดาของตน หยางซูมี่ลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นแท่งหยกของเขาหยางซูมี่เนื้อตัวแดงก่ำด้วยความเขินอาย แม้จะเคยร่วมรักกับเขามาหลายครั้ง แต่นางกับเขาก็ห่างหายกันไป 2 ปีกว่า นางจึงรู้สึกประหม่ามากนัก แต่เพราะไม่อยากจะให้เขารู้ว่านางนั้นเขินอายมากเพียงใด จึงทำใจกล้าเงยหน้ามองร่างสูง ยกยิ้มอ่อนหวานแล้วเอื้อมมือไปปลดสายผูกเอี๊ยมออก ทำให้ปราการชิ้นสุดท้ายหลุดร่วงลงมา มองเห็นก้อนเต้าหู้อวบอิ่มสองก้อนและเม็ดทับทิมสีชมพูระเรื่อเซี่ยเหวินหรงไม่อาจจะอดใจได้อีกต่อไป เขาช้อนร่างบางของหยางซูมี่อุ้มลงไปในถังอาบน้ำด้วยกัน เขานั่งพิงขอบอ่างให้หยางซูมี่นั่งบนตักแกร่ง มือข้างหนึ่งบีบสะโพกกลมกลึง อีกข้างก็ยื่นไปข้างหน้ากอบกุมก้อนเต้าหู้บีบคลึงอย่างอ่อนโยน นิ้วชี้เขี่ยเม็ดทับทิมสีชมพูจนตั้งช่อชูชันขึ้นมา“อ๊าาาา ท่านพี่”เซี่ยเหวินหรงจับร่างบางหั

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 3 (ตอนต้น)

    ตอนพิเศษ 3 (ตอนต้น) ขบวนเจ้าบ่าวนำโดยชินอ๋องเซี่ยเหวินหรง พระองค์ขี่อาชาโลหิตสีขาวนำขบวนสินสอดมากกว่า 100 หีบ โดยมีทหารของกองทัพพยัคฆ์ทมิฬคอยดูแล แม้ว่าหยางซูมี่จะเอ่ยว่าต้องการจัดงานแต่งงานแบบเรียบง่ายแต่เมื่อฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลงทรงทราบก็รีบส่งม้าเร็วนำราชโองการสมรสพระราชทานมามอบให้ ทั้งยังระบุว่าชินอ๋องจะมีหยางซูมี่เป็นพระชายาแต่เพียงผู้เดียวจวบจนทั้งคู่สิ้นอายุขัยข่าวการแต่งงานครั้งที่สองของทั้งคู่แพร่สะพัดไปทั่วแคว้นเซี่ย บางคนต่างก็ยินดีที่ทั้งสองกลับมาใช้ชีวิตร่วมกัน แต่บางคนก็ค่อนขอดที่ทั้งสองเลิกรากันไปแล้วแต่ยังกลับมาแต่งงานกันอีกครั้ง ไม่ว่าผู้คนจะพูดกันอย่างไร แต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็หาได้สนใจไม่ เพราะทั้งคู่ได้ตกลงใจที่จะกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง คำพูดของผู้อื่นหาได้สลักสำคัญกับพวกเขาทั้งสองคนไม่เซี่ยเหวินหรงขี่ม้ามาหยุดที่หน้าประตูบ้านพักของหยางซูมี่ เมื่อเขาเดินเข้าไปยังห้องโถงหลักก็พบว่าหยางซูมี่นั้นยืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว วันนี้นางสวมชุดสีแดงมงคลปักลายหงส์สยายปีก และมีผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงสวมทับเอาไว้ที่ศีรษะ ทำให้เขาไม่

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 2

    ตอนพิเศษ 2 ริมชายหาดแห่งหมู่บ้านผิงอัน มีสตรีร่างบอบบาง กับบุรุษร่างสูงใหญ่นั่งอิงแอบกันอยู่ใต้ต้นมะพร้าว สายตาทั้งคู่ทอดมองออกไปยังน้ำทะเลใสสีเขียวมรกต หาดทรายสีขาวละเอียด ลมทะเลพัดมาเป็นระยะๆ คล้ายกับกำลังปลอบประโลมคนทั้งคู่ ทั้งสองปล่อยให้จิตใจได้ซึมซับกับธรรมชาติที่สวยงามนี้“เจ้ามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อใด” เซี่ยเหวินหรงหันมาเอ่ยถามในสิ่งที่เขาสงสัย“ข้ามาถึงเมื่อสามวันก่อนเจ้าค่ะ ข้าตั้งใจมาทำให้ท่านแปลกใจเล่น” หยางซูมี่เอ่ยพลางหัวเราะ นัยน์ตาพราวระยับดั่งดวงดารา“รู้หรือไม่ว่าทำข้าเป็นห่วง ตอนที่ข้ารู้ว่าเจ้าหายตัวไป”เซี่ยเหวินหรงเอื้อมมือไปบีบจมูกโด่งรั้นอย่างมันเขี้ยว“ข้าเจ็บนะเหวินหรง”หยางซูมี่หันมาดุเขาอย่างไม่จริงจังนัก เซี่ยเหวินหรงเอื้อมมือไปกอบกุมที่มือขาวบางอย่างทะนุถนอม“ข้าไม่คิดว่าจะได้เจอเจ้าเร็วถึงเพียงนี้ ที่นี่มีเรื่องให้ข้าจัดการมากมายนัก ข้ายังคิดว่าอย่างเร็วก็คงอีกสักปีสองปีถึงจะกลับไปหาเจ้าที่เมืองหลวงได้”“ข้ารู้ว่าท่านทำงานหนักมากเพียงได ดูสิชินอ๋องผู้สง่างามกลายร่

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ 1 2 ปีต่อมาชายแดนใต้ของแคว้นเซี่ยที่ติดกับทะเล เมื่อ 2 ปีก่อนมีการค้าเกลือเถื่อนเกิดขึ้น เซี่ยเหวินหลินที่ได้ออกมาจัดการนั้น กลับจัดการแบบปล่อยผ่าน อนึ่งเพราะมีผลประโยชน์ร่วมกับพ่อค้าที่ค้าเกลือเถื่อนแต่หลังจากที่ชินอ๋องเซี่ยเหวินหรงจัดการปราบปรามกบฏได้หมดสิ้น จึงได้ทูลขอฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลงมาปราบปรามการค้าเกลือเถื่อน และมาจัดระบบการปกครองใหม่ของชายแดนใต้ ซึ่งฮ่องเต้ก็ได้ออกพระราชโองการมอบอำนาจทุกอย่างให้ชินอ๋องเป็นผู้จัดการทั้งหมดตลอดเวลากว่าสองปีที่ผ่านมานี้เซี่ยเหวินหรงออกรบไปปราบปรามโจรสลัดทั้งในน่านน้ำ และบนเรือ โจรสลัดนั้นชอบขึ้นมาดักปล้นฆ่าชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่ง แต่หลังจากที่ชินอ๋องมาโจรสลัดก็หนีหายไปหมดด้วยหวาดเกรงชินอ๋องนอกจากจะปราบโจรสลัดแล้ว เซี่ยเหวินหรงยังต้องเข้ามาปราบปรามพ่อค้าเกลือเถื่อน และยังต้องมาจัดระเบียบเมืองหนานผิงใหม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเจ้าเมืองหนานผิงปกครองเมืองชายแดนใต้อย่างไร้ความยุติธรรม กดขี่ข่มเหงชาวเมืองหนานผิง ทหารประจำเมืองก็ชอบรีดไถจากชาวบ้าน เรียกร้องค่าคุ้มครอง หากครอบค

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status