Home / รักโบราณ / สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ / บทที่ 6 คืนเข้าหอมีค่าดั่งทองพันชั่ง

Share

บทที่ 6 คืนเข้าหอมีค่าดั่งทองพันชั่ง

last update Last Updated: 2024-12-06 18:03:00

บทที่ 6

คืนเข้าหอมีค่าดั่งทองพันชั่ง

หยางหมิงประคองหยางซูมี่ให้ขึ้นขี่หลังหยางเฟยเทียนด้วยความระมัดระวัง เมื่อแน่ใจว่าปลอดภัยดีแล้ว หยางเฟยเทียนจึงลุกขึ้นเต็มความสูงของตนเอง แล้วเดินแบกหยางซูมี่เพื่อขึ้นไปนั่งที่เกี้ยว เซี่ยเหวินหรงลงมาจากหลังม้าเข้ามาเพื่อช่วยประคองหยางซูมี่ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว เมื่อเจ้าสาวเข้าไปนั่งในเกี้ยวเรียบร้อยแล้ว ขบวนเจ้าสาวก็ออกเดินทางเพื่อไปยังจวนชินอ๋อง

เซี่ยเหวินหรงขี่ม้านำขบวน ตามด้วยเกี้ยวเจ้าสาวที่มี 8 คนหาม นอกจากนี้ยังมีทหารจากกองทัพพยัคฆ์ทมิฬ 1,000 นายคอยอารักขาขบวนเจ้าสาว สินสอดที่เจ้าบ่าวมอบให้เจ้าสาวนั้นมีมากถึง 50 หีบ

ท่านเสนาบดีหยางมอบให้หยางซูมี่ทั้งหมด รวมกับสินเดิมที่ท่านเสนาบดีหยางหมิงจัดเตรียมมาให้ด้วยนั้น อีก 50 หีบ รวมกันมากถึง 100 หีบ สร้างความตกตะลึงแก่ผู้ที่พบเห็น ตระกูลหยางนั้นให้ความสำคัญกับบุตรีผู้นี้จริงๆ

สองข้างทางล้วนเต็มไปด้วยฝูงชนที่มารอดูขบวนเจ้าสาว กว่าที่จะเดินทางมาถึงจวนชินอ๋องต้องใช้เวลาถึงครึ่งชั่วยาม

เมื่อถึงหน้าจวนชินอ๋อง เซี่ยเหวินหรงกระโดดลงมาจากหลังม้า เดินเข้าไปประคองหยางซูมี่ลงมาจากเกี้ยว ตลอดทางเดินเข้าจวน เขาจับมือของนางตลอดเวลา เพราะมีผ้าคลุมหน้าทำให้นางมองอะไรไม่ชัดเจนนัก สะดุดก็ตั้งหลายครั้งเซี่ยเหวินหรงจึงอุ้มหยางซูมี่เข้ามายังโถงที่ทำพิธีเลย

เมื่อวางเจ้าสาวลงยืนแล้วทั้งสองยืนเคียงคู่กัน ทุกคนในงานที่เห็นต่างอดจะชื่นชมไม่ได้ แม้มีผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวแต่ก็รู้ว่าต้องเป็นโฉมสะคราญอย่างแน่นอน หนึ่งสตรี หนึ่งบุรุษยืนเคียงคู่เหมาะสมกันดั่งกิ่งทองใบหยก

"หนึ่งคำนับ...ฟ้าดิน สอง...คำนับพ่อแม่ สาม...คำนับกันและกัน ส่งตัวเข้าห้องหอได้"

หยางซูมี่ถูกพามาตัวมาส่งยังห้องหอ ส่วนเซี่ยเหวินหรงนั้นถูกแขกฝ่ายบุรุษพากันไปร่ำสุราอย่างครื้นเครง แม้เซี่ยเหวินหรงจะขึ้นชื่อว่าเป็นอ๋องทมิฬ แต่วันนี้เป็นวันมงคลบนใบหน้าคมเข้มมีรอยยิ้มเล็กๆ ประดับอยู่มุมปากให้เห็นตลอดทั้งงาน ทำให้มีคนใจกล้ามาขอยกจอกสุราด้วย เมื่อมีหนึ่งคน คนต่อๆ ไปก็พากันมายกจอกสุราบ้าง

ในห้องหอเหลือเพียงหยางซูมี่ กับสาวใช้เพียงสองคนเจินเจินและซินซิน เจินเจินแอบนำขนมที่ซ่อนไว้ในแขนเสื้อหยิบมาให้นายสาวทานรองท้อง หยางซูมี่หยิบมากินเพียง 1 ชิ้น นางก็รู้สึกตื้อขึ้นมาจนกินอะไรไม่ลง มันเป็นความรู้สึกตื่นเต้น และประหม่าจนรู้สึกมวนท้องทำให้กินอะไรไม่ลง

"ซินซิน เจ้ามาช่วยข้าปลดมงกุฎหงส์และปิ่นหน่อย ข้าปวดคอจะแย่แล้ว"

"จะดีหรือเจ้าคะ คุณหนูต้องให้ชินอ๋องมาถอดผ้าคลุมหน้าก่อนสิเจ้าคะ"

"ช่างพิธีการนั้นเถิด ชินอ๋องไม่ว่าอะไรหรอก"

ซินซินไม่กล้าเข้ามาเพราะยังคงลังเลอยู่ หยางซูมี่จึงปลดผ้าคลุมหน้าออกเอง กำลังจะหยิบมงกุฎหงส์ออก ซินซินก็รีบลุกมาช่วยคุณหนูเอาออกให้ หากให้คุณหนูถอดเอง เกรงว่าผมจะไปเกี่ยวกับมงกุฎหงส์ และปิ่นเข้าจนพันกันยุ่งเหยิงไปหมด

หลังจากถอดเครื่องหัวออก นางก็รู้สึกโล่งหัวขึ้นมาทันที อาการปวดคอดูเหมือนจะดีขึ้นมาก

"พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะข้าจะนอนพักสักหน่อย หากชินอ๋องเสด็จมารีบเข้ามารายงานข้า"

หยางซูมี่ต้องตื่นตั้งแต่เช้าทำให้เวลานี้หนังตาของนางจะปิดลงมาอยู่แล้ว

เมื่อสาวใช้ออกไปในห้องจึงเหลือเพียงแค่หยางซูมี่ นางเดินตรงเข้าไปยังเตียงกว้างที่ประดับด้วยม่านโปร่งสีแดงมงคล บนเตียงกว้างมีหมอนคู่สีแดงสองใบวางไว้เคียงคู่กัน หยางซูมี่ปีนขึ้นไปบนเตียงเลือกนอนมุมเตียงด้านใน เพียงชั่วลมหายใจหยางซูมี่ก็หลับไปทันที

หลับไปถึง 1 ชั่วยาม ตื่นขึ้นมาจึงรู้สึกสดชื่นขึ้น ชินอ๋องก็ยังไม่เสด็จกลับมา นางเหนียวตัวจะแย่แล้ว หยางซูมี่จึงเรียกเจินเจินให้เข้ามาเตรียมน้ำอาบ หลังจากอาบน้ำเสร็จ หยางซูมี่ก็เดินไปนั่งที่โต๊ะใช้ตะเกียบคีบอาหารมงคลทั้ง 10 อย่าง ชิมทีละจานอย่างช้าๆ จนครบหมดทุกจาน จึงได้วางตะเกียบลง หยิบกาน้ำชามารินใส่ถ้วยให้ตนเอง

เมื่อไม่มีสิ่งใดให้ทำนอกจากนั่งรอ หยางซูมี่จึงหันไปหยิบดูกล่องของขวัญที่ใส่ไว้ในหีบที่วางอยู่ข้างตู้ ของขวัญมากมายถูกเปิดออกดู ส่วนมากล้วนเป็นเครื่องประดับมีราคาแพง พลันสายตาก็ไปเห็นกล่องสุดท้าย จำได้ว่าเป็นกล่องของจ้าวเหมยอิง ประกอบกับคำพูดที่ทิ้งท้ายไว้จึงรีบหยิบขึ้นมาเปิดออกดู

เมื่อเปิดกล่องออกมาพบเพียงหนังสือเล่มบางปกสีแดงไม่มีตัวอักษรเขียนไว้ ด้วยความอยากรู้นางจึงลองเปิดดู แต่ภาพที่ปรากฏออกมาทำให้นางตกใจ มือบางถึงกับชะงัก หนังสือเล่มนี้คือหนังสือภาพวังวสันต์ ทุกหน้าล้วนเต็มไปด้วยท่วงท่าร่วมรักของบุรุษและสตรี

"อะแฮ่ม"

หยางซูมี่สะดุ้งกับเสียงข้างหลัง ด้วยอารามตกใจทำให้หนังสือตกลงไปเปิดหน้าการร่วมรักแบบพิสดาร หากเป็นในยุคของไผ่หลิวก็ต้องเรียกท่านี้ว่าท่าหกเก้า

ใบหน้างามแดงก่ำเมื่อเห็นว่าชินอ๋องเข้ามาอยู่ด้านหลังของนางอย่างเงียบๆ ภายในห้องเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน นางรีบก้มไปเก็บหนังสือภาพวังสันต์ แต่ก่อนที่จะหยิบขึ้นมา ชินอ๋องกลับแย่งมาถือไว้ในมือ เปิดออกดูทีละหน้าๆ หยางซูมี่ถึงกับมุมปากกระตุก ใบหน้าแดงซ่านรู้สึกเหมือนเด็กที่กระทำผิดแล้วโดนผู้ปกครองจับได้ มือไม้รู้สึกเกะกะไม่รู้จะวางไว้ตรงไหนดี

"ไม่คิดว่า มี่มี่ของข้าจะมีหนังสือล้ำค่าเช่นนี้ด้วย"

อะไรคือเรียกนางว่ามี่มี่ อะไรคือหนังสือล้ำค่า ชินอ๋องผู้นี้ชอบทำให้นางอับอายใช่หรือไม่ หยางซูมี่ไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำของนางที่ก้มหน้าไม่กล้าสบตาเขา และแก้มที่พองลมออกมานั้น ดูน่ารักน่าเอ็นดูและน่าแกล้งเป็นที่สุด

"ชินอ๋องโปรดเรียกหม่อมฉันว่ามี่เอ๋อร์เถอะเพคะ แล้วคืนหนังสือให้หม่อมฉันด้วย"

"ในเมื่อเราแต่งงานกันแล้ว คำเรียกขานก็ควรมีแค่เราสองที่เรียกสิ พี่ไม่ชอบเรียกตามอย่างผู้อื่น เมื่ออยู่กันตามลำพังไม่ต้องพูดคำราชาศัพท์หรอก"

"เจ้าค่ะ"

"มี่มี่จะเรียกท่านพี่ หรือจะเรียกว่าเหวินหรงก็ได้พี่อนุญาต"

"เจ้าค่ะ ท่านพี่"

นางยอมเรียกท่านพี่แทนชื่อของเขาออกมาตรงๆ การเรียกชื่อนั้นดูเหมือนจะไม่ให้เกียรติสักเท่าไหร่ ส่วนการเรียกท่านพี่ล้วนเรียกกันตามปกติของสามีภรรยาอยู่แล้ว เซี่ยเหวินหรงเพียงยกยิ้มมุมปากที่นางเรียกท่านพี่แทนชื่อเขา

"เรามาดื่มสุรามงคลกันเถอะ"

ทั้งสองเดินไปนั่งที่โต๊ะ หยางซูมี่หยิบสุราขึ้นมารินใส่จอกแล้วส่งให้เซี่ยเหวินหรง ทั้งสองหันหน้าเข้าหากัน คล้องแขนแล้วดื่มสุราจนหมดจอก เมื่อวางจอกสุราลงบนโต๊ะหยางซูมี่ก็เดินกลับไปนั่งบนเตียงกว้าง นางไม่สนใจที่จะเอาหนังสือภาพวังวสันต์คืนแล้ว หากเขาอยากได้ก็เอาไปเถอะ

เซี่ยเหวินหรงมองออกว่าหยางซูมี่กำลังแง่งอนเขาอยู่ คงเป็นเพราะเขาไม่ยอมคืนหนังสือภาพวังวสันต์ให้นาง

"พี่ไปอาบน้ำก่อนนะน้องหญิง"

เซี่ยเหวินหรงเอ่ยอย่างยั่วเย้า แล้วเดินไปหลังฉากกั้น ถอดชุดแต่งงานออก ลงเดินไปถังอาบน้ำ เสียงเสื้อผ้าเสียดสีกัน เสียงน้ำกระฉอกออกมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ แล้วยังเงาที่สะท้อนมาจากฉากกั้นอีก

หยางซูมี่ได้แต่นั่งบนเตียงข่มกลั้นความรู้สึกร้อนรุ่มของตนเอง แม้ว่านางจะมาจากอีกยุคแต่นางไม่เคยมีคนรักมาก่อน มุ่งมั่นแต่การทำงาน ถึงอย่างนั้นเรื่องชายหญิงนางก็เคยศึกษามาบ้าง แค่กๆ! เคยผ่านตามาเท่านั้น

บุรุษที่เดินออกมาจากฉากกั้น สวมชุดนอนตัวบางสีขาว ผูกไม่เรียบร้อยเผยให้เห็นมัดกล้ามเป็นลอนสวย ที่มีหยดน้ำเกาะพราว ผมสีดำยาวเปียกชื้น ระกับใบหน้าคมเข้ม หยางซูมี่หันไปเห็นแทบจะกลั้นหายใจ หัวใจนางพลันเต้นแรงจนแทบจะดังออกมาให้ได้ยินแล้ว บอกได้คำเดียวว่า ‘หุ่นแซ่บมาก’

"ข้าเช็ดผมให้เจ้าค่ะ"

หยางซูมี่เดินไปหยิบผ้ามาเช็ดผมให้เขา เช็ดอยู่นานกว่าผมจะแห้งสนิท หลังจากนั้นทั้งคู่ก็พากันปีนขึ้นไปนอนที่เตียง เดิมทีภรรยาต้องนอนข้างนอกเพราะจะต้องตื่นก่อนสามีเพื่อมารอปรนนิบัติสามีในยามเช้า แต่เขากลับให้นางนอนด้านใน ประหนึ่งจะกักขังนางไม่ให้หลบหนี

เซี่ยเหวินหรงใช้ลมปราณดับเทียนในห้อง ในห้องจึงมีเพียงแสงของดวงจันทร์ที่ลอดเข้ามาพอให้เห็นเป็นเงารางเลือน

"นอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปเข้าเฝ้าเสด็จแม่กับเสด็จพี่"

เอ่ยจบเซี่ยเหวินหรงก็หลับตาลง เสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ บอกให้รู้ว่าเจ้าตัวหลับไปแล้ว

หยางซูมี่รู้สึกฉงนใจ คืนนี้เป็นคืนเข้าหอมีค่าดั่งทองพันชั่ง แต่ชินอ๋องกลับเลือกที่จะนอนเสียอย่างนั้น นางรึก็อุตส่าห์เตรียมตัว เตรียมใจแล้วนะ หึ เช่นนั้นก็ดีเหมือนกัน นอนก็นอน

ไม่นานหยางซูมี่ก็ผล็อยหลับไปอีกคน เซี่ยเหวินหรงลืมตาขึ้นมามองเมื่อแน่ใจว่าหยางซูมี่นั้นหลับไปแล้ว ร่างสูงชันตัวลุกขึ้นใบหน้าคมประดับรอยยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะก้มหน้าลงไปจุมพิตที่หน้าผากกลมมนของหยางซูมี่ จากนั้นจึงได้ล้มตัวลงนอนหลับสนิทตลอดทั้งคืน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 4 (ตอนปลาย)

    ตอนพิเศษ 4 (ตอนปลาย) “คุณหนูกู่เกรงใจเกินไปแล้ว ในฐานะตัวแทนของฝ่าบาทพวกข้าต้องมาร่วมยินดีอยู่แล้ว”หยางซูมี่เดินเข้างานไปเลย ไม่ได้สนใจสตรีนางนี้มากนัก ทำเพียงเหมือนกับว่านางไม่คู่ควรที่จะให้พระชายาเช่นนางต้องมาเสวนาด้วย กู่เจียอีได้แต่ลอบกำมือแน่น คอยดูเถอะวันนี้ข้าจะเหยียบหน้าจมให้จมดิน และจะกลายมาเป็นพระชายาของชินอ๋องให้จงได้“เจ้าอยากเล่นกับนางหรือไม่” เซี่ยเหวินหรงหันมาเอ่ยถามภรรยาคนงาม“ให้บทเรียนกับนางเบาๆ ก็พอเจ้าค่ะ” หยางซูมี่หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ใส่พระสวามีงานเลี้ยงในจวนเจ้าเมืองวันนี้ กลับพบว่าขณะที่ทั้งหมดกำลังสนุกสนานกันภายในงานเลี้ยงนั้น กลับพบว่าคุณหนูกู่เจียอีผลัดตกลงไปในสระน้ำ แต่โชคดีที่มีคุณชายท่านหนึ่งช่วยเอาไว้ได้ แต่เพราะตอนเปียกน้ำทำให้ทั้งสองได้แนบชิดกัน และด้วยอาภรณ์ของกู่เจียอีนั้นที่เป็นสีขาว ทำให้มองเห็นเรือนร่างของนาง จนมองเห็นไปถึงเอี๊ยมตัวใน และคุณชายผู้นี้ก็ได้แตะต้องนางไปแล้วแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ด้วยเหตุนี้ในหนึ่งเดือนต่อมาจึงได้เกิดงานมงคลขึ้นกู่เจียอีได้แต่งเข้าไปเป็นฮูหยินรอง เน

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 4 (ตอนต้น)

    ตอนพิเศษ 4 (ตอนต้น) หลังจากงานแต่งผ่านไปได้หนึ่งเดือน คนในตระกูลหยางนำโดยท่านเสนาบดีหยางหมิงได้เดินทางกลับเมืองหลวง พวกเขานั้นได้จากเมืองหลวงมานานมากแล้ว สมควรต้องไปจัดการงานที่ค้างคาเอาไว้ แม้จะเสียดายที่หยางซูมี่กับเซี่ยเหวินหรงไม่ได้กลับไปด้วยก็ตาม“ท่านพ่อเดินทางกลับดีๆ นะเจ้าคะ อีก 3 เดือนลูกจะกลับเมืองหลวงพร้อมท่านอ๋องเจ้าค่ะ”“ดูแลตัวเองดีๆ ด้วยมี่เอ๋อร์ ข้าน้อยขอฝากบุตรสาวด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ประโยคท้ายหยางหมิงหันไปเอ่ยกับเซี่ยเหวินหรง“ท่านพ่อตาอย่าได้เป็นห่วง มี่เอ๋อร์อยู่กับข้าย่อมต้องปลอดภัย”เซี่ยเหวินหรงให้คำมั่น ทั้งสองยืนส่งจนขบวนรถม้าเคลื่อนตัวห่างไปเรื่อยๆ“พี่ต้องกลับไปยังจวนเจ้าเมืองเพื่อพบหน้ากับเจ้าเมืองคนใหม่ เจ้าอยู่ที่นี่ดีๆ แล้วพี่จะรีบกลับมา” เซี่ยเหวินหรงลูบหัวหยางซูมี่ด้วยความเอ็นดู“เจ้าค่ะท่านพี่”หยางซูมี่พยักหน้ารับ แล้วเขย่งปลายเท้ายื่นหน้าไปจูบแก้มสาก จนใบหูของเขาขึ้นสีแดงก่ำ“รีบกลับมานะเจ้าคะ ข้าจะรออาบน้ำพร้อมกับท่านพี่”หยางซูมี่ขยิบตาใส่เซี่ยเหวินหรง

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 3 (ตอนปลาย)

    ตอนพิเศษ 3 (ตอนปลาย) เซี่ยเหวินหรงเองก็รีบปลดอาภรณ์ของเขาออกเช่นกัน ร่างกายสูงใหญ่ไร้อาภรณ์ปกปิดกาย มองเห็นกล้ามหน้าท้องหนั่นแน่นที่เป็นลอนสวยอย่างคนที่ออกกำลังกาย ตรงกึ่งกลางเห็นแท่งหยกที่เริ่มจะขยายตัวอวดความศักดิ์ดาของตน หยางซูมี่ลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นแท่งหยกของเขาหยางซูมี่เนื้อตัวแดงก่ำด้วยความเขินอาย แม้จะเคยร่วมรักกับเขามาหลายครั้ง แต่นางกับเขาก็ห่างหายกันไป 2 ปีกว่า นางจึงรู้สึกประหม่ามากนัก แต่เพราะไม่อยากจะให้เขารู้ว่านางนั้นเขินอายมากเพียงใด จึงทำใจกล้าเงยหน้ามองร่างสูง ยกยิ้มอ่อนหวานแล้วเอื้อมมือไปปลดสายผูกเอี๊ยมออก ทำให้ปราการชิ้นสุดท้ายหลุดร่วงลงมา มองเห็นก้อนเต้าหู้อวบอิ่มสองก้อนและเม็ดทับทิมสีชมพูระเรื่อเซี่ยเหวินหรงไม่อาจจะอดใจได้อีกต่อไป เขาช้อนร่างบางของหยางซูมี่อุ้มลงไปในถังอาบน้ำด้วยกัน เขานั่งพิงขอบอ่างให้หยางซูมี่นั่งบนตักแกร่ง มือข้างหนึ่งบีบสะโพกกลมกลึง อีกข้างก็ยื่นไปข้างหน้ากอบกุมก้อนเต้าหู้บีบคลึงอย่างอ่อนโยน นิ้วชี้เขี่ยเม็ดทับทิมสีชมพูจนตั้งช่อชูชันขึ้นมา“อ๊าาาา ท่านพี่”เซี่ยเหวินหรงจับร่างบางหั

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 3 (ตอนต้น)

    ตอนพิเศษ 3 (ตอนต้น) ขบวนเจ้าบ่าวนำโดยชินอ๋องเซี่ยเหวินหรง พระองค์ขี่อาชาโลหิตสีขาวนำขบวนสินสอดมากกว่า 100 หีบ โดยมีทหารของกองทัพพยัคฆ์ทมิฬคอยดูแล แม้ว่าหยางซูมี่จะเอ่ยว่าต้องการจัดงานแต่งงานแบบเรียบง่ายแต่เมื่อฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลงทรงทราบก็รีบส่งม้าเร็วนำราชโองการสมรสพระราชทานมามอบให้ ทั้งยังระบุว่าชินอ๋องจะมีหยางซูมี่เป็นพระชายาแต่เพียงผู้เดียวจวบจนทั้งคู่สิ้นอายุขัยข่าวการแต่งงานครั้งที่สองของทั้งคู่แพร่สะพัดไปทั่วแคว้นเซี่ย บางคนต่างก็ยินดีที่ทั้งสองกลับมาใช้ชีวิตร่วมกัน แต่บางคนก็ค่อนขอดที่ทั้งสองเลิกรากันไปแล้วแต่ยังกลับมาแต่งงานกันอีกครั้ง ไม่ว่าผู้คนจะพูดกันอย่างไร แต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็หาได้สนใจไม่ เพราะทั้งคู่ได้ตกลงใจที่จะกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง คำพูดของผู้อื่นหาได้สลักสำคัญกับพวกเขาทั้งสองคนไม่เซี่ยเหวินหรงขี่ม้ามาหยุดที่หน้าประตูบ้านพักของหยางซูมี่ เมื่อเขาเดินเข้าไปยังห้องโถงหลักก็พบว่าหยางซูมี่นั้นยืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว วันนี้นางสวมชุดสีแดงมงคลปักลายหงส์สยายปีก และมีผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงสวมทับเอาไว้ที่ศีรษะ ทำให้เขาไม่

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 2

    ตอนพิเศษ 2 ริมชายหาดแห่งหมู่บ้านผิงอัน มีสตรีร่างบอบบาง กับบุรุษร่างสูงใหญ่นั่งอิงแอบกันอยู่ใต้ต้นมะพร้าว สายตาทั้งคู่ทอดมองออกไปยังน้ำทะเลใสสีเขียวมรกต หาดทรายสีขาวละเอียด ลมทะเลพัดมาเป็นระยะๆ คล้ายกับกำลังปลอบประโลมคนทั้งคู่ ทั้งสองปล่อยให้จิตใจได้ซึมซับกับธรรมชาติที่สวยงามนี้“เจ้ามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อใด” เซี่ยเหวินหรงหันมาเอ่ยถามในสิ่งที่เขาสงสัย“ข้ามาถึงเมื่อสามวันก่อนเจ้าค่ะ ข้าตั้งใจมาทำให้ท่านแปลกใจเล่น” หยางซูมี่เอ่ยพลางหัวเราะ นัยน์ตาพราวระยับดั่งดวงดารา“รู้หรือไม่ว่าทำข้าเป็นห่วง ตอนที่ข้ารู้ว่าเจ้าหายตัวไป”เซี่ยเหวินหรงเอื้อมมือไปบีบจมูกโด่งรั้นอย่างมันเขี้ยว“ข้าเจ็บนะเหวินหรง”หยางซูมี่หันมาดุเขาอย่างไม่จริงจังนัก เซี่ยเหวินหรงเอื้อมมือไปกอบกุมที่มือขาวบางอย่างทะนุถนอม“ข้าไม่คิดว่าจะได้เจอเจ้าเร็วถึงเพียงนี้ ที่นี่มีเรื่องให้ข้าจัดการมากมายนัก ข้ายังคิดว่าอย่างเร็วก็คงอีกสักปีสองปีถึงจะกลับไปหาเจ้าที่เมืองหลวงได้”“ข้ารู้ว่าท่านทำงานหนักมากเพียงได ดูสิชินอ๋องผู้สง่างามกลายร่

  • สามี ท่านหย่ากับข้าเถอะ   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ 1 2 ปีต่อมาชายแดนใต้ของแคว้นเซี่ยที่ติดกับทะเล เมื่อ 2 ปีก่อนมีการค้าเกลือเถื่อนเกิดขึ้น เซี่ยเหวินหลินที่ได้ออกมาจัดการนั้น กลับจัดการแบบปล่อยผ่าน อนึ่งเพราะมีผลประโยชน์ร่วมกับพ่อค้าที่ค้าเกลือเถื่อนแต่หลังจากที่ชินอ๋องเซี่ยเหวินหรงจัดการปราบปรามกบฏได้หมดสิ้น จึงได้ทูลขอฮ่องเต้เซี่ยเฟยหลงมาปราบปรามการค้าเกลือเถื่อน และมาจัดระบบการปกครองใหม่ของชายแดนใต้ ซึ่งฮ่องเต้ก็ได้ออกพระราชโองการมอบอำนาจทุกอย่างให้ชินอ๋องเป็นผู้จัดการทั้งหมดตลอดเวลากว่าสองปีที่ผ่านมานี้เซี่ยเหวินหรงออกรบไปปราบปรามโจรสลัดทั้งในน่านน้ำ และบนเรือ โจรสลัดนั้นชอบขึ้นมาดักปล้นฆ่าชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่ง แต่หลังจากที่ชินอ๋องมาโจรสลัดก็หนีหายไปหมดด้วยหวาดเกรงชินอ๋องนอกจากจะปราบโจรสลัดแล้ว เซี่ยเหวินหรงยังต้องเข้ามาปราบปรามพ่อค้าเกลือเถื่อน และยังต้องมาจัดระเบียบเมืองหนานผิงใหม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเจ้าเมืองหนานผิงปกครองเมืองชายแดนใต้อย่างไร้ความยุติธรรม กดขี่ข่มเหงชาวเมืองหนานผิง ทหารประจำเมืองก็ชอบรีดไถจากชาวบ้าน เรียกร้องค่าคุ้มครอง หากครอบค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status