" ลี่หลินคาระวะฮูหยินเจ้าค่ะ"
ถานลี่หลินลุกจากตักโจวเยี่ยนเฉิงย่อตัวทำความเคารพ
" เจ้า เจ้าว่าเจ้าชื่ออะไรนะ"
" ข้าชื่อลี่หลินเจ้าค่ะ"
" หลินเอ๋อ ข้าจะพาเจ้าไปส่งที่ห้อง เดินทางไกลมาทั้งวันคงเหนื่อยแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ"
โจวเยี่ยนเฉิงประคองกอดถานลี่หลินเดินผ่านนางไป ไม่สนใจนางว่าจะรู้สึกเช่นไรไม่มีคำอธิบายสักคำ ถานลี่หลินส่งยิ้มให้นาง เป็นรอยยิ้มของผู้ชนะ นางกำมือแน่น
" สือหลาง นี่มันเกิดอะไรขึ้น เล่ามา"
" อะเอ่อ คือว่า เมื่อเช้านายท่านกำลังจะตามฮูหยินไปที่จวนของคุณชายตงหยาง แต่มีบ่าวรับใช้พานางเข้ามา นางเล่าให้ฟังว่าเมื่อสองปีก่อน นางหนีพวกโจรแล้วผลัดตกหน้าผาแต่มีคนช่วยชีวิตไว้ นางก็ความจำเสื่อมเพราะหัวกระแทกก้อนหิน พึ่งฟื้นความจำได้ไม่นาน พอจำทุกอย่างได้ก็รีบกลับมาที่นี่ เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละขอรับ"
" ฮูหยิน ท่านจะทำยังไงต่อไปเจ้าคะ"
" กลับเรือน"
" ฮูหยิน ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้นสักหน่อย"
ซูซินเหยียนกำลังจะเดินออกจากห้องโถง โจวเยี่ยนเฉิงก็เดินตรงเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้านาง
" ไม่ต้องห่วง นางก็อยู่ส่วนนาง เจ้าก็อยู่ส่วนเจ้า ยังไงตำแหน่งฮูหยินของจวนนี้ก็ยังคงเป็นของเจ้า"
นางมองหน้าเขาด้วยใจที่เจ็บปวดก่อนจะเดินออกมา ยามจื่อ ฟ้าแลบแปลบปลาบลมพัดกรรโชกแรง ตามมาด้วยฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ซูซินเหยียนนอนกอดตัวเองร้องไห้อยู่บนเตียง ในหัวก็คิดแต่ภาพที่ถานลี่หลินนั่งตักโจวเยี่ยนเฉิง ทั้งสองโอบกอดกัน ส่งยิ้มให้กัน คืนนี้เขาคงได้นอนกกกอดได้จูบถานลี่หลินตัวจริงแทนภาพวาดแล้วสินะ ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บปวด
" ดึกมากแล้วเจ้านอนเถอะ"
โจวเยี่ยนเฉิงแกะมือถานลี่หลินที่กอดเขาแน่นออก
" ท่านจะไปไหน"
" ข้าจะกลับไปนอน"
" ไหนท่านบอกว่าไม่ได้รักนาง ที่ต้องแต่งงานก็เพื่อทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับมารดาของท่าน แล้วท่านจะไปไหน คงไม่ได้ "
" ข้าจะไปนอนที่เรือนของข้าไม่ใช่ที่เรือนของนาง ข้าเพียงเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน ไม่ได้เข้าหอกับนาง ในคืนเข้าหอข้าอยู่ที่ห้องหนังสือทั้งคืน"
" ท่านพูดจริงเหรอ"
" อืม"
" งั้นคืนนี้ท่านนอนที่นี่กับข้าได้ไหม ข้าคิดถึงท่าน อยากนอนกอดท่านไว้ทั้งคืน"
เห็นสีหน้าลังเลของโจวเยี่ยนเฉิง นางก็เข้าไปกอดเขาไว้แล้วพูดขึ้นมาอีก
" สองปีที่จากกัน ท่านไม่คิดถึงข้าเลยหรือหรือว่าเป็นข้าที่คิดไปเองคนเดียว ใช่สิ ข้ามันก็แค่สาวใช้ต่ำต้อย จะไปคู่ควรกับท่านได้ยังไง ตอนนี้ท่านได้แต่งงานกับคุณหนูสูงศักดิ์ ข้ารึจะไปเทียบนางได้ รู้อย่างนี้ข้าไม่น่ากลับมาเลย"
" อย่าคิดแบบนั้น ทำไมต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นด้วย เจ้าก็เป็นเจ้า นางก็เป็นนาง ยังไงเจ้าก็สำคัญที่สุดสำหรับข้า เพียงแต่ตอนนี้ข้าแต่งงานแล้ว ยังไงนางก็เป็นฮูหยินของข้า ถึงข้าจะไม่ได้รักนางแต่ก็ต้องให้เกียรตินางบ้าง ข้าพึ่งแต่งงานกับนางได้เพียงสามวัน เรื่องที่ข้าไม่ได้เข้าหอกับนาง บ่าวในจวนต่างก็รู้กันหมด หากคืนนี้ต้องค้างคืนกับเจ้ามันคงไม่เหมาะ"
" ไม่เหมาะตรงไหน ในเมื่อทุกคนต่างก็รู้ว่าข้าเป็นสาวใช้อุ่นเตียงของท่าน ท่านรักข้าไม่ใช่นาง"
" ข้าบอกแล้วว่ายังไงก็ต้องให้เกียรตินาง รอให้ผ่านไปอีกสักระยะก่อน ถึงวันนั้นข้าจะปรนเปรอเจ้าทั้งคืนเลย ดีไหม"
" ท่านพูดแล้ว ห้ามผิดคำพูด"
"อืม งั้นข้าไปก่อน"
" แต่ว่าข้างนอกฝนยังตกอยู่เลย ท่านก็อยู่กับข้าจนกว่าฝนจะหยุดแล้วค่อยไปดีไหม"
โจวเยี่ยนเฉิงมองผ่านหน้าต่าง เห็นฝนตกลงมาไม่มีทีท่าจะหยุด ขืนรอต่อไปก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหยุดตก จึงดันตัวนางออกเบาๆ
" จากที่นี่ไปเรือนข้าไม่ไกล อีกอย่างมีร่ม"
เขาเดินไปเปิดประตูออก ตะโกนบอกบ่าวรับใช้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามให้เอาร่มมารับ ถานลี่หลินส่งยิ้มให้ มองดูแผ่นหลังของโจวเยี่ยนเฉิงที่เดินจากไป รอยยิ้มของนางก็ค่อยๆหุบลง เเปรเปลี่ยนเป็นสายตาไม่พอใจ แม้เขาจะบอกว่ารักนาง คิดถึงนาง แต่นางสัมผัสได้ว่าเขาไม่เหมือนเดิม
" หนิงเอ๋อ วันนี้ไม่ต้องยกอาหารมาให้ข้า ข้าจะไปกินข้าวกับเขา"
" เจ้าค่ะฮูหยิน ต้องอย่างนี้สิเจ้าคะ ท่านเป็นถึงฮูหยินอย่ายอมให้สาวใช้คนนั้นมาแย่งนายท่านไปได้เจ้าค่ะ"
หนิงเอ๋อพูดถูก นางเป็นคุณหนูสูงศักดิ์ในตระกูลร่ำรวยมั่งคั่ง เป็นฮูหยินของจวนนี้ จะยอมให้สาวใช้คนหนึ่งมาหยามเกียรติได้อย่างไร มัวแต่นั่งกินข้าวในเรือนตัวเอง แล้วปล่อยให้สาวใช้เชิดหน้าอยู่เคียงข้างเขา มันไม่ถูกต้อง นางยอมไม่ได้ จะลองสู้ดูสักตั้ง หากที่สุดแล้วเขาเลือกสาวใช้คนนั้น นางจะถอยออกมาเอง
มาถึงโต๊ะอาหาร นางเห็นถานลี่หลินนั่งเชิดหน้าอยู่ มีสาวใช้สองคนทยอยเอาอาหารมาจัดวาง
" เหตุใดเจ้าถึงมานั่งอยู่ตรงนี้ ไม่มีงานทำรึ"
ถานลี่หลินส่งยิ้มให้
" ท่านคงรู้แล้วว่าข้ากับนายท่านมีความสัมพันธ์กันเช่นไร เมื่อก่อนข้าก็นั่งร่วมโต๊ะกินอาหารกับเขาแบบนี้"
" เมื่อก่อนจะเป็นอย่างไรข้าไม่สน แต่ตอนนี้ข้าเป็นฮูหยินของที่นี่ ไม่อนุญาติให้บ่าวรับใช้มาร่วมโต๊ะอาหาร"
" ข้าอนุญาติ"
โจวเยี่ยนเฉิงเดินเข้ามาได้ยินที่นางพูดพอดีเขาไม่พอใจ เดินไปนั่งลงข้างๆถานลี่หลินที่ทำท่าจะลุกขึ้น
" ไม่ต้องไปไหน นั่งลง ข้าเป็นเจ้าของจวนนี้ที่นี่ข้าใหญ่สุด ข้าอนุญาตให้เจ้านั่งกินอาหารกับข้า"
" แต่ว่า"
" ไม่ต้องไปฟังใครทั้งนั้น ฟังข้าคนเดียว"
ถานลี่หลินส่งยิ้มเย้ยไปให้ซูซินเหยียน มองดูโจวเยี่ยนเฉิงคีบอาหารใส่ถ้วยข้าวให้ถานลี่หลิน ไม่สนใจนางที่ยืนมองอยู่ ทั้งสองคีบอาหารให้กันพูดคุยยิ้มแย้ม ทำราวกับไม่มีนางอยู่ตรงนั้น
" อุ้ยฮูหยิน ท่านก็นั่งลงกินข้าวด้วยกันสิเจ้าคะ"
" ไม่ต้องไปสนใจ เก้าอี้ก็เห็นอยู่ ถ้านางอยากนั่งก็นั่งเอง เรื่องแค่นี้ต้องให้บอกด้วยเรอะ"
นางกำมือแน่นข่มความน้อยใจเอาไว้หมุนตัวเดินออกมา ลู่หนิงมองโจวเยี่ยนเฉิงสลับถานลี่หลินด้วยสายตาไม่พอใจ ก่อนจะรีบตามซูซินเหยียนออกไป
เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเขา นางก็พูดต่อ" ใกล้ๆกันยังมีขนมถูกเททิ้งด้วย น่าเสียดายหากไม่กินก็น่าจะให้คนอื่น ไม่ก็แจกเด็กๆก็ได้ ทำแบบนี้ไม่ดีเลย"โจวเยี่ยนเฉิงกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ รีบหุนหันจากไป ถานลี่หลินมองตาม กระตุกยิ้มมุมปาก หึหึ ขนมอร่อยน่ากินจะทิ้งให้เสียของทำไม ทั้งขนมติงเซิงขนมหม่าซูถง อยู่ในท้องของนางนี่ซูซินเหยียนกำลังยืนคุยกับคนอื่นๆอยู่ โจวเยี่ยนเฉิงก็เข้ามาฉุดกระชากนางออกมา" ปล่อยนะ ท่านเป็นบ้าอะไร"นางสะบัดออกจากเขาด้วยท่าทีรังเกียจ" ตามข้ามานี่ ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า"" แต่ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับท่าน"" เหยียนเอ๋อ"" เรียกข้าแบบเดิมเถอะ อย่าเรียกข้าแบบนี้เลย เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น"" ข้าอยากถามว่าทำไมต้องเอาของที่ข้าให้ไปทิ้งด้วย ข้าตั้งใจซื้อมันมาให้เจ้านะ"นางขมวดคิ้วมองหน้าเขา " ของพวกนั้นข้าให้หนิงเอ๋อนำมันไปคืนท่านไม่ได้ทิ้ง"ลู่หนิงที่ยืนอยู่ไม่ไกล ได้ยินที่ทั้งสองพูดก็รีบเดินเข้าไปหา" ข้าเอาของพวกนั้นไปฝากสือหลางคืนท่านไม่ได้ทิ้งเจ้าค่ะ ต่อจากนี้ท่านก็ต้องไปถามเขาเองแล้วแหละ"เห็นโจวเยี่ยนเฉิงทำหน้างง ซูซินเหยียนก็พอเดาออก" ใครบอกท่านว่าของพวกนั้นถูกทิ้ง ถานล
เมื่อเดือนก่อนฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้าน ถนนหนทางถูกตัดขาดสะพานข้ามแม่น้ำก็พัง น้ำท่วมอยู่เป็นเดือนพึ่งจะเริ่มลดลง ทหารอาสาซ่อมแซมสะพานเสร็จไปหนึ่งแห่ง คือทางหน้าหมู่บ้าน ส่วนอีกแห่งทางหลังหมู่บ้าน หลายคนกำลังช่วยกันซ่อมแซมอยู่ เพราะน้ำท่วมผ่านไปหลายวันแล้ว กว่าโจวเยี่ยนเฉิงจะมาถึงน้ำจึงแห้งเหือดไปหมด เหลือเพียงดินโคลนแห้งเกรอะกรัง ทหารที่มาช่วยงานและอาสาคนอื่นๆต่างช่วยชาวบ้านทำความสะอาด แต่ชาวบ้านยังคงพักอยู่ในกระโจมบนที่สูง แม่ทัพฉีเส้าหมิงสำรวจดูรอบหมู่บ้านเกรงว่าอาจเกิดดินถล่มลงมาอีก จึงยังไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปพักอาศัย แต่ให้รอดูสถานการณ์อีกสักระยะก่อนช่วงเย็นซูซินเหยียนนั่งเล่นอยู่ใต้ต้นไม้กับลู่หนิงและฉีหว่านหรู" ซินเหยียน ที่เขามาถึงที่นี่คงไม่ใช่มาตามเจ้าหรอกนะ"" ตามข้ารึ เป็นไปไม่ได้หรอก เขาไม่ได้รักข้า ไม่เคยรักเลยด้วยซ้ำ ข้ายอมหย่าให้เขากับถานลี่หลินได้สมหวัง เขาต้องดีใจอยู่แล้ว ไม่ต้องทนใช้ชีวิตร่วมกับข้า "" แต่ข้าสังเกตุว่าเขาคอยมองดูเจ้าตลอดเลยนะ"" ใช่เจ้าค่ะคุณหนู ข้าก็เห็นเหมือนกัน ข้าว่าสายตาที่เขามองคุณหนูแตกต่างไปจากเมื่อก่อนมาก เมื่อก่อนเขามองท่านด้วย
พอหมอเดินออกไปถานลี่หลินก็รีบเข้ามานางจะเอื้อมมือไปสัมผัสแผ่นหลังของโจวเยี่ยนเฉิง แต่ก็ชักมือกลับ กลัวจะโดนแผลให้เขาเจ็บกว่าเก่า " นายท่านเป็นแบบนี้พอใจเจ้าหรือยัง"สือหลางพูดแขวะก่อนเดินออกไป ถานลี่หลินน้ำตาไหลอาบแก้ม" พี่เยี่ยนเฉิง เป็นความผิดของข้า เพราะข้าท่านถึงต้องมาเจ็บตัวเช่นนี้ "ผ่านไปสักพักโจวเยี่ยนเฉิงค่อยๆลืมตาขึ้นมา เห็นถานลี่หลินนั่งน้ำตาคลออยู่ข้างๆ พอเห็นเขาลืมตา น้ำตาเม็ดโตก็ไหลรินอาบแก้มนางยิ้มทั้งน้ำตา" พี่เยี่ยนเฉิงท่านฟื้นแล้ว"ขยับเพียงนิดเขาก็รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งหลังและตูด สือหลางได้ยินเสียงก็รีบเข้ามาดูด้วยความดีใจ ก่อนจะออกไปแล้วกลับเข้ามาใหม่พร้อมถ้วยยา ถานลี่หลินแย่งถ้วยยามาถือไว้" เอามานี่ข้าจัดการเอง เจ้ามีอะไรก็ไปทำเถอะ"สือหลางไม่ชอบใจกับท่าทีของถานลี่หลิน ที่ทำตัวราวฮูหยินของจวน ชี้นิ้วสั่งคนนั้นคนนี้ เขาไม่อยากสนใจจึงเดินออกไป เห็นท่าทีกระตือรือร้นของนาง โจวเยี่ยนเฉิงก็นึกถึงอดีต ตอนนั้นเขาเล่นปีนต้นไม้กับซูตงหยางแล้วพลาดตกลงมาได้รับบาดเจ็บ ซูซินเหยียนก็เป็นห่วงเขาแบบนี้ นางร้องไห้ห่วงว่าเขาจะขาหักพิการเดินไม่ได้อีก มานั่งเฝ้าคอยดูแลเขา ยังช่วย
" ข้าเข้าใจแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่จำเป็นทน ทนอยู่ไปเพื่ออะไร เขาไม่รักไม่เห็นค่าก็หย่าไปเลย ข้าสนับสนุนเจ้า"" กุ้ยเฟยเพคะ"เช่อเอ๋อหันไปมองหน้าเมิ่งกุ้ยเฟย คิดว่าเมิ่งกุ้ยเฟยจะเกลี้ยกล่อมให้ซูซินเหยียน กลับไปคืนดีกับโจวเยี่ยนเฉิง แต่กลับเห็นดีเห็นงามกับการหย่าร้าง" ข้าพูดผิดตรงไหน เหตุใดสตรีจะต้องทนอยู่กับบุรุษที่ไม่รักเรา ในโลกนี้ยังมีบุรุษอีกเกลื่อนกลาด ไม่เห็นต้องไปสนใจ ในเมื่อโจวเยี่ยนเฉิงมีไข่มุกล้ำค่าในมือแล้วไม่เห็นค่ากลับไปให้ความสำคัญกับก้อนกรวด ก็ปล่อยเขาไป เหยียนเอ๋อของข้างดงามถึงเพียงนี้ ข้าจะหาบุรุษที่ดีกว่าโจวเยี่ยนเฉิงเป็นร้อยเท่าให้นางเอง"เมิ่งกุ้ยเฟยทำท่าครุ่นคิด ใครนะที่น่าสนใจ" เมิ่งกุ้ยเฟยเพคะ สาวใช้นางนั้นมาแล้วเพคะ"นางกำนัลคนหนึ่งเข้ามารายงาน" ให้นางเข้ามา"ถานลี่หลินเดินตามนางกำนัลเข้ามาถวายความเคารพ" รู้ใช่ไหมว่าข้าเรียกเจ้ามาทำไม"" หม่อมฉันโง่เขลา ไม่ทราบเพคะ"" คุกเข่าลง"นางรีบนั่งลงคุกเข่า หันไปเห็นซูซินเหยียนนั่งอยู่ข้างๆเมิ่งกุ้ยเฟยก็หน้าซีด มีลางสังหรณ์ไม่ดี" เจ้ารู้หรือไม่ว่าการทำลายข้าวของพระราชทานมีโทษเช่นไร"" หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ หม่อ
" ช่วงนี้ท่านดูเคร่งเครียด ให้ข้าช่วยทำให้ท่านสบายตัวดีหรือไม่"ถานลี่หลินลูบไล้อกแกร่งของโจวเยี่ยนเฉิงค่อยๆแหวกสาบเสื้อออก ลูบอกเปลือยเปล่าเมื่อเห็นว่าเขาเริ่มเคลิ้ม จึงใช้อีกมือลูบแท่งหยกของเขาจนมันเริ่มตื่นตัว โจวเยี่ยนเฉิงเห็นภาพทับซ้อน มองเห็นหน้าของถานลี่หลินเป็นซูซินเหยียน พอสะบัดหัวอีกทีถึงได้รู้ว่าเขาตาลาย เขารีบผลักถานลี่หลินออก " ดึกแล้วเจ้าไปนอนเถอะ ข้ามีเรื่องด่วนต้องไปจัดการ"พูดจบก็รีบจ้ำอ้าวเดินออกไป ทิ้งให้ถานลี่หลินยืนเหวออยู่ตรงนั้น เหตุใดเขาถึงได้ปฏิเสธนาง เหตุใดถึงได้รีบร้อนออกไปยามดึกแบบนี้ เขาจะไปที่ไหน หรือว่าจะไปหาซูซินเหยียน ไหนบอกว่าไม่ได้รักไง ก็ในเมื่อหย่ากันแล้วจะไปหาทำไมอีก นางกำมือแน่นแววตาฉายความโกรธเกรี้ยวโจวเยี่ยนเฉิงมาถึงจวนของซูตงหยาง ก็เห็นว่ามีบ่าวรับใช้ชายยืนเวรยามเต็มไปหมด ถ้าเข้าไปตรงๆก็คงต้องปะทะฝีมือกัน เขาไม่อยากทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ จึงเอาม้าไปผูกไว้ใต้ต้นไม้ห่างจากหน้าจวน แล้วใช้วิชาตัวเบาเหาะทะยานไต่ไปบนหลังคา ว่าแต่ซูซินเหยียนอยู่เรือนไหนนะ จวนแห่งนี้ไม่ได้กว้างมาก มีแค่ไม่กี่เรือน เรือนหลังนั้นเป็นของซูตงหยาง ส่วนตรงนั้นเป็นเ
" ซินเหยียน"" มาทำไม"" ข้ามารับเจ้ากลับจวน"" กลับไปทำไม ท่านกับข้าหย่ากันแล้ว หนังสือหย่าข้าวางเอาไว้ในห้อง ท่านไม่เห็นรึ"" เห็นแล้ว ข้าก็ฉีกทิ้งแล้วด้วย"" ท่าน"" ข้าไม่หย่า ข้ารับปากกับท่านแม่ไว้แล้วว่าจะแต่งงานกับเจ้าแค่คนเดียว มีเจ้าเป็นฮูหยินของข้าแค่คนเดียวเท่านั้น กลับไปกับข้าเถอะ สามีภรรยาไม่ควรแยกกันอยู่เช่นนี้"" ฮ่า ฮ่า ฮ่า"" เจ้า เจ้าหัวเราะอะไร"" ข้ารู้สึกขบขันยิ่งนัก จริงอย่างท่านว่า สามีภรรยาไม่ควรแยกจาก แต่ท่านกับข้าหาใช่สามีภรรยากัน ไม่ เราไม่เคยมีอะไรกัน คืนเข้าหอท่านก็ไปนอนที่ห้องหนังสือ กอดจูบลูบไล้ภาพวาดของถานลี่หลิน"อย่าว่าแต่เข้าหอเลย แม้แต่แตะต้องตัวนางก็ไม่เคย จับมือก็ไม่เคยโจวเยี่ยนเฉิงตกใจ นางรู้ได้อย่างไร หรือว่าคืนนั้นนางจะไปตามเขาแล้วเห็น" ซินเหยียน คือว่าเรื่องนั้นข้าอธิบายได้ ข้าคืนนั้นข้าเมาหนักไปหน่อย ข้ายอมรับว่าข้าคิดถึงหลินเอ๋อ แต่คนเราล้วนมีอดีตกันทั้งนั้น ตอนนั้นข้าคิดถึงนางที่จากไปแล้วไม่มีโอกาสได้พบเจออีก ไม่คิดว่าอยู่ดีๆนางจะปรากฏตัว ส่วนเรื่องเข้าหอข้ายังทำใจไม่ได้ เลย เลยให้เวลาตัวเองหน่อย"" หึ จะเข้าหอกับข้าต้องใช้เวลาทำใจขนาดนั้